กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 20-12-2012, 21:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ท่านนายกฯ ทักษิณเป็นคนคำนึงถึงเป้าหมายโดยไม่เอาขั้นตอน ก็เลยทำให้การทำงานมีข้อตำหนิทางกฎหมายมาก แต่ถ้าใครคำนึงถึงขั้นตอน ก็จะทำให้ไปไม่ถึงเป้าหมาย เพราะมัวแต่ต้องรายงานตามลำดับชั้น กว่าจะพิจารณาเสร็จ ชาวบ้านอดตายไปแล้ว ถ้าคุณทักษิณลดความเร็วลงสักครึ่งหนึ่ง ยังสามารถพาประเทศชาติให้เจริญได้มากกว่านี้

ที่เห็นกับตาเลย ก็คือ ชาวบ้านห้วยกระเจากับเลาขวัญมาร้องเรียน พอไปถึงคุณทักษิณชี้ให้ชาวบ้านออกไปเลย เขามีไมโครโฟนวางเป็นจุด ๆ อยู่ทั่วศาลาวัด คุณทักษิณใช้วัดเป็นที่รวมชาวบ้าน ใครมีเรื่องอะไรจะร้องเรียนหรือขอความช่วยเหลือให้พูดออกมาเลย ถ้าพูดไม่ได้ให้เขียนจดหมายน้อยมา ท่านรับรองว่าจะอ่านทุกชิ้น

ปรากฏว่าชาวบ้านจากห้วยกระเจากับเลาขวัญมาขอร้องท่านนายกฯ ทักษิณว่า ให้ช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งหน่อย ท่านนายกฯ ทักษิณถามว่าแล้งอย่างไร ? มีแหล่งน้ำไหม ? ชาวบ้านบอกว่าเขามีแหล่งน้ำคือลำตะเพินแห่งเดียว แต่ลำตะเพินพอน้ำไหลไปแล้วไหลไปเลย เพราะไม่มีฝายไม่มีเขื่อน พอถึงหน้าแล้งจะไม่มีน้ำเหลืออยู่ ชาวบ้านเขาทำโครงการมาเรียบร้อย ว่าจะต้องสร้างฝายขนาดใหญ่กั้นลำตะเพินเป็นช่วง ๆ ถ้าสามารถกั้นชะลอน้ำได้สัก ๓ - ๔ ช่วง ก็จะทำให้มีน้ำเหลืออยู่ ฤดูแล้งก็สามารถที่จะทำนาทำไร่ได้ จะแก้ปัญหาภัยแล้งได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2012 เมื่อ 17:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 20-12-2012, 21:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"คุณทักษิณบอกให้ลองประเมินงบประมาณมา เขาบอกว่า ๔๐๐ ล้านบาท ชาวบ้านนี่สุดยอดเลย เขาเตรียมโครงการ ประเมินงบประมาณมาเสร็จสรรพ ท่านนายกฯ ทักษิณหันไปถาม ผอ. สำนักงบประมาณ “ผอ. มีไหม ๔๐๐ ล้าน ?” “หมดแล้วครับ เมื่อครู่เทลงสุพรรณฯ ไปแล้ว” คุณทักษิณถามว่า “งบประมาณของหน่วยงานอื่น ที่เขาขอเบิกแล้วยังไม่ได้เบิก มีพอ ๔๐๐ ล้านไหม ?” “มีครับ” “เอามาให้เขาก่อน เดี๋ยวผมหาคืนให้” จบแค่นั้นเลย..!

จากนั้นลาก ผอ. กรมชลประทาน กับ ผอ. สำนักงบประมาณไปคุยกับชาวบ้านเลย ทำอย่างนั้น ขั้นตอนอะไรไม่มีเลย กระโดดข้ามข้ามขั้นตอนไปเลย แต่งานได้ทันใจ เพราะอย่างนี้ที่ทำให้ชาวบ้านเขารักท่านนายกฯ ทักษิณมาก เพราะว่าทำงานเร็ว แก้ปัญหาได้ทันใจ ช่วงที่ท่านเป็นนายกฯ อยู่ ๔ ปีกว่า ท่านไปทั่วประเทศจริง ๆ ไปอย่างที่ว่านี่แหละ ไปที่นั่นที่นี่บ้าง ไปครั้งหนึ่ง ๓ - ๔ จังหวัด ไปกันยันค่ำมืดดึกดื่น

จะว่าไปก็เป็นเรื่องแปลกดีเหมือนกัน บรรดานายกรัฐมนตรี อย่างคุณบรรหาร บ้านใกล้เรือนเคียงอยู่แค่สุพรรณบุรีแท้ ๆ อาตมาได้เจอแค่ ๒ ครั้ง ท่านอื่น ๆ ได้เจอท่านละหนึ่งครั้ง แต่ท่านนายกฯ ทักษิณอยู่ประมาณ ๕ ปี ได้เจอตั้ง ๔ ครั้ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2012 เมื่อ 17:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 20-12-2012, 21:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ช่วงที่จะต่อไฟฟ้าขึ้นวัดพุทธบริษัท ระยะทางห่างจากถนนใหญ่ประมาณ ๘๐๐ เมตร การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทองผาภูมิประเมินราคามาว่า จะต้องปักเสา ลากสาย และลงหม้อแปลง น่าจะต้องใช้งบประมาณถึง ๓ ล้านบาท อาตมาบอกไปว่าถ้า ๓ ล้านบาท อาตมายอมซื้อเครื่องปั่นไฟดีกว่า เพราะเครื่องปั่นไฟที่เป็นเบนซินอย่างเก่งก็เครื่องละ ๓๐,๐๐๐ บาท แถมเป็นเครื่องสูบน้ำได้ด้วย ก็เลยเงียบ ๆ ไป

ปรากฏว่าประมาณปลาย ๆ ปี ๒๕๔๘ ผอ.การไฟฟ้าฯ วิ่งมา บอกว่าช่วยเซ็นอนุมัติให้ปักเสาเข้าไปที่วัดด้วย อาตมาบอกว่าไม่มีเงินทำ ท่านก็บอกว่า "ไม่ต้องใช้เงินครับ ตอนนี้ทางการไฟฟ้าฯ ทำให้ฟรี เพราะท่านนายกฯ ทักษิณมีคำสั่งว่า ก่อนสิ้นปี ๒๕๔๘ ทุกบ้านที่มีทะเบียนบ้านจะต้องมีไฟฟ้าใช้ ไม่อย่างนั้นผอ.การไฟฟ้าฯ โดนเฉ่ง..!" สรุปแล้วถึงเวลาอาตมาเสียค่าต่อไฟเข้าวัด ๓๐๐ บาท จบเลย...๓ ล้านบาทเหลือแค่ ๓๐๐ บาท
..!

ทำงานอย่างนี้จะไม่ให้ชาวบ้านคิดถึงคุณทักษิณได้อย่างไร เพราะฉะนั้น..รัฐบาลไหน ๆ ก็ทำได้ แต่ทำแล้วให้ประโยชน์ตกถึงชาวบ้าน
คุณจะเป็นฝ่ายค้านขึ้นมาเป็นรัฐบาล หรือเป็นรัฐบาลลงไปเป็นฝ่ายค้านก็แล้วแต่ ถึงเวลาทำแล้วให้ประโยชน์ตกถึงชาวบ้าน ชาวบ้านเขาก็รักทั้งนั้นแหละ

ถ้าชาวบ้านเขารักเมื่อไร แสดงว่าคุณมีเกราะป้องกันชั้นดี เดี๋ยวนี้ชาวบ้านเขาติดจานดาวเทียมกันเกือบทุกบ้านแล้ว ไม่ใช่อยู่บ้านนอกคอกนาสุดกู่ปลายตะโกน ไม่รู้เรื่องอะไรเสียเมื่อไร โดยเฉพาะเดี๋ยวนี้เขาตื่นตัวทางการเมืองกันมาก มีการจับกลุ่มกันเป็นทีม อย่างที่ทองผาภูมิก็มีทีมพัฒนาท่าขนุน เขาเรียกทีมชุมชนพัฒนา ทีมรักษ์ท่าขนุน ทีมชุมชนแควน้อย ทีมชุมชนวังท่าขนุน เขาจะแบ่งออกเป็น ๔ - ๕ ชุมชน ต่างคนต่างมีหัวหน้าชุมชนบริหารกันเอง ดูว่าชุมชนของใครจะเจริญกว่า เขาแข่งกันอย่างนี้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2012 เมื่อ 17:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 20-12-2012, 22:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สงเคราะห์เรื่องงาน ?
ตอบ : สงเคราะห์อย่างไร ? ถ้าไม่เอางานให้บอกได้ มาบอกให้อาตมาช่วยสงเคราะห์หน่อย ไม่ได้บอกว่าให้ทำอย่างไรนี่ ?
เอาอย่างนี้ ให้ไปบนพระวิสุทธิเทพว่า ถ้าได้งานแล้วจะเจริญกรรมฐาน พร้อมรักษาศีล ๘ ทั้งหมด ๗ วัน


ถาม : บนแล้วกลัวไม่ได้ ?
ตอบ : ถ้าอย่างนั้นก็จงกลัวต่อไป

ถาม : ถ้าไปขัดส้วม ?
ตอบ : ไปวัดท่าซุงก็ได้ ไปขัดส้วมที่นั่น ที่ให้ไปวัดท่าซุงเพราะส้วมมี ๓,๐๐๐ กว่าห้อง ดูว่าจะขัดไหวไหม ? ต่อไปต้องทิ้งให้พวกตกงานขัดโดยเฉพาะ ทิ้งไว้นาน ๆ ไม่ทำความสะอาดสักหนึ่งเดือน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2012 เมื่อ 02:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 20-12-2012, 22:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จะตำหนิโยมก็ไม่ได้ เพราะเป็นปกติของปุถุชนทั่ว ๆ ไป ถ้าเรายังไม่เคยประสบกับคุณพระรัตนตรัยที่แท้จริง ความเชื่อมั่น ความเลื่อมใสจริง ๆ ก็ยังไม่เกิด ฉะนั้น..ที่พระท่านออกธุดงค์ก็เพื่อความเลื่อมใสในคุณพระรัตนตรัยนี่แหละ เมื่อพระธุดงค์ออกป่า ที่พึ่งอะไรก็ไม่มี เหลืออย่างเดียวคือพึ่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ร้าย ไม่ว่าจะเป็นภูตผีปิศาจอะไรก็ตาม ไม่สามารถที่จะสู้คุณพระรัตนตรัยได้ กี่ครั้ง ๆ ก็สู้คุณพระรัตนตรัยไม่ได้ ก็จะทำให้ความเชื่อมั่น ความเลื่อมใส มีขึ้นไปตามลำดับ

ถ้าถึงขนาดแน่นแฟ้นไม่คลอนแคลนเมื่อไร ถึงเวลาก็จะมั่นใจว่าคุณพระศรีรัตนตรัยมีจริง สามารถช่วยเหลือเราได้จริง ก็จะยึดมั่นชนิดไม่เปลี่ยนแปรไปไหน นั่นก็คือเกิดความเคารพในคุณพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2012 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 20-12-2012, 22:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หมอผี....(ไม่ได้ยิน) ?
ตอบ : ไม่มีอะไรหรอก พวกนี้ถ้าเขาทำพระตายได้ เขาถือว่าเป็นประกาศนียบัตรของเขา ค่านิยมของเขาเป็นอย่างนั้น บางรายนิสัยอันธพาลชัด ๆ เลย

แบบเดียวกับ "ไดซะเหงี่ย" หมอผีบ้านตีนตก เดินเหล่มาแต่ไกล จนอาตมาตวาดว่า “เป็นอย่างไร ? จำพ่อมึงไม่ได้หรือ ?” เขาสะดุ้งเฮือก “อาจารย์เองหรือครับ ?” “เออ..กูเอง” ไม่ได้ยินเสียงทำเป็นจำอาตมาไม่ได้ เขาเป็นหมอผี ทำคนอื่นไว้เยอะ โดนเขาเล่นกลับ เมียโดนของ ตัวเองแก้ไม่ตก ท้ายสุดต้องมาขอให้อาตมาช่วย พอช่วยรักษาเมียแกหาย แกจำแค่ตรงนั้นแหละ พอไปเจอกันที่อีกหมู่บ้านหนึ่งแกไม่จำแล้ว ปีต่อไปเจอกันอีกหมู่บ้านหนึ่ง ตรงเข้ามาจะเฉ่งอาตมาอีก สันดานอย่างนี้น่าจะปล่อยให้โดนเสียเอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2012 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 225 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 20-12-2012, 22:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้คนทองผาภูมิตายติด ๆ กัน ตั้งแต่เดือนที่แล้วถึงเดือนนี้ ๖ ศพเฉพาะฆราวาส พระมรณภาพไปอีก ๓ รูป รวมแล้ว ๙ ศพ ตอนนี้ศพยังคาวัดท่าขนุนอยู่เลย

คนเราเวลาตกน้ำแล้วมักจะรีบเปิดรถตะกายหนี ตอนเปิดรถน้ำจะทะลักเข้าไป แล้วจะดันเราออกไม่ได้ เวลารถตกน้ำต้องตั้งสติให้ดี ๆ ดูว่าด้านไหนที่ไม่จม แล้วเปิดกระจกมุดออกมาด้านนั้น อย่าไปเปิดประตูพรวดเดียว ถ้าทำอย่างนั้นน้ำจะทะลักดันเข้า เราจะออกไม่ได้ แล้วรถจะจมเร็วมาก เพราะว่าอากาศหมด แต่ถ้าเราไม่รีบเปิดประตู รถจะลอยอยู่ได้ระยะหนึ่ง

น่าจะปี ๒๕๒๖ เขาสร้างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาตรงอุทัยธานี รถทุกคันก็เลยต้องผ่านหน้าวัดท่าซุงแทน ไม่รู้รถทัวร์ลงแพท่าไหน วิ่งเลยแพแล้วตกน้ำไปเลย ด้วยความที่คนตกใจนั่นแหละ ทุบกระจกจะตะกายออก น้ำก็ทะลักเข้าไป ตัวเองก็ตะกายไม่ออก รถก็จม สรุปว่างานนั้นเจอไป ๑๙ ศพ..!

มีโยมอยู่ครอบครัวหนึ่งรถเต็มบ้านเลย รถเก่า ๆ หมดสภาพแล้ว แต่เขาตัดใจขายไม่ได้ คันนั้นก็ใช้มา ๕ ปี คันนี้ก็ใช้มา ๘ ปี รักรถ
สรุปแล้วต้องเสียเงินต่อทะเบียนทุกปี รถไม่ได้ใช้เลย ต้องเสียเงินต่อทะเบียนปีละเป็นแสน ขนาดรถเก่า ๆ ยังตัดใจไม่ได้ แล้วจะตัดร่างกายได้ไหมนั่น ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2012 เมื่อ 17:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 20-12-2012, 22:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมไปทำสปาที่ต่างประเทศ
ตอบ : ได้ใบอนุญาตหรือยัง ? ทำให้เรียบร้อยนะ ไปถึงใช้วิธีไหว้เจ้าที่แบบของเรา ตั้งใจขอให้ท่านช่วยสงเคราะห์ให้งานการเจริญรุ่งเรือง แล้วเราจะทำบุญให้เขาไปเรื่อย ๆ

ถาม : ตั้งศาลพระภูมิ ?
ตอบ : ไม่ต้อง...เพราะบ้านเขาไม่นิยม ถ้าเราไปทำจะกลายเป็นแปลก ศาลพระภูมิฝรั่งเรียกว่า Spirit House (บ้านผี)

ถาม : เวลาบวงสรวงใช้เวลาไทยหรือเวลาบ้านเขา ?
ตอบ : ใช้เวลาบ้านเขา อย่าใช้เวลาไทยเป็นอันขาด อยู่บ้านไหนให้ใช้เวลาบ้านนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2012 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 20-12-2012, 22:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเกิดสงคราม ประเทศเยอรมันจะอยู่ได้ไหม คิดว่าจะไปเปิดสปาที่นั่น ?
ตอบ : จะไปกลัวอะไร ถ้าเกิดสงครามขึ้นมา ประเทศที่ปลอดภัยที่สุดน่าจะเป็นที่นั่นแหละ

ถ้าพวกเราติดตามข่าวสงครามอิรัก-คูเวต หรือไม่ก็เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธแล้วไม่สำเร็จสักที ขอให้รู้ว่าเป็นฝีมือของเขานั่นแหละ ทุกวันนี้อเมริกายังไม่รู้เลยว่าทำไมแพทริออตถึงสกัดจรวดสกั๊ดของอิรักไม่อยู่ เขาจับโยกเล่น ๆ ดูว่าจะทำได้ไหม ส่วนเกาหลีเหนือนี่โดนลูกหมั่นไส้ ยิงเมื่อไรเขาจับโยนลงน้ำหมด เกาหลีเหนือก็คงนึกว่านักวิทยาศาสตร์ของเขาแก้ไขข้อบกพร่องหมดแล้ว ทำไมยิงทีไรตกน้ำทุกที
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2012 เมื่อ 17:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 20-12-2012, 22:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระกริ่งพิชัยสงครามมีเนื้อทองคำไหมครับ ?
ตอบ : ไม่มี...พระกริ่งมีแต่เนื้อชุบเงินกับชุบทองเท่านั้น เดี๋ยวเอาไว้สร้างอีกรุ่นหนึ่งแล้วค่อยทำเนื้อทองคำแล้วกัน หนักองค์หนึ่ง ๗ - ๘ บาท ดูซิว่าจะมีปัญญาบูชากันไหม ? แล้วก็มาบ่นว่ากินแต่บะหมี่สำเร็จรูป..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2012 เมื่อ 17:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 20-12-2012, 23:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อก่อนทำทานแล้วจะเกิดปีติ เดี๋ยวนี้รู้สึกเฉย ๆ รู้สึกทำไปตามหน้าที่ บาปหรือเปล่า ?
ตอบ : ไม่ผิด...ก่อนหน้านี้กำลังใจเรายังต่ำอยู่ พอเราทำก็ยังเกิดปีติ แต่พอกำลังใจของเราเคยชิน จึงสูงขึ้น ถ้าภาษาพระก็คือ ทรงฌานในจาคานุสติไปแล้ว ในเมื่อเป็นฌานขึ้นมา เกินปีติ ความสุขที่เคยมีจะหมดไป เพราะกำลังใจสูงกว่า แต่เรายังคงทำทานเป็นปกติอยู่ เพราะรู้ว่าสิ่งนั้นดี

ไม่ใช่ว่าปรามาส ไม่ใช่ว่าบาป แต่กำลังใจดีขึ้น ถ้าทำแล้วยังมีปีติทั้งปีทั้งชาติ แสดงว่ากำลังใจไม่ได้ขยับไปไหนเลย


ถาม : การที่กำลังใจเราขยับเพราะว่าเราทำมาก ?
ตอบ : เพราะทำบ่อย ๆ แล้วชิน พอชินแล้วต่อไปเหลือแค่รู้ว่าดีก็ทำ กำลังใจถัดจากนี้ก็คือ รู้ว่าดีก็ทำ รู้ว่าชั่วก็ละ ถัดไปก็คือไม่เกาะทั้งดีทั้งชั่ว ก็ผ่ากลางหลุดไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2012 เมื่อ 03:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 20-12-2012, 23:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผู้ที่คล่องตัวในอิทธิบาทสี่ สามารถอธิษฐานให้อยู่ยาวถึง ๑ กัป หมายความว่าอย่างไร ?
ตอบ : หมายความว่าจะอยู่นานเท่าไรก็ได้ แต่ไม่เกิน ๑ กัป

ถาม : ผู้ที่คล่องตัวในอิทธิบาทสี่ ต้องปฏิบัติอย่างไร ?
ตอบ : อย่างน้อยต้องเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2012 เมื่อ 03:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 22-12-2012, 12:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปกติแล้วที่ดินวัด โดยพระราชบัญญัติปกครองคณะสงฆ์มีอยู่ ๓ ประเภทด้วยกัน ก็คือ ที่ตั้งวัด เป็นสถานที่ซึ่งวัดวาอารามนั้นตั้งอยู่ ประเภทที่ ๒ คือที่ธรณีสงฆ์ เป็นพื้นที่ของวัด อยู่มุมไหนของโลกก็ได้ เป็นคนละผืนกับที่ตั้งวัด และที่กัลปนา เป็นที่ซึ่งเจ้าของอุทิศเฉพาะผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นในที่ผืนนั้นให้แก่ทางวัด อย่างเช่น ปวารณาว่าที่ดิน ๒๐ ไร่ที่ปลูกข้าวนี้ ถวายสงฆ์เป็นกัลปนา ถ้าเกี่ยวข้าวได้แล้ว แล้วแต่ทางวัดว่าจะเอาข้าวไปทำอะไร แต่ที่ผืนนั้นยังเป็นของเจ้าของอยู่

ก็เลยไม่แน่ใจว่าบ้านวิริยบารมีหลังนี้ตั้งใจให้เป็นที่กัลปนาหรือเปล่า ? เขาถวายมาแต่กุญแจบ้าน ถ้าใช่จะได้เปิดให้เช่าเสีย โดยเฉพาะถ้าอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้นะ เวลาใครขี้เกียจเดินทางก็มาเช่านอนเสาร์-อาทิตย์

เขาใช้คำว่า "กัลปนาผล" ผลที่เกิดขึ้นในที่นั้น อย่างเช่น ที่ดิน ๑ ไร่มีลำไยอยู่ ๔๐๐ กว่าต้น เวลาลำไยนี้เกิดผล ขอถวายเป็นกัลปนาให้แก่ทางวัด วัดก็ไปจัดการเอาเอง จะติดต่อให้พ่อค้ามาซื้อหรือตกลงให้เขาเก็บกันเอง อะไรก็แล้วแต่ เวลาคิดราคาท้องตลาดได้เท่าไรก็มาถวายพระ ไว้ใช้จ่ายในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามต่อไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2012 เมื่อ 13:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 22-12-2012, 12:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เวลาเราได้ยินคำว่า "กัลปนา" ก็สงสัยว่าเกิดจากอะไร ก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่พื้นที่เป็นนา พอวัดพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี มีคดีฟ้องร้องกัน เพราะชาวบ้านอาศัยอยู่รอบวัดเต็มไปหมด ขับไล่แล้วก็ไม่ไป ผลปรากฏว่าทางวัดชนะ เพราะมีจดหมายเหตุที่ระบุไว้สมัยพระเจ้าทรงธรรมว่า ถวายที่รอบพระพุทธบาท ๑ โยชน์ (๑๖ กิโลเมตร) เป็นที่กัลปนาให้แก่ทางวัด กินแดนไปถึงวัดหลวงตาวัชรชัย วัดหลวงตาห่างแค่ ๖ กิโลเมตรเอง

จะฟ้องร้องครอบครองโดยปรปักษ์ก็ไม่ได้ เพราะมีกฎหมายระบุไว้ชัดเลยว่า ห้ามยกอายุความขึ้นฟ้องร้องกับทางวัด อันนี้กฎหมายเขารักษาวัดเต็มที่เลย ที่วัดจะทำการจำหน่ายจ่ายโอนได้ต่อเมื่อออกเป็นพระราชบัญญัติเท่านั้น เพราะฉะนั้น..กรณีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ที่เขาจะติดคุกหัวโตกันก็เพราะเหตุนี้แหละ คือเพราะว่าเป็นที่วัด

เมื่อเป็นที่วัด จะจำหน่ายได้ก็ต้องเข้าประชุมรัฐสภา ให้อนุมัติออกมาเป็นพระราชบัญญัติ ในหลวงทรงลงพระปรมาภิไธย ถึงจะจำหน่ายจ่ายโอนได้ เขารักษาวัดเต็มที่ เพราะเขากลัวชาวบ้านจะเอาที่วัดไปกินหมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2012 เมื่อ 13:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 22-12-2012, 18:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"มีวัดตัวอย่างก็คือวัดดอนเจดีย์ที่สุพรรณบุรี เจ้าอาวาสคือพระครูวิบูลเจติยานุรักษ์ เป็นเพื่อนร่วมเรียนมาด้วยกันตั้งแต่ ป.บส. จนถึงปริญญาตรี พอปริญญาโทท่านจึงไปเรียนที่อื่น

ทางเทศบาลมาช่วยทำถนนในวัดให้ด้วยความหวังดี ทำถนนเสร็จสรรพวัดซวย..! เพราะถนนแบ่งพื้นที่ตั้งวัดกับพื้นที่อีกส่วนออกจากกัน จากที่ผืนเดียวกันก็เลยกลายเป็นที่ตั้งวัดกับที่ธรณีสงฆ์ แล้วเขาใช้ที่ทางด้านธรณีสงฆ์สร้างหอประชุมและอาคารอื่น ๆ ของเทศบาล ทางวัดบอกว่าเป็นที่ตั้งวัด อนุญาตให้ไม่ได้ เทศบาลดันไปค้นกฎหมายมา สรุปชี้เขตว่าถนนกั้นอยู่ ก็เลยไม่ใช่ที่ตั้งวัด เป็นคนละผืนกันไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ถนนก็อยู่บนที่ผืนเดียวกัน เฮงจริง ๆ เลย ทำเอาพระครูวิบูลฯ โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ยังฟ้องร้องกันไม่จบเลย

บางทีความหวังดี ก็กลายเป็นความประสงค์ร้ายโดยไม่เจตนา ใครจะไปนึกว่าตั้งใจทำถนนให้วัด กลายเป็นตัดที่วัดออกเป็น ๒ ส่วน ที่ตั้งวัดกับที่ธรณีสงฆ์กลายเป็นคนละส่วนไปเลย กฎหมายเขาเอื้อให้ขนาดนี้ ก็ยังมีคนบุกรุกที่วัด โกงที่วัดเป็นประจำ

อย่างวัดประตูด่าน หลวงพ่อสมคิดเอาแทรกเตอร์ไปไถรอบเลย ไถให้เห็นชัด ๆ ว่านี่เขตวัด ไม่อย่างนั้นชาวบ้านก็ลุยไปเรื่อย ขนาดนั้นยังเหลือแค่ ๘๘ ไร่เอง เพราะว่าที่ราคาแพง ทันทีที่มีการตัดถนนข้ามไปท่าเรือน้ำลึกของทวาย ที่ดินขึ้นราคา
จากไร่ละไม่กี่หมื่นเป็นไร่ละล้าน ๆ เลย คราวนี้ชาวบ้านก็บุกที่วัดกันเป็นปกติ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่มีใครอยากได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2012 เมื่อ 17:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 22-12-2012, 19:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หลวงพ่อพระพรหมดิลกไปเป็นประธานฉลองพระพุทธสิหิงค์ ที่วัดบ้านห้วยน้ำขาว บ่นว่า “เล็กเอ๊ย...ทำไมลูกน้องแกแต่ละคนอยู่ไกลสุดหล้าฟ้าเขียวเลยวะ ?” กราบเรียนท่านว่า “ก่อนหน้านี้ไม่มีใครเอาครับหลวงพ่อ เขามาอยู่..พอเห็นว่าไกลก็ทิ้งกันหมด คราวนี้พอมีถนนจะตัดผ่านไปท่าเรือน้ำลึกทวายก็แย่งกันจะเอา ไม่ทันแล้วครับ ตอนนี้ลูกน้องผมกวาดวัดแถวนี้ไว้หมดแล้ว”

หลวงพ่อสมคิดยังบอกกับท่านติงลี่ว่า “เมื่อ ๖ - ๗ ปีก่อนผมนั่งรถมากับท่านอาจารย์เล็ก แล้วก็ท่านก็ชี้ทีละวัด ๆ บอกว่า..ต่อไปผมต้องไปเอากฐินมาทอดให้ทุกวัด..ผมก็ยังคิดว่าจะเป็นไปได้อย่างไร” ปรากฏว่าตอนนี้เป็นวัดสาขาของวัดท่าขนุนหมดแล้ว ต้องเอากฐินมาทอดให้ พูดตอนคนยังไม่เห็น..เขาก็ไม่เชื่อ

ต้องบอกว่าหลวงพ่อสมคิดท่านไปได้ดีตอนที่อาตมาบอกให้ตุนน้ำมันดีเซลเอาไว้บ้าง ตอนนั้นน้ำมันขึ้นราคาเป็นลิตรละ ๑๒ บาท ท่านก็ให้ลูกน้องซื้อใส่ถัง ๒๐๐ ลิตรไว้ ๒ ถัง ลูกน้องก็บอกว่า “หลวงพ่อจะตุนไปทำไม เกะกะวัดเปล่า ๆ” ปรากฏว่าน้ำมันขึ้นพรวดพราดไป ๒๐ กว่าบาท ท่านนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียว คนอื่นเติมน้ำมันแพงช่างหัวมัน เรามีน้ำมันถูกเติมก็แล้วกัน ๔๐๐ ลิตรนี่ใช้ได้เป็นปี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-12-2012 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 22-12-2012, 19:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อาตมาไปทอดกฐินที่วัดประตูด่าน มีเงินรับมาเท่าไรก็ใส่ให้เขาไปเท่านั้น ปรากฏว่ามีโยมคนหนึ่งถวายทองคำแท่ง ๕ บาทเป็นส่วนตัว อาตมาตั้งใจจะหล่อพระอยู่แล้ว จึงรับขึ้นมาแล้วถามว่า "ทำไมถึงถวายเป็นส่วนตัว ?" เขาบอกว่าสมัยทองบาทละ ๖,๐๐๐ บาท พระอาจารย์บอกให้ซื้อเอาไว้มากหน่อย เพราะต่อไปจะขึ้นราคาเป็นเท่าตัว เขาซื้อไว้เยอะเลยแบ่งถวายมา ๕ บาท

ของบางอย่างต้องบอกว่าอยู่ที่บุญคน เพราะพูดไปมีแต่เขาสนใจอยู่คนเดียว คนอื่นไม่มีใครสนใจ แต่เห็นว่ามีคุณสายัณห์ ลี้หิรัญญพงศ์ เอาปัจจัยมาถวาย ๑ แสนบาท ถามว่าทำไม ? “ได้กำไรจากขายทองครับ พอพระอาจารย์พูดเลยไปซื้อทองไว้ พอทองขึ้นราคาเอาไปขายได้กำไร จึงเอามาถวาย ๑ แสนบาท”

ถึงบอกว่ามีคนฟังอยู่เยอะแยะ แต่มีคนที่ทำบุญด้านนี้เอาไว้ เขาจะได้ของเขาเอง ต่อให้เขาไม่ได้จากอาตมา เดี๋ยวก็เดินไปสะดุดทองที่คนทำหล่นหัวทิ่มไปเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-12-2012 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 22-12-2012, 19:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"นึกถึงคนไปฉี่แล้วได้เงิน ๘๐,๐๐๐ บาท สมัยที่ก๋วยเตี๋ยว ๒ ชามราคา ๕ สตางค์ ตอนนั้นเขานิยมไปขุดพลอยแถวอำเภอบ่อพลอย คนนี้เขาไปดูเฉย ๆ ว่าคนอื่นขุดได้อะไรกันบ้าง ปรากฏว่าปวดฉี่ ไปยืนฉี่ตีนก็คัน ไปเตะพวกหินที่เขาโกย ๆ จากบ่อแร่ พอเตะเสร็จหินพลิกขึ้นมาเห็นแวบหนึ่ง รู้สึกว่าสีแปลก ๆ ก็เลยเก็บก้อนนั้นขึ้นมาดู เป็นหินใหญ่ประมาณลูกมังคุด ปรากฏว่าเป็นมรกต ก็คือพลอยเขียวส่องนั่นแหละ

พ่อค้าแถวปากหลุมขุดพลอยเขาตีราคาให้ ๑ แสนบาท ๑ บาทสมัยนั้นเท่ากับ ๘๐๐ บาทสมัยนี้ ตีแบบถูก ๆ เลยนะ ๑ แสนบาทก็ ๘๐ ล้านบาทแล้ว แต่เขาไม่ขาย เขาคิดว่าถ้าเอาเข้ากรุงเทพฯ น่าจะได้ราคาดีกว่า จึงเข้ากรุงเทพฯ เดี๋ยวนั้นเลย เพราะถ้าอยู่ต่ออาจจะตายได้..!

ปรากฏว่าพอมาถึงกรุงเทพฯ กลายเป็นผีถึงป่าช้า เขาตีราคาให้แค่ ๘๐,๐๐๐ บาท ก็จำเป็นต้องเอา ขืนย้อนกลับไปที่บ่อพลอย อาจจะโดนฝังอยู่ใต้บ่อแถวนั้น ที่นั่นจึงได้ชื่อว่าบ่อพลอยมาจนทุกวันนี้

คนเราถ้าสร้างบุญเอาไว้ ถึงวาระจะส่งผลอย่างไรก็ต้องได้ นั่นแค่ตั้งใจไปฉี่ ได้เงินไป ๘๐,๐๐๐ บาทสมัยนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-12-2012 เมื่อ 02:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 22-12-2012, 19:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ที่จันทบุรีเขาก็ขุดพลอยกัน ขุดจนถล่มทับตายไปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร บ่อก็ลึกลงไป ๆ ถ้าโดนกลบอยู่ขุดขึ้นมาไม่ทันก็ตายอยู่ในนั้นแหละ ปรากฏว่ามี ๒ ผัวเมียอพยพมาจากโคราช มีลูกเล็ก ๆ เหน็บเอวมาคนหนึ่ง ตั้งใจจะมาขุดพลอย ไม่ว่าหลุมไหนก็มีเจ้าของหมดแล้ว มีลูกจ้างหมดแล้ว ตัวเองก็ไม่มีเงินที่จะไปซื้อที่เขามาขุด เพราะว่าที่นี่ ๑ คืบ หรือ ๑ ศอก ก็เป็นราคาหมด

เขาไปดูหลุมร้างที่คนอื่นทิ้งแล้ว คิดว่าอย่างไรก็ดีกว่าอดตายเปล่า ๆ โกยไปแค่ ๒ - ๓ ปุ้งกี๋ได้ทับทิมเม็ดเบ้อเร่อเลย ทุกวันนี้กลายเป็นพลอยคู่บ้านคู่เมืองของจันทบุรี น้ำหนัก ๓๐๐ กว่ากะรัต

ตอนแรกนายทุนต่างประเทศมาซื้อ แต่ปรากฏว่าคนเมืองจันท์ไม่ยอม ทับทิมจันท์ต้องอยู่กับจันทบุรี พวกพ่อค้าเขาลงขันกัน ๓๐๐ ล้านบาทซื้อขึ้นมา คนจะอดตายอพยพมา ขอเป็นลูกจ้างเขาก็ไม่มีใครจ้าง ต้องไปหาบ่อพลอยร้างขุดเอง โกยแค่ไม่กี่ปุ้งกี๋ได้ไป ๓๐๐ ล้านบาท ตอนนี้หายตื่นเต้นหรือยังก็ไม่รู้ ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-12-2012 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #80  
เก่า 22-12-2012, 19:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เวลามีงานเขาเอาพลอยเม็ดนี้ออกมาแสดง เป็นพลอยแดงที่เขาเรียกว่าทับทิมจันท์ ต้องบอกว่าคนจันทบุรีเขารักจังหวัดของเขาจริง พวกพ่อค้าทั้งจังหวัดลงขันกันซื้อ เอาเก็บไว้เป็นสมบัติของจังหวัดจันทบุรี

ที่เมืองกาญจน์ไม่มีบ่อพลอย มีแต่นิล สมัยนี้พลอยก็ต้องไปดูที่บลูซัฟไฟร์ ตอนนี้บลูซัฟไฟร์ส่วนหนึ่งกลายเป็นสนามกอล์ฟ เพราะบ่อพลอยที่เขาขุดกลายเป็นหลุมน้ำไปโดยปริยาย ทำสนามกอล์ฟได้สบายเลย พอถึงเวลาเขาก็ออกแบบให้เป็นสนามกอล์ฟตามภูมิประเทศ อาศัยหลุมเก่า ๆ ที่ขุดพลอยนั้นแหละ

ก่อนหน้านี้จะมีงานอัญมณีและเห็ดโคนของบ่อพลอย มาตอนหลังรู้สึกว่าเขาจะจัดเป็นงานของจังหวัด อาตมาเคยไปดูอยู่เที่ยวหนึ่ง เขาเอาเศษพลอยมาทำเป็นภาพ ๘ เซียนข้ามทะเล ขาย ๔๐,๐๐๐ กว่าบาท ยังนึกเสียดายที่ตอนนั้นไม่ได้ซื้อไว้ เขาทำได้งามจริง ๆ เพราะว่าสีทั้งหมดก็คือเศษ ๆ ของพวกพลอยสารพัดสี

โดยเฉพาะน้ำทะเลน่าจะประมาณ ๒ x ๔ ฟุตได้ ตอนนั้นไม่ได้พกเงินไป ไม่นึกว่าจะเจอ กลับไปอีกทีหายไปแล้ว แสดงว่าอะไรที่เราเห็นว่าสวย คนอื่นเขาก็เห็นเหมือนกัน มาระยะหลังไปเจอแต่รูปเล็ก ๆ เพราะรูปใหญ่ราคาจะแพงมาก แล้วจะหาที่สวยอย่างนั้นก็ไม่มีอีกแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-12-2012 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:16



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว