กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #101  
เก่า 15-05-2020, 03:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ขออนุญาตเรียนถามเพิ่มเติมว่า จากคำถามก่อน บารมีของผมอยู่ในขั้นสามัญบารมี อุปบารมี ปรมัตถบารมี ต้น กลาง ปลาย ประมาณไหนของผู้ปรารถนาพุทธภูมิ และควรจะพัฒนาต่ออย่างไรครับ ?

ตอบ : พุทธภูมิตั้งแต่อุปบารมีขั้นกลางขึ้นไป ส่วนมากจะตัดศีรษะ ตัดแขน ตัดขา ควักดวงตา ควักหัวใจ เชือดเนื้อตัวเอง เพื่อผู้อื่นได้ ส่วนพุทธภูมิปรมัตถบารมี จะมาเน้นในเรื่องของอารมณ์พระอริยเจ้า โดยเฉพาะศึกษาพระนิพพานให้แจ้ง ลองเดาดูว่าของคุณอยู่ในระดับไหน ? ส่วนการพัฒนาต่อไปก็คือเกิดแล้วเกิดอีก บำเพ็ญไปเรื่อย ต้องมีสักวัน..ต้องมีสักวัน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 255 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #102  
เก่า 15-05-2020, 03:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ขออนุญาตสอบถามพระอาจารย์เรื่องการทำฤกษ์พรหมประสิทธิ์ครับ คือผมทำตามปฏิทินไปแล้ว มีโยมมาขอฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ ตามที่พระอาจารย์บอกว่า วันที่ ๑๙ มิ.ย.๖๓ เป็นแรม ๑๔ ค่ำเป็นวันพระ วันที่ ๒๐ มิ.ย.๖๓ ต้องเป็นขึ้น ๑ ค่ำ แต่ในปฏิทินทั่วไปเป็นแรม ๑๕ ค่ำเป็นวันพระ ผมตรวจสอบกับปฏิทิน ๑๕๐ ปี โดยศักดิ์สิทธิ์ สิทธินันท์แล้วตรงกับที่พระอาจารย์บอก คือปี ๒๕๖๓ นี้มีแค่แรม ๑๔ ค่ำเดือน ๗ แล้วไปขึ้น ๑ ค่ำเดือน ๘ เลย
คำถามคือ ตั้งแต่วันที่ ๒๐ มิ.ย.๖๓ เป็นต้นไป ผมควรทำฤกษ์พรหมประสิทธิ์ใหม่ตามความเป็นจริง แล้วให้ฤกษ์ที่ถูกต้องกับโยมไป หรือควรยึดฤกษ์ตามปฏิทินที่ผิดครับ

ตอบ : เชื่อถือแบบไหน ให้ใช้แบบนั้น

ถาม : ตามฤกษ์ปีนี้ วันพฤหัสบดี เป็นธงชัย วันอาทิตย์ เป็นอธิบดี วันพุธ เป็นอุบาทว์ วันอังคาร เป็นโลกาวินาศ ถ้าฤกษ์พรหมประสิทธิ์ตรงกับวันไม่ดีเหล่านี้ เราควรเลี่ยงใช่ไหมครับ ?

ตอบ : หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า พรหมประสิทธิ์เป็นฤกษ์ใหญ่ คลุมฤกษ์ทั้งหมด ถ้าฤกษ์อื่นบอกว่าไม่ดี แต่ฤกษ์พรหมประสิทธิ์บอกว่าดี ให้ใช้ตามฤกษ์พรหมประสิทธิ์ เพื่อป้องกันพวกที่รู้มากแต่รู้ไม่จริง ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง

ถาม : ถ้าโยมนิมนต์พระ ๕ รูป แล้วระบุชื่อพระมาทั้ง ๕ รูป โยมจะได้อานิสงส์ สังฆทานไหมครับ ?

โยมเคยให้ผมนิมนต์พระ ๙ รูป แล้วผมระบุชื่อพระ ๔ รูป อีก ๕ รูป แล้วแต่วัดจะจัด ผมเข้าใจว่าโยมจะได้อานิสงส์สังฆทานครับ

ตอบ : จะระบุเจาะจงอย่างไร ถ้าได้ ๔ รูปขึ้นไปก็เป็นสังฆทาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 236 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #103  
เก่า 15-05-2020, 03:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เงินที่สวดพระคาถาเงินล้าน สามารถนำมาบูชาวัตถุมงคลในเว็บวัดท่าขนุน ได้หรือไม่ครับ ?

ตอบ : ต้องดูว่าวัตถุมงคลที่เราจะบูชานั้น ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร ? เงินจากการสวดพระคาถาเงินล้าน ปกติแล้วหลวงพ่อวัดท่าซุงแนะนำให้ถวายสังฆทาน ถ้าถือตรงจุดนี้ งานบุญอะไรที่เป็นสังฆทาน และสูงกว่าสังฆทาน เช่น วิหารทานหรือธรรมทาน ก็ใช้เงินก้อนนี้ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 268 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #104  
เก่า 15-05-2020, 06:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ไม่ต้องใช้อำนาจกสิณหรอก แค่คาถาก็พอแล้ว"
"ไหวหรือครับท่านปู่ ?"

"อวี้หวงต้าตี้" กวักพระหัตถ์ ก็มีเทวดาหลายองค์เดินออกมาข้างหน้า
"นอกจาก "พี่จุก" กับ "แม่มณี" แล้ว ที่เหลือมีใครบ้างครับนี่ ?"

"ผมวรุณเทพครับ ส่วนท่านนี้วายุเทพ ท่านนี้สีตเทพ ท่านนี้วลาหกเทพ ท่านนี้ปชุนเทพครับ"

"กฎเกณฑ์กติกาในการช่วยเหลือครบถ้วนไหม ?" ท่านปู่หันไปถาม "พี่จุก" เลขานุการส่วนพระองค์

"ครบถ้วนสมบูรณ์ครับ สถานที่นี้มีการสวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ ทุกรูปทุกคนปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการอุทิศส่วนกุศลให้กับเทวดาทั้งหลายมีเป็นปกติครับ"

"ถ้าอย่างนั้นอนุญาตให้ดำเนินการได้"

วลาหกเทพเปล่งรัศมีสีน้ำเงินเข้ม มหาเมฆปรากฏขึ้นรอบทิศ วายุเทพหมุนฝ่ามือรอบเดียว พลังสีใสกระเพื่อมบังเกิดลมหอบเอาหมู่เมฆเข้ามารวมกัน สีตเทพโอบสองมือเข้าหากัน พลังงานสีฟ้าใสเย็นยะเยือกกดหมู่เมฆลงต่ำ จากมุมมองนี้เห็นว่าแทบจะติดพื้น วรุณเทพและปชุนเทพผลักสองมือกดซ้ำ ปรากฏสายฟ้าสีม่วงอ่อนแลบแปลบปลาบและฟ้าร้องครืนครั่น พลังงานจากเทพทั้งห้าหมุนวนผสมกลมกลืน ห่อหุ้มหมู่เมฆเอาไว้เหนือเป้าหมาย

"จังหวะนี้แหละลูก" "แม่มณี" ให้สัญญาณ

"สัมมาธารัง ปะเวจฉันโต กาเลเทโว ปะวัสสะตุ"

พระคาถาขอฝนประหนึ่งการหมุนเปิดก๊อก สายฝนพร่างพรูลงสู่พื้นพสุธาในทันใด

"เมื่อมีสิ่งที่ง่ายกว่าก็อย่าไปทำสิ่งที่ยาก"
"ผมว่าสิ่งที่ท่านปู่และทุกท่านทำยากกว่านะครับ ถ้ากฎเกณฑ์กติกาไม่ครบก็ทำไม่ได้ การใช้อานุภาพอาโปกสิณใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น ง่ายกว่าตั้งเยอะครับ"

"แต่เจ้าก็ต้องไปรับกฎของกรรมที่ฝืนธรรมชาติ ในเมื่อสามารถ "ของบประมาณ" ได้ ก็ควรที่จะขอ"

"กราบขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างยิ่งครับ ขอสัก ๑ ชั่วโมงนะครับ ที่ผ่านมาตกแบบพื้นไม่ทันจะเปียกบ้าง ยังไม่ทันจะทำให้ความร้อนหมดไปบ้าง อากาศยิ่งระอุมากขึ้นไปอีกครับ"

"ได้ตามนั้น"

เสียงระฆังเรียกให้เตรียมตัวทำวัตรเช้าดังขึ้นพอดี ทำไมระยะนี้ฝันบ่อยแท้วะ ?!!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2020 เมื่อ 07:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 316 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #105  
เก่า 16-05-2020, 06:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พลิกชีวิตกันจริง ๆ ครับ ขายกันกระจายเต็มเฟซฯ เลย ผมว่าหลายคนน่าจะเปลี่ยนอาชีพไปขายวัตถุมงคลของหลวงพ่อเลยครับ"

"ช่างเขา..ถือว่ารู้จักทำมาหากิน แต่ละคนย่อมมีบริษัทบริวารของตน เขาจะได้อำนวยความสะดวกให้ด้วย"

"ผมทึ่งตรงที่ว่า วัตถุมงคลวัดไหนก็ขายไม่ได้สักแห่ง ยกเว้นของวัดท่าขนุนและวัดที่หลวงพ่อเมตตาไปช่วยเสกให้"

"เป็นบุญของเขาที่พระท่านช่วยเมตตาสงเคราะห์ วัดเหล่านี้ส่วนใหญ่ก็ทำงานเพื่อศาสนาอย่างเข้มแข็งจริงจัง สมควรที่จะได้รับการช่วยเหลืออยู่แล้ว"

"ของผมเองพรรคพวกส่งรถมาขอข้าวของเครื่องใช้จนถึงที่วัด ปกติแล้วผมจะเป็นคนส่งให้เอง ทั้งวัดและสำนักสงฆ์หลายสิบแห่ง มาปีนี้เจอโควิดอาละวาด ทำไม่ได้เหมือนเดิม แต่ในเมื่อเขามาขอก็ต้องหาให้ครับ"

"ดีแล้ว.. ทำไปเถอะ ถึงเราจะเดือดร้อนก็ยังเดือดร้อนน้อยกว่าคนอื่นเขา"

"ถ้าผมไม่ได้เกาะแข้งเกาะขาหลวงพ่อผมก็ตายสนิทเหมือนกันครับ ได้บารมีของหลวงพ่อช่วย ก็ยังพอที่จะตื๊อต่อไปได้"

"ต้องบอกว่าเราเคยสร้างบุญร่วมกันไว้ แล้วคุณก็ทำงานเพื่อพระศาสนาอย่างเข้มแข็งจริงจัง ผมเห็นแล้วก็อยากจะช่วย ถือว่าบุญสัมพันธ์ทำให้ทุกอย่างลงตัวพอดี"

"บอกตรง ๆ ว่าอิจฉาหลวงพ่อครับ ผมโฆษณาจนปากจะฉีกถึงหูกว่าที่จะขายวัตถุมงคลได้สักชิ้น ของหลวงพ่อมีแต่คนแย่งกันเอาไปขายให้ เสียดายที่หลวงพ่อไม่เล่นเฟซฯ ครับ ไม่อย่างนั้นจะได้เข้าไปดูเองเลย"

"รักษาใจให้ดี เอ่ยวจีอย่าบกพร่อง ตั้งสติให้ตรงช่อง ความเศร้าหมองจะหมดไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 290 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #106  
เก่า 16-05-2020, 07:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ที่สโตร์ยอดขายพุ่งกระฉูดเลยค่ะ จากเดิมประมาณวันละ ๗ - ๘ แสนบาท บางวันก็ได้แค่ ๔ - ๕ แสนบาท ตอนนี้ไม่ต่ำกว่าวันละ ๑ ล้าน ๓ แสนบาท กราบขอบพระคุณหลวงพ่อมาก ๆ เลยนะคะ มีโอกาสขอนิมนต์ไปเหยียบที่สโตร์อีกสักครั้ง ต้องการอะไรเท่าไรหลวงพ่อเลือกได้เลยค่ะ หนูเต็มใจถวายทุกอย่าง"

"กิจการดีก็ดีใจด้วย อย่าลืมสวด อิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ ๓ จบทุกวัน การภาวนาพระคาถาเงินล้านก็ทำให้สม่ำเสมอ เราต้องสร้างสิ่งที่ดีเอาไว้รองรับด้วย ความดีอื่น ๆ ถึงจะเข้ามาได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-05-2020 เมื่อ 07:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 299 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #107  
เก่า 16-05-2020, 07:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เออหนอ..ดูท่าท่านย่าจะผลักลูกหลานออกไปเป็น "ควายเผือก" กันหมดแล้ว คนอื่นทำมาหากินไม่ได้ ต้องพึ่งโครงการเราไม่ทิ้งกันบ้าง พึ่งตู้ปันสุขบ้าง พึ่งโรงทานของวัดบ้าง แต่ลูกหลานท่านย่าไม่ต้องพึ่งใคร ทำมาหากินกันแบบเพลิดเพลินเจริญใจมาก รวยแล้วจะนึกถึงอาตมาบ้างไหมนี่ ?

อย่าลืมว่าการที่จะเป็น "ควายเผือก" ได้ ก็ต้องมีกฎเกณฑ์กติกาของการเป็น "ควายเผือก" ด้วย ถ้าปฏิบัติไม่ครบตามกฎเกณฑ์ กลับกลายเป็นควายดำหรือควายแท้ ๆ ที่ไม่มีวัวปนเลย ก็อย่าได้โทษท่านย่าและอาตมาเชียวนะ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 300 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #108  
เก่า 17-05-2020, 10:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านอาจารย์วิชชุ อารมณ์ดี ประธานชมรมรวมใจภักดิ์ นำคณะมาค้างคืนที่วัดท่าขนุน ช่วยกันทำความสะอาดวัด จัดเก็บสถานที่ตามความเคยชินที่ทำมาอยู่บ่อย ๆ เป็นระยะเวลาหลายปีติดต่อกันมาแล้ว

"พวกเรายังดีที่มาวัดกัน วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ปกติแล้วนักท่องเที่ยวทั้งไทยและฝรั่งจะเข้ามาเต็มวัด แต่ตอนนี้ก็อย่างที่เห็น ทั้งที่เปิดวัดแล้วก็ยังเงียบเหงา หาคนมาไหว้พระได้ยากเต็มที...

อย่างที่เคยบอกเอาไว้ว่า มารใช้คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว ในการขัดขวางไม่ให้เราสร้างความดี จะได้ไม่สามารถหลุดพ้นไปจากเงื้อมมือของเขา สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-๑๙ ก็เช่นเดียวกัน...

ในระยะแรกก็เกิดอาการระแวง พระกลัวโยม โยมก็กลัวพระ ต่างคนต่างกลัวว่าจะติดเชื้อไวรัสจากอีกฝ่ายหนึ่ง พอเวลาผ่านไป คำสั่งจากหน่วยราชการก็ดี จากคณะสงฆ์ก็ดี แม้ว่าจะออกมาเพื่อความปลอดภัยของทุกคน แต่ก็ซ้ำเติมให้สถานการณ์ของพระพุทธศาสนาย่ำแย่ลงไปเรื่อย...

งานสงกรานต์ไม่สามารถที่จะจัดทำบุญได้ตลอดทั้ง ๓ วัน งานวิสาขบูชาที่ถือว่าเป็นวันสำคัญที่สุดวันหนึ่งของพระพุทธศาสนา ก็ต้องระงับการจัดกิจการงานบุญทั้งหมด ญาติโยมไม่สามารถที่จะไปวัดได้ เพราะว่ามีคำสั่งห้ามตาม พรก.ฉุกเฉิน..!

ต้องบอกว่า "เพื่อนเก่า" ของอาตมาแสบมาก ฉวยโอกาสให้เป็นประโยชน์แก่ตนเองได้ในทุกสถานการณ์ ทำให้ผู้คนซึ่งปกติไม่ค่อยจะเข้าวัดอยู่แล้ว ห่างวัดห่างวาออกไปเรื่อย คนที่เข้าวัดเป็นปกติก็ไม่สามารถที่จะเข้าไปได้...

เราอาจจะคิดว่าสามารถทำบุญออนไลน์ได้ แต่ว่าการทำบุญออนไลน์นั้น บั่นทอนกำลังใจและบารมีของเราลงไปเท่าไรมีใครรู้หรือไม่ ?

ก่อนหน้านี้การไปวัดแต่ละครั้ง ต้องใช้กำลังใจในการเพียรพยายามเป็นอย่างสูง ต้องมีการตั้งกำลังใจที่เป็นบุญกุศลขึ้นมาก่อน แล้วหาค่ารถค่ารา ค่ากินค่าอยู่ ปัจจัยในการทำบุญ กว่าจะไปวัดได้กำลังใจต้องจดจ่ออยู่กับบุญกุศลตลอดเวลา...

ยิ่งถ้าโดนคนในครอบครัวหรือในที่ทำงานขัดขวาง ก็ต้องใช้สติ สมาธิ และปัญญาเป็นอย่างสูง ในการที่จะหาทางไปวัดให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานล่วงหน้าเพื่อสะสมวันลา ต้องใช้ปัญญาในการหาข้ออ้างที่น่าฟังเพื่อให้คนอื่นไม่ขัดขวาง ต้องมีสติที่จะไม่หลุดไปจากกองบุญการกุศลที่ตั้งใจเอาไว้ ต้องมีสมาธิจิตที่เข้มแข็งเพื่อรองรับการกระทบกระแทกจากรอบด้าน เรียกว่าการไปวัดคือการฝึกฝนตนเองให้มีบารมีเข้มแข็งแกร่งกล้ายิ่งขึ้นไปทุกวัน...


แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว ทุกคนคิดว่าทำบุญออนไลน์ก็ได้ ไม่ต้องไปวัดเปิด YouTube ฟังก็ได้ เปิดมือถือดูการถ่ายทอดสดจากวัดก็ได้ ซึ่งก็ได้ตามนั้นจริง ๆ แต่กำลังใจที่ควรได้นั้นไม่มีเหลือ ไม่ต้องใช้สติ สมาธิ หรือปัญญาอะไรเลย..."
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-05-2020 เมื่อ 12:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 266 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #109  
เก่า 17-05-2020, 11:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีดเมื่อไม่ได้ลับ จะหาความคมกล้ามาจากไหน ? เราก็เหลือเพียงการสร้างบารมีโดยการให้ทาน จากการทำบุญออนไลน์ หรือถ้าใครเข้มแข็งพอก็สามารถปฏิบัติสมาธิภาวนาที่บ้าน แต่บรรยากาศก็ไม่ค่อยจะเอื้อให้การปฏิบัติของเราก้าวหน้า ไม่ต้องพูดถึงการใช้กําลังปัญญาฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้ได้เดินทางไปวัด...

ยิ่งการไปวัดเพื่อสร้างบุญสร้างกุศลยากเท่าไร เราก็ยิ่งเห็นทุกข์เห็นโทษในการเกิดมากขึ้น ขนาดบุคคลที่ใฝ่บุญใฝ่กุศลอย่างพวกเรา ยังต้องประกอบด้วยความทุกข์ยากเห็นปานนี้ บุคคลอื่นที่ขึ้นชื่อว่าจะไม่ทุกข์นั้นย่อมไม่มี...

แต่ตอนนี้สถานการณ์ทำให้การฝึกฝนเพื่อให้เกิด สติ สมาธิ ปัญญา น้อยลงจนถึงขนาดสิ้นหนทาง..! การสร้างบารมีเพิ่มขึ้นให้กับตนเองด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา ก็อาจจะเหลือแต่ศีลและสมาธิในเบื้องต้น ไปไม่ถึงปัญญาที่จะช่วยให้เราหลุดพ้นจากกองทุกข์ได้...

การสร้างกองบุญการกุศลด้วยทาน ด้วยศีล ด้วยการภาวนา ก็อาจจะขาดตกบกพร่อง เพราะว่าบรรยากาศไม่เอื้ออำนวย หรือพาให้เข้าใจไขว้เขวไปว่า การทำบุญอย่างเดียวก็พอแล้ว โดยลืมไปว่าการให้ทานนั้นเป็นเพียงกำลังใจของบุคคลในระดับบารมีต้นเท่านั้น ส่วนการให้ทาน รักษาศีล ซึ่งเป็นกำลังใจของบุคคลในระดับบารมีขั้นกลาง และการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ซึ่งเป็นกำลังใจของบุคคลที่มีบารมีขั้นสูงสุดนั้น ย่อมห่างไกลเกินฝัน...

ได้แต่หวังว่าเมื่อรู้ลีลาของมารแล้ว พวกเราจะได้วางกำลังใจในการต่อสู้ได้ถูกต้อง ขออนุโมทนาในความดีที่ทุกท่านได้ร่วมกันทำในครั้งนี้ อย่าปล่อยให้ New Normal มาสร้างช่องว่างให้พวกเราห่างวัดห่างวา จนขาดการเสริมสร้างบุญบารมีของตน...

หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านตั้งฉายาให้กับอาตมาว่า "สุธมฺมปญฺโญ" พร้อมกับแปลให้เองเสร็จสรรพว่า "เป็นผู้มีปัญญาในการปฏิบัติธรรมดีมาก" ขอให้ญาติโยมทั้งหลายซึ่งเคยร่วมบุญกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นผู้มีปัญญาเห็นได้เช่นกันว่า หนทางใดเป็นทางที่ถูกที่ควรในการสร้างบุญบารมีของเรา เพื่อให้ก้าวพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน ขอให้ทุกท่านทุกคนมีพระนิพพานเป็นที่ไปในเบื้องหน้าโดยทั่วกันเถิด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-05-2020 เมื่อ 12:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 299 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #110  
เก่า 18-05-2020, 06:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงการปิดเมืองเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-๑๙ แทบทุกบ้านค่าไฟจะพุ่งกระฉูด ยกเว้นบ้านเติมบุญและวัดท่าขนุน เพราะว่าไม่ได้เปิดบ้านเติมบุญ ทำให้การใช้ไฟฟ้าน้อยลงไปมาก

ส่วนของวัดท่าขนุนนั้น ได้งดจัดงานสำคัญไปหลายอย่าง เช่น งานบวงสรวงไหว้ครูประจำปีและเป่ายันต์เกราะเพชร งานทำบุญสงกรานต์ทั้ง ๓ วัน งานวันวิสาขบูชาซึ่งมีทั้งการทำบุญ การมอบทุนการศึกษา การบวชพระ การวางผางประทีป และการเวียนเทียน โดยเฉพาะการหล่อพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อเงินปิดทอง ที่โดนทางราชการขอให้จำกัดคนเข้าวัดไม่เกิน ๕๐ คน

ในเมื่อคนน้อย การใช้น้ำใช้ไฟย่อมน้อยลงไปด้วย บ้านเติมบุญและวัดท่าขนุนจึงสวนกระแส แทนที่จะจ่ายค่าไฟมากขึ้น ก็กลายเป็นจ่ายน้อยลง ความจริงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค น่าจะมีรางวัลให้สำหรับกับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าน้อยลงบ้าง ไม่ใช่ไปลดค่าไฟให้เฉพาะผู้ที่ใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเท่านั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-05-2020 เมื่อ 07:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 247 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #111  
เก่า 18-05-2020, 06:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องที่น่าตกใจก็คือเรื่องของครูข่มขืนศิษย์..! ซึ่งผิดจรรยาบรรณวิชาชีพของความเป็นครูอย่างร้ายแรง เหมือนกับสำนวนไทยที่ว่า "สมภารต้องไม่กินไก่วัด" ที่แสดงถึงจรรยาบรรณของเจ้าอาวาสว่า ถึงจะเป็นไก่ในวัดที่ตนเองดูแลอยู่ ก็ห้ามผิดมารยาทไปกินเข้าอย่างเด็ดขาด..!

ที่ตกใจนั้นไม่ใช่เรื่องของครูข่มขืนศิษย์ แต่เป็นเรื่องของเพื่อนครูที่ออกมาปกป้องครูด้วยกันว่า การที่ลูกศิษย์ซึ่งถูกข่มขืนไปแจ้งความจับครูนั้นเป็นความอกตัญญู เนรคุณต่อครูอย่างแรง..!

ถ้าอาตมาเป็นผู้มีอำนาจในกระทรวงศึกษาธิการ จะสั่งไล่ครูผู้ที่ออกมาปกป้องครูด้วยกันเช่นนี้ออกทันที ในเรื่องที่มีความผิดทางอาญาชัดเจนอย่างนี้ ผิดจรรยาบรรณในวิชาชีพอย่างร้ายแรงขนาดนี้ กลับมีแนวคิดบิดเบี้ยว เห็นผิดเป็นชอบ เห็นว่าผู้ถูกทำร้ายเป็นคนเนรคุณ

ถูกต้องที่ว่าบางทีอาจจะไม่ใช่การข่มขืน อาจจะเป็นการสมยอมกันก็ได้ แต่อย่าลืมว่านี่คือเยาวชน อายุยังไม่เกิน ๑๕ ปี ถึงจะสมยอมอย่างไรก็ผิดคดีอาญาร้ายแรง คนเป็นครูจะต้องมีกำลังใจที่หนักแน่น เข้มแข็ง ช่วยป้องกันไม่ให้ศิษย์หลงเดินไปในทางที่ผิด ไม่ใช่ไปช่วยลูกศิษย์ทำชั่วเสียเอง

แม่พิมพ์ที่บิดเบี้ยวอัปลักษณ์เช่นนี้ จะผลิตบุคคลที่ออกมาเป็นกำลังของชาติในภายหน้าได้บิดเบี้ยวเละเทะขนาดไหน ? คนเป็นครูมีหน้าที่ในการสอนศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม แก่เด็ก ๆ แต่ตนเองกลับบกพร่องทางศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรมอย่างร้ายแรงเช่นนี้ สมควรที่จะถูกกำจัดออกไปจากวงการครูอย่างรวดเร็ว จะได้ไม่เอาแนวคิดชั่วร้ายเช่นนี้ไปเผยแพร่แก่เด็ก ๆ จนเติบโตขึ้นไปเป็นกากเดนของสังคมในภายหน้า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-05-2020 เมื่อ 07:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 255 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #112  
เก่า 18-05-2020, 06:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องของการฟื้นฟูบริษัทการบินไทย ที่มีหลายคนใช้คำว่าสายการบินแห่งชาติ จนเกิด "ดราม่า" ขึ้นมาทั่วประเทศ เพราะทุกคนเห็นว่ายิ่งบริหารก็ยิ่งเละ มีแต่ขาดทุนไม่มีกำไร แล้วจะเก็บรัฐวิสาหกิจเน่า ๆ แบบนี้เอาไว้ทำไม ?

เรื่องการบริหารรัฐวิสาหกิจแล้วขาดทุนย่อยยับนั้น เป็นเรื่องปกติสำหรับประเทศไทย แต่ไม่มีใครคิดที่จะแก้ไข เพราะว่าเท่ากับไปทุบหม้อข้าวคนอื่น มัวแต่เกรงใจในเรื่องที่ไม่ควรเกรงใจ จึงปล่อยให้มะเร็งร้ายลุกลามไปทั่วประเทศ..!

เอาแค่ขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร (ขสมก.) ก็แล้วกัน บริหารกันได้เละเทะขาดทุนย่อยยับอยู่ทุกปี แต่รถร่วมบริการกลับมีกำไร เลยมีคนแปลอักษรย่อออกมาว่า "เขาสั่งมาโกง" หรือว่า "เขาส่งมากิน" จนเป็นที่อับอายขายหน้าไปทั่ว

การรถไฟแห่งประเทศไทยที่เป็นอันดับ ๑ ในเอเชียตั้งแต่สมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ ก็ยังคงแทบจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากสมัยนั้น รอบบ้านผ่านเมืองเขามีรถไฟความเร็วสูงกันหมดแล้ว บ้านเราแค่รถไฟรางคู่ยังหาได้ยากเลย

โดยเฉพาะการบินไทยที่ขึ้นแท่นเป็นสายการบินอันดับ ๑ ของโลกมาหลายปี ทุกชาติทุกภาษาใช้บริการแล้วล้วนแต่ติดใจ พอเปลี่ยนผู้บริหารไม่นานก็เริ่มเละเป็นโจ๊ก หลังจากนั้นก็เละต่อเนื่องกันมาหลายสิบปี เป็นเรื่องที่ชาวบ้านทุกคนเข้าใจได้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ? แต่รัฐบาลและผู้บริหารกลับทำท่าโง่สนิท ซ้ำยังคิดที่จะเอาเงินจากภาษีอากรของคนทั้งประเทศไปอุ้มอีก จึงได้เกิด "ดราม่า" อย่างที่เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้

"พึงสละทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ พึงสละทั้งทรัพย์และอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต พึงสละทั้งทรัพย์ทั้งอวัยวะและชีวิตเพื่อรักษาธรรม" ถ้าสละไม่ได้ท่านทั้งหลายก็ต้องยอมรับผลร้ายที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-05-2020 เมื่อ 11:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 248 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #113  
เก่า 18-05-2020, 06:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องเศร้าเคล้าน้ำตา "ดราม่าสุด ๆ" ก็คือการที่ผู้ปกครองพาเด็กนักเรียนไปหาซื้อโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน ที่ราคาไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท เพื่อให้ลูกเอาไว้ใช้เรียนหนังสือออนไลน์ ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-๑๙ นี้ เหตุที่ต้องกำหนดราคาว่าไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท เพราะว่าทั้งบ้านมีเงินเหลืออยู่แค่นี้..!

นี่คือการบริหารแบบสั่งงานจากห้องปรับอากาศ หรือที่สมัยก่อนเรียกกันว่า "หอคอยงาช้าง" เป็นการบริหารแบบ "ไม่เข้าใจ ไม่เข้าถึง มุ่งแต่พัฒนาอย่างเดียว" ซึ่งยังต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกมาก

บ้านเรานั้นหายากที่ผู้บริหารจะลงไปคลุกกับงานด้วยตัวเอง ทั้งที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงทำให้เห็นเป็นปกติ ตลอด ๗๐ ปีที่ครองราชย์มา แต่ก็หาคนทำตามได้ยาก เพราะว่าเหนื่อย ลำบาก สู้สั่งการจากห้องปรับอากาศไม่ได้

เมื่อไม่ได้ไปดูไปเห็นด้วยตาตนเอง ก็ไม่ "เข้าใจ" ว่าบริบทของสังคมนอกเมืองหลวงนั้นเป็นอย่างไร เมื่อไม่ยอมลงไปคลุกกับงานก็ย่อมไม่ "เข้าถึง" สภาพของงานที่แท้จริง แล้วจะไป "พัฒนา" ประเทศชาติให้ดีนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้

องค์ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงแสดงพระองค์เป็นตัวอย่าง ตลอดระยะเวลาทรงครองราชย์ เสด็จไปแทบจะทั่วทุกตารางนิ้วของประเทศไทย พระองค์ท่านจึง "เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา" ประเทศของเราได้ตรงกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

มิหนำซ้ำพระองค์ท่านยังแสดงให้เห็นชัดว่า "เราต้อง "เสียสละ" เมื่อทำบ่อย ๆ กำลังใจมั่นคงขึ้นก็จะลืมคำว่า "เสีย" เหลือไว้แต่คำว่า "สละ" อย่างเดียว ครั้นสละบ่อย ๆ ก็จะเหลือแต่คำว่า "ละ" เมื่อนั้นสภาพจิตก็จะไม่ยึดติดกับสิ่งใด นอกจากทำความดีเพื่อความดีเท่านั้น"

ได้แต่หวังว่าข้าราชการทุกคน จะนำเอาสิ่งที่พระองค์ท่านทำมาตลอด ๗๐ ปีใส่ไว้ในใจบ้าง ไม่ต้องทำถึงร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างของพระองค์ท่าน สักแค่ ๑ หรือ ๒ เปอร์เซ็นต์ก็เชื่อว่าจะช่วยให้ประเทศชาติของเราเจริญรุ่งเรืองขึ้นไปกว่านี้อีกหลายเท่า

เรื่องของจิตสำนึกสาธารณะ การเสียสละเพื่อส่วนรวมนั้นทำได้ยากยิ่งนัก แต่ถ้าทำได้ก็จะเกิดความปีติ อิ่มเอิบใจ ภาคภูมิใจ สามารถทุ่มเทให้กับส่วนรวมโดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนตน เท่ากับเป็นการสร้างเสริมบุญญาบารมีของตน ซึ่งจะมีแต่ผลดีแก่ตนทั้งในชาตินี้และชาติหน้า

รอยพระบาทของพระองค์ก้าวนำไปหลายสิบปีแล้ว เมื่อไรข้าราชการซึ่งเป็นผู้รับสนองงาน จะ
ได้ก้าวตามไปอย่างแท้จริงบ้าง ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-05-2020 เมื่อ 07:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 264 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #114  
เก่า 19-05-2020, 08:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เฮ้ย...ทำอย่างนี้หมายความว่าอย่างไรวะ ?!!"

น้องเล็กโวยขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารประจำด่านทั้ง ๒ นายซึ่งตรวจรถคันหน้าอยู่ พร้อมใจกัน "หันก้น" ให้ ทำเอาพวกอาตมารีบใส่หน้ากากฟรี โดยไม่ได้ใช้งานซะอย่างนั้น

"เฮ้ย..ลืมยกเลิกภารกิจ พี่ท่านทั้งสองเลยจัดให้เหมือนเดิม ฮ่า.ฮ่า..ฮ่า..!"

อาตมานึกขึ้นมาได้ก็สะดุ้ง แล้วอดขำไม่ได้ มิน่าล่ะ..หลายวันนี้ผ่านด่านตรวจทีไร ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร หรือพลเรือน มีแต่คนหันหลังให้ ลืมไปว่ายังไม่ได้ยกเลิกคำสั่ง "แหกด่าน" กับพญาแมลงภู่คำทั้งสอง..!

"ด่านแถวนี้ไม่ต้อง "แหก" ก็ได้จ้ะท่านพี่ ปล่อยให้เขาได้ทำหน้าที่บ้าง เอาไว้ต้องข้ามจังหวัดเมื่อไรแล้วค่อยว่ากันใหม่"

ตั้งแต่ด่านตรวจสามแยกทองผาภูมิไปจนถึงวัดท่าขนุน อาตมากับน้องเล็กหัวเราะกันจะเป็นจะตาย เพราะว่าไปนึกถึงภาพการสั่งงานชาวขมุในสมัยก่อน ที่ให้ตักน้ำใส่ตุ่ม น้ำเต็มแล้วก็ยังตักกันไม่เลิก จนกว่าที่จะสั่งให้หยุดเท่านั้น..!


"เออหนอ..พี่กู ช่างตรงไปตรงมาเหลือเกิน อะไรจะน่ารักได้เบอร์นี้วะ ?!!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2020 เมื่อ 12:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 246 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #115  
เก่า 19-05-2020, 08:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"จะมีไอ้พวกโง่แล้วอวดฉลาด พยายามจะมาร่วมงานหล่อพระ ด้วยการขอเข้าพักในวัดก่อนวันงาน แล้วตีมึนอยู่ยาวจนถึงวันงานไปเลย"

"แนวที่ ๕" ส่งข่าวด่วนมา จนอาตมาต้องรีบประกาศให้พระเณรในทีมงานวัดท่าขนุน ห้ามรับคนเข้าพักตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่างานหล่อพระจะสำเร็จลงแล้ว และให้ประกาศในเว็บไซต์วัดท่าขนุน โดยเนื้อหาใจความเดียวกัน

"ไม่ให้พักในวัด เขาก็ไปพักตามรีสอร์ทข้างนอกครับ" เออ..ถ้ายังมีความพยายามขนาดนั้น ก็คงต้องเป็นหน้าที่ของท่านผู้กำกับและลูกน้องแล้ว

อาตมาลืมไปว่าเมื่อท่านย่าทำให้คนในคณะกลายเป็น "ควายเผือก" สันดานควายก็ต้องดื้อเป็นธรรมดา แต่ไม่เป็นไร..ถึงเวลาบรรดาควายทั้งหลาย จะได้รู้ว่ารสชาติของประฏักและไม้ตะพดนั้นเป็นอย่างไร ? ขอให้มาจริงเท่านั้นแหละ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2020 เมื่อ 12:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 239 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #116  
เก่า 19-05-2020, 08:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"น้องเล็ก.. ขอยืมโทรศัพท์ด่วนเลย..!"
อาตมาเผ่นออกจากห้องน้ำมา ขอโทรศัพท์จากน้องเล็ก เพื่อส่งข่าวด่วนที่เพิ่งได้รับคำสั่ง ก่อนที่จะเลือนหายไปจากใจ ยังดีที่พระวินัยห้ามพระแก้ผ้าอาบน้ำ ไม่อย่างนั้นคงได้วิ่งโทง ๆ ออกมาให้เขาแตกตื่นกันทั้งวัด..!

หลายคนคงคิดว่าอาตมาบ้า สรงน้ำให้เสร็จก่อนแล้วค่อยออกมาส่งข่าวก็ได้ แต่จากประสบการณ์หลายสิบปีที่ผ่านมา เรื่องที่พระ หรือพรหมเทวดา ตลอดจนกระทั่งครูบาอาจารย์ท่านสั่ง ถ้าไม่รีบจดเอาไว้หรือไม่รีบสั่งการต่อ ก็จะเลือนหายไปจากใจในเวลาไม่นาน หายไปชนิดที่งมเท่าไรก็หาไม่เจอเสียด้วย..!

"พระกริ่งสะท้านไตรภพได้เริ่มบรรจุเกศาหรือยัง ?"
"ดำเนินการไปบ้างแล้วครับ"

"ให้รอช้าไว้หน่อย พระท่านให้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุลงไปด้วย มีเวลาเมื่อไรจะรีบอัญเชิญไปให้"
"ครับ"

อนุสนธิ์สืบเนื่องมาจากการที่ ดร.จักรกฤช ศีลาเจริญ ประธานมูลนิธิสามสมเด็จ ปรารภกับอาตมาว่าจะสร้างพระกริ่งสะท้านไตรภพ เพื่อหาทุนสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชพร้อมด้วยพระตำหนักที่ประทับ เพื่ออาศัยบารมีขององค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตรึงสถานการณ์ของประเทศชาติไม่ให้เลวร้ายลงไปกว่านี้

โดยขอนำไปปลุกเสกปิดท้ายที่วัดท่าขนุน อาตมาเห็นว่าเป็นความตั้งใจที่ดี ยินดีให้ความร่วมมือด้วย และ "ขอพ่วง" ด้วยการสร้างพระกริ่งสะท้านไตรภพในส่วนของวัดท่าขนุน นำไปเข้าพิธีด้วยกัน ซึ่งท่านประธานมูลนิธิสามสมเด็จก็อนุญาตด้วยดี

สาเหตุเพราะว่าทางวัดท่าขนุนจะหล่อพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อเงินปิดทอง ด้วยเม็ดเงิน ๑๕๐ กิโลกรัม ถึงเวลาแล้วจะเหลือชนวนหลายสิบกิโลกรัม อาตมาไม่อยากเหลือทิ้งไว้เปล่า ๆ จึงกราบขออนุญาตพระท่านเพื่อสร้างวัตถุมงคลจากชนวนที่เหลือนี้สักรุ่นหนึ่ง

ก็พอดีกับธรรมะจัดสรร ให้ท่าน ดร.จักรกฤชมาปรึกษาเรื่องการสร้างวัตถุมงคลของทางมูลนิธิพอดี ทุกอย่างจึงลงตัวแบบไม่ได้นัดหมาย

ตามที่พระท่านเมตตาบอกว่า พระบรมสารีริกธาตุนั้นถือว่าเป็นวัตถุมงคลที่มีพุทธานุภาพสูงสุด เพราะว่าเป็นส่วนหนึ่งของพระวรกายองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่มีวัตถุมงคลชนิดใดจะมีอานุภาพยิ่งไปกว่านี้อีกแล้ว เมื่อบรรจุ "พระบรมสารีริกธาตุของแท้" ลงในวัตถุมงคลชนิดใดก็ตาม ย่อมมีอานุภาพครอบฟ้าคลุมดิน ชนิดที่องค์เดียวเที่ยวทั่วจักรวาลได้เลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2020 เมื่อ 12:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 294 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #117  
เก่า 20-05-2020, 05:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"รบกวนแจ้งทางวัดพุทธพรหมยานให้ช่วยเปลี่ยนเวลาพุทธาภิเษกมาเป็นช่วงเช้าด้วยครับ" พระเอกลิเก เอ๊ย..ท่านท้าวทศรถขอความอนุเคราะห์มา...

นาน ๆ จะมีเทวดาระดับ "ซูเปอร์บิ๊ก" มาขอแบบนี้ ก็ต้องรีบดำเนินการให้โดยด่วน แต่ทางผู้ดำเนินงานกลับสงสัยว่าทำไม ?

"งานของเขากำหนดพิธีปลุกเสกหลังเที่ยง ถ้าเป็นเช่นนั้นพวกผมส่วนใหญ่ก็จะไม่มีใครได้ไปเลย เพราะว่าติดประชุมเทวสภาครับ"

อาตมาก็ลืมเรื่องนี้ไปเหมือนกัน ว่าเทวดาไม่ได้ว่างทุกเวลา ทุกท่านล้วนแล้วแต่มีหน้าที่เต็มมือ ถ้าผิดเวลาถึงอยากสงเคราะห์ก็ทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากหน้าที่ในความรับผิดชอบบังคับเอาไว้

"เขาไม่สงสัยกันบ้างเลยนะครับ ว่าท่านทำอะไรก็ "ปัง" คนอื่นทำอะไรก็ "แป้ก" สำหรับพวกผมแล้วเรื่องเวลาสำคัญที่สุดเลยนะครับ"

เนื่องจากอาตมาเองได้รับกำหนดการบวงสรวงและปลุกเสกวัตถุมงคลโดยเฉพาะในส่วนของตนไปแล้ว ก็ทำตามนั้นมาโดยตลอด จนลืมไปแล้วในเรื่องของเทวดาที่จะต้องติดงานติดการตามหน้าที่ของท่าน เมื่อท่านมาสงเคราะห์ไม่ได้ ต่อให้สร้างอะไรมาเข้าพิธีก็ "แป้ก" หมด

"งานนี้ทางเจ้าภาพสร้างรูปของพวกผมด้วย ในงานถ้าขาดพวกผมไปก็เป็นอันว่าจบกัน เห็นว่าทางนั้นเคารพนับถือท่าน พอที่จะตักเตือนแก้ไขกันได้ จึงมาแจ้งให้ทราบครับ"

ขอบคุณท่านเป็นอย่างยิ่ง ภาษิตจีนเขาเรียกว่า "ฆ่าไก่แต่ใช้มีดโค" เล่นเอาระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพมาส่งข่าว รู้สึกว่าผิดฝาผิดตัวและเกรงใจเป็นอย่างยิ่ง

ขอให้ทุกท่านมีแต่ความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป แล้วพบกันในวันงานนะครับ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 20-05-2020 เมื่อ 05:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 275 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #118  
เก่า 22-05-2020, 19:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ฝากให้ช่วยประคับประคองด้วยนะ ถ้าอยู่ต่อได้ จะได้เป็นกำลังใหญ่ของพระพุทธศาสนา"

"หลายรายเต็มทีแล้วครับท่านปู่ ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นธนาคารรับเด็กฝากไปแล้วครับ"

ท่านผู้เป็นใหญ่ในสรวงสวรรค์ยิ้มอย่างเมตตา "ก็เหมือนกับสมัยก่อนที่ปู่ฝากพวกเจ้าไว้กับพ่อฤๅษีของเจ้านั่นแหละลูก มาสมัยนี้ก็ขอฝากลูกพระหลานพระไว้กับเจ้าบ้าง"

งานบวงสรวงพุทธาภิเษกวัตถุมงคลที่วัดพุทธพรหมยาน เมื่อถวายเครื่องบายศรีสักการะเสร็จแล้ว อาตมาก็กราบขอบารมีพระ พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ทั้งหมด โดยเฉพาะหัวหน้าเทวดาอย่างท่านปู่พระอินทร์ ที่ต้องรับภาระส่งเทวดาติดตามดูแลวัตถุมงคลแต่ละชิ้น จึงได้เด็กฝาก เอ๊ย..พระฝาก เพิ่มมาอีก ๑ ราย

"เบี้ยแก้นิมนต์พระคุณเจ้าดำเนินการขอรับ" ท่านปู่หันไปพนมมือไหว้พระภิกษุชราร่างผอมห่มผ้าสีคล้ำซึ่งนั่งบนเถรอาสน์สูงกว่าท่านไปอีกระดับ...

"เบี้ยแก้ตัวครูอยู่ในย่ามแล้วครับ" เมื่อสายตาคมกริบเต็มไปด้วยจิตตานุภาพประดุจตาเสือกวาดมา อาตมาก็รีบรายงานทันที "ดี" ท่านกวักมือนิดเดียวประกายสีเงินยวงของโลหะธาตุศักดิ์สิทธิ์ ก็แผ่กระจายออกจากเบี้ยครูไปรอบข้างเหมือนกับหว่านแห ครอบลงบนตัวเบี้ยทั้งหมดที่มาเข้าพิธี จนทุกลูกเปล่งประกายวาววับเหมือนกับดาวรุ่งประดับฟ้า...

"พวกที่เอาเบี้ยแก้วัดอื่นมาเข้าพิธี จะเหลืออานุภาพแค่สายวิชาเดียวนะ ให้ไปค้นหาคาถากำกับและวิธีใช้เอาเอง"

"ขอบพระคุณหลวงปู่เป็นอย่างยิ่งครับ"

"ส่วนโน้นเป็นภาระของท้าวมหาราชทั้ง ๔" ท่านปู่ชี้ไปที่รูปเหมือนท้าวจาตุมหาราชหลายร้อยองค์ "ขอรับกระผม" ท้าวมหาราชทั้งสี่รับคำ เสียงกระหึ่มปานฟ้าคำรณ...

จตุรเทพอาวุธยกขึ้นพร้อมกัน พลังที่แผ่ซ่านออกมาเหมือนกับจะกวาดภูเขาถมทะเล ประสานเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งสี่ทิศ แล้วครอบคลุมลงบนกองวัตถุมงคลทั้งปวง...

"พวกที่เอามีดเอาดาบเอาไม้เท้าไม้ถือมาเข้าพิธี ถือว่าโชคดีไปก็แล้วกัน" เสด็จ เอ๊ย..ท่านท้าววิรุฬหกเอ่ยขึ้น...

"รูปเหมือนชุดนี้มีอานุภาพทางไหนครับ ?"

"ปกป้องคุ้มภัยในทิศทั้งสี่ตามแต่จะอธิษฐาน แต่ต้องขยันหมั่นสวดมนต์ไหว้พระทุกวัน ถ้าใครตั้งใจปฏิบัติในอารมณ์พระโสดาบัน พวกผมจะตามคุ้มครองป้องกันให้ตลอดชีวิต" ทั้งสี่ท่านตอบพร้อมกันเหมือนท่องหนังสือ

"ใครที่ไม่ทันตะกรุดคู่ชีวิตครั้งก่อน ให้เอาชุดนี้ไปใช้แทน ส่วนของประเภทหนุ่มรักสาวหลงอะไรพวกนั้น แล้วแต่ความประพฤติของแต่ละคน ถ้าผิดท่าผิดทางขึ้นมา ข้างล่างยังมีที่ว่างให้พวกเจ้าอีกมาก..!"

ท่านปู่เตือนทุกคนแล้วนะ โปรดระมัดระวังกันเอาเอง เมื่อกราบลาท่านปู่ที่งานนี้ได้รับหน้าที่ "ประธานอำนวยการ" แล้ว อาตมาก็ได้เวลาตื่นพอดี เมื่อคืนนอนน้อยไปหน่อย เผลอหลับและฝันไปอีกแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 265 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #119  
เก่า 23-05-2020, 14:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันเสาร์ที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ อาตมาออกบิณฑบาตตามปกติ พร้อมกับแจ้งญาติโยมว่า พรุ่งนี้ขอหยุดการบิณฑบาต ๑ วัน เพื่อหล่อพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อเงินปิดทอง...

ฉันเช้าแล้วพระเณรช่วยกันออกไปตั้งมณฑลพิธี การที่อาตมาปล่อยให้ทุกคนทำงานด้วยตัวเอง หลังจากที่ทำให้ดูสักครั้งสองครั้งแล้ว ทำให้ทุกคน "เป็นงาน" เร็วมาก...

นี่เป็นวิธีการของ "ครูโบราณ" คือ "สอนให้จำ ทำให้ดู อยู่ให้เห็น ตายให้เป็น" ถ้าเป็นยุคนี้ก็คือ บอกวิธีการ แสดงตัวอย่าง คอยควบคุมอยู่ห่าง ๆ เมื่อเขาจดจำและทำทุกอย่างได้ ถึงเราตายไปแล้วก็ยังเหมือนกับมีชีวิตอยู่...

วิธีการแบบนี้เรียกอีกอย่างว่า "สอนแบบลูกเสือลูกจระเข้" ซึ่งตัวแม่จะแสดงตัวอย่างให้ดูแค่ ๒ - ๓ ครั้งเท่านั้น หลังจากนั้นแล้วลูกก็ต้องไปฝึกหัดเลียนแบบเอาเอง ถ้าทำไม่ได้ก็อดไป ท้ายสุดเมื่อท้องหิวมาก ๆ เข้า ก็บีบบังคับให้ตัวลูกต้องล่าเป็นจนได้...

ทุกหน่วยงานทุกองค์กรถ้ามีความไม่ประมาทก็ควรที่จะเป็นเช่นนี้ เพราะว่าไม่มีใครสามารถอยู่ค้ำฟ้าได้ ถ้าไม่มีการฝึกหัดบุคคลรุ่นต่อไปเตรียมพร้อมเอาไว้ ถึงเวลาก็จะเกิดการชะงักงัน แล้วในยุคสมัยที่ทุกอย่างวิ่งไปข้างหน้ารวดเร็วเช่นนี้ เราอาจจะโดนทิ้งจนกระทั่งตามใครไม่ทันไปเลยก็เป็นได้...
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-05-2020 เมื่อ 17:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #120  
เก่า 23-05-2020, 14:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การที่รัฐบาลประกาศเลื่อนการบังคับใช้ พรก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก ๑ เดือนนั้น สามารถมองออกไปหลายแง่หลายมุม บ้างก็เห็นเป็นเรื่องของการเมือง ทำไปเพื่อรักษาอำนาจตนเองล้วน ๆ บ้างก็เห็นดีเห็นงามตามรัฐบาลไปด้วย...

เราต้องไม่ลืมว่าการต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก ๑ เดือนนั้น นอกจากจะเป็นมติของ สมช. (สภาความมั่นคงแห่งชาติ) แล้ว ยังผ่านการเห็นชอบของ ศบค. (ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ๒๐๑๙) อีกด้วย...

ถ้ามองกันอย่างเป็นธรรมก็คือ สมช. อาจจะหวงอำนาจ เล่นการเมือง แต่ ศบค.ที่ส่วนใหญ่เป็นคุณหมอมืออาชีพ ที่ต้องรบกับเชื้อไวรัส covid-๑๙ มาตลอดสามเดือนนั้น คงไม่มีอารมณ์ที่จะมาเล่นการเมืองด้วย นอกจากทำเพื่อควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสให้อยู่ในกรอบที่รับมือได้อย่างดีที่สุด...

ต้องไม่ลืมคำพูดที่ว่า "ทำอะไรตามใจคือไทยแท้" แม้แต่อุ้มหมาเข้าร้านสะดวกซื้อก็ยังทำตามใจตัวเองได้ ถ้าหากไม่มีอะไรมาคอยควบคุมเอาไว้ สถานการณ์ที่ช่วยกันประคับประคองจนอยู่ในระดับที่ดีมาก ก็อาจจะกลับพังเละเทะไม่เป็นท่าเหมือนกับหลายประเทศที่ยกเลิกการควบคุมไป...

อดทนกันอีกนิดเพื่อสร้างขันติบารมี ระมัดระวังกันอีกหน่อยเพื่อสร้างปัญญาบารมี ขอเพียงไม่ประมาทเท่านั้นทุกอย่างจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นแล้วพวกคุณจะทำให้สถานการณ์ประเทศชาติเละเทะขนาดไหนก็เชิญทำไป จะชวนใครออกไปตายกลางถนนก็เชิญ เพราะว่าไม่มีเชื้อโรคร้ายมาคอยกระทืบซ้ำอยู่เหมือนกับตอนนี้...

อย่าเพิ่งรีบแสดงบทบาท การแสดงนั้นมีทั้งการแสดงที่เฉลียวฉลาด และการ "โชว์โง่" ที่คนเห็นแล้วเวทนาสงสาร รอให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่านี้แล้วค่อยออกมาแสดง เราจะได้ผ่านวาระที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน...
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-05-2020 เมื่อ 17:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:48



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว