กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #101  
เก่า 06-12-2012, 13:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวานผู้กองสรวง (ร.อ. สรวง น้ำฟ้า) ถามเรื่องวิธีชนะนางแก้ว แสดงว่าคิดผิด ถ้านางแก้วจริง ๆ กี่ชาติเราก็แพ้ เรียกว่าผูกปีแพ้ ขนาดพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงยังออกปากว่า “ถ้าแม่แกลงมาเกิด ชาตินี้ข้าก็บวชไม่ได้” สรุปแล้วที่ท่านแม่ไม่ลงมา ก็เพื่อให้ชาตินี้หลวงพ่อได้ปฏิบัติในเนกขัมมบารมีได้อย่างเต็มที่

จริง ๆ แล้วในเรื่องของคู่บารมี ถ้าเจอหน้ากันจะทนไม่ได้ ดูอย่างพระราชธิดายังหนีตามพระเจ้ากุสราชที่ปลอมตัวเป็นคนหาบน้ำเลย เห็นหน้าก็ทนไม่ไหว ไปดีกว่า หรือไม่ก็ธิดาเศรษฐีเห็นพรานกุกุกฏมิตรหาบเนื้อมาขาย ขากลับธิดาเศรษฐีไปดักนอกประตูเมือง หนีตามไปเลย อันนี้เขาเรียกว่า ปุพเพสันนิวาเสนะ ก็คือสร้างบุญร่วมกันมาแต่ปางก่อน เขาเคยอยู่ร่วมกันมาแต่ปางก่อน เห็นแล้วอยู่ไม่ได้ ต้องไปเลย

เรื่องของคู่บารมี...ถ้าใจคอไม่เข้มแข็งจริง โอกาสรอดแทบจะเป็นศูนย์ แต่ถ้าตั้งใจต่อสู้ฟันฝ่าก็เห็นผ่านได้ ครูบาอาจารย์สมัยก่อนท่านเป็นตัวอย่างให้เรานับไม่ถ้วนแล้ว สมัยอาตมายังไม่ได้บวช ไปคลุกคลีตีโมงกับครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่นทางภาคอีสาน หลวงปู่ฝั้นท่านเล่าให้ฟังว่าท่านธุดงค์ไป เวลาเริ่มเย็นแล้วจะข้ามแม่น้ำ ก็ปรากฏว่าเจอแม่ลูกพายเรือมารับ ท่านบอกว่าพอเห็นหน้าลูกสาวแล้ววาบเข้าไปในอก ทำอะไรไม่ถูก เกือบจะลงเรือไม่เป็น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-12-2012 เมื่อ 02:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 225 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #102  
เก่า 06-12-2012, 13:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พอสองแม่ลูกพาไปส่งฝั่ง ผูกเรือเสร็จก็เดินตามพระไปเฉยเลย ตามไปดูว่าพระธุดงค์ไปไหน คราวนี้ใกล้ค่ำหลวงปู่ท่านก็ต้องปักกลด สองแม่ลูกเขาเล็งไว้ว่าอยู่ตรงไหน ตอนเย็นก็เอาน้ำร้อนน้ำชามาถวาย คนเป็นแม่ก็บรรยายว่า “ตอนนี้อิฉันอยู่ตัวคนเดียว สามีตายแล้ว มีลูกสาวอยู่แค่คนเดียวไม่มีที่พึ่ง มีวัวเท่านั้นตัว มีควายเท่านั้นตัว มีนาเท่านั้นไร่ ถ้าพระคุณเจ้าคิดจะสึกหาลาเพศไป ก็จะยกลูกสาวพร้อมกับที่ทางวัวควายให้

หลวงปู่ฝั้นเล่าว่ามึนจนตอบไม่ถูก ได้แต่บ่ายเบี่ยงเออ ๆ ออ ๆ เขาก็บอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะมาถวายจังหัน คือภัตตาหารเช้า แล้วจะมาขอคำตอบ หลวงปู่ฝั้นท่านยอมเสียสัจจะ ปกติถ้าพระธุดงค์ปักกลดแล้ว ยังไม่สว่างจะไม่ถอนกลด แต่ครั้งนี้รู้ว่าตายฟรีแน่ ๆ หลวงปู่ฝั้นถอนกลดเดินหนีข้ามไป ๔ จังหวัดเลย สมัยก่อนเป็นป่าเสือป่าช้างทั้งนั้น ท่านบอกว่าถ้าเขาตามมาได้ก็จะยอมแต่งด้วย แล้วใครจะตามไหวเล่า ? สรุปว่ารอดตัวไปได้ แต่ท่านบอกว่าหน้าเขาลอยติดตาอยู่เป็นปีเลย หลับตาลงจะภาวนาเมื่อไรก็เห็นแต่อีหน้าใบโพธิ์ แสดงว่าหน้าเป็นรูปหัวใจ

เรื่องของหลวงปู่เทสก์ก็เหมือนกัน หลวงปู่เทสก์ได้ข่าวว่า โยมผู้หญิงคนหนึ่งเป็นแม่ม่าย มีลูกชายอายุประมาณ ๔ - ๕ ขวบ ที่เคยมาทำบุญประจำนั้นไม่สบาย ด้วยความเมตตาก็คิดว่าไปเยี่ยมไข้เขาหน่อย ชวนลูกศิษย์วัดไปเยี่ยมไข้ พอดีไปตอนเย็น ผู้หญิงเขาก็คุยถ่วงเวลาจนกระทั่งค่ำ ลูกศิษย์ก็หลับอย่างเดียว พาไปเป็นเพื่อนแท้ ๆ อาศัยไม่ได้เลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2012 เมื่อ 15:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #103  
เก่า 06-12-2012, 13:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หลวงปู่เทสก์ท่านเล่าว่ามือไม้สั่น เหงื่อกาฬแตก ทำอะไรไม่ถูก เขาเองก็พูดเปิดเผยมากขึ้นทุกที ๆ ในที่สุดเห็นว่าอันตรายมาถึงตัวแน่ก็ตัดสินใจปลุกลูกศิษย์ตื่น เดินกลับวัดเดี๋ยวนั้นเลย

ส่วนอีกรายก็คือหลวงปู่สิงห์ หลวงปู่สิงห์เป็นครูบาอาจารย์ใหญ่สายกรรมฐานรุ่นไล่ ๆ กับหลวงปู่มั่น ต้องบอกว่าเป็นมือขวาของหลวงปู่มั่นเลยก็ว่าได้ ท่านบอกว่าพอเดินขึ้นบันไดเรือน สบตาแล้วเข่าอ่อนเกือบตกบันได ส่วนผู้หญิงก็รู้เหมือนกัน มองหน้าเห็นก็เป็นลมไปเลย อันนั้นคู่แท้ ท่านบอกว่าพอกลับวัดไม่เป็นอันภาวนา พ่อแม่ก็มาตื๊อ บอกว่า “เขาพร้อมจะยกลูกสาวให้ เมื่อไรลูกบ่าวจะสึกไปครองเรือน เขามีนามีไร่ มีช้างม้าวัวควายอะไรก็จะยกให้เป็นสินสอดทองหมั้น ไม่ต้องตกระกำลำบาก”

หลวงปู่สิงห์ท่านบอกว่า “จะให้สึกขอแค่ ๓ ข้อ ข้อที่ ๑ ให้สร้างบ้านที่ลอยอยู่ในอากาศเป็นเรือนหอ ถ้าสร้างได้จะสึกไปแต่ง” ท่านบอกว่าเห็นวิมานของนางฟ้าเทวดาไม่มีเสา ลอยอยู่เฉย ๆ อยากได้บ้านอย่างนั้น พ่อแม่ฝ่ายหญิงก็บอกว่าไม่ต้อง ๓ ข้อหรอก ข้อแรกก็ทำไม่ได้แล้ว ท่านบอกว่า “ข้อที่ ๒ ต้องหายาที่กินแล้วไม่แก่ไม่ตายมาด้วย ข้อที่ ๓ ผู้หญิงที่จะมาแต่งงานก็ต้องไม่แก่ไม่ตายด้วย” ข้อเดียวก็ไม่ไหวแล้ว ในเมื่อทำไม่ได้หลวงปู่ท่านก็บอกว่า “อย่างนั้นลูกก็ไม่สึก”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2012 เมื่อ 15:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #104  
เก่า 06-12-2012, 13:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของการถามพระหรือพรหมเทวดาอย่าถามย้ำถึง ๓ ครั้งนะ ตะติยัมปิเมื่อไรโดนเมื่อนั้นแหละ เพราะว่าท่านพูดแต่เรื่องจริง ในเมื่อพูดแต่คำสัตย์ คำจริงครั้งเดียวก็พอแล้ว ถามครั้งที่ ๒ นี่จะบอกให้ฐานเมตตา แต่ถ้าครั้งที่ ๓ นี่โดนแน่..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2012 เมื่อ 15:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #105  
เก่า 06-12-2012, 13:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์ถามโยมท่านหนึ่งว่า "คุณติ๊กรู้จักเซียนสูไหม ? เมื่อวานที่อาตมาเห็นคุณติ๊กเป็นตาแป๊ะหนวดเฟิ้มนั่นแหละ..ท่านเอง อาตมาก็ถามว่ามาทำไม ? ท่านบอกว่า “มาดูเขาหน่อย” อาตมาคิดว่าตาแป๊ะหนวดยาวที่ไหน นึกว่าเป็นภาพอนาคตของคุณติ๊ก

เซียนสูเขาบอกว่า มาดูคุณติ๊กหน่อย จะนึกขอบารมีท่านสงเคราะห์บ้างก็ได้ เป็นห่วงเป็นใยเราขนาดนั้น อาตมาพูดเรื่องที่โยมไม่เห็นนี่ลำบากหน่อยนะ พอดีเมื่อวานเห็น ตอนแรกคิดว่าเป็นภาพอนาคต คิดว่าคุณติ๊กจะอยู่จนหนวดยาวปานนั้นเลยหรือ ?

ต้องบอกว่าเซียนสูท่านเป็นอภิญญาลาภีบุคคล เป็นฆราวาสแท้ ๆ ปฏิบัติจนเป็นพระ ส่วนอาตมาเป็นพระแท้ ๆ ไม่รู้จะปฏิบัติแล้วจะเป็นฆราวาสหรือเปล่า ? แสดงว่าในเรื่องของครูบาอาจารย์หรือบุคคลที่เคยเนื่องกันมา ต่อให้ท่านเองพ้นไปแล้วก็ยังมีความเมตตา จึงลงมาดูหน่อย ฉะนั้น..ที่มีบางคนเขาว่า “จบกิจแล้วไปพระนิพพานก็เบื่อแย่สิ” เอ็งเบื่อไปคนเดียวเถอะ ข้าไม่เบื่อด้วยหรอก อาตมาเห็นทั้งพระนิพพานมีแต่งานท่วมหัว ดันบอกว่ากลัวไม่มีอะไรจะทำ..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2012 เมื่อ 15:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #106  
เก่า 06-12-2012, 13:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "บางคนโชคดี แต่งตัวอย่างไรก็ดูดี ใส่ยีนส์ขาด ๆ เสื้อยืดเก่า ๆ ก็ดูดี ส่วนบางคนโปะอย่างไรก็ไม่ขึ้น ถ้ารู้อย่างนั้นแล้วต้องเป็นตัวของตัวเอง ส่วนใหญ่แล้วคนเราจะไหลไปตามแรงโฆษณา ไม่ได้ดูว่าบุคลากรที่เขาเอามานำเสนอให้กับเรา แต่ละคนเขาคัดแล้วคัดอีก ไม่ใช่ว่าเขาใส่แล้วสวย เขาใช้แล้วสวย แล้วเราใช้แบบนั้น ใส่แบบนั้นแล้วจะสวยเหมือนเขา

เขาน้ำหนัก ๔๘ กิโลกรัม ส่วนเราน้ำหนัก ๘๔ กิโลกรัม ตัวเลขไม่ต่างกันก็จริง แต่สลับที่กัน ต้องมีสติยืนหยัดอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ยอมรับความจริงเสียก็หมดเรื่อง ถ้าไม่ยอมรับความจริงเดี๋ยวก็มีการดึงหน้าบ้าง ฉีดโบท็อกซ์บ้าง ผ่าตัดยกเครื่องบ้าง ให้ยุ่งไปหมด

ที่ประเทศจีนเพิ่งจะฟ้องหย่าเมียไป เพราะว่าลูกออกมาแล้วไม่เหมือนพ่อแม่ คนเป็นพ่อก็สงสัยว่าเมียไปแอบมีชู้หรือเปล่า ? ท้ายสุดแม่ก็สารภาพว่าไปผ่าตัดใบหน้ามา ขอโทษขอโพย แต่ผัวไม่ยอมแล้ว เธอหลอกลวงฉันตั้งแต่แรก ท้ายสุดฟ้องหย่าแล้วศาลก็ดันให้หย่าด้วย จะบอกว่าหาเรื่องฟ้องหย่าก็ใช่นะ แต่จริง ๆ แล้วต่อให้เขาผ่าตัดมา ตัวเองก็ไปยินดีและพอใจเขาเองตั้งแต่แรกนี่หว่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2012 เมื่อ 15:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #107  
เก่า 06-12-2012, 13:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ขอยืนยันว่าเรื่องของคู่ชีวิต รูปร่างหน้าตาเป็นส่วนฉาบฉวยเท่านั้น แรก ๆ ก็อาจจะพอตาพอใจกัน แต่พออยู่ไปนาน ๆ ความเคยชินทำให้ลืม ก็เหลือแต่ว่าเรามีความดีอะไรที่เป็นเครื่องดึงดูด และประคองชีวิตคู่เอาไว้ได้

ภาษิตจีนเขาบอกว่า “บุปผาปักบนมูลโค” เอาดอกไม้ปักบนขี้ควายแท้ ๆ เลย คนนี้สวยเช้งวับ อีกคนหนึ่งขี้เหร่ดูไม่ได้เลย ทำไมเขาอยู่กันได้ เพราะเขามีส่วนอื่นที่มาประคองชีวิตไว้ อยู่ไปนาน ๆ แล้วลืมความสวย บางทีไม่ได้นึกเลยว่าอีกฝ่ายหน้าตาเป็นอย่างไร อย่างในอินเตอร์เน็ตเขาโพสต์กันว่า “ผู้ชายนิสัยดีมักจะไม่หล่อ ผู้ชายที่หล่อก็นิสัยไม่ดี ผู้ชายที่ทั้งหล่อทั้งดีก็มักจะเป็นเกย์” แล้วก็มานั่งปลงชีวิต..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2012 เมื่อ 15:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #108  
เก่า 10-12-2012, 09:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สงสารพระสมัยนี้ ปฏิบัติแล้วไม่มีป่าให้ธุดงค์เท่าไร อาตมาเป็นรุ่นท้าย ๆ แล้วที่ยังมีเสือมาเดินรอบกลดบ้าง พระรุ่นต่อไปจะเอาอะไรมาขู่กิเลสได้ เพราะไม่มีอะไรที่ทำให้ต้องกลัวแล้ว ปีก่อนเขาว่าหมีแม่ลูกอ่อนลงมาตรงทางเดินไปต้นไม้ยักษ์กับบึงลับแล อุตส่าห์เข้า ๆ ออก ๆ อยู่ ๔ รอบ หมีคงกลัวคนมากกว่าจึงไม่โผล่เลย แทนที่คนจะได้กลัวหมี

ปีนี้พาพระนิสิต มจร. ร้อยกว่ารูปไปปฏิบัติธรรม ก็เป็นอันว่าไม่ใช่หมีอย่างเดียวหรอก เสือสางช้างม้าคงวิ่งป่าราบหมด เพราะร้อยกว่าคนเสียงดังสนั่นป่าเลย เนื่องจากพระนิสิตของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยห้องเรียนวัดไชยชุมพลชนะสงคราม เขาตกลงกันว่าจะไปธุดงค์ที่ทองผาภูมิ เขาไม่ได้ตกลงเรื่องธุดงค์หรอก เขาจะไปปฏิบัติธรรมกัน เขาไม่รู้หรอกว่าอาตมาเตรียมโครงการธุดงค์ไว้ให้ เพียงแต่บอกเขาให้เอากลด เอาบาตรไปด้วยเท่านั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2012 เมื่อ 10:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #109  
เก่า 10-12-2012, 09:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"มีอยู่ปีหนึ่งหลวงพ่อเจ้าคุณอนันต์ยังเป็นพระครูปลัดอยู่ ท่านบอกกับพระวัดท่าซุงว่า “ถ้าพวกคุณอยากธุดงค์แบบมีเสือมีช้างก็ไปหาท่านเล็กเขานะ” เจอเข้าไป ๒ ชุดก็เข็ด ไม่มีใครไปอีกเลย อาตมาถามน้อง ๆ ว่าจะเดินธุดงค์แบบมีอาหารฉันหรือแบบไม่มี เขาบอกว่า “ตามใจหลวงพี่ครับ” ก็เสร็จอาตมานะสิ อาตมาเป็นคนขี้เกียจด้วย ก็เอาแบบไม่มีอาหาร..!

พวกเขาเจอเข้าไป ๓ วันขอกลับ พูดเสียงอ่อย ๆ ว่า “เดินไม่ไหวแล้วครับ” สรุปว่าขากลับมีอยู่รายหนึ่งออกมาได้ ๒ กิโลเมตร ก็หมอบกระแตไปไม่ไหว ส่วนอีกรายหนึ่งเดินตามมาได้ แต่อาตมาต้องแบกกลดแบกของให้ทุกอย่าง ตามมาจนเหลืออีกประมาณ ๒ กิโลเมตร จะถึงถนนก็หมดสภาพกองอยู่ตรงนั้นเหมือนกัน

อาตมาต้องเดินออกมาถึงข้างนอก บอกคนที่มีรถจักรยานยนต์ว่าให้ไปเก็บพระออกมาหน่อย อยู่ตรงนั้นตรงนี้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาไม่มีใครมาอีกเลย ทางวัดท่าซุงก็ไปลือกันว่า “อย่าไปฝึกกรรมฐานกับหลวงพี่เล็กนะ ท่านให้อยู่ด้วยธรรมปีติอย่างเดียวจริง ๆ” ก็อาตมาถามแล้วว่าจะกินไหม ? เขาบอกว่า "ตามใจหลวงพี่" ในเมื่อตามใจหลวงพี่ ก็หลวงพี่ไม่กินนี่หว่า.. เพราะฉะนั้นคำว่าตามใจอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ได้อย่างหนึ่ง..อย่าให้มี ต้องการอะไรบอกให้ชัด ถ้าอย่างไรก็ได้เดี๋ยวเจอกัน..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2012 เมื่อ 10:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #110  
เก่า 10-12-2012, 10:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมเขาเรียกพระยอดขุนพลครับ ?
ตอบ : เพราะว่าทรงเครื่องขุนศึก เริ่มจากทางละโว้ก่อน เขาสร้างพระทรงเครื่องขุนศึกจอมทัพในสมัยนั้น เขาก็เลยเรียกว่าพระยอดขุนพล หลังจากนั้นที่อื่นก็สร้างเลียนแบบกันให้ยุ่งไปหมด พระยอดขุนพลที่สวยที่สุดน่าจะเป็นพระยอดขุนพลสายเขาอ้อ ออกแบบได้สุดยอดจริง ๆ อย่างพระยอดขุนพลฤๅษีคุ้มดวง แต่สายเขาอ้อหมดหลวงปู่กลั่นแล้ว ที่เหลือก็คงต้องรอท่านอาจารย์ประจวบมาบวช

ถาม : ที่เขาเล่นแร่แปรธาตุเป็นทองใช่ไหมครับ ?
ตอบ : เป็นทองเลย แต่เขาไม่กล้าประกาศว่าทอง เลี่ยงไปเรียกว่าทองสัตตะโลหะ

ถาม : โบราณหล่อโลหะต่าง ๆ เก่งกว่าปัจจุบัน ?
ตอบ : จนป่านนี้ยังไม่รู้เลยว่าปืนใหญ่หน้ากระทรวงเขาผสมโลหะอย่างไร ยังไม่เป็นสนิมสักจุด เนื้อยังเขียวปลอดอยู่เลย อันนั้นเป็นเหล็กแข็ง ถ้าเหล็กเหนียวเขาเรียกว่าเหล็กกำพล ที่เขาบอกว่าถ้าทำเป็นดาบนี่ดัดตัวใบติดด้ามได้เลย เคยดูเขาทดสอบดาบซามูไรที่ใช้เหล็ก cold steel ทำขึ้นมา เขาใช้เครื่องจักรคีบไว้แล้วโยกออกมาประมาณ ๕๐-๖๐ องศา เขาไม่ได้ดัดด้ามกับปลายติดกันเหมือนกับเหล็กกำพลของโบราณ คาดว่าถ้าดัดเกินนั้นอาจจะหักก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2012 เมื่อ 19:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #111  
เก่า 10-12-2012, 10:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สมเด็จวัดระฆังอย่าไปดูเนื้อแตกลายงานะ เพราะปัจจุบันทำได้สบาย เนื้อแตกลายงาของสมเด็จวัดระฆังจะแตกเฉพาะด้านหน้าเท่านั้น เพราะโดนแดดโดนลมด้านเดียว ด้านหลังไม่แตก ถ้าแตกทั้งองค์ก็เป็นอันว่าจบ เรานึกถึงตอนที่เราตากพระ ก่อนที่พระจะแห้งเราพลิกไม่ได้อยู่แล้ว ฉะนั้น..สมเด็จวัดระฆังถ้าแตกลายงาจะแตกด้านเดียว

ประการที่สอง สมเด็จวัดระฆังจริง ๆ เนื้อจะค่อนข้างบาง ถ้าเจอองค์หนาชนิดขว้างหัวหมาร้องนี่ไม่ใช่แน่ ประการที่สาม โบราณเขาใช้ผิวไม้ไผ่ตัด ตอนที่ตัดก็มักจะตัดจากข้างหลังมาข้างหน้า เพราะว่าเป็นการตัดในขณะที่ยกออกจากพิมพ์ ฉะนั้น..รอยตัดจะอยู่ข้างหลังเลื่อนไปข้างหน้าเสมอ ถ้าตัดตรงเม็ดมวลสารจะสังเกตได้ชัดที่สุด เพราะจะโดนดันไปข้างหน้า ถ้าหากว่ามวลสารใหญ่ก็ดันเป็นร่องให้เห็น ๆ เลย

อันนี้เป็นวิธีการดูหลัก ๆ ที่เหลือก็ต้องศึกษาว่าเนื้อหาเป็นอย่างไร พอผ่านการใช้งานมีสภาพอย่างไร ไม่ใช้งานมีสภาพอย่างไร แล้วก็พิมพ์ทรง ถ้าผิดเนื้อผิดพิมพ์เขาวางเลย เขาไม่ดูต่อ ถ้าเอาพระไปให้เซียนดูแล้วไม่พูดอะไร แต่ว่าองค์ไหนคว่ำลงก็แปลว่าองค์นั้นเก็บเถอะ..ไม่ผ่าน ถ้าองค์ไหนเขาวางหงายเดี๋ยวก็หยิบไปดูใหม่"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2012 เมื่อ 01:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #112  
เก่า 10-12-2012, 10:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ท่านสร้างไว้จำนวนเท่าไรครับ ?
ตอบ : คาดว่าแปดหมื่นสี่พันองค์ แต่คราวนี้หลวงปู่ท่านแจกกระจายเลย แล้วเป็นการแจกที่คนไม่ค่อยอยากได้ด้วย เพราะสมัยนั้นคนยังไม่เห็นคุณค่า แม้ท่านจะย้ำนักย้ำหนาว่าต่อไปจะแพงนะจ๊ะ เขาก็ไม่สนกันเท่าไรหรอก เพราะสมัยนั้นเขาว่า “พระต้องอยู่วัด” อยู่ ๆ ให้โยมมาติดตัวติดบ้านไว้เขาก็รู้สึกไม่ค่อยจะดีกัน ธรรมเนียมนิยมสมัยนั้นเป็นอย่างนั้น

เพิ่งจะมาช่วงสงครามโลกนี่แหละที่นิยมพระติดตัว แต่พอหลังสงครามเขาก็เอาไปคืนวัด อย่างพระกรุวัดโพธิ์ที่สร้างด้วยกระดูกผี พอใช้งานเสร็จสรรพก็ไปคืนวัดกันหมด ถ้าเขารู้ว่ามาถึงสมัยนี้ราคาเท่าไรคงตีอกชกหัวตัวเอง พอมาสมัยหลังนี่ต่อให้อยู่ในวัดก็พยายามจะเอาเข้าบ้านให้ได้ ค่านิยมเปลี่ยนไปแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2012 เมื่อ 19:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #113  
เก่า 10-12-2012, 12:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เห็นรูปหลวงพ่อพระฝางแล้วต้องบอกว่าช่างโบราณนี่สุดยอดเลย ดูรูปถ่ายพระฝางทีไรต้องบอกว่าคนโบราณเขาทำงานด้วยใจจริง ๆ ทุ่มเทให้ทุกอย่าง เหมือนอย่างกับจะฝากงานชิ้นนั้นไว้ในแผ่นดินชิ้นเดียวก็พอแล้ว งามสุด ๆ "

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง แต่รายละเอียดของเครื่องทรงสุดยอดจริง ๆ ยังไม่เคยเห็นพระทรงเครื่องที่ไหนสวยขนาดนั้น กำลังหาแบบอยู่ อาตมาว่าถ้าอยู่ถึงอายุ ๖๐ ปีจะสร้างพระทองคำฉลองอายุ อยากได้พระหน้าตักไม่เกิน ๙ นิ้ว ถามช่างแล้วเขาบอกว่าขนาด ๙ นิ้วใช้ทองประมาณ ๔๐ กิโลกรัม ที่ดู ๆ ไว้ก็มีแบบพระพุทธชินราชแต่ว่าเป็นสมเด็จองค์ปฐม และแบบพระพุทธลีลาประทานพรแบบพุทธมณฑล และพระฝาง กำลังรอ ๆ ดูว่าจะไปลงเอยที่ไหน

หลวงพ่อพระฝางนั้นเป็นพระบูชาประจำองค์ของเจ้าพระฝางสมัยธนบุรี เป็นก๊กเดียวที่พระเจ้าตากไปตีครั้งแรกไม่สำเร็จ ต้องพระแสงปืนจึงต้องถอยมาก่อน บุคคลที่แคล้วคลาดด้วย คงกระพันด้วย แต่พอไปเจออาวุธข้าศึกแล้วเข้า..ต้องคิดนะ ต้องถอยตั้งหลักก่อนแล้วไปใหม่ พระเจ้าตากสินท่านประกาศว่า “กูผู้ชนะ” ก็จริง แต่ครั้งหนึ่งในชีวิตเคยถอยให้เขาเหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2012 เมื่อ 10:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #114  
เก่า 10-12-2012, 12:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หัวหน้าก๊กเป็นพระจริง ๆ แต่ท่านไม่ได้คิดที่จะตั้งตนเป็นใหญ่หรอก พอบ้านแตกสาแหรกขาดแล้วท่านมีความสามารถมาก ชาวบ้านเห็นความสามารถท่านจึงไปขอพึ่งบารมี ในเมื่อไปพึ่งบารมีกลายเป็นก๊กใหญ่ขึ้นมา มีกองกำลังป้องกันตนเอง อย่างไรเขาก็ต้องคิดว่าแข็งเมือง

สมัยก่อนไม่ได้ใช้โทรศัพท์คุยกันได้อย่างสมัยนี้ กว่าจะเจรจากันรู้เรื่องเขาก็หมายมั่นปั้นมือแล้วว่าคุณแข็งข้อ ก็ลุยกันเลย กองทัพเขามายันกำแพงเมืองแล้วจะไปคุยอะไรกัน ก็ต้องใส่กันก่อน ท่านที่เจตนาตั้งตนเป็นใหญ่มีเยอะ ส่วนท่านที่ไม่ได้เจตนาแต่สถานการณ์พาไปก็มี

แบบเดียวกับพระสะล่า เป็นพระกะเหรี่ยง สึกออกมานำกำลังชาวบ้านไปโจมตีราชวงศ์คองบองของพระเจ้าอลองพญาสำเร็จ ได้ครองราชย์อยู่ระยะหนึ่ง แต่พอทางฝ่ายพม่าตั้งหลักได้ด้วยกำลังที่เหนือกว่ากันจนนับไม่ได้ เขาทุ่มกำลังเข้ามาประเภทเอาซากศพถมกำแพง ก็ต้องแพ้เขา ลุยหน้าเข้ามา คนฆ่าก็ฆ่าจนมือไม้อ่อน ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหนก็เหมือนกัน

อย่างหลวงพ่ออุตตะมะก็เหมือนกัน ด้วยบารมีของท่าน ทั้งพม่า ทั้งกะเหรี่ยง ทั้งมอญ ให้ความเคารพท่าน ไม่อย่างนั้นตีกันตาย เพราะปกติพวกนี้เข้ากันไม่ได้ แต่ว่ากะเหรี่ยงกับมอญอยู่รวมกันได้ เพราะหลวงปู่ท่านบอกแล้วว่า ถ้าทะเลาะกันท่านจะไม่ให้อยู่ด้วย อยากอยู่เมืองไทยกับท่านต้องไม่ทะเลาะกัน ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเมืองไทย

คราวนี้มอญเขายังมีกองกำลังกู้ชาติอยู่ พอถึงเวลาทหารพม่าไล่ตี ทหารมอญถอยหนีเข้าวัด พอทหารมอญถอยหนีเข้าวัด ทหารพม่าเคารพหลวงพ่ออุตตะมะ เขาก็ถือว่าเอ็งหนีได้หนีไป ข้าก็หุงข้าวกินรออยู่ข้างนอก ออกมาเมื่อไรค่อยตีกันใหม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2012 เมื่อ 19:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #115  
เก่า 10-12-2012, 12:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องของศรัทธาเป็นเรื่องที่ปลูกฝังได้ยาก แต่พอเกิดศรัทธาแล้วก็ตายยากด้วย เพราะฝังลึกอยู่ในหัวใจ เพราะฉะนั้นจะเป็นทหารมอญ ทหารพม่า ทหารกะเหรี่ยง ก็เคารพหลวงพ่ออุตตะมะเป็นปกติ เห็นไหม..พอสิ้นหลวงพ่อไม่กี่วันก็ฆ่ากันตายในวัดเลย เจ้าอาวาสตายด้วย หลวงพ่อจันทิมาไม่ได้รู้อะไรเลย เขากลัวว่าท่านจะไปสาวเจอต้นเหตุทุจริต เขาก็ยิงทิ้งเลย

ต้องบอกว่าท่านอาจารย์พระมหาสุชาตินี่ใจถึงมาก ตอนนั้นไม่มีใครอาสาไปเลย จนกระทั่งท่านเจ้าคุณปัญญาบอกว่า “ถ้าไม่มีใครก็ต้องส่งอาจารย์เล็กไป” พอดีว่าท่านอาจารย์พระมหาสุชาติท่านมีพื้นฐานเป็นมอญ ก็เลยคุยกันรู้เรื่อง ถ้าอาตมาไปก็คงต้องแผลงฤทธิ์กันหลายยกกว่าที่เขาจะยอมรับ

นี่ก็เริ่มแล้งแล้ว พอแล้งเมื่อไรก็ตีกันเมื่อนั้นแหละ พอเริ่มแล้งแล้วกองทัพพม่าก็เริ่มออกกวาดล้าง แต่คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะกองกำลังมอญกู้ชาติวางอาวุธไปแล้ว เหลืออย่างเดียวคือพวกกะเหรี่ยงคริสต์ยังไม่วาง คราวนี้กะเหรี่ยงคริสต์ก็ไม่รอหรอก คริสต์ก็คริสต์เถอะ..ถึงเวลาก็หนีเข้าวัดเหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2012 เมื่อ 19:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #116  
เก่า 12-12-2012, 16:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ภิกษุมีจิตกำหนัด เอาบาตรดันร่างผู้หญิงอื่นโดนอาบัติหรือเปล่า ? โดน..ท่านปรับเพราะถือเป็นของเนื่องด้วยกาย..ซวยเลย คิดว่ารอดแล้ว ภิกษุมีจิตกำหนัด เอามือเขย่าสะพานที่ผู้หญิงกำลังเดิน..โดนอีก พระพุทธเจ้าท่านปรับไว้ละเอียดจริง ๆ ไม่อย่างนั้นก็จะทำกันไปเรื่อย โดนเข้าสักทีจะได้ไม่ทำอีก ผู้หญิงอยู่ในเรือ จับเรือเขย่า...โดนเหมือนกัน

ต้องบอกว่าเป็นคุณูปการอย่างหนึ่งของคนสมัยนั้น ด้วยความที่แขกเป็นคนค่อนข้างจะหัวหมอ ความประพฤติเขาก็เลยไปในแนวนั้น ทำให้การบัญญัติศีลพระต้องละเอียดมาก จนกระทั่งคนเขาว่าพระพุทธเจ้าท่านเป็นสัพพัญญู ย่อมรู้ว่าเรื่องเหล่านั้นจะเกิด ทำไมถึงไม่บัญญัติกันไว้ก่อน ? บอกไว้เลยว่าถ้าบัญญัติกันไว้ก่อน ไม่มีใครเชื่อว่าคนจะแหกคอกไปได้ขนาดนั้น จึงต้องรอให้เกิดเรื่องขึ้นก่อนแล้วค่อยบัญญัติ


ถาม : เจองูกับแขก เขาบอกให้ตีแขกก่อน ?
ตอบ : เจองูกับแขกให้ตีแขกก่อน สมัยก่อนแขกไปขายของที่บ้าน ขายผ้าผืนละ ๔๐ บาท เขาให้ผ่อนวันละ ๒ บาท ให้แขก ๕ บาทหรือ ๑๐ บาท แขกเขาไม่เอานะ เอาแค่ ๒ บาท จริง ๆ ก็คือเขาจะนับเลย ๒๐ วันเขาจะมาเอาทุกวัน แล้ว ๒๐ วันนี่เขาอาจจะขายของได้อีก ถ้าเอาไปทีเดียวหมด เดี๋ยวไม่มีข้ออ้างมา..เซียนจริง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-12-2012 เมื่อ 12:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #117  
เก่า 12-12-2012, 16:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พวกนี้เขาขยัน ประหยัด เห็นว่าแบกถั่วขายอยู่ไม่นานเท่านั้นเอง กลายเป็นเถ้าแก่ปล่อยเงินกู้ไปหมดแล้ว พอเรียกนายห้างก็ยิ้มแก้มปริเลย นายห้างของเขาก็ระดับเถ้าแก่ของคนจีน

ถาม : นายห้าง..?
ตอบ : อาตมาลงไปปักษ์ใต้ต้องคอยหลบพวกนายห้าง เพราะส่วนใหญ่เขาจะนิมนต์ให้ไปที่ร้าน และถ้าอาตมาไปก็ไปได้บ้านเขาบ้านเดียว พวกนี้เขาอังคาสด้วยมือ พอฉันอาหารไปเขาก็จะตักเติมไปเรื่อย อาตมาแทบตาย..เพราะนิสัยที่กินอะไรต้องหมด เนื่องจากทหารเขาฝึกมาแบบนี้ ส่วนเขาเห็นหมดแล้วต้องเติม..(หัวเราะ)..เลยไม่ไปดีกว่า

โดยเฉพาะชานม ทั้งนมทั้งเนย ฉันเข้าไปแก้วเดียวหัวหูร้อนไปหมด เจ้าประคุณเถอะ..รินให้ทั้งวัน ไม่ไปดีกว่า..ขืนไปบ้านนายห้างบ่อย ๆ อาตมาคงตัวใหญ่เท่านายห้างแน่ ๆ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2012 เมื่อ 17:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #118  
เก่า 12-12-2012, 16:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตอนแรกอาตมาอ่านบาลีแล้วไม่เข้าใจ ว่าอังคาสด้วยมือคืออะไร ? อังคาสก็แปลว่าถวายอาหาร อังคาสด้วยมือ เอ๊ะ...เราก็ใช้มือถวาย ที่ไหนได้..อังคาส คือ เขาคอยบริการอยู่ ขาดข้าวเติมข้าว ขาดกับเติมกับ

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : แบบเดียวกับพระต่างจังหวัด ไปเจอต้มยำกบใส่มะตาด กินกันประเภทแหกหม้อแหกไหไปเลย มะตาดนี่ใช้แทนมะนาวได้ รสชาติสุดยอด ถึงเวลาลูกก็ร้องจะกิน พระก็ว่า "โยม..เพิ่มต้มยำกบหน่อย" เดี๋ยวก็ "โยม..เพิ่มต้มยำกบหน่อย" นั่งอยู่ ๙ รูป พอขอครั้งสุดท้ายโยมตะแคงหม้อให้ดู “เหลืออยู่เท่านี้แหละเจ้าค่ะ ถ้าท่านฉันหมด ดิฉันกับลูกก็ไม่ต้องแดกกันพอดี..!” เจอโยมว่าตรง ๆ เข้าแบบนี้พระถึงได้หยุด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-12-2012 เมื่อ 17:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #119  
เก่า 12-12-2012, 16:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เก็บตกเดือนพฤศจิกายน จบแล้วค่ะ
ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดยทาริกา คะน้า คะน้าอ่อน เถรี รัตนาวุธ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:14



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว