|
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
||||
|
||||
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๘
ถาม : ภรรยาผมได้รับงานออกแบบบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเจ้าของบ้านเป็นชาวต่างชาติ และมีความประสงค์จะนำพระพุทธรูปองค์ใหญ่มาเป็นส่วนประดับตกแต่งบริเวณสวนหลังบ้าน อยากทราบว่าเจ้าของบ้านมีโทษเพียงใด ? ทั้งนี้ได้คัดค้านไปแล้ว แต่เจ้าของบ้านก็ยังยืนยันเช่นเดิม ถ้าหากว่าทำงานนี้ต่อไปความผิดจะตกที่ผู้ออกแบบด้วยหรือไม่ประการใดครับ ?
ตอบ : ทั้งคู่ ทั้งคนตั้งใจประดับกับคนช่วยโดนด้วยกัน เป็นโทษปรามาสพระรัตนตรัย ทั้งชาตินี้และชาติหน้าไม่ต้องเข้าถึงมรรคถึงผลกัน ถาม : เป็นผู้รับเหมานี่ปฏิเสธงานไม่ได้ด้วย ทำอย่างไรดีครับ ? ตอบ : ทำไมจะปฏิเสธไม่ได้วะ ? แค่กูไม่เอางานนี้้ก็จบแล้ว..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-04-2015 เมื่อ 10:06 |
สมาชิก 254 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
ถาม : การตั้งศาลพระภูมิ หากบริเวณบ้านในทิศที่เหมาะสม เช่น ทิศเหนือหรือทิศตะวันออก ไม่สามารถตั้งเป็นศาลแบบเสาเดียวได้ จะตั้งเป็นหิ้งแทน เพื่อเป็นการบูชาพระภูมิได้ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ตั้งดีกว่า ถาม : แล้วอย่างนี้หากต้องการจะบูชาพระภูมิต้องทำอย่างไรครับ ? ตอบ : รื้อบ้านทิ้งแล้วสร้างศาลแทน..! ถาม : แต่เคยเห็นหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านแนะนำเจ้าของร้านขายหมูที่อุทัยธานีให้ตั้งหิ้งที่หัวนอนอะไรอย่างนี้ เราทำอย่างนั้นได้หรือเปล่าครับ ? ตอบ : เป็นเรื่องเฉพาะคน ถาม : เจว็ดควรเป็นไม้ ทองเหลืองปิดทอง หรือเรซิ่นจึงจะถูกต้องเหมาะสมครับ ? ตอบ : เป็นทองคำจะเหมาะสมที่สุด..! ถาม : เจว็ดคืออะไรครับพระอาจารย์ ? ตอบ : รูปเคารพในศาล ถาม : ผ้ายันต์มหาพิชัยสงครามที่ท่านพระอาจารย์เคยแนะนำให้ติดที่ศาลพระภูมิ กรณีที่ตั้งบูชาเป็นหิ้งควรติดผ้ายันต์ที่ตำแหน่งไหนครับ ? ตอบ : โปรดอย่าเข้าใจผิด กูไม่เคยแนะนำ เพียงแต่บอกว่าที่วัดทำอย่างนั้น อย่าเสือกทะลึ่งคิดว่าแนะนำ..! ถาม : แล้วถ้าอยากบูชาควรทำอย่างไรครับ จุดธูปหน้าหิ้งพระเอาอย่างนี้ ? ตอบ : คำตอบอะไรที่ตอบไปจะสมบูรณ์ในตัวอยู่แล้ว อย่าเสือกแสดงความเห็นเพิ่มเติมอีก..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-04-2015 เมื่อ 10:07 |
สมาชิก 248 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
ถาม : ยันต์ปัญจพุทธา มีวิธีการเขียนชักยันต์ที่ถูกต้องและถูกวิธีอย่างไรครับ ?
ตอบ : ใช้ปากกาหรือดินสอเขียน ถาม : มีคาถากำกับในการเขียนยันต์หรือเปล่าครับ ? ตอบ : ทรงสมาบัติแปดให้ได้ก็พอ ถาม : มีวิธีการปลุกเสกในขณะเขียนยันต์อย่างไรครับ ? ตอบ : เขียนเสร็จก็ใช้ได้เลย ถาม : และสุดท้าย มีวิธีการปลุกเสกแผ่นยันต์ปัญจพุทธาอย่างไรครับ ? ตอบ : ตั้งเครื่องบวงสรวงชุดใหญ่ บายศรี ๙ ชั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-04-2015 เมื่อ 10:07 |
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าบ้านไหนที่มีการทำบุญบ้านแล้วมีการถวายภัตตาหารพระ อยากทราบว่าอาหารที่พระฉันเหลือแล้ว คนที่มาร่วมงานทั้งหมดสามารถนำไปกินต่อหรือนำอาหารที่เหลือกลับบ้านได้หรือไม่ ? และมีโทษหรือไม่ครับ ?
ตอบ : หากว่าเป็นของที่บ้าน พระฉันเหลือแล้วก็เป็นสิทธิ์ของโยม ถาม : พวกภาชนะหรือของใช้ต่าง ๆ ในงาน จะกลายเป็นของสงฆ์หรือว่ายังคงเป็นของผู้ที่จัดหามาครับ ? ตอบ : ถ้าตั้งใจถวายจะเป็นของสงฆ์ไปด้วย แต่โดยนัยปกติเป็นที่รู้กันว่าถวายแค่อาหาร พระรูปไหนหยิบถ้วยจานใส่ย่ามก็ตีมือเลย..! ถาม : ระหว่างการทำบุญบ้านโดยนิมนต์พระมากับการไปถวายภัตตาหารที่วัดโดยตรง หรือว่าทำบุญใส่ซองถวายปัจจัยเป็นค่าภัตตาหารเลี้ยงพระ จะมีอานิสงส์เหมือนกันหรือต่างกันอย่างไรครับ ? ตอบ : ทำบุญที่บ้านจะมีอานิสงส์เหนื่อยมากกว่า..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-04-2015 เมื่อ 10:08 |
สมาชิก 246 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
ถาม : ผมได้นำพระเครื่องวัตถุมงคลที่มีอยู่ไปเปิดประมูล โดยตั้งหัวข้อประมูลดังนี้ "ประมูลเพื่อสะสมยอดเงินไปทำบุญกับวัดท่าขนุน ๑๐๐%" ต่อมาได้ทำการประมูลหลายครั้ง เมื่อสะสมเงินได้จำนวน ๕,๐๐๐ บาท จึงได้ร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูปทองคำ โดยได้ร่วมจองตะกรุดมหาสะท้อน รุ่น ๕ วัดท่าขนุน จำนวน ๑ ดอก เพื่อความมั่นใจจึงขอเรียนถามว่าตะกรุดนี้จะเป็นของใคร ระหว่างผมกับผู้ร่วมประมูลครับ ?
ตอบ : ถือว่าฉ้อโกง มีโทษเท่าย้ายเจดีย์ เพราะว่าเขาตั้งใจทำบุญ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ทำบุญให้ไปบูชาตะกรุด
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2015 เมื่อ 02:46 |
สมาชิก 238 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
ถาม : ตามปกติทางเว็บวัดท่าขนุนจะมีการแจกปฏิทินฤกษ์พรหมประสิทธิ์ทุกปี แต่เนื่องจากปีนี้ไม่มีแจก ลูกจึงขออนุญาตถามหลวงพ่อว่าลูกจะยึดฤกษ์พรหมประสิทธิ์ได้จากที่ใดคะ ? ถ้าเป็นปฏิทินที่แจกเมื่อวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๘ นี้สามารถใช้ได้หรือไม่คะ ?
ตอบ : อยู่ที่ว่าจะเชื่อไหม ถ้าเชื่อก็ใช้ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#7
|
||||
|
||||
ถาม : สัจจะสมมุติ หมายความว่าอย่างไร ?
ตอบ : ไม่เคยได้ยิน ถาม : แล้วเราจะพิจารณาสัจจะสมมุติให้เป็นประโยชน์ได้อย่างไร ? ตอบ : ต้องไปถามคนที่เคยได้ยิน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#8
|
||||
|
||||
ถาม : สำหรับคนที่เริ่มปฏิบัติกรรมฐาน จะฝึกแบบไหนถึงจะได้ผลเร็วที่สุด ?
ตอบ : รักษาศีล เจริญสมาธิ พิจารณาวิปัสสนาญาณ ถาม : สำหรับนักปฏิบัติที่ปฏิบัติได้ในระดับหนึ่งแล้ว แล้วทิ้งการปฏิบัติไปนาน ๆ แล้วกลับมาปฏิบัติใหม่ ต้องใช้เวลานานไหมครับถึงจะกลับมาที่จุดเดิม แล้วควรเริ่มพื้นฐานตั้งแต่เดิมเลยหรือไม่ ? ตอบ : ลองทำดูถึงจะรู้ว่านานเท่าไหร่ จะมาถามหาส้น..อะไรวะคำถามแบบนี้...!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2015 เมื่อ 02:46 |
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#9
|
||||
|
||||
ถาม : สำหรับบุคคลที่เชื่อมั่นในบุญกรรมฐาน กับบุคคลที่เชื่อมั่นในบุญแห่งการให้ทาน เช่น สังฆทาน ต่างกันอย่างไร แล้วจะเห็นผลในปัจจุบันหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าจะเอาเป็นผลในปัจจุบันจริง ๆ คือ บุญกรรมฐาน ถ้าสามารถทรงฌาน ๔ หรือสมาบัติ ๘ ได้จะเห็นผลในปัจจุบัน ถาม : แล้วอานิสงส์ของบุคคลที่นิยมการทำบุญ ๒ อย่างนี้ให้ผลแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ ? ตอบ : ให้ทานจะรวย เรื่องบุญกรรมฐานจะช่วยในการตัดกิเลส เป็นคนละเรื่องกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2015 เมื่อ 02:47 |
สมาชิก 238 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#10
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “ในเรื่องของการถามคำถาม สิ่งที่ตอบไปจะพอดีอยู่แล้ว ถ้าพยายามไปแสดงความโง่ด้วยการออกความเห็นเพิ่มเติม อาจจะเป็นการตีความผิดและอาจจะทำให้คนอื่นเสียประโยชน์ไปด้วย เพราะฉะนั้น..ถ้าทำหน้าที่ถามอย่าพยายามเพิ่มความเห็นของตัวเองเข้าไป
ส่วนปัญหาหลายปัญหา ไม่ใช่ปัญหาแต่พยายามจะถาม ต้องบอกว่าถามแบบคนที่ขาดปัญญามาก เรื่องของการปฏิบัติ วิธีที่ดีที่สุดคือลงมือทำไม่ใช่ถาม การถามมีแต่จะพาให้ฟุ้งซ่าน โดยเฉพาะกำลังใจของแต่ละคนไม่เท่ากัน อย่างเช่นถามว่าใช้เวลานานเท่าไร ไม่มีใครตอบคุณได้หรอก เพราะกำลังใจแต่ละคนไม่เท่ากัน เหมือนที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสกับหลวงพ่อวัดท่าซุงว่า “ถ้าปฏิบัติแบบนี้อีก ๑๐ ปีถึงจะเห็นหน้าเห็นหลัง” แต่หลวงพ่อท่านใช้เวลาแค่ไม่กี่เดือน เนื่องเพราะว่าการพยากรณ์เป็นไปตามกำลังใจปัจจุบัน อาตมาเคยเปรียบเทียบว่า เหมือนกับเราขับรถด้วยความเร็ว ๑๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นเวลา ๑ ชั่วโมงครึ่งจะถึงกาญจนบุรี แต่ถ้าเราลดความเร็วลงก็จะถึงช้ากว่านั้น ถ้าเพิ่มความเร็วขึ้นก็จะถึงเร็วกว่านั้น เป็นต้น จึงเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับการกระทำของเราล้วน ๆ หลายต่อหลายท่านปฏิบัติดีอยู่ในช่วงหนึ่ง ได้รับคำพยากรณ์จากเทวดา จากพรหมหรือจากพระ ว่าจะเข้าถึงมรรคผลเมื่อนั้นเมื่อนี้ เกิดความดีใจขึ้นมา เสร็จแล้วก็เอ้อระเหยลอยชายไป มั่นใจว่าได้แน่ ตั้งแต่บัดนั้นจนบัดนี้ ๒๐ กว่าปีผ่านไปยังไม่ได้อะไรเลย เพราะว่าไปทิ้งความเพียรในการปฏิบัติของตัวเอง ต้องบอกว่าไปลดความเร็วของรถที่ตัวเองขับ ทำให้ถึงช้ากว่าที่ท่านพยากรณ์เอาไว้”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2015 เมื่อ 02:48 |
สมาชิก 243 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#11
|
|||
|
|||
อ้างอิง:
ซึ่งท่านแนะนำว่า อะไรที่ได้เคยบอกไปแล้ว ให้ไปค้นหาในเว็บดูเองได้ จึงขอนำลิงก์ข้อความที่ท่านเคยกล่าวถึง "สมมติสัจจะ" เฉพาะในส่วนของความหมายและการใช้ประโยชน์ มาบางข้อความ ดังนี้ ๑) http://www.watthakhanun.com/webboard...read.php?t=483 ๒) ข้อความที่ ๑๓ : http://www.watthakhanun.com/webboard...ead.php?t=1582 ๓) ข้อความที่ ๑๔๘ : http://www.watthakhanun.com/webboard...ad.php?p=89314
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว... กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑ |
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สายท่าขนุน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#12
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เห็นการจองวัตถุมงคลในเว็บวัดท่าขนุนแล้ว ถึงได้เข้าใจที่เขาว่า "ไม่ดูตาม้าตาเรือ" เป็นอย่างไร เขาเขียนว่าปิดจองตัวเบ้อเริ่มเลย ก็ไม่มอง กูจะจองเสียอย่าง กติกาเขาระบุไว้ชัดเจนก็ไม่ฟัง ห้ามใช้เลขอารบิก ห้ามเขียนผิด ห้ามแก้ไขกระทู้ กูทำทุกอย่าง อย่างที่โยมเห็นนี่ บอกว่าหล่อพระเนื้อเงินแท้ ดันถวายมาทั้งทองเหลือง มาทั้งนาก กูจะหล่อเสียอย่าง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2015 เมื่อ 15:21 |
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#13
|
||||
|
||||
"บางคนก็ไปเชื่อพ่อค้า เอาแผ่นเงินมาถวาย บอกว่าไปซื้อแผ่นเงินมา แต่พ่อค้าเอาแผ่นเคลือบเงินมาให้ ก็ดูไม่เป็น แผ่นเท่านี้ในท้องตลาดเป็นแผ่นทองเหลืองมีเงินเคลือบหน้าอยู่นิดเดียว แล้วที่เคลือบอยู่ก็ส่วนใหญ่ไม่ใช่เงินหรอก เขาเคลือบที่คนจีนเรียกแปะตั๊ง ก็คืออัลปาก้า"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2015 เมื่อ 15:22 |
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#14
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เรียนจบเมื่อไรจะไปผ่าตัดตาแล้ว ไม่อย่างนั้นสายตาแย่ลงไปเรื่อย ๆ อาตมาไปตัดหญ้าแล้วหินดีดเข้าตา ทำให้ตาแตก พอรักษาแผลหายแล้วปรากฏว่ากล้ามเนื้อยึดไม่เท่ากัน ตาเลยเอียงไปข้างหนึ่ง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2015 เมื่อ 15:22 |
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#15
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคมที่ผ่านมา ตอนหล่อสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเงิน ขนาดหน้าตัก ๙.๙ นิ้ว ช่างเขาบอกว่าเตาหลอมร้อนมาก ต้นไม้อาจจะตายหมดสวนเลย อาตมาบอกกับช่างว่าต้นไม้ตายไม่เป็นไร ให้พระหล่อออกมาสำเร็จแล้วกัน
ปรากฏว่าก่อนถึงเวลาหล่อพระฝนกระหน่ำเสียหนัก ตกลงว่าไม่มีอะไรเสียหาย แม้แต่หญ้ายังไม่ตายเลย โดยปกติถ้าฝนตกก่อนหล่อพระนี่ช่างร้องไห้แล้ว เพราะว่าพอแบบเย็นแล้ว ส่วนใหญ่เนื้อโลหะจะแล่นไม่ถึงกัน ปรากฏว่าพระของเราออกมา ช่างใช้คำว่าสมบูรณ์พันเปอร์เซ็นต์ ออกมางามจริง ๆ เกือบไม่ต้องขัดแต่งเลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2015 เมื่อ 15:23 |
สมาชิก 255 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#16
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "โชคดีที่พระท่านอนุญาตให้สร้างตะกรุดมหาสะท้อนอีกรุ่น ไม่อย่างนั้นของเก่านี่แพงมาก เป็นวัตถุมงคลชนิดเดียวที่ทำถึง ๕ รุ่น ที่ผ่านมาอย่างอื่นทำเต็มที่ก็ ๒ รุ่น ยังไม่มีรุ่นที่ ๓ แต่สำหรับตะกรุดมหาสะท้อน ถ้ารวมรุ่นพิเศษด้วยก็ ๖ รุ่นเข้าไปแล้ว รุ่นพิเศษทำสำหรับบรรจุด้ามมีดหมอเพชราวุธ
ท่านที่จองตะกรุดมหาสะท้อนรุ่นนี้เอาไว้ ไม่ต้องรอถึงวันที่ ๒๐ มิถุนายน ตะกรุดมหาสะท้อน โดยปกติเป็นการเขียนแล้วเสกในตัว ไม่จำเป็นต้องมีพิธีใหญ่ ดังนั้น..ทันทีที่ทำเสร็จครบจำนวน อาตมาก็จะทำพิธีขอบารมีพระท่านเสกให้ แล้วแจกจ่ายให้กับผู้จองเลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2015 เมื่อ 15:24 |
สมาชิก 252 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#17
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานวิ่งมาทางวัดไผ่โรงวัว ไปเห็นเขาสร้างบ้านไม้แล้วชอบใจ จึงสั่งให้เขาทำกุฏิรับรองขึ้นมาอีกหลัง เดือนที่แล้วเพิ่งตั้งกุฏิรับรองไป ๒ หลัง เนื่องจากว่าพระผู้ใหญ่เวลาไปวัดท่าขนุน ถ้าไปสัก ๓-๔ รูปขึ้นไป มักจะหาที่พักลำบาก จึงต้องตั้งเผื่อเอาไว้ก่อน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2015 เมื่อ 15:25 |
สมาชิก 238 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#18
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "หนังสือคู่มือภาวนาพระคาถาเงินล้านเล่มที่ ๒ ที่พิมพ์ออกไป มีเนื้อหาเพิ่มเติมตอนท้ายมา โดยเฉพาะรูป พร้อมกับปรับปรุงลักษณะของรูปเล่มดีขึ้น เล่มนี้ขอ ๑๐๐ บาท เพราะว่าเป็นกระดาษอาร์ตทั้งเล่ม ใครที่ไม่ได้รับแจกเมื่อวันงานฉลองบ้านวิริยบารมี ก็เตรียมตัวควักกระเป๋าไปซื้อกันได้
วันงานอาตมาแจกไป ๒,๐๐๐ กว่าเล่ม การจัดรูปเล่มเกิดจากฝีมือ คุณนก (ชัญญา ดำรงค์วานิช) ออกแบบให้ จะเห็นว่ามีคั่นหัวเรื่องต่าง ๆ หน้าปกรูปพระปิดตาสวย ๆ ก็ฝีมือคุณนกทั้งนั้น ได้คุณนกมาช่วยงาน ทำให้การงานคล่องตัวและเบาแรงไปมหาศาลเลย โดยเฉพาะการติดต่อกับโรงพิมพ์ต่าง ๆ คุณนกจะมีความคล่องตัวในเรื่องนี้มาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2015 เมื่อ 15:26 |
สมาชิก 254 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#19
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "หลายท่านไม่ค่อยดูตาม้าตาเรือ ถึงเวลาตั้งหน้าถามอย่างเดียว ทั้ง ๆ ที่คำถามนั้นเขาถามกันไปหลายต่อหลายครั้งแล้ว ในเว็บก็มีไม่ไปหาดู แม้แต่การจองวัตถุมงคลก็เหมือนกัน อย่างสมเด็จองค์ปฐมลอยองค์เนื้อทองคำ หมดไปตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่เปิดจอง นี่ผ่านมาตั้งอาทิตย์หนึ่งแล้ว ยังตั้งหน้าตั้งตาจองเนื้อทองคำกันอยู่แหละ ก็ดีเหมือนกัน จองแล้วรู้สึกสบายใจว่าได้จอง กติกาเขาก็ระบุชัดว่าให้จองเนื้อเงินไม่เกินคนละ ๕ องค์ ตะบันมาถึงก็ “จอง ๑๐ องค์ครับ” บุคคลประเภทนี้ต้องบอกว่าสมควรตาย..!
ในเมื่อสภาพจิตของเราหยาบจนกระทั่งไม่ดูตาม้าตาเรืออะไรเลย ก็แปลว่าถ้าปฏิบัติธรรมไป โอกาสที่จะเข้าถึงธรรมที่เป็นส่วนละเอียดก็ยาก โอกาสต่อไปโปรดดูตาม้าตาเรือด้วย คำว่า “ดูตาม้าตาเรือ” มาจากการเล่นหมากรุก เพราะถ้าไม่ดู เผลอวางขุนลงไปอาจจะตายฟรี เนื่องจากว่าเรือจะเดินเป็นแนวตรงตลอดเส้น ส่วนม้านั้นเดินตรง ๓ ขวาง ๒ ตกลงเล่นกันเป็นหรือเปล่า ? สรุปง่าย ๆ ว่าม้าเดินเป็นรูปตัว L ส่วนขุนสามารถเดินได้รอบตัว ตูว่าอธิบายไปก็เสียเปล่า..! อาตมาไม่เคยเล่นหมากรุกมาก่อน ไปเล่นครั้งแรกตอนสมัยที่อยู่ชายแดน เพราะเพื่อนไม่มีคนเล่นด้วย ออกเวรแล้วก็นั่งเหงา ๆ เลยมาสอนอาตมาให้เล่นว่าตัวไหนเดินอย่างไร หลังจากที่รู้วิธีเล่น กระดานแรกอาตมายันเสมอกับเพื่อน กระดานที่ ๒ กินเพื่อนหมดตูดเลย สรุปว่าเพื่อนไม่รอบคอบ เพราะว่าการเล่นหมากรุกจะมีการ "ผูก" กันอยู่ ถ้าสมมติว่าเรากินตัวนี้แล้วเราจะเสียมากกว่า เราจะไม่กินก็ได้ ปล่อยยันกันไว้เป็นการผูกกันอยู่ ปรากฏว่าเพื่อนเผลอไปเลื่อน เมื่อโดนกินแล้วขาดทุนก็เป็นอันว่ากระจายทั้งกระดาน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2015 เมื่อ 16:00 |
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#20
|
||||
|
||||
"ลักษณะของนักปฏิบัติธรรมก็เหมือนกัน ต้องพิจารณาให้รอบคอบและรอบด้าน ทันทีที่ขยับตัวเราต้องรู้ว่าศีลจะขาดหรือเปล่า ถ้ายังไม่สามารถทำถึงตรงจุดนี้ได้ ชีวิตนี้ยังเอาดีได้ยาก ถ้าเราขยับตัว สติรู้ตัวทั่วพร้อมว่าศีลจะบกพร่องหรือไม่ ? กาย วาจา ใจของเราจะเป็นทุกข์เป็นโทษแก่คนอื่นหรือเปล่า ? ถ้าลักษณะนี้พอที่จะเอาตัวรอดได้
ส่วนในเรื่องของสมาธิ ต่ำสุดต้องทรงปฐมฌานละเอียดได้ ไม่อย่างนั้นกำลังไม่พอที่จะสู้กับกิเลส เนื่องเพราะว่าการที่เราจะรู้ว่ากิเลสเข้าเมื่อไรนั้น อันดับแรกต้องมีสติ เมื่อมีสติรู้ตัวทั่วพร้อมอยู่ รัก โลภ โกรธ หลงเข้ามาจะรู้ทันที ก็ต้องมีข้อที่ ๒ คือสมาธิ ระงับยับยั้งตนเองไม่ให้ไหลไปตามกระแสกิเลสที่เข้ามาชักจูง หลังจากนั้นก็ใช้ปัญญา ซึ่งเกิดจากความสงบของจิตด้วยอำนาจของสมาธิ ในการห้ำหั่นตัดฟันกิเลสตัวนั้น ๆ ด้วยกรรมฐานคู่ศึก อย่างเช่นว่า ถ้าโกรธก็ต้องแผ่เมตตา หรือว่าถ้าเกิดราคะขึ้นมาก็ต้องพิจารณาในกายคตาสติและอสุภกรรมฐาน เป็นต้น จนกระทั่งสามารถระงับยับยั้ง หรือว่าตัดกิเลสนั้นลงได้ แรก ๆ อย่าพึงหวังว่าจะตัดได้ทีเดียว เราสามารถระงับไม่ให้กิเลสกำเริบได้ถือว่าสุดยอดแล้ว หลังจากนั้นก็หาวิธีค่อย ๆ ขัด ค่อย ๆ เกลาไป แต่ถ้าใครกำลังสมาธิสูงพอ มีความคล่องตัวในการเข้าออกฌานสมาบัติได้อย่างใจของตน จะสามารถระงับกิเลสได้ทันท่วงทีทุกครั้ง แต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะถ้าเผลอสติ ต่อให้ทรงสมาธิได้สูงขนาดไหน ถ้าโดนกำลังของกิเลสตีกลับมาท่วมทับ กำลังสมาธิไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เราก็ต้องไปทนทุกข์ทรมานกับกิเลสที่จะมาทำลายเรา ทำร้ายเราอีก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2015 เมื่อ 16:01 |
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|