เก็บตกงานสงกรานต์ ๑๓ - ๑๕ เมษายน ๒๕๕๘

[เถรี]

พระอาจารย์กล่าวว่า "เดี๋ยวนี้เขาว่า อะไรที่ผ่านมืออาจารย์เล็กเป็นเงินเป็นทองหมด ขนาดขยะที่ทิ้งแล้วยังเอาไปประมูลกัน"

[เถรี]

พระอาจารย์กล่าวถึงการจัดงานสวดสะเดาะเคราะห์ว่า "สมัยอยู่วัดท่าซุง หลวงพ่อจะให้จัดงานสวดสะเดาะเคราะห์ช่วงสงกรานต์ เพราะงานสงกรานต์มีการบังสุกุลอัฐิให้แก่บรรดาญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว กลายเป็นธรรมเนียมการจัดสะเดาะเคราะห์ของสายวัดท่าซุงสืบกันมา

การจัดสะเดาะเคราะห์โดยการจัดงานศพนั้น รายแรกที่ทำเลย คือ หลวงพ่อพระครูโวทานธรรมาจารย์ วัดดาวดึงสาราม หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า หลวงพ่อพระครูโวฯ ท่านจัดงานศพตัวเอง มีเทศน์ ๕๐๐ ธรรมาสน์ ว่ากันคนละประโยคเดียวก็หมดไปเป็นวันแล้ว แล้วท่านก็ถวายปัจจัยไทยธรรมให้พระที่มาเทศน์ ซึ่งส่วนใหญ่ก็พระลูกศิษย์ท่านทั้งนั้น

มีคนถามว่า "ทำไมหลวงพ่อต้องจัดงานศพตัวเองด้วย ?" ท่านบอกว่า "ถ้าข้าตายแล้วไม่ได้เห็น เพราะฉะนั้นต้องจัดตอนเป็น ๆ จะได้รู้ว่าพวกเอ็งทำอะไรให้ข้าบ้าง" บรรดาลูกศิษย์ที่มาช่วยงานก็เป็นนักเทศน์ชั้นยอดกันทั้งนั้น ถวายปัจจัยคนละ ๑๐๐ บาท ผ้าไตรคนละผืน ลองนึกดูว่า สมัยนั้นก๋วยเตี๋ยว ๒ ชาม ๕ สตางค์ เงิน ๑๐๐ บาท ใหญ่มหึมาขนาดไหน สมัยนั้นธนบัตรที่ใหญ่ที่สุดคือใบละร้อย นี่ไม่นับตอนญี่ปุ่นขึ้นนะ ตอนญี่ปุ่นขึ้นนี่พิมพ์ใบละพันเลย เป็นการพิมพ์เปล่า ๆ รับรองโดยกองทัพลูกพระอาทิตย์"

[เถรี]

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาต้องไปงานหล่อพระของหลวงพ่อยิ้ม วัดบ้านไร่ ถามว่าท่านคือใคร ? ก็เป็นพระลูกศิษย์รูปหนึ่ง สมัยก่อนเคยส่งท่านไปอยู่ที่ถ้ำทะลุแล้วสู้กิเลสคนไม่ได้ ก็เลยหนีไปอยู่ที่วัดบ้านไร่ แถวพระแท่นดงรัง

สมัยนั้นส่งหลวงพ่อนนท์ (พระครูวิธานอรัญญวัตร วัดเขาขลุง) ไปก่อน สู้กิเลสเขาไม่ได้ก็หนี พอส่งอาจารย์ยิ้มไป สู้เขาไม่ได้ก็หนี ส่งพระครูแสงไป พระครูแสงสู้ไม่ได้ก็หนี เรียกว่าหนีอย่างมีชั้นเชิง ตอนนี้กลับไปยึดที่คืนแล้ว"

[เถรี]

พระอาจารย์กล่าวถึงพระสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเงินว่า "สมเด็จองค์ปฐมองค์นี้ช่างไม่กล้าแต่งให้ เพราะหล่อด้วยเงินแท้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ช่างบอกว่าเนื้อนิ่มมาก เมื่อครู่นี้มีโยมคิดจะช่วยยก อาตมาไม่กล้าให้ยก เพราะถ้ายกผิดมุมผิดจังหวะ ลวดลายอาจจะบี้ไปได้"

[เถรี]

มีเด็กคนหนึ่งกำลังถ่ายรูปพระสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเงิน "ถ่ายดี ๆ นะนาทาม ถ่ายสวย ๆ เก็บเอาไว้ดูเป็นอนุสติ ถึงเวลาก็นึกถึงภาพท่านครอบเราลงมา ถ้านึกสนุก ๆ ก็หายใจเข้าให้ท่านครอบเราลงมา หายใจออกก็ส่งท่านลอยปรื๊ดขึ้นพระนิพพานไป หลวงพ่อเล่นสนุกสนานแบบนี้อยู่ทุกวันแหละ

ส่วนพวกเรานี่สอนเท่าไรก็เข็นไม่ขึ้น พอกลับบ้านไปก็บอกว่าทำไม่ได้ อยู่ต่อหน้าพระอาจารย์จึงทำได้ น่าตายมากเลย..!"

[เถรี]

พระอาจารย์กล่าวว่า "ใช้เม็ดเงิน ๕๐ กิโลกรัมในการหล่อพระสมเด็จองค์ปฐมองค์นี้ เมื่อตัดชนวนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำการขัดเงาเล็กน้อย เหลือน้ำหนักอยู่ที่ ๑๗ กิโลกรัม แปลว่าอาตมามีชนวนเหลืออยู่เกือบ ๓๐ กิโลกรัม ที่ใช้เม็ดเงินมากเพราะต้องการให้ออกมาสวยจริง ๆ"

[เถรี]

พระอาจารย์กล่าวชมเด็กคนหนึ่งว่า "เจ้าตัวเล็กนี่เวลาเดินผ่านผู้ใหญ่ เขาก้มหลังด้วยนะ สมัยนี้จะมีสักกี่บ้านที่อบรมเด็กได้อย่างนี้"

[เถรี]

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันก่อนไปบึงลับแลแล้วรองเท้าขาด หูหนีบขาด ก็ดื้อใส่ไปเรื่อย ๆ จนออกมาถึงข้างนอก หูข้าง ๆ ดันขาดอีก ท้ายสุดซ่อมไม่ไหว ก็เลยต้องส่งไปประมูลแทน"

[เถรี]

พระอาจารย์กล่าวว่า "คหบดี แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ในบ้าน, มาตุคาม แปลว่า แม่บ้าน, ฆรณี แปลว่า หญิงแม่เรือน"

[เถรี]

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานทางวัดบ้านไร่ พระแท่นดงรัง มีการหล่อพระพุทธลีลาปางประทานพร ๑ องค์ พระพุทธรูปปางห้ามญาติ ๑ องค์ และรูปหล่อหลวงปู่กวย วัดโฆสิตาราม อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท ที่ประสิทธิ์ประสาทวิชานะโมตาบอดให้อาตมา คาถานะโมตาบอดจริง ๆ เขาเอาไว้ใช้ในด้านแคล้วคลาด แต่เอาเข้าจริง ๆ คงกระพันก็ใช้ได้"

[เถรี]

พระอาจารย์พูดถึงพระลูกวัดที่สักลายว่า "พระวัดท่าขนุนส่วนใหญ่แล้วเจ้าอาวาสดูแลไม่ดี ท่านไม่ค่อยมีที่นอน ท่านคงไปเอากระดาษหนังสือพิมพ์มาปูนอน ถึงเวลาหมึกจึงละลายติดเนื้อมา..!"

พระครูวิลาศกาญจนธรรม
งานสงกรานต์ ๑๓-๑๕ เมษายน ๒๕๕๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยเถรี)