กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 11-04-2016, 20:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"วันก่อนท่านเห็นอาตมาไปปฏิบัติธรรมของพระอุปัชฌาย์ หลวงพี่แป๊ะก็บอกว่า “ปีหน้าผมจะเป็นบ้างแล้วนะ” ถามว่าเป็นได้หรือ ? “เป็นได้...เป็นแบบวิสามัญ” ต้องเฮี้ยนแบบท่านนั่นแหละ ถึงจะได้ลงหนังสือพิมพ์บ่อย

งวดก่อนทำตะกรุดยัดใส่มืออาตมามากำหนึ่ง ถามว่าตะกรุดอะไรพี่ ? ท่านบอกว่า “ตะกรุดยันต์ ๙ แถว เอาไว้สู้กับอาจารย์หนู ของอาจารย์หนูแค่ ๕ แถว” เข้าท่าดีเหมือนกัน อาตมาทำได้แต่ตะกรุดยันต์ ๘ แถว คือยันต์เกราะเพชร มากกว่านั้นทำไม่เป็นแล้ว ...(หัวเราะ)... เดี๋ยวมะรืนก็เจอกันอีก เพราะว่ามีงานพุทธาภิเษกที่วัดละมุด นครชัยศรี

แถว ๆ นครปฐมต้องบอกว่าเป็นเมืองคนดีมาแต่อดีต อย่าลืมว่าทวารวดีคือยุคแรกของพุทธศาสนา ครูบาอาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถจากอดีตถึงปัจจุบันนี้ ของนครปฐมมีรายชื่อเป็นบัญชีหางว่าวเลย ปัจจุบันนี้เกจิอาจารย์ก็มีหลายรูป อาตมานี่จะแหกคอก เป็นอาจารย์จากจังหวัดอื่นที่แทรกเข้าไปอยู่กลางวง ถึงเวลาก็ท่านโน้นท่านนี้วัดอยู่ในนครปฐม แล้วก็จะมีชื่อพระครูวิลาศฯ กาญจนบุรีโผล่ไปทุกที"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2016 เมื่อ 20:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 11-04-2016, 20:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะหลังนี้เวลาพุทธาภิเษกเสร็จ ถ้าเทียนน้ำมนต์เหลืออยู่อาตมาก็จะปั้นเป็นลูกอม ปรากฏว่าวันก่อนพุทธาภิเษกที่วัดโคกเขมา นครชัยศรีเหมือนกัน พอลืมตาขึ้นมาพระที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ก็ฉวยเทียนไป โยมอีกคนทำท่าสะอื้น บอกว่าผมกำลังเล็งอยู่เชียว อาตมาบอกว่าเอ็งไม่ต้องสะอื้นหรอก ข้าก็เล็งอยู่เหมือนกัน...ยังไม่ได้เลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2016 เมื่อ 20:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 11-04-2016, 20:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมจะทำบุญไถ่ชีวิตโคกระบือ ไม่ทราบว่ามีอานิสงส์อย่างไรครับ ?
ตอบ : ถ้าอย่างอาตมาก็ไปเอามาจากโรงฆ่าสัตว์เลย ก็แปลว่าช่วยตัดกรรมใหญ่ของปาณาติบาตได้ด้วย อานิสงส์ส่วนอื่นไปอธิษฐานเอาเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2016 เมื่อ 20:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 11-04-2016, 20:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สงกรานต์ปีนี้ญาติโยมท่าจะลำบากเพราะขันน้ำโดนยึดหมด..! ต้องบอกว่าจนกระทั่งทุกวันนี้เขาก็ยังไม่สามารถก้าวข้ามคุณทักษิณไปได้ ดันไปให้ความสำคัญกับเขาเอง ถ้าไม่ให้ความสำคัญ ไม่ให้ราคาก็จบแล้ว คนอยู่นอกประเทศจะแผลงฤทธิ์แผลงเดชอะไรได้นักหนา แต่ถ้าขืนเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยแล้วจะมีคนหมดความอดทน คุณทักษิณจะโดนลอบสังหารแน่นอน..!

ปัจจุบันรัฐบาลทหารที่เข้ามา ต้องบอกว่าสิ่งใดก็ตามที่เคยว่ากล่าวเอาไว้ว่ารัฐบาลคุณทักษิณก็ดี รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ก็ดีได้ทำแล้วผิด มารัฐบาลนี้ก็ทำทุกอย่าง แต่ว่าเศรษฐกิจไม่ได้เรื่อง ก็เลยทำให้ชาวบ้านเขาคิดถึงสมัยคุณทักษิณอยู่ตลอด ต้องบอกว่ารัฐบาลของเราทำตัวเอง ประเทศชาติล้าหลังตามใครไม่ทันแล้ว

ไปนึกถึงรัฐบาลพม่า ปี ๒๕๒๔ เงินพม่า ๑ จั๊ตแลกเงินไทยได้ ๒ บาท ปี ๒๕๕๙ เงินไทย ๑ บาทแลกพม่าได้ ๓๕ จั๊ต พม่าก็รู้ตัวว่าบริหารไม่เป็น ประเทศชาติล้าหลังคนอื่นไป ๒๐-๓๐ ปี ก็เลยเปลี่ยนผ่านเอารัฐบาลจากการเลือกตั้งขึ้นมา ส่วนบ้านเรานำเขาอยู่ดี ๆ กลัวประเทศชาติจะเจริญเกินไป กลับไปปฏิวัติรัฐประหารเสียนี่ กลายเป็นประชาธิปไตยของเราไปเอาเผด็จการมาใช้งานแทน ไม่ทราบว่าเห็นดีเห็นงามอย่างไร ส่วนเผด็จการเขากลับพยายามเอาประชาธิปไตยเข้ามา ดูแล้วอนาถใจพิกล

เรื่องของการเมืองจริง ๆ แล้วไม่ไปยุ่งเกี่ยวได้แหละดี ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินไป ให้ความสนใจมากก็เครียดเปล่า ๆ เพราะว่าเป็นประเภท “ขโมยร้องจับโจร” คำว่า ขโมยร้องจับโจรเกิดจากพฤติกรรมที่เห็น ๆ กันอยู่ เป็นเรื่องที่ใคร ๆ เขาก็รู้ ไม่ต้องเสียเวลามาปรับทัศนคติหรอก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-04-2016 เมื่อ 10:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 11-04-2016, 20:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ในยุคของคุณทักษิณ บ้านเราจวนจะก้าวเข้าสู่ประชาธิปไตยช่วงสุดท้าย ซึ่งก็คือการมีพรรคใหญ่แค่ ๒ พรรค ถ้าก้าวไปสู่จุดนั้นเมื่อไร เราดูตัวอย่างของอังกฤษหรืออเมริกา ของเขามีแค่ ๒ พรรคแข่งกัน ถ้าใครชนะได้เป็นรัฐบาล อีกพรรคหนึ่งก็รอโอกาส ครบ ๔ ปีเลือกตั้งค่อยมาแข่งกันใหม่ ตอนช่วงคุณเป็นรัฐบาลถ้ามีผลงานอะไรดี รัฐบาลเก่าก็เอาออกมาโฆษณาให้ชาวบ้านเขารู้ พร้อมกับกำหนดแนวนโยบายใหม่ ๆ ส่วนพรรคคู่แข่งก็จะดูว่ารัฐบาลทำอะไรไม่เข้าท่าเข้าทาง แล้วพยายามเอามาขยายผลให้ชาวบ้านเขารู้ จากนั้นก็ยกนโยบายที่ตัวเองเห็นว่าดีขึ้นมาแสดง

ต้องบอกว่าประเทศที่เป็นประชาธิปไตยตัวอย่างของโลก เกือบทุกประเทศก็อยู่ในลักษณะนี้ คือถึงไม่ชอบใจก็รอ อดทนอดกลั้นให้หมดเวลาไป จะมาอ้างว่าถ้ารอแล้วประเทศชาติฉิบหาย ก็ไม่เห็นสหรัฐหรือว่าอังกฤษเขาจะฉิบหายสักที เขาก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมามีอำนาจ ขึ้นมาแสดงผลงาน

ถ้านับในเรื่องของกำลังทหาร อเมริกาก็ต้องถือว่ามีแสนยานุภาพเป็นอันดับ ๑ ของโลก ก็ไม่เห็นเขาจะใช้กำลังปฏิวัติกัน มีแต่บ้านเราเมืองเราที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัว พยายามสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดการปฏิวัติจนได้ ทั้ง ๆ ที่บ้านเราเมืองเราก้าวผ่านมานานแล้ว

ในส่วนที่อาตมาเห็นว่าคุณทักษิณมีความผิดนั้น ที่เห็นชัดเจนมีอยู่ ๒ อย่าง อย่างหนึ่งคือคุณทักษิณเป็นคนหัวแข็ง ไม่ยอมลงให้ใคร พูดง่าย ๆ ว่าเจ้าที่เจ้าทางอยู่ที่ไหน บรรดานายกฯ อื่น ๆ ไปกราบไปไหว้ แกไม่ไป ประการที่ ๒ คืออยู่นานเกินไป พออยู่นานเกินไป คนไม่ได้เป็นรัฐบาลก็เกิดอาการอย่างที่คุณบรรหาร ศิลปอาชาพูด ก็คืออดอยากปากแห้ง จึงต้องสร้างสถานการณ์เพื่อให้ตัวเองขึ้นไปเป็นรัฐบาลบ้าง แต่ปรากฏว่าทหารของเราดันบ้าจี้ เห็นดีเห็นงามไปด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2016 เมื่อ 20:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 11-04-2016, 20:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ปัจจุบันนี้ในเรื่องการค้าขาย การลงทุน ถ้าประเทศของคุณไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่มีรัฐบาลที่มั่นคงแน่นอน ก็ไม่มีใครเขาอยากค้าขายด้วย ไม่มีใครเขาอยากลงทุนด้วย คนที่ลงทุนอยู่ก็ย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น ต่อให้บรรดาทีมเศรษฐกิจมีอีก ๕ สมคิดก็ช่วยไม่ได้หรอก เพราะเหมือนอย่างกับว่าพอคุณสมคิดสร้างเวที คนในรัฐบาลด้วยกันโดยเฉพาะนายกฯ นั่นแหละ ก็รื้อเวทีเสียเอง สถานการณ์กำลังดี ๆ ก็ไปทำให้แรงขึ้น

โดยเฉพาะไปไล่เก็บขันชาวบ้าน...ทุเรศมากเลย..! ถ้าเป็นอาตมานี่จะซื้อเพิ่มให้อีก ๒ ใบ...! เผื่อให้ไว้ใช้ตอนสงกรานต์ปีหน้าด้วย ถ้าเห็นว่ารูปคุณทักษิณกับยิ่งลักษณ์ไม่สวยไม่หล่อพอ ก็หาที่สวยที่หล่อกว่านั้นให้ แล้วก็ลงรูปไปเลย อภินันทนาการจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สนับสนุนให้หมดเรื่องหมดราวไปเลย เขาบอกว่าถ้าไม่สามารถที่จะเปลี่ยนจากศัตรูเป็นมิตรได้ ก็จงเป็นพวกเดียวกับเขาไปก็หมดเรื่อง

พูดการเมืองนี่กำลังใจต้องนิ่งพอ ถ้าไม่นิ่งพอเมื่อไรตัวเองจะร้อนเอง เพราะฉะนั้นอย่าไปยุ่งกับมันเลย รัฐธรรมนูญใหม่ต่อให้เขียนมาดีแค่ไหนก็ตาม ใช้ไม่ได้หรอก เพราะว่าอยู่ที่คน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2016 เมื่อ 20:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 11-04-2016, 20:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ฟังท่านพูดแล้วถูกใจครับ ?
ตอบ : เดี๋ยวก็โดนจับไปปรับทัศนคติด้วยกันหรอก เดี๋ยวนี้พระเจ้าเขาก็ไม่เว้นนะ เมื่อเดือนก่อนเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม จากสภาผู้แทนราษฎร อุตส่าห์มาถามตอนเลิกกรรมฐานว่า อาตมามีอะไรจะฝากถึงรัฐบาลไหม ? อาตมาบอกว่าไม่ฝาก เพราะรัฐบาลไม่เคยจริงใจกับพระเลย ต่อไปนี้พระจะเลิกใช้สันติวิธี แต่จะไปใช้กำลังแทน ได้ยินแบบนี้ไม่รู้ป่านนี้หัวหงอกกันหมดแล้วหรือยัง ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2016 เมื่อ 20:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 11-04-2016, 20:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมถึงชื่อหนังสือกระโถนข้างธรรมาสน์คะ ?
ตอบ : ตอนแรกเขาทำหนังสือเกี่ยวกับธรรมะต่าง ๆ ที่พูดไป เลยไปนึกว่าของอาตมาเองไม่ใช่ครูบาอาจารย์ เหมือนอย่างกับนั่งฟังอยู่ข้างหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านแล้วก็จำ ๆ เอามา ก็เลยคิดว่าถ้าหลวงพ่อท่านเทศน์แล้วอาตมามีหน้าที่จำ ก็เหมือนกับกระโถนข้างธรรมาสน์ ที่คอยรองรับอะไรต่อมิอะไร จึงตั้งชื่อหนังสือแบบนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-04-2016 เมื่อ 10:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 11-04-2016, 21:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมอยากบวชที่วัดท่าขนุนตอนอายุ ๑๒ ครับ มีกำหนดการอย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : จะบวชเดือนนี้เลยไหม ? ผ้าไตรมี หลวงพ่อเป็นพระอุปัชฌาย์ บวชให้ได้

ถาม : รอครบอายุ ๑๒ ก่อนครับ ?
ตอบ : แล้วตอนนี้อายุเท่าไรครับ ?

ถาม : ๑๑ ปีครับ
ตอบ : ๑๑ ปี ๙ เดือน ?

ถาม : ๑๑ ปี ๓ เดือนครับ
ตอบ : ปิดเทอมหน้าไปบวชได้เลย ไปอยู่ที่โน่นต้องระวัง ถ้าทำอะไรผิดหลวงพ่อตีด้วยสายไฟนะ ไม่ได้ตีด้วยไม้ สามเณรที่วัดเป็นร้อย ๆ เรียบอย่างกับผ้าพับเลย แต่พอกลับบ้านไปแล้วพ่อแม่เขาต่อยอดไม่ได้

อยู่ที่วัดพระพี่เลี้ยงแต่ละรูปจะพกไม้สามอัน ตอนแรกหลวงพ่อก็สงสัยว่าทำไมพกไม้สามอัน เขาบอกว่าถ้าตีหักเดี๋ยวต้องหาไม้อันใหม่ อาตมาประกาศไว้ชัดเจนว่า ถ้าลูกมาถึงวัด เป็นสิทธิของพระ บางทีตีไปพ่อแม่ก็นั่งร้องไห้ไป "ดีแล้วครับที่หลวงพ่อตี เพราะผมก็ไม่กล้าตี" สามเณรวัดอื่นเป็นลิงเป็นค่าง แต่สามเณรวัดท่าขนุนเรียบร้อยผิดปกติ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2016 เมื่อ 21:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 11-04-2016, 21:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แถวนั้นเขาไม่แปลกใจหรอก เขาว่า "อาจารย์เล็กดุอย่างกับหมา ตรงเวลาจนน่าเกลียด" คนจำนวนมากถ้าใช้พระคุณอย่างเดียวจะเอาไม่อยู่ ต้องใช้พระเดชด้วย พระวัดอื่นแค่ ๓ รูป ๕ รูป ทะเลาะกันจะเป็นจะตาย พระของวัดท่าขนุน ๓๐-๔๐ รูป ไม่เห็นมีปัญหา เพราะเจ้าอาวาสดุ..!

มีโยมไปที่วัดถามว่าที่วัดมีพระกี่รูป บอกว่า “ตอนนี้ ๒๗ รูป” เขาก็ตกใจ “หา...! ทำไมไม่เห็นเลย” บอกว่า “แน่จริงออกมาสิ ถ้าไม่ใช่งานแล้วออกมาเกะกะเป็นโดน...!” เขาสงสัยว่าพระ ๒๐-๓๐ รูปหายไปไหน...เงียบสนิท

ต่างจังหวัดส่วนใหญ่พอนอกพรรษาแล้วมักจะเหลือแต่เจ้าอาวาสกับเณร หรือไม่ก็เหลือเจ้าอาวาสรูปเดียว แต่ที่วัดท่าขนุนตอนแรกพอเอาไม้โหดมาใช้ หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดท่านบอกว่า “เดี๋ยวคุณก็ได้อยู่คนเดียวหรอก” ปรากฏว่าไม่จริง พอพ่อแม่เห็นว่าเอาลูกเขาอยู่ก็ส่งมาบวชกันใหญ่

มีอยู่ปีหนึ่งเฉพาะพระใหม่ที่มาบวช ๓๖ รูป ผู้กำกับตำรวจที่ทองผาภูมิเขาบอก “สบายใจครับ อย่างไรพรรษานี้ไม่มีเหตุอะไรแน่นอน เพราะไอ้พวกเหี้... ๆ พระอาจารย์เล็กเอาไปบวชหมดแล้ว” ไม่ได้คิดจะเอาเขามาบวช ไม่รู้เขานัดกันอย่างไร ๓๐ กว่าคน มาบวชหมดเลย กลัวว่าจะมาตั้งแก๊งค์ในวัดเหมือนกัน ความจริงเขาเต็มใจมาบวชเอง แล้วบังเอิญเป็นพวกสุดแสบทั้งนั้น ตั้งแต่นั้นมาพอมีเรื่องมีราวเขาก็เห็นอาตมาเป็นมาเฟีย คือมีหน้าที่ไปเคลียร์ให้เขา คือพอมาเป็นลูกศิษย์วัด เมื่ออาจารย์สั่งเขาก็ต้องเลิก รู้สึกประหลาด ๆ ดีเหมือนกัน

โดยเฉพาะ
ระยะนี้พวกนักการเมืองท้องถิ่น คนโน้นก็มา “อาจารย์ช่วยผมหน่อย” คนนี้ก็มา “อาจารย์ช่วยผมหน่อย” ก็เลยต้องโบ้ยไปว่า “โน่น...ไปบนหลวงปู่สายโน่น” อาตมาจะไปช่วยใครได้ ทั้ง ๒ ฝ่ายก็ลูกศิษย์วัด ต้องโยนให้เป็นหน้าที่ของหลวงปู่ ไปบนหลวงปู่เอาเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-04-2016 เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 18-04-2016, 22:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "หลวงพ่อเดิมท่านสูง ๒ เมตร กุฏิที่ท่านทำกว้างหนึ่งวา ท่านนอนหัวท้ายชนพอดี ใครจะนึกว่าหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ จะสูงขนาดนั้น แค่ยุคท่านกับเราก็ยังไม่ได้ต่างกันมาก ไปนึกถึงสมัยอยุธยา หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า ท่านยืนเทียบสูงแค่หน้าอกของเจ้าสามพระยาเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2016 เมื่อ 00:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 18-04-2016, 22:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พูดถึงหลวงพ่อเดิมก็ต้องนึกถึงหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล หลวงพ่อรุ่งเป็นลูกของป้า ก็คือแม่ของหลวงพ่อรุ่งเป็นพี่สาวของแม่หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อรุ่งบวชก่อน ๑๑ พรรษา ไปศึกษาวิชาก่อน ส่วนหลวงพ่อเดิมบวชทีหลังจึงไปศึกษาวิชาทีหลัง ช่วงที่ศึกษาวิชาจบมา ทดสอบทำวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังต่าง ๆ ก็ยังต้องเดินทางไปหาหลวงพ่อรุ่ง เพื่อขอความมั่นใจอยู่บ่อย ๆ แต่หลวงพ่อเดิมดังระเบิดทั่วฟ้าเมืองไทย ขณะที่หลวงพ่อรุ่งเป็นที่รู้จักกันเฉพาะในถิ่นเท่านั้น

แบบเดียวกับหลวงปู่กลีบสอนหลวงปู่ยิ้มมากับมือ พอบอกหลวงปู่กลีบไม่ค่อยมีใครรู้จักชื่อหรอก แต่ถ้าบอกชื่อหลวงปู่ยิ้มนี่ดังทั่วเมืองไทย เพราะว่าลูกศิษย์ของท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับหัวกระทิทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้ หลวงปู่ดี วัดเหนือ หลวงปู่สอน วัดทุ่งลาดหญ้า หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ฯลฯ ขึ้นอยู่กับบารมีที่ท่านสร้างมาว่าบริวารมากหรือน้อย ถ้าบริวารมาก คนไปหามาก ก็โด่งดังมาก จะว่าลูกศิษย์ล้ำหน้าอาจารย์ก็ใช่

เคยกราบเรียนถามหลวงพ่อวัดท่าซุงว่า หลวงพ่อกับหลวงปู่ปาน ใครดังกว่ากัน ? กรุณาเปรียบเทียบให้หน่อย หลวงพ่อท่านบอกหลวงปู่ปานดังกว่า หลวงปู่ปานจัดงานแต่ละที เรือแพจอดเต็มหน้าวัด เดินข้ามแม่น้ำได้เลย สมัยนั้นมีแค่พายเรือไปบอกข่าว สมัยของหลวงพ่อวัดท่าซุงมีทั้งวิทยุ มีทั้งโทรทัศน์ มีทั้งโทรศัพท์ "จัดงานทีคนของข้าประมาณ ๒ แสน ยังสู้หลวงพ่อปานไม่ได้นะ"

อาตมาตรองดูก็เห็นจริง สมัยหลวงปู่ปานหุงข้าวทีละ ๘ กระทะ หุงกันทั้งวันทั้งคืนไม่พอเลี้ยงคน อาตมาไปเจอมาที่วัดเขาตามะยะ ท่านไม่ได้หุง ๘ กระทะ แต่ท่านหุงทีหนึ่งเป็นถาดใหญ่ ๆ สูงประมาณคืบหนึ่ง แล้วเรียงเป็นชั้น ๑๐ ชั้น หุงพร้อมกันทีเดียว ๑๐ เตา ก็ ๑๐๐ ถาดใหญ่ ๆ ยังไม่ทันเลี้ยงคนเลย กับข้าวก็ทำทีละ ๑๐ กระทะใบบัว ยังไม่พอเลี้ยงคน ทั้ง ๆ ที่เป็นอาหารเจล้วน ๆ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2016 เมื่อ 01:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 18-04-2016, 22:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ลองมาเทียบค่าของเงินที่ญาติโยมทำบุญก็ต่างกันมหาศาล ยุคหลวงปู่ปานท่านบอกว่าโบสถ์สวย ๆ หลังหนึ่ง ๕,๐๐๐ บาท สมัยก๋วยเตี๋ยว ๒ ชาม ๕ สตางค์ ตีเสียว่าชามละ ๒๐ บาท ๔๐ บาทเท่ากับ ๕ สตางค์ แล้ว ๕,๐๐๐ บาท ปาเข้าไป ๔-๕ ล้านบาท เดี๋ยวนี้ก๋วยเตี๋ยว ๒๐ บาทมีให้กินไหม ? คงไม่มีแล้วกระมัง ?

อาตมาเพิ่งไปกินก๋วยเตี๋ยวชามละ ๓๐ บาท ขอแนะนำทุกคนให้ไปกิน ถ้าผ่านไปวัดพระพุทธบาทผาหนาม หลวงปู่ครูบาอภิชัยขาวปี เป็นก๋วยเตี๋ยวโบราณ ก๋วยเตี๋ยวชามใหญ่แค่ไหน ? รู้แค่ว่าตะเกียบพาดปากชามเกือบไม่ได้ ตะเกียบเกือบจะสั้นกว่าปากชาม แล้วเขาให้มาเต็มจริง ๆ ราคา ๓๐ บาท กินไปเถอะ...อร่อยด้วย อาตมาไปกินมา ๒ อย่างแล้ว ครั้งแรกกินก๋วยเตี๋ยวน้ำ ครั้งต่อมากินสุกี้ผัดแห้ง เดี๋ยวครั้งต่อไปจะดูว่ามีอะไรอีก แต่ละอย่างชามใหญ่พอกัน เดินเข้าไปแล้วร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ เขาเขียนว่าก๋วยเตี๋ยวหมูโบราณ ลูกสาวก็ขยันอย่าบอกใครเลย แม่เป็นคนทำ ลูกเป็นคนเสิร์ฟ ไม่รู้ว่าเปิดเทอมแล้วแม่ต้องทำเองทั้งหมดหรือเปล่า ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2016 เมื่อ 01:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 18-04-2016, 22:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พอมาพูดถึงเรื่องบริวารแล้วก็นึกถึงหลวงปู่สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดราชผาติการาม เปรียบกับหลวงพ่อวัดท่าซุง หลวงปู่ท่านเป็นสมเด็จพระราชาคณะ เป็นเปรียญธรรม ๙ ประโยค ตอนมรณภาพมีเจ้าภาพสวดศพเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น ส่วนหลวงพ่อวัดท่าซุง เป็นแค่เจ้าคุณชั้นราช ไม่ใช่เจ้าอาวาสพระอารามหลวงอย่างท่านด้วย เปรียญธรรมแค่ ๔ ประโยค ครั้นมรณภาพวันหนึ่งอย่างน้อย ๆ มีเจ้าภาพ ๒๐ รายสวดศพ ตลอด ๑๐๐ วันแทบจะเหยียบกันตาย

อาตมานี่ซาบซึ้งเลย สวดตั้งแต่ ๘ โมงครึ่งไปยันสองทุ่มครึ่ง แค่อภิธรรม ๗ บท ๑ จบ เขาบอกว่าสวดดี ๆ ๑๐ นาทีก็จบแล้ว ลองคิดดูว่า ๘ โมงครึ่งไปถึง ๒ ทุ่มครึ่ง รวมเวลาให้เขาขึ้นไปถวายปัจจัยไทยธรรม รับพรด้วย ตีเสียว่า ๒๐ นาที ชั่วโมงหนึ่ง ๓ ราย ๑๒ ชั่วโมง ประมาณ ๓๐ กว่าราย

จะว่าไปแล้วอาจจะเยอะเฉพาะเวรของอาตมาก็ได้ เพราะตอนนั้นอาตมานั่งหัวแล้วเอาพระใหม่ ๆ ต่อท้ายอีก ๓ รูป คนอื่นเขาฟอร์มทีมกันแน่นเลย ส่วนอาตมาไม่ง้อใคร ถือว่ากูสวดคนเดียวได้ ส่งพระใหม่มาก็รับเข้าทีมไป ปรากฏว่าพระใหม่รวยอู้ฟู่...กระเป๋าตุงไปตาม ๆ กัน บอกท่านว่า "คุณไม่ต้องทำอะไร คุณนึกถึงหลวงพ่อแล้วภาวนาคาถาเงินล้านเอาไว้อย่างเดียวก็พอ" เพราะอาตมาภาวนาเป็นปกติอยู่แล้ว ปรากฏว่าทำลายสถิติเขาอีกแล้ว ขึ้นสวดเมื่อไรวันหนึ่งก็ ๓๐ กว่าราย

รอบหนึ่งเขาให้ ๒๐๐ บาท วันหนึ่งประมาณ ๓๐ รอบ พอ ๓-๔ วันจะถึงรอบตัวเองครั้งหนึ่ง ๆ ก็คือเป็นเจ้าภาพรอบละ ๒,๐๐๐ บาท ถวายพระรูปละ ๒๐๐ บาท ๔ รูปก็ ๘๐๐ บาท อีก ๑,๒๐๐ บาทเข้าบัญชีวัด ตอนแรกเป็นการสวดฟรีอยู่หลายวัน พอประชุมเรื่องงาน
ทำบุญ ๗ วัน ก็เลยขอเอาไว้ เพราะว่าพระท่านเหนื่อยกันทุกรูป ต่อให้ไม่เหนื่อยสวดมนต์ ก็ต้องเหนื่อยในหน้าที่อื่น จึงขอให้พระมีรายได้บ้าง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2016 เมื่อ 01:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 18-04-2016, 22:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ตอนแรกพระผู้ใหญ่ท่านเห็นว่า เงินเข้าวัดควรที่จะลงกองกลางทั้งหมด อาตมาบอกว่าควรจะให้พระท่านได้บ้าง โดยเฉพาะพระใหม่ ๆ โดนใช้หัวทิ่มหัวตำเลย วัดใหญ่ขนาดนั้นมีพระแค่ ๓๐ กว่ารูป แล้วคนไปเป็นหมื่นเป็นแสนอยู่ทุกวัน เขาไปเคารพศพหลวงพ่อ

ตอนแรกหลวงตาวัชรชัยเสนอไปรูปละ ๕๐๐ บาทต่อรอบ ก็คือ ๒,๐๐๐ บาท แต่พวกเราบอกว่าจะเป็นภาระแก่ญาติโยมที่เป็นเจ้าภาพมากเกินไป เลยขอลดเหลือรูป ๒๐๐ บาทก็พอ ส่วนที่เหลือก็เข้ากองกลาง ตกลงกันได้ที่เป็นเจ้าภาพรายละ ๒,๐๐๐ บาท ซึ่งญาติโยมทุกคนเขาเต็มใจอยู่แล้ว เพราะว่าผ้าไตร ๔ ชุด ก็ตีเสียว่าไตรละ ๕๐๐ บาทก็ ๒,๐๐๐ บาทแล้ว ต่อให้ไม่คิดถึงเงินถวายพระก็คุ้มเกินค่าแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2016 เมื่อ 01:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 18-04-2016, 23:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สวดกี่วันคะ ?
ตอบ : ๑๐๐ วัน เจ้าภาพแน่นมาก ๑๐๐ วันถ้าได้สวดสัก ๒๐ วันก็รวยตายแล้ว วันหนึ่งประมาณ ๖,๐๐๐ บาท ๑๐ วันก็ ๖๐,๐๐๐ บาท ๑๐๐ วันก็แสนกว่า จบงานแต่ละคนมีเงินหมื่นเงินแสนอยู่ในกระเป๋า อาตมาเหลือแต่ตูด..! ถึงเวลาหลวงตาวัชรชัยที่ท่านเป็นแม่งานจัดดอกไม้ถวายพระ ท่านใจใหญ่มาก ไม่ยอมใช้ดอกไม้ปลอม ขอดอกไม้สดสั่งตรงจากเชียงใหม่เลย แล้วแดฟโฟดิล เจ้าประคุณเถอะ...ดอกผักบุ้งชัด ๆ..! โดนลมก็เหี่ยวแล้ว ต้องเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก เดี๋ยว ๆ หลวงตาก็มาสะกิด "เฮ้ย..เล็ก...มีเงินไหมวะ ? พี่หมดตัวแล้ว" อาตมาก็ควักให้ไปเรื่อย

สรุปว่าจัดงานเสร็จมี ๒ คนที่จนกรอบ คือหลวงตาวัชรชัยกับอาตมา ที่เหลือเขารวยกันทั้งนั้น น่าจะมีพี่ประทีปอีกคนกระมัง ? ที่ถึงเวลาฉุกเฉินหลวงตาก็ไปล้วงกระเป๋า เพราะท่านรู้ว่าสองคนนี้ไม่ค่อยเก็บเงิน มักจะทำบุญกันหมด ถึงเวลาก็มาเอา บางทีที่สวดมาได้ไม่พอ ก็ต้องควักโปะเข้าไปอีก ทหารตำรวจเดี๋ยวก็มา "หลวงพี่...ขอกระทิงแดง ๒ ลัง" "เออ...ไปลงบัญชีที่ร้านป้ากีไว้" ถึงเวลาไปจ่ายแต่ละทีนี่หน้ามืดเลย กระทิงแดง ๒ ลังมีกี่ขวด ? ตำรวจทหารทั้งวัดพอไหม ? เห็นใจเขาที่โบกรถทั้งกลางวันทั้งกลางคืน ไม่ให้ก็ไม่ได้ ครบ ๑๐๐ วันไปจ่ายนี่หน้ามืดเลย..!

สมัยหลวงพ่อท่านยังอยู่ หลวงพ่อยังมีเงินพิเศษให้เขา ของอาตมามีแค่บุหรี่กับกระทิงแดงเอง แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าจะไปขอกับใคร รู้สึกว่าคนไหนของ่ายเขาก็เอากับคนนั้น เดี๋ยว ๆ ก็มา "หลวงพี่...ขอกระทิงแดง ๒ ลัง" ไปขอหลวงพี่ทีปจนโดนด่า ก็เลยแวะมาทางนี้แทน หลวงพี่ทีปแกโวยวายเอะอะไปตามแบบ "จะแดกห่..กันไปถึงไหน เดี๋ยวก็ตายห่..กันหมดหรอก...!" แต่ท่านก็ให้นะ ด่าแล้วก็ให้ แต่คราวนี้อาตมาไม่ด่า เลยมาเอาจากทางนี้มากกว่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 19-04-2016 เมื่อ 11:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 18-04-2016, 23:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ไปนึกถึงงานเก่า ๆ แล้วขำ ๆ คืออยู่วัดท่าขนุน บรรดาเพื่อนสังฆาธิการทั้งอำเภอบอกว่า อาจารย์เล็กจัดงานแต่ละทีคนมากเหลือเกิน อาตมาบอกว่านี่แค่หยิบมือเดียวของวัดเก่าผม วัดท่าขนุนจัดงานทีคน ๔,๐๐๐ – ๕,๐๐๐ คน สมัยอยู่วัดเก่า อย่างไม่มี ๆ ก็แสนคนขึ้นไป

งานที่หนักมากในสายตาของคนอื่นกลายเป็นงานสบายของอาตมา เพราะเจอคนมาเยอะกว่านั้น วัดอื่นบอกว่าได้ ๒๐๐ – ๓๐๐ คนเขาก็ดีใจตายชักแล้ว ยิ่งงานใหญ่ ๆ อย่างสงกรานต์หรือตักบาตรเทโว เขามากันทั้งอำเภอ จนกระทั่งวัดทองผาภูมิ ต้องเรียกว่าวัดลูก เพราะหลวงปู่สายท่านสร้างไว้ แล้วให้หลวงตาอาบไปเป็นเจ้าอาวาส ต้องย้ายไปจัดงานตักบาตรเทโววันอื่น ไม่มีทางจัดวันแรม ๑ ค่ำเด็ดขาด เพราะถ้าชนกับวัดท่าขนุนแล้ว ก็ไม่มีใครไปวัดทองผาภูมิ

แต่อาตมาชอบใจทางฝั่งพม่ามากกว่า ฝั่งพม่าจัดตักบาตรเทโวได้ทั้งปี คือถ้าคุณยังไม่ได้จัด ปีนี้คุณเห็นว่าวันไหนเหมาะสมก็จัดเลย เขาก็จะไปสืบว่าตรงกับวัดไหนในบริเวณใกล้เคียงกันหรือเปล่า ? ตำบลนั้น อำเภอนี้มีไหม ? ถ้าไม่มีก็ลุยเลย ญาติโยมก็แห่ไปทำบุญ ฉะนั้น...อยู่พม่าดีตรงที่มีงานตักบาตรเทโวบ่อยมาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2016 เมื่อ 01:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 18-04-2016, 23:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"งานตักบาตรเทโวของพม่า มักจะมีงานชิงเปรต ประเภททาตัวดำ ๆ ไปปีนเสาน้ำมันเพื่อเอาสตางค์ข้างบน บางทีก็เป็นข้าวของเครื่องใช้ อาตมาเอาใบละ ๕๐๐ บาทไปเสียบไว้ข้างบน โอ๊ย...เขาแย่งกันปีนจะตาย เงินไทยใหญ่กว่าพม่าเยอะ ใคร ๆ ก็อยากได้ แล้วคนจัดก็แสบไส้เหลือเกิน เสาเป็นเสาไม้ไผ่ ด้านบนตัดครึ่งเป็นกระบอก เอาน้ำมันใส่ไว้ นอกจากทาเสาแล้ว เวลาปีนน้ำมันยังกระฉอกออกมาเป็นระยะ ๆ ลื่นจนปีนไม่ได้ กลั่นแกล้งกันเหลือเกิน

จนท้ายสุดอาตมาบอกว่า "ต่อตัวกันสิโว้ย...เขาไม่ได้ห้าม" เหยียบ ๆ กันขึ้นไปกี่คนได้แล้วก็เอาลงมาแบ่งกัน เห็นเขาปีนแล้วเหนื่อยแทน จนต้องสอนให้ พวกเอ็งนี่ซื่อเป็นบ้าเลย แต่อย่างว่า...ชาวบ้านเขาไม่ได้กะล่อนเหมือนอาตมา

แบบเดียวกับเด็กนักเรียน งวดนี้อาตมาจัดสอบชิงทุนการศึกษาสายวิทย์หนึ่งทุน สายศิลป์หนึ่งทุน ที่ ๒ ของสายวิทย์คะแนนท่วมของสายศิลป์เลยนะ แต่ให้สายศิลป์ไปแข่งกันแค่ ๔ คน แล้วไปมะรุมมะตุ้มแข่งกันที่ทุนสายวิทย์กัน อาตมาก็ปรารภไปตั้ง ๒ ครั้ง ๓ ครั้งแล้วว่า "ทำไมมึงโง่ขนาดนี้วะ ? มึงจะเรียนสายไหนก็เรื่องของมึง สมัครแข่งสายไหนก็ไปสิ ไปตบเด็กก็ได้ เราเก่งกว่าอยู่แล้ว เราไปสมัครสายศิลป์ ได้ทุนสายศิลป์
มา แล้วจะไปเรียนสายวิทย์ หลวงพ่อก็ไม่ได้ว่าสักหน่อย" แต่เขาซื่อ...แย่งกันลงสายวิทย์ก็ไปแข่งกับพวกเก่ง ๆ ด้วยกัน

อาตมาแหกคอกเก่งมาตั้งแต่เด็ก ไม่ค่อยสนใจหรอก ถ้าหากว่ากติกาไม่ได้ห้ามก็ไปเลย แต่ว่าเด็ก ๆ พวกนี้เขาซื่อ ต้องบอกว่าครูบาอาจารย์อบรมมาดี จะเอาทุนสายวิทย์ก็ตั้งหน้าตั้งตาไปแข่งกับสายวิทย์ แล้วจะไปสู้ใครไหว มีแต่เก่งกับเก่ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 19-04-2016 เมื่อ 11:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 19-04-2016, 12:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เขาบอกว่าจะทำขุนแผนทั่วประเทศ อาตมากลัวอยู่แค่ ๒ สำนัก สำนักแรกคือขุนแผนพลายกุมารของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ซึ่งท่านมรณภาพไปแล้ว อย่างไรก็สู้ของอาตมาไม่ได้ เพราะพระของท่านราคาแพงแล้ว องค์หนึ่งราคาเป็นแสน ๆ ส่วนอีกสำนักหนึ่งก็คือของวัดใหญ่ชัยมงคล ซึ่งก็ราคาแพงสาหัสพอกัน ส่วนที่เหลือนี่ไม่ได้กลัวหรอก เพราะอาตมานอกจากเป็นลูกหลานขุนแผนแล้วดันไปอยู่กาญจนบุรีอีกต่างหาก ทำแล้วท่านไม่ช่วยให้รู้ไป ผลิตออกมารับรองว่าชนได้ทุกสำนัก"

ถาม : ขุนแผนมหาเสน่ห์หรือคะ ?
ตอบ : ขุนแผนเกราะเพชร จะมหาเสน่ห์อะไรกันนักหนา ต้องเรื่องอื่นด้วยสิ มหาเสน่ห์ถือเป็นของแถม

ถาม : พระขุนแผนของหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง มีพิเศษไหมครับ ?
ตอบ : ของที่ไหน ๆ ก็เหมือนกัน แต่อาตมาไม่กลัว กลัวแค่ ๒ สำนักที่ว่ามา ซึ่งก็ไม่มีอะไรให้กลัวแล้ว เพราะของท่านขึ้นหิ้งไปเรียบร้อยแล้ว

ไปนึกถึงหลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง ท่านก็สร้างพระขุนแผนเหมือนกัน แต่พระขุนแผนของท่านดังสู้หลวงปู่ทิมไม่ได้ เพราะว่ามีส่วนผสมของผงพลายกุมารหลวงปู่ทิม เลยกลายเป็นว่าหลวงปู่ทิมต้นตำรับดังกว่า ทั้งที่ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์รุ่นเดียวกัน แต่หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง ดังเรื่องสีผึ้ง สีผึ้งนี่ท่านหวงสุด ๆ ขนาดลูกศิษย์ไปขอ ท่านควักให้อย่างเก่งก็แค่หัวไม้ขีด รับประกันว่าต้องการอะไรก็ได้ ให้รีบหามาใช้เลย

อาตมาจะพยายามตั้งราคาขุนแผนให้ต่ำสุดไว้ ขอดูค่าใช้จ่ายก่อน ถ้าค่าใช้จ่ายหารเฉลี่ยออกมาไม่โหดนัก อาจจะเหลือองค์ละ ๓,๐๐๐ – ๔,๐๐๐ บาท ยังโชคดีว่าตอนที่ทำราคาทองยังไม่ถึง ๒๐,๐๐๐ บาทดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2016 เมื่อ 20:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 19-04-2016, 12:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,667 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "จังหวัดปทุมธานีมีพระเกจิอาจารย์ดังระเบิดเยอะแยะไปหมด ถ้าเอาประเภทที่อาตมาใฝ่ฝันเลยก็ต้องหลวงพ่อเจ้าคุณสว่าง วัดเทียนถวาย ทำตะกรุดหนังหน้าผากเสือ ตะกรุดหนังหน้าผากเสือของท่าน ถ้าได้มาหนึ่งดอกสามารถลุยได้ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำเลย ทำเฉพาะปีที่มีเสาร์ ๕ เสือหนึ่งตัวทำได้ดอกเดียว ทำเสร็จแล้วเสกอีก ๓ พรรษา ถึงจะแจกลูกศิษย์

อีกท่านหนึ่งคือหลวงพ่อเทียน วัดโบสถ์ อาตมาอยากได้ตะกรุดของท่าน แต่หายากมาก ส่วนใหญ่จะเจอที่เป็นเหรียญ จะเป็นพระ ที่เหลือก็มีดังอีกหลายรูป แต่ส่วนใหญ่แล้วท่านเป็นพระเกจิอาจารย์สายมอญที่โดนกวาดต้อนมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จะเรียกกวาดต้อนก็ไม่ใช่หรอก ท่านตามพระมหาเถรคันฉ่องเข้ามา พระมหาเถรคันฉ่องเข้ามาก็เอาตำรับตำราคาถาอาคมต่าง ๆ เข้ามาด้วยเยอะแยะ

พระเกจิอาจารย์สายมอญสมัยก่อนดังมาก เพราะว่าศึกษาจนรู้จริง ตำราทำปรอทกรอ ตำราทำเบี้ยแก้ ตำราลบผงมหาราช ผงอิทธิเจ ผงตรีนิสิงเห ส่วนใหญ่สายนี้จะถนัด เวลาหลวงพ่อเทียน วัดโบสถ์ ลบผง ผงทะลุกระดานหมด ถึงเวลาต้องกางผ้ารองไว้ข้างล่าง เขียนในกระดานเสร็จลบพรืด ร่วงลงไปข้างล่าง ไม่ใช่ร่วงเฉย ๆ นะ ผงของท่านวิ่งอย่างกับฝูงมด ท่านก็ทำของท่านไปเรื่อย ใครอยากดูก็ไปนั่งดู ท่านไม่ได้ว่าอะไร ลบผงได้พอ ท่านก็สร้างพระ ฉะนั้น...พระของหลวงพ่อเทียน วัดโบสถ์ ที่เขาอยากได้กันจริง ๆ จะเป็นเนื้อผง แต่อาตมาเล็งตะกรุด จนป่านนี้ยังไม่ได้มาสักดอก

พระมหาเถรคันฉ่อง ตอนหลังก็คือสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ด้วยคุณูปการที่มีต่อประเทศไทย สมัยนั้นยังไม่ใช่ไทยหรอก พม่าเรียกโยเดีย อโยธยาอ่านเร็ว ๆ จะกลายเป็นโยเดีย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2016 เมื่อ 20:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:43



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว