กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #101  
เก่า 15-05-2017, 22:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เคยไปเขาอ้อไหมครับ ?
ตอบ : ก่อนหน้าที่หลวงปู่กลั่นท่านยังอยู่ อาตมาแวะทุกครั้ง จนสนิทสนมคุ้นเคยกับท่าน ท่านอยากจะให้ไปเป็นเจ้าอาวาส สายเขาอ้อตอนหลวงปู่กลั่นยังอยู่ พ่อปู่ขุนพันธ์ฯ ก็ไปที่นั่นประจำ อาตมาก็รู้จักมักคุ้นกับพ่อปู่ท่านตั้งแต่ตอนนั้น แล้วก็ตามไปบ้านพ่อปู่ขุนพันธ์ฯ ที่นครศรีธรรมราชด้วย

อาตมามีความเห็นว่า ถ้าทุกสำนักคิดแบบเขาอ้อจะเจริญไปเรื่อย เพราะว่าสายเขาอ้อไม่หวงวิชา ไม่คิดว่าจะต้องเป็นคนของวัดตัวเอง ถ้าคุณมีความสามารถ เขาให้มาศึกษาวิชาเลย แล้วก็พร้อมจะยกตำแหน่งเจ้าอาวาสให้ด้วย หลวงปู่กลั่นขอแล้วขออีก “ท่านมาอยู่เถอะ มาเป็นเจ้าอาวาส ผมก็อายุเยอะแล้ว” ท้ายสุดท่านมรณภาพตอน ๙๐ กว่าปี

ท่านไม่หวงจริง ๆ คิดดู...อาตมาเป็นใคร ? มาจากไหนก็ไม่รู้ ? แต่พอท่านเห็นว่ามีความสามารถ มีสมาธิดี ท่านก็ขอให้อยู่ด้วยเลย พร้อมที่จะสอนวิชาให้ แถมยังจะยกตำแหน่งเจ้าอาวาสให้ด้วย การทำแบบนี้ทำให้ไม่เสื่อม เพราะว่าคนเราร้อยพ่อพันแม่ ใครจะไปรู้ว่าคนที่มีของเก่าติดมาจะไปเกิดอยู่ที่ไหน พอเจอตัวก็ต้องรีบคว้าเอาไว้ก่อน ไม่ใช่ว่าต้องบวชจากเขาอ้อ ต้องหลุดมาจากโบสถ์นี้ถึงจะใช่ แต่สายนี้เห็นใครมีความสามารถก็เอาเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2017 เมื่อ 03:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #102  
เก่า 15-05-2017, 22:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แบบเดียวกับท่านอาจารย์พระมหาอุทัย วัดดอนศาลา ก่อนหน้านี้ท่านอยู่วัดหาดใหญ่ใน (วัดมหัตตมังคลาราม) อาตมาไปช่วยงานที่นั่น ไปช่วยท่านบวชเณร ฯลฯ มาเจออีกที เฮ้ย...ทำไมมาอยู่ที่นี่ ? ท่านบอกว่า "ผมโดนย้ายมาครับ" ก็บอกกับท่านว่า ทางด้านผมย้ายข้ามอำเภอก็ยากแล้ว นี่ของท่านย้ายข้ามจังหวัดเลย ย้ายจากสงขลาไปเป็นเจ้าอาวาสที่พัทลุง นั่นแหละ...เขาต้องการคนมีความสามารถ เขาไม่ได้หวงตำแหน่ง

วัดดอนศาลา วัดเขาอ้อ วัดบ้านสวน ฯลฯ เป็นเครือเดียวกัน ในเมื่อเครือเดียวกันแนวปฏิบัติก็แบบเดียวกัน คุณเก่งคุณมาได้เลย เขารับได้เดี๋ยวนั้นเลย

ตอนนี้ทางสายเขาอ้อทางด้านพระนี่ยังไม่เห็นตัว แต่ทางด้านฆราวาสนี่ท่านอาจารย์ประจวบ คงเหลือ ถ้ายังอยู่ก็ยังสืบสายอยู่
ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #103  
เก่า 15-05-2017, 22:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "คนกรุงเทพฯ ต้องตื่นเช้าขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อหนีรถติด เพราะบ้านเราไม่มีมาตรการในการจำกัดจำนวนรถ ซื้อได้ไม่อั้น บางบ้านมี ๔-๕ คัน พ่อคันหนึ่ง แม่คันหนึ่ง ลูกคนละคัน บ้านเราไม่จำกัดจำนวนรถทั้ง ๆ ที่รถยนต์ทั้งประเทศ ถ้าออกมาสู่ท้องถนนพร้อมกันก็จะไม่มีถนนให้วิ่ง ก็เพราะว่าบรรดาบริษัทจำหน่ายรถ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นนายทุนให้กับพรรคการเมือง

เราจะเห็นว่าบ้านของเรานั้น ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนถ่างกว้างขึ้นเรื่อย ๆ สังเกตได้จากเรื่องของรถยนต์ รถออกมาราคาแพงแค่ไหนมีคนซื้อ ออกสู่ถนนให้ได้เห็นภายในไม่กี่วัน ตีโฆษณาวันนี้ พรุ่งนี้มีวิ่งบนถนนแล้ว รถราคา ๔๐-๕๐ ล้านบาท ขับไปทำไม ? ยกเว้นว่าไว้ไล่ทับชาวบ้านเขา คุณภาพถนนของบ้านเรานั้นยังรองรับไม่ได้ รถมีความเร็ว ๓๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะเอาถนนที่ไหนมาวิ่ง ? วิ่งในกรุงเทพฯ ก็ไปได้ ๔๐-๕๐ กิโลเมตรเท่า ๆ กับรถตุ๊กตุ๊ก

ถ้าบ้านเราจะจำกัดจำนวนรถ อันดับแรกเลยก็คือห้ามออกทะเบียนใหม่ ทันทีที่ห้ามออกทะเบียนใหม่ คนต้องการรถคันใหม่ ต้องเอาคันเก่ามายุบเป็นเศษเหล็กก่อน ถ้าลักษณะอย่างนั้นเต็นท์รถมือ ๒ มือ ๓ มือ ๔ มือ ๕ จะหมดไปจากประเทศไทยเลย เพราะว่าคนจะแย่งกันซื้อ เพื่อจะเอาทะเบียนมาออกรถใหม่ พรรคการเมืองไหนจะเอาแนวคิดไปใช้ก็ได้ อาตมาอนุญาต...ไม่สงวนลิขสิทธิ์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #104  
เก่า 16-05-2017, 01:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "หลวงปู่ครูบาบุญยังโทรมาให้ไปงานวัดของท่าน ท่านส่งฎีกานิมนต์แล้วยังโทรศัพท์ตามอีก เวลาหลวงปู่หลวงพ่อระดับนั้นท่านให้ความเมตตาต้องการให้ไป อาตมารู้สึกปลื้มใจก็ใช่ จะว่าหวาดเสียวก็เชิง เพราะว่าครูบาอาจารย์ระดับนั้น ความดีของท่านสูงมาก อายุกาลพรรษาสูงมาก แต่ท่านก็ให้ความเมตตา ให้เกียรติ ส่งหนังสือนิมนต์แล้วก็ยังอุตส่าห์โทรมาด้วยองค์ท่านเองอีก

ไปนึกถึงสมัยหลวงปู่ครูบาอ่อน หลวงปู่ครูบาผัดท่านยังอยู่ พวกเราก็เห็นเป็นครูบาผู้เฒ่า ไปทำบุญกัน บางคนก็ไม่รู้จักท่านด้วยซ้ำไป มรณภาพแล้วเผาวันนั้นอัฐิก็เป็นพระธาตุวันนั้นเลย ใจหายกันวาบเลย..!

หลวงปู่ครูบาอ่อนกับหลวงปู่ครูบาผัดช่วงนั้นท่านเป็นสหายสนิทกัน อีกรูปหนึ่งก็คือหลวงปู่ครูบาครอง วัดท่ามะเกว๋น ยังนึกถึงตอนที่หลวงปู่ครูบาอ่อนพาอาตมาไปไปกราบ และปิดทองที่หน้าแข้งหลวงปู่ครูบาครอง ท่านเองท่านก็ขำ ๆ ที่ปิดทองถวาย ท่านบอกว่า "ครูบาผู้เฒ่า ความดีสูงมาก ควรแก่การปิดทองแล้ว" ผู้ที่มรณภาพเผาแล้วกระดูกเป็นพระธาตุทันทีพูดอย่างนั้น

แต่ที่ขำที่สุดก็คืองานศพของหลวงปู่ครูบาครอง อาตมาไปถึงพระที่นั่นก็มาต้อนรับ นึกว่าเป็นเจ้าคุณมาจากกรุงเทพฯ ท่านบอกว่าคุ้นหน้ามาก แต่จำไม่ได้ว่าใคร พอเดิน ๆ ไปเจอรูปอาตมาที่บอร์ดใหญ่เบ้อเริ่มเลย อ๋อ...รูปอยู่ตรงนี้เองแต่ก็ไม่จำ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #105  
เก่า 16-05-2017, 19:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ทางด้านสายเหนือของเรา ต้องบอกว่าซ่อนเสือซ่อนมังกร ครูบาอาจารย์ดี ๆ มีมาก แต่ส่วนหนึ่งก็มักน้อย สันโดษ เก็บตัว หรือไม่ก็ครูบาอาจารย์ท่านสั่งให้ไปอยู่ในป่าลึก ๆ คนก็ตามตัวได้ยาก แต่สายเหนือกับสายของหลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤๅษีฯ เกื้อกูลกันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว จนมาถึงรุ่นของอาตมาก็ยังคงเหมือนเดิม ครูบาอาจารย์สายนั้นท่านยังให้ความรักความเมตตาเป็นปกติ

ไปนึกถึงสมัยที่ยังไม่ได้บวช หลวงปู่ครูบาชุ่ม หลวงปู่ครูบาคำแสนใหญ่ หลวงปู่ครูบาคำแสนเล็ก หลวงปู่ครูบาพรหมจักร พอมาถึงรุ่นที่ท่านบอกว่าเป็นลูกศิษย์ ก็คือ หลวงปู่ครูบาธรรมชัย หลวงปู่ครูบาวงศ์ ท่านให้ความเมตตาถ่ายทอดสารพัดความรู้ให้ ตอนที่ศึกษาอยู่ก็ไม่ได้นึกว่าตัวเองจะต้องบวช ศึกษาไปเพราะว่ารักท่าน เห็นความเมตตาของท่านที่มีต่อคนหมู่มาก เห็นปฏิปทาของท่านแล้วก็เกิดความรัก ว่าท่านเองทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม ไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก

หลวงปู่ครูบาคำแสนใหญ่ วัดสวนดอก นั่งสมาธิมรณภาพ เสียดายว่าสายโน้นมีค่านิยมในการเผา ไม่อย่างนั้นแล้วก็จะมีสังขารพระสุปฏิปันโนสายเหนือเหลืออยู่เยอะมาก อย่างหลวงปู่ครูบาพรหมจักร วัดพุทธบาทตากผ้า อาตมาก็มีโอกาสที่ได้ไปกราบสังขารเปลี่ยนผ้าครองให้ท่าน ก่อนเผาก็ไม่มีทีท่าว่าจะเน่า แต่เขาก็เผากันตามธรรมเนียมนิยม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #106  
เก่า 16-05-2017, 19:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หลวงปู่ครูบาธรรมชัยกับหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์เป็นรุ่นหลัง ๆ ที่ลูกศิษย์ทางกรุงเทพฯ หรือทางใต้ มีสิทธิ์มีเสียงมากกว่า (ท่านเรียกคนที่อยู่ภาคอื่นว่าคนใต้) เขาถึงได้เก็บสังขารของท่านเอาไว้ได้ ไม่อย่างนั้นก็หมด ไม่เหลือหรอก หลังจากนั้นก็ยังได้ยินว่า ทางลูกศิษย์หลวงปู่ครูบาธรรมชัยเขาอยากจะเผาอยู่นั่นแหละ

หลวงปู่ครูบาบุญยังเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์รุ่นแรก ๆ ถ้าเปรียบกับอาตมาท่านก็คล้าย ๆ กับพระครูบ่าว ก็คือเป็นลูกศิษย์รุ่นแรก ๆ ของอาตมา ที่ท่านก้าวขึ้นไปถึงเจ้าอาวาส ไปถึงพระครูสัญญาบัตร ดูไปอายุก็ไม่ได้ไกลกับอาจารย์เท่าไร เพียงแต่ว่าประสบความสำเร็จเร็วหน่อย

หลวงปู่ครูบาบุญยังก็แบบเดียวกัน หลวงปู่ครูบาไชยวงศ์มอบหมายให้ไปดูแลวัดห้วยน้ำอุ่น ท่านก็เริ่มขึ้นมาจากไม่มีอะไรเลย ทำจนกลายเป็นวัดเป็นหลักเป็นฐาน ทั้ง ๆ ที่อยู่กลางป่าคนก็ยังไปมาหาสู่กันมาก เมื่อครู่ท่านโทรมาบอกว่า "วันงานไปให้ทัน ๙ โมงครึ่งนะ มีบวงสรวง" สงสัยว่าจะโดนครูบาผู้เฒ่าโยนภาระให้อีกแล้ว

ครูบาทางเหนืออีกรูปหนึ่งที่ตอนนี้ยังเป็นห่วง เพราะว่าอายุกาลผ่านวัยมากเหลือเกินก็คือ ครูบาอินสม สุวีโร ตอนนี้ท่านก็เป็นหลักให้ญาติโยมได้พึ่งพิงอยู่ ถ้าหากว่าสิ้นท่านนี่ ทางด้านภาคเหนือฝั่งตะวันตกก็ว่างโล่งเลย รู้จักภาคเหนือฝั่งตะวันตกไหม ? ออกไปทางด้านแม่ฮ่องสอน อะไรประมาณนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #107  
เก่า 16-05-2017, 22:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “มีโยมท่านหนึ่งถวายวัตถุมงคลสำคัญ ๆ มีตรีศูลด้ามงาของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ เหรียญธรรมจักรของหลวงปู่ครูบาศรีวิชัย มีมหาสังข์ ตลอดจนพระสำคัญ ๆ ประเภทเบญจภาคี ขออนุโมทนา อาตมาไม่ได้ประจานนะ แต่อยากจะบอกให้ทราบว่า ใครเป็นคนหามาให้ก็เลิกคบได้แล้ว เพราะว่าเป็นของปลอมล้วน ๆ...!

อันดับแรกเลย ตรีศูลของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หลวงพ่อเดิมท่านไม่เคยทำตรีศูล ด้ามงาช้างก็ไม่ใช่งา แต่เป็นกระดูกซี่โครง อายุโลหะก็ไม่ได้

อันดับที่ ๒ หลวงปู่ครูบาศรีวิชัยไม่เคยทำเหรียญอื่น ไม่ทราบเหมือนกันว่าไปเอาเหรียญธรรมจักรมาจากไหน ? ส่วนมหาสังข์ไปดูได้ตามร้านขายของเก่า ของปลอมมีเป็นร้อย ๆ เลย

พระรอดลำพูน พระทุ่งเศรษฐี พระผงสุพรรณ สมเด็จจิตรลดา เก๊ดูง่ายชนิดห่าง ๑๐๐ เมตรก็รู้ ที่บอกนี้ไม่ใช่ทำลายศรัทธาของโยม แต่บอกให้รู้ว่า ถ้าโดนใครเขาเอาของเหล่านี้มาให้ แล้วคิดราคาแพงด้วย ก็เลิกคบคนนั้นได้แล้ว

ของบางอย่างญาติโยมอาจจะเสียเงินมาก แล้วเอามาถวายพระด้วยความปลื้มใจว่า ได้ของดี ของแพง ของมีคุณค่า มีราคา ปรากฏว่าไปโดนคนอื่นเขาหลอกมาก็จะเสียอารมณ์ โทษใครไม่ได้หรอก เพราะว่าโยมเป็นผู้หญิง ผู้หญิงมีนิสัยค่อนข้างจะเชื่อข่าวลือได้ง่าย

เพราะฉะนั้น...นักเล่นวัตถุมงคลเขาถึงได้มีคำพูดว่า “ให้เล่นด้วยตา อย่าเล่นด้วยหู” คำว่าเล่นด้วยตาก็คือดูของให้เป็น อย่าไปเล่นด้วยหูคือฟังเขาเป่าหูมา ประวัติดีอย่างนั้น ประสบการณ์ดีอย่างนี้ แล้วก็ไปซื้อของที่ไม่ใช่สักอย่างหนึ่งมา อาตมาเสียดายแทน ต่อให้โยมจ่ายเงินไม่มากแล้วได้มาก็เถอะ เงินของเราแท้ แต่ของที่ได้มาไม่แท้ ต้องเรียกว่าคุณค่าแทนกันไม่ได้เลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #108  
เก่า 16-05-2017, 22:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ส่วนบรรดาพระธาตุต่าง ๆ ที่ให้มานั้น จะแท้หรือเทียมไม่ได้เป็นสาระ สาระอยู่ที่ว่าเราระลึกถึงหรือเปล่า ? ถ้าเราระลึกถึงได้ต่อให้เป็นของเทียมก็เหมือนกับของแท้

สมัยนี้เป็นสมัยของเทคโนโลยีในการปลอมของ ขนาดพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐม ที่ท่าพระจันทร์มีให้เป็นเข่ง ๆ แทบทุกร้าน หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสร้างบารมีมาขนาดไหน ทั้งชีวิตได้มาแค่ ๒ องค์ พอถ่ายรูปให้เห็นเท่านั้นแหละ มีคนผลิตออกมาเป็นคันรถเลย

ญาติโยมเอามาถวายอาตมาทีหนึ่งเป็น ๕ ลิตร ๑๐ ลิตร อาตมาก็ชอบใจเพราะช่วงนั้นกำลังสร้างพระอยู่ ใช้ผสมคอนกรีตเทพระไปเลย เราต้องนึกถึงบ้างว่าตัวเราเป็นใคร ? เรามีบารมีขนาดไหน ? อยู่ ๆ พระธาตุสมเด็จองค์ปฐมมาทีเป็นถัง เป็นไปได้ไหม ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #109  
เก่า 16-05-2017, 22:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"การเล่นวัตถุมงคลบางอย่างต้องใช้การอนุมานเอา อย่างวัวปิดตาของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว มีจำนวนน้อยมาก จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นของหลวงพ่อดิ่ง ?

อันดับแรก คือ วัดของท่านชื่อวัดบางวัว อันดับที่ ๒ ฝีมือช่างเป็นคนเดียวกัน อันดับที่ ๓ อายุของวัตถุมงคลได้ในระดับนั้น จึงพอที่จะอนุมานได้ว่าเป็นของท่าน ถ้าหากว่าไม่มีของที่เป็นหลักฐานได้ในลักษณะอย่างนี้แล้ว เราขืนไปเล่นของนอกมาตรฐานก็เดี้ยง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #110  
เก่า 17-05-2017, 18:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ลูกศิษย์เอามีดหมอมาให้ดู "คุณจำไว้เลยนะ ด้ามงาแท้สีจะไม่สม่ำเสมออย่างนี้ จะต้องมีอ่อนบ้าง แก่บ้าง ถ้าสม่ำเสมอลักษณะนี้ ถ้าไม่โดนรมควันก็ทอดน้ำมันมา

พวกงา เขา กระดูก สีจะไม่สม่ำเสมอ ถ้าเราพกด้านไหนติดตัวก็จะสีเข้ม ด้านที่ไม่ได้ติดตัวก็จะสีอ่อน เป็นธรรมชาติของเขาเลย ถ้าอยู่ ๆ ประเภทสีเสมอกันทั้งหมดนี่ไม่ใช่แน่ อีกอย่าง...บางทีคนปลอมก็ลงอักขระเลขยันต์ไม่ดูสำนัก ถ้าอักขระเลขยันต์คนละสายครูบาอาจารย์กัน นี่ก็ไม่ใช่แล้ว

ถ้ายันต์ค่ายกลหลวงพ่อกวย กับยันต์องค์พระของหลวงพ่อเดิมนั้นไปกันได้ เพราะว่าท่านเป็นศิษย์เป็นอาจารย์กัน แต่นี่ไปลงยันต์เฑาะว์ของทางหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว หรือไม่ก็หลวงปู่ปาน วัดบางนมโคไปเลย แล้วจะแท้ได้อย่างไร ?

ดูที่ด้ามสิ...ให้เห็นว่าของปลอมเขาจะทำดีจนเกินไป แบบนี้ถ้าเขาไม่รมควันก็จะทอดน้ำมันมา สีจึงสม่ำเสมอ ถ้าทอดน้ำมันสีจะเข้มกว่านี้ อันนี้คาดว่าน่าจะรมควัน แต่เอาไปเข้าพิธีเสาร์ห้าก็ใช้ได้เหมือนกัน

วันก่อนไปประชุมอยู่ที่วัดไร่ขิง อาจารย์ ดร.ภูริวัจน์มาช้า พอเข้ามาถึงท่านก็บอกว่า "ขออภัยครับ มัวแต่ส่องพระอยู่" อาจารย์ ดร.โยตะท่านบอกว่า “ส่งให้ท่านอาจารย์เล็กจับพลังก็จบแล้ว” จึงบอกท่านไปว่า “ผมไม่ได้เล่นจับพลัง จับพลังผมรู้อยู่คนเดียว ต้องเล่นของที่เป็นสากล คือใคร ๆ เขาดูก็ต้องใช่” แหม...เล่นจับพลัง หาเรื่องชัด ๆ แล้วอาตมาจะไปพลังอะไรได้ ? จับอะไรก็มีพลังไปหมด

ตอนแรก ๆ ที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอน ก็พอที่จะจับพลังได้ ตอนหลังพอมั่นใจในคุณพระรัตนตรัย จับอะไรไม่ได้เลย แม้กระทั่งรูปพระในเศษกระดาษ หยิบขึ้นมาก็ใช้ได้ ตายละวา...แล้วตูจะตรวจสอบอย่างไร ? ท้ายสุดก็เลยต้องหัดดูของเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #111  
เก่า 17-05-2017, 18:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เดี๋ยวรอกลับจากทิเบตก่อนนะ จะเทวัตถุมงคลลงในกระทู้คนมีเงินฯ สัก ๗๐-๘๐ รายการ ให้ไปแย่งกันเอาเอง

อาตมามีแมลงภู่คำงาช้างอยู่ตัวหนึ่ง ยังไม่อยากปล่อย ปกติแมลงภู่คำนี่ส่วนมากเขาจะทำด้วยไม้ดุมเกวียน เพราะว่าล้อเกวียนหมุนไปเรื่อย เหมือนกับนำความเจริญก้าวหน้ามาให้ แต่ดุมเกวียนเป็นตัวควบคุมล้ออีกทีหนึ่ง โห...หลักการเคล็ดลับของเขาสุดยอดมาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #112  
เก่า 17-05-2017, 19:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมถวายนิตยสารมวย "นิตยสารมวยเล่มนี้บอกว่า การไหว้ครูเป็นสิ่งที่แสดงถึงศิลปะมวยไทยและความเคารพต่อครูบาอาจารย์ เป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาช้านาน

เวรกรรมเลย...อธิบายไว้แค่นี้ การไหว้ครูนอกจากวัตถุประสงค์ที่เขาว่ามาแล้ว หลัก ๆ เลยก็คือเป็นการอบอุ่นร่างกายตัวเองให้พร้อมชก เท่ากับว่าได้ยืดเส้นยืดสายก่อน สมัยอาตมายังเด็ก ๆ ถ้าผล พระประแดง หรือว่ารักเร่ ศรีหนุมาน ไหว้ครูนี่ นอนรอได้เลยตื่นหนึ่งกว่าจะไหว้ครูจบ

อีกประการหนึ่ง สมัยก่อนเขาชกกันบนสังเวียนธรรมชาติ อย่างเช่นลานวัดหรือสนามที่กว้างพอ ก็เลยต้องมีการสำรวจพื้นที่ เพื่อที่จะชิงความมีเปรียบหรือป้องกันความเสียเปรียบ การไหว้ครูเท่ากับเป็นการสำรวจพื้นที่อย่างหนึ่ง ดูแดด ดูลม อาศัยความได้เปรียบของธรรมชาติช่วยในการชนะการต่อสู้ครั้งนั้น เพราะว่าบางกระบวนท่า อย่างการกระโดดตัวลอยตีศอก คือสับศอกใส่กระหม่อมคู่ต่อสู้ คู่ต่อสู้แหงนหน้าขึ้นมาเพื่อป้องกัน เจอแสงตะวันเต็ม ๆ ตาก็ซวยเลย ต่อให้รอดจากท่านั้นไปได้ ก็มองไม่เห็นคู่ต่อสู้ไปชั่วคราว

คราวนี้นิตยสารมวยอธิบายคำไหว้ครูไว้แค่นั้นก็จบเลย ส่วนสำคัญอื่น ๆ ไม่ได้พูดถึงสักนิด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #113  
เก่า 17-05-2017, 19:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"การฝึกศิลปะการต่อสู้ทุกอย่าง เราจะกลัวไม่ได้ กลัวเมื่อไรโอกาสที่จะเจ็บหรือตายมีสูงมาก สายตาต้องจ้องคู่ต่อสู้อยู่ตลอดเวลา ต่อให้อาวุธมาถึงข้างหน้าก็กระพริบตาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะมองไม่เห็นท่าตาม ไม่เห็นกระบวนอื่น ๆ ของเขา จะทำให้ได้ขนาดนั้นก็ต้องอาศัยสมาธิเข้าช่วย

ฉะนั้น...การฝึกฝนวิชาการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นมวย เป็นดาบ เป็นกระบี่กระบอง ส่วนหนึ่งที่ครูบาอาจารย์สมัยก่อนย้ำนักย้ำหนาเลยก็คือ ต้องทำสมาธิทุกวัน"


ถาม : ทำไมเวลาอยู่กับสมาธิจึงไม่มีความกลัว ?
ตอบ : ถ้าจิตใจอยู่กับสมาธิ ความกลัวจะลดน้อยถอยลง เกิดความฮึกเหิมและมั่นใจมากกว่า

ถาม : เวลากังวล จะปลอบตัวเองว่าอย่ากลัว ?
ตอบ : ปลอบได้ถูกแล้ว เพราะว่ากังวลก็คือกลัว เพียงแต่ว่ายังกลัวไม่มากเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-05-2017 เมื่อ 08:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #114  
เก่า 17-05-2017, 19:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ร้อยวันพันปีอาตมาจะเป็นโรคอื่นนอกจากมาลาเรียสักที เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน - ๔ พฤษภาคม ไปอยู่ที่ภูเก็ตกับหาดใหญ่ เริ่มเจ็บร้าวไปทั้งแขนซ้าย เจ็บปลายประสาท ชนิดที่โดนไม่ได้เลย ปรากฏว่าเมื่อวันศุกร์มีตุ่มขึ้นมาที่ท่อนแขนตุ่มหนึ่ง อาตมานึกว่าเป็นเรื่องปกติก็บี้แตก ที่ไหนได้...ขึ้นไล่ไปตามแขนจนเป็นแผลใหญ่เลย น่าจะเป็นเริมที่โบราณเรียกว่า "ขยุ้มตีนหมา"

พวกเริม งูสวัด ขยุ้มตีนหมาก็คือพวกเดียวกัน ทำให้ปลายประสาทอักเสบ ส่วนใหญ่จะไข้จับ เป็นรสชาติของชีวิตมาก แต่ว่าตอนนี้การอักเสบปลายประสาทเกือบหมดแล้ว เพราะว่าปะทุออกมาข้างนอก ถ้าหากว่าไม่ปะทุออกมาข้างนอกนี่ อาตมามีสิทธิ์เดี้ยงเลย"


ถาม : ปะทุแล้วไปไหนคะ ?
ตอบ : หาย...พวกนี้พอร่างกายเราแข็งแรงขึ้นก็จะค่อย ๆ หายไปเอง แต่เชื้อไวรัสพวกนี้ฆ่าไม่ตาย อาตมาเคยเป็นแถวมุมปาก ในปาก เหมือนแผลร้อนใน พวกนั้นก็เชื้อนี้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าคนละประเภทกัน ที่โบราณบอกว่า งูสวัดถ้าขึ้นรอบตัวแล้วจะตาย อันนั้นจริง ๆ แล้วก็คือ ทนการอักเสบไม่ได้ ฉะนั้น...ช่วงนี้ชีวิตของอาตมาจะมีสติมากเป็นพิเศษ

ถาม : เป็นไปได้ไหมครับ ว่าเป็นเพราะกินยาจินดามณีแล้วโดนยาขับออกมา ?
ตอบ :
ก็น่าจะมีส่วนว่าโดนยาขับออกมา ถ้า ขับออกมาก็พักเดียว เดี๋ยวก็หายแล้ว แต่ก็ดีกว่าให้อยู่ในตัวเรา แบบเดียวกับหลวงปู่เจ้าคุณนรฯ ท่านนั่งกรรมฐานอยู่ก็ทราบว่ามะเร็งจะขึ้นที่ตับ ท่านบอกว่า “ให้ออกมาข้างนอก อย่าไปเป็นข้างใน" ก็เลยมาเป็นอยู่ที่ใต้กรามของท่าน

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #115  
เก่า 17-05-2017, 20:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ลูกสาวจะไปเรียนที่อเมริกาค่ะ ?
ตอบ : หาอะไรเหนียว ๆ ให้ลูกพกไปบ้างนะ สมเด็จองค์ปฐมก็ได้ เหรียญพุทธบารมีจะใหญ่ไปหน่อย แต่ต้องสวดมนต์เอาไว้ทุกวัน ไม่อย่างนั้นถ้าโดนระเบิดเละคารถไฟใต้ดินอาตมาไม่รู้ด้วยนะ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #116  
เก่า 17-05-2017, 20:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "หลวงพ่อมณฑลสมัยที่ท่านไปรบเวียดนาม อธิษฐานกับพระแก้วมรกตว่า ถ้าลูกรอดกลับมา ไม่ตาบอด ไม่แขนขาด ไม่ขาขาด ก็จะบวชถวาย ท่านก็บวชมาจนป่านนี้แล้ว ตั้งแต่ปี ๒๕๑๓ พอบวชแล้วไปฝึกกรรมฐานกับหลวงปู่ฝั้น ก็เลยติดใจบวชยาวมาเลย ช่วงที่มาอยู่วัดท่าขนุนกับหลวงปู่สายก็สอบนักธรรมชั้นโทได้

ความจริงวัดของท่านนั้น พระธรรมยุตเตรียมยึดแล้ว เพราะถือว่าหลวงพ่อมณฑลเป็นธรรมยุตครึ่งหนึ่ง ปรากฏว่าท่านยกให้พระอาจารย์เล็กเฉยเลย ตูจะโดนธรรมยุตหมายหัวอีกแล้ว เพราะว่าพื้นที่เป็นพื้นที่ป่าธรรมชาติ ๖,๐๐๐ กว่าไร่ หลวงพ่อมณฑลท่านไปดูแลไว้ จนไม่มีใครกล้าเข้าไปตัดไม้ทำลายป่าหรือล่าสัตว์ ท่านอัดเอาจริง ๆ ตบร่วงแล้วก็หักปืนทิ้งเลย

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่รู้จักกัน ก็เพราะว่าเขาแอบยิงท่านก็ยิงไม่ออก ท่านพกวัตถุมงคลเยอะ ก็เลยใช้วิธีทำไสยศาสตร์ ท่านบอกว่าอยู่ ๆ ท้องก็โตขึ้น ๆ หายใจไม่ออก อึดอัดเหมือนกับจะขาดใจ บอกชีดาวว่า “หลวงพ่อเป็นอะไรไม่รู้เว้ย ดูซิ...ท้องมันโตขึ้นเรื่อย ๆ อย่างนี้ หายใจจะไม่ออกอยู่แล้ว” ชีดาวก็เลยเอาน้ำมันที่เข้าพิธีเสาร์ห้าวัดท่าขนุนไปทาให้ พุงก็ยุบทันตา ท่านถามว่าเอามาจากไหน ? ชีดาวบอกว่า "ของหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน" ท่านก็เลยอยากรู้จัก ขอมาดูตัว...เลยสนิทกันตั้งแต่ตอนนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #117  
เก่า 17-05-2017, 20:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พระครูบ่าวไปอยู่ที่โน่นบอกว่า "ใจคอตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ เขาเล่นหลวงพ่อมณฑลไม่ได้ ผมจะโดนแทนไหม ?" ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวอาตมาจะหาของดีไปให้

อาตมาเองขนาดบวชเป็นพระแล้ว ยังไม่ได้รู้สึกว่ามีธรรมยุตหรือมหานิกายเลย เพราะว่าหลวงปู่หลวงพ่อแต่ละท่านที่รู้จัก ท่านเองไม่ได้มีการแบ่งแยก เพราะว่าส่วนใหญ่ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติถึง ๆ ทั้งนั้น ตอนแรกอาตมาก็ไม่รู้ รู้อยู่อย่างเดียวว่าชอบใจแนวทางของท่าน ก็ไปศึกษาหาความรู้ มารู้เอาทีหลังว่า โห...ระดับสุดยอดทั้งนั้นเลย

ท่านที่ปฏิบัติถึงแล้ว ไม่มีธรรมยุตไม่มีมหานิกายหรอก มีแต่เพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #118  
เก่า 17-05-2017, 22:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมมากราบรายงานความคืบหน้า เรื่องการขอพระราชทานวิสุงคามสีมาวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ ปรากฏว่ามีส่วนที่ยังติดขัดอยู่

"ทุกวันนี้งานการศาสนาของเราไปได้ยาก ก็เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วพระไปเกรงใจญาติโยม โดยเฉพาะนักการเมือง พอนักการเมืองวิ่งไปหาขอให้ช่วย แทนที่จะเข้าข้างพระด้วยกัน กลับไปเข้าข้างฆราวาส ทั้ง ๆ ที่พระไม่ผิด

ทางทองผาภูมิ ถ้าโยมฟ้องพระเมื่อไร อาตมาจะคิดว่าพระเป็นฝ่ายถูก เพราะว่าพระมีศีลเยอะกว่า แต่ถ้าสอบสวนแล้วหลักฐานบ่งชี้ไปทางด้านไหน ก็ค่อยว่ากันไปตามนั้น ถ้าทำในลักษณะอย่างนี้จึงจะตรงไปตรงมา แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่ ไปเกรงใจกัน คนโน้นเป็นนายกเทศมนตรี คนนี้เป็นนายก อบต. คนนั้นเป็นกำนัน คนนี้เป็นผู้ใหญ่บ้าน ถ้าไม่เอาใจไว้ เดี๋ยวเขาจะไม่ให้ญาติโยมเข้าวัด

เท่าที่อาตมาสังเกตมา แต่ละคนที่มีเรื่อง มีปัญหากับวัด ส่วนใหญ่ไม่เคยเข้าวัดหรอก คนเข้าวัดไม่เคยมีปัญหากับพระ

นักการเมืองท้องถิ่นที่ฉลาดต้องพยายามเกาะวัดเอาไว้ เพื่อให้ญาติโยมที่สนับสนุนวัดเป็นฐานเสียงของตัวเอง แต่เท่าที่พบเห็นในปัจจุบัน พวกนักการเมืองหรือผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น มักจะครอบงำวัด เอาวัดเป็นแหล่งผลประโยชน์ของตนเอง

หลายที่กำนันผู้ใหญ่บ้านจะตั้งตัวเป็นกรรมการวัด โดยที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าอาวาส พอถึงเวลามีกฐินมีผ้าป่าก็เก็บเงินไว้เอง อ้างเสียสวยหรูว่าเก็บรักษาเอาไว้ให้วัด ถ้าหลวงพ่อต้องการเมื่อไรก็มาเบิกได้ แต่ไม่เคยเบิกได้ ไม่รู้ว่าจะเอาไปเก็บไว้ทำอะไร ? กว่าจะรู้อีกทีก็ใช้หมดเกลี้ยงไปแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #119  
เก่า 17-05-2017, 22:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ที่วัดท่าขนุนไม่มีแบบนี้ เพราะว่าทันทีที่อาตมาเป็นเจ้าอาวาส ก็เรียกประชุมไวยาวัจกรและกรรมการวัดเก่าทั้งหมด ประกาศอย่างชัดเจนว่า "โดยกฎหมายแล้ว พอเจ้าอาวาสเก่าพ้นตำแหน่ง พวกคุณก็พ้นไปด้วยทั้งหมด แต่อาตมาจะแต่งตั้งให้ใหม่" แล้วอาตมาก็ออกตราตั้งทับตำแหน่งเดิมให้ทั้งหมด เรียกประชุมปีละ ๒ ครั้งตามปกติ

กรรมการเก่าวัดท่าขนุนมีอยู่ ๗๒ ราย เรียกประชุมเมื่อไรก็มีมาประมาณ ๓๐ ราย อีก ๔๐ กว่ารายไม่เคยมา พอผ่านไป ๓ ปี อาตมาประกาศว่า ต่อไปถ้าใครไม่มาประชุม จะถอดออกจากการเป็นกรรมการวัด เขาคงคิดว่าไม่เคยมีการปฏิบัติในลักษณะนี้ ก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิม

พอหลังการประชุมครั้งล่าสุด อาตมาออกคำสั่งเจ้าอาวาส ปลดคณะกรรมการเก่าที่ตั้งไว้หมดเกลี้ยงทั้ง ๗๒ คน แล้วแต่งตั้งใหม่เฉพาะคนที่มาประชุมเท่านั้น ฝากเขาไปบอกว่า "พวกที่โดนปลด ถ้าหากว่าสงสัยว่าทำไมโดนปลด ให้บอกไปว่า "ถ้าไม่มีเวลาให้วัด มึงก็ไม่ต้องมาเป็นกรรมการ"

พอโดนไปอย่างนั้นก็เข็ดไปตาม ๆ กัน เรียกประชุมครั้งต่อไป ทั้ง ๆ ที่เขาโดนปลดไปแล้ว ยังทะลึ่งมาประชุม ถามว่าแล้วจะมาทำอะไร ?

ปัจจุบันนี้เวลาเรียกประชุม มีจำนวนเกินคณะกรรมการไปเยอะ แต่อาตมาไม่แต่งตั้งใหม่ ปล่อยไปอย่างนั้น อยากมาก็เรื่องของเอ็ง ไม่มาก็เรื่องของเอ็ง เพราะว่าก่อนหน้านี้ให้เวลามาเยอะมากแล้ว

ถ้าหากว่าเจ้าอาวาสไม่เด็ดขาด ส่วนใหญ่แล้วพวกกรรมการหรือไวยาวัจกรก็มักจะขี่คอพระ คิดว่าจะทำอย่างไรก็ได้ แต่พอโดนปลดออก ระดับการเมืองท้องถิ่นจะรู้สึกเสียหน้า จะพยายามดิ้นรนหาทางกลับเข้ามาเป็นใหม่ "ขอโทษ..ไม่แต่งตั้งว่ะ..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #120  
เก่า 17-05-2017, 22:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,156 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องของศาสนากับชาวบ้าน ใช้คำพูดง่าย ๆ ว่า 'เป็นเรื่องของสามัญสำนึก' ในเมื่อเป็นเรื่องของสามัญสำนึก ก็เลยทำให้เห็นว่าในปัจจุบันนี้ ความเคารพในศาสนา ความเคารพในพระรัตนตรัย กระทั่งลงมาถึงความเคารพในพระสงฆ์ มีน้อยลงไปเรื่อย ๆ คนห่างจากศาสนาไปเรื่อย

อย่างวันก่อนที่พระมีเรื่องกับรถตู้ใช่ไหม ? ถ้าไม่มีคนออกมาบอกความจริง พระก็เสียหาย พอมีคนออกมาบอกความจริง ในสายตาสังคมพระก็ผิดไปแล้ว กลายเป็นว่าท่านมีจุดเดือดต่ำ

สิ่งที่เขาเห็นก็คือ นอกจากญาติโยมที่เป็นผู้หญิงด่าพระเสีย ๆ หาย ๆ ใช้คำว่ามึงว่ากูแล้ว ผู้ชายก็ยังชกต่อยทำร้ายพระด้วย เป็นเรื่องที่น่าห่วงว่า เรื่องเหล่านี้จะขยายเป็นวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ ถ้าไปดูสุบินนิมิต ๑๖ ประการของพระเจ้าปเสนทิโกศล ก็จะเห็นว่าส่วนใหญ่เกิดในปัจจุบันนี้แทบทั้งนั้น

อาตมาก็ยังหวาดเสียวว่า ตัวเองจะกลายเป็นหมาจิ้งจอกเยี่ยวรดถาดทองคำ อย่างในสุบินนิมิตของพระเจ้าปเสนทิโกศลหรือเปล่า ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 17:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:49



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว