กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 14-01-2018, 21:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ตอนหลังหลวงพ่อกันท่านกลัวว่าจะไปซ้ำรอยครูบาอาจารย์ ท่านจึงทำใบมีดเป็นสแตนเลสทั้งหมด หมดเรื่องหมดราวไปเลย แต่ว่าพอทำใบมีดสแตนเลส ก็มีอยู่ชุดหนึ่งที่ช่างเขาทำถวายหลวงพ่อกวยด้วย

จึงต้องดูให้ดี ถ้าใบมีดสแตนเลสแล้วมีลายนาคเกี้ยว ให้ตีว่าเป็นของหลวงพ่อกวย ถ้าไม่มีลายนาคเกี้ยว เป็นลายน่องสิงห์เฉย ๆ ให้ตีเป็นของหลวงพ่อกัน แต่ของหลวงพ่อกวยท่านก็เกรงว่าจะซ้ำกัน ท่านก็เลยให้สลับอักขระเสีย ที่เมื่อครู่อ่านจากตำรา จะมี นะ มะ นะ อะ นอ กอ นะ กะ กอ ออ นอ อะ นะ อะ กะ อัง ของท่านเองท่านจะสลับ นอ กอ เป็น กอ นอ สลับกันแค่นี้

แต่คราวนี้ถ้าพวกเราอ่านอักขระขอมไม่ออกก็เจ๊งเลย ดูไม่รู้เรื่อง จึงเหลืออยู่แค่ว่า ถ้าเป็นนาคเกี้ยว ก็ตีเป็นของหลวงพ่อกวยถ้าเป็นน่องสิงห์ก็ตีเป็นของหลวงพ่อกัน
ไป เพราะว่าช่างฝีมือเดียวกัน วัสดุเดียวกัน แล้วก็ยุคใกล้เคียงกัน

เดี๋ยวนี้อะไร ๆ พอหายากขึ้นมาก็ลำบากไปหมด แม้กระทั่งต้นมะขามหน้ากุฏิหลวงพ่อกัน วัดเขาแก้วล้ม เขาก็เอาไปทำวัตถุมงคลขายกันบรรลัยวายวอดหมด ขนาดต้นไม้ยังเดือดร้อน นี่คงกำลังรอต้นโพธิ์หน้ากุฏิพระอาจารย์เล็กว่าจะล้มเมื่อไรเท่านั้นแหละ...!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2018 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 14-01-2018, 21:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "กุมารทองหลวงพ่อกวยมีแค่ตัวหนึ่งก็พอแล้ว ขนาดกุมารรุ่นหลังที่เลี่ยมสีเหลือง แดง ๆ เขียว ส้ม อะไรนั่น วันก่อนอาตมาตั้งใจจะให้เขา ดันโดดเข้าไปอยู่ในพวงกุญแจ เป็นไปได้อย่างไร ? จะต้องถ่างห่วงออกถึงใส่จึงจะได้ อันนี้ไปห้อยต่องแต่งอยู่เองแล้ว ประมาณว่า "กูไม่ไป" ไม่ไปก็ไม่ไป เก็บไว้เองก็แล้วกัน เป็นอะไรที่ตลก ๆ ขำ ๆ ดี แต่ว่ารุ่นโรงงานทำนั่นดีตรงที่ว่ามีเยอะหน่อย ราคาเลยไม่แพง ถ้าเป็นรุ่นหล่อเองเนื้อชินนี่ ราคาหูดับเลยนะ

ที่ขำกว่านั้นก็คือ ไปงานพุทธาภิเษกเดือนที่แล้ว เป็นงานโชว์วัตถุมงคลหลวงพ่อกวยชัด ๆ โอ้โฮ...แต่ละคนมา ใส่มาเต็มที่เลย "กูลูกศิษย์หลวงพ่อกวยแน่นอน" คนโน้นก็เหรียญอาร์มหลังหนุมาน คนนี้ก็เหรียญกลมหลังยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า ฯลฯ ยุ่งไปหมด ยังดีที่ไม่เปิดเอวให้ดู คาดตะกรุดมาคนละกี่สายก็ไม่รู้ ?

พ่อเจ้าประคุณเถอะ...แถวนั้นถ้าแปลกหน้าไปละเป็นโดน เขาลองของกันซึ่ง ๆ หน้าทั้งนั้น พวกเล่นไสยศาสตร์ส่วนใหญ่จะร้อนวิชา ยังโชคดีว่าหลวงพ่อกวยท่านเล่นมาหนักขนาดนั้น แต่ท่านมั่นคงในเรื่องของศีลพระมาก ท่านไม่ทำอะไรใครแต่ว่าเรียนไว้กันตัวเอง ท่านก็เลยใช้คาถามนต์พระกาฬ

คาถามนต์พระกาฬนี่น่ากลัวมาก อาตมาไม่กล้าใช้เลย คือโดยพื้นดวงของอาตมานั้น อริเป็นมรณะอยู่แล้ว ขืนไปใช้ก็บรรลัยหมด สมัยหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ท่านเรียกว่ายันต์มหากาฬ ก็คือท่านจะลงกระหม่อมให้ ปรากฏว่าลูกศิษย์หลวงปู่ปาน วัดบางนมโคไปหา ท่านบอกว่า “ของที่รับไว้ก็ดีแล้ว ไม่ต้องลงอีก” คราวนี้พอลูกศิษย์หลวงพ่อเดิมจะไปรับยันต์เกราะเพชร หลวงปู่ปานท่านก็บอกว่า “ของที่ได้มาก็เหลือเฟือที่จะคุ้มตัวแล้ว ไม่ต้องรับใหม่” ตกลงว่า ๒ อาจารย์ท่านบอกว่า "ความรู้ยันกัน" ท่านหนึ่งใช้คาถายันต์มหากาฬ หรือมนต์พระกาฬ อีกท่านก็ดังทางยันต์เกราะเพชร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2018 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 14-01-2018, 21:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"จริง ๆ แล้วก็กันไสยศาสตร์ได้เหมือนกัน ประเภทของหลวงพ่อกวยท่านกันกลางวัน กันกลางคืน กันทุกเวลา เรียกว่ายันต์มหากาฬหรือคาถามนต์พระกาฬ แต่ว่าจำกัดอยู่ที่ว่าถ้าไปเจอข้อห้าม หรือที่ต่ำเข้าก็จะเสื่อม แต่ถ้ายันต์เกราะเพชรเป็นพุทธานุภาพ...ไม่เสื่อมแต่รักษายากกว่า ผิดศีลก็หายไปเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2018 เมื่อ 03:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 14-01-2018, 21:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เพชฌฆาตฤกษ์ ฟังชื่อแล้วน่ากลัวค่ะ ไม่เข้าใจฤกษ์นี้ ?
ตอบ : ฤกษ์เพชฌฆาตฤกษ์ ก็แปลว่า มีอุปสรรคอะไรก็ชนะหมดทุกอย่าง จะไปกลัวอะไร ? เราอยากเกิดฤกษ์นี้ยังเกิดไม่ได้เลย

ถาม : ฤกษ์มีชื่อหลายชื่อมาก
ตอบ : มีราชาฤกษ์ โจโรฤกษ์ เทวีฤกษ์ ทลิทโทฤกษ์ เพชฌฆาตฤกษ์ ฯลฯ

ถาม : เพชฌฆาตฤกษ์ แปลว่าอะไรหรือคะ ?
ตอบ : จริง ๆ ก็คือจะชนะอุปสรรคได้ทุกอย่าง ไม่ใช่ไม่ดีอย่างที่คิดหรอก ไปคิดอะไรบ้า ๆ

ถาม : สงสัยมาตั้งแต่อายุ ๖๐ กว่าแล้วค่ะ ?
ตอบ : น่าจะให้สงสัยต่อไป สมัยก่อนเขามีอยู่ว่า ถ้าเพชฌฆาตเก่า พวกพะทำมะรงพ้นตำแหน่งไป เขาหาคนใหม่มา เขาก็ต้องหาคนที่เกิดเพชฌฆาตฤกษ์ด้วย จะได้เอาไว้ข่มนักโทษได้ แม้กระทั่งปัจจุบันเขาก็ยังเชื่อกันว่า พวกพัสดีที่ดูแลเรือนจำอะไรพวกนั้น ถ้าใครเกิดเพชฌฆาตฤกษ์ คนคุกจะไม่กล้าหือด้วย บารมีข่มคนชั่วอยู่หมัดเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2018 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 15-01-2018, 09:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บางคนจะใช้ฉายาพระเป็นนามสกุลได้ไหมครับ ?
ตอบ : ที่ใช้ฉายาพระเป็นนามสกุล มีสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถระ) วัดสระเกศ ที่ท่านให้บรรพบุรุษของผู้การรังสิต ญาโณทัย เอาฉายาท่านไปเป็นนามสกุล ญาโณทโย เป็น ญาโณทัย

คราวนี้ถ้าใช้ฉายาพระ เท่าที่ผ่านมายังไม่มีตรง ๆ แต่บางคนนามสกุลเหมือนฉายาพระชัด ๆ เลย มีหลายคน เช่น คุณชัยรัตน์ ธรรมทัตโต ก็มาจาก ธมฺมทตฺโต คุณกิตติสันต์เมื่อครู่นี้ก็นามสกุล อุตตมะ ถ้าเป็นบาลีก็ตรงกับฉายาพระได้เลย

ท่านที่ได้รับการประทานมาจริง ๆ ก็คือต้นตระกูลของผู้การรังสิต ญาโณทัย ได้ฉายาพระสมเด็จพระสังฆราชท่านไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2018 เมื่อ 12:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 15-01-2018, 17:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องการหล่อหลวงพ่อนากนั้น เม็ดเงินจะรับเฉพาะที่บ้านเติมบุญเท่านั้น เพราะว่าถึงเวลาแล้วต้องจัดสรรลงไปตามเปอร์เซ็นต์ที่กำหนดเอาไว้ ไม่สามารถที่จะไปรับเพิ่มเติมที่วัดท่าขนุนได้ ส่วนทองคำยังรับไม่อั้น เพราะว่ายังสามารถใช้หล่อหลวงพ่อทองคำต่อได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2018 เมื่อ 19:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 15-01-2018, 17:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "จิ้งจกหลวงพ่อหน่ายเนื้อกะลาตาเดียวหายากกว่าตั้งเยอะ แต่คนไปเล่นแต่เนื้องา ตลกดีเหมือนกัน ของหายากไม่เล่น ไปเล่นของหาง่าย หรือเพราะว่าหายากก็เลยไม่เล่นก็ไม่รู้ ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2018 เมื่อ 19:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 15-01-2018, 17:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โยมเอาเหล็กจารของหลวงปู่ศุขมาถวาย "ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ที่ดีกว่าอะไรทั้งหมด ขออนุโมทนาด้วย เล่มนี้ผ่านมือหลวงพ่อบุญยัง วัดหนองน้อย แล้วผ่านมือหลวงพ่อกวยมาอีกรอบหนึ่ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2018 เมื่อ 19:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 15-01-2018, 17:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ทำตะกรุดหนังหน้าผากเสือ พอถึงเวลาตัดออกมาแล้ว ส่วนที่เหลือลูกศิษย์ทิ้งเอาไว้ เผลอหน่อยเดียวขมวนกินหมดเลย ขมวนก็คือพวกแมลง

ลูกศิษย์ถามหลวงปู่บุญว่า "ก่อนหน้านี้ขมวนไม่กิน แล้วทำไมตอนนี้กินแล้ว ?" หลวงปู่บอกว่าก็เอาของดีเขาไปหมดแล้ว ก็เลยกันส่วนที่เหลือไม่ได้ เหมือนกับว่าที่สถิตจิตวิญญาณอะไรของเขาอยู่ตรงนี้ที่เดียว พอเอาของเขาไปแล้ว จะเหลืออะไรไว้กันส่วนอื่น ?

ตะกรุดหน้าผากเสืออันดับหนึ่งจริง ๆ ต้องยกให้หลวงพ่อสว่าง วัดเทียนถวาย แต่ของหลวงพ่อสว่างหายาก เขาก็เลยยกของหลวงพ่อนาค วัดอรุณฯ ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งแทน"


ถาม : หลวงพ่อสว่างแก่กว่าหลวงพ่อนาคนะครับ ?
ตอบ : ตามที่ศึกษาประวัติมา เขาบอกว่าหลวงพ่อนาคเรียนจากหลวงพ่อสว่าง แต่บางคนก็บอกว่าหลวงพ่อสว่างเรียนจากหลวงพ่อนาค เพราะว่าอายุอยู่ในรุ่นที่ใกล้เคียงกัน แล้วก็เป็นคนมอญเหมือนกัน

ถาม : หลวงพ่อนาคก็มอญ ?
ตอบ : สมัยก่อนครูบาอาจารย์ที่เก่ง ๆ ส่วนใหญ่มาจากสายมอญ สืบสายมาจากหลวงพ่อมหาเถรคันฉ่อง หรือ สมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2018 เมื่อ 19:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 15-01-2018, 18:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สนทนากับลูกศิษย์ "ลองไปถามครู (อ.เฒ่า สุพรรณ) ว่า เคยเห็นหลวงพ่อกวยทำมีดหมอที่ด้านหนึ่งเป็นรูปหนุมาน อีกด้านหนึ่งเป็นรูปพาลีให้ใครบ้าง ? หนุมานจะเป็นลักษณะเหมือนกรอบหน้าแต่ไม่ใช่มงกุฎ แต่ของพาลีจะเป็นมงกุฎ เพราะว่าพาลีเป็นเจ้าเมืองขีดขิน

วิชาเกี่ยวกับพวกลิงหรือว่าขุนกระบี่ เท่าที่ดูส่วนใหญ่ก็คือหนุมาน มีหลวงพ่อปาน วัดบางกระสอบ ทำองคต แล้วก็มีหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ทำพาลี ซึ่งไม่เหมือนใคร เพราะว่าส่วนใหญ่ที่ได้ ๆ กันมาจะเป็นวิชาเกี่ยวกับหนุมานหรือลิงลมเสียมาก แม้กระทั่งองคตของหลวงพ่อปาน วัดบางกระสอบ ก็ไม่มีใครสืบต่อ สมัยนี้ที่นิยมเรื่องหนุนดวงกัน พกองคตหลวงพ่อปานดีกว่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2018 เมื่อ 19:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 15-01-2018, 18:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เล่าให้พระฟัง "หลวงพ่อวัดท่าซุงให้วิชาหัวใจหนุมานผม แต่คราวนี้มีจุดอ่อน ผมก็เลยไม่ได้ทำ

ตอนแรกท่านเล่าเรื่องวิชาแคล้วคลาด วิชาหัวใจปลาไหลเผือก ผมขอท่านตั้งแต่สมัยยังเป็นฆราวาสอยู่เลย ท่านบอกว่า "ไม่เอา ลูกข้าหนีเขา...อายเขา มันต้องสู้ เอาหัวใจหนุมานไปก็แล้วกัน" แต่คราวนี้หัวใจหนุมานมีจุดอ่อนอยู่ตรงที่ว่า ถ้าโดนแล้วไม่ซ้ำของจะไม่ขึ้น โดนแล้วต้องซ้ำถึงจะขึ้น ก็คือ ถ้าเขาตีซ้ำของจะขึ้นเลย

คราวนี้กราบเรียนถามหลวงพ่อท่านว่า "ถ้าเขาไม่ซ้ำละครับ ?" ท่านก็บอก "น้ำค้างตกนั่นแหละเอ็งถึงจะฟื้น...!" ก็เลยเป็นวิชาเดียวที่ไม่เรียน แต่ความจริงแค่ภาวนาไม่กี่ทีก็ใช้ได้แล้ว แต่โอ้โฮ...เล่นน้ำค้างตกแล้วค่อยฟื้น

ถ้าซ้ำนี่จะสวนเลย แล้วเร็วด้วย ท่านเรียกว่าหนุมานคลุกฝุ่น ส่วนใหญ่เขาเรียกว่าหัวใจหนุมาน ที่ทำดังที่สุดก็หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว แล้วที่รอง ๆ ลงมา ท่านทำอย่างอื่นดังกว่า อย่างหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว แล้วก็หลวงพ่อจ้อย วัดบางช้างเหนือ

แต่ว่าหลวงพ่อจ้อยเขาเรียกลิงเหมือนกันกับหลวงพ่อดิ่ง คาถาปลุกก็ "หะนุมานะ" เหมือนกัน แต่ก็เรียกว่าลิง แต่ว่าของหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุนนี่ช่างแกะเก่ง แกะทรงเครื่องหนุมานชัด ๆ เลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 15-01-2018 เมื่อ 19:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 15-01-2018, 19:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "งานสวดมนต์ข้ามปีของแต่ละปีทวีความสำคัญขึ้นไปเรื่อย ๆ เราจะสังเกตว่าปีใหม่นี้ยอดอุบัติเหตุ ๗ วันอันตรายลดลงไปเยอะมากเลย เพราะว่าคนส่วนใหญ่ไปสวดมนต์ข้ามปีกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2018 เมื่อ 19:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 15-01-2018, 19:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ภาวนาหัวใจหนุมานต้องดันลิ้นไหมครับ ?
ตอบ : ทรงสมาธิไปเลย ไม่ต้องไปดันลิ้นให้เสียเวลา ที่โบราณให้กลั้นหายใจเอาลิ้นดันเพดานเพื่อที่จะให้จิตเป็นสมาธิ เราเป็นสมาธิแล้วจะเสียเวลาไปกลั้นหายใจทำไม ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2018 เมื่อ 19:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 15-01-2018, 19:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "คนจีนเขาบอกว่า ยมบาลกำหนดให้ตายยามสามไม่มีใครสามารถเลื่อนได้ถึงยามห้า เท่าที่อ่านพระไตรปิฎกมามีอายุวัฒนกุมารอยู่คนเดียว

คนเราถ้าถึงวาระอย่างไรก็ต่ออายุไม่ได้ แต่อายุวัฒนกุมารรอดมาได้ เนื่องจากว่าพระพุทธเจ้าเสด็จ คราวนี้ยักษ์ที่เขาจะมาเอาชีวิตอายุวัฒนกุมารเห็นพระพุทธเจ้าก็ไม่กล้าเข้ามา พอเลยเวลาตัวเองก็หมดสิทธิ์ เพราะเวลาของเขาต้องตรงไปตรงมา

หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเคยเล่าให้ฟังว่า มีคนเมามานอนอยู่ที่ศาลาพักร้อนหรือศาลารอรถเมล์อะไรประมาณนั้น เสร็จแล้วหัวค่ำก็เห็นคนตัวใหญ่ ๆ ดำ ๆ คนหนึ่งยืนอยู่ แล้วมี ๒ คนมารายงาน บอกว่าไปเอาชีวิตเขาไม่ได้ เพราะว่าพระล้อมสายสิญจน์สวดพระปริตรกันอยู่

เจ้านายก็บอกว่า “พวกมึงไร้ฝีมือ เดี๋ยวกูไปเอง” พักเดียวก็แบกคนกลับมาโยนโครมให้ บอกว่า “คุมตัวไป” ๒ คนก็ถามว่าแล้วเจ้านายไปเอามาอย่างไร เขาล้อมสายสิญจน์สวดพระปริตรกันอยู่ ? เขาบอกว่า "ล้อมสายสิญจน์ก็จริง แต่มีใบกล้วยทับสายสิญจน์อยู่ กูเหยียบใบกล้วยเข้าไปเอามา" โอ้โฮ...หาช่องว่างจนได้

ลูกน้องเห็นล้อมสายสิญจน์อยู่ เดินวนรอบหนึ่งก็ไปแล้ว แต่เจ้านายเก่งกว่า คนล้อมสายสิญจน์ไม่ได้สังเกตว่ามีใบกล้วยทับอยู่ จึงเหยียบใบกล้วยข้ามไปเอา ตายตามเวลาจนได้ ไม่สามารถที่จะต่ออายุได้ แบบนั้นต้องบอกว่าหมดอายุจริง ๆ

คนเมานั่นตั้งแต่วันนั้นเลิกกินเหล้าเลย เพิ่งจะเชื่อว่าเรื่องเทวดา เรื่องยมทูตมีจริง ๆ เพราะว่าเห็นแล้ว เขาบอกว่าพอเขาเอาไอ้นั่นไปไม่ถึงนาที บ้านนั้นก็ร้องไห้กันระงม เขาก็เลยเดินโซเซไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น ? มีคนบอกว่ามีคนตาย เป็นเราก็หายเมาเหมือนกัน เห็นต่อหน้าต่อตาแบบนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 17-01-2018 เมื่อ 10:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 15-01-2018, 19:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พระกาฬเปรียบไปแล้วท่านก็ยังเป็นเทวดาชั้นผู้น้อยอยู่ พอพระพุทธเจ้าเสด็จลง เทวดามามาก เทวดาชั้นผู้ใหญ่ท่านมาเยอะ ตัวเองก็ต้องถอยไปตามลำดับ แบบเดียวกับลาชเทวธิดาที่บอกว่า ตอนประชุมมหาสมัยแกต้องไปแช่ในมหาสมุทรแค่คอ

เราลองมานึกถึงว่า เทวดาอย่างต่ำสุดก็สูงถึง ๓ กิโลเมตร ลาชเทวธิดาไปยืนอยู่ในมหาสมุทรลึกขนาดนั้น ไม่มีสิทธิ์เข้าใกล้เลย เพราะว่าศักดานุภาพสู้เขาไม่ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2018 เมื่อ 19:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 15-01-2018, 19:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ด้วยความที่เล่าปี่เป็นกษัตริย์แล้วโอกาสออกรบมีน้อย เลยทำให้คนไม่เห็นฝีมือ แต่ถ้าเราไปอ่านในสามก๊กจะเห็นว่า ตอนที่ ๓ พี่น้องรบลิโป้ โอ้โฮ...ลิโป้นี่ยอดเซียนจริง ๆ ระดับของลิโป้นี่ต่อให้คุณ ๓ รุม ๑ ก็เถอะ ถ้าฝีมือไม่ดีจริงก็ตายขาดอยู่แล้ว แต่เล่าปี่สามารถที่จะปะทะฝีมือระดับลิโป้ได้ ต้องนึกว่าฝีมือเขาต้องอยู่ระดับยอดขุนศึกเหมือนกัน

ส่วนอีกคนหนึ่งที่ไม่ได้เห็นฝีมือเลยก็คือขงเบ้ง แต่ถ้าเราสังเกตรายละเอียดตอนที่เล่าปี่ไปเชิญตัว ที่ฝากระท่อมของขงเบ้งมีอาวุธสารพัดชนิด ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ก็แสดงว่าใช้งานเป็นปกติ แล้วตอนที่รบกับสุมาอี้ ขงเบ้งบอกว่าจะรบกันตัวต่อตัวหรือรบด้วยพยุหะ ? ยอดขุนศึกอย่างสุมาอี้บอกว่าขอรบด้วยพยุหะ ถ้าขงเบ้งไม่เก่งจริงป่านนี้โดนบี้ตายไปแล้ว เพียงแต่ว่าเขาไม่มีโอกาสแสดงฝีมือ มัวแต่ไปทำหน้าที่วางแผนการรบแทน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2018 เมื่อ 19:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 15-01-2018, 19:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : รบด้วยพยุหะเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : รบด้วยกระบวนทัพ ใช้ทหารแปรขบวนสู้กัน ขนาดประเภทนักศึกษาท้านักรบว่าจะรบตัวต่อตัวหรือพยุหะ ? นักรบยังต้องเลี่ยงไปรบด้วยพยุหะนี่แปลว่าอะไร ? ก็แปลว่าฝีมือจะต้องอยู่ในระดับเหนือกว่า ไม่ใช่ต่ำกว่า

เมื่อมาวิเคราะห์ ๒ จุดนี้ก็คือว่าที่กระท่อมน้อยที่เขาโงลังกั๋ง ฝากระท่อมมีอาวุธทุกชนิด แสดงว่าขงเบ้งใช้เป็นทุกอย่าง แล้วอีกอย่างพอมาท้าสุมาอี้รบด้วยพยุหะ หรือรบตัวต่อตัว สุมาอี้ขอรบด้วยพยุหะ


ถาม : แสดงว่าต้องรู้ฝีมืออยู่ ?
ตอบ : ต้องรู้เพราะว่าเป็นคนยุคเดียวกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 24-01-2018 เมื่อ 22:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 15-01-2018, 19:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ผมมาสอนวิชาพระพุทธศาสนาในประเทศต่าง ๆ พอมาถึงประเทศจีน ยังทึ่งว่าพระเจ้าโจวอู่หวังบอกว่าเห็นรัศมี ๖ สี พุ่งมาจากทางด้านทิศตะวันตก ก็ถามราชปุโรหิต ราชปุโรหิตบอกว่า บุคคลที่เป็นอัจฉริยะบุรุษเกิดขึ้นแล้ว

พอ ๓๕ ปีผ่านไป ท่านบอกว่าน้ำจากแหล่งน้ำทุกแหล่งล้นปากบ่อ แล้วก็แผ่นดินไหว มีรัศมีสีทองแผ่มาจากทางด้านทิศตะวันตก ถามราชปุโรหิต ราชปุโรหิตบอกว่าบุคคลนั้นเข้าถึงมรรคผล อีกประมาณ ๑,๐๐๐ ปีข้างหน้า คำสอนของท่านจะเข้ามาถึงประเทศจีน เขาบอกล่วงหน้าได้ขนาดนั้น ราชปุโรหิตนี่โคตรเซียนเลย

พอผ่านไปอีก ๔๕ ปี มีรัศมี ๖ สีแผ่มาจากทางด้านทิศตะวันตก ราชปุโรหิตบอกว่ากายหยาบของบุรุษนั้นกำลังแตกดับ เขาบอกได้ขนาดนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2018 เมื่อ 19:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 15-01-2018, 19:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อยู่ในหนังสือไหนครับ ?
ตอบ : อยู่ในประวัติพระพุทธศาสนาเมืองจีน คนจีนมีอะไรเขาจะบันทึกหมด ก็เลยทำให้เขามีเนื้อเรื่องค้นย้อนหลังไปได้เป็นพัน ๆ ปี

พอมาถึงสมัยพระเจ้าโจวมู่หวัง ท่านก็ฝันว่ามีบุรุษกายสีทองคำสูงใหญ่ เดินมาจากทางด้านทิศตะวันตก ก็ถามปุโรหิต ปุโรหิตบอกว่า...โน่น...สมัย ๑,๐๐๐ ปีที่แล้วมา ก็คือสมัยปู่ทวดของท่าน มีบุคคลที่เรียกว่าพระพุทธ เกิดขึ้นทางด้านทิศตะวันตก

ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่หลักธรรมของพระองค์ท่านจะแผ่เข้ามาในประเทศจีน เพราะฉะนั้นควรที่จะส่งคณะทูตเดินทางไปทิศตะวันตก แล้วพระเจ้าโจวมู่หวังจึงได้ส่งคณะทูตไป เราก็ไปเจอพระกาศยปมาตังคะ กำลังจะมาเผยแพร่หลักธรรมในประเทศจีนอยู่พอดี ก็เลยช่วยกันแห่แหนเข้ามา เอามาทั้งพระคัมภีร์ เอามาทั้งพระพุทธรูป เอามาทั้งพระบรมสารีริกธาตุ


ถาม : สมัยพระถังซัมจั๋ง ?
ตอบ : ไม่ใช่ ถ้าเป็นบาลีก็คือชื่อกัสสปะ แต่คราวนี้สันสกฤตใช้กาศยปะ เพราะว่าลัทธิที่เผยแพร่ได้กว้างที่สุดจะเป็นพวกมหายาน ซึ่งใช้ภาษาสันสกฤตเป็นหลัก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2018 เมื่อ 20:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 15-01-2018, 19:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมเคยอ่านเจอที่หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า เจ้าแม่กวนอิมสำเร็จพระอรหันต์แล้ว ?
ตอบ : พวกเราส่วนใหญ่แล้วต้องบอกว่าฟังได้ แต่ในสถานการณ์อื่นเราคุยไม่ได้ คนอื่นเขายอมรับไม่ได้ เขายอมรับกันยาก โดยเฉพาะถ้าหากไปพูดแล้วกระทบกระทั่งสายปฏิบัติอื่นนี่เป็นเรื่องทุกที่เลย

ถาม : จริง ๆ แล้วการเป็นพระอรหันต์ก็น่าจะเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือครับ ?
ตอบ : ในความรู้สึกของสายฝ่ายมหายาน พอเข้าสู่พระนิพพานแล้วก็คือสูญไปเลย ไม่เหลืออะไรไว้ เขาก็เลยชอบการเป็นพระโพธิสัตว์ที่มาช่วยเหลือคนลำบากทุกข์ยากได้ตลอดเวลา ก็เลยกลายเป็นถ้าหากเราไปพูดถึงเรื่องนี้ก็จะกระทบกันทุกที
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2018 เมื่อ 20:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:48



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว