กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 19-10-2019, 21:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมทำพระปรอทปิดตาของหลวงปู่ละมัยชำรุด จะมีโทษไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นสายหลวงพ่อวัดท่าซุง ยิ่งแตกหลายชิ้นยิ่งดี แต่จริง ๆ แล้วปรอทหลอมง่ายจะตาย แค่ไฟอ่อน ๆ ก็ละลายได้แล้ว ไปหาแบบมาแล้วก็ทำใหม่เลยก็ได้

ถาม : ผมควรเก็บไว้อย่างนี้หรืออย่างไรดีครับ ?
ตอบ : แล้วแต่จะตัดสินใจเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 19-10-2019, 21:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปีนี้ต้องบอกว่าน้ำท่วมได้ทั่วถึงมาก แต่ขณะเดียวกันก็มีหลายพื้นที่แล้งสาหัส ช่วงนี้ก็จะลงไปท่วมปักษ์ใต้แทน คราวนี้จากที่ผ่านมา ความช่วยเหลือจากพระ จากญาติโยม ไปถึงผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมก่อน รัฐบาลขยับไม่ทันสักเรื่อง

ที่รัฐบาลขยับไม่ทันสักเรื่องเกิดจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน อันดับแรกก็คือลำดับความสำคัญของงานผิด ก็คือเรื่องของน้ำท่วมชาวบ้านเดือดร้อน ต้องช่วยเหลือโดยให้ความช่วยเหลือถึงมือเขาให้เร็วที่สุด ก็มาติดอยู่ในข้อที่สอง ก็คือว่าติดด้วยขั้นตอนของทางราชการ กว่าจะประชุม กว่าจะอนุมัติงบประมาณ กว่าจะส่งความช่วยเหลือไปถึง...ชาวบ้านตายหมดแล้ว..!

ต้องบอกว่ารัฐบาลเพิ่งจะทำหน้าที่ได้ไม่กี่วัน คะแนนนิยมก็ตกรูดมหาราช ไม่เหลือเค้าลุงตู่ที่ญาติโยมชื่นชมในวันปฏิวัติ เพราะว่าตลอดระยะเวลา ๕ ปีที่ผ่านมา ทุกคนเห็นชัดว่าการที่บอกว่าคนอื่นเลว ตัวเองเป็นคนดี เข้ามาเพื่อแก้ไขทุกอย่างให้ดีขึ้น แต่สิ่งที่ทำกลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่พูด อะไรที่บอกว่ารัฐบาลเก่าทำเป็นสิ่งที่ไม่ดี ชั่วช้าสามานย์ รัฐบาลใหม่ทำหมดทุกอย่าง และทำหนักกว่าด้วย จึงทำให้คะแนนนิยมหล่นหายไปเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 19-10-2019, 21:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ตอนนี้รัฐบาลพูดอะไรก็มีแต่จุดอ่อนให้เขาตี แม้กระทั่งไปพูดต่างประเทศ ต้องบอกว่าคนทั่วโลกได้ยินพร้อมกัน ทุกคนเข้าใจเหมือนกัน รัฐบาลก็ยังกล่าวหาว่าสื่อไปบิดเบือนเพื่อตั้งใจที่จะลดเครดิตของรัฐบาล

ปัจจุบันนี้สิ่งที่รัฐบาลควรทำที่สุดมี ๒ อย่าง อย่างแรกก็คือดูผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ แล้วลดผลกระทบนั้นให้เกิดกับประเทศของเราให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ทั้งโลกเดือดร้อน แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลไทยและรัฐมนตรีทุกกระทรวง ไม่มีใครให้ความสำคัญตรงจุดนี้

ประการที่สองก็คือ ดึงความเชื่อมั่นของประชาชนกลับคืนมา...แต่ว่ายาก เพราะว่า ๕ ปีที่ผ่านมา คุณเป็นคนผลาญความเชื่อมั่นของชาวบ้านเอง ถ้าชาวบ้านไม่เชื่อมั่นไม่ศรัทธา ต่อให้เป็นเทวดาลงมาก็ไม่สามารถที่จะบริหารประเทศชาติให้ดีได้หรอก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 19-10-2019, 21:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เมื่อชาวบ้านไม่เชื่อมั่น นักลงทุนไม่เชื่อมั่น การลงทุนไม่เกิด ก็จะเกิดสภาพเศรษฐกิจตึงตัวอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

ประการต่อไปก็คือการวางแผนบริหารประเทศในระยะยาว โดยเฉพาะแก้ปัญหาฝนแล้งน้ำท่วม ไม่ใช่ถึงเวลาก็แก้กันไปตามหน้างาน ปีละครั้งปีละหน แล้วก็หลงลืมไปอีก เพราะว่าเรื่องเหล่านี้มีแต่จะหนักข้อขึ้น สาเหตุใหญ่เกิดจากการที่คนเราทำลายธรรมชาติ เพื่อสร้างสิ่งสาธารณูปโภคต่าง ๆ

โดยเฉพาะถนนหนทางไปขวางทางน้ำ ถึงเวลาน้ำมาแล้วไปไม่ได้ก็ท่วม จะไปบอกว่าเราไปทำท่อระบายน้ำไว้ ก่อนหน้านี้น้ำไหลได้ทีหนึ่งหน้ากว้าง ๕ กิโลเมตร ๑๐ กิโลเมตร อยู่ ๆ มาเหลือท่อกว้างแค่ ๒ เมตร ๓ เมตร แล้วจะผ่านไปได้สักเท่าไร ? เพราะฉะนั้น..การบูรณาการที่พูดกันมา ๒๐-๓๐ ปี ยังไม่ได้กระทำอย่างแท้จริงสักครั้งเดียว เพราะว่าหน่วยราชการของเราส่วนใหญ่ถนัดทำอะไรด้วยตัวคนเดียว ขาดการประสานงานกับหน่วยงานอื่น ถึงเวลาต่างคนต่างทำต่างคนต่างแก้ จึงกลายเป็นลิงแก้แห ยิ่งแก้ก็ยิ่งยุ่ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 19-10-2019, 21:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หัวหน้าหน่วยงานต่ำสุดคือรัฐมนตรีกระทรวงต่าง ๆ จะต้องเรียกเอาผู้อำนวยการกลุ่มทุกกรมกอง หรืออธิบดีทุกกรมมาชี้แจงแนวทางว่า ตอนนี้รัฐบาลต้องการจะแก้ไขปัญหาฝนแล้งอย่างไร ? ต้องการจะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างไร ? แล้วทุกกรมกองทำไปในทางเดียวกัน ไม่อย่างนั้นแก้ให้ตายก็ไม่สำเร็จ

เรื่องนี้ถามว่ารัฐบาลรู้ไหม ?..รู้ รัฐมนตรีรู้ไหม ?..รู้ แต่ด้วยความที่ต้องบอกว่าตัวกูของกูมาก ทำอะไรก็หวังที่จะดึงคะแนนเสียง ในเมื่อทำทุกอย่างเป็นการเมืองจนเกินไป จึงทำให้เกิดความฉิบหายวายป่วงอย่างที่เห็นในปัจจุบัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 19-10-2019, 22:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่าพิจารณาขันธ์ ๕ คือร่างกาย แต่ทีนี้ขันธ์ ๕ มีรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ถ้าเราพิจารณาทีละอัน ?
ตอบ : พระพุทธเจ้าให้พิจารณาทีละอย่างอยู่แล้ว ไปพิจารณาทีเดียว ๕ อย่างก็เพี้ยนเท่านั้น

ถาม : ตามสายเขาจะไปล้อกับปฏิจจสมุปบาท ?
ตอบ : ไม่ต้องไปยุ่งปฏิจจสมุปบาท ถ้าไม่ใช่คล่องตัวระดับพระอนาคามีจะจับไม่ติด พวกนั้นหาเรื่องทำให้ยาก

พระพุทธเจ้าให้ดูทีละอย่าง บอกทีละอย่าง ถามทีละคำ รูปัง นิจจัง วา อนิจจัง วา ติ รูปนี้เที่ยงหรือไม่เที่ยง ? อนิจจัง ภันเต ไม่เที่ยงขอรับ ยัมปะนา นิจจัง ทุกขัง วา ตัง สุขัง วาติ สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุข ? ทุกขัง ภันเต เป็นทุกข์ขอรับ

พระองค์ท่านว่าไปทีละอย่าง แบบสอนเด็กอนุบาลเดินทีละก้าวเลย แล้วก็ทีละอย่าง ไม่ใช่ทีเดียว ๕ อย่าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 19-10-2019, 22:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาเราพิจารณา บางวันไม่รับฟังเลยค่ะ ต่อให้มัน...?
ตอบ : ต่อให้ไม่เอาอะไรก็ต้องทำ เหมือนกับว่าถึงเวลาถ้ากระแสน้ำแรงมาก เราว่ายอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะไปได้ แต่ก็ต้องจ้วงเอาไว้ ไม่อย่างนั้นก็จะไหล
ตามกระแสนั้นไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 19-10-2019, 22:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ส่วนใหญ่แล้วพวกเราก็ยังเลือกทำบุญในส่วนของสังฆทาน วิหาร แล้วก็ธรรมทาน ถ้าบอกว่ามีประโยชน์น้อย พวกเราก็คงจะช็อกตาตั้ง เพราะอย่าลืมว่า แม้ว่าจะเป็นสังฆทาน วิหารทาน และธรรมทาน ก็ยังอยู่ในระดับของทานเท่านั้น ยังมีระดับของศีลที่สูงกว่านั้น ระดับของภาวนาที่สูงกว่านั้น แต่หลายคนกลับติดอยู่แค่นี้


ผลอะไรไม่ดีไม่งามเกิดขึ้นกับตัวเอง ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำทานอย่างเดียว โดยหวังว่าผลของทานจะไปแก้ไขวิถีชีวิตของเราได้ดีขึ้น ต้องบอกว่าหลงทางไปไกล สิ่งที่จะแก้ไขชีวิตของเราให้ดีขึ้นก็คือการภาวนา ถ้าสมาธิทรงตัว ปัญญาก็จะเกิด จะเห็นหนทางแก้ไขได้เร็วยิ่งขึ้น

ถามว่าแล้วทำทานไม่ถูกหรือ ? ถูก...แต่ถูกไม่หมด เพราะว่าส่วนใหญ่เราไปหวังผลของทานในการเปลี่ยนแปลง..ซึ่งยาก การทำทานเราทำตามหน้าที่ ทำตามรูปแบบ ทำตามกำลังใจที่เราสละออก แต่ผลที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้ดีขึ้นอย่างชัดเจนก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา เพราะว่าควบคุมกาย วาจา ใจของเราทั้งหมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 19-10-2019, 22:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"แต่ปัจจุบันนี้จำนวนมากด้วยกัน ถึงเวลา เอ้า...ไปทำบุญ ดวงไม่ดี...ไปทำบุญ ถ้าอยากจะดวงดีจริง ๆ ให้ภาวนาไว้ทุกวัน เช้า กลางวัน เย็น หรือตลอดทั้งวันได้ยิ่งดี ไม่ใช่ดวงไม่ดีแล้วไปทำทาน เหมือนกับภูเขาถล่มทับแล้วเอาไม้จิ้มฟันไปค้ำไว้ โอกาสค้ำอยู่มีน้อยมาก แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย..!

เพราะฉะนั้น..ถ้าภูเขาถล่มทับก็ต้องเอาระดับภูเขาไปค้ำไว้ ก็คือเรื่องของ ศีล สมาธิ ปัญญา แต่พวกเรามักถนัดในการซื้อความสบายใจ ได้จ่ายเงินทำทาน มักง่าย..! ให้ไปตั้งหน้าตั้งตาขัดเกลารักษาศีลตัวเอง ให้ไปนั่งสมาธิภาวนารู้สึกว่ายาก เพราะฉะนั้น..ทำให้ตายก็ได้ผลแค่หน่อยหนึ่ง แล้ว "ไอ้เต้ย" ก็จะไปสงสัยว่า ทำมาทั้งชีวิตทำไมได้แค่นี้ ? ปล่อยไปเถอะ...ให้โง่ต่อไป กัณฑ์เทศน์ก็คือธรรมทาน ก็ยังเป็นทานอยู่ดี ส่วนการขัดเกลา กาย วาจา ใจ ของตัวเองไม่มีเลย เมื่อไร ๆ ก็ยังหลุดยังรั่วอยู่ตลอด แล้วแม่ง..จะดีขึ้นได้อย่างไร ?!!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 19-10-2019, 22:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้กรุงเทพฯ อ่วม เจอทั้งฝน เจอทั้งลูกเห็บ ที่น่ากลัวกว่าก็คือทองผาภูมิ เพราะว่าเดี๋ยวนี้ทองผาภูมิเวลาฝนตก บรรยากาศเหมือนอย่างกับหน้าฝนทางยุโรป คือฝนมาพร้อมกับความหนาว โอกาสที่จะเปลี่ยนเป็นหิมะเมื่อไรก็ไม่รู้ แต่ดูแนวโน้มแล้วว่ามีแน่ ในส่วนนี้ละไว้ไม่ต้องกล่าวถึง

ที่อยากจะพูดก็คือว่า ช่วงปลายฝนต้นหนาว บ้านไหนมีคนแก่ บ้านไหนมีคนป่วยต้องดูแลให้ดี พลาดเมื่อไรก็ไปเมื่อนั้นแหละ เพราะว่าพวกเราไม่ค่อยได้ศึกษาเรื่องโบราณ ๆ เท่าไร ช่วงอากาศเปลี่ยนร่างกายคนที่อ่อนแอจะปรับไม่ทัน คนแก่อย่างหนึ่ง คนป่วยอย่างหนึ่ง ถ้าดูแลไม่ดีก็ไปหมด เราก็มักจะคิดว่าไม่เป็นไร กว่าจะรู้ตัวก็แข็งทื่อไปแล้ว

ช่วงเดือนนี้ที่ทองผาภูมิ พระมรณภาพไป ๒ รูป รูปหนึ่งเป็นเจ้าคณะตำบล เป็นพระอุปัชฌาย์ เป็นเจ้าอาวาส คงจะหาใครทดแทนได้ยาก เพราะว่าท่านเป็นกะเหรี่ยงแต่มีการศึกษาสูง แล้วขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งความเป็นกะเหรี่ยงดั้งเดิม ท่านเป็นศูนย์รวมใจของชาวบ้านได้ดีมาก ปรากฏว่ามรณภาพด้วยโรคมะเร็ง"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 140 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 19-10-2019, 22:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ส่วนอีกท่านหนึ่งเป็นพระแก่อายุ ๘๓ ปี นอนอยู่ กว่าลูกวัดจะไปเจอก็แข็งไปแล้ว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อาตมาก็เพิ่งจะไปเยี่ยมหลวงพ่อเผ่า เจ้าอาวาสวัดเขาถ้ำสหกรณ์นิคม ท่านเป็นศิษย์สายหลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง นี่ก็เป็นมะเร็ง ก็ต้องบอกว่าไปผิดจังหวะ ไปตอนที่หมอกำลังให้ยาระงับปวดอยู่พอดี หลวงพ่อเผ่านี่ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะว่าท่านเป็นพระสายปฏิบัติโดยตรง ถ้าฉวยโอกาสเป็นนี่จะได้ดีไปเลย

ก็แปลว่าช่วงปีที่ผ่านมาคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ หรือว่าจังหวัดกาญจนบุรี สูญเสียเจ้าคณะปกครองหลายรูป โดยเฉพาะเป็นมะเร็ง ซึ่งตรงส่วนนี้จะว่าเป็นเรื่องน่ากลัวก็ใช่ แต่ให้เป็นเรื่องน่ากลัวให้เราเห็นแล้วไม่อยากเกิด ไม่อยากมีร่างกายนี้ที่เป็นรังของโรค ไม่อยากเกิดมาในโลกนี้ที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ได้ ไม่ใช่ไปกลัวแล้วหาทางหลบหนี

แล้วอีกอย่างเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บ เกิดจากเศษกรรมปาณาติบาต ถ้าในอดีตฆ่าคนฆ่าสัตว์ไว้เยอะ ชาตินี้ก็ป่วยบ่อยป่วยหนัก ถ้าในอดีตประกอบด้วยเมตตาบารมี ก็จะไม่ค่อยเจ็บไข้ได้ป่วยกับใคร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 27-10-2019 เมื่อ 08:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 141 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 19-10-2019, 22:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เมื่อประมาณอาทิตย์ที่ผ่านมา ไปปลุกเสกวัตถุมงคลให้กับที่พักสงฆ์เขาธัมมสรณ์ อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี เขาไปขุดกรุเอาวัตถุโบราณออกมาหลายรูป...! ก็ประมาณ ๙๐ กว่าปี มีที่หนุ่มมากเลยก็คือท่านเจ้าคุณสมชาย วัดปริวาส ท่านก็ ๖๗ ปี หลวงพ่อบุญส่ง ๖๔ ปี พอถึงเวลาหลวงปู่หลวงพ่อแต่ละรูปเข้ามา อาตมาก็รีบลุกไหว้เอาไว้ก่อน จนกระทั่งหลวงพ่อเจ้าคุณสมชายท่านสงสัย เลยบอกกับท่านว่า ที่เขานิมนต์มานี่ ๖๐ อย่างผมเป็นเด็กไปเลยครับ มั่นใจได้เลยว่ามีแต่คนแก่กว่า ว่าแล้วก็ไหว้เอาไว้ก่อน

ที่เอ่ยถึงอย่างนี้เพราะว่า หลวงปู่หลายรูปที่อายุเกิน ๙๐ ปีแล้วร่างกายยังแข็งแรงมาก แสดงว่าปาณาติบาตเก่ามีน้อยมาก หลวงพ่อสมชายกับหลวงพ่อบุญส่งไม่ได้อยู่ในระดับ ๙๐ กว่าอย่างเขา แต่ในระดับเลข ๖๐ กว่า อาตมายังเกือบจะเล็กที่สุด คราวนี้พอมีโอกาสสนทนาพาทีกัน มีหลวงปู่อายุมาก ๆ หลายท่านบอกว่า เดี๋ยวนี้แก่แล้วธาตุไฟน้อย ฉันอะไรลงไปหน่อยหนึ่งก็อืดอิ่มไปทั้งวัน เข้าท่าดีเหมือนกันนะ ถ้าใครอ้วน ๆ แล้วธาตุไฟน้อยน่าจะอยู่ได้นาน ดังนั้น...ทางเปลือกนอกเราเห็นว่าท่านยังแข็งแรง แต่จริง ๆ แล้วสภาพร่างกายก็เสื่อมไปตามอายุ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 21-10-2019, 08:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พอรุ่งขึ้นก็ไปอีก ๒ งาน ไปงานออกนิโรธกรรมของครูบาวิฑูรย์ ก็เป็นเรื่องแปลก...ครูบาวิฑูรย์ท่านเข้านิโรธกรรม ๙ วัน อาตมาเข้า ๓ วันน้ำหนักหายไป ๔ กิโลกรัม ครูบาวิฑูรย์เข้า ๙ วัน รู้สึกว่าไม่มีอะไรหายเลย มีแต่จะมากขึ้น..!

แต่นึกไปนึกมาว่าอาตมาแก่จริง ที่แก่จริงเพราะว่าครูบาวิฑูรย์นั้น อาตมารู้จักตั้งแต่ท่านยังเป็นสามเณร แล้วก็ช่วยประคับประคองกัน ก็ไม่รู้ว่าจะยืนหยัดเป็นหลักให้กับญาติโยมได้นานเท่าไร เพราะว่าส่วนใหญ่แล้ว บรรดาพระที่นิมนต์ไปเป็นเนื้อนาบุญให้กับพวกเราในช่วงวันที่ ๑๒ สิงหาคมนั้น มาสายพระโพธิสัตว์เสียเกือบทั้งหมด ซึ่งในเมื่อมาสายพระโพธิสัตว์ ถึงเวลาแล้วโอกาสที่จะเลี้ยวผิดจะมีสูงมาก ถึงได้บอกว่าต้องช่วยกันประคับประคอง ช่วยกันหนุนเสริม ขณะเดียวกันถ้าท่านอาวุโสน้อยกว่า ก็ช่วยตักเตือน

เพื่อที่ให้อย่างน้อย ๆ พวกเราได้มีพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเอาไว้เป็นเนื้อนาบุญบ้าง เพราะว่าทำบุญกับบุคคลที่ไม่มีศีลเป็น ๑๐๐ ครั้ง ก็สู้ทำบุญกับบุคคลที่มีศีลแล้วศีลขาดไม่ได้ บุคคลที่มีศีลและศีลขาด เราทำบุญด้วย ๑๐๐ ครั้ง สู้บุคคลที่มีศีลบริสุทธิ์ครั้งเดียวก็ไม่ได้ ไล่ขึ้นไปจนถึงศีล สมาธิ ปัญญา ในเมื่อส่วนใหญ่แล้วพื้นฐานการปฏิบัติท่านแน่น แต่เนื่องจากว่าข้อจำกัดของความเป็นพระโพธิสัตว์ ก็คือโอกาสเข้าถึงมรรคผลนั้นไม่มี ก็ต้องช่วยกันประคองสุดชีวิต ท่านจะได้ไม่หลุดออกนอกทาง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 137 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 21-10-2019, 08:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หลังจากออกจากงานครูบาวิฑูรย์ ซึ่งอาตมาก็ทำอย่างนั้นทุกปี ก็คือไปวัดท่าซุงต่อ เพราะว่างานมักจะเป็นวันเดียวกัน พอไปวัดท่าซุงคราวนี้ก็เวรกรรมแล้ว แก่ขนานแท้เลย เพราะว่ารุ่นพี่ก็เหลือน้อยลง ๆ เจ้าอาวาสวัดท่าซุงรูปปัจจุบันก็เป็นน้องตั้ง ๔ - ๕ พรรษา ก็เลยกลายเป็นว่าต่อให้ไม่สำนึกตัวว่าตัวเองแก่ ก็ยังต้องมีอะไรที่คอยเตือนสติอยู่เสมอให้รู้ว่าแก่จริง ๆ แล้ว



เพราะว่าญาติโยมหลายท่านมา อาตมาว่าเป็นคนจำคนแม่น ยังเกือบจะจำไม่ได้ โยมผู้หญิงบางคนก็ผมขาวหมดหัวแล้ว บางคนก็อ้วนจนผิดรูปผิดร่างไปเลย บางคนก็มาเดินหาอาตมา ซึ่งไม่น่าจะต้องหาเพราะว่ายังมีเค้าเก่าอยู่มาก อย่างไรอาตมาก็เปลี่ยนน้อย แต่ปรากฏว่าอาตมาจำเขาได้ทุกคน แต่บางคนมาเดินหาว่าพระอาจารย์เล็กนั่งอยู่ตรงไหน..? น่าตายมาก...! แค่ ๒๐ กว่าปีจำกันไม่ได้เสียแล้ว


คราวนี้ในส่วนที่เห็นชัดก็คือบรรดาคนรู้จักเก่า ๆ ล้มหายตายจากไปมาก ที่อยู่ก็เฒ่าชะแรแก่ชรา ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเตือนตัวเองให้เร่งรัดในเรื่องของการปฏิบัติให้มากไว้ เพราะว่าสังขารร่างกายไม่รู้ว่าจะอยู่ได้นานเท่าไร ถ้าเรามัวแต่ประมาทอยู่ พอถึงเวลาไม่ได้ความดีอย่างที่หวัง ก็จะกลายเป็นเสียชาติเกิด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 135 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 21-10-2019, 08:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ตอนนี้อีกท่านหนึ่งก็คือหลวงพ่อสมปอง ต้องบอกว่าเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก ไม่นึกว่าท่านจะทรมานมานานขนาดนี้ ๒๐ กว่าเกือบ ๓๐ ปี ปกติคนเป็นมะเร็งไม่น่าจะอยู่ได้นานขนาดนี้ แต่ท่านก็อยู่ของท่านมาได้

เหตุที่อาตมารู้ชัดก็เพราะว่าช่วงที่ท่านเป็นใหม่ ๆ ท่านมาถามว่ามีไผ่ดำที่ไหนบ้าง ไม่ใช่ไพลนะ ไผ่...ต้นไผ่ ท่านมาถามว่า “หลวงพี่เดินป่ามามาก เจอไผ่ดำที่ไหนบ้าง ?” ก็บอกท่านว่าเคยเจอที่ดอยอ่างขาง “ช่วยหาให้หน่อยครับ ผมจะเอามาทำยา” ถามท่านว่าจะรักษาอะไร ? “มะเร็งครับ” ก็ไม่น่าเชื่อว่า...จากที่ท่านรู้ตัวว่าเป็นมะเร็ง มาจนถึงปัจจุบันนี้ ลากยาวมาได้ ๒๐ กว่าปี เพราะว่าปกติที่รู้ก็คือ มักจะไปภายในไม่กี่ปี

โดยเฉพาะถ้าเป็นมะเร็งตับ กว่าอาการจะออกก็มักจะระยะสี่ไปแล้ว เกินกำลังที่หมอจะรักษา คราวนี้ที่กล่าวมาก็คือว่าธรรมดาของร่างกายเป็นรังของโรค และสภาพอากาศที่เปลี่ยนทำให้ร่างกายปรับตามไม่ทัน ธาตุสี่แปรปรวน เพราะยิ่งอายุมาก ๆ เลือดลมอ่อนโทรม ไม่ได้ไหลคล่องเหมือนกับหนุ่ม ๆ สาว ๆ เผลอเมื่อไรก็มักจะไปเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 21-10-2019, 08:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เพราะฉะนั้นช่วงรอยต่อของอากาศ คนแก่หรือคนป่วยมักจะตายกันมาก แต่คราวนี้ปัจจุบันรอยต่อของอากาศไม่ชัดเจน...เป็นทั้งปี ปีนี้ต้นไม้ที่วัดท่าขนุนผลัดใบไป ๗-๘ รอบ พอถึงเวลาฝนหมดสักวันสองวัน อากาศเย็นเหมือนกับหน้าหนาว ต้นไม้คิดว่าหน้าหนาวแล้วก็ทิ้งใบ ทิ้งใบได้ ๒-๓ วันฝนตก...ก็แตกใบใหม่ แม้กระทั่งต้นไม้ยังทำใจไม่ถูกเลยว่านี่คือฤดูอะไร แต่คนเราไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนต้นไม้ พออากาศเปลี่ยน สุขภาพชำรุด ก็มักจะไปง่าย ๆ

อาตมาเองช่วงที่ผ่านมาต้องบอกว่าเกิดอาการพื้นแกว่ง ไม่ใช่บ้านหมุนนะ เวลาเดินแล้วเหมือนกับพื้นตะแคงไปตะแคงมา ก็คืออาการบ้านหมุนนั่นแหละ แต่อาตมาไม่รู้สึกว่าหมุน...รู้สึกว่าแกว่ง ตอนแรกก็คิดว่าเกิดจากพักผ่อนไม่พอ..มีงานตลอด แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ เป็นกระดูกคอเคลื่อนไปทับเส้นประสาท ไปให้หมอนวดเขาดันกรึ๊บเดียวหาย ถ้าไปหาหมอปัจจุบัน หมอปัจจุบันก็ให้กินยาปรับความดัน บอกว่าน้ำในหูไม่เท่ากัน ซึ่งอาตมาโดนมาจนเข็ด ก็เลยเลิกเชื่อหมอปัจจุบัน หันไปเอาใจใส่กับหมอแผนโบราณแทน

ใครที่มีอาการบ้านหมุนโปรดระวังไว้ด้วย แสดงว่าเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ค่อยจะพอ อาการที่เลือดเลี้ยงสมองไม่ค่อยจะพอก็มักจะเป็นเพราะว่า กระดูกเคลื่อนไปทับเส้นประสาท กระดูกที่จะเคลื่อนไปเบียดประสาทได้ ก็คือกระดูกคอกับกระดูกกราม ถามว่ากรามเคลื่อนอย่างไร ? อ้าปากกว้างไปก็เคลื่อนได้ เคี้ยวอาหารชิ้นใหญ่ไป แข็งไป ก็เคลื่อนได้...
อนาถชีวิต..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 04:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 21-10-2019, 09:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ฝนตกที่บ้านเติมบุญ "สมัยเด็ก ๆ อาตมาชอบอาบน้ำฝน ปรากฏว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งกำลังเล่นน้ำฝนอยู่แล้วฟ้าแลบแปล๊บ โดนไฟดูดกระโดดเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าไฟฟ้าลงมากับน้ำได้อย่างไร ใครจะลองประสบการณ์นี้ดูบ้างก็ได้

เวลาฝนตกก็อาบน้ำฝน แต่ก็อย่าไปอาบแบบพระสมัยพุทธกาลนะ เพราะว่าอินเดียหาน้ำยาก ท่าน้ำก็มีน้อย คำว่าท่าน้ำก็คือสถานที่เหมาะที่จะลงไปที่แม่น้ำ ที่ไหนที่เหมาะ มีท่าน้ำอยู่ คนก็ประเดประดังไปอยู่ที่นั่น พระท่านก็ลงไปสรงน้ำกันที่ท่าน้ำกันเยอะแยะ พระเจ้าแผ่นดินเสด็จไปจะสรงน้ำ เจอพระอยู่ท่านก็เกรงใจ ก็นั่งรอจนจะค่ำ ประตูเมืองจะปิดก็ต้องเสด็จกลับ พระองค์จึงไปกราบทูลพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็เลยสั่งให้พระที่อยู่ในมัธยมประเทศ คือภาคกลางของชมพูทวีป ๑๕ วันอาบน้ำได้ทีหนึ่ง ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต..! คนไทยเราขนาดไปยุโรปหน้าหนาวก็ยังอาบน้ำกันจัง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 05:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 21-10-2019, 09:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"คราวนี้พวกเราเคยชินกับการอาบน้ำ เช้า กลางวัน เย็น กลางคืน ถ้าไปเจอ ๑๕ วันอาบได้ครั้งหนึ่งก็ตาย แต่ถ้าเราเคยชินกับการอาบน้อย ๆ นาน ๆ ที ร่างกายก็จะปรับได้ เหมือนกับบรรดาพวกบุชแมนที่อยู่ในทะเลทราย ไม่ต้องพูดถึงน้ำอาบหรอก น้ำกินยังหายากเลย เขาอยู่ของเขาได้โดยไม่ต้องอาบน้ำ เพราะว่าร่างกายปรับเอง พอถึงเวลารู้สึกว่าตัวสกปรก ก็เอาฝุ่นทรายขึ้นมาถูตัวขัดตัวหน่อยหนึ่ง แล้วปัดทิ้งไปก็ใช้ได้แล้ว เป็นพวกเราบ้างก็คงจะพิลึก

เขาทำได้เพราะว่าบ้านเขาร้อนแห้ง อย่างของอินเดียแบบนั้นอากาศแห้งจัดมาก ผู้หญิงเขาซักส่าหรีเสร็จสะบัด ๆ แล้วคลี่กางไว้เหนือหัว พักเดียวก็แห้งแล้ว อากาศไม่มีความชื้น แต่บ้านเราความชื้นในอากาศมีมาก พอถึงเวลาความชื้นในร่างกายระเหยออกไปชนกับความชื้นของอากาศ ถ้าไปไม่ได้ก็จะกลายเป็นเหงื่อ ในเมื่อพวกเรามีเหงื่อมาก ไม่อาบน้ำก็ไม่ไหว แต่ของเขาไม่มีเหงื่อเลย เพราะฉะนั้น การห้ามอาบน้ำก่อน ๑๕ วัน พระองค์ท่านถึงได้ห้ามเฉพาะมัธยมประเทศ คือประเทศที่เป็นส่วนกลางของอินเดีย

อย่างของพวกเราถ้านับก็เป็นปัจจันตประเทศ เป็นประเทศชายขอบ ถ้าปัจจันตประเทศให้อาบได้เป็นนิตย์ ไม่ต้องอาบัติ ก็คือไม่ปรับว่าศีลขาด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 05:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 21-10-2019, 09:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ต้องบอกว่าศีลข้อนี้เกิดจากการที่ไม่ได้คิดถึงคนอื่น พอตัวเองมีโอกาสลงก็แช่เสียเพลิดเพลินเจริญใจไม่ขึ้นเสียที จนพระเจ้าแผ่นดินท่านลงไปอาบไม่ได้ ถ้าทุกคนรู้จักเกรงใจคนอื่น ใช้ทรัพยากรแต่พอสมควร โลกเราก็คงไม่ย่ำแย่จนถึงปัจจุบันนี้ ทุกวันนี้ฝนฟ้าไม่ค่อยจะเป็นไปตามฤดูกาล เพราะว่าพวกเราไปล้างผลาญทรัพยากรเสียมากจนเกินไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 05:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 135 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 21-10-2019, 09:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การปฏิบัติธรรม ถ้าเราถอดถอนในอุปาทานทั้งหมด ไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติไป อยากทราบว่ามาถูกทางหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ถ้าทำได้ก็มาถูกทาง แต่ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย

ถาม : ถ้าดับทุกอย่างหมดแล้ว ดับภพ ดับชาติ เห็นแต่พระพุทธเจ้าอยู่เหนือเศียรเกล้า อย่างนี้มาถูกทางไหมคะ ?
ตอบ : นั่นเขาเรียกว่าใช้คำพูดผิด การดับภพดับชาติถ้าทำได้จริงก็ไปพระนิพพานนานแล้ว ไม่มาเกิดใหม่หรอก เพราะคำว่าภพก็คือที่เกิด ชาติก็คือการเกิด เราเองแค่ใช้กำลังสมาธิข่มกิเลสลงไปชั่วคราวเหลือแต่ภาพพระ แล้วก็ไปบอกว่าดับภพดับชาติ ภาษาแบบนี้ไปคุยกับคนอื่นเขาไม่รู้เรื่องหรอก

ถาม : ก็คือให้จับภาพพระ ?
ตอบ : ทำอะไรก็ได้ อย่าให้ รัก โลภ โกรธ หลง กินใจเราได้ แล้วก็ยืดระยะให้ยาวนานที่สุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2019 เมื่อ 05:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:44



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว