|
ฝากคำถามถึงหลวงพ่อ คุณสามารถตั้งคำถาม และทีมงานจะรวบรวม และคัดกรองเพื่อนำไปถามหลวงพ่อในตอนเย็นวันอาทิตย์ที่หลวงพ่อมารับสังฆทาน |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
|||
|
|||
ความเครียดและความอายเป็นกิเลสชนิดใด ?
กราบนมัสการพระอาจารย์ที่เคารพอย่างสูง เดือนนี้ขอสอบถามดังนี้
๑. ความเครียดและความอายเป็นกิเลสชนิดใด ๒. การทำบาปหรือละเมิดศีลในขณะบวชปฏิบัติธรรมหรืออยู่ในบริเวณวัด บาปจะมากกว่าการทำบาปหรือผิดศีลในชีวิตสังคมข้างนอกทั่วไปหรือไม่ ๓. การได้ยินเสียงบอกเรื่องต่าง ๆ หรือเห็นในสมาธิ แล้วคิดเชื่อว่าเป็นเทวดามาบอก จึงนำมาพูดบอกคนอื่นต่อ แต่ปรากฏเป็นเรื่องไม่จริง ถ้าทำผู้อื่นเดือดร้อนถูกเข้าใจผิดจะเป็นบาปกรรมไหม ความแตกต่างอาการทางจิต เช่นจิตเภท หูแว่วกับมารหลอกและเทวดาลองใจ มีวิธีสังเกตความแตกต่างอย่างไร ๔. ถ้ามีคนตั้งใจจะไปทำบุญและปฏิบัติธรรมวัดหนึ่งแบบศรัทธามากและรู้สึกดีที่ได้ทำบุญหรือปฏิบัติธรรมวัดนั้น แต่มีคนมาพูดโน้มน้าวไม่ให้เขามาวัดตามที่เขาตั้งใจ เช่นให้นำเวลาดูแลพ่อแม่ ปฏิบัติธรรมที่บ้านหรือวัดอื่นที่สะดวกดีกว่า เป็นการขัดเจตนาที่เป็นบาปหรือไม่ ๕. สุนัขแก่ ถูกนำมาปล่อยทิ้ง เรานำมาเลี้ยง มันอ่อนแอสู้ตัวอื่นไม่ได้ ถูกตัวอื่นกัดบาดเจ็บประจำ ถ้าจะสวมคล้องวัตถุมงคลให้มันเพื่อช่วยป้องกันแคล้วคลาดบ้าง จะเป็นการปรามาสวัตถุมงคลหรือไม่ เทวดาประจำวัตถุมงคลนั้นจะพอใจไหม ๖. อสุรกายคือผู้ถูกปิดล้อมด้วยความทุกข์ตลอด มีโอกาสจะทำบาปกรรมเพิ่มเติมจนทำให้ต้องวนเวียนในอบายภูมิมากกว่าเปรตหรือไม่ ขณะที่เปรตเป็นลักษณะทุกข์ทรมานชดใช้หนี้กรรม ถ้าครบก็จะพ้นโทษใช่ไหม อสุรกายสามารถโมทนาและรับบุญที่ผู้อื่นอุทิศให้ได้ไหม ๗. ผู้ที่ชอบโกหกหรือแต่งเรื่องราวเท็จเสมอ เพื่อเรียกร้องความสนใจหรือด้วยต้องการเป็นคนสำคัญ เด่น ดัง เขาทำบาปกรรมอะไรมา ถึงทนอยู่กับความจริงในชีวิตเขาไม่ได้ จนต้องโกหกหรือแต่งเรื่องราวมุสา ทั้งที่ชีวิตเขาไม่ได้มีสภาพเลวร้ายอะไร กราบขอขมาและกราบขอบพระคุณพระอาจารย์ค่ะ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-06-2019 เมื่อ 01:52 |
สมาชิก 22 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทองหยด ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
ถาม : ความเครียดและความอายเป็นกิเลสชนิดใด ?
ตอบ : ความเครียดส่วนใหญ่เกิดจากความไม่พอใจ ซึ่งก็ต้องถือว่าเป็นส่วนของโทสะ ส่วนความอายเกิดจากการกังวลในตัวตนของตัวเอง จัดเป็นกิเลสใหญ่คือสักกายทิฐิ การยึดมั่นในตัวกูของกู
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
ถาม : การทำบาปหรือละเมิดศีลในขณะบวชปฏิบัติธรรมหรืออยู่ในบริเวณวัด บาปจะมากกว่าการทำบาปหรือผิดศีลในชีวิตสังคมข้างนอกทั่วไปหรือไม่ ?
ตอบ : อยู่ในสถานที่ที่บริสุทธิ์เท่าไร ถ้าหากกระทำบาปโทษก็มากขึ้นไปตามตัวเท่านั้น เพราะว่าต้องใช้กำลังใจในการทำที่มากกว่า
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
ถาม : การได้ยินเสียงบอกเรื่องต่าง ๆ หรือเห็นในสมาธิ แล้วคิดเชื่อว่าเป็นเทวดามาบอก จึงนำมาพูดบอกคนอื่นต่อ แต่ปรากฏว่าเป็นเรื่องไม่จริง ถ้าทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนจะเป็นบาปกรรมไหม ?
ตอบ : เป็น...ขณะเดียวกันก็ทำให้หมดความมั่นใจไปด้วย อาตมาจึงเตือนนักเตือนหนาว่า บรรดาท่านที่รู้เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้เห็น เราต้องรู้ด้วยว่าบอกกล่าวได้เท่าไร ไม่เช่นนั้นแล้วจะเกิดโทษมาก บางอย่างเขาบอกมาเป็นร้อย แต่สามารถพูดต่อได้แค่สองหรือสาม ตอนอาตมาฝึกใหม่ ๆ จะอกแตกตายเหมือนกัน ฉะนั้น...ส่วนนี้เราไม่ได้ตั้งใจหลอกลวงคนอื่น แต่พูดตามที่ตนเองรู้มา โทษก็น้อยลง แต่ถ้าตั้งใจหลอกลวงคนอื่นโทษก็มากขึ้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
ถาม : ความแตกต่างระหว่างอาการทางจิต เช่น จิตเภท หูแว่ว กับมารหลอกและเทวดาลองใจ มีวิธีสังเกตความแตกต่างอย่างไร ?
ตอบ : ไม่ต้องสังเกต เพราะว่ามารสามารถใช้ทุกอย่างรอบตัวมาเล่นงานเราได้ทั้งนั้น ในส่วนของครูบาอาจารย์ทดสอบ ถ้าเราก้าวข้ามไม่ได้ก็จัดว่าเป็นเทวปุตตมารอย่างหนึ่งเหมือนกัน ดังนั้น....สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ต้องบอกว่า ระวังให้มากเข้าไว้ อย่าเพิ่งเชื่ออะไรง่าย ๆ เรื่องที่หนึ่งรู้มาถูกต้อง เรื่องที่สองก็อย่าเพิ่งเชื่อว่าจะถูกต้องตามนั้น เรื่องที่หนึ่งเรื่องที่สองรู้มาถูกต้อง ก็อย่าเพิ่งเชื่อว่าเรื่องที่สามจะถูก ต้องละไว้ในฐานที่เข้าใจเสมอว่า สัพเพ สังขารา อนิจจา พระพุทธเจ้าตรัสไว้แล้วว่า ทุกอย่างไม่เที่ยง ถ้ามีตัวแปรเล็กน้อย เรื่องทั้งหลายเหล่านั้นอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ ฉะนั้น..ทำใจไว้ล่วงหน้าเลยว่า เรื่องทั้งหลายเหล่านี้โอกาสผิดมีร้อยเปอร์เซ็นต์
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้ามีคนตั้งใจจะไปทำบุญและปฏิบัติธรรมวัดหนึ่งแบบศรัทธามาก แต่มีคนมาพูดโน้มน้าวไม่ให้เขาไปวัด เช่น ให้เอาเวลาไปดูแลพ่อแม่ ปฏิบัติธรรมที่บ้านหรือวัดอื่นที่สะดวกดีกว่า การขัดเจตนาแบบนี้เป็นบาปหรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าเขามีโอกาสเข้ามรรคผล น่าจะมีโทษลงอเวจีไปเลย หรือไม่ก็หากตัวเองจะทำอะไร ถ้าวาระนั้นมาถึงก็อาจจะเกิดอุปสรรคต่าง ๆ ขึ้นในชีวิตมากจนคาดไม่ถึง การขัดขวางคนทำความดีเป็นโทษมาก ต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะนักปฏิบัติของเรา บางทีอาจจะต้องออกข้างทางเพราะถ้าบอกตรง ๆ คนอื่นตำหนิ ไม่ชอบใจ ขัดขวางจะเกิดโทษแก่เขา อย่างเช่นว่าเรารักษาศีลแปด ถ้าไปบอกตรง ๆ คนอื่นก็มองหัวจรดเท้า อาจจะบอกเขาว่า อ้วนแล้วก็เลยงดอาหารเย็น เป็นต้น ดังนั้น...การทำความดีต้องใช้ปัญญามาก พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสสัมมาทิฐิ ซึ่งเป็นปัญญาขึ้นก่อน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#7
|
||||
|
||||
ถาม : สุนัขแก่ถูกนำมาปล่อยทิ้ง เรานำมาเลี้ยง แต่มันอ่อนแอสู้ตัวอื่นไม่ได้ ถูกตัวอื่นกัดบาดเจ็บประจำ ถ้าจะสวมคล้องวัตถุมงคลให้เพื่อช่วยป้องกันแคล้วคลาดบ้าง จะเป็นการปรามาสวัตถุมงคลหรือไม่ ?
ตอบ : เขาทำกันเป็นปกติ เคยได้ยินตะกรุดคอหมา ตะกรุดคอแมวบ้างไหม ? ท้ายสุดหมาแมวก็สูญตะกรุดไป คนไปแย่งเอามา ถ้าเอาตะกรุดหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูงไปแขวน อาตมาจะรับเลี้ยงให้ตลอดชีวิตเลย....!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#8
|
||||
|
||||
ถาม : อสุรกายคือผู้ถูกปิดล้อมด้วยความทุกข์ มีโอกาสจะทำบาปกรรมเพิ่มเติม จนทำให้ต้องวนเวียนในอบายภูมินานกว่าเปรตหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ต้องดูด้วยว่าสามารถระลึกถึงบุญกุศลเก่าได้ไหม ถ้าสามารถระลึกถึงบุญกุศลเก่าได้ก็อาจจะไปก่อน แต่ถ้าระลึกถึงไม่ได้ โอกาสนั้นมีน้อยกว่า เพราะว่าโทษของเปรตหนักกว่า ถาม : ส่วนเปรตนั้นเป็นลักษณะทุกข์ทรมานชดใช้หนี้กรรม เมื่อครบก็จะพ้นโทษใช่ไหม ? ตอบ : ครบแล้วก็มาเป็นอสุรกายต่อตามเศษกรรมที่เหลืออยู่ อสุรกายพ้นแล้วก็มาเป็นสัตว์เดรัจฉานตามจำนวนที่ฆ่า เฮ้อ...! น่ากลัว ถาม : อสุรกายสามารถโมทนาและรับบุญที่ผู้อื่นอุทิศให้ได้ไหม ? ตอบ : ได้...แต่สำคัญว่าจะมีโอกาสไหม คำว่าอสุรกาย แปลว่า ผู้มีกายอันไม่กล้า มักจะหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่กล้าเข้าใกล้ผู้อื่น โอกาสที่จะได้ยินได้ฟังเรื่องกุศลแล้วโมทนามีน้อยมาก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|