กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 25-05-2018, 08:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านใดที่ถวายทองคำเพื่อหล่อพระ กรุณาเขียนชื่อเขียนนามสกุลมาด้วย ยกเว้นบางท่านที่เดินมาถึงก็ถอดจากนิ้ว ถอดจากคอ ถอดจากหูมาเลย ถ้าอย่างนั้นอาตมาจะลงบัญชีเป็นผู้ไม่ประสงค์ออกนาม

ท่านพระครูสุภกิจชยาภรณ์ หรือพระครูศุภชัย วัดหนองมะคัง ถวายหลวงปู่ปานพิมพ์ขี่ไก่มา ๑ องค์ ขอให้เอาไปประมูลเพื่อสร้างพระพุทธรูปทองคำ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-05-2018 เมื่อ 11:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 25-05-2018, 21:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

(พูดถึงเรื่องการแบ่งปันที่นั่งในศาลา)

มาวัดเพื่อที่จะวัดความดีในใจของเรา อย่าเห็นแก่ตัวเอาสบายคนเดียว การแสดงออกของเราจะชัดเจนมากว่าเป็นคนเห็นแก่ตัวหรือเห็นแก่ส่วนรวม เป็นคนดีพอที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมหรือแปลกแยกจากสังคมจะเห็นได้ชัด

ใครมีอาสนะกรุณาสละด้วย เพราะว่าการที่เอาที่นั่งมาจะทำให้นั่งลำบาก คนอื่นเขาโดนเราเบียดกินที่ไป ถ้าหากว่ามีอาสนะสัก ๓ ที่ก็แย่งคนอื่นนั่งไป ๒ คนแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2018 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 25-05-2018, 21:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพี่มหาเอ หรือท่านพระมหานันทวัฒน์ เขมธมฺโม เปรียญธรรม ๖ ประโยคจากวัดปากน้ำภาษีเจริญ อดีตก็คือพระวัดท่าขนุน อาตมาเป็นเจ้าภาพบวชให้ด้วยตัวเอง ท่านก็รับภารธุระแทนอาตมาหลายอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องของเครื่องบายศรีบวงสรวง ท่านและคณะศิษย์ช่วยกันทำให้ทุกครั้ง โดยที่อาตมาไม่ต้องเสียเงินเสียทองอะไรเลย

โดยเฉพาะงวดนี้ ความคิดของท่านกับอาตมาตรงกันโดยมิได้นัดหมาย บายศรีของท่านเป็นรูปปลาอานนท์ กะจะพลิกแผ่นดินกันเลย เดี๋ยวก็ต้องดูว่า ถ้าพลิกกว้าง ๆ ไม่ได้ก็เอาสักหน้าจอบเดียวก็ยังดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2018 เมื่อ 03:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 25-05-2018, 21:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

น้ำมนต์เสาร์ ๕ เอาไปต่อเพิ่มได้ เทใส่โอ่งใส่อ่างอะไรไว้ก็ได้ พอถึงเวลาจวนหมดก็ตักของเก่าออกมา เติมน้ำใหม่ใส่ลงไป ใกล้เต็มแล้วก็เอาของเก่าเททับหน้า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2018 เมื่อ 03:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 25-05-2018, 22:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

(พูดถึงการรับยันต์) งวดนี้คนใหม่เยอะก็เลยช้านิดหนึ่ง เขาไม่เข้าใจว่าจะรับยันต์อย่างไร ภาวนาก็ไม่ค่อยจะมีสมาธิ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2018 เมื่อ 03:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 25-05-2018, 22:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ไม่ว่าจะท่านที่อยู่ในศาลานี้หรือว่าอยู่ต่างจังหวัด อยู่ต่างประเทศก็ดี สามารถรับยันต์ได้ อย่างทางด้านวัดเกาะแก้ว จังหวัดสุพรรณบุรี นำโดยท่านอาจารย์สมชาย วัดหรือว่าสถานที่ปฏิบัติอื่น ๆ ถ้าตั้งใจจะรับยันต์เกราะเพชรเป็นหมู่คณะแบบนั้นก็สามารถที่จะทำได้เช่นกัน เพราะว่าถ้าท่านสามารถรวมคนได้มาก ๆ จะเดินทางมาวัดก็จะลำบาก ท่านอาจารย์สมชายมาขออนุญาตตั้งแต่หลายปีก่อน อาตมาถึงได้บอกว่าจัดพิธีที่ศาลาวัดนั่นเลย แล้วก็รับไปพร้อมกันทั้งวัด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2018 เมื่อ 03:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 29-05-2018, 09:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ญาติโยมทั้งหลาย ในเรื่องของยันต์เกราะเพชรนั้นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ยันต์เกราะเพชรคือบารมีของพระพุทธเจ้า ซึ่งยันต์เกราะเพชรนั้นมีที่มาจากตำราพระร่วงสมัยสุโขทัย สมัยนั้นมีการสร้างธงมหาพิชัยสงครามเพื่อใช้ในการนำทัพ ธงผืนเดียวคุ้มครองทหารได้ทั้งกองทัพ ไม่ว่าจะกี่หมื่นกี่แสนนายก็ป้องกันได้หมด

แต่คราวนี้ธงมหาพิชัยสงครามเป็นธงที่เขียนยาก ทำยาก ครูบาอาจารย์ท่านเลยตัดเอาส่วนคอธงที่เป็นบทสรรเสริญพระพุทธคุณ อิติปิ โสฯ ถึง ภควาติ เอามาจัดเรียงเสียใหม่ เป็น ๘ แถว แถวละ ๗ ตัว บางคนเรียกว่า อิติปิ โสฯ ๘ ทิศ แล้วอ่านตามขวางว่า

อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา
ติ หัง จะ โต โร ถิ นัง เป็นต้น

มีอุปเท่ห์ต่างกันไปตามแต่ละบท อย่างเช่นบทแรกเรียกว่า ฝนแสนห่า เป็นบทใช้สำหรับเรื่องของความแคล้วคลาด สามารถเดินกลางฝนได้โดยที่ตัวไม่เปียก

บทที่ ๒ เรียกว่ากระทู้ ๗ แบก มีเอาไว้สำหรับเรื่องของอยู่ยงคงกระพัน ท่านว่าแบกไม้มา ๗ แบก ไล่ทุบจนไม้หักหมดก็ยังไม่สามารถที่จะทำอันตรายได้ เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2018 เมื่อ 18:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 29-05-2018, 09:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วทำการชักสูตรสำเร็จออกมาเป็นยันต์เกราะเพชร ซึ่งยันต์เกราะเพชรนั้นท่านบอกว่ามีอานุภาพหลายอย่างด้วยกัน

ประการที่ ๑ บุคคลที่รับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว ท่านว่าถ้าไม่หมดอายุขัยจริง ๆ จะไม่ตายโหง ต่อให้บาดเจ็บหนักหนาสาหัสอย่างไรก็รักษาจนหายกลับมา ซึ่งเรื่องนี้อาตมาพบด้วยตนเองมาหลายวาระ ทั้งบุคคลที่รู้จักและทั้งโยมแม่ของตัวเอง

ขนาดโยมแม่ตัวเอง โดนรถบี้กระจาย กระดูกด้านขวาตั้งแต่กรามลงไปหักหมดทุกท่อนเลย อยู่ห้องไอซียู ๑๘ วัน อาตมาไปถวายสังฆทานกับหลวงพ่อวัดท่าซุง กราบเรียนท่านว่า "แม่โดนรถชน อยู่ไอซียูมา ๑๘ วันแล้ว ผมเกรงว่าจะไม่รอด ขออนุญาตทำบุญถวายสังฆทานให้กับแม่ล่วงหน้าครับ"

หลวงพ่อท่านถามว่า "แม่แกรับยันต์เกราะเพชรไปบ้างหรือเปล่า ?" ก็กราบเรียนท่านว่า "รับไปหลายครั้งครับ" ท่านบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นไม่ตายหรอก" แล้วก็เป็นเรื่องจริง แต่ว่าต้องรักษาตัวอยู่ถึง ๓ ปี กว่าที่ร่างกายจะฟื้นคืนดีมาตามเดิม เป็นคำยืนยันว่า บุคคลที่รับยันต์เกราะเพชรไป ถ้าไม่ถึงอายุขัยจริง ๆ จะไม่ตายโหง

ประการที่ ๒ จะไม่ตายด้วยพิษของสัตว์มีพิษทุกประเภท เรื่องนี้อาตมาไม่ได้ตั้งใจทดสอบ แต่โดนด้วยตนเอง คือโดนงูกะปะกัดที่ชีพจรข้อมือจม ๔ เขี้ยวเลย ใครอยากดูรอยแผล ปัจจุบันนี้ยังมีให้ดูอยู่ ซึ่งอาตมาเองก็แค่เอาน้ำล้าง ติดพลาสเตอร์แล้วก็ทำงานต่อไป เล่นเอาพระลูกศิษย์ที่มาจากปักษ์ใต้ประสาทรับประทาน บอกว่า "อาจารย์ครับ ไอ้ตัวอย่างนี้กัดนี่บวมทั้งตัว ขนาดเลือดออกตามขุมขนเลยนะครับ แล้วก็เน่าหล่นไปทีละชิ้น" อาตมาตอบว่า "ท่านไม่ต้องห่วง ผมรับยันต์เกราะเพชรมาแล้ว ผมมั่นใจว่ายันต์เกราะเพชรคุ้มครองได้

ถ้าหากว่ายันต์เกราะเพชรคุ้มครองไม่ได้ แปลว่าสูญหายไปแล้ว ซึ่งการที่ยันต์จะสูญหายก็คือ ไม่ดื่มสุราก็ลักขโมย ถ้าอย่างนั้น ผมก็ไม่สมควรที่จะเป็นพระอยู่แล้ว" ก็ปรากฏว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น นอกจากมีความปวดจากพิษงู วิ่งจากแผลขึ้นมาถึงข้อศอก แล้วก็โดนยันต์เกราะเพชรดันกลับไป แล้วก็วิ่งขึ้นมาใหม่อย่างนั้นอยู่ ๓ - ๔ ครั้งก็หายไปเฉย ๆ หลังจากนั้นอาตมาก็จับงูทุกชนิดเป็นว่าเล่น

แม้กระทั่งงูจงอางตัวยาวเป็น ๓ - ๔ เมตรก็จับเล่นเป็นปกติ เพราะมั่นใจว่าถ้าเราไม่ทำผิดข้อห้าม ยันต์เกราะเพชรจะคุ้มครองได้จริง ๆ แม้กระทั่งโดนตะขาบกัด เพราะไปเหยียบตอนเดินบิณฑบาต ก็จะบวมอยู่แค่บริเวณที่กัดเท่านั้น ไม่สามารถที่จะลามสูงขึ้นมาได้ โดนต่อต่อย ก็ปวดเป็นวงอยู่ประมาณเหรียญ ๑๐ บาท ไม่ไปไหน หลังจากนั้นแล้วก็คันอย่าบอกใครเลย แสดงว่าพิษเริ่มกลายเป็นลม ระเหยออกทางผิวหนัง เป็นต้น

ดังนั้น ในเรื่องของการไม่ตายด้วยสัตว์มีพิษนั้น ถ้าญาติโยมไม่ได้มั่นใจขนาดอาตมา ถ้าโดนงูกัดก็ไปหาหมอเสียก่อน เป็นการประกันความเสี่ยงไปในตัวก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2018 เมื่อ 18:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 29-05-2018, 09:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประการที่ ๓ อานุภาพของยันต์เกราะเพชรจะป้องกันไม่ให้ท่านตายด้วยไสยศาสตร์ทุกประเภท คำว่าไม่ให้ตายด้วยไสยศาสตร์ ไม่ได้แปลว่าไม่เจ็บ อาตมาเองเคยโดนเจ็บปางตาย กราบเรียนถามหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านว่า "ทำไมเป็นอย่างนั้นครับ ?" ท่านตอบว่า "ไสยศาสตร์เหมือนกับไฟ ยันต์เกราะเพชรเหมือนกับผนังกั้นไม่ให้ไฟนั้นเผามาถึงตัวเรา แต่ถ้าไฟกองใหญ่มาก ๆ ความร้อนก็ต้องมาถึงเราบ้าง"

ดังนั้น..แม้ว่ายันต์เกราะเพชรจะป้องกันไม่ให้เราตายเพราะพิษของไสยศาสตร์ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เจ็บ อันนี้อาตมาโดนมากับตัวเองเต็ม ๆ ซาบซึ้งดีเป็นที่สุด

ข้อสุดท้ายท่านบอกว่า อานุภาพของยันต์เกราะเพชรสะท้อนคืนไสยศาสตร์ทุกประเภท ไม่ว่าเขาจะทำเราด้วยไสยศาสตร์ ตั้งใจจะให้เราเป็นอย่างไร เจ็บอย่างไร ตายอย่างไร เขาจะเป็นแบบนั้นเอง ซึ่งเรื่องนี้อาตมาเองก็เจอมา เพราะว่ามีหลายคนเห็นว่าอาตมาเป็นพระหนุ่ม ทั้ง ๆ ที่บอกว่าอายุ ๖๐ ปีแล้วก็ไม่ยอมเชื่อ เพราะว่าเขาอายุ ๖๐ แล้วหน้าตาประมาณจะเป็นพ่อของอาตมาได้ ก็เลยมีการลองของ อาตมาก็ไม่ได้ว่าอะไร อยากลองได้ก็ลองไป

แม้กระทั่งการไปพุทธาภิเษกในที่หลายแห่ง ก็มีผู้หวังดีอยากจะลองว่าพระอาจารย์หนุ่ม ๆ แบบนี้จะแน่สักแค่ไหน ถึงได้รับนิมนต์มาเข้าพิธีนี้ ก็มีการลองกันซึ่ง ๆ หน้าหลายวาระ ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ต้องบอกว่า เป็นบุญของอาตมาที่ครูบาอาจารย์ท่านจัดพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรและอาตมาได้เข้ามา ๑๗ ครั้งด้วยกัน เพราะฉะนั้น...ท่านใดคิดจะทำไสยศาสตร์ใส่อาตมา ยินดีต้อนรับทุกเวลา ถ้าเจ็บเองตายเองก็ไม่ต้องไปโทษใคร เพราะว่าอาตมาไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากภาวนาตามปกติเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2018 เมื่อ 18:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 29-05-2018, 09:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ก็แปลว่าการที่ท่านทั้งหลาย ถ้ารับยันต์เกราะเพชรไปแล้ว รักษาไว้ได้

อันดับแรก ถ้าไม่ถึงอายุขัยจะไม่ตายโหง

อันดับที่ ๒ ถ้าหากว่าโดนสัตว์พิษทั้งหลายกัด จะไม่ตายด้วยพิษของสัตว์มีพิษ

อันดับที่ ๓ จะไม่ตายด้วยอำนาจของไสยศาสตร์ ไม่ว่าจะวิชาของใครก็ตาม

อันดับสุดท้าย ใครทำไสยศาสตร์ใส่เรา จะโดนสะท้อนกลับไปทั้งหมด

แล้วถามว่าการรักษายันต์เกราะเพชรเอาไว้ได้ ต้องรักษาอย่างไร ? ท่านว่าให้รักษาศีลอย่างน้อย ๒ ข้อ คือ ไม่ลักขโมยและไม่ดื่มสุรา ไม่เสพยาเสพติด

ถามว่าการลักขโมยนั้นมีโทษอย่างไร ? ท่านบอกว่าเป็นการเบียดเบียนคนอื่น การดื่มสุราหรือเสพยาเสพติดเป็นการเบียดเบียนตัวเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2018 เมื่อ 18:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 29-05-2018, 09:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในส่วนของการรักษายันต์เกราะเพชรนั้น เรื่องของสุราท่านเน้นไว้ว่า ถ้าเป็นการรักษาโรคตามสูตร อย่างเช่นประเภทยาดอง ให้กินตามหมอสั่ง ถ้าเป็นการกินตามหมอสั่ง ยันต์เกราะเพชรยังอยู่ได้ แต่ถ้ากินเอาเมากินเอาสนุก ยันต์เกราะเพชรจะสูญหายทันที โดยเฉพาะระยะนี้ให้ระมัดระวังในเรื่องของอาหารให้มาก อาตมาเจอมาแล้ว ทั้งช็อกโกแลตไส้บรั่นดี ทั้งไอศกรีมรสรัม ทั้งอาหารที่ใส่เหล้า แต่โชคดีว่าเป็นคนจมูกไว พอได้กลิ่นก็รู้ว่ากินไม่ได้ จำเป็นที่จะต้องละไว้

ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายรับประทานลงไป ความรู้สึกไว ๆ จะรู้เลยว่าร้อนวาบออกผิวหนังตัวเอง แปลว่ายันต์เกราะเพชรโบกมือลา มีโอกาสค่อยมารับการเป่ายันต์ฯ ใหม่

ในส่วนของการรักษายันต์เกราะเพชรเพื่อที่จะให้ยันต์คุ้มครองป้องกันนั้น ท่านให้ตื่นเช้าขึ้นมาภาวนาพุทโธให้กำลังใจตั้งมั่น แล้วหลังจากนั้นกลืนน้ำลาย ๓ ครั้ง ยันต์เกราะเพชรจะคุ้มครองได้ทั้งวัน ถ้าท่านไม่แน่ใจ ก่อนนอนก็ทำแบบนี้อีกครั้งหนึ่ง อานุภาพยันต์เกราะเพชรจะได้รักษาท่านทั้งวันและทั้งคืน การรักษายันต์เกราะเพชรเพื่อให้คุ้มครองเรานั้น ภาวนาเอาไว้ทั้งกลางวันและกลางคืนจะเป็นปลอดภัยที่สุด ในส่วนของการภาวนา เราจะใช้พุทโธ หรืออิติปิ โสฯ ทั้งบทก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2018 เมื่อ 18:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 29-05-2018, 09:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ไม่ได้เป่าให้โยมทีละคน แต่เป่าทีทั้งศาลา สี่ห้าพันคนแบบนี้ ขืนไปเป่าทีละคนอาตมาก็เป็นลมตายพอดี การเป่ายันต์เกราะเพชรตั้งแต่สมัยหลวงปู่ปานหรือหลวงพ่อฤๅษีก็ตาม เขาเป่ากันทีละศาลา และถ้าหากว่าญาติโยมมีความเคารพในพระรัตนตรัยจริง ๆ ไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมในศาลาก็ได้ ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของประเทศหรือมุมไหนของโลก ถ้าท่านตั้งใจรับด้วยความเคารพ ก็สามารถรับยันต์ได้ทั้งหมด

แล้วรู้ได้อย่างไรว่าเรารับยันต์ได้แล้ว ? ท่านบอกว่าในขณะที่เราภาวนาตามที่ครูบาอาจารย์ท่านสั่ง ถ้ารู้สึกว่าหนักหัว หนักไหล่ มีอาการร้อนวูบวาบคล้ายจะเป็นไข้ หรือว่าขนลุก บางคนก็สั่นทั้งตัว ถ้าลักษณะนี้แปลว่ายันต์เกราะเพชรกำลังเข้าตัวของท่านแล้ว ให้รักษาอารมณ์เอาไว้จนกระทั่งได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2018 เมื่อ 18:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 120 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 29-05-2018, 09:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำหรับในพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ครูบาอาจารย์ท่านให้ขอบารมีท้าวมหาราชพร้อมด้วยบริวารทั้งหมด ให้ช่วยขับไล่ไสยศาสตร์ต่าง ๆ ที่ติดตัวท่านทั้งหลายมา โดยเฉพาะพวกคุณผี ก็คือพวกที่ใช้ผีคุมเรามา เมื่อถึงเวลาพวกผีทั้งหลายเหล่านี้อยู่ไม่ได้ ก็จะดิ้นรนร้องโวยวาย ท่านทั้งหลายไม่ต้องตกใจ เราภาวนาของเราไปเรื่อย ๆ เป็นหน้าที่ของท้าวมหาราชและบริวารท่านจะจัดการให้เอง แต่ว่าส่วนใหญ่ที่พบมาก็คือ พอมีคนออกอาการแปลก ๆ หรือร้องเสียงดังอยู่ใกล้ ๆ บริเวณนั้นก็จะว่างไปโดยอัตโนมัติ ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกไม่มีที่ให้นั่ง แสดงว่ามีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นจริง

เมื่อเรารับยันต์เกราะเพชรเสร็จพิธีแล้ว ธูปเทียนที่ใช้ในการรับยันต์นั้น จะมีอานุภาพคล้ายกับมีดหมอ ถ้าเราไปเจอผีเจ้าเข้าสิงที่ไหน ให้ว่า นะโมพุทธายะ ใช้ธูปเทียนนั้นตีหรือว่าจี้ไล่ ผีจะออกทันที

แต่ที่อาตมาใช้ส่วนใหญ่ก็คือ ถึงเวลาจะบนพระหรือบนเจ้าที่เจ้าทาง บนเจ้าพ่อเจ้าแม่ที่ไหน อาตมาจะใช้ธูปเทียนชุดนี้ รู้สึกว่าได้ผลดีมาก ใครจะเลียนแบบก็ได้ ก็แปลว่าเมื่อรับยันต์เกราะเพชรแล้ว ให้รักษาธูปเทียนเอาไว้ ติดตัวเราไป ใช้แทนมีดหมอหรือติดบ้านเอาไว้ก็ได้ หรือว่าถ้าถึงเวลาจำเป็นขึ้นมาจะบนบานศาลกล่าวที่ไหน สามารถใช้งานได้ เพราะว่าอาตมาลองมาแล้วด้วยตัวเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2018 เมื่อ 18:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 29-05-2018, 18:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ขอย้ำอีกครั้งว่ายันต์เกราะเพชรเป็นบารมีของพระพุทธเจ้า บุคคลใดที่ได้รับการครอบครูเป่ายันต์เกราะเพชรไปแล้ว สามารถจัดพิธีได้ถูกต้อง ก็อาราธนาบารมีพระท่านให้สงเคราะห์ได้ทุกคน ปัจจุบันนี้ลูกศิษย์สายเดียวกันที่ได้รับการครอบครูเป่ายันต์เกราะเพชรมา ทั้งที่มรณภาพและสึกหาลาเพศไปแล้ว ที่อยู่นอกวัดก็มีท่านพระปลัดวิรัช โอภาโส หรือหลวงพ่อวิรัช วัดธรรมยานที่จังหวัดเพชรบูรณ์

ท่านพระครูภาวนาพิลาศ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี วัดเขาวง อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี และตัวอาตมาเอง พระครูวิลาศกาญจนธรรม เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรีแห่งนี้ นอกเหนือจากนี้ ท่านทั้งหลายก็สึกหาลาเพศหรือมรณภาพไป ส่วนที่เหลืออยู่ในวัดท่าซุงเหลืออยู่ท่านเดียว เป็นรุ่นพี่ของอาตมา ไม่ใช่เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน

คราวนี้ท่านทั้งหลายที่สึกหาลาเพศไป ถ้าบวชเข้ามาใหม่ก็ยังมีสิทธิ์ที่จะทำการเป่ายันต์เกราะเพชรได้ ดังนั้น...ท่านไม่ต้องหนักใจเพราะว่ายังมีอีกหลายท่านที่สืบสายอยู่ แต่ว่าอาตมาเองก็อายุ ๖๐ ปีแล้ว ปีหน้าจะจัดงานฉลองแซยิดแล้ว ท่านที่สึกหาลาเพศไปมีอยู่ท่านเดียวที่อายุน้อยกว่า แต่ก็ใกล้เคียงกัน ที่เหลือแปลว่าแก่กว่าทั้งนั้น ไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกสักกี่วัน ดังนั้นในส่วนนี้ ถ้าท่านที่ได้รับการครอบครูไปแล้ว มีการจัดเป่ายันต์ที่ไหน ถ้าญาติโยมสงสัยมาสอบถามอาตมาได้ ว่าท่านนั้น ๆ ได้รับการครอบครูไปหรือเปล่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2018 เมื่อ 18:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 112 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 29-05-2018, 18:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่าลืมว่าการเป่ายันต์เกราะเพชรนั้น ตามสายของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ทำได้เฉพาะวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำเท่านั้น จะเป็นเดือนใดก็ได้ ถ้าเป็นวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำเดือน ๕ ก็ยิ่งดี เขาเรียกว่ากระทิงวัน กระทิงวันนี้มีอานุภาพเพิ่มเป็น ๒ เท่า

ถ้าได้วันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะโรงคือปีที่ ๕ ก็จะเป็นตรีวัน มีอานุภาพเพิ่มขึ้นเป็น ๓ เท่า

เพราะฉะนั้น...ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม ถ้าหากว่าญาติโยมไปแล้วเป่ายันต์ได้ทุกเวลาก็ดี หรือว่าเป่ายันต์ได้ทั้งวันเสาร์วันอาทิตย์ก็ดี หรือว่าเดินสายรับจ้างเป่ายันต์เกราะเพชรให้ก็ดี ขอให้รู้ว่าไม่ใช่ลูกศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุง ไม่ทราบว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้นศึกษาวิชาการมาจากไหน

บางท่านบอกว่าเรียนมาจากหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค อาตมาอยากจะบอกหลวงปู่ปานมรณภาพไป ๘๐ ปี ขึ้น ๘๑ ปีแล้ว ถ้าบุคคลนั้นเป็นพระบอกว่าเรียนจากหลวงปู่ปาน อย่างน้อยต้องอายุ ๑๐๑ ปี เพราะว่าพระเราจะบวชก็ต่อเมื่ออายุ ๒๐ ไปแล้ว

เพราะฉะนั้น...ถ้าบอกว่าเป็นลูกศิษย์รับการครอบครูเป่ายันต์จากหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค อายุไม่ถึง ๑๐๑ ปีขอยืนยันว่าเป็นของปลอมแน่นอน ในส่วนที่ท่านทั้งหลายไปเข้าพิธี ถามว่ามีผลหรือไม่ ? ถ้าท่านมีความเคารพในพระรัตนตรัยจริง ๆ คุณความดีตรงนั้นจะรักษาท่านเอง ในส่วนของยันต์เกราะเพชร อาตมาไม่รับรองว่าจะได้ไปรักษาตัวหรือเปล่า ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2018 เมื่อ 18:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 115 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 29-05-2018, 18:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนในเรื่องของการเป่ายันต์นั้น บางปีท่านก็สั่งให้ทำ บางปีท่านก็ไม่ได้สั่งให้ทำ ถ้าปีไหนที่สั่งให้ทำ ให้รู้ว่าสถานการณ์ของประเทศชาติไม่ค่อยจะดี จำเป็นที่จะต้องอาศัยกำลังใจของญาติโยมส่วนใหญ่ เพื่อที่จะแก้ไขชะตากรรมของประเทศ จากหนักให้เป็นเบา จากเบาให้เป็นหาย หรือว่าจะเปลี่ยนแปลงบางอย่าง

ดังนั้น...ในการเป่ายันต์เกราะเพชรครั้งนี้ อาตมาเองจริง ๆ อยากให้สถานการณ์บ้านเมืองเราเปลี่ยนเป็นดี แต่ดูท่าว่าจะหนักหนาเกินกำลัง ก็ยังคงตั้งใจไว้ว่า ถ้าเปลี่ยนสถานการณ์ทั้งประเทศไม่ได้ อย่างน้อย ๆ เปลี่ยนรัฐบาลก็เอา แต่ไม่รู้เหมือนกันว่ารัฐบาลท่านจะยอมให้เปลี่ยนหรือเปล่า...!

แต่ว่าเราสามารถพิสูจน์ทราบได้ในระยะเวลาใกล้ ๆ ๓ วัน ๕ วัน ๗ วัน ช่วงนี้เป็นฤดูร้อน ถ้าภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงเป็นตรงกันข้าม แปลว่าการทำครั้งนี้มีผลอยู่บ้าง ถึงได้เตือนว่าให้ท่านทั้งหลายเมื่อกลับไปแล้ว ทำ ๒ เรื่องด้วยกัน เรื่องที่หนึ่งก็คือเอาเสื้อกันหนาวออกมาซัก เตรียมใส่ เรื่องที่สองก็คือเตรียมร่มกันฝนเอาไว้ด้วย ถ้าใครอยู่ในกรุงเทพฯ ก็ให้เตรียมเรือเอาไว้ด้วย แต่ว่าในกรุงเทพฯ ปกติก็มีเรือด่วนอยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-05-2018 เมื่อ 18:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 122 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 01-06-2018, 08:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

(พูดถึงการสร้างวัด) ที่วัดท่าขนุนนี่ต้องรื้อทิ้งไปเยอะ ของเก่าเกะกะไปหมด อันไหนที่อยู่กับร่องกับรอยก็เหลือไว้ บูรณะขึ้นมาใหม่ ส่วนไหนขาดก็สร้างเพิ่มเติมไป ถ้าหากไม่มีสายตานี่วัดจะกลายเป็นสลัม ตรงนี้แต่เดิมเป็นศาลาการเปรียญ หอฉัน แล้วก็หอระฆัง อาตมายุบ ๓ ส่วนมาเป็นส่วนเดียวเลย กลายเป็นศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สายหลังนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-06-2018 เมื่อ 16:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 109 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 01-06-2018, 08:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ญาติโยมด้านนอก ถ้ากินอาหารเสร็จแล้วมาพักในศาลานะ ข้างในศาลาหลังนี้เย็นกว่า เหตุที่เย็นเพราะว่า อันดับแรกเลย ทำไว้สูง โยมจะเห็นว่าชั้นแรกนี่สูงถึง ๘ เมตร ครั้งแรกที่ทำ พอมีกำหนดคร่าว ๆ จากพระท่าน ก็อธิบายให้ช่างเขาทราบว่าในนี้จะมีทั้งศาลา มีทั้งมณฑป แต่ไม่มีใครนึกภาพออก จนกระทั่งทำมาให้เห็นอย่างนี้ เขาถึงจะรู้ว่ามณฑปหน้าตาเป็นอย่างไร ศาลาหน้าตาเป็นอย่างไร

โดยเฉพาะข้างฝา นำเสนอด้วยความภูมิใจว่า ถ้าไม่ได้ระดับปืนใหญ่หรือรถถังนี่ถล่มศาลาหลังนี้ไม่สำเร็จแน่ เพราะว่าอาตมาให้ก่อด้วยอิฐแดงพิเศษ ยาวเกือบศอก แล้วไม่ได้วางตามยาว แต่วางขวาง ๆ อาตมาเองทำไปแล้วผนังศาลาหลังนี้หนาประมาณ ๖๐ เซนติเมตร ในเมื่อหนามากก็เลยมีสภาพคล้าย ๆ กับถ้ำ ก็คือกลางวันจะเย็น กลางคืนจะอุ่น

ส่วนที่ ๒ ก็คือยังมีชั้นบนอีก ๒ ชั้น ในเมื่อมีชั้นบนอีก ๒ ชั้น ความร้อนลงมาถึงยากมาก ฉะนั้น...เมื่ออยู่ในนี้จะรู้สึกว่าไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศก็ค่อนข้างจะเย็นสบาย

ถ้าหากว่าใครจะไปสร้างที่ไหน อนุญาตให้ถอดแบบไปได้ ตอนนี้ที่ได้ยินมีอยู่วัดหนึ่ง คือวัดของท่านพระครูปลัดเทียนชัย วัดบายตึ๊กเจีย ที่ปทุมธานี บอกว่าขออนุญาตเอาแบบไปทำ อาตมาให้ด้วยความยินดี...ไม่หวง ถ้าวัดใดไม่มีแนวคิดบอกได้ เดี๋ยวจะช่วยคิดให้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-06-2018 เมื่อ 16:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 112 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 01-06-2018, 08:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องของการสร้างวัด ถ้าไม่มีสายตา วัดจะรกเป็นสลัม เมื่อรกเป็นสลัม ไปทางด้านไหนก็เกะกะเลอะเทอะไปหมด อาตมาเองมาทำวัดนี้รื้อของเก่าทิ้งไปหลายหลัง แล้วก็ทำของใหม่เพิ่มขึ้นมาด้วย ก็เลยกลายเป็นวัดอย่างที่ญาติโยมเห็นอยู่

ปี พ.ศ. ๒๕๔๔ มาบูรณะครั้งแรก มีป้ายเบ้อเร่อเขียนว่าวัดท่าขนุนชี้เข้ามาตรงหน้าโบสถ์ แต่ญาติโยมจะเชื่อหรือไม่ว่า อาตมามองไม่เห็นโบสถ์เลย..! เพราะว่ารอบโบสถ์เป็นดงระกำ ถ้าโยมรู้จักต้นระกำ หน้าตาคล้าย ๆ ต้นปาล์มประเภทหนึ่ง เพียงแต่ว่าลำต้นติดดิน แล้วก็ใบสูงชะลูดไป โดยเฉพาะว่าแต่ละใบมีหนามยาวเป็นนิ้ว ๆ เต็มไปหมด แล้วหนามเปราะมาก เหยียบเมื่อไรหักคาเท้าก็น้ำตาเล็ดเมื่อนั้น เพราะว่าต้องผ่าออกอย่างเดียว อาตมารื้อดงระกำทิ้งไปทั้งดง ถึงมองเห็นโบสถ์วัดท่าขนุนได้

ในส่วนนี้ถ้าหากว่าญาติโยมไปทะนุบำรุงวัดที่ไหน พยายามจัดระเบียบหมวดหมู่ แบ่งวัดให้ออกเป็นพุทธาวาส ธรรมาวาส และสังฆาวาส

พุทธาวาส พูดง่าย ๆ ว่าที่อยู่ของพระพุทธเจ้า ส่วนใหญ่ก็คือโบสถ์ วิหาร เจดีย์ ให้อยู่ในหมู่เดียวกัน

ธรรมาวาส ส่วนใหญ่ก็คือศาลาการเปรียญที่ใช้แสดงธรรม ใช้ทำบุญทั่วไป

สังฆาวาส คือ เขตที่อยู่ของพระสงฆ์

สำหรับของวัดท่าขนุนนี่มีเขตแม่ชีอีกต่างหาก อยู่คนละฝั่งวัดกันเลยกับของพระ คือพระจะอยู่ด้านตะวันออกสุด ส่วนแม่ชีอยู่ด้านตะวันตกสุด ถ้าไม่ได้มาสวดมนต์ทำวัตรร่วมกันก็ไม่ต้องเจอหน้ากัน ยกเว้นตอนฉันอาหารเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-06-2018 เมื่อ 16:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 108 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 01-06-2018, 08:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ฉะนั้น...หลักการจัดวัดง่าย ๆ ก็คือ ให้จัดระเบียบบรรดาศาลา วิหาร โบสถ์ เจดีย์ กุฏิพระ โรงครัว ถ้าเป็นโบราณยังมีชันตาฆระ ซึ่งก็คือเรือนไฟเอาไว้สำหรับอบตัวแก้ไข้ ให้แยกเป็นสัดส่วนให้ชัดเจน ลักษณะของแปลนวัดก็มีหลายอย่างด้วยกัน เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นลักษณะไม้กางเขน หรือว่าเป็นลักษณะตัวแอลในภาษาอังกฤษ ก็แล้วแต่สภาพที่ดินของวัดจะเป็นไป

การบริหารวัดทั้งหมดในปัจจุบันต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งทางราชการไม่มีให้ ก็แปลว่าแต่ละวัดอาศัยศรัทธาญาติโยมสงเคราะห์กันเอง แล้ววัดเราปัจจุบันนี้ก็ยังโดนบีบ ทั้งจากผู้เจตนาดีแต่โง่ไปหน่อย กับพวกเจตนาร้าย ตั้งใจให้วัดอยู่ไม่ได้ ด้วยการมาเน้นว่าพระห้ามรับเงินเพราะว่าพระวินัยระบุเอาไว้ ซึ่งถ้าหากว่าเป็นเมื่อสี่ห้าสิบปีก่อนก็เป็นไปได้ เพราะว่าคนยังให้การอนุเคราะห์สงเคราะห์พระอยู่มาก เข้าร้านอาหารก็ฉันฟรี ขึ้นรถเดินทางก็ขึ้นฟรี แต่มาในสมัยปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะขึ้นรถลงเรือไปเหนือล่องใต้ เข้าร้านอาหาร เข้าโรงพยาบาล ไม่มีใครสงเคราะห์พระ แบบก่อนหน้านี้อีกแล้ว

ขณะเดียวกันก่อนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพานก็ทรงอนุญาตไว้ว่า ศีลพระ คือ สิกขาบทไหนไม่เป็นไปตามยุคสมัย สงฆ์พึงหวังก็ให้เพิกถอนสิกขาบทนั้นได้ แต่ปรากฏว่าไม่มีการเพิกถอน เราก็รักษาศีลกันมาในลักษณะของการโกหกตัวเอง ก็คือศีลห้ามรับเงิน แต่เรารับกันเป็นปกติ

เพียงแต่ว่าการรับเงินนี่เราต้องเข้าใจว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าป้องกันไม่ให้พระเกิดความโลภ จึงได้ทรงห้ามการรับเงินเอาไว้ แต่ถ้าหากว่าท่านรับมาแล้ว ใช้จ่ายในส่วนของวัดวาอาราม ในการสาธารณประโยชน์ ถ้าลักษณะอย่างนี้ก็ต้องบอกว่า ไม่ได้มีโทษตามที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสห้ามไว้

แต่อีกส่วนหนึ่งก็คือมีพระธรรมยุตที่ท่านว่าท่านเคร่งครัดมาก ท่านไม่รับเงิน อาตมาจะพูดถึงศีลพระให้โยมฟังว่าในสิกขาบทที่ ๘ ของนิสสัคคิยปาจิตตีย์กัณฑ์ มีการระบุไว้ว่า ภิกษุห้ามรับเงินและทองหรือข้าวของที่ใช้แทนเงินทอง ถ้าหากว่าผู้ใดรับต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ คือต้องสละทิ้ง

สิกขาบทที่ ๙ กล่าวไว้ว่า ภิกษุรับเองก็ดี ให้ผู้อื่นรับแทนก็ดีซึ่งเงินทองหรือสิ่งของที่ใช้แทนเงินทองต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ ก็แปลว่ารับเองก็โดน ให้คนอื่นรับก็โดน

อาตมาก็เลยสงสัยว่าพระธรรมยุตที่ว่าเคร่งครัดนักหนา ไม่รับเงินแต่ให้ลูกศิษย์รับแทน ก็แปลว่าโดนอาบัติเหมือนกัน ก็คือศีลขาดเท่ากัน แต่ทำไมท่านไปเข้าใจว่าท่านเองเคร่งครัดกว่า บริสุทธิ์กว่า ซึ่งเรื่องนี้โยมสามารถไปเปิดดูในพระวินัยปิฎก ซึ่งระบุเอาไว้ชัด ๆ ว่าเรื่องของศีลพระเป็นอย่างไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-06-2018 เมื่อ 16:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 103 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:01



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว