กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 28-06-2013, 19:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่บ้านเป็นโรคไทรอยด์ครับ มียาสมุนไพรรักษาไหมครับ ?
ตอบ : พวกไทรอยด์ไม่ค่อยมั่นใจ เพราะไม่เคยไปศึกษาเกี่ยวกับทางด้านนี้เลย ลองไปสอบถามร้านเจ้ากรมเป๋อที่จักรวรรดิดูสิ ถามเขาว่ามีตำรายาที่รักษาเกี่ยวกับพวกนี้หรือเปล่า ที่นั่นจะเป็นต้นตำรับสมุนไพรเลย ร้านเจ้ากรมเป๋อยาจะแพงกว่าที่อื่นหน่อย แต่รับประกันทุกตัว ที่อื่นบางครั้งเอาอย่างอื่นมาปลอม อย่างเช่นเอารากสามสิบมาแทนหนอนตายอยาก เพราะหน้าตาคล้าย ๆ กัน

ถาม : ตอนนี้พ่อไม่สบายมากครับ นอนไม่ได้สติ ควรแนะนำเขาอย่างไรครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่ได้สตินี่แนะนำไม่ทันแล้ว ถ้ายังมีสติอยู่ อย่างน้อย ๆ เอาเสียงสวดหรือเสียงพระเทศน์ให้ท่านฟัง ลองดู..ถ้าได้สติขึ้นมาก็ทำอย่างนั้น จริง ๆ แล้วเรื่องของความเจ็บป่วย ต้องไปบนหลวงพ่อ ๔ - ๕ องค์ที่วัดท่าซุง เพราะท่านจะถนัดเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยโดยตรง ถ้ามีโอกาสลองไปบนดู นึกเสียว่าเราไปเที่ยวก็แล้วกัน แต่ตั้งใจไปบนให้พ่อด้วย ว่าขอให้ท่านได้สติขึ้นมา หรือหายเจ็บป่วยอะไรก็แล้วแต่เรา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-06-2013 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 241 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 28-06-2013, 20:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ช่วงหลังนี้หนูฝันแล้วแม่นด้วยค่ะ ?
ตอบ : ตายแล้ว...ฝันแม่นด้วยหรือ ? เมื่อวานอาตมาเพิ่งฝันว่าเครื่องบินตก ไถลไปอยู่ตรงหน้าประตูปราสาทริมน้ำของใครก็ไม่รู้ ? ยังไม่ทันจะช่วยใครสักคน ดันสะดุ้งตื่นเสียก่อน เครื่องที่นั่งไปยุโรปลำนั้นแหละ แม่นจริง ๆ ด้วยนะ..!

ถาม : แต่ของหนูไม่ได้แม่นแบบตรง ๆ ค่ะ จะเป็นแบบตรงตีความ
ตอบ : เขาเรียกว่าเทพสังหรณ์ บอกตรงเกินไปก็ไม่ได้ กว่าจะเข้าใจ บางทีเรื่องก็ผ่านไปแล้ว

ถาม : อย่างนี้ความฝันก็เป็นภาษาสากลอย่างหนึ่งสิคะ แล้วคนแปลความฝันเขาแปลออกได้อย่างไร เก่งจัง
ตอบ : ต้องค่อนข้างเป็นคนฟุ้งซ่านและมีจินตนาการหน่อย ๆ ก็เขาสรุปไว้ว่าการฝันเป็นเพราะธาตุวิปริต กรรมนิมิต จิตนิวรณ์ เทพสังหรณ์

ธาตุวิปริต..กินแล้วท้องไส้ไม่ดี ฝันไปเรื่อยเปื่อย กรรมนิมิต..ทำดีทำชั่วอะไรมา ผลจะเกิดขึ้นก็แสดงให้รู้ จิตนิวรณ์..เก็บเอาความฟุ้งซ่านไปฝัน อย่างที่อาตมาฝันว่าเครื่องบินตก เทพสังหรณ์..เทวดาท่านช่วยสงเคราะห์ให้รู้ เขาแยกเป็นศาสตร์มาตั้งแต่โบราณแล้ว พวกพราหมณ์เขาขยันฟุ้งซ่านเรื่องแบบนี้ เก็บข้อมูลไปเรื่อย แต่จริง ๆ แล้ว ถ้าเป็นพวกกรรมนิมิต หรือเทพสังหรณ์ จัดเป็นทิพจักขุญาณอย่างอ่อน ถ้าไม่มีของเดิมอยู่ก็ไม่ทราบหรอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-06-2013 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 231 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 28-06-2013, 20:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูเป็นไมเกรนค่ะ ตอนที่ไปนั่งสมาธิในห้องพระ ปรากฏว่าหายปวด แต่พอเดินออกมาจะกลับห้องนอน ระหว่างเดินเหมือนจะกลับมาปวดใหม่ ตอนนอนหนูก็เลยภาวนาแน่นเลย กลัวจะปวดอีกค่ะ แล้วอาการปวดก็หายจริง ๆ แต่หนูตาค้างทั้งคืนเลยค่ะ ?
ตอบ : ธรรมดา..ถ้าสภาพจิตเลยปฐมฌานหยาบไป ก็จะสว่างโพลงอยู่อย่างนั้น เราก็ภาวนาไปเรื่อย ถือว่าตัวได้นอนแล้ว

ถาม : ที่เขานั่งแล้วหายคงไม่ใช่แบบนี้ใช่ไหมคะ ?
ตอบ : เขานั่งแล้วหายเพราะเขาหายเครียด อาการปวดก็หาย ไมเกรนเกิดจากความเครียด ต้องหยุดคิดให้เป็น ถ้าหยุดคิดไม่เป็น เราก็ได้แค่กดเอาไว้ชั่วคราว หรือไม่ก็หารากบวบ จะบวบเหลี่ยมก็ได้ บวบงูก็ได้ บวบขมก็ได้ ให้หารากบวบมา ล้างสะอาดตากแห้ง ชั่งน้ำหนักรวมกันให้ได้ ๑ ขีด ต้มกินแทนน้ำ แก้ไมเกรนสะเด็ดยาดเลย เพียงแต่ว่ารากบวบ ๑ ขีดนี่หายากหน่อย เพราะค่อนข้างมาก

ถาม : หาไม่ได้สิคะ ?
ตอบ : ทำไมจะหาไม่ได้ เขากินกันมาเสียเยอะแล้ว หรือไม่ก็ไปสั่งร้านขายยาให้เขาหาให้

ถาม : ตอนแรกหนูก็อยากหายค่ะ แต่ตอนหลังกลับคิดว่าเลี้ยงไว้ดูเล่นก็ดีเหมือนกัน เดี๋ยวจะสบายเกินไป
ตอบ : ใช่ ๆ ๆ เป็นให้หนัก ๆ เลย จะได้ดูให้ชัด ๆ ...(หัวเราะ)...
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-06-2013 เมื่อ 02:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 30-06-2013, 21:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราเคยเอาเงินของสงฆ์มาให้คนอื่น คนที่รับเงินเป็นหนี้สงฆ์ด้วยหรือไม่ หรือเป็นเฉพาะเราคนเดียว ?
ตอบ : คนที่เอาไปให้เป็นคนติดหนี้สงฆ์ ส่วนคุณจะเอาไปให้ใครนั่นเป็นเรื่องของคุณ เพราะเขารับจากคุณไม่ได้เอาไปจากสงฆ์

ถาม : สมมติว่าเราเอาเงินของสงฆ์มา ๑๐๐ บาท เอาไปทำนั่นนี่จนได้กำไรมา เราต้องชำระหนี้สงฆ์เท่าไรถึงจะหมดครับ ผมเข้าใจว่าชำระตามราคาเท่าที่เอามา ?
ตอบ : อันนี้เข้าใจถูก แต่เขาชำระเท่าราคาปัจจุบัน อย่างเช่นในสมัยนั้นก๋วยเตี๋ยว ๒ ชาม ราคา ๕ สตางค์ ถ้าคุณไปเอาเงินมา ๑๐๐ บาท ตอนนี้ก็อ่วมอรทัยเลย เพราะสมัยนี้ก๋วยเตี๋ยวชามละ ๓๕ - ๔๐ บาท ชำระเป็นมูลค่าในปัจจุบัน ถ้าเทียบยาก ให้เทียบจากราคาทอง อย่างเช่น ราคาทองสมัยนั้นบาทละ ๔๐๐ บาท สมัยนี้บาทละ ๒๐,๐๐๐ บาท ก็ต้องใช้คืนในราคาบาทละ ๒๐,๐๐๐ บาทนะจ๊ะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2013 เมื่อ 01:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 30-06-2013, 21:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สมมติว่าก่อนรับยันต์เกราะเพชร เราเก็บสิ่งของของคนอื่นได้ เช่นโทรศัพท์มือถือ เอามาใช้เป็นของเราเอง รับยันต์เกราะเพชรแล้ว เรายังใช้ของของคนอื่นที่เก็บได้ ยันต์เกราะเพชรจะเสื่อมไหมครับ ?
ตอบ : เรื่องของยันต์เกราะเพชรต้องเจตนาขโมย เก็บของได้ ตั้งใจหาเจ้าของแล้วคืนเขา ถ้าหาเจ้าของคืนไม่ได้ เราใช้ไปก่อน ถ้าเจ้าของมาทวงคืน เราต้องคิดค่าเสื่อมสภาพให้เขาด้วย

อันนี้ไม่ถือว่าขโมย เพราะฉะนั้น..ยันต์ไม่เสื่อม


ถาม : ก่อนรับยันต์เกราะเพชรเราใช้โปรแกรมเถื่อนอยู่ หลังจากรับยันต์เกราะเพชรแล้ว เราก็ยังใช้โปรแกรมเถื่อนต่อไป ยันต์เกราะเพชรเสื่อมไหมครับ ?
ตอบ : เหมือนกัน..หลังจากรับมาแล้วค่อยขโมยถึงจะเสื่อม แต่คราวนี้อย่าตั้งใจเอาเสียเต็มที่แล้วค่อยไปรับยันต์นะ ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าเจตนาขโมย..เจ๊งเหมือนกัน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2013 เมื่อ 01:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 30-06-2013, 21:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การไปวัดแล้วถ่ายรูปกิจกรรมต่าง ๆ ในวัด เอาไปโพสต์ในอินเตอร์เน็ต เป็นธรรมทานหรือเปล่า ?
ตอบ : ไม่เป็น แต่ได้ในส่วนของปัตตานุโมทนามัย คือคนอื่นเขาพลอยยินดีในความดีที่เราทำด้วย ยกเว้นว่าคุณไปฟังธรรมมา แล้วเอาเนื้อหานั้นไปลงให้คนอื่นอ่าน ถึงจะเป็นธรรมทาน

ถาม : ใช้ของที่คนอื่นขโมยมา ศีลขาดไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเราไม่รู้..ไม่เป็นไร ถ้ารู้แล้วก็รีบคืนเขาไป ก่อนที่จะติดคุกในข้อหาสมรู้ร่วมคิดด้วย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2013 เมื่อ 01:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 30-06-2013, 21:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนังมีลิขสิทธิ์มีคนมาขาย คนซื้อไม่ได้ขโมยตรง ๆ ผิดศีลหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ปกติแล้วของที่ขาย ถ้าเราซื้อนี่สิทธิเป็นของเรา แต่คราวนี้เราก็ต้องรู้ด้วยว่า คนที่เอามานั้นเอามาแบบไหน ถ้าเราไม่รู้ไม่ถือว่าผิด แต่ถ้าถึงเวลาเรารู้ขึ้นมา หรือว่าเจ้าของลิขสิทธิ์เขาทวงขึ้นมา จ่ายค่าลิขสิทธิ์เขาไปเสียดี ๆ ไม่อย่างนั้นก็เท่ากับขโมย ถ้าไม่รู้ก็ดูไปเรื่อย ๆ ก่อน

ถาม : หนังมีลิขสิทธิ์ มีคนปล่อยให้ดาวน์โหลดในเว็บ แล้วพอดาวน์โหลดมาดู ผิดศีลหรือไม่ ?
ตอบ : เรื่องของลิขสิทธิ์นี่ต้องคิดให้ดีนะ ถ้าเขาระบุไว้ชัดเลยว่าห้ามทำซ้ำ ถ้าอย่างนั้นเขาถือว่าผิด แต่ถ้าเขาแค่ขายลิขสิทธิ์เฉย ๆ คนแรกซื้อไปแล้ว แล้วก็เอามาปล่อยให้ดาวน์โหลดต่อ ก็ถือว่าคนแรกเขาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ไปแล้ว..ไม่เป็นไร แต่ถ้าเขามีบอกห้ามทำซ้ำไว้ชัดเจน อย่างนั้นผิดแน่นอน

ถาม : ถ้าหนังเรื่องนั้นมีลิขสิทธิ์แล้วคนก๊อปปี้มาขายตามท้องตลาด เช่น คลองถม ผิดศีลไหม ?
ตอบ : ตอบไปแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2013 เมื่อ 01:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 30-06-2013, 21:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในเว็บพลังจิต มีคนสอนบอกว่า พระนิพพานเป็นธรรมที่ไม่ได้เสวยอารมณ์ อยากทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ?
ตอบ : ให้ไปพระนิพพานเสียเอง แล้วจะรู้

ถาม : เคยได้ยินว่าของสงฆ์ ตกที่ไหนก็เป็นของสงฆ์ จริงหรือไม่ครับ ? ถ้าเราได้บูชาสิ่งที่เป็นของสงฆ์มาเป็นของเรา โดยที่เราไม่รู้ เกิดตายไปจะเป็นหนี้สงฆ์หรือไม่ ?
ตอบ : ก็ตั้งใจชำระก่อนที่จะตายสิ

ถาม : การที่เราไปกวาดใบไม้ในวัด แล้วตักเศษหินเศษดินทิ้งถังขยะไปด้วย จะจงใจหรือไม่จงใจ เราจะเป็นหนี้สงฆ์หรือทำลายของสงฆ์หรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าฟุ้งซ่านมากก็เป็น ถ้าไม่ฟุ้งซ่านก็ไม่เป็น เราตั้งใจทำความสะอาดวัด ยกเว้นว่าคุณตั้งใจว่าวัดนี้ดีเกินไป เดี๋ยวเราจะทำลายเสียหน่อยหนึ่ง ตั้งใจกวาดให้เยอะเป็นพิเศษแล้วเอาไปทิ้ง ถ้าอย่างนั้นถือว่าทำลายของสงฆ์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2013 เมื่อ 01:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 30-06-2013, 21:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่เราไปวัด เอาพัดลมและโทรศัพท์มือถือไปเสียบกับปลั๊กไฟวัด เป็นหนี้สงฆ์ไหมครับ ?
ตอบ : เป็น...เมื่อครู่เขาชำระหนี้สงฆ์มาแล้ว ๒๐ บาท

ถาม : เราไปวัด ใช้ไฟในวัด เปิดไฟทิ้งไว้ เป็นหนี้สงฆ์หรือไม่ครับ ?
ตอบ : เป็น..สมัยอยู่วัดท่าซุงหลวงพ่อท่านปรับพระเลยนะ ถ้าใช้แล้ว ถึงเวลาเลิกใช้ไม่ปิดให้ดี สูญเสียราคาครบ ๑ บาท ท่านปรับอาบัติปาราชิกเลย..! เพราะฉะนั้น..อาตมาจะเบื่อมากเลย เวลาพวกเด็ก ๆ ไปอยู่ค่ายที่วัด จะต้องตามปิดไฟ ปิดพัดลม ปิดน้ำให้ตลอด จนเขาคิดว่าระบบของวัดท่าขนุนเป็นระบบอัตโนมัติ ทิ้งไว้ก็ปิดได้เอง เพราะความเคยชินที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านอบรมเอาไว้ ท่านถึงกับปรับปาราชิกเลยนะ ท่านยอมลงทุนติดมิเตอร์เอาไว้ทุกกุฏิเลย ถ้าใช้เกินที่กำหนดเอาไว้ จ่ายมาเสียดี ๆ ถ้าไม่เกินกำหนดก็แล้วไป

ถาม : การโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารเพื่อร่วมบุญ เช่น สร้างพระ หรือวิหารทานต่าง ๆ เจ้าของบัญชีไม่สามารถนำเงินไปทำบุญตามที่เจ้าของบัญชีประกาศไว้ตามจุดมุ่งหมายของคนโอนเงิน จะเป็นหนี้สงฆ์หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่สามารถทำได้ อันดับแรกเป็นหนี้สงฆ์ก่อน อันดับที่สอง ถ้าไม่สามารถทำได้อย่างที่ประกาศไว้ แล้วเอาไปทำอีกอย่างหนึ่ง อันนี้ปรับโทษย้ายเจดีย์ด้วย เพราะฉะนั้น..เรื่องอย่างนี้ ถ้าไม่มั่นใจในศักยภาพของตัวเอง อย่าพยายามไปแตะเป็นอันขาด ถ้ามั่นใจเมื่อไรแล้วค่อยทำ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-07-2013 เมื่อ 01:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 234 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 05-07-2013, 13:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "จริง ๆ แล้วความประพฤติของเด็กอยู่ที่การฝึกหัด การฝึกอบรมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าพ่อแม่ไม่เข้มงวด เอาแต่ตามใจลูก ย่อมไม่มีทางฝึกลูกให้ดีได้ ตัวเราเองก็เหมือนกัน ถ้าเอาแต่ตามใจกิเลส โดยไม่คิดที่จะห้ามปราม ไม่คิดที่จะต่อต้าน ก็จะโดนกิเลสจูงไปเรื่อย ผลก็จะออกมาเหมือนกับเด็กที่ขาดการฝึกอบรมนั่นแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2013 เมื่อ 16:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 05-07-2013, 13:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บ้านถูกงัดมีวิธีแก้ไหมครับ ?
ตอบ : มีคนอยู่ประจำหรือเปล่า ?

ถาม : ไม่มีครับ
ตอบ : จริง ๆ แล้วเขามีวิธีฝากบ้านไว้กับเทวดา หรือไม่ก็ตอกไม้กันขโมย

ถาม : ต้องทำเลยใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่ทำก็เหมือนเดิม

ถาม : ยาวประมาณกี่ศอกครับ ?
ตอบ : ไม้กันขโมยเขาเอา ๑ ศอกของเจ้าของบ้าน จากปลายนิ้วกลางถึงข้อศอก ๔ อัน ต้องไปตอกเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2013 เมื่อ 16:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 05-07-2013, 13:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับเด็กน้อยลูกโยมคนหนึ่งที่กำลังจะกลับไปยุโรปว่า "กลับไปแล้ว อย่าทิ้งสมาธินะจ๊ะ มีเวลาให้ทำไว้ วันละ ๕ นาที ๑๐ นาทีก็ได้ ฝรั่งอาจจะเจริญกว่าเราทุกอย่าง แต่เรื่องของสมาธิเขาไม่มี ฉะนั้น..เราเองจะทำอะไรได้ดี สมาธิต้องทรงตัว ถ้ากำลังใจมั่นคงจะไม่ตกใจอะไรง่าย ๆ มีสติอยู่ตลอด เกิดอะไรขึ้นก็แก้ปัญหาได้ ฉะนั้น..อย่าทิ้งสมาธิ

ตอนนี้ทางตะวันตกของฝรั่ง พวกยุโรป อเมริกา หันมาเรียนสมาธิกันเยอะ เพราะเห็นประโยชน์ เราอยู่กับธรรมะอยู่แล้วต้องทำให้ได้ เผื่อไปสอนเขาด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2013 เมื่อ 16:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 05-07-2013, 13:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าปฏิบัติแล้วจะละกิเลสภายในใจจะทำอย่างไร ?
ตอบ : รับรู้และเห็นโทษให้ได้ ถ้ารับรู้และเห็นโทษ ใจก็จะหาทางหลีกหนีจากกิเลส ตอนนี้วิธีที่ดีที่สุดคืออยู่กับลมหายใจเข้าออก จะได้มีกำลัง มีสติที่จะระงับยับยั้ง หลังจากนั้นก็พิจารณาเห็นโทษ แล้วถอนใจออกมา แต่ว่าอย่างหลังจะลำบากนิดหนึ่ง ถ้ากำลังของสมาธิพอก็ตัดได้ ถ้ากำลังของสมาธิไม่พอก็ตัดไม่ขาดสักที
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2013 เมื่อ 16:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 05-07-2013, 13:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ที่เป็นห่วงสมเด็จพระสังฆราช เพราะว่าปีนี้ทรงเจริญพระชนมายุ ๑๐๐ พรรษาแล้ว ที่สำคัญก็คือสถานการณ์บ้านเมืองไม่ค่อยดีเลย มีแต่คนจะพยายามปั่นให้ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ พระระดับสมเด็จพระสังฆราช ถ้าจำเป็นก็อาจจะทิ้งขันธ์เพื่อเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของประเทศชาติให้ดีขึ้น

ตามเกณฑ์จะต้องเป็นช่วงปลายปี กลัวแต่ว่าถ้าเรื่องแรงขึ้นก็ไปเร็ว บางเรื่องที่ฟุ้งซ่านไปล่วงหน้า ถ้าทำใจไม่ได้ก็เครียด..!

อีกองค์หนึ่งที่น่าเป็นห่วงคือหลวงพ่อคูณ ถ้าเรื่องหนักกลัวจะไปแบบผูกแพ ผูกแพนี่ไปกันเป็นชุดเลย ไม้ไผ่ลำเดียวเป็นแพไม่ได้ จะผูกแพต้องใช้ไม้ไผ่หลายลำ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-07-2013 เมื่อ 01:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 05-07-2013, 14:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "การเลี้ยงลูก ถ้าเรารักลูกต้องปล่อยให้เขาทำอะไรด้วยตัวเองให้ไว ๆ ถ้ามัวแต่ไปช่วยไปโอ๋อยู่ ถ้าขาดเราเขาจะทำอะไรไม่เป็นก็เป็นที่น่าสงสารมาก เขาจะไปไหนปล่อยให้ไปเองเลย จะได้เก่งไว ๆ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2013 เมื่อ 16:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 05-07-2013, 14:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ใจร้อนหรือใจเย็นอยู่ที่ตัวเราคิด ถ้าเราไม่คิด ก็จะไม่ใจร้อน เวลาก็จะผ่านไปเร็ว แต่ถ้าคิดฟุ้งซ่าน ใจร้อน เวลาจะเหมือนผ่านไปช้า ยิ่งถ้าคนเราเครียด คิดถึงแต่เรื่องที่ทำให้ทุกข์ วันหนึ่งก็เหมือนกับปี สมัยที่อาตมาบวชใหม่ ๆ กว่าจะผ่านไปวันหนึ่งเหมือนเป็นเดือนเป็นปี แต่พอเลิกเครียด เวลาผ่านไปเดี๋ยวก็พรรษา เดี๋ยวก็พรรษา"

ถาม : คนในปัจจุบันรู้สึกเวลาผ่านไปไม่เร็วมาก ไม่เหมือนกับคนสมัยก่อน
ตอบ : จริง ๆ แล้วเวลาก็เป็นไปตามปกติ แต่เขาไม่ต้องห่วงเรื่องการทำมาหากิน ไม่มีการแก่งแย่งกันอะไรกัน ทำให้เหมือนมีความสุขไปวัน ๆ ไม่รู้ทันตัวเวลาก็ผ่านไปแล้ว

ถาม : ทำงานเจ็ดวันทรมานค่ะ
ตอบ : ลองว่าเกิดมาแล้วก็ทุกข์ทั้งนั้นแหละ ๓ วัน ๗ วันของเขาก็เหมือนของเราประเภท ๓๐ ปี ๗๐ ปี..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2013 เมื่อ 16:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 05-07-2013, 19:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "วันก่อนที่งานจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์พื้นบ้านของทองผาภูมิ ร้านที่อาตมาตั้งใจตรงเข้าไปเลยคือร้านขายแมลงทอด มีทั้งตั๊กแตน จิ้งโกร่ง จิ้งหรีด แมงสะดิ้ง แมงเหนี่ยง หนอนไหม รถด่วน

รถด่วนเวลาทอดแล้วแทบจะไม่เหลืออะไรเลย เหลือแต่เปลือกเปล่า ๆ ตอนแรกเขาไม่คิดจะซื้อของกัน เด็ก ๆ มีเงินติดตัว ๑๐ บาท ๒๐ บาท ท้ายสุดต้องกู้หลวงพ่อทั้งนั้น

ทำให้เห็นอัจฉริยภาพของพระพุทธเจ้า ที่บอกว่าสุขของคฤหัสถ์ ๔ อย่าง คือ มีทรัพย์ จ่ายทรัพย์ ไม่เป็นหนี้ ทำงานไม่มีโทษ มีเงินมีทองมีสมบัติก็ปลื้มใจหาได้เยอะ ถึงเวลาได้ใช้จ่ายซื้อของที่ชอบใจก็มีความสุข ไม่มีหนี้ไม่มีสินก็ไม่ต้องกลุ้ม ไม่ต้องเครียด ท้ายสุดทำงานที่ไม่ผิดกฎหมายบ้านเมือง ไม่ผิดประเพณี ไม่ผิดศีลธรรม ท่านบอกรายละเอียดเอาไว้หมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2013 เมื่อ 20:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 06-07-2013, 10:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เห็นเขาหิ้วน้ำมาแล้วนึกถึงอนาคต หลาย ๆ ประเทศอาจจะมีคนอดน้ำตายเป็นจำนวนมาก อย่างประเทศจีนมองการณ์ไกลมากเลย ที่สร้างเขื่อนสามผากั้นแยงซีเกียง สร้างเสร็จกักน้ำจืดไว้ได้ถึง ๒๐ เปอร์เซ็นต์ของโลก

อย่างบ้านเราไม่ค่อยรู้คุณค่าของน้ำจืด สมัยเด็ก ๆ ถ้าบอกว่าต้องซื้อน้ำเขากิน คงหัวเราะกันตายเลย มีแต่คนเขาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้ ถึงเวลาก็ตั้งร้านน้ำไว้หน้าบ้าน ไปไหนก็ขอน้ำกินหน่อย น้ำบ่อเขาไม่ใช้หรอก..ไม่แล ใช้แต่น้ำฝน ลองมาดูตอนนี้ บรรพบุรุษของเราถ้าฟื้นขึ้นมา พอรู้ว่าต้องซื้อน้ำขวดละ ๑๐ บาท คงเป็นลมตายไปใหม่..!

เรื่องพวกนี้อาตมาก็ฟุ้งซ่านล่วงหน้าไปเรื่อย พอถึงเวลาเกิดขึ้นจริง ๆ โยมก็คงระลึกได้ว่าอาตมาเคยพูดไว้แล้ว

ไปดูสารคดีที่ทางแอฟริกาเขาหาน้ำกัน บ่อเขาลึกเป็นร้อย ๆ เมตร คนต้องเอาวัวมาลาก ลักษณะเป็นคานดึงขึ้นมาเป็นร้อย ๆ เมตรกว่าน้ำจะโผล่ขึ้นมาได้ ดึงมาครั้งหนึ่งก็ได้น้ำแค่ครึ่งถังเล็ก ๆ วัวก็วิ่งมาหวังจะได้กิน เปล่าหรอก..คนผลักวัวออก ตัวเองกรอกใส่หม้อก่อน เห็นแล้วก็น่าสงสาร วัวออกแรงแทบตายไม่ได้กิน

เผ่าที่เก่งที่สุดเป็นพวกบุชแมน (มนุษย์พุ่มไม้) หาน้ำจากธรรมชาติ เดินหาเห็นก้านไม้เล็ก ๆ โผล่ออกมาจากทรายนิดเดียว ค่อยคุ้ย ๆ ขึ้นมา เป็นพืชลักษณะคล้ายหัวมันแกว หัวเบ้อเริ่มเลย เขาจะขูดเป็นฝอย ๆ แล้วบีบเป็นน้ำใส่ปาก แค่นั้นก็รอดตายวันหนึ่ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-07-2013 เมื่อ 12:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 06-07-2013, 10:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หลายคนที่มีฐานะดี ๆ อย่างบิลเกตต์ , วอร์เรน บัฟเฟตต์ เขาจัดตั้งมูลนิธิเพื่อจะช่วยให้คนอยู่ดีกินดีเสมอกัน ซึ่งเป็นแนวความคิดที่ดี น่าสนับสนุนมาก แต่เป็นไปไม่ได้ เพราะคนเราทำบุญมาไม่เท่ากัน ถ้าขาดทานบารมีก็จะไปเกิดในที่ลำบากยากแค้นอย่างนั้น ประเภทที่ไม่รู้ว่ามื้อนี้มีกิน แล้วอีกกี่มื้อกว่าจะได้กิน เด็กเกิดมามีแต่หัวโต ๆ แขนขาลีบเล็กนิดเดียว เขาถ่ายรูปมาที่พวกกาชาดสากลเข้าไปช่วย ฝรั่งก็มือใหญ่อยู่นะ มีมือเด็กประมาณ ๒ นิ้วแปะอยู่บนมือฝรั่ง

เคยมีคนให้คำจำกัดความว่า "เปรตเดินดิน" แต่นี่เขาไม่ได้ลำบากขนาดเปรต
หรอก เปรตอดอยากกันเป็นกัป ไม่มีอะไรจะกิน แล้วก็ไม่ตายเพราะแรงกรรมค้ำเอาไว้ ทุกข์ทรมานไปเรื่อย ๆ ได้ยินเสียงคนเรียกกินข้าวกินน้ำ ก็โซซัดโซเซเดินหาไปเรื่อย เดินเท่าไรก็ไม่ถึงสักที ท้อใจก็ลงนอนกลิ้งเกลือกไปมา คร่ำครวญว่าตนเองสร้างเวรสร้างกรรมอะไรขนาดนี้ ทำไมถึงไม่มีกิน ต้องมาอดอยากหิวโหยแทบล้มประดาตาย ท้ายสุดพอได้ยินเสียงเขาเรียกอีกก็เกิดความหวัง เดินต่อไปอีก กัปแล้วกัปเล่าก็เดินหาของกินอยู่อย่างนั้น

ดังนั้น..พวกเราที่เกิดมาอยู่ในเขตศาสนาพุทธ รู้จักว่าทาน ศีล ภาวนาเป็นอย่างไร นับว่าโชคดีสุด ๆ แล้ว ต่อให้ลำบากอย่างไรก็ลำบากชาตินี้เท่านั้น ถ้ามีโอกาสสร้างบุญในเรื่องของทาน ของศีล ของภาวนาไว้ อย่างไรแล้วชาติหน้าเกิดใหม่สบายแน่ แล้วดูพวกนั้นสิ เขาต้องลำบากอีกตั้งเท่าไรกว่าจะพ้นจากเขตนั้นขึ้นมา บางทีเราตาย ๆ เกิด ๆ ไปกี่รอบแล้วก็ไม่รู้ อย่างเปรตญาติพระเจ้าพิมพิสารรอตั้ง ๙๑ กัป นั่นประเภทที่กรรมเหลือน้อยแล้ว ถ้ากรรมหนัก ๆ จะต้องทนทุกข์นานขนาดไหน..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-07-2013 เมื่อ 12:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 08-07-2013, 14:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,509 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลับแบบรู้ตัวเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : ตัวหลับ แต่สภาพจิตตื่นอยู่

ถาม : อยู่ในฌานระดับไหน ?
ตอบ : อย่างน้อยต้องเป็นระดับปฐมฌานละเอียด เท่ากับหลับนั่นแหละ..เพียงแต่สภาพจิตไม่ได้หลับด้วย

ถาม : ฌานลึกกว่านี้ไม่ได้หรือครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่ลึกกว่านี้ไม่ได้ ได้..แต่ต่ำสุดต้องเป็นปฐมฌานละเอียด ตอนเราหลับมักจะเผลอสติ กิเลสจะกินเราตอนหลับได้ ดังนั้น...ควรพยายามประคองสติซักซ้อมให้มีความคล่องตัวในฌานไว้ พอซ้อมทำไปจนคล่องตัวมาก ๆ คราวนี้ไม่ต้องเสียเวลาประคอง จะกำหนดให้อยู่ระดับนั้นได้เลย

การฝึกเพื่อให้สภาพจิตอยู่ในสภาพของผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน จะลำบากที่สุดในช่วงแรกที่ต้องการจะให้ตื่นกับหลับแล้วมีสติรู้เท่ากัน เพราะว่าถ้าเผลอเมื่อไรจะตัดหลับเลย อาตมาเคยตามดูจิตตัวเอง เหมือนกับเปลวเทียนที่ค่อย ๆ หรี่ลง ๆ ๆ แล้วท้ายสุดจะเหลืออยู่นิดเดียว ถ้าเราสามารถหยุดไว้ตรงนั้นได้ ก็จะตื่นอยู่อย่างนั้นตลอดทั้งวันทั้งคืน แต่ถ้าหยุดไว้ไม่ได้ เผลอนิดเดียวก็จะตัดหลับไปเลย

ตอนช่วงที่ฝึกอยู่ ซักซ้อมอยู่เป็นปี ๆ กว่าจะรักษาเอาไว้ได้ บางคนตอนกลางวันประคับประคองรักษาศีล กาย วาจา ใจดีมาก พอเผลอหลับตอนกลางคืน บางทีดิ้นไปทั้งศาลาเลย กิเลสไปตีตอนหลับ

สภาพจิตอยู่กับรัก โลภ โกรธ หลงนั่นแหละ แต่สติไม่รับรู้ ก็เลยปล่อยให้ปรุงฟุ้งซ่านตามสบาย อย่างที่ปริศนาธรรมบอกว่า "กลางคืนเป็นควัน กลางวันเป็นเปลว" ประเภทลุกไหม้เป็นราคะ โลภะ โทสะ โมหะ ก็แปลว่ากิเลสกินใจเราทั้งหลับทั้งตื่น ถ้าสภาพจิตหลับกับตื่นรู้เท่ากัน เราก็ระวังกิเลสไม่ให้กินใจเราได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-07-2013 เมื่อ 17:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:40



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว