กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 13-06-2015, 18:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default


ชมรมพรหมเมตตาถวายพระพุทธรูปเงินแท้หน้าตัก ๕ นิ้วพร้อมปทุมบัลลังก์

"สมัยก่อนคนเรามีความเคารพในพุทธศาสนามาก เมื่อทำมาหากินเจริญรุ่งเรืองก็มักจะสร้างพระประจำบ้าน เท่าที่เห็นมากที่สุดก็คือหล่อด้วยเงิน โดยเฉพาะบรรดาพ่อเลี้ยงทางภาคเหนือนิยมทำกันมาก บางองค์หนักตั้ง ๒-๓ กิโลกรัม ที่เจอน้อยลงมาหน่อยคือทำด้วยนาก อาตมาก็มีพระนากองค์หนึ่งของครอบครัวแสงคู่วงศ์ บอกว่ารักษากันมา ๒ ชั่วคนแล้วจึงเอามาถวายวัด ที่เจอน้อยก็คือสร้างด้วยทองคำ สร้างด้วยทองคำนี่ส่วนใหญ่เนื่องจากวัสดุแพง ก็จะสร้างหน้าตักประมาณ ๑-๒ นิ้ว น้อยนักที่จะเจอถึง ๓ นิ้ว

ต้องบอกว่าด้วยความที่เคารพในพระรัตนตรัย ถึงเวลาก็เลยสร้างพระเอาไว้เคารพกราบไหว้ในบ้านตัวเอง คณะญาติโยมที่ถวายพระเงินองค์นี้มา บอกว่ามูลค่าประมาณห้าหมื่นกว่า ไม่รู้เหมือนกันว่ารวมค่าหล่อด้วยหรือเปล่า ? พลิกดูข้างใต้แล้ว เงินแท้ ๆ (น้ำหนักประมาณ ๓ กิโลกรัม) ตอนนี้กิโลกรัมหนึ่งประมาณหมื่นแปด ๓ กิโลกรัมก็ตกห้าหมื่นสี่ รวมค่าหล่อก็คงประมาณหกหมื่นบาท องค์พระหนัก ๓ กิโลกรัมนี่อาจจะต้องใช้เงินประมาณ ๕-๖ กิโลกรัม เพราะว่าต้องมีชนวนด้วย

ตามที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเคยกล่าวไว้ว่า วัตถุมงคล วัตถุบูชา สร้างด้วยวัสดุมีราคาสูงเท่าไร เทวดาพรหมที่รักษาก็ต้องมีศักดานุภาพมากเท่านั้น ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะเสียท่าคนโลภ ประเทศพม่าถ้าสร้างพระไม่ว่าองค์ใหญ่องค์เล็กจะมีบัลลังก์ ให้สังเกตดู..เขาเรียกปทุมบัลลังก์ จะมีดอกบัวเป็นสัญลักษณ์ ถ้าเป็นบัลลังก์ของพระเจ้าแผ่นดินเรียกว่า สีหาสนบัลลังก์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2015 เมื่อ 20:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 13-06-2015, 18:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default


พระอาจารย์กล่าวว่า "มีใครสนใจหลวงปู่ทวดองค์นี้ไหม ? ถ้าสนใจเดี๋ยวจะหาลูกแก้วมาถวายท่านลูกหนึ่ง

หลวงปู่ทวด เป็นพระมหาเถระที่ปรากฏนามในประวัติพุทธศาสนาของเรามาหลายร้อยปี ไม่เคยเสื่อมความนิยมจากคนไทยเลย โดยเฉพาะมีนายดาบตำรวจท่านหนึ่ง เป็นตำรวจมาจนจะเกษียณอยู่แล้ว บอกว่าตลอดระยะเวลาจะ ๓๐ กว่าปีที่ผ่านมา ชันสูตรพลิกศพมานับไม่ถ้วน ไม่เคยเจอใครที่แขวนหลวงปู่ทวดแล้วตายเลย

หลวงปู่ทวดองค์นี้ท่านเอเป็นคนถวายมา เขาแจ้งว่าราคาห้าหมื่นบาท ผลงานของท่านอาจารย์สุชาติ ถ้าใครบูชาเดี๋ยวอาตมาแถมลูกแก้วให้ลูกหนึ่ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2015 เมื่อ 20:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 14-06-2015, 09:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระพุทธรูปที่สร้าง ถ้าไม่มีการพุทธาภิเษก จะมีเทวดารักษาไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าสร้างมาแล้วไม่ผ่านพุทธาภิเษก มีเทวดารักษา แต่เหมือนอย่างกับว่า คนผ่านไปผ่านมาเห็นวัตถุชิ้นหนึ่งก็เข้าไปช่วยดูแล แต่ถ้าผ่านพิธีพุทธาภิเษกเหมือนอย่างกับเจาะจงว่าใครต้องทำหน้าที่ดูแล ก็เลยต่างกันอยู่หน่อยหนึ่ง

ถาม : แล้วถ้าเข้าพิธีเพิ่มจากเดิมอีก เทวดาที่รักษาจะเพิ่มอีกไหมคะ ?
ตอบ : ต้องดูด้วย ถ้าองค์เก่าบารมีมากกว่า เพิ่มเข้าไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-06-2015 เมื่อ 17:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 14-06-2015, 09:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ...ไม่สบายใจเรื่องครอบครัว และได้ไปขายของที่หนึ่ง...
ตอบ : เอาไว้ถามคนอื่น ถ้าจะถามวิธีแก้ไข ให้ไปภาวนาพระคาถาเงินล้านแทน อาตมาไม่ใช่หมอดู เรื่องเหล่านี้ไม่ตอบ แล้วถ้าไปหาหมอดูก็อาจจะเดือดร้อนกว่าที่คิด

เรื่องไม่ดีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละครอบครัว ถ้าภาษาเก่าเรียกว่าดวงตก ถ้าภาษาพระเรียกบุญหมด ต้องสร้างบุญเพิ่มเติมให้ทุกอย่างดีเหมือนเดิม คราวนี้การสร้างบุญมีการให้ทาน รักษาศีล ภาวนา

ทานทำ ๑ ได้ประมาณ ๑๐๐
ศีลทำ ๑ ได้ ๑๐,๐๐๐
ภาวนาทำ ๑ ได้ ๑,๐๐๐,๐๐๐


อาตมาก็มักจะแนะนำให้ไปภาวนาคาถาเงินล้าน เพราะว่าไหน ๆ จะภาวนาแล้ว พระคาถานี้ช่วยให้มีความคล่องตัว มีความร่ำรวยด้วย ดังนั้น..พวกเราก็ควรที่จะไปภาวนา อย่าหวังให้คนอื่นช่วยเรา เพราะว่าทุกอย่างเกิดจากตัวเราเอง เราตกหลุม รอให้คนอื่นช่วย บางทีอาจจะไม่ได้ขึ้นจากหลุมตลอดชีวิต ต้องตะเกียกตะกายใช้กำลังของเราเอง ถ้าไปถามที่อื่น ซึ่งเป็นที่ที่เขาไม่มีศีลไม่มีธรรม มีเจตนาที่จะคดโกง เขาจะหลอกให้เราเสียเงินเสียทองมาก ๆ

ถ้ารู้สึกว่าอะไรไม่ดีเกิดขึ้น ให้ตั้งใจรักษาศีลแล้วภาวนาไป ถ้าหากว่าสามารถทำได้ต่อเนื่องยาวนานสักไม่เกิน ๒ เดือน ทุกอย่างจะดีขึ้นทันตา เพียงแต่ว่าพวกเรามักจะไม่มีความอดทน เห็นคนอื่นเป็นผู้วิเศษ จะ
ให้เสกเราหายจากสิ่งเหล่านั้นทันทีทันใด ซึ่งเป็นไปไม่ได้ กลับไปถ้ามีโอกาสไปหาหนังสือคู่มือภาวนาพระคาถาเงินล้าน หรือหาโหลดเอาตามเว็บไซต์ต่าง ๆ ก็มี ไปภาวนาให้เป็นล่ำเป็นสันไปเลย ถ้าทำจริง ๆ เดี๋ยวเงินก็หล่นทับตายไปเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-06-2015 เมื่อ 17:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 14-06-2015, 09:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ไม่สบายใจ ลูกชายจะไปเกณฑ์ทหารปีหน้าค่ะ ?
ตอบ : สมัครไปเลย ชีวิตหนึ่งถ้าได้เป็นทหารแล้ว ต่อไปก็จะดีขึ้นทุกอย่าง เพราะเขาสอนให้เราหมด การเป็นทหาร สิ่งที่เขาฝึกหรือสิ่งที่เขาให้เราทำ ไม่ได้ลำบากถึงตายหรอก แต่สร้างความเข้มแข็งให้ทั้งร่างกายและจิตใจ ถ้ารู้จักกอบโกยมา จะใช้ประโยชน์ได้ตลอดชีวิต แต่ส่วนใหญ่ไปกลัวเหนื่อย

สมัยนี้เกณฑ์ทหาร ถ้าบ้านอยู่แถว ๆ ลพบุรี สระบุรี กรุงเทพฯ แถวนี้ นั่งรอเฉย ๆ โอกาสได้เป็นนั้นยากเต็มที เพราะเขาสมัครกันจนล้นทุกที

อาตมาเรียนแทบเป็นแทบตาย สมัยนั้นจบมาเป็นนายสิบ เงินเดือน ๑,๙๘๐ บาท สมัยนี้พลทหารเงินเดือน ๙,๐๐๐ บาท นี่เฉพาะเงินเดือนล้วน ๆ กินอยู่เสื้อผ้าอาภรณ์เขาให้หมด ยุคสมัยต่างกัน สมัยนั้นจบมานักเรียนนายสิบ เงินเดือน ๑,๙๘๐ บาท เพิ่มค่าครองชีพ ๒๗๐ บาท เป็น ๒,๒๕๐ บาท แต่ว่าทองสมัยนั้นบาทหนึ่ง ๑,๘๐๐ - ๒,๐๐๐ บาทเท่านั้น เงินเดือนซื้อทองได้บาทกว่า สมัยนี้ ๙,๐๐๐ บาท ซื้อทองได้ไม่เต็ม ๕๐ สตางค์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-06-2015 เมื่อ 17:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 14-06-2015, 14:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเอาท่านขันติวาทีเป็นตัวอย่าง แล้วพวกเขาไม่ยอมหยุดรังแก ยิ่งได้ใจ เขาก็รังแกจนตายเลยสิครับ ?
ตอบ : ท่านขันติวาทีก็ตาย แต่ว่าท่านตายพร้อมกับสภาพจิตที่ผ่องใส ปราศจากความคิดอาฆาตแค้นแม้แต่นิดเดียว โดยความรู้สึกของท่านก็คือ ในเมื่อคนเขาไม่รู้เขาก็ต้องทำอย่างนั้น ในเมื่อธรรมดาเป็นอย่างนั้น เรารับไปก็แล้วกัน อย่างไรเสียชีวิตนี้ก็ไม่ใช่ของเราอยู่แล้ว ถ้าเขาด่าก็ดีกว่าเขาตี ถ้าเขาตีก็ยังดีกว่าเขาฆ่า ถ้าเขาฆ่าเราก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ไม่ต้องลงทุนทำเองก็ตายได้สมใจ..ง่ายดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-06-2015 เมื่อ 17:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 14-06-2015, 14:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมห่างจากศีล ๘ ทีไรแล้วมีแต่ความซวยทุกที ไม่ทราบว่ามีวิธีแก้ไหมครับ ?
ตอบ : ก็รักษาศีล ๘ สิวะ..! รู้อยู่ว่าห่างแล้วซวยก็อย่าห่างสิ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-06-2015 เมื่อ 17:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 14-06-2015, 14:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พอคิดอยากมีคู่ครองทีไร ก็มักจะเจอความทุกข์ใหญ่ ๆ ทุกที ?
ตอบ : เรียกว่าคนมีบุญ ควรจะรีบมีบ่อย ๆ จะได้เข็ดสักที คนอื่นขนาดทุกข์ท่วมหัว ยังไม่รู้ตัวเลย ส่วนเรายังไม่ทันจะเข้าใกล้ ยังทุกข์ขนาดนี้ ถ้าไม่เข็ดก็ให้มันรู้ไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-06-2015 เมื่อ 17:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 14-06-2015, 14:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมพยายามจะเป็นคนปกติเหมือนคนอื่นเขา พยายามลดพระที่ห้อยคอเท่าไร กลับเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ครับ ?
ตอบ : อย่าให้เกิน ๑๐๘ องค์ ไม่อย่างนั้นก็จะหนักมาก..! คุณรู้จักพระครูแสงไหม ? รอบตัวท่านนี่ถ้าปลดออกมาก็หลายกิโลกรัมเลย คงรู้จักหลวงพ่อจำเนียรนะ ประมาณ ๓๐ กิโลกรัมเป็นอย่างต่ำ

ถาม : ท่านเดินได้อย่างไร ?
ตอบ : เดินตัวปลิวเพราะเคยชิน ท่านก็เพิ่มตรงโน้นองค์ ตรงนี้องค์ กว่าจะได้อย่างนั้นก็หลายปี ไม่รู้สึกหรอกว่าหนัก ถ้าไปปลดออก ดีไม่ดีท่านลอยได้ หลวงพ่อทวน วัดตีนตก ถึงเวลาเอาย่ามลงแล้วจะเดินจงกรม ต้องถือแกลลอนน้ำ ๕ ลิตร ๒ ใบ ถามว่าหลวงพ่อทำไมต้องถือแกลลอนด้วย ? "เฮ้ย..ไม่ถือเดินไม่ได้เว้ย" ย่ามท่านใบหนึ่งประมาณ ๓๐ กิโลกรัม ๒ ใบก็ ๖๐ กิโลกรัม พอเอาย่ามลงตัวจะลอย ต้องเอาแกลลอนน้ำ ๒ ใบ ถ่วงตัวเองไว้ถึงจะเดินจงกรมได้

ถาม : มีคนบอกว่า วัตถุมงคลเอาไว้ที่บ้านก็ได้แล้วก็นึกถึงเอา ผมว่ากำลังใจผมยังไม่ได้สูงขนาดนั้นที่จะนึกถึงได้ตลอดเวลา ?
ตอบ : ต้องบอกว่า "กูยังไม่เก่งเท่ามึง แขวนก็หนักคอกู หนักหัวกู ไม่ได้หนักหัวมึงซะหน่อย..!" แล้วก็วางมวยกันอีก คุณเกิดราศีเดียวกับพระครูแสง คือเกิดราศีตีน ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็เรียกตีนได้เสมอ ฉะนั้น..มีอะไรก็ไปปรึกษาท่านแล้วกัน

ตอนสมัยฆราวาส ท่านช่วยหาตีนมาให้ผมเป็นประจำ เดี๋ยว ๓ คน เดี๋ยว ๕ คน ไม่เคยมาเดี่ยวเลย มีอยู่เที่ยวหนึ่งมา ๓๐ กว่าคน บังเอิญอาตมาก็ถอยไม่เป็นเสียด้วย มาถึงก็มองหน้า "มึงจะเอาหรือ ?" กะว่าคนข้างหน้าสัก ๒ – ๓ คน จะซัดให้ร่วงแล้ววิ่ง ไม่ใช่เสือกไปเก่ง อาตมาไม่ใช่พระเอกนี่หว่า ปรากฏว่าพวกนั้นโดนมือโดนตีนกันจนเคยแล้ว พออาตมาดาหน้าเข้าใส่ ก็ผลักกันอุตลุด ผลักกันไป รวนกันมา ท้ายสุดมีคนได้สติบอกว่า "พี่ ๆ ผมมาปรับความเข้าใจ" มาปรับความเข้าใจ มึงมาทีขนาดนี้เลยหรือ ? ถ้าวันนั้นกูไม่สู้ กูก็ตาย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-06-2015 เมื่อ 17:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 15-06-2015, 16:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อท่านพระครู ท่านอยากจะทำบุญวัด ทีนี้มีศาลหลังหนึ่งเก่าแก่มาก และมีหลายคนบอกกล่าว ไม่ทราบว่าควรไปรื้อศาลหรือเปล่า ?
ตอบ : ปรึกษาชาวบ้านสำคัญที่สุด ฟังเสียงชาวบ้าน ถ้าเราไม่ฟังเดี๋ยวเป็นเรื่อง ถ้าชาวบ้านเขาไม่เอาด้วยอย่าไปแตะ ถ้าชาวบ้านเขาเอาด้วย ยังโบ้ยไปได้ บอกผีว่าชาวบ้านเขาต้องการอย่างนี้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-06-2015 เมื่อ 19:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 15-06-2015, 17:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีพระที่เรียนบาลีมากราบทำบุญกับพระอาจารย์ "การเรียนบาลีต้องอาศัยสมาธิและกำลังใจเป็นอย่างสูง สมัยที่อาตมาเรียนอยู่ หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดสระเกศ เมตตาบอกว่า “ท่านเล็ก..อย่าทิ้งสมาธิเป็นอันขาดนะ ทิ้งเมื่อไรจะท้อ” ท่านเองลุยมาจนถึงประโยค ๙ เรื่องที่ท่านแนะนำมาจะต้องใช่แน่

ตอนเรียนปริญญาเอกก็เหมือนกัน คนอื่นเขาท้อ อาตมาไม่ท้อหรอก ลุยไปอย่างเดียวเลย ท่านอาจารย์จะสั่งแก้กี่ครั้งก็ให้สั่งมาเถอะ มีปัญญาสั่งผมก็มีปัญญาแก้ วันก่อนแม่ชีตุ๊ขอตัวอย่างวิทยานิพนธ์ไปดู บอกว่า “โอ้โห..หลวงพ่อทำได้ขนาดนี้เลยหรือ ? ต้องได้วิทยานิพนธ์ยอดเยี่ยมแน่เลย” ไม่ได้หรอก เขาให้แค่บีบวก เกิดมีคนทำดีกว่านี้เดี๋ยวไม่มีเอจะให้

ไปนึกถึงท่านอาจารย์ปู่ (ดร.ทรงวิทย์ แก้วศรี) เรียนปริญญาเอกตอนอายุ ๖๘ ปี ใช้เวลาในการค้นคว้าวิทยานิพนธ์ ๖ เดือน เขียนอีก ๒ เดือน เขียนเสร็จก็เข้าโรงพยาบาลไปเลย มานึก ๆ ดูน่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะอาตมาก็ใช้เวลาประมาณ ๒ เดือนกว่า ตอนที่ทำอยู่จัดเป็นมโนสัญเจตนา คือ ความมุ่งมั่น ทำให้ไปได้เรื่อย คราวนี้พองานเสร็จความมุ่งมั่นหมด ถึงได้รู้ว่าร่างกายไม่ไหวแล้ว ท่านก็เข้าโรงพยาบาลเลย"


ถาม : แรก ๆ ก็มุ่งมั่น แต่ต่อมาก็ท้อ ?
ตอบ : เขามีความมุ่งมั่น แต่ว่ากำลังสมาธิไม่พอที่จะหนุน ในเมื่อกำลังสมาธิไม่พอที่หนุนก็ท้อ หมดกำลังใจ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-06-2015 เมื่อ 19:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 15-06-2015, 17:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อาจารย์เขาให้ท่องก่อน ?
ตอบ : เรื่องของการท่องจำบาลีนั้นจำเป็นมาก ๆ เพราะเป็นพื้นฐานที่ใช้ได้ยันประโยค ๙ เพราะฉะนั้น..ประโยค ๑-๒ นี่เป็นประโยคที่สำคัญที่สุด ถ้าคุณผ่านได้ก็มีพื้นฐานทั้งหมด พอ ๑-๓ ผ่านแล้ว ประโยค ๔-๖ ก็ใช้จาก ๑-๓ นี่แหละ แล้วไปเรียนรู้เพิ่มตอนประโยค ๗-๙ ว่าวิธีการแต่งฉันท์มีวิธีการเป็นอย่างไร หลักการเดียวกัน คราวนี้คุณสวดมนต์ไปก็จะสงสัยว่าทำไมถึงเป็น “ชรา ธัมมาหิ” ทำไมถึงไม่เป็น “ชรา ธัมเมหิ” เพราะเริ่มรู้แล้ว รู้ว่าอันนั้นผิดแน่

ถาม : จริง ๆ ตอนเรียนไม่หนักใจครับ หนักใจตรงท่องมากกว่า ?
ตอบ : จำเป็น..เราต้องท่องหนีอาจารย์ให้ได้ ถ้าท่องหนีอาจารย์ไม่ได้จะไล่อาจารย์ไม่ทัน แล้วจะเหนื่อย ผมถึงยืนยันตั้งแต่แรกว่าพวกคุณต้องท่องหนีอาจารย์ไปไกล ๆ เลย ๘ หน้า ๑๐ หน้าได้ยิ่งดี

ถาม : ท่องได้นี่ผมว่าเก่งเลย ?
ตอบ : ผมยืนยันว่าถ้าจบประโยค ๙ นี่เท่ากับจบ ดร. ๓ ใบเลย พวกคุณไม่ค่อยเชื่อผม ใครมีพื้นฐานบาลีมานี่เรียนทางโลกสบายทั้งนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-06-2015 เมื่อ 20:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 15-06-2015, 17:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ...(ธงมหาพิชัยสงคราม)...
ตอบ : ผืนนี้นะใช่เลย คราวนี้เห็นหรือยังว่าเนื้อผ้าต่างจากเมื่อวานขนาดไหน ผืนนี้เป็นแบบขนาดเล็ก ลองเอาไปเปรียบกันว่าเนื้อผ้าต่างกันอย่างไร

ถาม : ที่ไหนมีคะ ?
ตอบ : ถ้าที่บ้านสายลมน่าจะพอมีบ้าง จำลักษณะผ้าไว้ ถ้าผิดไปจากนี้ไม่ใช่ เมื่อวานเปิดหนังสือพระเครื่องดู หมวยนี้อยู่ใกล้ ๆ อาตมาบอกไปว่าพระองค์โน้นสวยกว่า เขาถามว่าสวยกว่าอย่างไร ก็เลยเปิดกลับไปให้ดู เขาบอกว่า “โห..หลวงพ่อมองแวบเดียวเองหรือ ?” ก็จะเอาอะไรนักหนา คนจำแม่นก็ได้เปรียบ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-06-2015 เมื่อ 19:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 15-06-2015, 17:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การดูพระเครื่อง อันดับแรกพิมพ์ทรง อันดับที่สองเนื้อหา คราวนี้พิมพ์ทรงก็มีหลายพิมพ์..ต้องจำแม่น แล้วก็เนื้อหามวลสารเป็นอย่างไร ถ้าหากว่าเป็นโลหะก็จะต้องจดจำได้ว่าโลหะเก่ามีลักษณะอย่างไร โลหะใหม่มีลักษณะอย่างไร เหรียญรุ่นนี้ใช้วิธีทำแบบไหน หล่อแบบไหน เป็นรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ ถ้ารุ่นใหม่จะใช้หินเจียรตัดแต่ง ถ้ารุ่นเก่ามักจะใช้ตะไบ ตะไบรอยจะตรง ๆ หินเจียรรอยจะโค้ง ๆ เหรียญรุ่นเก่าบางรุ่นเขาปั๊มแล้วมีปีกมาก็ต้องตัดขอบ การตัดขอบมีลักษณะอย่างไรต้องจำให้แม่น

เดี๋ยวว่าจะทำเหรียญสักรุ่นหนึ่งที่เป็นขอบสตางค์ ปลอมยากดีแท้เลย เป็นร่อง ๆ ต้องปั๊มจากแม่พิมพ์เลย แล้วคนทำจะท้อไปเอง แต่ละเส้นกว่าจะทำได้


ถาม : เหรียญปลอมนี่รุ่นกี่ปีมาแล้ว ?
ตอบ : มีปลอมเก่า ประเภท ๔๐-๕๐ ปีเริ่มมีปลอมเพราะของหายาก มารุ่นหลัง ๆ ก็แขวนเหรียญปลอมเก่า แขวนพระปลอมเก่าด้วยความปลื้มใจ หารู้ไม่ว่าเป็นของเก่าเขาปลอมกันมานาน

หลวงพ่อฤๅษีท่านเคยทำพระสมเด็จวัดระฆังปลอม ศึกษาเนื้อหามวลสารเสร็จสรรพเรียบร้อย แล้วก็จัดการผสมให้ได้อย่างนั้น แกะพิมพ์แล้วผสมผง ทำออกมา ทำเสร็จตากแห้งแล้วก็เอาไปแช่น้ำชาแก่ ๆ ให้สีได้ พอตากแห้งอีกรอบก็เอาใบตองแห้งขัด เพราะถ้าหากว่าใช้อย่างอื่นขัดจะกินเนื้อ คราวนี้ใบตองไม่มีความสาก ขัดเพื่อให้เนื้อหาสึกแล้วดูเก่า เสร็จแล้วก็เอาไปให้เซียนดู โอ๊ย..รีบตีราคาให้ ท่านบอกว่าโง่ฉิบหายเลย ของน้ำหนักขนาดนี้เห็นเป็นของเก่าได้อย่างไร ของเก่าต้องเบาสิ ท่านบอกว่าแค่ลองทำดูว่าจะเหมือนไหม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-06-2015 เมื่อ 20:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 15-06-2015, 17:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมัยนี้บรรดาวัดที่จัดปริวาสเขาจะมีแก๊งปลอมพระเข้าไปอาศัย จัดการทำกันในป่าปริวาสนั่นแหละ ๙ วันบ้าง ๑๕ วันบ้าง ผลิตกันครึกครื้น วิธีทำให้เก่าแตกลายงาของเขานี่ใช้วิธีทอดน้ำมันเลย พวกนี้ได้ลงกระทะพิเศษแน่นอน เล่นเอาพระไปทอดน้ำมัน..!

ถาม : เขาทอดทำไมคะ ?
ตอบ : ให้ผิวแตกลายงา แล้วก็ดูฉ่ำเพราะอมน้ำมัน แต่คราวนี้ถ้าคนดูเป็นจะดูออกว่าฉ่ำแบบเกรียม ๆ ถ้าคนดูไม่ออกอย่างพวกรุ่นใหม่ประสบการณ์ยังน้อย ก็อาจจะโดนหลอกได้ ขอให้ตั้งใจไว้ว่าของดีมาไม่ถึงมือเราหรอก ถ้าอย่างนั้นจะปลอดภัย ดูไปเรื่อย อันไหนถูกตาก็เวียนดูสัก ๓ รอบ ๘ รอบ

ถาม : ยกเว้นที่พระอาจารย์ให้บูชาทำบุญสร้างพระทองคำ ?
ตอบ : อันนั้นจะจริงจะปลอมนี่เขาบูชาด้วยศรัทธา ไม่ต้องไปกังวล เขาตั้งใจทำบุญ วัตถุมงคลเป็นเพียงของแถม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-06-2015 เมื่อ 20:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 15-06-2015, 17:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ไปนึกถึงหลวงพ่อวัดท่าซุง วิสัยเดิมท่านมาสายพุทธภูมิ เวลาท่านอยากรู้ท่านก็ลงมือทำเลย แล้วก็จะทำได้แบบประสบความสำเร็จด้วย ท่านบอกว่าตอนที่ท่านเป็นเภสัชกรทหารเรือ ท่านผสมยาตัวหนึ่ง ถึงเวลาแล้วฉีดล้างโพรงมดลูกผู้หญิงไม่ให้ตั้งท้องได้ แต่ได้เป็นครั้งนะ ท่านผสมน้ำเกลือกับอะไรก็ไม่รู้ ฉีดล้างทำให้ไม่ท้อง ท่านบอกว่าท่านมีประเภทคู่รักคู่เล่นชั่วคราวเยอะ แต่ไม่เคยท้อง ก็อาศัยวิธีนี้แหละ

ถาม : แบบเดียวกับที่สัตวบาลฉีดคุมกำเนิดสัตว์หรือคะ ?
ตอบ : ไม่แน่ใจเหมือนกัน ท่านเองท่านเรียนเภสัชกรแผนโบราณ แต่ที่ท่านบอกมานี่เป็นวิธีการของหมอสมัยใหม่เลย เพียงแต่ว่าท่านไปศึกษาเพิ่มเติมตอนไหนไม่รู้ เพราะว่าน้าท่านก็คือคุณหลวงสุวิชานแพทย์เป็นเจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ

ท่านบอกว่าท่านไม่อยากรับราชการ เพราะว่าบรรดาญาติ ๆ ไม่เป็นทหารก็เป็นตำรวจ ท่านก็เลยหนีไปเป็นเภสัชกรแผนโบราณ กะว่าจะเป็นหมอแก่ ๆ อยู่ต่างจังหวัด ที่ไหนได้..พอได้รับวุฒิบัตรวันนั้นคุณน้าก็มาถึงเลย มาถึงก็ “ไอ้เล็ก..เก็บผ้า ข้าบรรจุให้เอ็งแล้ว” จบเลย เพราะท่านเป็นเจ้ากรมแพทย์นี่ ท่านมีสิทธิ์บรรจุคนไม่รู้ตั้งเท่าไร เอาชื่อหลานใส่คนเดียวจะยากตรงไหน วิสัยที่เป็นทหารมาทุกชาติ อย่างไรก็ต้องเป็น มีเหตุบังคับให้เป็นจนได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 16-06-2015 เมื่อ 08:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 15-06-2015, 17:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อาตมาเองก็เหมือนกัน ไม่ได้คิดจะเป็นทหาร ถึงเวลาสถานการณ์บังคับ ถ้าอาตมาอยู่คนอื่นจะเดือดร้อน เพราะว่าช่วงนั้นจะเป็นการสืบทอดกิจการ อาตมาไปทีหลัง พระครูแสงเขาไปก่อนตั้ง ๓ ปี เพียงแต่ว่าการคิดงานทำงานของท่านสู้อาตมาไม่ได้ แล้วกลายเป็นว่ากิจการจะมาตกอยู่ในมือของอาตมา ก็มาคิดว่า “เอ..ถ้าเป็นเรามาก่อน ๓ ปี แล้วเขาบอกว่าจะให้เราสืบต่อกิจการ แล้วอยู่ ๆ กลายเป็นคนอื่น ถ้าเป็นเราจะยอมไหม ?” เลยคิดว่าถ้าเป็นเราก็คงไม่ยอมเหมือนกัน ถ้าเราอยู่ไปแล้วกลายเป็นของเรา น้องเขาคงต้องคิดเหมือนกัน

พอดีได้จังหวะเกณฑ์ทหารจึงสมัครไปเลย ไปให้พ้นไปเสีย พอไม่มีอาตมาพี่เขาจะได้ยกให้พระครูแสง แต่ที่ไหนได้..พระครูแสงก็เผ่นตาม เขาไม่ได้สมัครหรอก เขาจับได้ใบแดง

ช่วงก่อนเป็นทหารพระครูแสงเกเรมาก ก็คือเมาหัวราน้ำ เหล้า บุหรี่ กัญชา เอาหมดทุกอย่าง ทางบ้านก็อยากให้โดนดัดสันดานประเภทส่งไปไกล ๆ เลย ปรากฏว่าเจ้าประคุณเอ๋ย พอแยกหน่วยเสร็จสรรพเรียบร้อยเขาลงข้างบ้านเอง บ้านอยู่ปากทางสนามบินกำแพงแสน แล้วเขาไปลงสนามบินกำแพงแสน คนอื่นนี่กว่าจะตะเกียกตะกายถึงบ้าน บางคนอยู่ตาพระยา บางคนอยู่สุราษฎร์ธานี เขาเองบอกว่ามีสตางค์ ๒ บาทก็กลับบ้านได้ แต่คนอื่นเขาเดินทาง ๒ วัน ลา ๑๐ วันเหลือ ๖ วัน เขาเองเสาร์อาทิตย์กลับบ้านได้ มีสตางค์ ๒ บาทก็ถึงบ้านแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-06-2015 เมื่อ 20:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 16-06-2015, 17:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเคยเตือนบอกว่า “เล็ก...ถ้าแกลาพุทธภูมิกำลังจะตกนะ” อาตมาก็พิจารณาตัวเอง สมาธิก็เท่าเดิม ความคล่องตัวทุกอย่างก็มีอยู่ กำลังใจก็บ้าเหมือนเดิม ตกตรงไหนหว่า ? พอผ่านไประยะหนึ่งถึง อ๋อ..ใช่..ตกจริง ๆ ก่อนหน้านี้เห็นคนอื่นเดือดร้อนไม่ได้ ต้องวิ่งเข้าไปช่วยเขา แต่ตอนนี้ถ้าไม่ได้มาล้มทับตีนจนเดินไม่ได้ จ้างก็ไม่ช่วยหรอก..!

แต่พระครูแสงนี่เห็นชัดเลยว่ากำลังตก ท่านออกปากเลยว่า “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป คำว่ายากกูไม่ทำ” ก่อนนั้นยากแค่ไหนก็สู้ พอลาพุทธภูมินี่คำว่ายากกูไม่ทำ กูเหนื่อยมาเยอะแล้ว จะเอาสบายบ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-06-2015 เมื่อ 18:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 16-06-2015, 17:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนที่แบกถังน้ำมัน ๔๐ ลิตร ๒ ถังเดินเข้าป่านั้นลาพุทธภูมิแล้วยังครับ ?
ตอบ : ลาตั้งชาติแล้ว

ถาม : ลาแล้วยังช่วยเขาขนาดนั้นเลยหรือครับ ?
ตอบ : อาศัยรถเขา ถึงเวลาเขาลำบากแล้วเราจะไม่ช่วยเขาได้อย่างไรเล่า ? กตัญญู (รู้คุณ) แล้วต้องมีกตเวที (ตอบแทน) ด้วย

ถาม : ช่วยเยอะไปไหมครับ ?
ตอบ : จะเรียกว่าเยอะก็เยอะในความรู้สึกของคนอื่น ในความรู้สึกของอาตมานั้นไม่ใช่ แค่แบกน้ำมัน ๔๐ ลิตรเดินผ่านทุ่งใหญ่ ๙๐ กว่ากิโลเมตร มากตรงไหน ?

ตอนนั้นโยมเขาไม่รู้ เขาสอบติดมหาวิทยาลัยก็ไปฉลองกัน เอารถโฟร์วีลจากบ้านได้ก็วิ่งไป ปรากฏว่าไม่รู้จักทุ่งใหญ่ พวกบอก “เฮ้ย..รถเราโฟร์วีล..เข้าทุ่งใหญ่ได้” เขาก็ไปเลย เขาไม่รู้ว่าทุ่งใหญ่มีบ้านเฉพาะหัวกับท้าย แล้วรถตัวเองก็ดันเป็นเครื่องเบนซิน ในป่าเขาใช้ดีเซลกันทั้งนั้น พอน้ำมันหมดก็เดี้ยงนะสิ อาตมาซวยเองแหละที่เขาให้อาศัยรถแล้วก็ดันไปกับเขา พอรถพังก็เลยต้องช่วยกันเข็น เข็นจนไม่มีแรงจะเข็นแล้ว ท้ายสุดเจอรถคนอื่นก็อาศัยออกมาซื้อน้ำมันกลับเข้าไปให้เขา

เป็นการทดสอบกำลังใจว่า ลำบากแค่นี้สู้ไหม ถ้าไม่สู้ก็เสียทีเคยเป็นพุทธภูมิ เข็นรถแค่ ๖๐-๗๐ กิโลเมตร เข็นไม่ได้หรืออย่างไรวะ ? เวลาเข็นขึ้นเนินนี่รสชาติของชีวิตเลย ช่วยกันยัน ช่วยกันดันขึ้นไปทีละนิ้ว เอาไม้รองไล่ไป


ถาม : ยังดีที่ไม่ไหลกลับนะคะ ?
ตอบ : ไหลคืนนะสิ อาตมาโดนทับมือแบนแต๋เลย พอชักมือออกมา มือดิ้นเองเลย เจ็บจนดิ้นเอง

ถาม : แล้วเขาไม่มีโทษใช้พระหรือครับ ?
ตอบ : เขาไม่ได้ใช้ อาตมาไปช่วยเขาเอง เขาไม่ได้คิดว่าพระจะช่วยหรอก เพราะปกติถ้าเป็นพระอื่นก็ยืนดู ยังคบหากันมาจนทุกวันนี้ ว่างเขาก็แวะไปหา เมื่อปีก่อนคิดถึงทนไม่ไหวก็โผล่ไปที ปีก่อนมาก็ถาม “หลวงพี่..มียาจินดามณีหลวงปู่บุญ..เอาไหม ?” อาตมาว่า “เฮ้ย ยังมีหรือ?” “มีครับ..บ้านผมเก็บไว้เยอะ” “ถ้าอย่างนั้นก็แบ่งมา” เขาก็แบ่งมาให้ ๒ เม็ด กลายเป็นสีขาวมอ ๆ หมดแล้ว ไม่มีความดำเหลือแล้ว กลิ่นก็ไม่มีแล้ว เขาเอาใส่กรอบแขวนคออยู่ เลยแบ่งมาให้ ๒ เม็ด กะว่าถ้ามีโอกาสทำพระผงจะผสมให้หมด

ตอนนี้มีลูกอมผงหลวงปู่จง วัดหน้าต่างนอก ลูกอมหลวงปู่พริ้ง วัดบางปะกอก มีเยอะเลยเก็บไว้ แต่เมื่อวานให้เขาเอาชานหมากหลวงปู่ทิมไปลงเว็บหมดแล้วนี่หว่า !?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-06-2015 เมื่อ 19:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #80  
เก่า 16-06-2015, 17:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,430 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อะไรที่เก็บ ๆ ไว้อาตมาก็เก็บไปอย่างนั้นเอง ถึงเวลาก็ให้คนอื่นหมด จนบางคนเขาเห็นอาตมาให้อะไรคนอื่นไป เขาถามว่าตัดใจได้อย่างไร ? อาตมาบอกว่า “นี่ไม่ได้ตัดเลยนะ เพราะไม่ได้อยู่ในใจแต่แรกแล้ว”

มีอยู่เที่ยวหนึ่ง ตอนนั้นอยู่ที่วัดทองผาภูมิ พวกบรรดาชาวบ้านเขามาประท้วง เพราะเจ้าอาวาสเก่ากลัวว่าอาตมาจะไปเบียดตำแหน่งเขา เห็นทำนั่นทำนี่ใหญ่โตแล้วชาวบ้านเขาศรัทธา กลัวว่าอาตมาจะไปเบียดตำแหน่ง ก็เลยพาพรรคพวกเขามาประท้วง มาแค่ ๗-๘ คนเท่านั้นแหละ เสร็จแล้วทางคณะสงฆ์ก็บ้าจี้ เพราะว่าช่วงนั้นหลวงพ่อวัดท่ามะขามท่านจะตั้งให้อาตมาเป็นรักษาการเจ้าคณะอำเภอ พวกที่อยากได้ก็เลยร่วมหัวกัน ประเภทกล่าวหาว่าอาตมาไปทำลายของสงฆ์ คือของที่หมดสภาพอาตมาก็รื้อทิ้งแล้วสร้างใหม่ จึงมีการสอบสวนกัน

อาตมาก็ถือไมค์
ให้พูดทีละคนไปเลย พอสอบเสร็จสรรพเรียบร้อย ไม่มีปัญหาคาใจอะไรอาตมา ก็กลับมานอนที่วัดท่าขนุน พอนอนไปประมาณ ๒ ทุ่มกว่า อ้าว..ลืมย่าม ลืมย่ามทิ้งไว้ที่วัดทองผาภูมิ ในย่ามก็มีมีดหมอชาตรี ใบมีด ๗ นิ้วของหลวงพ่อวัดท่าซุงอยู่เล่มหนึ่ง ลุกขึ้นหัวพ้นหมอนมาได้สักคืบหนึ่ง ก็ทิ้งตัวนอนลงไปใหม่ คิดว่า “ถ้าของแค่นี้ตัดไม่ได้ มึงจะไปตัดอะไรได้วะ” แล้วก็หลับต่อ

ปัญญามาเร็วมาก ๆ เลย ประเภทหัวพ้นหมอนไปไม่ถึงคืบความรู้สึกวูบขึ้นมาเลย “ถ้าแค่นี้มึงตัดไม่ได้ แล้วจะไปตัดอะไรได้” เลยทิ้งตัวลงนอนต่อเลย รุ่งเช้าค่อยไปดู ยังอยู่..ไม่มีใครกล้าหยิบ

เขาเองคงประเภทกำลังใจตัวเองคิดอย่างไร ก็คิดว่าคนอื่นคิดอย่างนั้น อาจจะคิดว่าอาตมาขุดบ่อล่อปลาทิ้งไว้ก็ได้ เดี๋ยวจะไปแจ้งความว่าขโมยของ บังเอิญเรื่องชั่ว ๆ แบบนี้อาตมาเลิกทำมานานแล้ว ทุกวันนี้พวกชาวบ้านเขาบ่นว่า “ดูสิ..วัดท่าขนุนเจริญเอา ๆ พวกตัวถ่วงโลก หนักแผ่นดิน ไม่อยากได้พระอาจารย์เล็ก วัดวาอารามดูไม่ได้เลย” แล้วจะบ่นไปทำไม ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-06-2015 เมื่อ 18:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:15



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว