กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 19-11-2009, 17:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การฝึกมโนมยิทธินำไปใช้ในเรื่องวิปัสสนาญาณได้อย่างไร
ตอบ : จิตที่แยกออกจากกาย จะเห็นชัดเจนว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา เมื่อเห็นว่าร่างกายไม่ใช่ของเราจิตมันยอมรับได้ก็ปลดความอยากในร่างกาย เมื่อความต้องการในร่างกายไม่มี ความต้องการเกิดมันก็ไม่มี

ถาม : แล้วทำ
ตอบ : สำคัญว่าทำถูกไหม ถ้าทำไม่ถูกเดี๋ยวก็ต้องไปเตรียมการรับภัยพิบัติอีกหรอก นั่นก็มโนมยิทธิ เขาเรียกว่ามีอาวุธแต่ไปใช้ผิด ตั้งรับมาหลายปีจนป่านนี้มันจะเกิดแล้วเกิดอีก ตูเกิดไปหลายรอบแล้วล่ะ

ถาม : แล้ววิปัสสนาญาณนี่ใช้ในเรื่องมโนมยิทธิ
ตอบ : ก็บอกว่าพอเห็นร่างกายว่าไม่ใช่ของเราชัดเจน ก็วิปัสสนาญาณอยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 19-11-2009, 18:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เราปฏิบัติแล้วให้อารมณ์เราใส แล้วเราก็พิจารณาอยู่กับที่ จะดีกว่าเดินไปเดินมาหรือเปล่า
ตอบ : ทำอย่างไรก็ได้จ้ะ ให้รักโลภโกรธหลงมันกินใจเราไม่ได้ก็พอ

ถาม : ถ้าเราจะช่วยคนอื่น อย่างเช่นเห็นในอดีตว่าเขาเคยไปเบียดเบียนสัตว์มาก่อน มันไม่ดี
ตอบ : ระวัง กรรมที่จะสนองเขามันไม่มีโอกาส มันก็จะเล่นเราแทน

ถาม : คือ
ตอบ : ถ้าจะทำมันต้องรู้ว่าทำได้เท่าไหร่ ถ้าไม่รู้ว่าทำได้เท่าไหร่ แล้วไปยุ่ง ละเมิดกฎของกรรมมันจะซวยเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 20-11-2009, 02:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพี่คะ ถ้าขณะนี้เรามีปัญหาเรื่องงาน มันไม่ได้ใหญ่โต แต่มันเกิดเป็นปัญหาติด ๆ กัน แล้วเราทำบุญให้เฉพาะเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังเข้ามาตอนนี้อยู่
ตอบ : ก็ดี แต่ว่าขณะเดียวกัน ตัวสติ สมาธิเฉพาะหน้าสำคัญที่สุด ถ้าหากว่าเราขาดสติเมื่อไร แล้วเรื่องเล็กจะเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่ก็เป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะฉะนั้นถ้าหากเรามีสติสมาธิจดจ่ออยู่เฉพาะหน้า จะเห็นว่าจริง ๆ แล้วปัญหาเหมือนกับกวนน้ำให้ขุ่นเฉย ๆ ถ้าเราตั้งใจแก้จริง ๆ มันเท่ากับไม่มีอะไรหรอก มันเหมือนกับว่าบางคนปัญญานิ่ม เรื่องแค่นี้ก็ต้องมาถึงมือเราด้วย ก็คิดเสียว่าคนมันอยู่ที่ไหนก็เป็นคนก็หมดเรื่อง

ถาม : แล้วเกี่ยวกับเจ้ากรรมนายเวรที่มาไหม
ตอบ : มีส่วนอยู่แล้วจ้ะ เพราะถ้าไม่มีส่วนเขาก็ไม่อาจที่จะอาศัยอกุศลกรรมตรงนั้นมาจัดการเราได้ มันกวนเล็ก ๆ ก็ช่างมัน ถ้าใหญ่ ๆ ค่อยว่า อย่างไรก็อย่าทิ้งการภาวนา เพราะว่าตัวภาวนาเป็นกุศลใหญ่มากที่จะค้ำยันทุกอย่าง

ถาม : เมื่อหลายเดือนก่อน แม่เขาป่วยตลอด เวลาที่เรานั่งสวดมนต์อะไรก็ตาม จะอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรของแม่ค่ะ ทีนี้พักหลังเราป่วยเองค่ะ
ตอบ : ของพรรค์นี้เราเป็นเอง ไม่ได้เกี่ยวกันจ้ะ มันรับแทนกันไม่ได้

ถาม : อ่อ ไม่เกี่ยวกัน
ตอบ : เพียงแต่ว่าของเราเองเกิดมาเป็นลูกเป็นแม่กัน ต้องเคยสร้างกรรมอะไรกันมา เคยสร้างอะไรคล้ายคลึงกันมา พอถึงเวลาก็เจออะไรคล้าย ๆ กัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 20-11-2009 เมื่อ 09:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 122 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 20-11-2009, 02:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า "ช่วงก่อนงานกฐิน ๓ วัน ก็เข้ากรรมฐานตามที่ได้รับปากพระท่านไว้ ปรากฏว่าเพื่อนที่เรียนพุทธศาสตร์บัณฑิตด้วยกัน ท่านชิงเลิกหายใจไปก่อน ท่านมาหา ก็มาบ่น ๆ สารพัดเรื่องให้ฟัง ว่าตายแล้วที่วัดนั้นยุ่ง เหมือนยุงตีกัน แล้วก็มาเตือนว่าอย่าลืมไปงานศพท่านด้วย

ถ้าหากเราฟังเฉย ๆ ก็ไม่มีอะไรหรอก แต่คราวนี้คิดอีกที ตายแล้วยังยึดติดอีกหรือนี่ ก็เพราะความที่ใจมันยังห่วงงาน ห่วงวัดวาอารามอยู่ ยังยึดยังเกาะอยู่ ก็เลยไปไกลไม่ได้ แล้วก็ห่วงกระทั่งงานศพของตัวเองว่าเราจะไปหรือไม่ไป เราก็เออ..ผีกับคนก็คล้าย ๆ กัน ถ้าตราบใดที่ยังไม่สามารถทำกำลังใจให้ขึ้นเป็นถึงพระอริยเจ้าจริง ๆ พวกรักโลภโกรธหลงก็เหมือนกันทุกอย่าง เพียงแต่ว่าอยู่กันคนละสภาพเท่านั้น

ของพวกเราก็รักโลภโกรธหลงในลักษณะของกายหยาบ ของเขาก็รักโลภโกรธหลงในลักษณะของกายทิพย์ โดยเฉพาะสัมผัสต่าง ๆ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจของเขาจะละเอียดกว่าปกติ รับรู้ได้กว้างไกลกว่าปกติ ดีไม่ดีอาจทำให้รักโลภโกรธหลงมากกว่าปกติเสียด้วยซ้ำไป เพราะว่ารับรู้ละเอียดมากกว่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 20-11-2009, 03:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อกล่าวว่า "ในเรื่องของศรัทธา ถ้าใช้ในทางที่ถูกที่ควรจะเสริมสร้างพระพุทธศาสนาได้มาก แต่กว่าจะสร้างศรัทธาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ศรัทธาถ้าเปรียบกับต้นไม้ ก็เป็นต้นไม้ที่ปลูกขึ้นยากสุด ๆ เลย แต่ถ้าขึ้นแล้วก็ตายยากที่สุดเหมือนกัน คนปลูกจะต้องใช้ความอดทน ปีแล้วปีเล่าที่จะทำให้ญาติโยมเขาเห็นว่าสิ่งทั้งหลายที่เราทำนั้นเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมจริง ๆ เพื่อพระศาสนาจริง ๆ

คนที่อยากทำบุญมีมากต่อมากด้วยกัน แต่ถ้าเขาทำไปแล้วเขาเกิดความไม่มั่นใจขึ้นมาว่า เราจะใช้เงินของเขาไปตามเจตนาหรือเปล่า ก็จะทำให้ญาติโยมของเขาไว้วางใจไม่เต็มที่ แต่ถ้าเขาเห็นเราเอาเงินไปใช้ตามเจตนา ตามที่ประกาศไว้จริง ๆ มีเท่าไรเขาก็ให้ เพียงแต่ว่าต้องสร้างสมระยะเวลา ให้เขาเห็นว่าสิ่งทั้งหลายที่ทำนั้นเราทำจริง คนอยากทำบุญเขาก็จะมาเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ชินเชาวน์ : 20-11-2009 เมื่อ 07:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 20-11-2009, 11:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า "ตอนเช้าที่บวงสรวง (บ้านวิริยบารมี) นอกจากจะรับทราบ รับรู้คำสั่งแล้ว ยังมีหลายอย่างที่ขอ

มีอย่างหนึ่งที่ขอก็คือ ถ้าไปถึงตรงจุดนั้นแล้ว จะเริ่มกลายเป็นเป้าของชาวบ้าน ก็นึกถึงหลวงวิจิตรวาทการ

อันที่จริงคนเขาอยากเห็นเราดี
แต่ถ้าเด่นขึ้นทุกทีเขาหมั่นไส้
จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย
ไม่มีใครเขาอยากเห็นเราเด่นเกิน


ก็เลยมีการขอบารมีพระ พรหมเทวดา ตลอดจนครูบาอาจารย์ทั้งหมดช่วยสงเคราะห์ กำหนดเขตไปเลยว่าจะเอาขนาดสักเท่าไร กว้างไกลสักแค่ไหน ที่บรรดาอันตรายต่าง ๆ ห้ามเข้า

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จริง ๆ แล้วอาตมาไม่ได้กลัว แต่ว่าทำเผื่อโยม เพราะว่าวาระกรรมของแต่ละคนนอกจากจะไม่เท่ากันแล้ว กำลังใจยังไม่เท่ากันด้วย พอกำลังใจไม่เท่ากัน เวลาเขาลดแลกแจกแถมอาจจะได้รับเยอะหน่อย ที่จริงว่าไปเขาก็ใจดีนะ ปฏิบัติตามที่พระพุทธเจ้าท่านสอน มีอะไรก็แบ่งปันให้คนอื่น เพียงแต่ว่าเขาแบ่งแต่ของที่ไม่ค่อยจะดีมาให้..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 127 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 20-11-2009, 13:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า "ก่อนงานกฐินวัดถ้ำป่าไผ่ หลวงพ่อมหาสิงห์ท่านให้เอาเสลี่ยงไปรับแล้วก็แห่ออกมาจากที่พัก มันเห็นภาพในอดีตซ้อน ๆ ขึ้นมามากมาย แต่ว่ามันมีส่วนหนึ่งที่มาพร้อมกับความรู้สึกที่ปรากฏชัดเจนว่าภาระใหญ่มันมาด้วย มันไม่ได้บอกเราแค่ว่าอดีตเราทำอะไรไว้ แต่มันบอกเราด้วยว่าปัจจุบันสิ่งที่เราทำนี้มันกำลังส่งผลแล้ว ก็แปลว่างานของพระศาสนาที่มันจะต้องมีส่วนที่กว้างไกลออกไป

ก็อย่าเพิ่งไปวิตกวิจารณ์กับมัน อะไรก็ตามที่ยังเป็นอนาคตอยู่ก็ไม่ไปคิดถึงให้เสียเวลา มาชนตรงหน้าเมื่อไรค่อยว่ากัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 20-11-2009 เมื่อ 14:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 20-11-2009, 14:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ลูกสาวค่ะ การงานหนักก็ไม่เอา เบาก็ไม่เอา ?
ตอบ : ก็แม่เลี้ยงมาดี อย่างนี้ช่วยไม่ได้จริง ๆ จ้ะ เพราะว่าไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ จะได้ไปไล่ตี แสดงว่าก่อนหน้านั้นแม่รักลูกมากเกินไปใช่ไหม ถึงเวลาจะแตะจะต้องก็ไม่กล้า ดูแลมา ริ้นไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม ลูกเขาก็เลยเคยชิน

ถาม : ความผิดของแม่ ?
ตอบ : ใช่ จริง ๆ ก็พอปรับได้ แต่ว่าต้องใช้กำลังใจสูง ทีนี้การที่เราจะใช้กำลังใจสูงปรับเปลี่ยนนิสัยของตัวเองนี่ ถ้าไม่ใช่มุ่งมั่นจริง ๆ ทำไม่ได้ ก็ลองสักทีถ้าคิดว่าทำให้แม่สบายใจก็ลองปรับตัวของตัวเองดู เพื่อความสบายใจของแม่

มีอยู่สิ่งหนึ่งที่อัศจรรย์มากเลยก็คือว่า การที่เราสร้างกรรมไว้กับพ่อแม่ไม่ว่าจะเจตนาก็ตามหรือไม่เจตนาก็ตาม ถ้าหากว่ามีลูกเมื่อไร จะได้คืนหลายเท่า เห็นมาเยอะต่อเยอะแล้ว อันนี้ไม่ได้ตำหนิว่าทำไมถึงทำตัวอย่างนั้น เพราะว่าบางทีเราก็ไม่รู้สึกว่าผิดอะไร แต่ว่าเราก็ไปสร้างความทุกข์ใจกลุ้มใจให้กับพ่อแม่ อาจจะเป็นเพราะว่าในส่วนของธรรมะเขายกพ่อแม่ไว้ในระดับเดียวกับพระอรหันต์ อย่างเช่นว่าการฆ่าพ่อฆ่าแม่ถือว่าเป็นอนันตริยกรรม การฆ่าพระอรหันต์ถือว่าเป็นอนันตริยกรรม ในเมื่ออยู่ในระดับเดียวกัน ใครทำอะไรไม่ดีกับพ่อแม่โทษก็เลยสูง โดยเฉพาะว่าถ้าทำให้พ่อแม่ทุกข์ใจ เรามีลูกเมื่อไรเจอมากกว่าหลายเท่า เจอมาหลายต่อหลายมาก เป็นเรื่องแปลก ลองกลับไปพิจารณาดู ถ้าอันไหนไม่เหลือบ่ากว่าแรงลองปรับดู เพื่อความสบายใจของแม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 20-11-2009 เมื่อ 14:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 20-11-2009, 14:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คุยกับคนที่มองไม่เห็นตัว
ตอบ : ตั้งสติระมัดระวังนิดหนึ่ง บางทีนั่งอยู่ตรงนี้เราก็ขยับแว่นดู มันใช่คนจริงหรือเปล่า ไม่ใช่ว่าเรานั่งพูดอยู่คนเดียวแล้วคนอื่นไม่เห็น บางทีเรานั่งอยู่ตรงนี้แล้วคนเขาแปลกใจว่าทำไมเราต้องมองหน้าเขาหลายที คือ กลัวว่าเราจะคุยด้วยแล้วจะเป็นประเภทคนอื่นเขามองไม่เห็น แล้วจะกลายเป็นเรานั่งพูดอยู่คนเดียว แล้วเขาจะว่าเราบ๊อง ลักษณะอย่างนั้นจริง ๆ เขามีอยู่ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้มันเป็นเรื่องปกติ แต่ทั้งนี้เราต้องระมัดระวังก็คือว่า บางทีเรื่องที่เราพูดไป มันอาจจะเกิดโทษขึ้นได้ อย่างที่แม่เขาว่า ถ้าใครเขามาเผลออัดเสียงแล้วเปิดฟังนี่เฮงจริง ๆ

ถ้าหากว่าจะคุยกับพวกนี้ลองใช้วิธีนึกในใจดูสิ ถ้ามันสื่อกันได้จะได้ไม่ไปออกเสียง ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวแม่เป็นลมหัวใจวายตาย

ถาม : มันจะดีหรือเปล่า
ตอบ : มันจะดีหรือไม่ดีตอนนี้มันไม่เกิดโทษอะไร เพราะว่าบางท่านจะมีสัมผัสพิเศษพวกนี้ที่เราไม่มีอยู่ เขาสามารถสื่อได้เป็นปรกติอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เราต้องมีสติว่าเราพูดได้แค่ไหน

ถาม : อยากจะให้ลูกเขาเป็นคนปกติทำมาหากินได้
ตอบ : ก็นี่แหละปกติ เขาปกติแต่เราเห็นว่าไม่ปกติ

ถาม : อยากให้เขาเลี้ยงตัวเองได้
ตอบ : จ้ะ อันนี้ไปคุยกับลูกได้ คุยด้วยเหตผล อย่าคุยด้วยอารมณ์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 23-01-2019 เมื่อ 15:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 21-11-2009, 10:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระรามกับพระลักษณ์เป็นพระชาติหนึ่งของพระพุทธเจ้าหรือเปล่าครับ
ตอบ : พระรามท่านจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้ามีนามว่า สมเด็จพระพุทธรามะสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นองค์ถัดจากพระศรีอาริยเมตไตรย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 21-11-2009, 10:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อครับ หลวงพ่อท่านคล้าย ที่ท่านวาจาสิทธิ์เพราะอะไรหรือครับ
ตอบ : พูดจริง ทำจริง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 113 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 21-11-2009, 10:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล็กเล่าให้ฟังว่า "ตอนนั้นอยู่ที่วัดท่าซุง ยังเฝ้าหน้ากุฏิหลวงพ่ออยู่ เราก็จะภาวนาของเรา แต่มันรำคาญพวกคนที่ชอบเข้ามากวน พอดีในมือถือลูกประคำอยู่ ก็เอาลูกประคำวางไว้บนอก แล้วก็ตั้งใจอธิษฐานว่าถ้าใครเข้ามาก็ขอให้ลูกประคำเป็นงู
ปรากฏว่าพี่วิรัช โผล่มาพอดี พี่ก็ตกใจ "เฮ้ย ! งู" เราก็บอกว่า "งูที่ไหน ลูกประคำ" พี่ก็บอกว่า "เมื่อกี้ผมเห็นเป็นงูจริง ๆ " เป็นความซวยของพี่ที่มาผิดจังหวะ เราก็ตั้งใจจะไล่คนแต่พระดันมาแทน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 113 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 21-11-2009, 10:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า "ท้าวเวสสุวรรณ ผู้ดูแลโลกประจำทางด้านทิศเหนือ ปกครองฝูงยักษ์ทั้งหมด และปกครองเทวดาชั้นจาตุมหาราชทั้งหมด

ในบรรดาท้าวมหาราชทั้งสี่ จะยกให้ท้าวเวสสุวรรณเป็นหัวหน้าใหญ่ ท้าวเวสสุวรรณมีหลายชื่อ บางชื่อเรียกว่า ภูเตศวร (เจ้าแห่งผี) บางชื่อเรียกว่า ธนบดี ( เจ้าแห่งขุมทรัพย์) เพราะว่าบรรดาขุมทรัพย์ทุกแห่งในโลก จะมีเทวดาชั้นจาตุมหาราชที่เป็นบริวารของท่านดูแลรักษาอยู่ คนจีนเรียกท้าวเวสสุวรรณว่า ไช้ซิ้งเอี้ย

ไช้ซิ้งเอี้ย ก็คำเดียวกับ ธนบดี ( ไช้ซิ้งเอี้ย = เทพสมบัติ)"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 115 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 21-11-2009, 14:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อกล่าวให้ฟังว่า "ด้วยความที่เราอยู่กับหลวงพ่อมานาน เวลาหลวงพ่อท่านเทศน์ ท่านจะบอกศักราชเสมอ การบอกศักราชของหลวงพ่อ ท่านจะบอกย่อ

การบอกศักราชจริง ๆ เขาจะบอกว่าขณะนี้เป็นวันเดือนปีที่เท่าไหร่ พระพุทธศาสนาล่วงมาแล้วกี่วัน กี่เดือน กี่ปี และยังเหลืออยู่อีกกี่วัน กี่เดือน กี่ปี นี่คือการบอกศักราชแบบเต็มยศ แต่ปัจจุบันนี้ เราจะบอกแค่ว่าล่วงมาแล้วเท่าไหร่ สมัยก่อนที่เขาบอกเต็มเพื่อเตือนสติให้รู้ว่า เวลามันผ่านไปเร็วมาก ถ้าเราไม่เร่งปฏิบัติเดี๋ยวพระพุทธศาสนาครบห้าพันปีเสียก่อน จะเฮงไม่รู้จบ

ด้วยความเคยชินที่อยู่กับหลวงพ่อ ฟังเสียจนจำได้ก็เลยบอกศักราชได้ตั้งแต่เทศน์ธรรมาสน์แรก ปรากฏว่าตอนที่ไปอบรมพระนักเทศน์ เขาบอกว่าการเทศน์ ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วตั้งอุเทศเลยก็ได้ ไม่ต้องบอกศักราช แต่ถ้าใครมีความสามารถพิเศษบอกศักราชได้เลยถือว่าดีมาก สรุปแล้วของเราที่ไม่เอาไหนมันกลายเป็นดีมากของเขา พอถึงเวลาท่านอาจารย์มหาณรงค์ศักดิ์ ท่านก็เอาใบที่เขียนศักราชมาเป็นภาษาบาลี เราก็ต้องแก้แล้วแก้อีก เพราะมันผิด ท้ายสุดก็บอกว่าอาจารย์ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวคนอื่นจะเดือดร้อน เดี๋ยวผมบอกปากเปล่าให้ดีกว่า

ก็เลยกลายเป็นงานประจำ ถ้าเปิดการสาธยายพระไตรปิฎก ก็ต้องไปร่วมงานเปิด อยู่ในฐานะเป็นคนบอกศักราช คือ ประกาศให้รู้ว่าพระพุทธศาสนาขณะนี้ล่วงมาแล้ว ๒๕๕๒ ปี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 28-04-2013 เมื่อ 12:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 107 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 21-11-2009, 14:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าบังเอิญเราต้องไปร่วมกับคนที่มีการนินทา พูดถึงพระในทางไม่ดี ถ้าเราใช้บทขอขมาพระรัตนตรัยจะช่วยได้ไหมคะท่าน รู้สึกว่าตัวเองบาปด้วย ที่ไปอยู่ในหมู่ที่เขานินทา

ตอบ : ขอขมาพระรัตนตรัยบ่อย ๆ สิ่งที่เราล่วงเกินไปนั้นถือว่าเป็นความชั่ว เป็นกรรมไม่ดี การที่เราขอขมาถือว่าเป็นกรรมดี มันเป็นคนละส่วนกันก็จริง แต่มันเหมือนกับว่าเรามีน้ำเกลืออยู่แก้วหนึ่ง แล้วเราเอาน้ำสะอาดเติมไปเรื่อย ๆ เกลือมันไม่ได้ไปไหนหรอก แต่รสมันจืดลง ความชั่วมันไม่ได้ไปไหน แต่ความดีมันกลบทับไป มันลบล้างกันไม่ได้ แต่ว่าถ้าดีมันมากกว่ามันก็จะไปทางด้านอื่น เพราะฉะนั้นทำบ่อย ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 110 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 21-11-2009, 15:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อคะ เวลามารเขาดลใจ เขาไม่ได้ดลแค่เราใช่ไหมคะ
ตอบ : ทุกคน เขาใช้คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว ในการทดสอบเรา อย่างแค่น้ำขวดเดียว ใครวะวางเอาไว้เกะกะ ตู้เย็นมีก็ไม่เอาไปใส่ โกรธเขาไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่มันเป็นน้ำไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย แต่จริง ๆ ก็คือมันต้องเริ่มจากข้างใน

ถ้าไม่มีเชื้ออยู่มันก็ก่อไม่ติดหรอก มีทางเดียวก็คือทำอย่างไรที่เราจะชำระล้างให้สะอาด ไม่เหลือเชื้อไว้ ก็ค่อย ๆ ล้าง ค่อย ๆ ตัดไปทีละนิดทีละหน่อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 105 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 21-11-2009, 16:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า "ตอนนี้เรื่องของพระปิดตา ตั้งใจจะสร้างเป็นสองเนื้อ คำว่าสองเนื้อไม่ได้หมายความว่าสองอย่าง สองเนื้อก็คือเนื้อโลหะกับเนื้อผง

สำหรับเนื้อโลหะเรามีชนวนเก่าอยู่มาก มีทั้ง
ชนวนพระปัจเจกพุทธเจ้าทองคำ ๑ ซม., ทองคำ ๓ ซม. , ทองคำ ๓ นิ้ว , เงิน ๑ ซม. , เงิน ๓ ซม. , เงิน ๓ นิ้ว
ชนวนทองคำพระยอดธง ชนวนเงินพระยอดธง
ชนวนพระอุปคุตปราบมารที่ไปนั่งปรกให้ทางวัดไร่แตงทอง
ชนวนที่สำคัญที่สุดก็คือ ยันต์ครูที่ท่านให้เขียนตอนเข้ากรรมฐาน ๓ วัน ใช้แผ่นทองแผ่นใหญ่เลย

ตอนแรกก็คิดว่าตูจะเขียนอะไรวะ ตอนที่เข้ากรรมฐานหลวงพ่อท่านถามว่า จำได้ไหมว่าแกเคยขโมยของข้าไป ก็บอกว่าผมไม่เคยขโมยหรอกครับ ผมแค่คิดค่าเฝ้ากุฏิ ท่านก็บอกให้ไปดูแบบตามนั้น ก็เลยไปเปิดดู ปรากฏว่าของท่านมียันต์อยู่ ๗ อย่างด้วยกัน คือ
๑) ยันต์พุทธนิมิต
๒) ยันต์ศัตรูพินาศของท่านท้าวเวสสุวรรณ
๓) ยันต์มหาเศรษฐี
๔)ยันต์กันโรคระบาด
๕)ยันต์กันแคล้วคลาดของท่านปู่พระอินทร์
๖) ยันต์ปัญจพุทธามหามงคล ที่เขียนตะกรุดมหาสะท้อน
๗) ยันต์คาถาเงินล้าน
ตั้งใจว่าจะใส่ไปทั้งหมด และเมื่อวันที่ ๒ วันลอยกระทง มันเป็นฤกษ์พิเศษ มันเป็นฤกษ์จันทร์เพ็ญ ปกติแล้วโบราณท่านนิยมฤกษ์วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ท่านถือว่าทุกอย่างมันเต็มเปี่ยมบริบูรณ์สมบูรณ์หมด แม้กระทั่งน้ำมันก็ขึ้นเต็มตอนนั้น แต่ที่เขาหาอีกฤกษ์หนึ่งก็คือ ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ที่ตรงกับวันจันทร์ เพราะเขาถือว่าวันจันทร์เป็นวันมหาเสน่ห์ใช้ทำเมตตาดีมาก ๆ เราก็ทำอะไรได้ไม่มาก คว้ายันต์เขียนได้สองแผ่น เพราะเขาถือฤกษ์ตอนเที่ยงคืนตรง เขียนช้าก็ไม่ทัน มีเท่าไหร่จะใส่ไปหมดเลย

ที่เน้นจริง ๆ ก็คือ เน้นในเรื่องของลาภ เพราะช่วงที่เข้ากรรมฐานท่านบอกว่าคนที่ทำบุญด้วยจะได้มีความคล่องตัว ดังนั้นพระที่สร้างชุดนี้ก็เน้นในเรื่องของลาภผล

ในส่วนของพระเนื้อผงที่อยากสร้าง เพราะว่ามีผงสำคัญอยู่เยอะ เอาแค่ว่า ลูกอมของหลวงปู่พริ้ง วัดบางปะกอก ลูกอมของหลวงปู่จง วัดหน้าต่างนอก ผงจักรพรรดิของหลวงปู่ดู่ ฯลฯ ก็เลยว่าจะทำเนื้อผงด้วย ส่วนเนื้อโลหะอาจจะมีหลายอย่าง มีทองคำ เงิน ทองชุบ ประมาณนี้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-11-2009 เมื่อ 17:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 109 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 21-11-2009, 16:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันอาทิตย์ที่บ้านอนุสาวรีย์นั้น มีโยมท่านหนึ่งนำปฏิทินซึ่งเป็นรูปพระ มีรูปสมเด็จองค์ปฐม รูปหลวงพ่อฤๅษี ฯลฯ มาถวายแด่หลวงพ่อเล็ก หลวงพ่อเล็กท่านก็แจกให้แก่ญาติโยมที่ต้องการ แต่เผอิญว่ามีปฏิทินรูปที่เป็นรูปหลวงพ่อเล็กด้วย ท่านจึงบอกให้โยมนำกลับไป ท่านไม่แจกแล้วก็บอกแก่ญาติโยมทั้งหลายว่า "ทั้งหลายทั้งปวงที่อยู่ที่นี่ จำไว้เป็นอันขาดว่า อย่าทะลึ่งเอารูปผมไปทำ โดยไม่มีความจำเป็นและไม่ได้รับอนุญาต"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-11-2009 เมื่อ 16:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 107 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 21-11-2009, 16:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อคะ ปีติ มันเป็นกิเลสหรือเปล่าคะ
ตอบ : ก็ยังเป็น มันเป็นส่วนของกามาวจร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 103 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 21-11-2009, 17:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การดิ้นรนของจิต ?
ตอบ : การปฏิบัติพอเราทำไปถึงระดับหนึ่ง กำลังก็เริ่มเพียงพอที่จะเผากิเลส กิเลสมันก็จะร้อน คำว่าตบะคือความร้อน พอกิเลสมันร้อน มันก็ดิ้น พอกิเลสดิ้น เราดันไปคิดว่าตัวเองเป็น มันจะไปไหนก็พามันไป ก็เลยกลายเป็นว่า กิเลสมันก็มีกำลังที่จะมาเล่นงานเราต่อไปเรื่อย ๆ แต่ความจริงถ้าเผามันอีกหน่อยเดียวมันก็ตายแล้ว แต่ปรากฏว่าเราเลิกก่อนทุกที พอบอกว่าจะตายแล้วทีไร เราไปคิดก่อนว่าเราจะตาย ไม่ได้คิดว่ากิเลสจะตาย โดนมันหลอกมายกแล้วยกเล่า สรุปแล้วก็คือกลัวตายนั่นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2009 เมื่อ 15:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 115 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:40



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว