กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 18-12-2011, 16:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "รู้หรือเปล่าว่า..ที่เต้นเชิดสิงโตจีนก็คือ ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ (Tibetan Mastiff) ไม่ใช่สิงโตสักหน่อย ลองไปดูสิงโตจีน สิงโตทิเบตสิ นั่นไม่ใช่สิงโต แต่เป็นหมาชัด ๆ"



สุนัขพันธุ์ทิเบตัน มาสทิฟฟ์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2011 เมื่อ 18:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 18-12-2011, 16:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เราเป็นผู้ใหญ่ พออวยพรให้เด็กโตขึ้นสวย ๆ อาจจะรู้สึกว่าเหลวไหล แต่ความจริงเด็กเขาต้องการอย่างนั้น น้องฟ้าใส่บาตรตั้งแต่อายุ ๒ ขวบครึ่ง อาตมาให้พรว่า "ให้โตขึ้นสวย ๆ เรียนเก่ง ๆ " น้องฟ้ามาใส่บาตรทุกวันเลย เพราะเขาอยากสวย

ส่วนอีกรายหนึ่งเป็นลูกจ่าตำรวจ เป็นเด็กผู้ชาย เวลาใส่บาตรเขาจะหิ้วมือเดียว แม่เขาบอกว่า "ใส่ ๒ มือสิลูก" เด็กก็ไม่ทำตาม ยังใส่มือเดียวอยู่นั่นแหละ เขาไม่รู้เหตุผลว่าทำไมต้องใส่บาตร ๒ มือด้วย อาตมาก็บอกว่า “ใส่ ๒ มือสิลูก คนใส่บาตร ๒ มือหล่อกว่าเยอะเลย” ทีนี้เขารีบใส่สองมือเลย ให้เขาทำถูกวิธีไปก่อน ค่อยไปเอาเหตุผลกันทีหลังว่าควรให้ทานด้วยความเคารพ

เด็ก ๆ ยังไม่เข้าใจเหตุผล แต่เขาอยากหล่อก็ต้องใส่บาตร ๒ มือ คือทำให้ถูกรูปแบบก่อน ส่วนเหตุผลจะรู้หรือไม่รู้ค่อยว่ากันทีหลัง เพราะฉะนั้น..เรื่องการพูดกับเด็กเราต้องเข้าใจเขาด้วย ถ้าไม่เข้าใจเขา บอกไปเด็กเขาก็ไม่ทำหรอก

วันก่อนอาตมาไปงานศพพี่สาว หลานนอนหลับ ตื่นขึ้นมาก็ร้องไห้ พ่อแม่ปลอบเท่าไรก็ไม่เงียบ อาตมาบอกว่า “ร้องมาก ๆ เลยลูก คนร้องไห้หน้าตาหงิก ยู่ยี่ โตขึ้นจะน่าเกลียด ถ้าคนไม่ร้องถึงจะน่ารัก” เงียบไปเลย ไม่ต้องเสียเวลาไปปลอบหรอก แค่บอกเหตุผลให้เขาฟังก็พอ

ถาม : ควรแจกวัตถุมงคลอะไรให้เด็กครับ ?
ตอบ : ตอนนี้ที่วัดท่าขนุนแจกหวายเสก..! เณรเจอหวายเสกลงก้นเข้าไป มีหลักฐานภาพถ่ายเอาไปฟ้องพ่อแม่ได้ชัดเจน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2011 เมื่อ 18:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 18-12-2011, 16:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เขาบอกว่าวัตถุมงคลทางด้านลาภผล จะต้องภาวนาคาถาเงินล้านประกอบด้วย ใครทำมากก็ได้มาก จริงหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : จริง...ยกตัวอย่างพระครูแสงก็แล้วกันนะ สมัยก่อนบวช พระครูแสงขับรถกระบะนิสสัน ส่วนอีกคันหนึ่งที่ขับคู่มาด้วยเป็นจี๊ปเชอโรกี ของตัวเองเครื่องยนต์ ๒,๐๐๐ ซี.ซี. กับอีกคันเครื่องยนต์ ๔,๐๐๐ ซี.ซี.ต่างกันมากเลย

พระครูแสงเห็นเขาวิ่งเข้าโค้งแตะเบรกทั้ง ๒ โค้งเท่านั้น เขาบอกว่า "อีกโค้งหนึ่งผมแซงได้เลย" แล้วเขาก็ทิ้งโค้งแซงเชอโรกีไปลิ่วเลย แถมมีการบ่นกลาย ๆ ว่า “กระบี่ดี..แต่คนใช้บัดซบก็ได้เท่านั้นแหละ..!”

คราวนี้เข้าใจหรือยังว่า ของดีแค่ไหนก็อยู่ที่คนใช้ ถ้าคนใช้มีความสามารถ ต่อให้มีดผ่าฟืนก็ดีกว่ากระบี่วิเศษอีก ขึ้นอยู่กับความขยันและระดับสมาธิ ถ้าทำแล้วสามารถปล่อยวางได้ ลาภผลจะไหลมาเทมาเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 19-12-2011 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 19-12-2011, 10:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ของดีแค่ไหนก็ไม่ได้อยู่ที่ของ ของดีแค่ไหนอยู่ที่คนใช้ ถ้ามีความขยันมาก ตั้งใจทำจริงสม่ำเสมอ ทุกอย่างก็จะดีทั้งหมด

อาตมาท่องคาถาเงินล้าน ท่องไปท่องมาจากเงินงอก จนกระทั่งทองคำก็งอกแล้ว ครั้งที่แล้วงอกมา ๕ บาท เพราะเป็นพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้านโดยตรง คราวนี้สร้างพระนาคปรก ทองคำงอกมา ๒ บาทกว่า ทอง ๒ บาทกว่าก็ราคา ๕๐,๐๐๐-๖๐,๐๐๐ บาทเข้าไปแล้ว

ครั้งที่แล้วงอกมา ๕ บาท ยังหาเจ้าของไม่ได้จนทุกวันนี้ อยู่ ๆ หย่อนให้มาได้อย่างไรตั้ง ๕ บาท

อาตมาตั้งใจว่าจะหล่อพระทองคำหนัก ๓๐ กิโลกรัม ตอนนี้เก็บทองคำไปเรื่อย ๆ ก่อน พอถึง ๓๐ กิโลกรัมเมื่อไรก็หล่อได้เลย เพราะแบบพระมีอยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 20-12-2011 เมื่อ 16:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 19-12-2011, 10:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาจะตัดขันธ์ ๕ ว่าไม่ดี ขันธ์ ๕ เกิดจากกิเลสตัณหาอุปาทาน ควรทำอย่างไร ?
ตอบ : ตอนแรกต้องกระจายออกให้ละเอียดที่สุด เพื่อให้สภาพจิตยอมรับว่าร่างกายนี้ไม่ดีจริง ๆ หลังจากที่ใจยอมรับแล้ว เราก็สามารถที่จะรวบยอดได้
พอกระจายออกมาก ๆ บ่อยเข้า สภาพจิตเกิดความเคยชิน เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา พอบอกว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเราใจก็เชื่อเลย ไม่เถียงอีกถึงจะใช้ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-12-2011 เมื่อ 11:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 19-12-2011, 10:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมหมาต้องหอนเวลาตีระฆังด้วยคะ ?
ตอบ : โบราณเขาบอกว่าหมาเห็นผี วิทยาศาสตร์สมัยใหม่บอกว่าคลื่นเสียงระฆังไปสะเทือนหูหมา เพราะว่าหูหมาไวกว่าคนหลายเท่า หมาก็เลยต้องส่งเสียงกลบ ไม่อย่างนั้นจะทนเสียงไม่ไหว

ถ้าหากว่าเป็นมหาสุรินทร์ (พระครูวัชรกาญจนาภรณ์) วัดศรีสุวรรณาวาส ท่านบอกว่า “พระเณรไม่ได้นุ่งชั้นใน พอขึ้นไปตีระฆังหมาแหงนขึ้นไปเห็น ก็เลย..อู้ฮู้....!”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-12-2011 เมื่อ 11:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 19-12-2011, 11:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "น้ำท่วมกรุงเทพฯ ครั้งนี้ถือว่าน้ำลดเร็วมาก เปรียบกับปี ๒๕๒๖ ปีนั้นบ้านอาตมาท่วมไป ๘ เดือน ค่อนปีเลย"

ถาม : ตอนนั้นได้เงินชดเชยกี่บาท ?
ตอบ : ไม่ได้สักบาท แถมยังไม่มีความคิดที่จะไปรื้อกระสอบทรายด้วย สมัยนี้ส่วนใหญ่ตัวกูของกูแรง ทำไมกูต้องเดือดร้อนด้วย ว่าแล้วมึงก็ต้องเดือดร้อนพร้อมกับกู รื้อกระสอบทรายเลย

ถ้าคิดกันแบบง่าย ๆ ก็คือว่า บุคคลที่อยู่ในสนามรบ ถ้าตัวเองบาดเจ็บแล้วต้องการให้คนอื่นบาดเจ็บด้วย ถือว่าเหลวไหลชัด ๆ แล้วจะให้ใครไปช่วย ? ก็ต้องมีคนดีเหลือไว้บ้าง จะได้ช่วยเราได้ เพราะฉะนั้น..ประเภทตัวเองท่วมแล้วคนอื่นต้องท่วมด้วย เป็นความคิดที่เหลวไหลมาก

บางแห่งที่คณะของเราไปช่วย อยู่ในที่ที่ไม่มีใครเข้าไปเลย เพราะไปยาก อยู่เข้าไปลึกมาก พอเข้าไปช่วยเขาจึงเป็นการให้ความช่วยเหลือเขาถึงที่จริง ๆ แบบนั้นถ้าคนอื่นท่วมด้วยแล้วใครจะไปช่วยพวกเขาได้ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-12-2011 เมื่อ 11:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 19-12-2011, 13:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ช่วง ๗-๘ วันที่ผ่านมารบกับเณรทุกวัน บางทีพ่อแม่เขามาดู เห็นลูกโดนตีต่อหน้าต่อตา อาตมาระบุเอาไว้ชัดแล้วว่า อะไรทำได้..อะไรทำไม่ได้ ถ้าทำผิดครั้งที่ ๑ โดนตีหนึ่งที ครั้งที่ ๒ สองที บวกไปเรื่อย ๆ

การลงโทษเด็ก..ถ้าเขารู้ว่าเขาทำผิด เขาจะรับได้ แต่ถ้าอยู่ ๆ แล้วไปตี เขาจะดื้อ เราต้องแจ้งกติกาก่อน เขาจึงรับได้ โบราณเขาพูดถูกที่บอกว่า รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี ถ้าพูดไม่รู้เรื่องต้องตี จึงจะสามารถทำลิงทำค่างให้กลายเป็นเณรได้

ตั้งแต่กระทรวงมีคำสั่งให้เด็กนักเรียนที่สอบตกให้ซ่อมได้ กับไม่ให้ตีเด็ก รู้สึกว่าความประพฤติเด็กแย่มากขึ้นทุกที ถ้าไม่ตีเดี๋ยวเด็กออกไปเป็นโจร สมัยนี้ถึงได้ออกไปเป็นเด็กแว้นกัน

ถ้าบวชชีที่นี่แล้วจะรู้ว่าแม่ชีวัดท่าขนุนก็โดนตี ชีโหล่โดนอาตมาตีแล้วต้องนอนคว่ำเป็นอาทิตย์ เพราะก้นแตกเป็นทางยาว นอนหงายไม่ได้ ตีให้เขารู้เพราะตกลงกันแล้วว่าทำอะไรผิด ทำอะไรไม่ผิด แล้วยังฝืนอีกก็แปลว่าสมควรโดน

พวกนี้เขารักกันมากเลยนะ มีอยู่คนหนึ่งโดนตี ๑๓ ที เขาช่วยกันรับคนละที ปรากฏว่าก้นแตกไปตาม ๆ กัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-12-2011 เมื่อ 15:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 19-12-2011, 14:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"แม่ชีคนนั้นเขาไม่รู้ว่าเขาผิด อาตมาก็บอกว่า สิ่งไหนที่เคยเตือนแล้ว ห้ามแล้วยังทำอีก ก็แสดงว่าเป็นคนที่ไม่รู้จักดีไม่รู้จักชั่ว คนประเภทนี้สมควรโดนตีกี่ที ? เขาบอกว่า ๑๒ ที เขาไม่รู้ว่ากำลังตัดสินตัวเอง พอตัดสินเสร็จอาตมาบอกว่าหันก้นมาแล้วตีเลย

สาเหตุที่ตีเพราะเขาหนีไปคุยกับเณรในป่าช้าเวลากลางคืน ถ้าไม่ตัดไฟแต่ต้นลมไว้ก่อนเดี๋ยวบรรลัยหมด คราวนี้พอพรรคพวกเห็นว่าโดน ก็เลยช่วยกันรับไปคนละทีสองที นั่นแหละ...ชีโหล่รับแทนไปทีหนึ่ง นอนคว่ำไปเป็นอาทิตย์เลย นอนหงายไม่ได้ ก้นแตกเป็นทางยาว อาตมามือหนักเกินชาวบ้านเขา...

เด็กวัดรุ่นนั้นโดนตีทุกวัน บางคนโดนตีเป็นสิบที เขาก็รับได้เพราะเขารู้ว่าเขาผิด พออาตมาไปรับสังฆทานที่กรุงเทพฯ อยู่พักเดียว กลับไปเด็กวัดหายหมด..! สอบถามถึงได้รู้ว่า อาจารย์สมพงษ์ตี ๖ ที เด็กหนีเลย

เวลาเด็กทำผิด อาจารย์สมพงษ์ท่านจะปล่อยไปเรื่อย ปล่อยจนตัวเองทนไม่ไหวแล้วไปตีระบายอารมณ์ทีเดียว เด็กเขารู้ว่าเขาไม่ได้ผิดขนาดนั้น ไปตีระบายอารมณ์นี่เขารับไม่ได้ เขาจึงหนีกลับบ้าน ส่วนอาตมาตีมากกว่าเป็นเท่าเขาไม่หนี

บางทีโยมมาใส่บาตรเห็นเด็กวัดเดินน่องลายพร้อย "โห..หลวงพ่อ ตีมันขนาดนี้เลยหรือ ?" อาตมาบอกว่า "ตีมันตอนนี้ ดีกว่าปล่อยให้มันโตแล้วกลายเป็นโจร..!"

อาตมาให้โอกาสเขามากเลย บอกว่า ๑. ถ้าข้าไม่เห็นเอง ๒.ถ้าไม่มีคนฟ้องแล้วเป็นพยาน เอ็งจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ แต่ถ้าข้าเห็นต่อหน้าต่อตา..โดน..! หรือถ้ามีคนฟ้องแล้วเป็นพยาน..เอ็งโดน..! บางทีตีไปเด็กก็บ่นพรรคพวกไป "ไอ้ห่..เอ๊ย..ทำไมต้องให้หลวงพ่อรู้ด้วยวะ" นั่นเขาตัดพ้อต่อว่ากันเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 20-12-2011 เมื่อ 16:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 19-12-2011, 14:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"มีอยู่ครั้งหนึ่งเณรหมีโดนตี ๓ ที เณรหมีนี่กินเก่ง ช่วงบ่ายก็มักจะไปฉันไมโล โอวัลติน ก่อนทำวัตร วันนั้นอาตมาไปนั่งรอทำวัตรที่กุฏิหลวงปู่สาย เณรหมีก็ไปนั่งฉันโอวัลตินที่หน้ากุฏิพระครูหน่อย คราวนี้ใกล้เวลาทำวัตรเณรก็รีบร้อนฉัน พอล้างถ้วยเสร็จก็คว่ำ ไม่ทันดูว่าถาดรองถ้วยวางหมิ่น ๆ อยู่ พอคว่ำผิดข้างก็เอียงลื่นลงไป เสียงดังเพล้ง..! อาตมาบอกว่า "นับไว้เลย ใบละที..!" พอทำวัตรเสร็จถามว่ากี่ใบ เณรหมีบอกว่า "๓ ใบครับ" "ไป..ไปเอาสายไฟมา..!"

เณรหมีอยู่วัดด้วยสาเหตุ ๓ ประการด้วยกัน ๑.กินได้เต็มที่ นี่เรื่องใหญ่ของเณรหมีเลย เพราะอยู่บ้านไม่ใช่ว่าจะกินได้เต็มที่ทุกวัน พ่อแม่มีอาชีพรับจ้าง มีงานบ้างไม่มีบ้าง ๒.ตั้งใจมาเรียนต่อ ตอนนี้กำลังเรียนมัธยม กศน.อยู่ ๓.วัดท่าขนุนมีเงินเดือนให้ ที่อื่นเณรไม่มีเงินเดือน และถ้าวัดมีงานพิเศษก็จ่ายให้อีก เพราะฉะนั้น..เสี่ยงกับไม้เรียวหน่อยก็สบาย

เณรมานพทีแรกตั้งใจจะสึกเหมือนเพื่อน พออยู่ไปพักเดียวเณรมานพบอกแม่ว่าไม่สึกแล้ว เดี๋ยวผมเรียนทางพระ เณรมานพแสบแบบคนฉลาด สุดยอดจริง ๆ อยู่พักเดียวเท่านั้นเอง เณรตัวใหญ่ ๆ เป็นลูกน้องเณรมานพหมด กลายเป็นหัวหน้าเณรไปแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-12-2011 เมื่อ 15:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 20-12-2011, 08:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เดินไม่ไหว เท้าแพลง..?
ตอบ : เอาใบพลับพลึงลนไฟแล้วพันไว้ จะหายเร็ว ใบพลับพลึงมีน้ำมันหอมระเหยที่ช่วยรักษาเรื่องข้ออักเสบได้ดีมาก ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-12-2011 เมื่อ 12:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 20-12-2011, 10:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าอายุมากแล้วไม่อยากขาดสติ ให้พยายามทำสมาธิให้มากไว้ ถ้าสมาธิทรงตัวจะไม่หลงลืม คุณยายแม่ชีเพียงเดือน ธนสารพิพิธ อายุ ๘๐ กว่าปีแล้ว หมอสแกนสมองแล้วบอกว่า แน่นเปรี๊ยะไม่มีฝ่อเลย เพราะท่านทำสมาธิทุกวัน

ปกติภาพถ่ายสมองคนแก่ เนื้อสมองที่เหี่ยวฝ่อตรงกลาง จะโบ๋เป็นช่องว่าง คุณยายแม่ชี ๘๐ กว่าปีแล้วยังแน่นเปรี๊ยะอยู่เลย เป็นการยืนยันว่าถ้าทำสมาธิสม่ำเสมอจะช่วยได้จริง ๆ ทำให้ไม่หลงไม่ลืม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-12-2011 เมื่อ 12:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 20-12-2011, 10:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีใครเคยได้ยินหลวงพ่อฤๅษีพูดบ้างไหม ? ที่ท่านบอกว่าหลังน้ำท่วมใหญ่ ๓ ปี ต่างประเทศจะตีกัน ต่างประเทศจะรบราฆ่าฟันกัน เรื่องนี้ท่านน่าจะไม่ได้บอกเป็นสาธารณะ บังเอิญว่าอาตมาได้ยิน

รออยู่ว่าเมื่อไรน้ำจะท่วมใหญ่ ปีนี้น่าจะใหญ่ได้แล้วนะ ถ้ายังมีใหญ่กว่านี้ก็โชคดีไป เหตุการณ์จะได้เกิดช้าหน่อย ถ้าใหญ่แค่นี้ก็แสดงว่าเดี๋ยวต่างประเทศก็จะฟัดกันแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-12-2011 เมื่อ 12:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 20-12-2011, 11:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรื่องเกิดสงคราม...?
ตอบ : ถ้าเกิดก็เดือดร้อนกันไปหมด ประเทศไหนที่สงครามไปไม่ถึงก็จะเดือดร้อน เพราะว่าเป็นแหล่งผลิตอาหารให้เขา ดีไม่ดีจะโดนกว้านซื้อไปจนหมด คนในประเทศไม่มีจะกิน

สภาพจิตใจคนตกต่ำไปทุกวัน จะหาอะไรมาระงับยับยั้งก็ยาก จึงใกล้เวลาของภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น อย่างปีหน้ามีเสาร์ ๕ ถึงสามครั้ง ความจริงเป็นวาระที่ท่านเปิดโอกาสให้แก้ตัว ถ้ามีคนที่รู้ ทำพิธีบวงสรวงขอบารมีพระ ขอพรหมขอเทวดาท่านช่วย ก็จะพอผ่อนหนักเป็นเบาได้ เพราะว่าเรื่องของพระ เรื่องของพรหมเทวดา ถ้าเราไม่ขอให้ท่านช่วย ท่านยอมรับกฎแห่งกรรมอยู่แล้ว ท่านได้แต่ยืนมอง ถ้ามีผู้ขอให้ช่วย ท่านถึงจะสามารถเกี่ยวข้องด้วยได้

เพราะฉะนั้น..ยิ่งมีเสาร์ ๕ มาก ยิ่งน่ากลัว มีสามครั้งนี่น่ากลัวมากเลย ยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-12-2011 เมื่อ 12:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 20-12-2011, 11:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บ้านเรามักจะเสียท่าตรงที่พ่อค้ามักจะเซ็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในเมื่อเซ็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ถึงเวลาก็ต้องส่งของให้เขาตามสัญญา ก็ต้องหาทางกว้านซื้อของในบ้านเราไป พอเขาให้ราคาแพงคนขายก็อยากขาย บางทีก็ขายเพลินจนลืมไปว่าในบ้านไม่มีจะกิน

ในหลวงถึงกำชับนักหนาว่า เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ ให้ทำเอาไว้ ใครมีที่มีทางอย่าไปขายเสียหมด พอถึงเวลาเดือดร้อนขึ้นมาจะได้อยู่ได้ เพราะยังมีกินจากนาจากไร่ของตนเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-12-2011 เมื่อ 12:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 20-12-2011, 12:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีผู้พิการทางสายตาเดินทางมาทำบุญที่บ้านวิริยบารมีหลายท่าน พระอาจารย์จึงกล่าวว่า "พวกเราเสียท่าเขา เพราะเวลากลางคืนไม่มีไฟแล้วพวกเราไปไม่เป็น อย่างโยมหลายท่านนี้ ทั้งกลางคืนกลางวันก็เหมือนกัน ไปได้หมด

นึกถึงนิทานเซนที่ว่า มีคนตาบอดคนหนึ่งเดินทางเวลากลางคืน แล้วถือตะเกียงไปด้วย มีแต่คนหัวเราะเยาะเขาว่า ตาบอดถือตะเกียงจะมีประโยชน์อะไร ? เขาบอกว่าที่เขาถือตะเกียงก็เพื่อให้คนตาดีมองเห็นเขา เขาเองทั้งกลางวันกลางคืนก็ไปได้ แต่เวลากลางคืนพอไม่มีไฟแล้วคนตาดีเดินชนเขาอยู่เรื่อย เพราะฉะนั้น..เขาก็เลยต้องถือตะเกียงให้คนตาดีเห็นเขา ฟังแล้วอนาถเป็นบ้าเลย..(หัวเราะ)..

บุคคลที่อายตนะส่วนใดส่วนหนึ่งบกพร่อง เขาจะพัฒนาส่วนอื่นขึ้นมาแทน ลักษณะอย่างนี้เกือบจะเป็นทิพจักขุญาณ คือสามารถรู้ได้โดยไม่ต้องใช้สายตา ขอฝากความคิดนี้ไปให้นายกสมาคมคนพิการทางสายตาแห่งประเทศไทยว่า ลองหาทางเปิดหลักสูตรฝึกผู้พิการทางสายตาให้ใช้ทิพจักขุญาณแทน แล้วเขาจะทำได้ดีและทำได้ง่ายกว่าด้วย เพราะเขาเคยชินกับการไม่ต้องใช้สายตาอยู่แล้ว

ถ้าเป็นอย่างนั้น เรื่องของมโนมยิทธิของเขาจะแม่นกว่าเราเยอะ ต่อไปเราก็จะมีกองกำลังสนับสนุนพระพุทธศาสนาที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ เพราะว่าเป็นความสามารถพิเศษของพวกเขาเอง พูดง่าย ๆ ว่าพวกเขาเป็นกันอยู่แล้วทุกคน เพียงแต่ว่าซักซ้อมให้คล่องตัวขึ้นเท่านั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-12-2011 เมื่อ 12:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 20-12-2011, 12:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงการถวายทานว่า "พระพุทธเจ้าเล่าพุทธประวัติสมัยที่เป็นพระเวสสันดรว่า ตอนทำบุญครั้งใหญ่พระองค์ท่านให้สุราแก่บรรดานักเลงสุรา พอเล่าจบพระอานนท์ก็ทูลถามว่า พระพุทธเจ้าให้สุราแก่นักเลงสุรา มีอานิสงส์อย่างไร ?

พระองค์ตรัสว่า การให้สุราเป็นทาน จัดเป็นทานที่ไม่มีอานิสงส์ เพียงแต่ต้องการให้ผู้รับยินดีในได้สิ่งที่ตนเองอยากได้เท่านั้น ก็คือรู้ว่าให้ไปก็ไม่ได้บุญ และถ้าไม่เข้าใจก็อาจจะกลายเป็นบาปด้วย เพราะว่าเหมือนกับไปสนับสนุนให้เขาดื่มเหล้า แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ เพราะเรื่องของธรรมะนั้นตรงไปตรงมา ถ้าคุณไม่ได้ไปบีบคอกรอกเหล้าใส่ปากเขา ก็ไม่เป็นไรหรอก เพียงแต่อยากให้เขาได้ในสิ่งที่ต้องการ แล้วนักเลงเหล้านั้นไปให้อย่างอื่นเขาก็ไม่ต้องการ ท่านก็ต้องให้เหล้าแก่เขาไป

พระเวสสันดร พระมโหสถ แม้กระทั่งพระพุทธเจ้า เมื่อเกิดมาสามารถพูดได้เลย พระเวสสันดรเกิดมาก็พูดว่า "อะมะ..ข้าแต่แม่ ข้าพเจ้าอยากจะทำทาน" พระมโหสถเกิดมาก็ "อะมะ..ข้าแต่แม่ ยาที่ถือมานี้เอาไปรักษาบิดา" ที่ได้ชื่อว่ามโหสถ เพราะท่านกำยาออกมาจากท้องแม่ ไม่รู้ว่าไปล้วงเอามาจากไหน ?"

ถาม : พระเวสสันดรเกิดมาพูดได้ยังพอเข้าใจ ส่วนพระมโหสถยังไม่ใช่ชาติสุดท้าย แต่ทำไมเกิดมาพูดได้เลยคะ ?
ตอบ : อย่าลืมว่าเป็นปรมัตถบารมีแล้วนะ

ถาม : ทำไมทั้ง ๑๐ ชาติ พูดไม่ได้ทั้งหมดคะ ?
ตอบ : บางชาติก็ไม่ใช่ปรมัตถบารมี แต่เป็นชาติที่คนเขาคุ้นเคย ลองไปอ่านดูจะรู้ว่า บางชาติท่านยังเป็นอุปบารมี แต่บางชาติในพระเจ้า ๕๐๐ ชาติที่เราคิดว่าไม่น่าจะเป็นปรมัตถบารมี แต่ก็เป็น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-12-2011 เมื่อ 12:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 20-12-2011, 12:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พอพระพุทธเจ้าประสูติเป็นสิทธัตถราชกุมารเดินได้ ๗ ก้าว ยกพระหัตถ์ชี้ขึ้นข้างบนกล่าวว่า อหํ อคฺโคหมสฺมิ โลกสฺส เราเป็นผู้ที่เลิศที่สุดในโลก อหํ เชฎฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส เราเป็นผู้เจริญที่สุดในโลก อหํ เสฎฺโฐหมสฺมิ โลกสฺส เราเป็นผู้ที่ประเสริฐสุดในโลก อยมนฺติมา เม ชาติ นตฺถิทานิ ปุนพฺภโวติ ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเรา ท่านสุดยอดขนาดนั้น คนเขาไม่เชื่อว่าเด็กอะไรเกิดมาพูดได้เดินได้เลย แสดงว่าศึกษาตำรามาไม่ครบ

พระอรรถกถาจารย์ท่านระบุเอาไว้ว่า
สัตว์บางจำพวก ขณะจุติไม่รู้ตัว ขณะเคลื่อนไปไม่รู้ตัว ขณะลงสู่ครรภ์ไม่รู้ตัว ขณะอยู่ในครรภ์ไม่รู้ตัว ต่อจนคลอดออกมาถึงรู้ตัว
อันนี้แย่ที่สุดแล้ว และเป็นบุคคลส่วนใหญ่ด้วย
สัตว์บางจำพวก ขณะจุติไม่รู้ตัว ขณะเคลื่อนไปไม่รู้ตัว ขณะลงสู่ครรภ์ไม่รู้ตัว ขณะอยู่ในครรภ์รู้ตัว คลอดออกมาก็รู้ตัว
สัตว์บางจำพวก ขณะจุติไม่รู้ตัว ขณะเคลื่อนไปไม่รู้ตัว ขณะลงสู่ครรภ์รู้ตัว ขณะอยู่ในครรภ์รู้ตัว คลอดออกมาก็รู้ตัว
สัตว์บางจำพวก ขณะจุติไม่รู้ตัว ขณะเคลื่อนไปรู้ตัว ขณะลงสู่ครรภ์รู้ตัว ขณะอยู่ในครรภ์รู้ตัว คลอดออกมาก็รู้ตัว
สัตว์บางจำพวกขณะจุติก็รู้ตัว ขณะเคลื่อนไปก็รู้ตัว ขณะลงสู่ครรภ์มารดาก็รู้ตัว ขณะอยู่ในครรภ์มารดาก็รู้ตัว คลอดออกมาก็รู้ตัว

จำพวกสุดท้ายนี่รู้ตัวตลอด พัฒนาการไม่มีอะไรมาขวางกั้น เพราะฉะนั้น..เรื่องพูดได้เป็นเรื่องเล็ก ชาติก่อนทำอะไรได้ชาตินี้ก็ทำได้ทั้งหมด แต่คราวนี้ว่า ร่างที่เกิดใหม่เป็นเด็ก เดิน ๗ ก้าวก็จะแย่เหมือนกัน ถ้าไม่เกรงใจและแข็งแรงกว่านี้คงวิ่งรอบโลกไปแล้ว

ถ้าเราเข้าใจตรงจุดนี้จะเห็นว่าไม่ใช่ของแปลก เพราะพระองค์ท่านรู้อยู่ตลอด เหมือนคนเดินข้ามจากบ้านนี้ไปบ้านโน้น เคยทำอะไรได้ก็ยังทำได้เหมือนเดิม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-12-2011 เมื่อ 12:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 20-12-2011, 13:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

บางชาติท่านเกิดเป็นนกกระจาบ ไปติดอยู่ในดอกบัวกลับมาช้า ภรรยาด่าสาดเสียเทเสีย แล้วบินเข้ากองไฟตาย เกิดมาใหม่ไม่ยอมพูดจากับใครจนกว่าสามีจะมาเกิดตาม ลองไปอ่านดูในหนังสือพระเจ้า ๕๐๐ ชาติ ไปดูเอาว่าชาติไหนเป็นบารมีต้น ชาติไหนเป็นบารมีกลาง ชาติไหนเป็นบารมีปลาย

จริง ๆ แล้วพระพุทธเจ้าเกิดเป็นพญานาคบ่อย เกิดมาก็รักษาศีล แต่โดนคนแกล้งแทบปางตายทุกที
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-12-2011 เมื่อ 15:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #80  
เก่า 20-12-2011, 17:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,002 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "วันก่อนอาตมาขึ้นเขาพระพุทธเจติยคีรีเพื่อไปดูฝรั่งเขามาถ่ายทำรายการโทรทัศน์ในวัด ตอนเดินลงมาเจองูตัวสีทองตัวหนึ่ง มองดูหน้าตาเหมือนงูเขียวปากจิ้งจก แต่เป็นสีทอง จึงจับมาถ่ายรูปไว้ เผื่อว่าจะเป็นสายพันธุ์ใหม่

อาตมาเคยเจอเขียดงู หน้าตาเหมือนปลาไหล เขาบอกว่าเป็นตระกูลเดียวกับเขียดแต่รูปร่างเหมือนงู อาตมาเจอครั้งแรกปี ๒๕๓๖ ที่เกาะพระฤๅษี ตอนนั้นออกมาปัสสาวะช่วงกลางคืน มองเห็นตัวอะไรเลื้อยอยู่ ดูจนติดแล้วก็ยังมองไม่ออกว่าเป็นตัวอะไร จึงขึ้นกุฏิไปเอาไฟฉายมา

อีเห็นที่เลี้ยงอยู่กระโดดเกาะไหล่ขึ้นมาด้วย พอส่องไฟไปเจอเข้า อีเห็นกระโดดกัดเขียดงูจนเลือดสาดเลย ต้องรีบห้ามไว้ไม่อย่างนั้นตายแน่ พอเอารูปให้ชาวบ้านดูเขาบอกว่าเป็นเขียดงู พิษร้ายที่สุด ถ้าโดนกัดไม่มียารักษา อาตมาแค่จับมาเล่น มารู้ทีหลังว่าเป็นเขียดงู


เขียดงู


แต่เขียดงูของเขาตัวออกสีดำเข้ม ๆ แต่ที่อาตมาเห็นเป็นสีเหลืองอร่ามเลย ตอนหลังเจออีกตัวแต่เล็กกว่าตัวแรก สีเหลืองเหมือนกัน น่าเสียดายที่ไม่ได้รายงานขึ้นไป ไม่อย่างนั้นอาจจะได้เจอสัตว์พันธุ์ใหม่



ปูราชินี

บ้านเราเจอสัตว์พันธุ์ใหม่อยู่เรื่อย ๆ อย่างปูราชินี ปูน้ำตก ๕ สี มีที่ในประเทศไทยเฉพาะที่ทองผาภูมิแห่งเดียว สัตว์บางอย่างชาวบ้านเขาล่ากินกันเป็นปกติ แต่ตกสำรวจไปได้อย่างไรก็ไม่รู้ แบบเดียวกับที่เวียดนาม มีแพะป่าอยู่ชนิดหนึ่ง เรียกว่า "เสาหลา" ชาวบ้านล่าไปขายในตลาดเยอะแยะ จนกระทั่งฝรั่งคนหนึ่งที่เป็นนักสัตววิทยามาเจอเข้า เขาว่าดูแปลก ๆ เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน จึงขอซื้อกะโหลกไปพิสูจน์ ปรากฏว่าเป็นสัตว์พันธุ์ใหม่จริง ๆ


สาวลา หรือ เสาหลา Juvenile Saola (Pseudoryx nghetinhensis)

กว่าจะบุกเข้าไปถึงถิ่น กว่าจะถ่ายรูปตัวเป็น ๆ ออกมาได้ใช้เวลาเป็นปี แต่ความจริงมีอยู่ทั่วไป ชาวบ้านล่ากินกันเป็นปกติ เพียงแต่ตกสำรวจ ไม่เคยมีชื่ออยู่ในบัญชี แพะป่าไม่ใช่ตัวเล็ก ๆ นะ แพะป่าตัวหนึ่งอย่างน้อย ๖๐-๘๐ กิโลกรัม ตัวขนาดนี้ยังตกสำรวจได้ พวกสัตว์ตัวเล็ก ๆ ก็ต้องตกสำรวจได้แน่ ๆ"
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg Juvenile Saola (Pseudoryx nghetinhensis) 01.jpg (80.8 KB, 818 views)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2011 เมื่อ 14:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:39



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว