กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 10-05-2010, 18:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงคำว่า อวดอุตริมนุสสธรรม ว่า " อวดอุตริมนุสสธรรม คนมักจะพูดไปเรื่อย โดยที่ไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง

อุตริมนุสสธรรม คือ ธรรมอันยิ่งเกินกว่ามนุษย์ทั่วไปจะทำได้ พระพุทธเจ้าท่านปรับอาบัติขาดความเป็นพระ ต่อเมื่อไม่มีแล้วบอกเขาว่ามี ไม่ใช่ว่ามีแล้วไปปรับ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-05-2010 เมื่อ 19:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 10-05-2010, 18:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีผึ้งมาทำรังในบ้าน ควรทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : สมัยโบราณเขาถือว่าดี เขาให้รับขวัญด้วย ดอกไม้ ธูป เทียน หรือผ้าสีก็ได้

ถาม : ที่เป็นห่วงก็คือ กลัวจะเป็นอันตราย
ตอบ : ไม่เป็นหรอก เพียงแต่ตอนช่วงเช้ามืดประมาณตีห้าครึ่งให้รีบปิดไฟทุกดวง เขาจะได้ออกไปหากินได้ ไม่อย่างนั้นเขาจะหลงแสงไฟออกไปไม่ได้ และช่วงหัวค่ำ ก่อนเขาจะเข้ารังหมด อย่าเพิ่งเปิดไฟ ถ้าเขาเข้ารังไม่หมดแล้วเราไปเปิดไฟ บางทีเขาจะหลงติดอยู่ที่ไฟนั่นแหละ จะเหนื่อยทั้งคืนจนตกตายอยู่ตรงนั้น ถ้ารู้จักปฏิบัติก็อยู่กันสบาย

ถาม : เขามาเกาะที่หิ้งพระ ผมเลยทำความสะอาดหิ้งพระลำบาก
ตอบ : เขาอยู่ไม่นาน จะอยู่แค่ระยะเดียว ถ้าอาหารบริเวณนั้นหมดเขาก็จะย้ายไปเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-05-2010 เมื่อ 19:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 11-05-2010, 12:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงเรื่องการเมืองว่า "เรื่องของความเชื่อทางการเมือง จะว่าไปแล้วก็เหมือนความเชื่อในศาสนา

โดยเฉพาะในปัจจุบันนี้ เคยมีหลายครั้งที่มีการประชุมกันทางศาสนา เพื่อหาข้อสรุปว่า การปฏิบัติสายไหนที่ควรจะเป็นการปฏิบัติสำหรับประชาชนคนไทยทั่วประเทศ ปรากฏว่าประชุมมาหลายครั้ง ไม่เคยได้ข้อสรุป เถียงกันจนเกือบจะวางมวยกันทุกที ต่างคนก็ต่างมั่นใจว่าสายของตนเองดีกว่า ในเมื่อไม่ยอมลดราวาศอกกัน ก็เลยหาจุดลงไม่ได้สักที ดูไปก็คล้าย ๆ กับความเชื่อทางลัทธิการเมือง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-05-2010 เมื่อ 15:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 11-05-2010, 12:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ถ้าว่ากันถึงเรื่องสายการปฏิบัติในศาสนาพุทธของไทยเรา จริง ๆ แล้ว ทั้งหมดก็มาจากพระพุทธเจ้าทั้งนั้น เพียงแต่ว่าบุคคลที่เป็นต้นสายท่านถนัดแบบไหน ท่านก็นำจุดนั้นมาสอน คนอื่นต่างหากเล่าที่ไปกำหนดว่าเป็นสายนั้นสายนี้

เมื่อกำหนดแล้วว่าเป็นสายนั้นสายนี้ บรรดาลูกศิษย์ก็ยึดมั่นถือมั่น ถ้าหากไปเจอคนละสาย ก็เริ่มมีการกระทบกระทั่งกัน ในลักษณะของกูดีกว่า ของมึงใช้ไม่ได้ กลายเป็นว่า บางทีท่านผู้เป็นต้นสายเกิดมาก็ไม่เคยเจอกันเลย แต่ลูกศิษย์ทะเลาะกันไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร อยากจะบอกว่าต้นสายท่านไม่เคยมีปัญหากัน มามีปัญหากันตรงบรรดาลูกศิษย์เอากิเลสไปชนกัน

เรื่องของการเมืองก็ลักษณะเดียวกัน เพราะความเชื่อต่างกัน ก็เลยมีประเภทแฟนพันธุ์แท้ของพรรคนั้นบ้างพรรคนี้บ้าง แล้วพวกนี้กระทบไม่ได้ ขนาดในห้องเรียนของอาตมา พระเรียนอยู่ล้วน ๆ ยังมีปัญหาเรื่องพรรคการเมือง

ต้องบอกว่า ตราบใดที่เรายังไม่สามารถเห็นคนอื่นเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ได้อย่างแท้จริง ก็จะอดแบ่งแยกไม่ได้ ในหลวงของเรารักประชาชนทุกคน เพราะว่าทุกคนคือพสกนิกรของพระองค์ท่าน เปรียบเหมือนกับลูก ลูกจะดีหรือว่าจะเลว คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องให้การสงเคราะห์เป็นปกติอยู่แล้ว

พระพุทธเจ้าทรงมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่า เพราะว่าท่านรักสัตว์โลกทั้งหมด ท่านเห็นว่าสัตว์โลกทุกภพทุกภูมิ ทุกหมู่ทุกเหล่า ถ้าส่วนไหนสามารถช่วยเหลือได้ พระองค์ท่านเต็มใจให้การช่วยเหลือ นั่นจัดเป็นอัปปมัญญาพรหมวิหารที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ยิ่งใหญ่จนเราประมาณไม่ถูก ว่าทำไมคน ๆ หนึ่งถึงมีความรักต่อสรรพสัตว์ได้ทั่วหน้าขนาดนี้

ไม่ว่าจะเป็นกำลังใจขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ดี ของในหลวงก็ดี ทำอย่างไรที่เราจะใช้กำลังใจเหล่านั้นกับตัวเราเองได้บ้าง ไม่อย่างนั้นแล้ว บางทีขนาดของเหลือของเสียทิ้งแล้วยังฆ่ากันตายเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-05-2010 เมื่อ 15:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 11-05-2010, 12:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อย่างเช่นอะไรครับ ของเหลือของเสีย ?
ตอบ : มีเรื่องเล่าว่า ชายสองคนเป็นเพื่อนรักกัน ชวนกันไปหาของป่า ต้องเดินลัดป่าท้ายหมู่บ้านเพื่อเข้าป่าลึก คนแรกก็บ่นว่า "ใครมาขี้เอาไว้วะ เหม็นฉิบหายเลย" ปรากฏว่าเพื่อนที่มาด้วยกันนั่นแหละที่มาขี้ไว้ตรงนี้ ก็เกิดโมโหขึ้นมา "ไอ้ห่_ มึงว่ากูขี้เหม็นหรือวะ..!" ทะเลาะกันไปทะเลาะกันมา ทั้ง ๆ ที่คบกันมานานเนกาเล ก็ชักมีดซุยไล่แทงกัน

ดังนั้น เรื่องการยึดมั่นในอัตตา คือ ตัวกูของกูนั้น เป็นอันตรายทุกระดับ ทั่ว ๆ ไปก็เกิดการกระทบกระทั่งกันได้ง่าย

ได้ฟังเรื่องพวกนี้แล้วรู้สึกอย่างไร ? บางทีอาตมาเกิดความรู้สึกว่า กูอุตส่าห์สู้รบแทบตายเพื่อให้มันมีแผ่นดินอยู่ แล้วมันก็มาทำปู้ยี้ปู้ยำจนเละ มีอยู่เที่ยวหนึ่งอยู่ชายแดน กำลังเข้าเวรกลางคืน มองจากยอดเขาออกไป มองไปไกลลิบเห็นตัวเมือง แสงสีเสียงเพียบ เพื่อนก็ถามว่า "พวกนั้นเขาจะรู้หรือเปล่า ว่าเราลำบากกันแทบเป็นแทบตายขนาดไหน ?" เราได้ยินน้ำตาจะร่วงเดี๋ยวนั้นเลย

เป็นอย่างนั้นจริง ๆ อยู่แนวหน้ามาปีกว่า มีคนไปเยี่ยมสี่ครั้ง เฉลี่ยประมาณสามเดือนต่อครั้งหนึ่ง แต่เราไม่เคยได้เห็นคนเยี่ยมเลย เพราะอยู่ในพื้นที่อันตราย ถึงเวลาพอมีคนจะมาเยี่ยม เจ้านายจะสั่งบล็อกพื้นที่หมด รักษาความปลอดภัยแบบเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ป้องกันคณะที่เขามาเยี่ยมเราไม่ให้เกิดอันตราย ก็เหลือแค่ผู้บังคับบัญชาไม่กี่คนที่จะรับหน้าและรับมอบสิ่งของ

พวกเราก็ได้ยินเสียงทางวิทยุว่า "เขาจะมา" ได้ยินว่า "เขากำลังมา" ได้ยินว่า "เขามาแล้ว" ท้ายสุดได้ยินว่า "เขากลับแล้ว" เสียงมาทางวิทยุเท่านั้น เลยเกิดความรู้สึกว่า "เขาจะรู้ไหมว่าเราลำบากกันแค่ไหน ?"

เพราะฉะนั้น..ในบางส่วนที่เห็นความวุ่นวายในแผ่นดิน จึงเกิดความรู้สึกที่ว่า เราอุตส่าห์ดูแลรักษามาหวังจะให้อยู่เย็นเป็นสุข แต่กลับเป็นแบบนี้

หลวงพ่อวัดท่าซุงเคยถามท่านฮิตเลอร์ว่า ถ้าท่านเกิดมามีอำนาจในยุคนี้จะจัดการอย่างไรกับประเทศชาติ เพื่อให้สงบเรียบร้อย ท่านตอบง่าย ๆ ว่า "ตายเกินครึ่ง..!" เราจะไปว่าอะไรพุทธภูมิได้ เพื่อความสุขของคนหมู่มาก ท่านยอมลงนรกคนเดียว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-09-2013 เมื่อ 02:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 13-05-2010, 13:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีอาการมึน ๆ คล้าย ๆ เป็นสมาธิ แต่อ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง
ตอบ : อาจจะเป็นได้สองอย่าง อย่างแรกคือปฐมฌานหยาบ อย่างที่สองคือพักผ่อนไม่พอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2010 เมื่อ 14:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 13-05-2010, 13:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาใช้มโนมยิทธิ อาราธนาดูบารมีพระแต่ละองค์ เห็นรัศมีออกมาต่าง ๆ กัน ผมเห็นแต่ละองค์ไม่เหมือนกัน มีลักษณะใดเป็นไปในทางด้านไหนบ้าง ?
ตอบ : สีเขียวหรือสีแดงส่วนใหญ่ออกไปทางอยู่ยงคงกระพัน สีเหลืองออกไปทางเรื่องเมตตา ถ้าสีขาวจะช่วยในการปฏิบัติธรรม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2010 เมื่อ 14:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 13-05-2010, 13:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมกำลังจะไปสอบ แต่ช่วงนี้จิตฟุ้งซ่าน สวดคาถาชินบัญชร ๑๐ จบทุกคืนเพื่อให้มีสมาธิ แต่พอไปสอบจริง ๆ ก็ยังฟุ้งซ่านอยู่ครับ ควรจะแก้อย่างไรดี ?
ตอบ : อยู่กับลมหายใจเข้าออก คาถาไม่ใช่สักแต่ท่องให้จบ ขณะท่องให้รู้ลมไปด้วย เมื่อเป็นสมาธิแล้วรักษาสมาธิไว้ได้ ก็จะไม่ฟุ้งซ่าน ถ้าฟุ้งซ่านแปลว่าไม่มีสมาธิแล้ว

ถาม : ถ้าท่องคาถาไปเรื่อย ๆ ?
ตอบ : ได้ แต่ให้ใช้ลมหายใจเข้าออกควบไปด้วย

ถาม : ในขณะภาวนา ?
ตอบ : คาถาต่าง ๆ ถ้าไม่อยู่กับลมหายใจเข้าออก ได้ผลน้อย ยิ่งลมหายใจเข้าออกรู้ได้ชัดเจนเท่าไร ก็ได้ผลมากเท่านั้น

ถาม : แล้วถ้าตอนสวดคิดว่าขึ้นไปสวดให้พระฟังข้างบนละครับ จะอยู่กับลมหายใจเข้าออกได้อย่างไร ?
ตอบ : ถ้าหากว่ามีความคล่องตัวก็สามารถที่จะทำได้ ให้กำหนดความรู้สึกอยู่ข้างบนอย่างเดียว ไม่ต้องสนใจลมหายใจเข้าออก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2013 เมื่อ 13:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 13-05-2010, 13:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กรรมฐานทุกกอง ต้องเริ่มที่อานาปานสติทุกกองหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ทุกกอง ถ้าไม่ใช้อานาปานสติ กรรมฐานจะไม่ทรงตัว ปฏิบัติไปได้พักเดียว เดี๋ยวก็เจ๊ง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2010 เมื่อ 14:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 13-05-2010, 13:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เราคิดว่าควบคุมกิเลสได้แล้ว พอเราเผลอกิเลสก็โผล่เข้ามา ?
ตอบ : เป็นเรื่องปกติ จำไว้ว่าทุกคนมีราคะ โลภะ โมหะ โทสะ เป็นปกติอยู่แล้ว เพราะมันเป็นสมบัติของร่างกายนี้ แต่ถึงจะเป็นสมบัติของร่างกายนี้ก็จริง ถ้าเราไม่ให้ความร่วมมือนึกคิดปรุงแต่ง มันก็ทำอันตรายเราไม่ได้

จะอันตรายตอนเราไปปรุง ตอนที่เราไปใส่นั่นใส่นี่ให้ก๋วยเตี๋ยวอร่อย พออร่อยก็อยากกิน


ถาม : อย่างนี้เราควร ?
ตอบ : ต้องเร็ว เร็วนั้นมีสองวิธีด้วยกัน วิธีแรก ก็คือ วิ่งกลับไปสู่องค์ฌานเลย รัก โลภ โกรธ หลงจะถอย เพราะสู้องค์ฌานไม่ได้ วิธีที่สอง สติ สมาธิ และปัญญาจะต้องแหลมคมและว่องไวมาก ทันทีที่กระทบ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ต้องตัดได้เดี๋ยวนั้นเลย อย่ารับเข้ามา

ถาม : ตัดแปลว่าฆ่าหรือว่า ?
ตอบ : ไม่ใช่ ตัดแปลว่าไม่ไปยุ่งด้วย ไม่ไปคิดต่อ หล่อแค่ไหนก็เรื่องของเอ็ง อย่าไปคิดต่อว่า หล่อดีนะ เป็นแฟนเราก็ดี ควงกันไปเที่ยวก็เท่ มาที่นี่ก็ดูดีจังเลย ถ้าอย่างนั้นก็จะไปเรื่อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2010 เมื่อ 14:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 13-05-2010, 13:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วิธีที่สองตัดอย่างไร ไม่ต้องใช้กำลังสมาธิหรือคะ ?
ตอบ : แสดงว่าเราฟังพลาด กำลังของสติ สมาธิ ปัญญาจะต้องแหลมคมและไวมาก ๆ ถ้าอย่างนั้นจะเท่าทันกิเลส พอเริ่มเกิดเราก็รู้สาเหตุ แล้วเราก็ตัด

ถาม : แปลว่าอย่างนั้นเราต้องรู้สาเหตุก่อน ?
ตอบ : เรารู้ว่าเราคิดต่อแล้วจะเดือดร้อนอย่างไร ปากกาด้ามเดียว ถ้าหยุดคิดก็เป็นแค่วัตถุธาตุเท่านั้น อย่างแย่ ๆ ก็เป็นแค่ปากกา แต่ถ้าคิดแบบว่องไว สติ สมาธิ ปัญญาว่องไวมาก ๆ จะบอกตั้งแต่ต้นยันปลายเลยว่าคุณคิดแบบไหนจะเป็นแบบไหน พอเห็นโทษแล้วก็จะตัดเลย พยายามนะจ๊ะ เดี๋ยวก็ตามทันเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2010 เมื่อ 14:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 13-05-2010, 13:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในขณะที่ฝนตก พระอาจารย์ก็กล่าวให้ฟังว่า "โบราณเขาเก่งมาก เขาจึงค้นพบพื้นที่กรุงเทพฯ และตั้งเมืองหลวงขึ้นมา เพราะกรุงเทพฯ ฝนฟ้าบริบูรณ์ทั้งปี

แต่พวกเรารุ่นหลังทำผิด ที่ไปเปลี่ยนกรุงเทพฯ แทนที่จะเอาไว้เพาะปลูกเหมือนเดิม ก็สร้างอาคารพาณิชย์ขึ้นมาสารพัด ถึงเวลาฝนตกน้ำท่วมก็เป็นเรื่องปกติของกรุงเทพฯ แล้วบรรพบุรุษเราก็ขุดคลองระบายน้ำเยอะแยะไปหมด แต่ช่วงหลังการปฏิวัติเป็นต้นมา หลังจาก ๑๔ ตุลา เขาถมคลองทำถนนเสียเยอะแยะ คลองในกรุงเทพฯ หลายต่อหลายสาย โดนถมทำถนน ทำให้การระบายน้ำไม่ดีเหมือนเดิม พอฝนตกก็น้ำท่วม การสร้างถนนและอาคารแต่ละหลังไปขวางทางน้ำเข้าจึงเป็นเช่นนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2010 เมื่อ 14:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 13-05-2010, 13:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วันนี้ไปนั่งภาวนาที่วัดเขาวง ระหว่างภาวนาความคิดฟุ้งซ่านต่าง ๆ นานามันก้อง แต่เหมือนไม่ใช่เสียงของเรา มีเสียงประหลาดทั้งหญิงทั้งชายมาตลอดเวลา ตรงนั้นผมก็พยายามดูความคิดตรงนั้น ในที่สุดก็หายไป
ตอบ : มีสองวิธี จะดูก็ได้หรือไม่ใส่ใจก็ได้ ถ้าไม่สามารถกวนเราให้ขุ่นได้ มันก็จะเลิกไปเอง

ถาม : รู้สึกว่าที่ผ่านมามันลงเหวครับ
ตอบ : บางทีเรารู้สึกว่าเราทำดี ทำถูกมาตลอด แต่กว่าจะรู้ตัวก็ไปอยู่ก้นเหวแล้ว มันหลอกได้เนียนมาก ถ้ารู้ตัวก็ย้อนกลับ

อาตมาโดนมาแล้ว..! ระมัดระวังตลอดอยู่สามปี เหมือนกับเขาทำอะไรเราไม่ได้เลย แต่ความจริงทางเดินลดลงต่ำทีละมิลเดียว สามปีผ่านไปอยู่ก้นเหวตอนไหนไม่รู้ โดนอีกแล้วตู เขาโคตรเก่งเลย


ถาม : ที่เคยคิดว่าดี ก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิด
ตอบ : เริ่มต้นใหม่จ้ะ อย่าไปเสียเวลาคร่ำครวญอยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2010 เมื่อ 14:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 14-05-2010, 10:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ก่อนหน้านี้หนูมาทำบุญบ่อย ๆ แล้วแฟนเขาไม่เข้าใจ ก็เลยทะเลาะกัน หนูก็เลยเก็บของออกมา ตอนนี้เขาขอให้กลับมาอยู่เหมือนเดิม แล้วถ้าไปไหนมาไหนเขาจะไม่ว่า เขาก็หันมาปฏิบัติเริ่มสวดมนต์ หนูควรจะให้โอกาสเขาดีไหมคะ ? หนูอยากจะอยู่คนเดียวมากกว่า แต่ก็สงสารเขาเหมือนกันค่ะ
ตอบ : ต้องตัดสินใจเอง

ถาม : กลัวว่าเขาจะทำอย่างที่พูดไม่ได้ แล้วเราจะกลับไปเสียเวลาอีกครั้งหนึ่งค่ะ
ตอบ : เรื่องชีวิตคู่ พระพุทธเจ้าบอกว่าจะอยู่กันยืนยาว จะต้องมีสมชีวิธรรม คือ มีความเสมอกันในชีวิต ต้องมีสมสีลา มีศีลเสมอกัน สมจาคา มีการให้เสมอกัน สมปัญญา มีปัญญาเสมอกัน สมสัทธา ศรัทธาเสมอกัน ถ้าไม่เสมอกันก็มีปัญหา

ถาม : ถ้าเขาบอกว่าเขาเข้าใจแล้ว เขาหันมาเริ่มฝึกปฏิบัติมากขึ้น
ตอบ : ก็คงประเภทหัวถนนกับท้ายถนน กว่าเขาจะไล่ตามเราทันก็อีกหลายยก คงต้องมีกระทบกระทั่งกันเป็นปกติ เพราะชีวิตคู่ก็เหมือนลิ้นกับฟัน

ถาม : แต่ถ้าหนูตัดสินใจทิ้งเขาไปเลย จะผิดไหมคะ ?
ตอบ : จะไปผิดตรงไหน..!

ถาม : เหมือนกับว่าเขายังไม่อยากเลิกกับเรา แต่เราไม่อยากอยู่กับเขา
ตอบ : จะไปว่ากล่าวการกระทำถูกผิดชัดเจนนั้นไม่ได้ ต้องรอดูผลต่อไปในภายหน้า อย่างลูกสาวคนโตของอาตมา เขาบอกตั้งแต่เรียนมัธยมว่าชีวิตนี้ไม่แต่งงาน ใคร ๆ ก็หาว่าบ้า พูดอย่างนี้ได้อย่างไร แก่ตัวไปใครจะดูแล จนกระทั่งตอนนี้พี่น้องเพื่อนฝูงแต่งกันไป ทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง บ้านแตกสาแหรกขาดบ้าง ส่วนเขาก็อยู่สบายคนเดียว และทุกคนก็บอกว่า เป็นอย่างเขาก็สบายดี

เห็นหรือยังว่า ตอนแรกคนอื่นเห็นว่าผิด แต่ตอนนี้ทุกคนเห็นว่าถูก เพราะฉะนั้นสิ่งที่ทำ เราจะไปว่าผิดถูกไม่ได้ จนกว่าผลนั้นจะเกิดชัดเจนเสียก่อน


ถาม : ท่านจะไม่ให้คำแนะนำอะไรหรือคะ ?
ตอบ : แนะนำว่า ให้ตัดสินใจเอาเอง

ถาม : มันลำบากใจ
ตอบ : ที่จริงก็มีแค่ได้กับไม่ได้ สองอย่างเท่านั้นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-05-2010 เมื่อ 12:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 14-05-2010, 10:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พรุ่งนี้หนูจะไปอยู่วัดเขาวง จะช่วยได้ไหม ?
ตอบ : ถ้าสมาธิทรงตัวจะช่วยได้มาก แต่ถ้าสมาธิไม่ทรงตัวก็ตัดสินใจไม่ได้เหมือนเดิม

ถาม : หนูว่ายังไม่หมดเวรหมดกรรมกับเขา
ตอบ : อยู่ที่เรา ถ้าเราตัดใจว่าหมดก็คือหมด

ถาม : หนูก็เคยยื้อเหมือนกันนะคะ จะเลิกหรือไม่เลิก สุดท้ายเขาก็ยอมลาไปเอง แต่ตอนนี้หนูจะตัดแต่เขาไม่ยอมตัด
ตอบ : ถ้าเราอยู่ห่าง ๆ ไว้ เขาก็ทำอะไรเราไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-05-2010 เมื่อ 10:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 14-05-2010, 10:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อารมณ์รักหรืออารมณ์โกรธ เป็นพลังงานหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ใช่

ถาม : คือ รู้สึกกระทบแล้วเกิดอารมณ์ได้ง่าย
ตอบ : อย่าไปก่อให้เกิดพลัง..ก็จบ ถ้าเราไปช่วยเพิ่มพลัง มันก็ไปเรื่อย ถ้าไม่สตาร์ทเครื่องก็จอด ไปสตาร์ทเครื่อง เข้าเกียร์ ก็ไปเรื่อย

ถาม : ไม่ว่าอะไรที่กระทบ ไม่ว่ารัก โลภ โกรธ หรือหลงก็ตาม ก็เป็นความรู้สึกในใจที่เป็นความแตกต่างกัน
ตอบ : เรารับเข้ามาแล้วไปปรุง ตอนรับเข้ามา ถ้ายังไม่ปรุงก็ยังไม่ก่อเกิด และตอนที่ปรุงนั้นเป็นขั้นตอนที่ช่วยให้เจริญเติบโตได้เร็วมาก มีพลังงานที่จะทำร้ายเราได้มาก ทำอย่างไรที่จะหยุดไว้โดยไม่รับเข้ามา

ถาม : อย่างเรื่องการฟังธรรม ช่วงหลัง ๆ ฟังแล้วจะรู้สึกผ่านหูไปเรื่อย ๆ แต่ไม่ได้เกิดความรู้สึกฟังแล้วอยากปฏิบัติตาม ฟังแล้วมีความพยายาม
ตอบ : ถ้าไม่ใช่ที่ตรงกับอารมณ์การปฏิบัติของเราในปัจจุบัน บางทีก็ผ่านหูไปเฉย ๆ แต่ถ้าตรงเราก็จะฉวยมาเพื่อปฏิบัติ อย่างเราฟังก็ได้แค่อนุสติเฉย ๆ

ถาม : ช่วงหลัง ๆ ฟังแล้วไม่คว้าไว้
ตอบ : ถือว่าปกติ จนกว่าจะไปได้ที่ตรงกับใจของเราเมื่อไร ก็โดดคว้าไว้

ถาม : แล้วมีอะไรตรงไหน ที่ผมควรจะโดดคว้าไว้
ตอบ : ไม่มี..ต้องบรรเลงเอง สุทธิ อสุทธิ ปัจจัตตัง อัญโญ นาญยัง วิโสธเย

ถาม : ขอคำแปลครับ
ตอบ : ความบริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์เป็นของเฉพาะตน บุคคลหนึ่งจะทำให้อีกบุคคลหนึ่งบริสุทธิ์หาได้ไม่ นี่เป็นพุทธพจน์โดยตรง ฉะนั้น..ใครที่สามารถทำให้คนนั้นบรรลุธรรมได้ คนนี้บรรลุธรรมได้ แปลว่ากำลังค้านพุทธพจน์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-05-2010 เมื่อ 12:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 15-05-2010, 15:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การปฏิบัติมีไหมคะ ที่มีความรู้สึกว่าอิ่มตัวแล้ว ไม่รับอะไรแล้ว ?
ตอบ : ไม่ใช่อิ่ม แต่เป็นเพราะตัน ไปต่อไม่ได้ คราวนี้ต้องย่ำเท้าอยู่กับที่ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ย้ำแล้วย้ำอีก เบื่อไม่ได้ จนกว่าจะก้าวผ่านไป ช่วงนี้จะเบื่อเพราะปฏิบัติไม่เจริญ

ถาม : ไม่เบื่อค่ะ แต่เหลือแค่ทำให้สำเร็จ
ตอบ : ถูก..ก็ต้องซ้ำแล้วซ้ำอีก ย้ำแล้วย้ำอีก

ถาม : ถ้าบางทีหนูอยากเข้าสมาธิแบบดิ่งลึก ทีนี้คนอื่นเขาไม่รู้ เข้ามากวนบ้าง มาแกล้งบ้าง ทำให้เราพลาดจากอารมณ์ที่ควรจะได้ ตรงนี้หนูควรทำในที่ที่มีคนไม่เยอะใช่ไหมคะ ?
ตอบ : จ้ะ ถ้าคนเยอะก็เปลี่ยนเป็นสมาธิแบบใช้งาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2010 เมื่อ 19:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 15-05-2010, 15:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ช่วงที่ฝนตก พระอาจารย์กล่าวถึงเรื่องการทำนายสภาพดินฟ้าอากาศว่า "โบราณเขาใช้การสังเกตและสั่งสมประสบการณ์ ทำให้บางคนสามารถพยากรณ์ดินฟ้าอากาศได้แม่นมาก ดูลักษณะฟ้า ฝน ลม สัตว์ พืช ก็สามารถบอกได้

อย่างปีไหน ถ้าไม้ไผ่ออกหน่อสูงกว่าต้นเดิม แสดงว่าปีนั้นน้ำมาก
หรือไม่ก็ไปดูที่ชายตลิ่ง ถ้าปูขุดรูสูงกว่ารูเก่า แสดงว่าปีนั้นน้ำจะมาก เพราะรูปูจะอยู่พ้นน้ำเสมอ
บางทีก็ดูนกกระจาบ ถ้าหากทำรังสูงกว่าปีเก่า แสดงว่าน้ำจะมาก ถ้าต่ำกว่าน้ำจะน้อย
ถ้านกนางแอ่นบินหากินต่ำ บางทีเลียดพื้นเลย แสดงว่าฝนจะตก ความกดอากาศต่ำ แมลงก็บินต่ำ

สมัยก่อนมีโยมอยู่คนหนึ่งสามารถพยากรณ์ว่าฝนจะตกหรือไม่ตกได้แม่นยำมาก ๆ มีคนไปท้าพนันกับเขาอยู่ตลอด บางทีเมฆดำมาเลยนะ แต่เขาบอกว่าฝนไม่ตก คนอื่นก็อดไม่ได้ ไปท้าพนันกับเขา สุดท้ายก็เสียเงินให้ฟรี ๆ แต่พอแดดเปรี้ยง เขาบอกว่าฝนจะตกแล้วฝนก็ตกจริง

ตอนแรกนึกว่าเขาดูลมดูอากาศ ปรากฏว่าไม่ใช่ จริง ๆ แล้วเขาเป็นขี้กลาก ถ้าขี้กลากคันขึ้นมาเมื่อไรแสดงว่าฝนจะตก เพราะว่าเวลาฝนจะตก ความกดอากาศจะกดต่ำ ความชื้นในอากาศสูง พอโดนความชื้นแล้วขี้กลากจะคัน

สมัยก่อนอยู่ต่างจังหวัด อาตมาพอจะสังเกตได้บ้าง แต่ไม่แน่นอน แต่พอมาอยู่กับหลวงพ่อแล้วท่านสอน ท่านไม่ได้เจตนาที่จะสอนอย่างเป็นทางการหรอก ท่านปรารภแล้วเราก็ฟัง ๆ มา สำคัญที่ว่าเรารู้จักจดจำเอาไปใช้งานหรือเปล่า ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-05-2010 เมื่อ 02:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 144 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 15-05-2010, 15:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในระยะนี้ของที่ระลึกที่เกี่ยวกับในหลวงที่มีออกมา ถ้าไม่เกินวิสัยก็เก็บ ๆ ไว้บ้าง

ช่วง ๒ - ๓ ปีที่ผ่านมา วัตถุมงคลที่เนื่องด้วยในหลวงราคาขึ้นอย่างน่าใจหาย สมเด็จจิตรลดาเดี๋ยวนี้ราคาที่ต่ำกว่าล้านหาไม่ได้แล้ว

พระกริ่ง ๗ รอบ ของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ในหลวงทรงเททองขณะที่ทรงเป็นภูมิพโลภิกขุ (พิเศษตรงนี้แหละ) ราคาขึ้นหูดับตับไหม้เลย

รุ่นใหม่มาแรงก็พระกริ่งปวเรศรุ่นสอง บางคนก็เรียก พระกริ่งปวเรศน้อย ที่ในหลวงทรงเททองตอนพระชนมายุ ๖๐ พรรษา ปี ๒๕๓๐ มีพระอยู่รูปหนึ่งที่ได้รับพระบรมราชานุญาตไปพุทธาภิเษก ชื่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ตอนนั้นท่านยังเป็นพระสุธรรมยานเถระ จัดเป็นพระกริ่งรุ่นเดียวที่หลวงพ่อพุทธาภิเษก และไม่ใช่ของวัดด้วย

พระกริ่งรุ่นนี้เริ่มทำปี ๒๕๒๘ แต่ไปออกปี ๒๕๓๐ ช่วงนั้นพอดีอาตมาบวช เลยไม่ได้ตามหลวงพ่อไปเข้าพิธี แล้วราคาจัดว่าแพงมากสำหรับยุคนั้น ชุดหนึ่งจะมีพระชัยวัฒน์ ๑ องค์ พระกริ่ง ๑ องค์ เขาคิดราคา ๕,๕๐๐ บาท ในสมัยนั้น ก็เลยมีปัญญาเก็บไว้ชุดเดียว ตอนนี้โดนแย่งพระชัยวัฒน์ไปแล้ว เหลือแต่พระกริ่งองค์เดียว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2010 เมื่อ 20:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 15-05-2010, 15:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ช่วงนั้นเกิดรายการปลอมกันอุตลุต ของจริงเขาทำด้วยความประณีต แต่ของเล่นปลอมเจาะรูอุดกริ่งเฉยเลย ของจริงเขาคว้านฐาน บรรจุผงจิตรลดาและพระเกศาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วตีแผ่นทองแดงปิด ฉะนั้น..ไม่ใช่เจาะรู..!

ของทุกอย่างที่เนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกลายเป็นของแพง โดยเฉพาะสมเด็จจิตรลดาหรือเป็นพระกำลังแผ่นดิน เป็นพระที่ไม่ได้เข้าพิธีพุทธาภิเษก แต่ในหลวงทรงอธิษฐานจิตด้วยพระองค์เอง เราจะเห็นได้ว่าท่านที่รู้จักพระ รู้จักเทวดาจริง ๆ ปลุกเสกของได้ทุกคน เพราะไม่ได้ทำเอง ถึงเวลาก็อัญเชิญท่านมาปลุกเสกให้

ระยะที่ของที่เนื่องด้วยในหลวงขึ้นราคา น่าจะเป็นปีกาญจนาภิเษก เขาออกเหรียญในหลวงทรงเครื่องมหาราชภูสิตาภรณ์ ประทับนั่งบนราชอาสน์เต็มพระองค์ แต่ราคาสองแสนห้า..! เราก็ได้แต่นั่งมอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 14-02-2016 เมื่อ 13:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 140 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:25



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว