กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #101  
เก่า 28-04-2010, 16:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คำว่ามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ เป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ: กรรมเหล่านั้นจะชักนำเราไป หาบุคคลที่มีกรรมเหมือน ๆ กัน หรือมีกรรมเนื่องกันมา

ถาม: ถ้าเราไปอยู่สภาพแวดล้อมที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนแนวสุกขวิปัสสโก เราก็..?
ตอบ : ปฏิบัติไป ถ้าปฏิบัติถึงจริง ๆ และตัวเองมีพื้นฐานเดิมมาจากอภิญญาหรือปฏิสัมภิทาญาณ ถึงเวลาก็จะปรากฏ ไม่ต้องเสียเวลาไปเปลี่ยน จะสุกขวิปัสสโกเราก็วิปัสสโกตามเขาไป พอกำลังถึง ของเดิมก็จะมา

ถาม : ท่านให้ทิ้งนิมิต ทิ้งทุกอย่างด้วยซ้ำ
ตอบ : ถ้ามั่นใจเราก็ว่าของเราไป ถึงเวลาท่านว่าอย่างไรก็เรื่องของท่าน

ถาม : แล้วอย่างนั้นไม่เป็นการปรามาสท่านหรือครับ ?
ตอบ : ทำในสิ่งที่ถูก จะเป็นการปรามาสได้อย่างไร ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-04-2010 เมื่อ 16:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #102  
เก่า 28-04-2010, 19:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าเรื่องอาจารย์ยกทรง ให้ฟังว่า "มีเรื่องตลกก็คือ ประมาณปี ๒๕๒๓ อาจารย์ยกทรงมากราบหลวงพ่อครั้งแรกที่บ้านสายลม
หลวงพ่อก็ถามว่า "โยมชื่ออะไรจ๊ะ ?"
"วีระครับ" พวกก็ฮากันตรึม เพราะชื่อตรงกับหลวงพ่อ
หลวงพ่อถามต่ออีกว่า "แล้วแม่บ้านล่ะ ?"
"แม่บ้านชื่อประภาศรีครับ" ยิ่งฮาเข้าไปใหญ่
ท่านบอกว่า "ไอ้นี่ขโมยทั้งผัวทั้งเมีย ชื่อแม่มันก็เอา ชื่อพ่อมันก็เอา มันเอาหมดเลย"

ก่อนหน้านี้ตรงสยามพารากอน ยังไม่โดนเวนคืน อาจารย์ยกทรงเปิดร้านอยู่ตรงนั้น จริง ๆ อาจารย์ยกทรงชื่อ วีระ งามขำ แต่เขาเปิดร้านตัดยกทรง ชื่อร้านเงิน เงิน เงิน พูดง่าย ๆ ว่าขนาดจะไม่ได้มาตรฐานหรือเกินมาตรฐานอย่างไร ถ้าไปที่นั่นแล้วจะได้ขนาดที่พอเหมาะกับตนเอง

อาจารย์ยกทรงก็มาปรารภว่า "ผมบวชมากว่ายี่สิบพรรษา ดันทะลึ่งสึกมาตัดยกทรงขาย" เพราะว่าแม่บ้านเขาเรียนเรื่องนี้มา สมัยก่อนคนที่มีอาชีพตัดเสื้อผ้า ถ้าหากยังไม่สามารถตัดยกทรงผู้หญิงได้ ก็เท่ากับว่าฝีมือยังไม่ถึง เพราะการตัดยกทรงนั้นยากที่สุด

พอโดนเวนคืนเพื่อเอาที่ไปสร้างสยามพารากอน ท่านยกทรงของเราก็เลยไปอยู่วัดแทน แล้วก็ตายในวัด สมกับเป็นนักปฏิบัติ ด้วยความที่บวชมามาก เคยเป็นนักเทศน์มา ท่านสามารถที่จะถามหลวงพ่อแล้วใส่ลูกเล่นให้โยมเขาชอบฟังกันได้ แต่ท่านบอกว่า เลิกถามทีไรก็เหงื่อหยดทุกที ต้องเข้าไปกราบขอขมาหลวงพ่อทุกครั้ง เพราะเกรงว่าจะเป็นโทษแก่ตัวเอง แต่คนทั่ว ๆ ไปที่เขาไม่รู้ ว่าอาจารย์ยกทรงต้องไปกราบขอขมาหลวงพ่อทุกครั้ง ก็ไปตำหนิเข้าว่าท่านลามปาม

คนรุ่นเก่า ๆ ก็ล่วงลับไปเรื่อย รุ่นลายครามนาน ๆ ก็โผล่มาที่นี่ที ไม่ใช่เขาไม่รู้จักมานะ แต่มาไม่ไหวแล้วต่างหาก..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-08-2015 เมื่อ 18:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #103  
เก่า 29-04-2010, 10:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์บอกว่า "ก่อนจะหยิบเงินใช้ก็ว่าคาถาเงินล้านจบหนึ่งก่อน จะทำบุญก็ว่าอีกจบหนึ่ง เจตนาที่ให้ทำแบบนั้น ก็เพื่อต้องการให้ทรงฌานในอารมณ์ของคาถาเงินล้าน ถ้าทำจนชิน ถึงเวลาต้องว่าคาถา...ถึงเวลาต้องว่าคาถา จิตจะเป็นฌานไปเอง ถ้าหากว่าทรงฌานได้ผลก็จะเกิดมาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #104  
เก่า 29-04-2010, 10:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระที่เข้าปริวาสอยู่ จะบรรลุมรรคผลได้หรือไม่ ?
ตอบ : ถ้ากำลังเข้าปริวาสอยู่ บรรลุไม่ได้ เพราะศีลไม่บริสุทธิ์ เขาถือว่ายังไม่ใช่พระด้วยซ้ำไป..! ต้องอยู่ปริวาสจนครบถ้วนตามเวลา แล้วคณะสงฆ์ ๒๐ รูป สวดคืนความเป็นพระให้ จึงถือว่ากลับมาเป็นพระอีกครั้งหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 11:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #105  
เก่า 29-04-2010, 12:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์สอนพี่คนหนึ่งว่า "ถ้าเราภาวนาและทรงฌานให้คล่อง จะไม่รู้สึกอยากกิน ถ้าอารมณ์ใจอยู่กับการภาวนา อยู่กับฌานสมาบัติ พวกอาการต่าง ๆ ทางร่างกาย เราแทบไม่รับรู้เลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 17:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #106  
เก่า 29-04-2010, 13:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์บอกว่า "เรื่องการจองวัตถุมงคล ถ้าเราส่งถึงมือเขาเร็วเท่าไรก็ดีเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่คนจ่ายเงินไปแล้ว ก็ร้อนใจ อยากได้เร็ว ๆ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 17:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #107  
เก่า 29-04-2010, 15:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าเรื่อง ธรรมบาลกุมารให้ฟังว่า "ธรรมบาลกุมารไปเรียนวิชาแล้วเก่งกว่าใครเพื่อน สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่าง ท้าวกบิลพรหมก็เลยอยากประกาศความดี โดยไปท้าพนันว่า ถ้าหากธรรมบาลกุมารตอบคำถาม ๓ ข้อได้ ก็จะยอมตัดเศียรถวายบูชาความดี แต่ถ้าธรรมบาลกุมารตอบไม่ได้ ก็จะเอาศีรษะธรรมบาล

สรุปว่า ธรรมบาลกุมารตอบไม่ได้ ก็เลยหนี ตั้งใจว่าไปตายในป่าดีกว่า ขณะที่ธรรมบาลกุมารนอนอยู่ใต้ต้นตาล นกอินทรีสองผัวเมียก็คุยกัน และธรรมบาลกุมารก็รู้ภาษานก

นกตัวเมียถามนกตัวผู้ว่า "พรุ่งนี้พี่จะไปหากินทางทิศใด ?" นกตัวผู้ก็ตอบว่า "ไปไม่ไกลหรอก พรุ่งนี้เขาจะประหารธรรมบาลกุมาร เราก็จะได้กินกัน" นกตัวเมียเลยสงสัยว่ามีเรื่องอะไร นกตัวผู้จึงบอกว่า "ท้าวกบิลพรหมท้าพนันธรรมบาลกุมารให้ตอบคำถามว่า ตอนเช้าสิริอยู่ที่ไหน กลางวันสิริอยู่ที่ไหน ตอนค่ำสิริอยู่ที่ไหน ถ้าหากภายใน ๗ วัน ธรรมบาลกุมารตอบไม่ได้ ก็จะต้องตาย"

นกตัวเมียเลยถามว่า "แล้วพี่รู้ไหม ?" นกตัวผู้ก็บอกว่ารู้ พร้อมกับเฉลยว่า "ตอนเช้าสิริอยู่ที่ใบหน้า คนเราตื่นมาก็เลยต้องล้างหน้า ตอนกลางวันสิริอยู่ที่หน้าอก ก็เลยต้องอาบน้ำและใช้ของหอมประพรมอก ตอนค่ำสิริอยู่ที่เท้า ก่อนนอนก็ต้องล้างเท้า"

เรื่องนี้แหละที่เป็นศัพท์ของคำว่า "นกรู้" เพราะคนไม่รู้แต่นกรู้ ก็เลยสรุปว่า นกอดกินเพราะนกดันรู้ แต่นกไม่รู้ว่าธรรมบาลกุมารนอนอยู่ใต้ต้นไม้

วันต่อมา ธรรมบาลกุมารก็เลยตอบคำถามของท้าวกบิลพรหมได้ ท้าวกบิลพรหมจึงตัดเศียรให้ แต่ท่านไม่ตายเพราะเป็นพรหม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 17:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #108  
เก่า 29-04-2010, 15:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พอระยะหลังคติพราหมณ์เข้ามาปนเยอะ ก็เลยกลายเป็นว่าท้าวกบิลพรหมมีธิดาอยู่ ๗ องค์ ซึ่งจริง ๆ แล้วพรหมท่านอยู่คนเดียว จะมีลูกได้อย่างไร ?

นอกจากนั้น ยังมีตำนานว่าเศียรของท้าวกบิลพรหม ถ้าตกลงสู่พื้นดินจะเกิดไฟบรรลัยกัลป์ล้างโลก ถ้าตกลงสู่มหาสมุทรน้ำก็จะเหือดแห้งหมด ถ้าโยนขึ้นไปในอากาศฝนฟ้าก็จะแล้ง ก็เลยต้องให้ธิดาเอาพานมารองรับ และไปแห่รอบเขาพระสุเมรุ ๑ รอบจักรราศี ก็คือ ๑ รอบที่ดวงอาทิตย์โคจรครบ ซึ่งวันที่ครบก็เป็นวันที่พระอาทิตย์เข้าสู่ราศีเมษพอดี คนไทยสมัยโบราณจึงกำหนดให้เป็นวันสงกรานต์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 17:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #109  
เก่า 29-04-2010, 16:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "จะว่าไปแล้วศาสนาพราหมณ์ฮินดูเข้ามาในประเทศไทยก่อนศาสนาพุทธเสียอีก ในสมัยแรก ๆ คนไทยเรานับถือผีเป็นปกติ พอพราหมณ์เข้ามาก็ถือพราหมณ์ พอพุทธเข้ามาก็ถือพุทธ ศาสนาพราหมณ์ก็คิดว่าคนไทยน่าจะเหมือนคนอินเดีย ก็คือ ถ้าเข้าถึงกษัตริย์หรือผู้ปกครองได้ ก็แปลว่าทั้งหมดจะต้องถือศาสนาพราหมณ์ด้วย..แต่ไม่ใช่

ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้ ศาสนาพราหมณ์เข้าหาราชสำนักมาตลอด แต่มีศาสนิกอยู่แค่หยิบมือเดียว เพราะว่าศาสนาพราหมณ์ก็รักสงบเหมือนพุทธของเรา ไม่ได้ใช้อำนาจบีบบังคับให้คนมานับถือ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 17:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #110  
เก่า 29-04-2010, 16:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เราจะพิจารณาได้อย่างไร ว่าสิ่งที่เราคิดเป็นการคิดที่ละเอียดขึ้น หรือว่าเป็นการคิดมากในทำนองที่ว่า เรื่องที่ไม่น่าลงนรกก็หาเรื่องลงนรกเอง

ตอบ : ดูว่าอะไรที่ทำให้ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ สงบลง ก็เป็นการใช้ปัญญาคิด
อะไรที่ทำให้ราคะ โลภะ โทสะ โมหะเจริญขึ้น ก็หาเรื่องลงนรก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 17:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #111  
เก่า 29-04-2010, 16:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การใช้ทรายเสกหว่านรอบบ้าน ในกรณีที่บ้านเป็นบ้านแฝด คือมีผนังด้านหนึ่งติดกับบ้านข้าง ๆ เราจะหว่านทรายเสกอย่างไรครับ ?
ตอบ : วงในบ้านเลย

ถาม : ทั้งสองชั้นเลยหรือเปล่า ?
ตอบ : จริง ๆ ใช้ชั้นเดียวก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #112  
เก่า 29-04-2010, 17:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่เรากระตุ้นให้เด็กอายุประมาณ ๘ - ๙ ขวบ ค่อย ๆ ลำดับชีวิตประจำวันของตัวเอง ตั้งแต่เช้าว่าเขาทำอะไร จะช่วยเขาฝึกในเรื่องทิพพจักขุญาณหรือเปล่า ?
ตอบ : อันนี้เป็นการฝึกอตีตังสญาณ ถ้าหากคล่อง ๆ แล้ว ก็ย้อนไปเมื่อวาน..เมื่อวานซืน..สามวันที่แล้ว..ห้าวันที่แล้ว..อาทิตย์ที่แล้ว...เดือนที่แล้ว...ปีที่แล้ว..ท้ายสุดจะเป็นชาติที่แล้ว จะต้องซ้อมบ่อย ๆ ถึงจะคล่องตัว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 17:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #113  
เก่า 29-04-2010, 17:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าคนแต่งหนังสือเขาเขียนเรื่องที่เกี่ยวกับฤทธิ์อภิญญาได้ แสดงว่าเขาสามารถทำอภิญญาได้หรือเปล่า ?
ตอบ : ถ้าหากพื้นฐานเดิมเขาไม่มี ก็อธิบายรายละเอียดไม่ได้ จะได้แต่เปลือกเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-08-2015 เมื่อ 18:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #114  
เก่า 29-04-2010, 17:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การนึกถึงพ่อแม่จัดเป็นเทวตานุสติหรือไม่ ?
ตอบ : ไม่เป็น ยกเว้นว่าพ่อแม่ของคุณตายไป แล้วเป็นพรหมเทวดาอยู่ข้างบน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 19:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #115  
เก่า 29-04-2010, 17:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำบุญแล้วกลัวอดน้ำ ก็เลยต้องถวายน้ำมาด้วย
ตอบ : ถามว่าดีไหม..ก็ดี ถ้าคิดจะไปกิน

ปกติแล้วพรหม เทวดา นางฟ้า เขาอยู่ด้วยความเป็นทิพย์ ไม่ต้องกินอาหาร แต่คราวนี้มีอยู่เขตหนึ่ง ชายขอบของสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช เป็นเขตที่จะลงไปตำหนักพระยายมราช ในบริเวณนั้นบรรดาท่านทั้งหลายที่ยังละอุปาทานความเป็นมนุษย์ไม่ได้ ก็จะไปอยู่แถวนั้น จะต้องมีบ้านอยู่ มีน้ำกิน มีอาหาร ระยะหลังมีเจเจพลาซ่าอยู่ด้วย ไปช็อปปิ้งกันระเบิดเถิดเทิง ไปซื้อข้าวของเหมือนกับโลกมนุษย์

แต่พออยู่ไปประมาณ ๗ - ๘ วัน ท่านที่สร้างบุญเอาไว้ดี ก็จะรู้ตัวว่าเราไม่ใช่มนุษย์แล้ว มีความเป็นทิพย์ เป็นพรหมเทวดา ไม่ต้องไปกินไปใช้อย่างนั้นแล้ว ก็จะตรงไปยังวิมานของตนเองและไปเสวยความเป็นทิพย์

จึงได้บอกว่า ถ้าคิดว่าจะกินน้ำก็ถวายมา ถ้าไม่คิดว่าจะกิน ตรงไปเลย ไม่ต้องถวายก็ได้ แต่ว่าป้องกันไว้ก่อนดีกว่า เผื่ออยู่ตรงนั้นนานไปหน่อยจะได้มีกิน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-04-2010 เมื่อ 19:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #116  
เก่า 29-04-2010, 18:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เก็บตกเดือนนี้จบแล้วค่ะ ขอทิ้งท้ายเดือนนี้ด้วยเรื่องฮา ๆ

ถาม : เอารูปท่านแม่มาให้หลวงพี่อธิษฐานจิตให้
ตอบ : เดี๋ยวจะยันให้หงายท้องลงไปตรงนั้นแหละ..! เข้าเสาร์ห้ามาแล้วจะยังเอามาให้อธิษฐานอีก
-----------------------------------

ถาม : ช่วยอวยพรวันเกิดหน่อยสิครับ
ตอบ : Happy Birthday to you..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 20-10-2016 เมื่อ 16:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:32



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว