กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #141  
เก่า 27-12-2011, 13:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ท่านเคยเจอหลวงพ่อฤๅษีลิงขาวกับหลวงพ่อฤๅษีลิงเล็กไหมคะ ?
ตอบ : อาตมายังเดินทะลุไปไม่ถึงเชียงตุง แต่สององค์นั้นสามารถเจอได้ทุกที่ที่ต้องการ แม้กระทั่งป้ายรถเมล์ในกรุงเทพฯ นึกจะมาท่านเดินแวบเดียวถึงแล้ว ส่วนพวกเราต้องเดินกันเป็นปี..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 17-11-2019 เมื่อ 14:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #142  
เก่า 28-12-2011, 12:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เขาว่าถ้าฝึกสมาธิมากไป แล้วจะกรรมฐานแตก กรรมฐานแตกเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : ไม่มีอะไรหรอก..อย่างดีก็แก้ผ้าวิ่ง..! บางทีพอทำสมาธิแล้วใจสงบ มักจะเริ่มเห็นนั่นเห็นนี่ แล้วดันไปเห็นในสิ่งที่เราคิดว่าน่ากลัว

อาตมาเคยถามพวกเขาว่า ทำไมต้องมาหลอกกันด้วย เขาบอกว่า “ผมไม่ได้หลอก ผมตั้งใจจะมาบอกว่าผมต้องการความช่วยเหลืออะไร แต่เขาหนีทุกที” เพราะว่าเขามาสวยที่สุดได้แค่ที่เราเห็นแล้ววิ่ง คนที่บุญน้อยจะออกมาในลักษณะนั้น ถ้าเราไม่กลัวก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ากลัวก็เป็นอย่างที่ว่ามานั่นแหละ

พอวิ่งหนีเข้าทีหนึ่งก็ประเภทจิตเตลิด กู่ไม่กลับ กลายเป็นบ้า ๆ บอ ๆ ถึงได้บอกว่าควรจะมีครูบาอาจารย์คอยคุม แต่ถึงครูบาอาจารย์คุม ถ้ากำลังใจไม่ดีก็ยุ่งเหมือนกัน

หลวงพ่อวัดท่าซุงเคยเล่าให้ฟังว่า มีพระปฏิบัติเตโชกสิณ พอถึงเวลาขยายปฏิภาคนิมิต นิมิตใหญ่เต็มห้องเหมือนไฟไหม้ ตกใจจนกระโดดหน้าต่างหนีเลย อีกรูปหนึ่งปฏิบัติในอาโปกสิณ พอถึงเวลาปฏิภาคนิมิตขยายเต็มที่ ก็ตกใจนึกว่าตัวเองจมน้ำ ตะเกียกตะกายว่ายจนอกถลอกปอกเปิก ความจริงตัวเองเป็นคนย่อขยายเอง ถ้าไม่ขาดสติก็แค่ย่อให้เล็กลงก็จบแล้ว พอขยายใหญ่ออกก็ไปตกใจคิดว่าตัวเองจมน้ำ

หลวงพ่ออินทร์ วัดบ้านสระ ซึ่งปัจจุบันคือวัดสระพัง ที่พระครูไพโรจนภัทรคุณท่านอยู่ ตอนนั้นชาวบ้านเห็นไฟลุกท่วมโบสถ์ จึงคว้าถังน้ำวิ่งไปจะดับไฟ วิ่งไปถึงไม่เห็นมีอะไร หลวงพ่ออินทร์ท่านยืนอยู่หน้าโบสถ์ ถามว่า “พวกมึงมาทำอะไรกัน ?” ชาวบ้านบอกว่าไฟไหม้โบสถ์ ท่านว่า “ไหม้ซะที่ไหนเล่า กูอยู่ในโบสถ์สวดมนต์อยู่” ท่านไม่ได้บอกให้รู้ว่าท่านทำอะไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-12-2011 เมื่อ 12:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #143  
เก่า 28-12-2011, 18:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่ออินทร์เป็นที่เคร่งและดุมาก คำว่าเคร่งของท่านก็คือ สมัยก่อนเวลารับกิจนิมนต์ที่ไกล ๆ อาจจะไปไม่ทันเพล ก็ต้องขี่ม้าไป หรือก็ถ้าโยมมีรถมอเตอร์ไซค์ ท่านก็นั่งรถมอเตอร์ไซค์ไป หรือนั่งเกวียนไป เป็นระยะทางใกล้ไกลเท่าไรท่านจะจำไว้ พอกลับมาถึงวัด ท่านจะเดินจงกรมใช้หนี้ จนกว่าจะได้ระยะทางเท่านั้นท่านจึงจะหยุด

ส่วนความดุของท่าน ไม่รู้ว่าพวกเรารู้จักหางกระเบนไหม ? เวลาตากแห้งแล้วหางปลากระเบนจะเป็นปุ่ม ๆ เหมือนกระดาษทราย ตีแล้วแตกดีนัก..! พระที่วัดท่านต้องสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐาน เป็นปกติ เรื่องบันเทิงต่าง ๆ ห้ามมี สมัยนั้นมีแผ่นเสียงที่เป็นแผ่นครั่ง พระรูปหนึ่งมีฐานะดี พ่อแม่ขอให้บวชก็ต้องซื้อเครื่องเล่นแผ่นเสียงให้ถึงจะบวช แต่ดันไปบวชกับหลวงพ่ออินทร์

บวชไปแล้วเปิดแผ่นเสียงฟัง เพื่อนพระห้องใกล้ ๆ ก็ขอไปฟังด้วย ๓-๔ รูป อยู่ ๆ หลวงพ่ออินทร์เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับหางกระเบน ฟาดไม่เลี้ยง..! คราวนี้ท่านยืนขวางประตูอยู่ จะหนีไปทางไหนได้ ก็ต้องกระโดดหน้าต่างหนี ต้องพระอย่างนั้นถึงจะเอาพวกนี้อยู่ “พ่อแม่ให้พวกมึงมาบวชหวังจะได้บุญ พวกมึงดันหานรกให้พ่อให้แม่” ท่านด่าไปตีไป

อาตมารู้สึกว่าโชคดีมาก ๆ ที่เกิดมายุคนั้น เพราะว่าครูบาอาจารย์ที่ท่านมีความสามารถมีอยู่รอบบ้าน ออกไปทางสุพรรณบุรีก็มีหลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว , หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก , หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ , หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ , หลวงพ่อเก็บ วัดดอนเจดีย์

ขึ้นมาทางด้านกำแพงแสนก็มีหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม , หลวงปู่แตง วัดดอนยอ , หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม , หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา

วัดหนองพงนกซึ่งเป็นวัดข้างบ้านอาตมา เวลามีงานก็นิมนต์พระเกจิอาจารย์มาพุทธาภิเษก ขันน้ำมนต์อยู่ตรงหน้าท่าน พอท่านนั่งหลับตาพักเดียวขันดิ้นทั้งใบเลย..! น้ำมนต์เหลือไม่ถึงครึ่งขัน ผู้ใหญ่บอกว่า “เฮ้ย ๆ มุดเข้าไปดูสิ ว่ามีใครผูกเชือกดึงหรือเปล่า ?” อาตมาก็มุดเข้าไปดู..ไม่เห็นมีอะไร แต่น้ำมนต์รดหัวไปเรียบร้อยแล้ว เพราะเป็นพื้นไม้กระดาน มีร่องไว้สำหรับกวาดขยะ น้ำมนต์หกลงไปเท่าไรก็ลงข้างล่างหมด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2011 เมื่อ 02:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #144  
เก่า 29-12-2011, 08:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ขันน้ำมนต์ดิ้นเกิดจากอะไร?
ตอบ : พลังจิตที่แรง แรงที่ท่านกดลงไปนั้นมากขนาดขันยังรับไม่ได้ จึงเต้นไปเต้นมา

สมัยนั้นส่วนใหญ่ท่านใช้กำลังส่วนตัว หลวงปู่ปานท่านบอกว่าใช้กำลังส่วนตัวไม่ได้ เพราะกำลังสมาธิส่วนตัวนี้ถ้าห่างจากท่านแล้วบางทีก็คุ้มไม่ได้

หลวงปู่ปานท่านให้หลวงปู่เล็กเอาผ้ายันต์ไปปลุกเสก ๑ พรรษา หลวงปู่เล็กเข้าสมาบัติ ๘ เต็มที่อธิษฐานทุกคืน พอออกพรรษาแบกไป หลวงปู่ปานบอกว่าใช้ไม่ได้..ต้องเอาไปเสกใหม่ เป็นพวกเราก็หมดอารมณ์เลย ทำจนเต็มที่แล้วยังบอกว่าใช้ไม่ได้อีก

หลวงปู่เล็กท่านไม่รู้จะทำอย่างไร กลับกุฏิจุดธูป ขอบารมีพระท่านช่วยสงเคราะห์ พอเห็นบารมีพระครอบลงมาเต็มก็แบกไปใหม่ คราวนี้หลวงปู่ปานบอก “เออ..ต้องอย่างนี้ถึงจะใช้ได้” ตกลงว่าเสก ๓ เดือนกับเสก ๑๕ นาที ต่างกันได้ขนาดนั้น

ท่านบอกว่าเรื่องของบารมีพระเวลาท่านช่วยสงเคราะห์ พรหมหรือเทวดาท่านต้องจัดสรรผู้ที่มีศักดานุภาพมาดูแลวัตถุมงคลนั้น ๆ ซึ่งยั่งยืนกว่า เพราะว่าพรหมเทวดาแต่ละท่านอายุเลยมนุษย์ไปไม่รู้เท่าไร แต่ถ้าเราเสกเองพอหมดอายุเราเมื่อไร ก็มีข้อจำกัด อภิญญาสมาบัตินี่ถ้าคนที่รอบคอบจริง ๆ ท่านจะอธิษฐานไว้ว่าให้อยู่ได้กี่วัน กี่เดือน กี่ปี พอหมดระยะเวลานั้นก็เสื่อมสภาพ ท่านที่ไม่รอบคอบสักแต่ว่าเสกเฉย ๆ บางทีพ้นหน้าท่านก็หมดขลังไปแล้ว

เราจะเห็นว่าบางทีต่อหน้าพระเกจิอาจารย์ ลองวัตถุมงคลกันซึ่ง ๆ หน้า เฉาะด้วยมีดด้วยขวานไม่เห็นเป็นอะไร แต่พอพ้นหน้าท่านไปลองเฉาะบ้างก็แหว่งเลย..! เพราะว่าท่านใช้กำลังตัวเอง

โชคดีที่เรามาสายหลวงพ่อวัดท่าซุง ขอบารมีพระท่านสงเคราะห์ให้มาตลอด จนกระทั่งหลายต่อหลายสำนักที่ท่านมีความรู้ในเรื่องนี้ เอาวัตถุมงคลไปท่านก็ถามว่าเป็นของใคร ทำไมกำลังสูงอย่างนี้ ถามไปถามมากลายเป็นพระหนุ่มในสายตาท่าน ไม่มีชื่อเสียงเรียงนามในสารบบ

ท่านก็สงสัยว่าเสกอย่างไรได้ขลังขนาดนี้ ความจริงอาตมาไม่ได้เสกเอง พระท่านจะบอกว่าให้วางกำลังอย่างไร ใช้คาถาบทไหน พอเสร็จเรียบร้อยท่านบอกให้พอตอนไหน ก็พอตอนนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2011 เมื่อ 11:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #145  
เก่า 29-12-2011, 08:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมเคยอ่านหนังสือหลวงพ่อฤๅษี ท่านเล่าถึงพวกที่ตายก่อนอายุขัยจะไปเป็นสัมภเวสี พวกนี้ตายแล้วไปเป็นเปรตหรืออสุรกายได้หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เป็นได้ แต่ว่าต้องรอให้หมดอายุจากสัมภเวสีก่อน

ถาม : สัมภเวสี คือ ?
ตอบ : สัมภเวสีเป็นบุคคลที่อายุความเป็นมนุษย์ยังไม่หมด ไม่สามารถจะไปรับความดีความชั่วได้ ก็ต้องเร่ร่อนจนกว่าอายุความเป็นมนุษย์หมด ท่านทั้งหลายเหล่านี้ความจริงแล้วได้เปรียบ เพราะว่าญาติทำบุญไปเท่าไรก็รับได้หมด

พวกสัมภเวสีเป็นพวกที่ตายผิดปกติ ที่ชาวบ้านเรียกว่า "ตายโหง" นั่นแหละ ตายโหงในความรู้สึกของเราคือไม่ดี แต่อาตมาอยากจะบอกว่าพวกนี้โชคดีมากเลยที่ตายโหง เพราะว่าญาติทำบุญไปเท่าไรก็ได้เท่านั้น แล้วถ้าหมดอายุขัยของความเป็นมนุษย์ไปแล้ว พอรับบุญไปก็จะขึ้นข้างบนไปเลย

แต่ถ้าญาติไม่รู้จักทำบุญให้ก็ซวยไป ต้นทุนเก่ามีหรือไม่มีก็ไม่รู้ ต้องเสี่ยงดวงเอาเอง ส่วนที่ตายเพราะหมดอายุขัยจริง ๆ ก็จะเป็นไปตามวาระบุญวาระกรรม ไปเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน หรือเป็นเทวดา มาร พรหม แล้วแต่กำลังของตน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2011 เมื่อ 11:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #146  
เก่า 29-12-2011, 08:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พวกที่เป็นมารเกิดจากมิจฉาทิฐิ ?
ตอบ : มิจฉาทิฐิเต็ม ๆ แต่เขามีโอกาสได้ทำบุญใหญ่ พวกนี้ตอนเป็นคนมีนิสัยขวางโลก ขวางโลกนี่ไม่ใช่ว่าไม่เก่งนะ เก่งมากเลยแต่ไปกับคนอื่นไม่ได้

มีโยมอยู่คนหนึ่งนิสัยอย่างนี้แหละ เขาถามว่า “หลวงพี่ใช้มโนมยิทธิได้ไหม ?” อาตมาบอกว่าได้ “รู้จักนิพพานไหม ?” อาตมาบอกว่ารู้จัก “ไปนิพพานได้ไหม ?” อาตมาบอกว่าได้ “แล้วทำไมหลวงพี่ไม่เป็นพระอรหันต์ไปเลยล่ะ ?" นี่แหละพวกขวางโลก ทำอย่างกับอาตมาไม่อยากเป็น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 17-11-2019 เมื่อ 14:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #147  
เก่า 29-12-2011, 09:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เพลงที่เราจำได้ บางทีก็ขึ้นมาเอง ทำไมอยู่ ๆ เราถึงนึกถึงเพลงแทนที่จะเป็นบทสวดมนต์ ซึ่งเราไม่ได้ตั้งใจนึกขึ้นมา ?
ตอบ สภาพจิตเราไหลลงต่ำง่ายกว่า เรื่องของบทเพลงเป็นเรื่องของโลกียะซึ่งไปได้ง่าย ส่วนเรื่องของบทสวดมนต์เป็นเรื่องของโลกุตระซึ่งไปได้ยาก เมื่อกำลังใจไปทางโลกุตระได้ยาก ก็มักจะลงต่ำอย่างเดียว

เรื่องพวกนี้เราต้องหยุดให้ทัน ถ้าหยุดไม่ทันจะพาเราเสีย เพราะสภาพจิตเราบันทึกทุกเรื่อง สนใจมากหรือสนใจน้อยก็บันทึกหมด ถ้าพลาดเมื่อไรเอาหน้าบันทึกที่ไม่ได้เรื่องขึ้นมาก็จะยุ่ง ฉะนั้น..เราจึงต้องทำความดีให้เคยชินเข้าไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2011 เมื่อ 11:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #148  
เก่า 29-12-2011, 10:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาเราทำสมาธิแล้วมักจะเคลิ้ม ควรทำอย่างไรต่อครับ ?
ตอบ : แสดงว่าสติกับลมหายใจหลุดออกจากกัน ให้กลับมาอยู่กับลมหายใจเข้าออกใหม่

ช่วงนั้นจิตจะเริ่มเป็นสมาธิระดับปฐมฌานหยาบ คราวนี้ความหยาบของจิตมีมาก เราเลยเกาะลมหายใจไม่ค่อยจะติด ให้เอาจิตก็คือสติ ความรู้สึกของเราทั้งหมดจี้ติดลมหายใจเข้าไป อย่าปล่อยให้ห่าง ห่างเมื่อไรจะออกอาการอย่างนี้อีก

เอาจิตกำหนดตามไปทุกระยะ เข้าไปถึงไหน ออกมาถึงไหน ถ้าหากว่าก้าวพ้นทีเดียวก็จะสว่างโพลง แล้วจะไม่เป็นอย่างนั้น สำคัญตรงที่ว่าก้าวแรกต้องผ่านให้ได้ ถ้าผ่านไม่ได้ก็จะติดอยู่อย่างนั้น บางคนคิดว่าตัวเองเผลอหลับ ความจริงไม่ได้หลับ แต่สติขาด สมาธิเริ่มสูงขึ้น พอทิ้งช่วงห่างจึงเหมือนกับคนมองกันไม่เห็น พอมองไม่เห็นก็ขาดช่วงไป

ถาม : คล้ายกับหลับ วูบไปพักหนึ่ง
ตอบ : ไม่ได้หลับ สมาธิสูงขึ้นแต่สติตามไม่ทัน ต้องเอาความรู้สึกทั้งหมดจี้ติดกับลมหายใจไปก่อน ห่างเมื่อไรก็หลุดเมื่อนั้น พอเราเคยชินทำได้ครั้งหนึ่ง ต่อไปก็จะกระโดดข้ามขั้น แล้วก็ไม่ต้องมาเคลิ้มหลับแบบนี้อีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2011 เมื่อ 11:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #149  
เก่า 29-12-2011, 10:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ไปหล่อพระที่วัดในชลบุรี เห็นมีเทวดามาโมทนาไม่กี่องค์ เราจะได้บุญหรือเปล่า ?
ตอบ : เทวดาจะโมทนาหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับ ๒ ประการ ประการแรก..ได้บวงสรวงอัญเชิญท่านหรือเปล่า ? ประการที่สอง..บุคคลที่เป็นเจ้าภาพมีความเกี่ยวเนื่องกับท่านหรือเปล่า ? ถ้าไม่มีความเกี่ยวเนื่องท่านก็โมทนาไม่ได้

ถ้าไม่เชิญท่านมาก็โมทนาไม่ได้ ส่วนตัวเราทำไปเถอะได้บุญอยู่แล้ว ไม่ใช่เทวดาท่านมาแล้วเราไม่เห็นท่าน นึกว่าท่านไม่มา ของบางอย่างถ้าเริ่มผิดเทวดาท่านก็ไม่โมทนาด้วยหรอก

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ถ้าหากว่างานนั้นเขาเริ่มต้นด้วยการเลี้ยงคนเลี้ยงพระด้วยการฆ่าสัตว์ ท่านก็ไม่โมทนาให้ตัวเองเดือดร้อนหรอก เพราะเป็นการยินดีในบาป..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2011 เมื่อ 11:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #150  
เก่า 29-12-2011, 11:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ความสามัคคีต้องมีกรอบในเรื่องของการตามใจตัวเองแค่ไหน ?
ตอบ : รู้จักคำว่าสิทธิหรือไม่ ? ถึงมีสิทธิอยู่ก็ต้องไม่ไปล่วงล้ำสิทธิของคนอื่น ถ้าไปล่วงล้ำสิทธิของคนอื่นจะทำให้ขาดความสามัคคีได้ เพราะเขาจะเหม็นขี้หน้าเรา..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2011 เมื่อ 11:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #151  
เก่า 29-12-2011, 11:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผู้หญิงกับผู้หญิงคู่กัน ผิดศีลข้อ ๓ ไหมครับ ?
ตอบ : ผิดเหมือนกัน

ถาม : แล้วใครผิดครับ ?
ตอบ : ผิดทั้งคู่แหละ

ถาม : ไม่มีอะไรเสียนี่ครับ ?
ตอบ : อย่างน้อย ๆ การล่วงละเมิดในส่วนของศีลธรรมก็มีอยู่ เพราะว่าบุคคลนั้นเราไม่ใช่เจ้าของ เหมือนกับคุณฉวยของเขาไปใช้โดยที่เจ้าของไม่ยอม แล้วก็ไปส่งคืนโดยไม่เสียหาย เจ้าของเขาจะยอมไหม ?

รถยนต์อยู่ในบ้านเรา อยู่ ๆ เขาเอาไปขับ แล้วบอกว่าไม่มีอะไรเสีย เอามาคืนให้เราจะยอมไหม ?

ถาม : ผู้ชายกับผู้ชายก็เหมือนกันสิครับ ?
ตอบ : เหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2011 เมื่อ 11:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #152  
เก่า 29-12-2011, 12:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อวานผมฟังหลวงพี่สอนกรรมฐานอยู่ที่บ้าน พอพูดถึงพระเทวทัต ผมก็ลงไปอยู่ข้างล่างเลยครับ "ปู่ทรมานนานแล้ว ผมเอาบุญมาให้นะครับ" แล้วผมก็เย็นเหมือนกับทรงสมาธิดีมากเลยนะครับ ท่านจะได้รับไหมครับ ?
ตอบ : ก็เหมือนคนที่กำลังโดนลงโทษอยู่ แล้วเราเอาอาหารไปให้เขากิน คงจะได้กินหรอก..! แต่อย่างน้อย ๆ ได้รับกระแสเย็นสักนิดก็ยังดี บรรเทาอะไรไม่ได้หรอก แต่อย่างน้อยเย็นสักวาบหนึ่งก็ยังดี

ถาม : ไม่มีโอกาสจะช่วยขึ้นมาได้หรือครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่ายังอยู่ในขุมแล้ว จะลึกตื้นขนาดไหนก็ไม่มีสิทธิ์ หมดอายุเมื่อไรค่อยว่ากัน

ถาม : หลวงพ่อวัดท่าซุงยังเคยช่วยเลยนี่ครับ
ตอบ : หลวงพ่อท่านช่วยเพราะท่านรู้ว่าเขากำลังจะออกจากมหานรกไปอุสสทนรก ท่านเลยไปดักกลางทาง แล้วเรารู้ขนาดนั้นไหมล่ะ ? ถ้าลงอุสสทนรกไปก็ยาวเลย ไม่มีใครช่วยได้เหมือนเดิม

ถาม : จังหวะเปลี่ยนพอดี
ตอบ : จังหวะเปลี่ยนนิดเดียว ท่านไปดักกลางทาง แล้วก็บอกว่าท่านจะบวชพระให้โมทนา

ถาม : ตอนนี้ก็ขอให้ท่านช่วยได้สิครับ ขอให้ท่านลงมาเกิด
ตอบ : อยากเห็นมากนัก เดี๋ยวอีกไม่กี่ปีก็ได้เห็น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2011 เมื่อ 12:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #153  
เก่า 29-12-2011, 12:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูสงสัยเรื่องปอบค่ะ คือหนูแขวนพระอยู่แล้วเขายังเข้ามาในบ้านได้หรือคะ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าลืมอาราธนาก็เข้าได้ มียามแต่ไม่เรียกใช้ขโมยก็ขึ้นบ้านสบาย เราต้องอาราธนาทุกวัน ภาวนาขอพระให้ช่วยรักษาทุกวัน ถ้าหากว่าเราไม่ขอ พระท่านยอมรับกฎของกรรม ท่านก็ได้แต่นั่งมอง

ถาม : มีแบบที่กันไม่ให้เข้ามาเลยได้ไหมคะ ?
ตอบ : ไม่มี..พระพุทธเจ้ายังต้องรับกฎของกรรมเลย แล้วเอ็งเก่งแค่ไหนวะ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2011 เมื่อ 12:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #154  
เก่า 29-12-2011, 15:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่กล่าวว่าจิตเดิมแท้นั้นผ่องใสอยู่แล้ว กิเลสทำให้เศร้าหมอง นอกจากเราจะพิจารณาว่าขันธ์ ๕ นี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา หากเกิดเราปักใจลงไปว่า “เราคือนิพพาน นิพพานคือเรา” อันนี้ถูกไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าคุณสามารถทำได้อย่างนั้นจริง ๆ ก็จบ เพราะว่าถ้าเข้าถึงจริง ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างจะหมดไป ตัวเราจะกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับนิพพาน
เพียงแต่ว่าจิตเดิมแท้ที่ผ่องใสนั้น ผ่องใสแค่ไม่เกินระดับอาภัสราพรหม จึงอยู่ในระดับของคนทรงสมาธิในฌานที่ ๒ เท่านั้น ส่วนของพื้นฐานกิเลสเก่า ๆ ที่ส่งเรามาเกิดนั้นยังมีอีกมหาศาลเลย ถ้าสามารถทำอย่างที่คุณว่าได้ก็จบ

ถาม : การที่เราเห็นพระพุทธรูปสวยหรือวัดสวยเป็นการติดในวัตถุธาตุไหมครับ ?
ตอบ : ถ้ายินดีในความสวยก็ยังเป็นแค่กามาวจรอยู่ ไปได้ไม่เกินสวรรค์

ถาม : ตอนแรกเราต้องตั้งกำลังใจโมทนายินดีก่อน แล้วพิจารณาลงสู่กฎไตรลักษณ์ แล้วก็เอากำลังใจไปเกาะนิพพานถูกไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าคิดไม่ทัน ตายก่อนก็จบเห่..!

ถาม : ตอนที่ฝึกมโนมยิทธิ ผมก็ไม่อยากถามหลวงพ่อเท่าไร แต่มีคนให้ถามก็เลยลองถามดูว่า พระศรีอาริย์ท่านจะลงมาช่วยในยุคนี้ แล้วท่านตอบว่าลงมาแล้วเป็นผู้หญิง อันนี้ถูกไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ถูก..พระศรีอาริยเมตไตรยยังไม่เคยลงมาในยุคนี้

ถาม : แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่ามโนมยิทธิเราถูกหรือผิดครับ ?
ตอบ : ทดสอบกับสิ่งที่สามารถพิสูจน์ได้ในระยะสั้น ๆ เช่น คุณเดินออกไป รถที่คุณเจอคันแรกเป็นสีอะไร เป็นรถ ๔ ล้อหรือ ๒ ล้อ ทดสอบบ่อย ๆ เราจะเกิดความคล่องตัวและชำนาญ แล้วจะรู้ว่าระดับอารมณ์ใจวางแบบไหนถึงจะถูก แล้วก็ใช้อารมณ์ใจช่วงนั้น

ถาม : ถ้าเกิดเราจับภาพพระ เราจะรู้ได้อย่างไรครับว่าภาพพระนั้นเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์จริงหรือมารเขามาหลอก ?
ตอบ : ไม่ต้องไปใส่ใจ ขอให้คุณนึกถึงพระพุทธเจ้าได้ก็พอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 17-11-2019 เมื่อ 14:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #155  
เก่า 29-12-2011, 16:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่เราปฏิบัติแล้วพร่อง ขาดสติ หรือเป็นประเภทได้หน้าลืมหลัง หรือรักษาผลการปฏิบัติไว้ไม่ค่อยได้ เป็นเพราะเราสมาธิไม่ดีหรือว่าเป็นเพราะกรรมการดื่มสุราคะ ?
ตอบ : มีส่วนของกรรมดื่มสุราอยู่แต่ว่าไม่มาก เพราะว่าในส่วนของศีล สมาธิ ปัญญา เป็นมหากุศล ถึงเวลาถ้าหากว่าเราสามารถทำจนทรงตัวได้ อกุศลอื่น ๆ จะถอยหลังไป มีอย่างเดียวคือ ทุ่มเทความพยายามให้มากที่สุด นับดูว่าเวลาที่เราฟุ้งซ่านวันหนึ่งกี่ชั่วโมง แล้วเวลาที่ทำสมาธิกี่ชั่วโมง แค่วัดดูก็รู้แล้วว่าทำไมถึงไม่ได้ดีสักที

ถาม : พยายามทำนะคะแต่ว่าได้ไม่ตลอด
ตอบ : ยังไม่ชำนาญ เมื่อยังไม่ชำนาญก็รักษาอารมณ์ไม่อยู่ ต้องซักซ้อมเข้าออกสมาธิบ่อย ๆ เมื่อมีความชำนาญจะสามารถรักษาอารมณ์ได้ทุกระดับตามที่ตัวเองต้องการ คราวนี้จะทำอะไรก็ได้ กระทบแรงแค่ไหนก็ไม่กลัวเพราะเราหลบได้ ถึงเวลาก็ใส่เกราะ มีปัญญาก็ตีไปสิ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2011 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #156  
เก่า 29-12-2011, 16:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในการพิจารณา...(ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ไม่เป็นไร เพราะว่าพอพิจารณาไปนาน ๆ สมาธิจะเกิดขึ้นเอง เพียงแต่ว่าต้องพิจารณาลงไตรลักษณ์ให้ได้ ถ้าพิจารณาออกไปทางอื่นก็จะเตลิดไปเรื่อย

ถาม : แล้วสมาธิจำเป็นต้องมีไหมครับ ?
ตอบ : ควรจะมี ไม่อย่างนั้นกำลังในการตัดละกิเลสก็จะไม่มี สภาพจิตมีความเข้าใจว่าต้องทำอย่างไร ต้องละอย่างไร แต่กำลังในการตัดจะไม่พอ โอกาสที่เราจะพิจารณาจนสมาธิทรงตัวเพียงพอที่จะตัดกิเลสได้นั้นยากมาก ฉะนั้น..เราต้องสร้างสมาธิของเราเองต่างหาก ต้องแบ่งเวลาไปทำสมาธิด้วย

ถาม : ใช้วิธีพิจารณาจนเกิดสมาธิอย่างเดียวเพื่อตัดกิเลส เป็นไปได้ไหมครับ ?
ตอบ : เป็นไปได้ แต่ยากมาก เพราะว่าต้องพิจารณาอยู่เรื่องเดียวจนสมาธิดิ่งลึกลงไปในระดับที่พอจะตัดกิเลสได้ ซึ่งน้อยคนที่จะทำได้ เพราะฉะนั้น..เราจึงต้องมาสร้างสมาธิต่างหาก

อาจจะภาวนาเช้าสักชั่วโมงเย็นสักชั่วโมง ที่เหลือเราก็พิจารณาของเราไป พอพิจารณาจนรู้สึกว่าไปต่อไม่ได้แล้วเราก็กลับมาภาวนาใหม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2011 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 139 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #157  
เก่า 30-12-2011, 07:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ลักษณะนั้นเหมือนกับมโนมยิทธิ เป็นการฝึกซ้อมสมาธิอย่างหนึ่ง เพราะถ้าสมาธิเคลื่อนเมื่อไร ก็จะนึกไม่ได้ เราก็จะกลับมาอยู่ตรงหน้า
ถ้ากลับมาก็ไปใหม่ เพราะถ้ากำลังของเรายังไม่มั่นคงพอ เกาะที่ใดที่หนึ่งไม่แน่นหรอก แล้วถ้ากลับมาเมื่อไรก็ไปใหม่ จนกระทั่งสามารถที่จะยืนระยะนาน ๆ ได้

ถาม : แล้วถ้ากลับมาต้องจับลมหายใจกำหนดคำภาวนาใหม่หรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ถ้าคล่องตัวจริง ๆ แค่คิดก็ถึงแล้ว รู้ตัวว่าอยู่ข้างล่างเมื่อไรก็เผ่นขึ้นไปข้างบนใหม่

ถาม : การที่เราภาวนาควรจะหาสภาพแวดล้อมที่สงบพอหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ไม่ต้อง ถ้าคุณภาวนาจนสมาธิอยู่ในระดับอุปจารสมาธิขั้นปลายก็จะไม่สนใจสภาพแวดล้อมแล้ว เสียงดังแค่ไหนก็ไม่อยู่ในหูเราแล้ว ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน สนใจแต่กับการภาวนาเฉพาะหน้า แล้วถ้าเกินนั้นไปก็ไม่ได้ยินอะไรเลย ไม่ต้องเสียเวลาหนีหรอก นี่เป็นตัวทดสอบที่ดีที่สุดว่าสมาธิเราใช้งานได้จริงไหม ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2011 เมื่อ 03:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #158  
เก่า 30-12-2011, 08:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีปัญหากับคนที่ทำงาน
ตอบ : อย่าไปสนใจในเรื่องจิตใจหรือความประพฤติของเขา ให้สนใจเฉพาะเรื่องงาน งานอะไรที่ต้องปฏิสัมพันธ์กันตามหน้าที่ก็ว่าไป แต่หลังจากนั้นแล้วฉันไม่คบแก เรื่องก็จบ


ถาม : แต่เขาเป็นหัวหน้าเรา
ตอบ : ถ้าเขาเป็นหัวหน้าเราก็เอาแค่จำเป็น ส่งงานของเราเสร็จก็เผ่นแน่บ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2011 เมื่อ 03:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 144 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #159  
เก่า 30-12-2011, 08:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่เล่นการพนันหรือเล่นไพ่เป็นการผิดศีลข้อ ๒ ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ผิดศีล เพียงแต่ว่าการพนันเป็นอบายมุข คือปากทางแห่งความเสื่อม มีแต่พาลงต่ำไม่มีขึ้นสูง ในส่วนของธรรมะผิดแน่ ๆ อย่าลืมนะคำว่า “ศีลธรรม” มีทั้งศีลและธรรม

เพราะฉะนั้น..ที่พระพุทธเจ้าท่านบอกว่าอบายมุข คือปากทางแห่งอบายภูมิ มีโอกาสลงข้างล่างมากกว่าขึ้นข้างบน เลิกได้ก็เลิก การเล่นการพนันนั้น ผู้แพ้ย่อมเสียดายทรัพย์ ผู้ชนะย่อมก่อเวร ทั้งสองฝ่ายต่างทำให้ทรัพย์นั้นฉิบหาย แล้วจะมีอะไรดี ?

ถาม : ศีลห้าไม่ขาด ?
ตอบ : ไม่ขาด แต่ธรรมะพร่องแน่นอน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2011 เมื่อ 03:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #160  
เก่า 30-12-2011, 08:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,827 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาหนูเข้าสมาธิแล้วหนูมักจะขึ้นไปข้างบน คราวนี้มีอยู่วันหนึ่งเหมือนกับว่าควบคุมไม่ได้ ใครเรียกไปหาก็ต้องไป จะแก้ไขอย่างไรคะ ?
ตอบ : เอากำลังใจจดจ่ออยู่กับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งใจว่าเราจะไปหาท่าน คราวนี้ใครก็เรียกไม่ได้ เพราะฉะนั้น..ก่อนที่จะใช้สมาธิในลักษณะออกไป ให้เราตั้งเป้าให้ชัดเจนก่อนว่าเราจะไปหาใคร เราจะไปที่ไหน ไม่อย่างนั้นถ้ามีผู้ที่กลั่นแกล้งเราอยู่ อาจจะดึงเราไปผิดทางก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2011 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 143 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:01



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว