กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 21-08-2023, 22:22
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,533
ได้ให้อนุโมทนา: 216,757
ได้รับอนุโมทนา 743,905 ครั้ง ใน 36,245 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 22-08-2023, 00:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,080 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ต้องขออภัยพระภิกษุสามเณร ตลอดจนกระทั่งญาติโยมทุกท่าน เนื่องเพราะว่าเมื่อกลับมาจากงาน กระผม/อาตมภาพก็หมดสภาพจากอาการเจ็บไข้ได้ป่วย นอนไปเพิ่งจะตื่นตอนนี้เอง..!

สำหรับวันนี้นั้น เมื่อฉันเช้าแล้วก็วิ่งตรงไปยังวัดช่องสาริกา หมู่ที่ ๙ ตำบลช่องสาริกา อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี แต่ปรากฏว่าเสียเวลาไปชั่วโมงกว่า เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ในกลุ่มไลน์คณะกรรมการตรวจประเมินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบนั้น ได้ลงโลเกชั่นซึ่งเป็นของวัดพุน้อยเอาไว้

วัดพุน้อยนั้นเป็นของท่านเจ้าคุณทินน์ (พระโสภณพัฒนคุณ) เจ้าอาวาสวัดพุน้อย เจ้าคณะอำเภอหนองม่วง ซึ่งเป็นผู้ตรวจประเมินในหมวดที่ ๓ ร่วมกับกระผม/อาตมภาพ ท่านต้องการให้ทุกคนไปพักค้างคืนที่วัดของท่าน จึงได้ส่งโลเกชั่นมา แต่ว่าโลเกชั่นของท่านนั้นไม่ได้บอกอะไรเลย นอกจากตัวเลขอารบิกแถวหนึ่ง จึงทำให้กระผม/อาตมภาพวิ่งไป
ตามนั้น

เมื่อไปแล้วก็เริ่มรู้สึกคุ้นตาขึ้นทุกทีว่านี่เป็นทางไปวัดพุน้อย แต่ก็ยังคิดว่า ถ้าหากว่าเป็นทางไปวัดพุน้อย แปลว่าวัดช่องสาริกาน่าจะอยู่ใกล้เคียงกัน จนกระทั่งวิ่งไปถึงวัดพุน้อยแล้ว เส้นทางหมดลง ถึงได้รู้ว่าไปผิดทาง ต้องพยายามงมหาว่าวัดช่องสาริกานั้นอยู่ที่ใดกันแน่ เนื่องเพราะว่าเมื่อหาในกูเกิ้ลแล้ว มีทั้งวัดช่องสาริกา มีทั้งวัดช่องสาริกาใน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องตัดสินใจกดเอาหนึ่งวัด เผื่อว่าเดินทางไปถึงแล้วไม่เจอ ก็จะได้สอบถามจากชาวบ้านแถวนั้น

ปรากฏว่าวิ่งไปได้แค่ไม่กี่กิโลเมตร ท่านเจ้าคุณทินน์ก็ส่งโลเกชั่นของวัดช่องสาริกามาให้ ห่างจากวัดพุน้อย ๘๗ กิโลเมตร..! ทำเอาน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) เหยียบกระจาย ถ้าหากว่าโดนจับความเร็วก็ไม่ต้องสงสัยเลย ด้วยความที่คำนวณจากแผนที่กูเกิ้ลแม็ปแล้วว่า จะไปถึงเวลา ๘ โมง แล้วเดินดูนิทรรศการของเขา จนกระทั่งไปทำพิธีพิธีเปิดตอน ๙ โมง

แต่ปรากฏว่าเมื่อวิ่งไปถึงวัดช่องสาริกา หรือที่บางคนเรียกว่าวัดช่องสาริกาใน ซึ่งเป็นวัดเดียวกัน เวลาเก้าโมงกว่า ทางด้านคณะกรรมการยังเมตตารอกระผม/อาตมภาพไปถึงก่อน พระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร) รองประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา โครงการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) จึงได้เริ่มทำการตรวจประเมิน ต้องกราบขอบพระคุณพระเถรานุเถระทุกรูปเป็นอย่างยิ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2023 เมื่อ 03:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 22-08-2023, 00:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,080 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพต้องอาศัยยาประคับประคองร่างกายตนเอง ทำหน้าที่จนเสร็จเรียบร้อยในเวลา ๑๑ โมงเศษ แล้วถึงได้ตามคณะกรรมการทั้งหมดไปชมนิทรรศการของเขา ปรากฏว่าเด็ก ๆ เจ้าของงานที่ตั้งแสดงอยู่นั้น แต่ละคนล้วนแล้วแต่มีความสามารถอย่างยิ่ง สามารถที่จะอธิบายได้ว่าผลงานแต่ละชิ้นนั้นสร้างสรรค์มาอย่างไร ได้รับรางวัลเมื่อไร ถ้าหากว่าทุกที่เด็กมีความคล่องตัวแบบนี้ ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่สุดยอดมาก

หลังจากนั้น กระผม/อาตมภาพก็ขอตัวกลับเลย เนื่องเพราะว่าสภาพสังขารไม่ไหว ไม่สามารถจะไปดูสถานที่อีก ๒ แห่งในหมู่บ้านที่ทางคณะกรรมการจัดงานได้เตรียมเอาไว้ โดยวิ่งออกมาซื้อข้าวกล่องในสถานีบริการน้ำมัน ฉันแล้วก็ฉันยา นอนสลบไสลมาบนรถ ไม่ทราบว่ากลับถึงที่พักวัดอุทยานตอนไหน เมื่อมาถึง สรงน้ำอุ่นแล้วก็นอนสลบต่อไป เพิ่งจะตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้เอง

ส่วนหนึ่งที่อยากจะบอกก็คือว่า ญาติโยมทั้งหลายอย่าเสียเวลามาให้คำแนะนำว่า "เจ็บไข้ได้ป่วยแล้วต้องพักมาก ๆ" อาตมภาพแก่จนป่านนี้แล้ว เรื่องที่ไม่รู้นั้นไม่มี เพียงแต่ว่าถือภาระหน้าที่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ลักษณะเดียวกับช้างศึกหรือม้าอาชาไนย ก็คือตายคาหน้าที่ในสนามรบ ดีกว่าที่จะมานอนพักอยู่ในคอกหรือในสถานที่ซึ่งเขาจัดเอาไว้ให้ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้ากำลังใจของเราไม่เท่ากัน ก็ไม่สามารถที่จะมาวัดกันได้

กระผม/อาตมภาพนั้นสร้างกรรมปาณาติบาตเอาไว้หนักมาก แม้แต่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านก็เมตตาตอกย้ำให้อย่างชัดเจนว่า "แกเป็นทหารมาทุกชาติ ฆ่าเขาเอาไว้มาก มาชาตินี้ เศษกรรมปาณาติบาตจะทำให้ป่วยบ่อย ให้ไปปล่อยปลาที่เขาจะฆ่าเดือนละตัวสองตัวเพื่อบรรเทากรรมตรงนี้"

กระผม/อาตมภาพก็ปล่อยปลายาวมาเป็นเวลา ๓๐ ปี จึงได้เกิดการได้พบหมอพบยาที่เหมาะสมกับตัวเอง ทำให้สภาพร่างกายดีขึ้นมา แต่ในขณะเดียวกัน อาการมาลาเรียต่าง ๆ นั้น ก็เหมือนกับบรรเทาเบาบางลงเฉย ๆ แต่ไม่ได้หายไปไหน เมื่อมีโอกาสจึงได้ตลบหลังเล่นงานเสียจนแทบทรุด เพราะว่าตั้งแต่ได้หมอดียาดีมา เป็นระยะเวลาถึง ๘ ปีที่ไม่ได้ป่วยหนักขนาดนี้มานานแล้ว

เหตุที่เป็นเช่นนี้เกิดจากสองสาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกก็คือกรรมเก่าที่สร้างเอาไว้นั้นหนักมาก ทำให้อย่างไรเสียก็ต้องรับไว้บ้าง สาเหตุที่สองก็คืออายุกาลผ่านวัยมากขึ้นทุกที ขณะนี้ก็ย่าง ๖๕ ปีแล้ว สภาพร่างกายไม่ได้แข็งแรงเหมือนเดิม เมื่อกระทบอากาศหนาวร้อนสลับกันไป ไม่ทันระมัดระวัง อาการเจ็บไข้ได้ป่วยจึงกำเริบขึ้นมา

ยาทุกอย่างมีพร้อม ความรู้ในการรักษาตนเองก็มี ญาติโยมจึงไม่ต้องมาเสียเวลาสร้างความรำคาญใจให้กระผม/อาตมภาพด้วยการแนะนำว่า "ป่วยแล้วต้องนอนมาก ๆ ป่วยแล้วต้องนอนมาก ๆ" นั่นเป็นเรื่องของคนอื่น ไม่ใช่กระผม/อาตมภาพที่เห็นงานพระศาสนาสำคัญกว่าชีวิต ทำหน้าที่ของตนเองไปจนกว่าจะลมหายใจสุดท้าย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2023 เมื่อ 03:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 22-08-2023, 00:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,080 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อกำลังใจต่างกัน จึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถจะมาวัดกันได้ แล้วถ้าหากว่าท่านทั้งหลายยังมัวแต่เป็นห่วงเป็นใยกระผม/อาตมภาพอยู่แบบนี้ ก็เชื่อว่าเรื่องที่ท่านจะประพฤติปฏิบัติธรรมแล้วให้เกิดความก้าวหน้านั้นก็เป็นไปโดยยาก เนื่องเพราะว่าท่านทั้งหลายไม่สามารถที่จะตัดอาลัย ตัดความยึดโยงต่าง ๆ ในตัวบุคคลลงไปได้

ในเรื่องของพุทธานุสติ คือการระลึกถึงพระพุทธเจ้า ธัมมานุสติ คือการระลึกถึงพระธรรม สังฆานุสติ คือการระลึกถึงพระสงฆ์นั้น เราระลึกในคุณงามความดีของท่าน ไม่ใช่ระลึกด้วยการยึดถือตัวตนของท่านเป็นหลัก ถ้าหากว่ายึดถือตัวตนของท่านเป็นหลัก แปลว่าเรายึดผิดแล้ว

เนื่องเพราะว่าแม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ปรินิพพานไปแล้ว พระธรรมของพระองค์ท่านก็อยู่แค่ ๕,๐๐๐ ปีตามพุทธพยากรณ์เท่านั้น พระสงฆ์ครูบาอาจารย์ก็มรณภาพ หรือว่าเสียชีวิตไปแล้วมากต่อมากด้วยกัน แม้แต่ครูบาอาจารย์ที่กระผม/อาตมภาพเห็นว่าท่านวิเศษเลิศล้น ก็คือพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านก็มรณภาพไปแล้ว

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องที่บอกพวกเราอย่างชัดเจนว่า ถ้าเรายึดผิด ที่พึ่งของเราก็ไม่แน่นอน แต่ถ้าหากว่าเรายึดถูก เราก็ไม่ต้องเสียเวลาที่จะมาเสียอกเสียใจ หรือว่าเป็นห่วงเป็นใยผู้หนึ่งผู้ใด จึงเป็นเรื่องที่ท่านทั้งหลายต้องตระหนักและสังวรระวังกันเอง

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ตรัสเอาไว้ว่า อักขาตาโร ตถาคตา แม้แต่ตถาคตก็เป็นได้แต่เพียงผู้บอกเท่านั้น จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายแม้ว่าจะบอกกล่าวแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะทำแทนกันได้

เมื่อถึงเวลาบอกไปแล้ว ถ้าไม่ทำ ท่านทั้งหลายก็ต้องทุกข์ยากเดือดร้อนเอง เวียนว่ายตายเกิด ทนทุกข์ทรมานกันเอง ไม่สามารถที่ครูบาอาจารย์จะบอกกล่าว หรือว่าไปฉุดชักท่านให้พ้นสิ่งเหล่านั้น เพราะว่าท่านเต็มอกเต็มใจที่จะวิ่งลงไปหาความทุกข์เหล่านั้นเอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2023 เมื่อ 03:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 22-08-2023, 00:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,571
ได้ให้อนุโมทนา: 151,699
ได้รับอนุโมทนา 4,411,080 ครั้ง ใน 34,161 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงเป็นเรื่องที่ผู้ปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะพระภิกษุสามเณรพึงระมัดระวัง แล้วขณะเดียวกัน ก็พยายามที่จะตัดห่วง ตัดอาลัย ลด ละ สิ่งผูกพันทั้งหมดลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งไม่เหลือความผูกพันอะไรแล้ว เราถึงจะสามารถหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพานได้

เรื่องของสังขารร่างกายต้องมีการเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นปกติธรรมดา อย่างที่ภาษาบาลีว่า พยาธิธัมโมมหิ พยาธิง อนตีโต เรามีความเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นธรรมดา ไม่สามารถที่จะล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เมตตาบอกเล่าให้แก่พวกเราได้รับรู้รับทราบ และปฏิบัติตามมา ๒,๖๐๐ กว่าปีแล้ว ในขณะที่พระธรรมของพระองค์ท่านยังสมบูรณ์บริบูรณ์ จึงเป็นเรื่องที่เราทั้งหลายจะต้องรีบกอบโกย ปฏิบัติ เพื่อให้ตนเองมีคุณงามความดีให้มากที่สุด ลด ละ สิ่งผูกพันทั้งหลายลงไปให้เหลือน้อยที่สุด ถ้าไม่สามารถล่วงพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานในชาตินี้ ก็ขอให้เส้นทางของการเวียนว่ายตายเกิดของเรานั้นสั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2023 เมื่อ 03:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:58



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว