กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 31-08-2017, 09:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์ประกาศว่า "ใครเป็นเจ้าของรถหมายเลขทะเบียน... ท่านขึ้นไปจอดบนสถานที่ที่ไม่สมควรจอดเพราะเป็นลานธรรมของวัด

การที่เราปูตัวหนอนนั้น ใช้ทรายรองพื้นแล้วค่อยเอาตัวหนอนลง เมื่อโยมเอารถหนัก ๆ ขึ้นไปจอดก็บุบบิบบู้บี้หมด กลายเป็นทำลายของสงฆ์โดยไม่เจตนา รีบไปขยับออกด่วนเลย ส่วนใหญ่แล้วญาติโยมก็คิดว่าตัวเองสร้างบารมีไว้ดี...! มาถึงมีที่จอดรถสวยงามมาก ก็เลยพรวดขึ้นไป ทั้ง ๆ ที่มีขอบกั้นอยู่ รีบ ๆ ขยับให้ด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-08-2017 เมื่อ 10:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 06-09-2017, 19:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ส่วนที่ญาติโยมถ่ายรูปไปก็ดี เอาคำพูดของอาตมาไปเผยแพร่ต่อก็ดี โปรดระมัดระวังนิดหนึ่ง เพราะว่าเท่าที่ผ่านมามีทั้งคุณมีทั้งโทษ

อย่างเช่น โยมมาถามว่าตกงานจะทำอย่างไร ? อาตมาบอกว่าให้ไปขัดส้วมในวัด เสร็จเรียบร้อยแล้วก็อธิษฐานของานกับพระประธาน พูดแค่นี้ ปรากฏว่าเขาเอารูปอาตมาไปลงแล้วก็มีตัวหนังสือว่า ตกงาน อยากจะได้งาน ให้ไปขัดส้วมในวัด แล้วไปอธิษฐานกับพระประธานว่า อานิสงส์ของการล้างส้วมครั้งนี้ ขอให้ได้งานทำด้วย รับรองว่าได้แน่ เขียนคำว่า "รับรองว่าได้แน่" ตัวเบ้อเร่อเลย แล้วมีการไปโพสต์ลงในโซเชียล ปรากฏว่ามีคนเข้าไปคอมเมนท์บานตะเกียงเลย

คอมเมนท์ที่ ๑ อาตมาอ่านแล้วชอบใจมาก เขาบอก ไอ้เหี้...หลอกกูไปขัดส้วมให้วัดนี่หว่า..!

คอมเมนท์ที่ ๒ บอกว่า เออดี...หลอกแดกยังไม่พอ ยังหลอกให้กูขัดส้วมอีก

คราวนี้โยมเห็นหรือยังว่า สิ่งที่โยมตั้งใจจะทำด้วยความปลื้มใจว่าอาตมาบอกอะไรให้ แล้วดันไปทำเกินจากที่อาตมาพูด แล้วผลเป็นอย่างไร ? อีกหลาย ๑๐ คอมเมนท์ที่ต่อท้ายมาประเภท "ดีสิ...แดกเสร็จแล้วก็หลอกให้เราไปขัดส้วม มึงก็นอนดูทีวีชิล ๆ ไปเลยนะ" สรุปว่าไม่มีใครพูดถึงพระในแง่ดีเลย

ประเภทว่า "ตกงานก็ไปสำนักจัดหางานสิ ให้ไปขัดส้วม ตรรกะบ้าบออะไรของหลวงเพ่วะ ?" เห็นหรือยังว่าเราเขียนไปด้วยความเจตนาดี แต่เกินจากคำพูดที่อาตมาพูด แล้วเกิดอะไรขึ้น ?"


__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-09-2017 เมื่อ 20:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 06-09-2017, 19:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก คนที่ตั้งใจจะโจมตีศาสนาของเราก็มีมาก แล้วเราก็ไปเปิดหน้าให้เขาชกเอง

ถามว่าอาตมารู้สึกอย่างไร ? อาตมา ไม่ได้โกรธคนที่เขาเข้ามาคอมเมนท์เลย ถ้าจะโกรธ ก็โกรธไอ้ลูกศิษย์ระยำที่เสือกทะลึ่งเอาไปลงนั้นแหละ...! ลงด้วยความภูมิใจในครูบาอาจารย์ แต่กลายเป็นลงประจานครูบาอาจารย์ให้คนอื่นเขาด่า

เพราะฉะน้ั้น...จะทำอะไรต้องระมัดระวัง อาตมาเองทำความสะอาดวัด ขุดดิน ถางหญ้า โยมไปโพสต์เฟซฯ ด้วยความปลาบปลื้มใจว่า พระอาจารย์ของเราขยันมาก คนเข้ามาคอมเมนท์ว่า "พระเหี้..อะไรวะ ? ศีลพระห้ามพรากของเขียว นี่ดันถางหญ้า ตัดต้นไม้อีกต่างหาก" เห็นหรือยังว่าเขามองเราคนละแง่กัน

ถ้าถามว่าพระพรากของเขียวผิดศีลตามพระพุทธเจ้าใช่ไหม ? ใช่...แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย วัดวาอารามรก คนเสื่อมศรัทธา ศาสนาจะอยู่ได้ไหม ? ในเมื่ออยู่ไม่ได้ ก็มีอยู่อย่างเดียวคือ ต้องทำวัดวาอารามให้สะอาด เมื่อวัดวาอารามสะอาด คนเห็นเกิดศรัทธาอยากเข้าวัด ถึงตัวเราจะโดนอาบัติ ศีลขาด แต่ว่าในส่วนที่เป็นบุญกุศลก็ได้มาก อาตมาถือว่าลงทุนได้ เพราะอาตมาหน้าด้านหน้าทน ไม่ใช่รักศีลจนปล่อยให้ศาสนาตั้งอยู่ไม่ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-09-2017 เมื่อ 20:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 06-09-2017, 19:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ฉะนั้น...สิ่งที่พวกเราทำไป บางทีทำด้วยความหวังดีแต่กลายเป็นประสงค์ร้าย เพราะว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ รูปที่เผยแพร่ออกไปควรจะเป็นภาพที่ดูดีที่สุดของครูบาอาจารย์ คำพูดของท่านก็ควรจะคำสอนที่เป็นไปตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระไตรปิฎก เพื่อไม่ให้คนฉวยโอกาสเอาไปโจมตีว่าร้าย ไม่ใช่ไปเปิดช่องให้เขาด่าเรา

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เราต้องคิดแล้วคิดอีก ระวังแล้วระวังอีก ไม่ใช่ว่านึกอยากจะลงอะไรก็ลง โดยเฉพาะในวัดท่าขนุนนี่แหละตัวดีเลย อาตมายงโย่ยงหยกถูศาลาอยู่ แม่..ง โพสต์เฟซฯ ไปเรียบร้อยแล้ว แล้วภาพพระกำลังโก้งโค้งถูศาลาสวยมากหรือ ? จะชื่นชมว่าครูบาอาจารย์ว่าขยันก็ชื่นชมไป แต่ไม่ใช่เอาภาพอย่างนี้ไปลง ต้องบอกว่ามีหัวไว้คั่นหูอย่างเดียว ไม่เคยบรรจุสมองไว้คิดเลย...!

ศาสนาอื่นเขาจ้องโจมตีเราไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร แทนที่จะเอาภาพที่คนเห็นแล้วเกิดความเลื่อมใสไปลง กลับเอาภาพที่ล่อแหลมให้คนไปด่า แล้วก็ลงด้วยความปลื้มใจของตัวเอง แต่ไม่ได้ดูว่าคนอื่นเขาปลื้มด้วยหรือเปล่า ?

โบราณท่านว่า คนรักเท่าผืนหนัง ก็คือหนังที่หุ้มตัวเรานี่แหละ แต่คนชังเท่าผืนเสื่อ เสื่อนี่ห่อตัวเราได้อีกชั้นหนึ่งเลย แปลว่าถึงมีคนรักแต่คนไม่รักก็มีมากกว่า เราไม่สามารถทำให้คนมีความคิดเห็นเหมือนกับเราได้ทั้งหมด สิ่งที่เราชื่นชมคนอื่นอาจจะด่าว่าตำหนิเอาก็ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-09-2017 เมื่อ 21:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 144 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 06-09-2017, 19:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ถ้าใครเคยอ่านกวีซีไรต์ คุณศักดิ์สิริ มีสมสืบ เขียนเอาไว้ในหนังสือชื่อ มือนั้นสีขาว อาตมาอ่านแล้วจำขึ้นใจ คุณศักดิ์ศิริเขียนถึงพระสงฆ์ขี่มอเตอร์ไซค์ เขาเขียนว่า

ฉิวฉิวปลิวผ่านหน้า
สงฆ์สมัยนี้ซ่า
อ้ายห่า..ควบมอเตอร์ไซค์
เฆี่ยนฉิวยังกับสายฟ้า
โคตรแม่มันตายห่าหรือไร

นี่คือสายตาชาวบ้านเห็น แต่ประโยคสุดท้าย "สงฆ์ยกจีวรเช็ดน้ำตา แม่จ๋าลูกมาช้าไป" ท่านรีบไปหาแม่ที่กำลังจะตายจริง ๆ แต่ในสายตาคนเขาเห็นอย่างนั้นไหม ? เขาก็เห็นแค่พระบิดมอเตอร์ไซค์จีวรปลิวเท่านั้น

คนเราคิดชั่วง่าย ทำชั่วง่าย พูดชั่วง่าย แต่คิดดีนั้นยาก ทำดียาก พูดดียาก เราทำดีสักร้อยครั้งพันครั้ง เขาจะชมสักครั้งก็ยาก แต่ถ้าเราทำไม่ดีแม้แต่ครั้งเดียว เขาด่าเป็นร้อยเป็นพันครั้งไม่เลิก นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเราที่เรียกว่าเมืองพระพุทธศาสนา แต่คนแทบจะไม่ได้ใช้หลักธรรมของพระพุทธศาสนาในชีวิตประจำวันเลย"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-09-2017 เมื่อ 21:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 143 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 06-09-2017, 19:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เมื่อญาติโยมมาวัดต้องระมัดระวังว่า ตัวเราจะเป็นทุกข์เป็นโทษแก่คนอื่น ด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจหรือเปล่า ? ไม่ใช่ว่าเราอย่างไรก็ได้ เราวางแล้ว กลายเป็นวางใส่หัวคนอื่นเขา เรื่องพวกนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องระมัดระวัง อย่าให้ กาย วาจา ใจ ของเรา ไปเป็นทุกข์เป็นโทษแก่คนอื่น

โดยเฉพาะในปัจจุบันนี้ บุคคลห่างไกลวัดวายังไม่พอ ต้องบอกว่ายังไม่มีใครอบรม ไม่มีใครสั่งสอนเกี่ยวกับการเข้าวัดเข้าวาอีก มีทั้งนุ่งสั้น มีทั้งนุ่งน้อยห่มน้อยเข้าวัดกันเป็นปกติ พออาตมาถามว่าทำไมใส่ชุดอย่างนี้มา เขาบอกว่าเดี๋ยวจะไปที่อื่นต่อ ก็รู้ว่าจะต้องเข้าวัดมา ก็หาชุดที่มิดชิดเรียบร้อยใส่ทับมาก็ได้ ออกจากวัดแล้วค่อยไปถอด จะเหลือแต่ชุดชั้นในก็ไม่มีใครว่า...! ไม่ใช่ว่าพระสงฆ์สามเณรทุกคนจะตบะดีเหมือนกับพระอาจารย์เล็ก โชว์เท่าไรก็ไม่สะเทือน บางคนเห็นวันนี้ ตอนเย็นสึกตามไปแล้ว..!

อาตมาเป็นคนปากร้าย เจออะไรก็มักจะว่าตรง ๆ ถามตรง ๆ มีโยมบางคนก็แต่งตัวมาลักษณะนี้แหละ ชาติก่อนคงทำบุญไว้น้อย เสื้อผ้าไม่ค่อยจะมีนุ่ง อาตมาก็ถามว่าเรื่องอะไรถึงคิดจะมาหาผัวในวัด...! เขาบอกว่า "อ๋อ...ถ้าบวชมานานเป็น ๑๐ ปีอย่างน้อยก็มั่นใจว่าไม่เป็นเอดส์" เออ...ปากร้ายพอกันเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-09-2017 เมื่อ 21:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 06-09-2017, 19:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องพวกนี้บางทีญาติโยมก็เจตนา บางทีโยมไม่เจตนาแต่ไม่รู้กาลเทศะ อาตมาเจองานศพเพื่อนพระสังฆาธิการท่านหนึ่ง เป็นพระครูสัญญาบัตร งานพระราชทานเพลิงศพ ลูกสาวนุ่งกระโปรงสีดำ สั้นจนเห็นกางเกงลิงเลย แล้วถือกระถางธูปเดินหน้าศพพ่อตัวเองที่เป็นหลวงพ่อ คนเคารพนับถือกันทั้งบ้านทั้งเมือง

ถ้าสวยหน่อยจะไม่ว่า บังเอิญว่าออกจากบ้านช่วงตรุษจีนไม่ได้ ออกไปเมื่อไรเขาอาจจะคิดว่าหมูหลุดจากเล้ามา...! ขนาดหลวงพ่อของเธอเอง เธอยังไม่รู้จักให้เกียรติ แล้วใครจะให้เกียรติ ถ้าบอกว่าไม่มีชุดใส่ก็หาทัน เดี๋ยวนี้ชุดดำสำเร็จรูปเยอะแยะไป อย่าได้ทำตัวลำบากยากจนขนาดนั้น

เดินถือกระถางธูปนำหน้าศพ แล้วพระจูงศพตามหลัง ๓๐ กว่ารูป จะมีที่เจริญตาสักนิดก็ไม่มี ฉะนั้น...สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เราจะเห็นว่า คนเราห่างวัดห่างวา ห่างความดีไปมากแล้ว"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-09-2017 เมื่อ 21:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 140 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 07-09-2017, 16:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อาตมายังดีใจว่าตัวเองอยู่ทองผาภูมิ ที่ทองผาภูมิพี่น้องมอญพม่าเยอะมาก ถ้าเดินสวนกับพระ เขาจะหยุด ถ้าเป็นผู้หญิงจะหลีกลงข้างทางไปเลย ถ้าเป็นผู้ชายจะหยุดให้พระไปก่อน ส่วนคนไทยเราไม่ต้องห่วง ยิ่งแถวสยามสแควร์ ไม่เดินชนพระหงายท้องก็นับว่าเกรงใจมากแล้ว..!

เวลาพี่น้องมอญพม่าเข้าวัด จะถอดรองเท้าตั้งแต่ปากประตูใหญ่ข้างหน้าโน่น แล้วถือรองเท้ามา จนบางคนถ่ายรูปไปแซวว่า คนไทยถือดอกไม้ธูปเทียนไปเวียนเทียน พี่น้องมอญพม่าถือรองเท้าเข้าวัดไปเวียนเทียน โดยที่ไม่ได้ดูว่าตัวเราเองนั่นแหละที่ไม่ได้เคารพพระรัตนตรัย..! ไม่รู้จักถอดรองเท้าเมื่อเข้าสู่สถานที่อันควรแก่การเคารพบูชา

ตำราเขาบอกว่า ถ้ากางร่มให้หุบร่ม ถ้าใส่หมวกให้ถอดหมวก สวมรองเท้าให้ถอดรองเท้า เพื่อเป็นการแสดงออกซึ่งการเคารพในสถานที่ เดี๋ยวนี้หน่วยราชการจำนวนมากเวลาเข้าวัด แม้กระทั่งโบสถ์ที่ปูพรมอย่างดีก็ใส่รองเท้าเข้าไป ถามว่าเกิดอะไรขึ้น ? ไม่รู้ถึงขนาดว่าสถานที่นั้นควรแก่การถอดรองเท้าหรือ ? อยู่ที่บ้านคุณใส่รองเท้าเข้าไปหรือเปล่า ?

โบสถ์เป็นที่ตั้งพระประธาน จะว่าไปแล้วเปรียบเหมือนปราสาทราชวังที่องค์ธรรมราชาเสด็จประทับอยู่ แล้วคุณใส่รองเท้าเข้าไป เรื่องอย่างนี้เราไม่ได้รับการถ่ายทอดมาหรือว่าเราจิตใจหยาบเกินไปจนกระทั่งไม่คำนึงถึง ?"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2017 เมื่อ 19:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 07-09-2017, 16:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อย่างที่เพื่อนพระเขาเล่าว่า เดินบิณฑบาต มีรถเก๋งจอด แล้วก็สุภาพสตรีลงมาถืออาหารถุงใส่บาตร พระท่านก็เมตตาเตือนว่า "โยม...ถอดรองเท้าใส่บาตรสิ" โยมก็ชะงัก ถามว่า "ท่านจะรับข้างเดียวหรือสองข้างคะ ?" เขาให้ถอดรองเท้าตอนใส่บาตร ไม่ใช่ถอดรองเท้าถวายพระ ถ้าขนาดเตือนแล้วยังไม่รู้ แสดงว่าห่างไกลมาก

สมัยนี้ท่านที่ไม่รู้ก็ไม่รู้เลย ท่านที่รู้ก็รู้เกินไป มีวันหนึ่งที่วัดนี่แหละ อาตมาเองเวลาอยู่วัด ก็คือกรรมกรเต็มขั้น กวาดวัดบ้าง รดน้ำต้นไม้บ้าง เลี้ยงหมาบ้าง โยมขับรถเลี้ยวเข้ามา เป็นสาวรุ่น ๆ สำหรับอาตมาก็รุ่นหลานรุ่นเหลนเลย น่าจะยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่หรือเพิ่งจะเรียนจบ

เธอลงจากรถมาด้วยความมั่นใจมาก ยกมือไหว้ "ท่านเจ้าคะ...ช่วยนิมนต์พระให้อาตมา ๕ รูป อาตมาจะถวายสังฆทาน" อาตมาเองก็ได้แต่นั่งตาปริบ ๆ "ถ้าอย่างนั้นนิมนต์รอก่อน เดี๋ยวฉันจะไปตามพระให้" หมดเรื่องหมดราวไปเลย อยากเป็นพระก็เธอให้เป็นไปเลย นี่คือคนที่เป็นก็เป็นงานจนกระทั่งใช้คำพูดไม่ถูก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2017 เมื่อ 19:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 07-09-2017, 17:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ขณะเดียวกันคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไปทำให้วัดวาอารามเสียหายในสายตาคนอื่นก็มีมาก ถึงเวลาเราก็ไปบังคับฝรั่งว่าห้ามนุ่งสั้น ห้ามแต่งตัวโป๊ จะต้องไปเช่าผ้าถุง ต้องเช่าเสื้อแขนยาว บังคับเขาใส่เข้าวัด แต่เราก็ทำตัวยิ่งกว่าฝรั่งอีก สรุปว่าที่เราไปว่าเขานั้นถูกไหม ?

เวลามีงานพี่น้องมอญพม่าที่นี่ เอาเป็นว่าน่าจะเดือนตุลาคม ที่นี่เวลามีงานก็คือตักบาตรเทโวและกฐินสามัคคี ส่วนใหญ่แล้วชาวบ้านจะมาทั้งอำเภอ เพราะว่าเป็นงานตักบาตรเทโวที่ใหญ่ที่สุด เนื่องจากว่าวัดเรามีภูเขาอยู่ในวัด ททท.แนะนำเป็นงานท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง

ถ้าเราดูพี่น้องมอญพม่าที่มา จะเห็นรุ่นปู่ย่าตายาย ๗๐-๘๐ ปี เดินงก ๆ เงิ่น ๆ ลูกหลานจูงมา รุ่นพ่อรุ่นแม่อายุ ๕๐​-๖๐ ปี พาลูกพาหลานเข้าวัด รุ่นพี่ป้าน้าอา ๔๐-๓๐ ปี แล้วก็มารุ่นหนุ่มสาว ๒๐​ ปีเศษ ๆ รุ่นวัยรุ่นก่อน ๒๐ ปี รุ่นเด็กประมาณมัธยมประถม แล้วก็ไปเด็กเล็ก ๔ ขวบ ๕ ขวบ แล้วไปทารกเลย บางคนเพิ่งจะคลอดได้ ๒ วัน อุ้มมาใส่บาตร เขาทำแบบนั้น เท่ากับเป็นการส่งต่อวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่น

เด็กเล็กลืมตาดูโลกก็เห็นแล้วว่าแม่ทำอย่างนี้ พ่อทำอย่างนี้ ปูย่าตายายทำแบบนี้ ถึงเวลาเขาก็ทำตามได้โดยไม่เคอะเขิน แต่คนไทยของเราไม่มีการส่งต่อแบบนี้ ไปใส่บาตรอยู่คนเดียว เพื่อนก็ "เฮ้ย...จะบวชเป็นมหาหรืออย่างไร ?" เพื่อนผู้หญิงไปใส่บาตรที่วัด "จะไปสึกพระหรือ ?" มองโลกในแง่ดีมากเลยนะนี่"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2017 เมื่อ 19:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 07-09-2017, 17:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หลายคนใส่บาตรปีละครั้งเดียวตอนวันเกิดตัวเอง อาตมาชื่นชมมาก ๓๖๔ วันไม่ทำบุญ ทำบุญวันเดียว ยังอุตส่าห์จำได้ ถ้าเป็นอาตมาก็ลืมไปตั้งชาติแล้ว นี่คือสิ่งที่ค่อย ๆ เสื่อมสูญ เสื่อมทรามไปจากสังคมของเรา เสื่อมไปเพราะว่าพ่อแม่ไม่ได้ทำ ถึงเวลาไม่มีใครนำ ลูกหลานก็เคอะเขิน ไม่สามารถที่จะทำได้ แล้วเราจะไปโทษใคร ? หรือจะโทษพระอย่างอาตมาว่าไม่รู้จักสั่งสอนญาติโยม ?

อาตมาเองปากเปียกปากแฉะอยู่ทุกวัน สอนหนังสือวันละ ๘-๙ ชั่วโมง ต้องบอกว่าทำหน้าที่หนักกว่าที่โยมคิด แต่บังเอิญว่าสู้โลกโซเชียลไม่ได้ ขนาดด่าอยู่ตรงหน้าลูกศิษย์ยังไม่ได้ยิน มัวแต่ก้มหน้าดูไลน์แทน เข้าท่าแฮะ...! ด่าแล้วไม่โกรธด้วย แถมยังหัวเราะอีกต่างหาก สงสัยว่าทำไม ? อ๋อ...กำลังดูไลน์อยู่ เพื่อนส่งอะไรตลก ๆ มาให้ดู ดีเหมือนกันนะ โกรธคนไม่เป็น ด่าต่อหน้ายังไม่โกรธอีก


ในเมื่อเป็นอย่างนี้ เราเองจะบอกว่าบ้านเรามีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติก็พูดไม่ได้เต็มปาก เหตุที่พูดไม่ได้เต็มปากเพราะว่าส่วนใหญ่ของเราเป็นพุทธแค่ศาสนา เป็นพุทธแค่ทะเบียนบ้าน ไม่ได้เป็นพุทธโดยการปฏิบัติ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2017 เมื่อ 19:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 07-09-2017, 17:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"แม้กระทั่งงานบวงสรวงเป่ายันต์เกราะเพชร อย่างที่อาตมาจัดอยู่นี่ ก็โดนโจมตีว่าทำให้ญาติโยมยึดติดเครื่องรางของขลังและวัตถุมงคล โดยที่คนพูดก็ลืมคิดไปว่า ในส่วนของศาสนาทุกศาสนานั้น ธรรมะบริสุทธิ์มีคนเข้าถึงได้แค่หยิบมือเดียว

ถ้าเปรียบไปแล้วเหมือนอย่างกับสามเหลี่ยมด้านเท่า ฐานที่ติดพื้นกว้างที่สุด ก็คือเรื่องของการยึดติดในรูปแบบพิธีกรรมต่าง ๆ ในส่วนกลางคือบุคคลที่เข้าถึงทานศีลในเบื้องต้น ส่วนปลายที่เป็นยอดแหลมหน่อยเดียว นั่นถึงจะเป็นผู้ที่พร้อมด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา

แต่ว่าบรรดานักวิชาการเก่งนัก เรื่องการขุดพระมาด่าโดยที่ไม่ได้ดูบริบทรอบข้างตัวเอง อันโน้นก็ต้องธรรมะบริสุทธิ์ อันนี้ก็ต้องธรรมะบริสุทธิ์ อาตมาถามว่าถ้ามีแต่กระดูกล้วน ๆ ใครจะแทะเข้า ? เราไปบอกว่าปริญญาเอกสูงสุดของการเรียนแล้ว บอกเด็ก ๓ ขวบว่า ไปเรียนเลยไอ้หนู..ดีที่สุด เด็กจะเรียนไหวไหม ? เด็กยังไม่ทันจะเริ่ม ก.ไก่ เลย

ฉะนั้น...ก็ต้องหาสิ่งที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ช่วยประคับประคองกำลังใจของเขาไปก่อน แม้กระทั่งคนที่ด่า บอกว่าต้องการธรรมะบริสุทธิ์นั่น ให้เขาจริง ๆ เขาก็ไม่มีปัญญาเคี้ยวหรอก ต้องเรียกว่าดีแต่พูด...!"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-09-2017 เมื่อ 15:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 07-09-2017, 17:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ปัจจุบันนี้พวกนักเลงคีย์บอร์ดมีเยอะมาก ชอบแสดงความเห็นอะไรที่ทำให้ตัวเองดูดี ดูเด่น ดูเท่ แต่ไม่ได้ดูความเป็นจริงในสังคม ต้องฟังหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ท่านตอบ

มีคนไปถามว่า "หลวงปู่แจกวัตถุมงคล ทำให้คนติดวัตถุมงคลสิเจ้าคะ" หลวงปู่บอกว่า ติดวัตถุมงคล ดีกว่าติดวัตถุอัปมงคล อย่างน้อยคนรับพระไป คิดถึงพระ กำลังใจก็เกาะในพุทธานุสติ คิดถึงหลวงปู่ผู้ให้ก็เกาะในสังฆานุสติ

ในเมื่อเป็นในลักษณะนี้ คนพูดไม่ได้นึกถึงสภาพความเป็นจริง ต้องบอกว่าสมัยนี้เขาใช้คำว่าอะไร ? อยู่ในทุ่งดอกลาเวนเดอร์...ใช่ไหม ? ค่อนข้างจะฟุ้งและฝันมากไปหน่อย ไม่ดูความเป็นจริงในสังคมว่าเป็นอย่างไร


ในสังคมของเรานั้นประกอบด้วยบุคคล ๔ ประเภท คือ

อุคฆฏิตัญญู ฟังหัวข้อธรรมก็รู้เท่าทัน สามารถบรรลุมรรคผลได้เลย
วิปจิตัญญู เป็นผู้ที่ฟังธรรมแล้ว ต้องอธิบายขยาย ความถึงจะเข้าถึงธรรมนั้นได้
เนยยะ ต้องจ้ำจี้จ้ำไช สั่งสอนกันปากเปียกปากแฉะ ถึงจะพอรู้เรื่องได้
ปทปรมะ เป็นพวกฉลาดเกินไป จนไม่ยอมรับความคิดคนอื่น เป็นเหมือนดอกบัวที่จมอยู่ใต้โคลน พร้อมที่จะเป็นอาหารปลาและเต่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2017 เมื่อ 19:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 07-09-2017, 17:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"บุคคลที่เป็นอุคฆฏิตัญญู บรรลุไปเกือบหมดแล้วสมัยพระพุทธเจ้าตรัสรู้ใหม่ ๆ ปัจจุบันนี้อย่างเก่งก็เป็นวิปจิตัญญู ต้องอธิบายขยายความถึงเข้าใจ หรือเป็นเนยยะที่ต้องปากเปียกปากแฉะ จ้ำจี้จ้ำไชสั่งสอนกัน แต่ว่าปัจจุบันกลับมีพวกที่มากที่สุดก็คือปทปรมะ

ปทปรมะไม่ใช่พวกโง่ดักดานสอนไม่ได้อย่างที่ว่า แต่เป็นพวกฉลาดเกินไปแล้วไม่ยอมรับแนวคิดคนอื่น ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง ทำตัวเป็นน้ำล้นแก้ว เมื่อถึงเวลาเติมลงไปก็มีแต่ล้นทิ้งหมด ไม่สามารถที่จะรับอะไรเข้าไปได้ เพราะคิดเสมอว่าตัวเองดีกว่า เก่งกว่า

อาตมาเคยเจอโยมคนหนึ่ง มาถึงก็มานั่งสอนอาตมาอยู่ ๓ ชั่วโมงเต็ม ๆ อาตมาก็นั่งครับ ๆ จ้ะ ๆ ไปเรื่อย หลังจากนั้นอีกเป็นเดือนเขาถึงรู้ว่าเจ้าอาวาสวัดนี้จบปริญญาเอก หน้ามืดไปเลย แล้วเขาก็ไปบ่นกับน้องว่า นี่กูสอนเจ้าอาวาสไปได้อย่างไรวะ ?

ที่พูดมาก็เพราะว่าคนสมัยนี้ที่คิดว่าตัวเองเก่งกว่าพระมีมาก แล้วชอบใช้พระเป็นบันไดเหยียบขึ้นไปด้วยการด่าพระ อาตมาขอยืนยันว่าบุคคลประเภทนี้ลงนรกมานับไม่ถ้วนแล้ว ถ้าบางท่านถามว่านรกสวรรค์มีจริงไหม ? อาตมายืนยันว่ามีจริง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เพราะเห็นมาตั้งแต่ก่อนอายุครบบวช"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2017 เมื่อ 19:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 07-09-2017, 17:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"มีเศรษฐีท่านหนึ่งเจอพระที่ละเมิดศีลต้องอาบัติปาราชิก ก็คือขาดจากความเป็นพระไปแล้ว แต่ท่านไม่สึกหาลาเพศ ท่านยังห่มผ้าเหลืองอยู่ เศรษฐีท่านเจอหน้า ท่านก็ถ่มน้ำลายใส่แล้วก็ด่า ปรากฏว่าเศรษฐีตายไปแล้วลงนรก

บางคนสงสัยว่าด่าคนชั่วลงนรกหรือ ? อาตมายืนยันว่าลง เพราะว่าตอนด่านั้นเราชั่วกว่า ทำไมเราถึงชั่วกว่า ? เพราะว่าสภาพจิตของเราประกอบไปด้วยโทสะ ประกอบไปด้วยโมหะ วาจาของเราก็เป็นวาจาทุจริต การแสดงออกทางกายก็เป็นกายทุจริต คนอื่นเขาลงนรกก็เป็นเรื่องของเขา แต่นี่เราดันกระโดดตามเขาลงไปด้วย โบราณเขาถึงได้ใช้คำว่า ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์ ก็คืออย่าไปยุ่งได้แหละดี เพราะว่าเรื่องของพระของเณรนั้น มีคุณอนันต์และมีโทษมหันต์


คำว่า คุณอนันต์ ก็คือ ถ้าทำดีทำถูก เราก็ได้อานิสงส์มากจนนับประมาณได้ยาก แต่ถ้าหากว่าทำผิดทำพลาด เราก็ได้รับโทษที่หนักจนนึกไม่ถึง เพราะว่าท่านเป็นปูชนียบุคคล

ต่อให้ท่านเองทำชั่ว สมมติว่าศีลขาด ๕ ข้อ เท่ากับโยม แต่พระยังเหลืออีก ๒๒๒ ข้อ แต่ถ้าโยมขาด ๕ ข้อ โยมจะไม่เหลืออะไรเลย แล้วโยมไปหาเรื่องด่าพระ กำลังหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวเอง ไม่ชอบใจแค่ไหนก็พยายามระงับปากระงับคำเอาไว้ อย่าพูดร้าย อย่าทำร้าย อย่าคิดร้าย เพราะว่าโอกาสที่จะเกิดโทษแก่ตนเองมีมากเป็นพิเศษ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2017 เมื่อ 19:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 07-09-2017, 17:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"โดยเฉพาะส่วนที่อยากจะเตือนก็คือ ท่านที่ใกล้ชิดหลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์ ท่านมักจะเอาความเคยชิน เห็นเป็นหลวงปู่หลวงพ่อ เห็นเป็นญาติตัวเอง ไม่ได้เห็นว่าท่านเป็นพระ โปรดระวังนรกไว้ด้วย..!

ญาติโยมเมื่ออยู่ใกล้ชิดกับพระมักจะเป็นกันเอง ลืมไปว่าท่านเป็นพระ อาตมาเจอมาหลายราย เวลาหลวงปู่หลวงพ่ออายุมาก ๆ ทำอะไรช้า ก็ไปดุท่านเลย ได้แต่สะท้อนใจว่าโยมกำลังหานรกใส่ตัว เพราะเวลาเคยชินแล้วเราก็ลืมสถานะตัวเอง เราเป็นอนุปสัมบัน มีศีล ๕ ข้อ ๘ ข้อ แล้วไปล่วงละเมิดบุคคลที่มีศีลเป็นร้อย ๆ ข้อ โอกาสที่จะเดือดร้อนเพราะ กาย วาจา ใจ ของตัวเองมีมาก ต้องระมัดระวังยิ่งกว่าระมัดระวัง ไม่อย่างนั้นท่านที่ใกล้ชิดพระไม่แน่ว่าจะได้ไปดี มีสิทธิ์ที่จะลงข้างล่างมากกว่าขึ้นข้างบน


ในส่วนนี้อาตมามีประสบการณ์มาจึงนำมาบอกกล่าวให้พวกเรารู้กัน ว่าบางส่วนที่ท่านทำอยู่แล้วเผลอสติไปดุพระ ไปว่าพระเข้า โปรดระมัดระวังว่าโทษใหญ่จะเกิดแก่ตนเองทีหลัง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-09-2017 เมื่อ 23:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 08-09-2017, 22:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมจะถวายพระพุทธรูปขนาดใหญ่มากให้กับทางวัด พระอาจารย์จึงกล่าวว่า "ทำไมไม่ไปถวายวัดอื่นซึ่งมีที่ตั้งที่เหมาะสม ? วัดนี้ไม่มีที่ตั้งแล้ว

การที่สร้างพระมาก็ดี หรือตั้งใจจะสร้างพระก็ดี ควรจะสืบจะเสาะหาวัดที่เขามีสถานที่เหมาะสม มีความต้องการ เพราะว่าพระพุทธเจ้าคือพ่อใหญ่ของพวกเรา ควรที่จะเชิดชูท่านไว้ในสถานที่อันสง่างามและเหมาะสมที่สุด ไม่ใช่ถึงเวลาก็สร้าง ๆ ๆ อาตมาเจอบางวัดพระเต็มศาลาเลย แล้วที่เต็มศาลาก็คือวางไว้กับพื้น เวลาเราเดิน ถ้าเป็นโยมผู้หญิงก็กระโปรงเฉียดหัวพระไปเลย

อย่าเห็นแก่ศรัทธาญาติโยมจนลืมความเหมาะสม รู้จักปฏิเสธโยมบ้าง ไม่ใช่ว่าโยมเขามีศรัทธาก็รับไปเรื่อยจนวัดรกไปหมด พอดี พอเหมาะ พอสม ดูแล้วงดงาม จะสร้างศรัทธาได้มากกว่า

โยมจะสร้างพระประธานสูง ๖ เมตรมาถวาย อาตมาไม่มีที่ให้ตั้งแล้ว
แม้กระทั่งพระองค์ใหญ่หน้าวัด ก็คือสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๒๑​ ศอก แบบองค์นี้สร้างทั่วประเทศไทย ๒๐๐ กว่าองค์ อาตมาให้ญาติโยมตามไปดูได้เลย ว่าอีกประมาณ ๒๐๐ องค์เศษที่เหลือมีองค์ไหนสวยเท่าของวัดท่าขนุนบ้าง ทั้ง ๆ ที่ถอดมาจากแบบเดียวกัน ก็เพราะว่าของวัดท่าขนุนสร้างฐาน ๓๐ คูณ ๓๐ ตารางเมตรหนุนองค์พระให้สูงขึ้นไป เพื่อพระองค์ท่านจะได้เด่นสง่าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ขณะที่ที่อื่นสร้างกับพื้นบ้าง หรือทำฐานขึ้นไปใหญ่แค่เฉพาะองค์พระบ้าง ดูแล้วหาความสง่างามไม่ได้

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าญาติโยมอยากได้บุญ อาตมาเห็นด้วย แต่ว่าควรหาสถานที่อันเหมาะสม แล้วค่อยไปทำ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2017 เมื่อ 02:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 120 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 08-09-2017, 22:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ธูปเทียนที่ใช้ในการรับยันต์เกราะเพชรนั้น โยมใช้ได้คล้าย ๆ กับมีดหมอนะจ๊ะ เจอผีเจ้าเข้าสิงที่ไหนว่าพระคาถา นะโมพุทธายะ เอาธูปเทียนจี้ไล่ ผีจะออกทันที หรือถ้าท่านต้องการจะบนจะอะไร ถึงเวลาใช้ธูปเทียนชุดนั้นจุดอธิษฐานเอาได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2017 เมื่อ 02:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 120 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 08-09-2017, 22:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในส่วนของวัดท่าขนุนของเรา มีการปรับปรุงบูรณปฏิสังขรณ์วัด อาตมาก็จัดการของเก่าจนแทบจะไม่เหลือซาก อะไรที่สามารถดัดแปลงใช้ได้ก็ใช้ ใช้ไม่ได้ก็ชั่งกิโลขายไปเรียบร้อยแล้ว ต้องเรียกว่าใช้เคล็ดลับของช่าง คือ ยาวตัด สั้นต่อ ไม่พอก็ซื้อ เหลือขาย

เสียดายว่าศาลาไม้หลังนี้แต่เดิม ไม่สามารถที่จะใช้งานได้ทั้งหมด เพราะว่าส่วนใหญ่โดนปลวกกิน จึงเอาไม้ยกขึ้นไปทำหมู่เรือนไทยด้านบน แต่ต้องซื้อไม้เพิ่มอีก ๘ ล้านกว่าบาท เพราะว่าตอนแรกที่จะสร้างหมู่เรือนไทย คุณปรีชา ปัทมเศรษฐ เจ้าของบ้านปรีชาทรงไทยที่บางปะหัน จ.อยุธยา ถามว่า "พื้นที่เท่าไรครับอาจารย์ ?" ก็แจ้งไปว่า ๑ ไร่พอดี

คุณปรีชาว่า "หมู่เรือนไทย ๑ ไร่ อาจารย์เตรียมไว้เลยครับ ต่ำสุด ๒๐ ล้านบาท" อาตมาก็...ต่ำสุดก็จะทำ สรุปว่าทำไปเกินนิดหน่อย เกินแค่ไม่กี่สิบล้านเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2017 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 115 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 08-09-2017, 23:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ตอนนี้งานหลัก ๆ ของวัดที่เหลืออยู่ ก็เหลือการทำพิพิธภัณฑ์ ซึ่งพิพิธภัณฑ์นี้แบ่งออกเป็นหลายส่วนด้วยกัน เพราะพื้นที่ ๑ ไร่ก็จะมีอยู่ประมาณ ๖ ช่อง พื้นที่ ๒๕๖ ตารางเมตร จะเป็นความรู้ทางพระพุทธศาสนา เกี่ยวกับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และวันสำคัญในพระพุทธศาสนา เป็นต้น

พื้นที่อีกส่วนหนึ่ง ๑๒๘ ตารางเมตรจะเป็นห้องประวัติหลวงปู่สาย พร้อมกับเครื่องใช้ไม้สอยบางส่วนของท่าน

อีกห้องหนึ่ง ๑๒๘ ตารางเมตร เป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องรางของขลังในประเทศไทย ก็แปลว่าเราจะมีพิพิธภัณฑ์เครื่องรางที่ไม่ค่อยจะได้พบได้เจอกันนัก เครื่องรางของไทยเรามีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตะกรุด ผ้ายันต์ แหวนพิรอด แม้กระทั่งพวกมีดหมอ หรือไม่ก็บรรดาเครื่องรางต่าง ๆ รูปเสือ รูปลิง ซึ่งโบราณจารย์ของเราเข้าถึงเคล็ดวิชาเหล่านี้ ทำขึ้นมาให้เป็นของติดตัว ช่วยเหลือศิษยานุศิษย์ให้มีความคล่องตัวในการทำมาหากิน ให้มีความปลอดภัย ไปไหนให้คนรักใคร่เมตตา ทำหน้าที่การงานให้ประสบความสำเร็จ เป็นต้น

อาตมารวบรวมเอาไว้หลายปี ถึงเวลาจะได้นำออกมาแสดงให้พวกเราได้ชมกัน และอาจจะคัดบางส่วนที่ซ้ำ ๆ กันออกมาให้คนไม่กลัวของแพงได้บูชา ถามว่าแพงขนาดไหน ? บางชิ้นก็ราคาเป็นล้านเลย บางอย่างก็หายากมาก ๆ อย่างบรรดาตะกรุดที่หายากสุด ๆ ในประเทศไทย ก็มี ตะกรุดมหาโสฬส หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง, ตะกรุดไมยราพณ์สะกดทัพ หลวงพ่อกุน วัดพระนอน, ตะกรุดมหาระงับ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม เป็นต้น พวกนี้อยู่ในระดับหายากจนเป็นตำนาน

หรือไม่ก็เครื่องรางของขลังในตำนานต่าง ๆ อย่างเช่นว่า ไม้ครู หลวงปู่ภู วัดอินทร์ฯ อาตมาสะสมเครื่องรางมานานเนกาเลทั้งชีวิตมีอยู่ ๑ ชิ้น เพราะว่าตะกรุดไม้ครูทำยากมาก"


__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-09-2017 เมื่อ 02:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:13



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว