กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 09-02-2015, 16:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้ทั้งในและนอกประเทศสถานการณ์ไม่ค่อยจะดี ในบ้านเราขนาดรัฐบาลทหารแท้ ๆ ยังจะเอาไม่อยู่ ต้องนึกถึงภาษิตจีน “คนอยู่ในยุทธจักร ไม่เป็นตัวของตัวเอง” ในเมื่อคนอยู่ในยุทธจักร ไม่เป็นตัวของตัวเอง บรรดากระแสของนักวิชาการ เขาต้องการจะเล่นงานอีกฝ่ายหนึ่งให้หนัก ชนิดไม่ให้ผุดไม่ให้เกิดเลย ถ้ารัฐบาลไม่คล้อยตามก็จะหันมาเล่นรัฐบาลแทน ทางรัฐบาลก็ต้องตัดสินใจว่าจะรบกับวิชาการ หรือจะรบกับชาวบ้านดี ท้ายสุดรบกับชาวบ้านดีกว่า ก็เล่นอีกฝ่ายจมดินไปเลย

เพราะฉะนั้น..ในเรื่องของรัฐบาล ถ้าการบริหารงานไม่ตรงไปตรงมา ยังมีอคติ มีพวกมากลากไปอยู่ ต่อให้เป็นรัฐบาลวิเศษวิโสมีอำนาจขนาดไหนก็ไปไม่รอด ค่านิยม ๑๒ ประการ ลดเหลือแค่ "ยุติธรรม" คำเดียวก็พอแล้ว พูดแบบนี้เดี๋ยวอาตมาจะโดนเรียกไปปรับทัศนคติอีก ถ้าเรียกไปตูจะไปนั่งเทศน์ให้ทหารฟังเอง..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-02-2015 เมื่อ 17:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 250 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 09-02-2015, 17:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ต่างประเทศก็มีการก่อการร้ายแทรกซึมไปทุกมุมโลก ต้องบอกว่าสาเหตุใหญ่มาจากอเมริกา อเมริกาทำตัวเป็นตำรวจโลก แต่ไม่มีความยุติธรรม ไปยุ่งเกี่ยวแล้วก็สร้างสถานการณ์ต่าง ๆ เอาไว้เยอะ ก็เลยทำให้ประเทศที่เขาเดือดร้อนไม่ชอบใจ โดยเฉพาะบรรดาประเทศในตะวันออกกลาง โดนปั่นหัวให้รบราฆ่าฟันกันมานับครั้งไม่ถ้วน แล้วก็ส่งกองกำลังเข้าไปเข่นฆ่าคนของเขา

จุดมุ่งหมายมีอยู่ ๒ อย่าง อย่างแรกก็คือจะขายอาวุธ อย่างที่สองก็คือต้องการน้ำมัน ในเมื่ออย่างนั้นเวลาเขาตอบโต้กลับคืนมาด้วยวิธีการที่รุนแรง ก็เป็นเรื่องปกติ เพราะว่าประเทศเล็ก ๆ หรือกองกำลังเล็ก ๆ จะทำให้เขาหวาดเกรงได้ก็ต้องอาศัยความโหดร้าย ในส่วนนี้ก็เลยทำให้ลุกลามไปหมด เพราะรู้ว่าปะทะซึ่ง ๆ หน้าไม่ได้ ก็ต้องใช้วิธีก่อการร้าย

อย่างล่าสุดเห็นว่าเอาพวกเด็ก ๆ ถ้าพูดภาษาไทยก็คือปัญญาอ่อน ไปเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย เอาเด็กผู้หญิง เอาเด็กปัญญาอ่อนไปทำลักษณะอย่างนั้น โหดร้ายทั้งกับตนเองและกับคนอื่น ก็เลยทำให้เห็นเค้าว่า ภาวะสงครามใหญ่กำลังลุกลาม ถ้าฝรั่งเศสโดดไปเล่นด้วยเต็มตัวเมื่อไร ใครมีญาติอยู่ทางยุโรปหรืออเมริกา ก็เรียกกลับบ้านเราได้แล้วนะ อย่างน้อยบ้านเราก็ปลอดภัยกว่า ถึงแม้จะมีระเบิดแถว ๆ สยามพารากอนบ้างก็ช่างเถอะ..!

เขาบอกว่าตายแล้วเขาจะได้ไปอยู่กับพระเจ้า เพราะเขาเป็นนักรบศักดิ์สิทธิ์ จะว่าไปแล้วเป็นเรื่องของกรรมสนอง เพราะอเมริกาส่งผู้เชี่ยวชาญไปฝึกอาวุธให้เขา ถึงเวลาเขาก็เอาสิ่งที่ฝึกได้นั่นแหละมาใช้งานคืน ทุกขะโต ทุกขะถานัง ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว

เรื่องของผู้ก่อการร้ายเป็นเรื่องของผู้เฝ้าระวังกับผู้ก่อเหตุ คนเฝ้าระวังอย่างไรก็ต้องเผลอจนได้แหละ ใครมีวัตถุมงคลที่มั่นใจว่าป้องกันนิวเคลียร์ได้ก็พก ๆ ไว้บ้างนะ บ้านเขานี่ต้องการจะหักจีนลงมา เพราะจีนชักจะล้ำหน้าล้ำตา แล้วการที่จะหักล้างประเทศมหาอำนาจขนาดนั้นได้ ก็ต้องเล่นกันด้วยนิวเคลียร์ แล้วลมจากจีนก็พัดเข้าไทย ต่อให้ไม่มีลม พวกกระแสก็ลอยมาทางบ้านเราอยู่ดี

ถ้าได้ยินข่าวว่าถล่มกันด้วยนิวเคลียร์แล้ว ก็งัดพระเครื่องกันนิวเคลียร์มาแขวนนั่งภาวนาไป จะเป็นสมเด็จคำข้าว สมเด็จหางหมากของวัดท่าซุงก็ได้ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านทำไม่ได้ให้รวยอย่างเดียว ท่านตั้งใจทำไว้ให้กันนิวเคลียร์ด้วย จำนวนสร้างทั้งรุ่นก่อนรุ่นหลัง สมเด็จคำข้าว ๕,๑๐๐,๐๐๐ องค์ มีรุ่นพิเศษอีก ๑๐๐,๐๐๐ ก็เป็น ๕,๒๐๐,๐๐๐ องค์ สมเด็จหางหมากนี่แสนเดียว รุ่นหลังไม่ทราบว่าเท่าไร คนบ้านเรามี ๖๐ กว่าล้านคน จะ ๗๐ ล้านอยู่แล้ว แล้ว ๕ ล้านองค์ที่ว่านี่ บางทีอยู่กับบางคนเป็นร้อยองค์เลย..!

ของวัดท่าขนุนก็หาพระนาคปรกฉลอง ๒,๖๐๐ ปีพุทธชยันตีหรือพระกริ่งพิชัยสงครามไว้บ้างนะ อาตมาทำไว้ให้ตีกับชาวบ้านโดยเฉพาะ..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-02-2015 เมื่อ 17:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 266 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 09-02-2015, 17:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาจะหล่อพระเนื้อเงินสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๙.๙ นิ้ว เพื่อถวายกุศลแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเจริญพระชนมายุ ๕ รอบ จะหล่อวันที่ ๒๙ มีนาคมตรงนี้ ตรงสวนนี้ (บ้านวิริยบารมี) เพราะวันที่ ๒ เมษายน พระองค์ท่านก็ ๖๐ พรรษาแล้ว

อาตมาสร้างพระใหญ่หน้าวัดถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ๘๐ พรรษา สร้างห้องสมุดถวายสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ๖๐ พรรษา สร้างหลวงพ่อพระพุทธลีลาประทานพรหินเขียวถวายในหลวง ๘๔ พรรษา คราวนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ๖๐ พรรษาแล้ว จึงสร้างถวายพระองค์ท่านเสียอีกองค์หนึ่ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-02-2015 เมื่อ 17:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 261 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 09-02-2015, 17:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาเป็นห่วงสถานการณ์ในบ้านเรา เพราะว่าเล่นของสูงกันหนักขึ้นเรื่อย ๆ ที่ออกแถลงการณ์สำนักพระราชวังปลอม แปลว่าชักจะไม่คำนึงถึงวิธีที่ใช้ ส่วนเรื่องการวางระเบิดที่สยามพารากอนนั้น ก็อยู่ในลักษณะของสร้างสถานการณ์ โดยไม่ได้สนใจว่าชาวบ้านจะเป็นตายร้ายดีหรือเปล่า

จะว่าไปแล้วรัฐบาลทุกรัฐบาลต่างก็จะต้องช่วงชิงกระแส ถ้าจำเป็นก็ต้องสร้างสถานการณ์ แล้วคราวนี้ในเมื่อต่างคนต่างทำมา กลายเป็นลักษณะไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ พอทำก็รู้ว่าเป็นใคร แต่ว่าบ้านเราเสียอยู่อย่างหนึ่งก็คือว่า พอถึงเวลาก็จะชี้นิ้วไปยังฝ่ายตรงข้ามทันที ทั้ง ๆ ที่อาจจะเป็นมือที่ ๓ ที่ ๔ ที่ ๕ ก็ได้ แล้วพอถึงเวลาก็กลายเป็นนำกระแสไป

หลายครั้งแล้วในบ้านเรา อย่างการตายของคุณเอกยุทธ อัญชันบุตร พยายามที่จะดึงการเมืองมาเกี่ยวข้อง ทั้ง ๆ ที่การพิสูจน์หลักฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์ทุกอย่างก็ลงไปที่การฆ่าชิงทรัพย์ธรรมดา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-02-2015 เมื่อ 17:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 241 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 09-02-2015, 17:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "หน้าที่ของสามีก็คือ ให้เกียรติยกย่องภรรยาของตน ไม่ดูหมิ่นภรรยา ไม่ประพฤตินอกใจภรรยา มอบความเป็นใหญ่ในบ้านให้ ถึงเวลาก็หาซื้อเครื่องประดับให้เป็นรางวัลบ้าง พระพุทธเจ้าท่านบอกไว้หมดแล้ว

หน้าที่ของภรรยาก็
ดูแลการบ้านการเรือนดี สงเคราะห์คนข้างเคียงสามีดี ไม่ประพฤตินอกใจ รักษาทรัพย์สมบัติที่สามีหามาได้ ขยัน..ไม่เกียจคร้านในกิจการงานทั้งปวง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-02-2015 เมื่อ 17:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 256 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 09-02-2015, 17:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สำนวน "ป่วยการเมือง" มาจากประเทศจีน ในประเทศจีนส่วนใหญ่เขาจะสร้างบ้านเป็นลักษณะบ้าน ๔ องค์ ก็คือ ถ้าเป็นวัดก็ลักษณะมีระเบียงคดล้อมลานกว้างไว้ แล้วบ้านจะมีหอกลาง หอหลัง หลายต่อหลายหลัง คราวนี้ถ้าไม่ยินดีรับแขกคนไหนก็อ้างว่าป่วย แล้วพวกแขกที่ไม่อยากรับก็คือ พวกบรรดาที่มาให้ช่วยเหลือเรื่องการเมืองในส่วนที่ไม่ควรจะช่วย จนกระทั่งมีสำนวนว่าป่วยการเมือง อ้างว่าป่วย รับแขกไม่ไหว แขกมาได้แค่หอหน้า ไม่ได้เข้าด้านใน ๆ ก็ไม่รู้ว่าป่วยจริงหรือเปล่า ได้แต่ผิดหวังกลับไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-02-2015 เมื่อ 18:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 233 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 09-02-2015, 18:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ส่วนใหญ่เวลาเขาถวายสังฆทาน เผลอเมื่อไรมักจะถวายเงินข้ามเศียรพระพุทธรูปทันที อาตมาอุตส่าห์เอื้อมไปรับด้านข้าง ปรากฏว่าโยมส่งข้ามเศียรพระทุกที..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-02-2015 เมื่อ 18:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 246 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 09-02-2015, 18:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่บ้านมีหุ่นอยู่สามหุ่นมาตั้งแต่สมัยไหนก็ไม่รู้... ?
ตอบ : ฟังให้ดี ๆ นะ ลูกกรอกกับกุมารทองเป็นคนละอย่างกัน กุมารทองนั้นในสมัยโบราณเขาสร้างขึ้นมา โดยเฉพาะใช้ลูกชายคนหัวปีก็คือคนแรก แล้วก็ต้องรอจนกว่าจะหาเด็กได้ สมัยก่อนการแพทย์ไม่ทันสมัยเหมือนสมัยนี้ ผู้หญิงคลอดลูกแล้วตายกันบ่อย เขาเรียกว่าตายท้องกลม ความจริงต้องเรียกว่า "ตายทั้งกรม" คือตายหมดทั้งแม่และลูก แต่คำเพี้ยนมาเป็น "ตายท้องกลม" ต้องไปทำพิธีเอาศพเด็กในท้องมา แล้วทำพิธีกรรมในการย่างเด็กให้แห้ง แบบที่ "เณรแอ" โดนจับไปนั่นแหละ สมัยนี้ทำไม่ได้แล้ว จากนั้นก็ปลุกขึ้นมาใช้งาน ถ้าลักษณะนั้นถึงเวลาก็จะปรากฏรูปร่างเป็นผีตัวใหญ่ มีฤทธิ์มากน้อยเท่าไร ตามกำลังของคนที่ปลุกเขาขึ้นมา ถ้าคนปลุกได้ฌานได้สมาบัติ เขาก็จะมีกำลังสูง

ส่วนลูกกรอกเกิดโดยธรรมชาติ เป็นโอปปาติกะประเภทกึ่งผีกึ่งเทวดา ถ้าผู้หญิงคนไหนมีลูกกรอก จุดที่เห็นได้ชัดที่สุดคือที่ท้อง เดี๋ยวก็โตเดี๋ยวก็ยุบ คือถ้าเขานึกอยากไปเที่ยวก็ท้องยุบ ถ้ากลับมาก็ท้องโตใหม่ จนกระทั่งเขาพอใจก็คลอดออกมาตามปกติ แต่จะตัวนิดเดียว มีหัวหูหน้าตาครบถ้วนดี ถ้าพวกลูกกรอกนี่ส่วนใหญ่แล้วจะต้องเรียกให้เขากิน แต่กุมารทอง ถ้าเป็นอาตมาก็ถวายสังฆทานให้หมดเรื่องหมดราวไปเลย

ถ้าลูกกรอก หลวงพ่อวัดท่าซุงจะแนะนำว่าให้ถวายสังฆทานให้ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วกำลังเขาน้อย ถึงเวลาพวกหมอผีที่รู้ก็จะเรียกไปใช้งาน ท่านบอกถ้าถวายสังฆทานให้เขาจะมีกำลังเท่ากับเทวดา คราวนี้หมอผีก็หมดสิทธิ์ที่จะเรียก

สมัยก่อนกุมารทองต้องทำจากเด็กจริง ๆ มาระยะหลัง ๆ มีหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม ที่นครปฐม ท่านเอาเถ้ากระดูกของเด็กที่เผาศพแล้ว ซึ่งเด็กเขายังไม่ไปเกิด สมมติว่าเด็กอายุเขา ๑๐๐ ปี เกิดมาพักเดียวก็ตายแล้ว เหลือเวลาอีกเกือบ ๑๐๐ ปี ท่านก็เอาเถ้ากระดูกมาปั้นเป็นรูปเด็ก เสร็จแล้วก็น่าจะมีการอุทิศส่วนกุศลแผ่เมตตาอะไรให้ เพราะท่านบอกว่าท่านทำจนเป็นเทวดาหมดแล้ว ถ้าญาติโยมคนไหนลำบาก ท่านก็ให้ไปช่วยในเรื่องการค้าขาย แล้วเจริญรุ่งเรืองกันดี เขาก็เลยนิยมกุมารทองหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่ามกัน สามง่ามที่นครปฐมนะ ไม่ใช่สามง่ามที่นนทบุรี

คราวนี้ก็มีคนสร้างเลียนแบบกันมาเรื่อย ๆ แต่ว่าเลียนได้แค่แบบ ไม่รู้ของจริงเลียนได้เท่าไร แล้วก็มีพัฒนาการจากใช้ศพเด็กจริง ๆ มาเป็นหุ่น เสร็จแล้วก็มีทำเป็นตัวเล็กตัวใหญ่ มาระยะหลังก็ยังมีอีกประเภทหนึ่งที่มักเข้าใจว่าเป็นกุมารทอง ก็คือรูปแกะสลักตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ในขวดน้ำมัน พวกนั้นเขาเรียกว่า "รัก-ยม" สมัยก่อนเขานิยมแกะสลักขึ้นมาจากกาฝากต้นรัก หรือว่ากาฝากต้นมะยม เสร็จแล้วก็ปลุกเสกตามพิธีกรรมตามตำราเขา ไปที่ไหนก็จะเป็นที่รักใคร่เมตตา พวกนี้ก็ต้องเรียกให้กินเหมือนกัน


ถาม : อย่างนี้เราควรทำอย่างไร ?
ตอบ : อุทิศส่วนกุศลให้เขาไป แล้วเขาจะไปเกิดภพไหนภูมิไหนก็ไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2015 เมื่อ 03:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 09-02-2015, 19:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เพื่อนเขาตาเจ็บมานานแล้วค่ะ ?
ตอบ : แล้วหมอว่าอย่างไรบ้างจ๊ะ ?

ถาม : หมอบอกเป็นกรรมพันธุ์ ?
ตอบ : กรรมพันธุ์ภาษาพระท่านเรียกว่ากรรมเก่า ไปดูว่าใครเขาจะสร้างพระ แล้วไปขอเป็นเจ้าภาพสร้างเนตรพระ อุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร ถ้าเป็นพระองค์ใหญ่ก็จะมีเนตรที่เป็นมุกกับนิล ก็ไปบอกขอเป็นเจ้าภาพ มีอยู่ช่วงหนึ่งอาตมาถามหมอนพพรจะขอเป็นเจ้าภาพ แต่เขาจองกันหมดแล้ว

ถาม : เป็นเจ้าภาพร่วมได้ไหมคะ ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วควรจะทำเอง ทำคนเดียวชุดหนึ่งเลย ๕๐๐ - ๖๐๐ บาทเท่านั้น เคยเห็นไหม ? เนตรพระจะมีนิลกลม ๆ โตหน่อย แล้วจะมีเปลือกหอยมุกที่เขาตัดเป็นตาขาว อย่างเก่งก็ ๑,๐๐๐-๒,๐๐๐ บาท ทำไปเถอะ แล้วก็อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร ให้คนอื่นเขาเป็นกรรมพันธุ์ต่อไป ส่วนเราก็เลิกเป็น

หรือไม่อีกวิธีก็ให้เสกน้ำล้างหน้าทุกวัน ใช้คาถา สหัสสเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสทายิ จำได้ไหม ? ถ้าจำไม่ได้ก็ไปหาซื้อหนังสือมนต์พิธีเล่มละ ๒๐ บาท มีอยู่ในนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 10-02-2015 เมื่อ 10:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 09-02-2015, 20:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บ้านเมืองถ้าไม่มีขื่อมีแปก็อยู่ไม่ได้ ?
ตอบ : บ้านเรามีขื่อมีแป แต่เป็นขื่อแป ๒ มาตรฐาน ไปนึกถึงสมัยราชวงศ์หมิง หมิงไท่จู่ก็คือจูหยวนจางขึ้นครองราชย์ พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ชาวบ้านอยู่ดีกินดี แต่ปรากฏว่าพวกบรรดาข้าราชการโกงกันสะบั้นหั่นแหลก โกงขนาดเป็นครึ่งหนึ่งของภาษีทั้งประเทศ ๒๔๐ หมื่นตำลึง โกงกันได้ขนาดนั้น ๒๔๐ หมื่นเป็นสมัยนี้ยังรู้สึกสยดสยองเลย ๑๐๐ หมื่นก็ ๑ ล้าน นี่ ๒๐๐ กว่าหมื่น แล้วนั่นคนเดียว คิดดูว่าที่เหลือโกงกันไปเท่าไร ?

แล้วคนเขาว่าจูหยวนจางเป็นกษัตริย์ที่โหดร้ายมาก พอชิงแผ่นดินได้แล้วก็ฆ่าคนโน้นฆ่าคนนี้ ท่านตั้งใจทำเพื่อให้เขาหลาบจำ ท่านอุตส่าห์ให้นโยบายว่า ประเทศเพิ่งฟื้นขึ้นมาจากสงคราม เหมือนลูกนกเพิ่งหัดบิน เหมือนหน่ออ่อนที่เพิ่งปลูกลงไป จะไปจับนกถอนขนหรือจะไปโยกรากเพื่อให้หน่ออ่อนเคลื่อน เดี๋ยวก็ตาย ขนาดพระองค์ท่านสั่งห้ามเด็ดขาด ก็ยังทำกันได้ขนาดนั้น

ส่วนบ้านเราอาตมาเห็นคาตา ถึงวันที่ ๓๐ กันยายนแล้วเพิ่งใช้งบประมาณได้ ๓๐ เปอร์เซ็นต์เอง อีก ๗๐ เปอร์เซ็นต์เขาใช้หมดภายในวันนั้นเลย เพราะว่าช่วงนั้นไปช่วยงานเผยแผ่จริยธรรมพอดี ก็เลยมีโอกาสเข้าไป คือ เสนอโครงการไปก็ต้องมีส่วนของงบประมาณอยู่ จึงได้เข้าไปดู เขาตั้งโต๊ะเซ็นอนุมัติทุกโครงการ พอเที่ยงคืนตรง วางปากกา เปิดแชมเปญฉลองกันเลย สรุปว่าทั้งปีใช้ ๓๐ บาท อีก ๗๐ บาทใช้หมดภายในวันเดียว ถามเขาว่าทำไมไม่ส่งคืน ? เขาบอกว่าถ้าส่งคืนต่อไปจะขอใหม่ไม่ได้ สรุปว่าบ้านเราที่เจริญมาจนทุกวันนี้ พัฒนาด้วยงบประมาณไม่เกิน ๓๐ เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือกินกันหมด..!

ถาม : งบประมาณเหลือก็ไปสัมมนาต่างจังหวัดกัน ?
ตอบ : ที่ไหน ๆ ก็เหมือนกัน อย่างงบประมาณดูงาน จริง ๆ ก็คือให้เขาพาลูกพาเมียไปเที่ยว ไปดูงานเท่าไร ๆ ทำไมบ้านเราจึงไม่ดีกว่าเดิม อาตมาไปดูงานยุโรปเสร็จแล้วเขียนสรุปส่งท่านอาจารย์ ๕ บรรทัด ท่านอาจารย์ตกตะลึง ถามว่า “เอาแค่นี้จริง ๆ หรือ?” บอกว่า “แค่นี้จริง ๆ ครับ”

อาตมาสรุปว่า ถ้าเรารักษาของเก่าจนขายได้แบบอิตาลี รักษาธรรมชาติจนขายได้แบบสวิตเซอร์แลนด์ แล้วก็สร้างแบรนด์จนขายได้แบบฝรั่งเศสก็พอแล้ว แต่ทั้งหมดนี่ไม่ต้องทำหรอก แค่สร้างจิตสำนึกคนของเราให้เท่าเขาก็พอแล้ว ตกลงไปดูงาน คนอื่นเขาเขียนรายงานกันหนาเป็นปึก ของอาตมามีรายงานอยู่ ๕ บรรทัด แล้วไม่เต็มบรรทัดด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2015 เมื่อ 03:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 10-02-2015, 14:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้ามีคนที่ไม่ชอบเรา ?
ตอบ : แผ่เมตตาให้เขาบ่อย ๆ พยายามมองเขาให้เป็นเพื่อนร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตายให้ได้ โดยเฉพาะบุคคลที่ทำในสิ่งที่เป็นทุกข์เป็นโทษแก่คนอื่น ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ คนทั้งหลายเหล่านี้ยังต้องรับทุกข์รับโทษในวัฏสงสารอีกยาวไกลไม่รู้จบ เพราะฉะนั้น..เขาเองเป็นคนที่น่าสงสารมากกว่าน่าโกรธ

พยายามคิดให้ได้ แรก ๆ ก็คิดยากหน่อย คิดทีไรก็โดนต้านทุกที เอาเป็นว่าอันดับแรกทำสมาธิให้มั่นคงให้ได้ก่อน ถ้ามีสมาธิมั่นคง จะมีกำลังในการระงับยับยั้ง ไม่ใช่ไม่โกรธ ยังโกรธอยู่แต่ระงับได้ หลังจากนั้นก็พยายามคิดพิจารณาให้เห็นอย่างที่ว่า เราเองจะโกรธหรือไม่โกรธเขาก็แก่แน่ ๆ เขาก็ตายแน่ ๆ เขาก็เจ็บไข้ได้ป่วยแน่ ๆ ในเมื่อเขาก็เป็นขนาดนั้นแล้วเรายังจะไปซ้ำเติมเขาทำไม ?

อันดับแรกเอาสมาธิก่อน ถ้าสมาธิทรงตัวเดี๋ยวก็มีปัญญาเอง จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร อันดับแรกก็ระงับได้ก่อน แต่ระงับได้ก็เหมือนกับขังเสือไว้ในอก อกจะแตกตาย หลังจากนั้นพยายามแผ่เมตตา พยายามคิดปลดวางให้ได้ หรือไม่ไหวจริง ๆ จะคิดแบบผสมความโกรธไปก็ได้ คนแบบนี้ไม่มีคุณค่าพอที่เราจะไปนั่งคิดถึงหรอก..!


ถาม : อ้าว..?
ตอบ : ก็กำลังยังไม่พอนี่ ในเมื่อกำลังยังไม่พอ อาศัยความโกรธเป็นพื้นฐานเอา

ถาม : มีคนขับรถมาแบบไม่มีมารยาท ทำให้เราโกรธ ก็มาคิดว่าเขาขับมาแค่วินาทีเดียว เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ ทำให้เราโกรธได้ขนาดนี้
ตอบ : เขาไม่มีคุณค่าพอที่เราจะไปคิดหรอก

ถาม : ถ้าสมาธิทรงตัว ?
ตอบ : อย่างน้อย ๆ รัก โลภ โกรธ หลงกินไม่ได้ นิ่งอยู่ข้างในไม่ส่งออกนอก

ถาม : ไม่ได้สมาธิทรงตัวตลอดเวลา ?
ตอบ : ใหม่ ๆ ก็ได้พักเดียว ต้องซักซ้อมทำบ่อย ๆ ถ้าทำบ่อย ๆ ก็จะได้ข้ามวันข้ามคืน แต่ก็ยังไม่แน่ เพราะถ้าเผลอเมื่อไรก็หลุดอีก ต้องอยู่กับลมหายใจเข้าออก ถ้าอยู่ตรงนี้จะไม่คิด แต่ถ้าเผลอไปเมื่อไร รีบกลับมาตรงนี้ใหม่ คือให้คิดถึงลมหายใจเข้าออก แทนที่จะไปคิดถึงเรื่องอื่น รู้ตัวว่าคิดเรื่องอื่นเมื่อไร รีบดึงกลับมาตรงนี้ แรก ๆ ก็สนุกสนาน หายใจไม่ทันจะเข้าเลย คิดเรื่องอื่นแล้ว หลังจากพยายามต่อไปก็เข้าออกไม่คิด พอจะเข้าใหม่คิดอีกแล้ว แล้วก็เริ่มต้นดึงกลับมาใหม่ ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนได้ลมหายใจสัก ๕ คู่ ๑๐ คู่โดยไม่คิดอะไร คราวนี้ก็จะเริ่มมีกำลังขึ้น แล้วหลังจากนั้นก็จะดีขึ้นไปเรื่อย ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2015 เมื่อ 16:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 10-02-2015, 15:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ปลัดขิกแบบนี้ดีทางไหน ?
ตอบ : ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะว่าไม่ได้ศึกษาสายนี้มา ปลัดขิกบ้านเราที่ดังจริง ๆ ต้องหลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ เคยมีคนโดนต่อต่อย คิดอะไรไม่ออก ตัวเองพกปลัดขิกหลวงปู่อี๋อยู่ ก็เลยอธิษฐาน เอาปลัดขิกแตะตรงที่โดนต่อย เขาบอกว่ารู้สึกเลยว่ามีอะไรบางอย่างโดนดึงออกจากตัว แล้วความปวดก็หาย เขาโดนต่อยเป็น ๑๐ ทีเลยนะ บอกว่าถ้าไม่มีปลัดขิกหลวงปู่อี๋คาดว่าคงตายแน่

อีกรายที่ทำแล้วดังก็คือ หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ทางด้านกุยบุรี แล้วก็มีหลวงปู่ซ่วน วัดท่าลาดใต้ นั่นน่าเสียดาย เพราะว่าท่านทำแล้วมีผล คนก็เลยไปสร้างเสียเต็มไปหมด แล้วแต่ละอันก็ใหญ่เป็นเสาเลย ทำให้กลายเป็นทัศนะอุจาดภายในวัดไป ท่านก็เลยโดนทางคณะสงฆ์สอบสวน แล้วสั่งระงับไม่ให้ทำอีก

ความจริงวิชาการที่ท่านศึกษามามีผล แต่เสียดายว่าสิ่งที่ทำนั้นนอกเขตพระพุทธศาสนาเกินไป ปลัดขิกนี่มาจากศิวลึงค์ของทางด้านฮินดู เขาถือว่าเป็นต้นกำเนิดมนุษย์ ก็จะมีสร้างศิวลึงค์กับอุมาโยนี ซึ่งพลังในการให้กำเนิดก็คือพลังในการสร้างโลก โบราณที่เขารู้เคล็ดก็สามารถที่จะทำจนใช้งานได้จริง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-02-2015 เมื่อ 16:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 10-02-2015, 20:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "คณะสงฆ์ทองผาภูมิตอนนี้มีตำแหน่งว่างเยอะเลย ไม่ต้องแย่งชิงกัน ว่าง ๒ เจ้าคณะตำบล กับ ๑ รองเจ้าคณะอำเภอ และอีก ๑ เจ้าคณะอำเภอ กลายเป็นว่าคนเหมาะสมมีน้อย แต่ตำแหน่งมีมาก อาตมาที่ไม่คิดจะแย่งจะชิงกับใครก็เลยเหมือนกับโดนเขาจับยัด บอกไปว่าเห็นใครเขาอยากได้ให้เขาไปก่อน แล้วเรื่องพวกนี้ไม่ต้องไปแย่งไปชิงกับใครหรอก ถึงเวลาก็มาเอง คนอื่นเขาไม่ได้มองแง่เดียวกับอาตมา เขามองว่าต้องได้

เหมือนอย่างคราวที่แล้ว อาตมาลาออกจากเจ้าคณะตำบล หลวงพ่อพรหมดิลกซึ่งตอนนั้นเป็นเจ้าคณะภาคด่าเช็ดเลย ท่านด่าอาตมาหนัก ๆ ๒ ครั้ง ครั้งแรกก็คือเรื่องลาออก ครั้งที่สองคือเรื่องที่ท่านเจ้าคุณพรหมสิทธิ ตอนยังเป็นพระธรรมสิทธิอยู่ ให้อาตมาไปเอาพระครูปลัดแล้วอาตมาไม่ไป โดนชยันโตเสียยับเยิน คือรู้สึกว่าถ้าเป็นหนี้บุญคุณแล้วชดใช้ยาก จนกระทั่งเดี๋ยวนี้เขารู้กันหมดแล้วว่า ถ้าอาจารย์เล็กจะเอาคือขอให้คนอื่น ถ้าให้มาก็รับ แต่ให้คนอื่นต่อ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-02-2015 เมื่อ 15:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 10-02-2015, 20:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ไปหาน้ำมันชาตรีของวัดท่าซุงมาจ้ะ เจอหน้าก็ป้ายเลย

ถาม : ถ้าเราให้เขากินน้ำมนต์
ตอบ : น้ำมนต์นี่ต้องให้เขากิน แต่ถ้าน้ำมันชาตรีนี่แค่ทาก็ได้ผลแล้ว แล้วเขาจะยอมกินหรือ ? แต่ว่าเอาตัวต้นเหตุออกจากบ้านไปก่อนนะ ไอ้ของที่เขาส่งมา ไม่อย่างนั้นถ้ายังอยู่มันก็เหมือนกับมีเครื่องรับ ส่งคลื่นกวนอยู่ตลอด

ถาม : ถ้าเขาพกไปด้วย ?
ตอบ : ก็บอกแล้วว่าเจอหน้าป้ายไว้ก่อน สมัยก่อนเขาป้ายน้ำมันพรายใช่ไหม ? สมัยนี้เราป้ายน้ำมันชาตรี จุดมุ่งหมายคนละอย่างกัน สมัยก่อนเขาป้ายทำเสน่ห์ ของเรานี่ป้ายแก้เสน่ห์

เคยมีผู้หญิงคนหนึ่งเขาเล่าประสบการณ์ที่โดนป้ายน้ำมันพรายให้ฟัง อยู่ ๆ ผู้ชายก็มาคว้าแขนข้างที่เขาใส่นาฬิกา “น้อง..ขอดูเวลาหน่อย” แกก็ก้มดู ปรากฏว่าสร้อยที่ห้อยพระแปะไปตรงรอยป้ายพอดี เขาบอกว่ามีควันขึ้นแล้วกลิ่นเหม็นอย่างกับเนื้อเน่า เขารู้เลยว่านี่เล่นน้ำมันพราย ยังดีที่บุญรักษาพระคุ้มครอง ก้มลงพระที่แขวนอยู่ก็ไปโดนรอยป้ายเข้าพอดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-02-2015 เมื่อ 15:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 225 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 11-02-2015, 11:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีใครบูชามีดหมอไปแล้วโดนระเบิดตายเองบ้าง ? ข้อห้ามเขามีอยู่แล้ว รักษาข้อห้ามไม่ได้ก็โดนระเบิดตายเอง ความจริงน่าจะเปิดกระทู้ให้เขาเล่าประสบการณ์บ้างนะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-02-2015 เมื่อ 15:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 11-02-2015, 11:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์พูดถึงหลวงพ่อจำเนียรว่า "ท่านไม่หวงของ ที่เห็นอยู่เต็มตัว เวลาไปพุทธาภิเษกแล้วเจอหน้ากัน ชอบองค์ไหนก็ชี้ ท่านก็ปลดให้เลย ครั้งสุดท้ายไปพุทธาภิเษกกันที่เชียงใหม่ พอชี้ท่านก็ปลดให้เลย ได้ยินว่าตอนนี้ท่านมาอยู่แถวราชบุรี หรือเพชรบุรีก็ไม่รู้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-02-2015 เมื่อ 15:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 11-02-2015, 11:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เพื่อนฝากถามว่า ตอนนี้เขาเผชิญความทุกข์อย่างหนัก เขาบอกว่าเขาเห็นทุกข์ แต่เขาจมลงไปกับทุกข์ เขาไม่สามารถมองให้เป็นธรรมดาได้ ?
ตอบ : ปัญญายังไม่พอ

ถาม : แล้วเขาต้องทำอย่างไรคะ ?
ตอบ : รักษาศีล เจริญสมาธิ แล้วตั้งใจพิจารณาบ่อย ๆ ถ้ากำลังเพียงพอวันไหนก็จะเห็นจริงเอง เป็นคนโชคดีที่สุด แต่ใช้สิ่งที่ได้รับมาไม่เป็น จะมีสักกี่คนที่ทุกข์จนกระทั่งเห็นความทุกข์อย่างชัดเจน แต่น่าเสียดายที่เห็นแล้วไม่สามารถที่จะปล่อยวางได้ เพราะว่ากำลังไม่พอ โดยเฉพาะปัญญาไม่พอ ปัญญาไม่พอก็เกิดจากสมาธิไม่พอ แย่พอกัน ไปเริ่มต้นว่ากันใหม่ คงจะได้สักวันหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-02-2015 เมื่อ 15:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 11-02-2015, 11:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "บางทีเขาก็ตั้งชื่อเสียจนอ่านไม่ออก ถ้าเป็นตำราอาตมาก็ถือว่าใช้ไม่ได้ ในเมื่อชื่ออ่านยาก แล้วชีวิตจะง่ายได้อย่างไร ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-02-2015 เมื่อ 15:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 11-02-2015, 11:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม พอพุทธาภิเษกมีดหมอเสร็จ ก็ไปขึ้นเครื่องบินเพื่อไปเชียงใหม่ต่อ ทางด้านอาจารย์โต วัดพระบาทปางแฟน ท่านนิมนต์ไว้นานแล้ว แต่ไปไม่ได้สักครั้ง มาครั้งนี้ท่านให้กำหนดวันเอง ก็กำหนดล่วงหน้าไป ปรากฏว่าปฏิทินใหม่ที่ออกมา เวลาที่เขาคิดกับของอาตมาไม่ตรงกัน ก็เลยกลายเป็นวันเสาร์ ๕ ทำให้จัดงานที่วัดเสร็จก็ต้องวิ่งไป เพราะวันอาทิตย์เป็นงานพุทธาภิเษกของท่าน ก็เลยเป็นการเดินทางที่ฉุกละหุกมาก พอพุทธาภิเษกเสร็จก็นั่งเครื่องบินกลับ

ไปตากแดดอยู่ประมาณ ๒ ชั่วโมง เกรียมไปเลย เพราะท่านพุทธาภิเษกในโบสถ์ที่สร้างใหม่ ซึ่งมีแต่ข้างฝา ยังไม่มีหลังคา นั่งตั้งแต่ประมาณ ๘ โมงครึ่งถึง ๑๐ โมงครึ่ง คราวนี้อาตมามานั่งตรงที่ประธาน ซึ่งตรงกับประตูพอดี ทิศตะวันออกเต็ม ๆ เลย โดนแดดเผาจนไม่รู้จะทำอย่างไร บรรดาท่านที่รับผิดชอบงานเดินเข้าเดินออก ก็ไม่มีใครสนใจสักคนหนึ่ง ว่าแดดโดนเต็ม ๆ อย่างนั้น ก็เลยต้องนั่งไม่รู้ไม่ชี้ไปเรื่อย เสร็จจากพุทธาภิเษกนี่แสบหลังเลย "


__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-02-2015 เมื่อ 15:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 11-02-2015, 11:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ไปเชียงใหม่ครั้งนี้คุ้มค่าตรงที่ว่า เจอโยมคนหนึ่งสงสัยว่าตัวเองผิดปกติไปหรือเปล่า ? พอเขาเอ่ยปากถามมา อาตมาก็เลยถามกลับว่า ผิดปกติตรงไม่เห็นว่าอะไรสำคัญเลย เห็นทุกอย่างเสมอกันหมดใช่ไหม ? เขาบอกว่าใช่ คนอื่นเห็นเจ้าใหญ่นายโตก็รู้สึกกลัวรู้สึกเกรง เขาก็รู้สึกว่าคนเหมือนกัน ก็เลยบอกไปว่านั่นเริ่มบ้าแล้ว

พอถึงเวลาแล้ว คน สัตว์ วัตถุธาตุ สิ่งของทั้งหมด ก็สักแต่ว่าเป็นรูป เป็นนาม เป็นธาตุทั้งนั้น ไม่มีอะไรสำคัญ ไม่มีอะไรให้ยึดมั่น แต่คราวนี้พอไปอยู่ในแวดวงการทำงาน ก็เลยกลายเป็นว่าแปลกแยกจากคนอื่นเขา ก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นอาตมาแปลกแยกมานานแล้ว เพราะไม่เห็นความต่างของคนรวยคนจน ว่านายพลนายพันต่างกับตาสีตาสาอย่างไร เขาถามว่าต้องทำอย่างไรต่อ บอกให้ไปทบทวนของเก่าที่ทำมาบ่อย ๆ เคยคิดอย่างไร พูดอย่างไร ทำอย่างไร แล้วอารมณ์ใจอย่างนั้นเกิดขึ้นก็ให้ไปทำใหม่ ทวนแล้วทวนอีกจนมั่นใจว่าเป็นของเราแน่ ๆ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-02-2015 เมื่อ 15:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:14



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว