กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ > ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ

Notices

ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 10-05-2020, 17:43
สวนกุหลาบ สวนกุหลาบ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2015
ข้อความ: 38
ได้ให้อนุโมทนา: 6
ได้รับอนุโมทนา 4,695 ครั้ง ใน 188 โพสต์
สวนกุหลาบ is on a distinguished road
Default การกำหนดใจภาวนาตอนนอนหลับ

ข้าพเจ้ามีความตั้งใจที่จะทรงภาพพระให้สว่างไสวในดวงจิตพร้อมภาวนาพระคาถาบทหนึ่งให้ได้ในทุกขณะของวัน หากมีสิ่งให้ต้องใช้ความคิดก็หยุดใจออกมาคิด หากมีคนชวนคุยก็หยุดใจออกมาพูดคุยกับผู้นั้น เมื่อจบเรื่องแล้วค่อยกลับใจเข้ามาสู่การภาวนาและทรงภาพพระต่อ

เมื่อลองปฏิบัติแล้วพบว่าในขณะนั่งกรรมฐานอารมณ์จะชัดเจนทรงภาพพระได้แจ่มใส ภาวนาได้ทรงตัวที่สุด พอออกจากกรรมฐานมาทำกิจวัตรต่าง ๆ ภาพพระบางครั้งก็ชัดบางครั้งก็ไม่ชัดแต่โดยรวมก็ยังสามารถกำหนดภาพพระได้อยู่ ในด้านคำภาวนาก็ไม่มีปัญหาอะไรถ้ามีคนชวนคุยหรือต้องใช้ความคิดกลางคันในขณะที่ยังไม่จบบทก็ค่อยกลับมาเริ่มภาวนาใหม่ตั้งแต่คำแรกของบทพระคาถา

เวลาเดินภาวนาแล้วจับภาพพระด้วยอารมณ์เบา ๆ อาจมีแบ่งบางส่วนของจิตมาคิดหรือมองสิ่งรอบตัวไปด้วยในขณะที่อีกส่วนของจิตก็ภาวนาพร้อมจับภาพพระตรงนี้รู้สึกจะใจสบายเป็นพิเศษ

แต่ที่เป็นปัญหาก็คือพอจะนอนหลับกลับไม่สามารถภาวนาให้ใจสบายแล้ว “ตัดหลับ” ไปได้อย่างที่พระอาจารย์แนะนำ จับภาพพระกำหนดลมหายใจพร้อมคำภาวนาโดยใช้อารมณ์ไม่หนักพยายามให้ใจสบายเหมือนตอนเดินหรือทำกิจวัตรต่าง ๆ ในตอนกลางวัน แต่ผลก็คือเมื่อร่างกายอยู่นิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหวพอภาวนาอารมณ์กลับเหมือนเวลานั่งกรรมฐานมันจะหยุดนิ่งตั้งใจกับการภาวนา ไม่รู้สึกผ่อนคลายแบบพร้อมจะตัดหลับ อารมณ์มันจะตั้งใจอยู่กับการภาวนาตลอดไม่ยอมหลับเสียที แต่พอลองคลายอารมณ์ออกเลิกภาวนาคิดเรื่องโน่นเรื่องนี้เรื่อยเปื่อยเหมือนแต่ก่อนกลับหลับ !

การปฏิบัติตลอดวันที่ผ่านมาถูกต้องหรือไม่หรือควรเพิ่มเติมปรับปรุงอย่างไร หากไม่ถูกแล้วสิ่งที่ถูกควรทำแบบไหน ? แล้วต้องวางอารมณ์ใจอย่างไรจึงจะสามารถภาวนาจน “ตัดหลับ” ไปได้ ?

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สวนกุหลาบ : 10-05-2020 เมื่อ 20:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สวนกุหลาบ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 11-05-2020, 02:43
สุธรรม's Avatar
สุธรรม สุธรรม is offline
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 4,751
ได้ให้อนุโมทนา: 268,255
ได้รับอนุโมทนา 837,247 ครั้ง ใน 12,756 โพสต์
สุธรรม is on a distinguished road
Default

ถาม : ข้าพเจ้ามีความตั้งใจที่จะทรงภาพพระให้สว่างไสวในดวงจิตพร้อมภาวนาพระคาถาบทหนึ่งให้ได้ในทุกขณะของวัน หากมีสิ่งให้ต้องใช้ความคิดก็หยุดใจออกมาคิด หากมีคนชวนคุยก็หยุดใจออกมาพูดคุยกับผู้นั้น เมื่อจบเรื่องแล้วค่อยกลับใจเข้ามาสู่การภาวนาและทรงภาพพระต่อ

เมื่อลองปฏิบัติแล้วพบว่าในขณะนั่งกรรมฐานอารมณ์จะชัดเจนทรงภาพพระได้แจ่มใส ภาวนาได้ทรงตัวที่สุด พอออกจากกรรมฐานมาทำกิจวัตรต่าง ๆ ภาพพระบางครั้งก็ชัดบางครั้งก็ไม่ชัดแต่โดยรวมก็ยังสามารถกำหนดภาพพระได้อยู่ ในด้านคำภาวนาก็ไม่มีปัญหาอะไรถ้ามีคนชวนคุยหรือต้องใช้ความคิดกลางคันในขณะที่ยังไม่จบบทก็ค่อยกลับมาเริ่มภาวนาใหม่ตั้งแต่คำแรกของบทพระคาถา

เวลาเดินภาวนาแล้วจับภาพพระด้วยอารมณ์เบา ๆ อาจมีแบ่งบางส่วนของจิตมาคิดหรือมองสิ่งรอบตัวไปด้วยในขณะที่อีกส่วนของจิตก็ภาวนาพร้อมจับภาพพระตรงนี้รู้สึกจะใจสบายเป็นพิเศษ

แต่ที่เป็นปัญหาก็คือพอจะนอนหลับกลับไม่สามารถภาวนาให้ใจสบายแล้ว “ตัดหลับ” ไปได้อย่างที่พระอาจารย์แนะนำ จับภาพพระกำหนดลมหายใจพร้อมคำภาวนาโดยใช้อารมณ์ไม่หนักพยายามให้ใจสบายเหมือนตอนเดินหรือทำกิจวัตรต่าง ๆ ในตอนกลางวัน แต่ผลก็คือเมื่อร่างกายอยู่นิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหวพอภาวนาอารมณ์กลับเหมือนเวลานั่งกรรมฐานมันจะหยุดนิ่งตั้งใจกับการภาวนา ไม่รู้สึกผ่อนคลายแบบพร้อมจะตัดหลับ อารมณ์มันจะตั้งใจอยู่กับการภาวนาตลอดไม่ยอมหลับเสียที แต่พอลองคลายอารมณ์ออกเลิกภาวนาคิดเรื่องโน่นเรื่องนี้เรื่อยเปื่อยเหมือนแต่ก่อนกลับหลับ !

การปฏิบัติตลอดวันที่ผ่านมาถูกต้องหรือไม่หรือควรเพิ่มเติมปรับปรุงอย่างไร หากไม่ถูกแล้วสิ่งที่ถูกควรทำแบบไหน ? แล้วต้องวางอารมณ์ใจอย่างไรจึงจะสามารถภาวนาจน “ตัดหลับ” ไปได้ ?

ตอบ : ตั้งใจที่จะทรงภาพพระให้สว่างไสวในดวงจิต แต่อยากจะหลับ..! การภาวนาจุดมุ่งหมายก็เพื่อการตื่นรู้ คือ ให้มีสติอยู่ทุกเวลา เพื่อที่จะได้ระมัดระวังไม่ให้กิเลสกินใจเราได้ แต่เมื่อเข้าถึงได้ในระดับหนึ่ง จิตเริ่มตื่นรู้กลับอยากจะหลับ เป็นความต้องการที่ขัดแย้งกันเอง ถ้าไม่ใช่เหลวไหลไร้สาระ ก็ประเภท "หัวมังกุท้ายมังกร" ไปตัดสินใจให้เด็ดขาดก่อนว่าจะเอาอย่างไร หรือไปศึกษาให้ดีก่อนว่าภาวนาแล้วเป็นอย่างไร จะได้ไม่ถามอะไรที่เหลวไหลแบบนี้อีก..!

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-05-2020 เมื่อ 10:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 59 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 11-05-2020, 20:34
สวนกุหลาบ สวนกุหลาบ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2015
ข้อความ: 38
ได้ให้อนุโมทนา: 6
ได้รับอนุโมทนา 4,695 ครั้ง ใน 188 โพสต์
สวนกุหลาบ is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ สุธรรม อ่านข้อความ
ถาม : ข้าพเจ้ามีความตั้งใจที่จะทรงภาพพระให้สว่างไสวในดวงจิตพร้อมภาวนาพระคาถาบทหนึ่งให้ได้ในทุกขณะของวัน หากมีสิ่งให้ต้องใช้ความคิดก็หยุดใจออกมาคิด หากมีคนชวนคุยก็หยุดใจออกมาพูดคุยกับผู้นั้น เมื่อจบเรื่องแล้วค่อยกลับใจเข้ามาสู่การภาวนาและทรงภาพพระต่อ

เมื่อลองปฏิบัติแล้วพบว่าในขณะนั่งกรรมฐานอารมณ์จะชัดเจนทรงภาพพระได้แจ่มใส ภาวนาได้ทรงตัวที่สุด พอออกจากกรรมฐานมาทำกิจวัตรต่าง ๆ ภาพพระบางครั้งก็ชัดบางครั้งก็ไม่ชัดแต่โดยรวมก็ยังสามารถกำหนดภาพพระได้อยู่ ในด้านคำภาวนาก็ไม่มีปัญหาอะไรถ้ามีคนชวนคุยหรือต้องใช้ความคิดกลางคันในขณะที่ยังไม่จบบทก็ค่อยกลับมาเริ่มภาวนาใหม่ตั้งแต่คำแรกของบทพระคาถา

เวลาเดินภาวนาแล้วจับภาพพระด้วยอารมณ์เบา ๆ อาจมีแบ่งบางส่วนของจิตมาคิดหรือมองสิ่งรอบตัวไปด้วยในขณะที่อีกส่วนของจิตก็ภาวนาพร้อมจับภาพพระตรงนี้รู้สึกจะใจสบายเป็นพิเศษ

แต่ที่เป็นปัญหาก็คือพอจะนอนหลับกลับไม่สามารถภาวนาให้ใจสบายแล้ว “ตัดหลับ” ไปได้อย่างที่พระอาจารย์แนะนำ จับภาพพระกำหนดลมหายใจพร้อมคำภาวนาโดยใช้อารมณ์ไม่หนักพยายามให้ใจสบายเหมือนตอนเดินหรือทำกิจวัตรต่าง ๆ ในตอนกลางวัน แต่ผลก็คือเมื่อร่างกายอยู่นิ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหวพอภาวนาอารมณ์กลับเหมือนเวลานั่งกรรมฐานมันจะหยุดนิ่งตั้งใจกับการภาวนา ไม่รู้สึกผ่อนคลายแบบพร้อมจะตัดหลับ อารมณ์มันจะตั้งใจอยู่กับการภาวนาตลอดไม่ยอมหลับเสียที แต่พอลองคลายอารมณ์ออกเลิกภาวนาคิดเรื่องโน่นเรื่องนี้เรื่อยเปื่อยเหมือนแต่ก่อนกลับหลับ !

การปฏิบัติตลอดวันที่ผ่านมาถูกต้องหรือไม่หรือควรเพิ่มเติมปรับปรุงอย่างไร หากไม่ถูกแล้วสิ่งที่ถูกควรทำแบบไหน ? แล้วต้องวางอารมณ์ใจอย่างไรจึงจะสามารถภาวนาจน “ตัดหลับ” ไปได้ ?

ตอบ : ตั้งใจที่จะทรงภาพพระให้สว่างไสวในดวงจิต แต่อยากจะหลับ..! การภาวนาจุดมุ่งหมายก็เพื่อการตื่นรู้ คือ ให้มีสติอยู่ทุกเวลา เพื่อที่จะได้ระมัดระวังไม่ให้กิเลสกินใจเราได้ แต่เมื่อเข้าถึงได้ในระดับหนึ่ง จิตเริ่มตื่นรู้กลับอยากจะหลับ เป็นความต้องการที่ขัดแย้งกันเอง ถ้าไม่ใช่เหลวไหลไร้สาระ ก็ประเภท "หัวมังกุท้ายมังกร" ไปตัดสินใจให้เด็ดขาดก่อนว่าจะเอาอย่างไร หรือไปศึกษาให้ดีก่อนว่าภาวนาแล้วเป็นอย่างไร จะได้ไม่ถามอะไรที่เหลวไหลแบบนี้อีก..!
กราบขอบพระคุณในความเมตตาของพระอาจารย์ที่อธิบายความถูกต้องให้ทราบ...คำถามนี้เกิดจาก “ความเข้าใจผิด” ของผู้ถามเอง ที่คิดว่าถ้าหากภาวนาด้วยอารมณ์สบายตลอดวันรวมถึงเวลาเข้านอนจนหลับไปได้ก็จะทำให้ความคิดไม่ฟุ้งซ่าน (ผู้ถามเป็นโรคซึมเศร้าและโรคไบโพล่าร์) แต่เมื่อพิจารณาแล้วก็เป็นเรื่องขัดกันจริงตามที่พระอาจารย์ว่า

ผู้ถามกราบขอขมาพระอาจารย์เป็นอย่างยิ่งที่ทำให้เกิดคำถามเหลวไหลขึ้นในกระทู้
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สวนกุหลาบ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 12-05-2020, 07:32
สุธรรม's Avatar
สุธรรม สุธรรม is offline
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 4,751
ได้ให้อนุโมทนา: 268,255
ได้รับอนุโมทนา 837,247 ครั้ง ใน 12,756 โพสต์
สุธรรม is on a distinguished road
Default

ถาม : กราบขอบพระคุณในความเมตตาของพระอาจารย์ที่อธิบายความถูกต้องให้ทราบ...คำถามนี้เกิดจาก “ความเข้าใจผิด” ของผู้ถามเอง ที่คิดว่าถ้าหากภาวนาด้วยอารมณ์สบายตลอดวันรวมถึงเวลาเข้านอนจนหลับไปได้ก็จะทำให้ความคิดไม่ฟุ้งซ่าน (ผู้ถามเป็นโรคซึมเศร้าและโรคไบโพล่าร์) แต่เมื่อพิจารณาแล้วก็เป็นเรื่องขัดกันจริงตามที่พระอาจารย์ว่า

ผู้ถามกราบขอขมาพระอาจารย์เป็นอย่างยิ่งที่ทำให้เกิดคำถามเหลวไหลขึ้นในกระทู้

ตอบ : เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการวินิจฉัยส่งเดชของหมอ ที่ว่าซึมเศร้า ไบโพลาร์ อะไรทั้งนั้น แค่คุณคิดเป็นแต่หยุดคิดไม่เป็นเท่านั้น มาอยู่กับลมหายใจเข้าออกแบบจริง ๆ จัง ๆ จะไทรโพลาร์ อ็อกโตโพลาร์ ก็ไม่เป็นหรอก จะซึมเศร้าหรือวอเตอร์ปรูฟเศร้าก็หายหมดไปเอง
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุธรรม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:54



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว