กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 04-10-2013, 18:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,492
ได้ให้อนุโมทนา: 151,149
ได้รับอนุโมทนา 4,405,390 ครั้ง ใน 34,079 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เคยมีผู้รู้ท่านตั้งข้อสังเกตว่า อยากรู้ว่ามูลค่าเงินลดลงหรือเปล่าให้ดูที่เหรียญ ถ้าเหรียญเล็กลงไปเรื่อย มูลค่าเงินก็เล็กลงไปด้วย อย่างปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นเหรียญ ๑ เยน แทบจะไม่มีค่ามีราคาอะไรเลย แต่ต้องทำออกมา เพราะว่าอย่างเวลาเก็บค่าไฟฟ้าเขามีเศษสตางค์ ต้องทอนให้เขา แล้วเหรียญ ๑ เยน ไม่สามารถใช้โลหะทำได้ เพราะมูลค่าเกินราคา เขาเลยต้องใช้กระดาษพิมพ์ แล้วพ่นสีเงิน ๆ แทน

บ้านเราเหรียญสลึง เหรียญ ๕๐ สตางค์ ปัจจุบันนี้ไม่ค่อยจะรับแล้ว อาตมาเองรับมาเป็นถุง เข้าร้าน 7 Eleven ทีไรเขาขอแลกหมดทุกที ถ้าใครกลัวว่าจะใช้เหรียญสลึง เหรียญ ๕๐ สตางค์ไม่ได้ ให้ใช้ใน
ร้าน 7 Eleven เขาจะเก็บไว้ทอน พอเห็นถือไปเป็นถุงเขาแทบจะปล้นเลย ขอร้องเป็นการใหญ่ขอแลกด้วย อาตมาก็ทำเป็นเล่นตัวไม่ยอมให้แลก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-10-2013 เมื่อ 19:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 04-10-2013, 19:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,492
ได้ให้อนุโมทนา: 151,149
ได้รับอนุโมทนา 4,405,390 ครั้ง ใน 34,079 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยนี้ความเร่งรีบในการทำมาหากินอย่างหนึ่ง ทำให้มีการปฏิสัมพันธ์กับคนน้อยลง อย่างในกรุงเทพฯ บ้านจัดสรรรั้วบ้านติดกันแต่ไม่รู้จักกันหรอก สมัยก่อนพอเขาถามลูกใคร พอบอกชื่อพ่อชื่อแม่ เขาสาวไปยังปู่ย่าตาทวดได้เลย เขารู้จักกันทั้งหมู่บ้าน ทั้งตำบล

สมัยก่อนทำไมคนไม่มีนามสกุล ? เพราะเขารู้จักกันหมด ถึงเวลารัชกาลที่ ๖ ทรงตั้งนามสกุลขึ้นมา เขาก็ยังรู้จักกันอยู่ มาระยะหลัง ๆ ต้องบอกว่าการคมนาคมทำให้การเดินทางรวดเร็วขึ้น คล่องตัวขึ้น ทำให้คนโยกไปย้ายมา คนคุ้นเคยเก่า ๆ จึงหมดไป เลยทำให้ไม่รู้จักกันอย่างแต่ก่อน ที่ดินขายให้คนนั้น ขายให้คนนี้ เปลี่ยนมือไปเรื่อย ต้องโทษว่าเป็นความเจริญทำให้คนไม่รู้จักกัน เพราะเปลี่ยนหน้าไปเรื่อย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-10-2013 เมื่อ 20:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 06-10-2013, 11:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,492
ได้ให้อนุโมทนา: 151,149
ได้รับอนุโมทนา 4,405,390 ครั้ง ใน 34,079 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในเรื่องของที่ดิน ถ้ามีอยู่อย่าขายทิ้ง อย่างน้อยยังมีที่ปลูกบ้านหรือทำไร่ทำนา ปลูกอะไรทิ้งไว้นิด ๆ หน่อย ๆ แบบเดียวกับท่านผู้พิพากษาไปซื้อที่แถวกะเหรี่ยงบ้านกล้วย ๒๐๐ ไร่ แล้วลงมะนาวไว้ จ้างกะเหรี่ยง ๒ คนดูแลให้ กะว่าพอเกษียณแล้ว ๒ คนผัวเมียจะไปอยู่ที่นั่น พอปีที่ ๓ ลูกน้องโทรมา บอกเจ้านายว่า มีคนมาขอซื้อมะนาวลูกละ ๓ บาท เจ้านายบอกให้ขายไป พอไม่กี่วัน ลูกน้องหอบเงินมาให้ ๔๐๐,๐๐๐ บาท เจ้านายตกตะลึงตาค้าง..!

ปีนั้นมะนาวลูกละ ๘ บาท เขาไปขอซื้อถึงไร่แล้วเก็บเอง เขาให้ลูกละ ๓ บาท แล้วมะนาว ๒๐๐ ไร่มีกี่ต้น ? ต้นหนึ่งอย่างไม่มี ๆ ก็เป็นร้อยลูก แล้วนั่นเพิ่งปีที่ ๓ ต้นยังโตไม่เต็มที่ ยังออกลูกไม่เต็มที่เลย รวยตั้งแต่ก่อนเกษียณแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-10-2013 เมื่อ 20:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 06-10-2013, 11:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,492
ได้ให้อนุโมทนา: 151,149
ได้รับอนุโมทนา 4,405,390 ครั้ง ใน 34,079 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้วัดสระพังกำลังจะเลียนแบบวัดท่าขนุน พระอาจารย์วิโรจน์อุตส่าห์ขนเทียนไปให้ทางวัดท่าขนุนหนึ่งคันรถ แล้วบอกว่าจะทำของตัวเองบ้าง ขอยืมแบบไป แต่ของท่านทำช้า เพราะท่านจะเอาลวดร้อยข้างใน ซึ่งท่านไม่รู้ว่าทางเราร้อยมาก่อน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ พอเอาลวดร้อยข้างใน แทงไปไส้เทียนก็ย่นตามไป ไม่ค่อยจะทะลุ

ท่านตั้งใจจะทำถ้วยสเตนเลส เพราะมีลูกศิษย์ที่ทำโรงงานสเตนเลส จะให้ทำแบบมาเพื่องานนี้เลย อาตมาบอกว่าถ้าท่านสั่งทำได้ สั่งให้ผมด้วย ๑๐,๐๐๐ ถ้วย เพียงแต่ว่าต้องเอามาทดสอบก่อนว่า
เวลาโดนความร้อนมาก ๆ มีบิดมีเบี้ยวอะไรหรือเปล่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-10-2013 เมื่อ 01:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 06-10-2013, 12:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,492
ได้ให้อนุโมทนา: 151,149
ได้รับอนุโมทนา 4,405,390 ครั้ง ใน 34,079 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่เราอธิษฐานขอในตอนงานเป่ายันต์ เป็นอธิษฐานบารมีหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เป็นเหมือนกัน แต่ว่าคนที่จะใช้อธิษฐานบารมีนั้น ส่วนใหญ่ต้องเป็นอุปบารมีขั้นปลายแล้ว โอกาสที่จะไม่ทำอะไรเลยเป็นเรื่องยาก แสดงว่าอย่างน้อยต้องมีของเก่าตุนไว้เยอะ ขอแล้วมีสิทธิ์ได้เหมือนกัน ถ้ายังไม่ถึงอุปบารมีขั้นปลาย ยังอธิษฐานไม่เป็นหรอก

ถาม : เหมือนกับการไปอ้อนวอนขอกับพระเจ้าอย่างนี้ ?
ตอบ : ถ้าเราทำความดีในเรื่องศีล สมาธิ ปัญญาช่วย โอกาสสำเร็จก็มีมากเพราะต้นทุนเราสูง แต่ถ้าขออย่างเดียวแล้วต้นทุนเรามีน้อย โอกาสที่จะได้ก็มีน้อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-10-2013 เมื่อ 17:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 08-10-2013, 11:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,492
ได้ให้อนุโมทนา: 151,149
ได้รับอนุโมทนา 4,405,390 ครั้ง ใน 34,079 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าว่า "เมื่อครู่ที่ขึ้นไปพัก นอนภาวนาอิติปิ โส ฯ ๓ ห้องได้ ๑๐ จบ กับคาถาชินบัญชร อีก ๕ จบ ถ้าเป็นสมัยก่อนก็ต้องทวนทุกวัน คาถาแต่ละบท ๆ ทวนจนกำลังใจทรงตัวก่อน แล้วจึงย้ายบทใหม่ มาระยะหลังนี้เริ่มทิ้ง ใช้แค่ไม่กี่บท ส่วนใหญ่ก็เอาอิติปิ โส ฯ ๓ ห้องเป็นหลัก หรือถ้าตอนบิณฑบาตก็ภาวนาคาถาชินบัญชร..ยาวดี จะได้รู้ว่าพลาดหรือเปล่า ? เพราะว่าตอนบิณฑบาตต้องหยุดให้พรโยมเป็นระยะ ๆ เพราะฉะนั้น..ต้องท่องบทยาว ๆ จะได้รู้ว่าเราผิดพลาดหรือไม่"

ถาม : เวลาท่องใช้สมาธิระดับไหน ?
ตอบ :สมาธิสูงเท่าไรก็เอาแค่นั้น รักษาสมาธิเอาไว้สักครู่จนมั่นใจ แล้วค่อยเปลี่ยนบทใหม่

ถาม : ถ้ามีหลายคาถา ?
ตอบ : โอ๊ย...สมัยก่อนอาตมาภาวนาคาถาเป็นร้อยบท กว่าจะภาวนาครบก็หมดวันพอดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2013 เมื่อ 18:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 08-10-2013, 11:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,492
ได้ให้อนุโมทนา: 151,149
ได้รับอนุโมทนา 4,405,390 ครั้ง ใน 34,079 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเข้าใจหลอก ท่านว่า “ไอ้หนู..คาถาบทนี้ดีอย่างนี้ ลูกลองเอาไปทำดู ภาวนาอย่างต่ำครึ่งชั่วโมงนะ อย่าลืม..ต้องรักษาศีล ๕ ด้วยถึงจะได้ผลเร็ว” เรียบร้อย..กว่าจะรู้เรื่อง ก็โดนท่านหลอกให้ภาวนาจนชินแล้ว

เรื่องของคาถาอาคม ส่วนใหญ่แล้วเขาเชื่อว่าเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ เราจะเรียกว่าไสยศาสตร์ก็ได้ แต่ครูบาอาจารย์ท่านปรับมาจนเข้ากับกรรมฐาน ก็เลยกลายเป็นพุทธศาสตร์ไป โดยเฉพาะเรื่องของไสยศาสตร์นั้น บางทีอาตมาไปดูแล้วก็ขำ ๆ คาถาส่วนใหญ่เป็นหัวใจพระธรรมทั้งนั้นเลย แต่เขาเอาไปทำเสน่ห์บ้าง อะไรบ้างยุ่งไปหมด แสดงว่าคาถาเป็นเพียงเครื่องโยงใจให้เป็นสมาธิ พอเป็นสมาธิแล้ว พวกเราตั้งใจให้เป็นอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้น เรื่องของคาถาจึงไม่มีความจำเป็น จะใช้ บทอะไรก็ได้

หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม ตอนเด็ก ๆ พ่อพาไปทิ้งไว้ที่ศาลา พ่อขึ้นไปคุยกับหลวงพ่อที่วัด คุยเพลินจนค่ำ ท่านเป็นเด็กอยู่คนเดียวในศาลาก็กลัวผี จึงคิดในใจว่า "กลัวแล้ว ไม่เอาแล้ว กลัวแล้ว ไม่เอาแล้ว กลัวแล้ว ไม่เอาแล้ว" ไปเรื่อย ๆ ใจเป็นสมาธิ กายในหลุดออกไปเฉยเลย ก็เลยสงสัยว่า “วัดยังไม่มืดนี่” ก็เลยหายกลัวผี แต่ความจริงที่ไม่มืดคือกายในเห็น จริง ๆ กลางคืนมืดตื๋อไปตั้งนานแล้ว

สรุปได้ว่า “กลัวแล้ว ไม่เอาแล้ว” ก็สามารถถอดจิตได้เหมือนกัน คาถาก็เลยกลายเป็นเครื่องโยงใจให้เป็นสมาธิเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2013 เมื่อ 19:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 08-10-2013, 11:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,492
ได้ให้อนุโมทนา: 151,149
ได้รับอนุโมทนา 4,405,390 ครั้ง ใน 34,079 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนขึ้นไปบ้านกะเหรี่ยง ชวนโยมว่านั่งช้างเข้าไปกันไหม ? เขาบอกว่าไม่เอา นั่งช้างเข้าไปครึ่งวัน นั่งออกมาอีกครึ่งวัน โดนเขย่าตายพอดี ครั้งนั้นเกือบจะโดนตำรวจจับที่ด่านยะอุ เพราะว่าครูแดง (นนลณีย์) ไปด้วย พอดีว่าฝนตก ครูแดงก็เอาเสื้อกันฝนใส่คลุมตัว เห็นแต่หน้า แล้วก็นอนหลับอยู่ที่กระบะท้าย ปรากฏว่าผ่านด่านตำรวจ ส่องไฟแล้วครูแดงไม่ตื่น ส่องอย่างไรก็ไม่ตื่น เรียกอย่างไรก็ไม่ตื่น แล้วหน้าครูแดงขาวมาก ซีดเหมือนกับคนตายเลย ท้ายสุดตำรวจต้องเรียกทั้งพระทั้งโยมลงไป ถามว่าตายแล้วหรือยัง ? กว่าจะทุบเรียกขึ้นมาได้ คนเรานอนได้เหมือนตายขนาดนั้นเลยหรือ ? ฝนก็แปะ ๆ ไปตลอดทาง กลางคืนอย่างนั้นหลับเป็นตายขนาดนั้น คนหามไปทิ้งถังขยะยังไม่รู้ตัวเลย"

ถาม : หลับสนิทแบบนั้น ถ้าตายตอนนั้นจะไปไหนครับ ?
ตอบ : ก็ดูว่าก่อนหลับเขาคิดถึงอะไร ถ้าใจเกาะอะไรก็ไปแถวนั้นแหละ

เจออยู่ไม่กี่คน ถ้าที่วัดก็พระครูน้อย พระครูน้อยอดเพลเป็นประจำ เพราะตะโกนเรียกเท่าไรไม่ได้ยินหรอก ต้องไปทุบประตูหรือหน้าต่าง แปลกดีที่คนเราหลับลึกได้ขนาดนั้น ส่วนอาตมาแค่หมาเดินก็ตื่นแล้ว ตึกแดง ๒ ข้างเอากรวดไปโรยไว้ หมาเดินก็จะมีเสียง..แซ็ก ๆ..แซ็ก ๆ


ถาม : ถ้าคนเข้าสมาธิลึก ๆ จนเหมือนกับคนตาย มดไม่กินหรือครับ ?
ตอบ :ถ้ายังมีไออุ่นอยู่ มดยังไม่กิน แต่คราวนี้ว่าพวกปฏิบัติธรรมบางทีเชื่อไม่ได้ ถ้าไม่ใช่สมาธิคุ้มอยู่ก็เสร็จหมด เพราะว่าถอดจิตออกไปแล้วร่างกายเหมือนคนตาย ปู่โทน หลำแพร ล่าสุดได้ยินว่าอายุ ๑๑๔ ปี ตอนที่ไปหาท่าน ท่านบอกว่าหลวงปู่โลกอุดรให้ยาไว้อีกตัวหนึ่ง กินแล้วจะอยู่ต่อได้อีก แต่ว่ายังไม่กล้ากิน ถามว่าทำไม ? เขาบอกว่า สลบเหมือนตายไป ๗ วัน ต้องหาคนที่ไว้ใจได้มาเฝ้า ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวโดนมดเจาะตากินหมด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2013 เมื่อ 19:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 08-10-2013, 11:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,492
ได้ให้อนุโมทนา: 151,149
ได้รับอนุโมทนา 4,405,390 ครั้ง ใน 34,079 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "คำว่า “โม้” เป็นภาษาไทยโบราณ แปลว่าใหญ่ แบบเดียวกับ ย่าโม ถ้าออกเสียงตามภาษาเก่าจริง ๆ ต้องเป็น ย่าโม้ แปลว่าคุณย่าผู้เป็นใหญ่"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2013 เมื่อ 19:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 08-10-2013, 11:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,492
ได้ให้อนุโมทนา: 151,149
ได้รับอนุโมทนา 4,405,390 ครั้ง ใน 34,079 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "พวกกะเหรี่ยงมีคำทำนายที่ต่อเนื่องกันมาเป็นร้อยปีว่า “ถ้าม้ามีเขา เสามีดอก และงูใหญ่เลี้อยมาถึงหมู่บ้านเมื่อไร เผ่าพันธุ์กะเหรี่ยงโดนกินหมด”

ม้ามีเขาคือม้าญี่ปุ่น มอเตอร์ไซค์ฮอนด้ารุ่นแรก ๆ เหมือนม้ามีเขาจริง ๆ พวกม้ามีเขานี่ขึ้นดอยเป็นพวกแรก ๆ เลย เสามีดอกก็คือเสาไฟฟ้า ถึงเวลากลางคืนก็บาน สว่างโร่ แสดงว่าพวกบรรดาหมอผีของเขาก็มีทิพจักขุญาณที่เห็นอนาคตเหมือนกัน แต่คราวนี้เขาเรียกไม่ถูกว่านั่นคืออะไร แบบเดียวกับที่นอสตราดามุสบอกว่า เขาเอาอาวุธไฟไปไว้ในท้องปลา สมัยนี้ถึงรู้ว่าเป็นเรือดำน้ำ

งูใหญ่มาถึงหมู่บ้านเมื่อไรก็โดนกินหมด งูใหญ่ก็คือถนน ตามจริงการเปลี่ยนแปลงก็เป็นไปตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้าที่ว่าทุกอย่างไม่เที่ยง แต่นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ถึงขนาดเปลี่ยนวิถีชีวิตของเผ่าพันธุ์ไปเลย รู้สึกว่าอเนจอนาถ จากบุคคลที่พออยู่พอกิน สันโดษ ก็ต้องกลายเป็นแข่งขันกัน คนนั้นมี คนนี้มี เราก็ต้องมีบ้าง จากที่ทำแค่พออยู่พอกิน ก็ต้องทำลักษณะเชิงพาณิชย์ ก็ต้องไปตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้ผลิตผลมากขึ้น

อาตมาขึ้นดอยไปเจอเด็กไฮไลท์ผม ๗ – ๘ สีก็มี อะไรที่ข้างล่างมี บนดอยมีหมด

ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ต้องเกิดอยู่แล้ว แต่รู้สึกว่าเปลี่ยนเร็วเกินไป ฝรั่งเขาบอกว่าบางทีมีคนที่ป่วยเป็นโรค Future Shock คือรับการเปลี่ยนแปลงที่เร็วเกินไปของอนาคตเขาไม่ไหว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2013 เมื่อ 19:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 08-10-2013, 11:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,492
ได้ให้อนุโมทนา: 151,149
ได้รับอนุโมทนา 4,405,390 ครั้ง ใน 34,079 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ความเชื่ออย่างหนึ่งที่เป็นสากล และชาวเขาแก้ไม่ตกก็คือ ความกลัวผี ทันสมัยใหม่เสมอขนาดไหนก็กลัวผี พวกกะเหรี่ยงพอมืดลงก็ไม่ต้องชวนเลย เขาไม่ออกจากบ้าน พอเห็นอาตมาเดินทางตอนกลางคืนก็สงสัยว่าไม่กลัวผีหรือ ? อาตมาบอกว่ากลัวงูมากกว่า

ความกลัวเกิดจากความไม่รู้ เป็นภาษาพระเรียกว่า อวิชชา ในเมื่อไม่รู้ก็กลัว พอรู้แล้วก็หายกลัว (หรือว่ากลัวยิ่งขึ้น ?) ส่วนใหญ่รู้แล้วจะหายกลัว ถ้ารู้ความจริงว่าผีน่าสงสาร ก็เปลี่ยนจากกลัวมาเป็นสงสารผีแทน เขาลำบาก ถึงเวลาทำได้สวยที่สุดแค่ที่เราวิ่งหนี..!

มีคนสงสัยว่าผีทำไมต้องมีผ้าขาวมาคลุมด้วย แสดงว่าปรากฏตัวไม่ชัด ก็เลยอาศัยผ้าเป็นรูปแทน

ถาม : ถ้าผีมาลักษณะเหมือนคน จะรู้ได้อย่างไรว่านั่นเป็นผี ?
ตอบ : ถ้าตั้งใจเพ่งมองจะมองทะลุ ไม่อย่างนั้นจะคิดว่าเป็นคน

เวลาผีจะปรากฏตัว ต้องใช้กำลังดึงเอาดิน น้ำ ลม ไฟ ไปรวมกันให้เกิดร่างหยาบขึ้น คราวนี้ไฟฟ้าของเรากระพริบด้วยความเร็วประมาณ ๕๐ รอบต่อวินาที แรงที่กระพริบเป็นคลื่น จะกระแทกจนกระทั่งพวกโมเลกุลโดนดึงมารวมกันไม่ได้ เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าเป็นผีที่ฝีมือต่ำ ๆ หน่อย จะปรากฏตัวไม่ได้เลย ใครนะที่เป็นต้นคิดว่า ถ้าเปิดไฟแล้วผีจะไม่หลอก ? รู้ได้อย่างไร ? แสดงว่าเขาเคยเปิดแล้วผีกระจายหายไปเลย แต่ว่ากันได้เฉพาะผีที่ฝีมือต่ำ ๆ นะ ถ้าพวกฝีมือสูง ๆ ก็เสร็จเขาอยู่ดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2013 เมื่อ 19:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 08-10-2013, 11:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,492
ได้ให้อนุโมทนา: 151,149
ได้รับอนุโมทนา 4,405,390 ครั้ง ใน 34,079 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าตั้งศาลพระภูมิในช่วงเข้าพรรษา ควรใช้เดือนไหน ?
ตอบ : ปกติแล้วเขาไม่นิยมทำในพรรษา ให้ทำนอกพรรษา หาวันพฤหัสบดี ข้างขึ้น เดือนคู่ ก็คือ เดือน ๑๒ เดือนยี่ เดือน ๔ เดือน ๖ เดือน ๘ ข้างขึ้น ในพรรษาหมอเขาไม่รับตั้งให้ ฉะนั้น..บอกพระภูมิท่านว่าใจเย็น ๆ อีกพักเดียว เดือน ๑๒ แล้วจะตั้งให้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2013 เมื่อ 19:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 08-10-2013, 11:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,492
ได้ให้อนุโมทนา: 151,149
ได้รับอนุโมทนา 4,405,390 ครั้ง ใน 34,079 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เก็บตกเดือนกันยายนปี ๕๖ หมดแล้วค่ะ

ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี รัตนาวุธ และคะน้าอ่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
นนท

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:24



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว