ธนบัตรขวัญถุง

[หยาดฝน]

หยาดฝนได้ใคร่ครวญอยู่นาน คิดว่าน่าจะมีประโยชน์อยู่บ้าง จึงคิดจะแบ่งปันเรื่องนี้
การทำธนบัตรขวัญถุงนี้ ไม่ได้ถูกสอนอย่างเป็นกิจจะลักษณะโดยตรงจากพระอาจารย์ ดังนั้นรบกวนท่านผู้อ่านใช้วิจารณญาณอย่างสูง

ที่ว่าไม่ได้ถูกสอนอย่างเป็นกิจจะลักษณะนั้นคือ ท่านไม่ได้สอนว่า ถ้าจะทำให้ใช้ยันต์อะไร เลือกธนบัตรอย่างไร หรือพิธีและการปฏิบัติต่าง ๆ
ส่วนขององค์ยันต์นั้น เขียนตามท่านสอน สิ่งไหนท่านไม่ได้สอนและหยาดฝนประยุกต์ใช้เอง จะบอกเอาไว้ให้อย่างชัดเจนค่ะ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้อ่านในการพิจารณารับข้อมูล
ที่ต้องแจงให้ละเอียดไว้ก่อน เพื่อให้เข้าใจตรงกันอย่างกระจ่างแจ้ง และหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิดไว้ตั้งแต่ต้น หวังว่าท่านผู้อ่านจะเข้าใจเจตนาค่ะ

=====================

ยันต์ทั่ว ๆ ไปที่ใช้เขียนบนธนบัตร ส่วนใหญ่เป็นยันต์ประเภทให้ผลในทางลาภ แต่ไม่จำเป็นเสมอไป เพราะสิ่งที่อาราธนามานั้นคือ พุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ ครูบาอาจารย์บางองค์ท่านเขียนแค่อักขระตัวสองตัวก็ใช้ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นยันต์เต็ม

โดยส่วนตัวเมื่อจะเขียนยันต์ลงบนธนบัตรไทย หยาดฝนมักจะกราบขอขมา และขออนุญาตพระโพธิสัตว์บนธนบัตรก่อน (ธนบัตรต่างชาติ เชิญพิจารณาเองตามสมควร) น้อมใจลงให้สุด เขียนด้วยความเคารพสูงสุด หากมีพื้นที่ก็หลีกเลี่ยงพระพักตร์ท่านหน่อย แต่ถ้าไม่มีพื้นที่ ให้น้อมจิตให้ชัด เจตนาว่าไม่ได้เขียนเล่น และนี่ไม่ใช่แค่กระดาษ แต่เป็นวัตถุมงคลอันจะช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจคน เวลาเขียนระลึกไว้ว่าทุกอักขระแทนองค์พระ ไม่ใช่แค่ตัวหนังสือธรรมดา ส่วนอานุภาพหรืออะไร ๆ ไม่ใช่หน้าที่ เอาเข้าพิธีพุทธาภิเษกเป็นอันว่าเสร็จ

เกร็ดเล็กที่แทรกไว้ นึกได้ว่าไม่เคยกล่าวไว้ที่กระทู้ก่อน ๆ และเห็นว่าสำคัญอย่างยิ่ง คือ "ทุกอักขระแทนองค์พระ" พระอาจารย์ท่านสอนไว้ตั้งแต่ครั้งแรก ที่ไม่เคยกล่าวถึงนั้นเพราะหยาดฝนไม่รอบคอบเอง เข้าใจว่าทุกท่านคงเข้าใจตรงกันหมดแล้วว่า อักขระคืออะไร จึงไม่จำเป็นต้องกล่าวถึง ตอนนี้เพิ่งมานึกได้ว่าหลายท่านอาจจะไม่เคยรู้ จึงอยากเน้นไว้ให้ ดังนั้นทุกครั้งที่เขียนอักขระ ต้องเขียนด้วยความเคารพสูงสุด ไม่ใช่แค่เฉพาะการเขียนบนธนบัตรเท่านั้น

ที่นำมาย้ำตอนนี้ เพราะถ้าหากท่านลืมไป จะกลายเป็นโทษหรือเปล่าหยาดฝนไม่ทราบ แต่คิดเอาเองว่าไปเขียนหน้าพระโพธิสัตว์เล่น..น่าจะเป็นโทษ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ควรลืมหากต้องเขียนบนธนบัตร


ธนบัตร
ธนบัตรที่นำมาใช้นั้น จะเก่าหรือใหม่อย่างไรก็ได้ เอาที่เจ้าตัวสบายใจ

แต่มีเรื่องเล่าเล็กน้อยว่า เนื่องจากพอจะมีความรู้เรื่องยันต์อยู่บ้าง วันหนึ่งนั่งนึกขึ้นได้ว่า ยันต์ข้างในยันต์โสฬสมหามงคลนั้นคือ "ยันต์จตุโรบังเกิดทรัพย์" ชื่อก็บอกชัดว่าเพื่ออะไร และที่สำคัญคือ เป็นการนำตัวเลขมาชักยันต์ หากเรานำเลขชักยันต์มาผูกกับเลขบนธนบัตรได้ ช่างเหมาะเจาะเสียจริง ไม่มั่นใจว่าน่าจะดีหรือเปล่า จึงได้ลองทำ

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่คิดเช่นนี้เพราะพระอาจารย์เคยสอนไว้ว่า ยันต์พวกนี้เกิดจากครูบาอาจารย์ที่ท่านมีคุณวิเศษผูกไว้ แล้วอธิษฐานจิตทับไปว่า ให้มีอานุภาพเช่นไร ตามความเข้าใจของหยาดฝนคือ เหมือนสูตรเลข หรือสูตรอาหาร ถ้าเราทำตามสูตรของท่าน ผลก็เกิด ดังนั้นหยาดฝนแค่จำว่า เรื่องอื่นไม่ใช่หน้าที่ของเรา คือผลของยันต์ไม่ใช่เรื่องของเรา เจ้าของท่านทำมาดี สุดท้ายถ้าหาเจ้าของไม่ได้ ก็กลับไปที่พระอาจารย์สอนว่า ทุกอักขระแทนองค์พระ นั่นแหละค่ะเจ้าของ

เลขเรียงตามการชักยันต์จตุโรบังเกิดทรัพย์ หยาดฝนเอาแค่เลข ๓ ตัวท้าย ใครมีปัญญาหามาครบ ๙ ตัว หยาดฝนขอคารวะ เพราะปัจจุบันเลขบนธนบัตรมีแค่ ๗ ตัว ลำพัง ๓ ตัวก็ลำบากเต็มที

พอเก็บได้ก็นำไปเข้าพิธีเสาร์ ๕ (ธนบัตรเลขเรียงตามจตุโร ฯ ยังไม่ได้เขียนอะไร ไปเปล่า ๆ เลย)
ในครั้งนั้นพระอาจารย์ท่านว่าเป็นพุทธคุณทางด้านอื่น ซึ่งไม่ใช่ลาภ แต่พอเสร็จพิธีท่านก็พูดผ่านเครื่องกระจายเสียงว่า "มหาเศรษฐีมาจากไหน ?" หยาดฝนเก็บเงียบไว้อยู่นานหลายปี จึงไปกราบเรียนให้ท่านทราบ พร้อมนำหลักฐานไปมอบตัว

เป็นอันว่าเลข ๓ ตัวท้ายของธนบัตร ช่วยหรือไม่ก็ไม่อาจทราบได้ ท่านผู้อ่านพึงพิจารณาเอง เพราะหยาดฝนก็จนด้วยปัญญา..คิดไม่ออก

แต่ใครอยากเก็บธนบัตรแบบที่หยาดฝนกล่าวถึง นี่คือสิ่งที่นำมาแบ่งปันค่ะ
เชิญกระทู้ ยันต์(ตะกรุด)โสฬสมหามงคล
จะเห็นว่าที่พี่วาโยรัตนะได้อธิบายไว้ครบถ้วน แต่ในที่นี้เราให้ความสนใจไปที่ยันต์ชั้นในสุด แปลงเป็นตัวเลขดังนี้



ท่านที่ชอบความสมบูรณ์แบบ จะเรียงลำดับเลขให้ตรงตามตำแหน่งในตาราง คือ เรียงขึ้น-ลง เรียงซ้าย-ขวา หรือทแยงมุม ก็ตามชอบใจ



หรือถ้าบางท่านที่ไม่ได้ชอบความสมบูรณ์แบบ ก็เรียงอย่างข้างต้น แต่สลับตำแหน่ง เช่น แทนที่จะเป็น ๔-๙-๒ ก็เป็น ๙-๒-๔ เป็นต้น
หรือบางท่านขอแค่มีเลขอยู่ในตารางก็พอใจ ก็เลือกมาสัก ๓ ตัว แต่แนะนำว่าให้เป็นสามตัวคนละแถวกัน จะเป็นแถวตั้ง หรือแถวนอน
หรือเลขธนบัตรไม่อยู่ในยันต์จตุโร ฯ เลยก็ยังใช้ได้ เอาตามที่ท่านสบายใจ ใจเชื่อว่า "ใช่" ก็ "ใช้ได้" หมด

ดังนั้นหากอ้างอิงตามท่านที่ชอบความสมบูรณ์แบบ คือเลขเรียงตามจตุโร ฯ และไม่สลับตำแหน่ง จะมีเลข ๘ ชุด กลับหน้าไปหลัง กลับหลังไปหน้า

[หยาดฝน]

ยันต์
ยันต์มหาเศรษฐี

ยันต์ในตำราพระบูรพาจารย์ที่เป็นทางลาภโดยตรง ก็เห็นจะมีแต่ยันต์มหาเศรษฐีเท่านั้น

สัมปฏิจฉามิ

จะว่าหยาดฝนเป็นนักลอกเลียนแบบก็ไม่ผิดนัก เพราะเรียน (เลียน) มาจากพระอาจารย์ อะไร ๆ ท่านก็เขียน "สัมปฏิจฉามิ" หมด ในการเขียนเพื่อลงธนบัตร หยาดฝนจึงเห็นควรว่าใช้ "สัมปฏิจฉามิ" ไปด้วย คาถาเดียวครอบคลุมทุกอย่าง

ในตำราพระบูรพาจารย์ หน้า ๕๒ กล่าวไว้ว่า
"พระคาถาสัมปฏิจฉามิ" ใช้ได้ทุกอย่างตามแต่จะอธิษฐาน ถ้าใช้หายตัวเวลาถอนกลับว่า "อิติมุลา"


พระคาถาเงินล้าน
ไม่น่าจะต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติม ชัดเจนอยู่ในตัว หาอ่านเพิ่มเติมได้จากหนังสือ "คู่มือภาวนาพระคาถาเงินล้าน"
อักขระขอมที่กระทู้ "พระคาถาเงินล้าน"

ถ้าท่านใดบอกว่าจำอักขระไม่ได้ ให้สังเกตไว้ว่าถ้าเขียนยาว ๆ ก็เดาไว้ก่อนว่าพระคาถาเงินล้าน บางท่านก็สังเกตตรงที่จบไว้ว่า "ฤๅฤๅ" แต่แค่บอกไว้ว่า ตรงนี้ก็ต้องแล้วแต่คนเขียนอีกเช่นกัน ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเขียน "ฤๅฤๅ" แบบภาษาไทย เพราะจริง ๆ อักขระขอมก็มี "ฤๅฤๅ" เป็นของตัวเอง เพียงแต่เพื่อเจตนาใด ๆ ก็แล้วแต่ของผู้เขียน จึงใช้เป็นแบบภาษาไทยไว้

[หยาดฝน]

อื่น ๆ
องค์พระ
เป็นนักลอกเลียนแบบอีกเช่นกัน อะไร ๆ พระอาจารย์ก็ใช้องค์พระ จึงใช้ตาม
จริง ๆ แล้วอยากให้เห็นความสำคัญสักนิดว่า เพราะองค์พระครอบคลุมหมดทุกอย่าง "พุทโธ อัปปมาโณ" ไม่ว่าจะเป็นแคล้วคลาด เมตตามหาเสน่ห์ มหาเศรษฐี และที่สำคัญยังเป็นพุทธานุสติ ธรรมานุสติ และสังฆานุสติ โดยตรงกว่ายันต์ไหน ๆ ไม่ต้องมาอธิบายให้ฟังกันว่า หมายถึงอะไร มีที่มาอย่างไร

อย่างที่เคยกล่าวไปข้างต้นว่า หน้าที่อื่น ๆ ไม่ใช่หน้าที่คนเขียน เป็นเรื่องของเจ้าของยันต์ท่านอธิษฐานกำกับไว้
คนเขียนมีหน้าที่อะไร ? เคยกล่าวไปแล้วกระทู้ "ยันต์ทำน้ำมนต์" เรื่องสมาธิเต็มอัตรา นั่นคือหน้าที่เดียวของผู้เขียน

"สมาธิเต็มอัตรา" คือ สำหรับคนจับภาพพระ ควรเห็นสว่างสดใสเป็นแก้วประกายพรึกเท่าที่สุดที่จะทำได้ (สว่างให้ตาบอดไปเลย)
เริ่มจับภาพพระตั้งแต่จรดจุดแรกของยันต์ จนกว่าจะจรดจุดสุดท้าย

ยันต์ชนะ
อันนี้เป็นโดยส่วนตัวเองที่ใช้เขียนลงบนธนบัตร เหตุผลทั้งหมดเคยได้กล่าวไว้ในกระทู้ยันต์ชนะหมดแล้ว ที่ไม่พูดซ้ำเพราะเกรงว่าจะเบื่อกัน ใครสนใจก็กลับไปดูน่าจะสะดวกกับทุกท่านที่สุด

การอัญเชิญยันต์ชนะไว้บนธนบัตร มีจุดประสงค์ชัดเจนให้ทุกท่านพึงเข้าใจว่า ที่เรามีทุกวันนี้ได้เพราะพระเมตตาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงประกาศพระศาสนาไว้ ให้เราได้มีพระธรรมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และพระสงฆ์เพื่อสืบต่อพระธรรมของพระพุทธองค์จนมาถึงปัจจุบัน เมื่อท่านทั้งหลายได้นึกถึงพระเมตตาแห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็ตั้งหน้าตั้งตามุ่งมั่นในความดี ในเมื่อก้าวเข้ามาทางธรรมแล้ว..ก็แค่ก้าวต่อไปอีกก้าว เมตตาตนเอง พากเพียรเอาชนะตนเอง เช่นนี้เป็นทางที่จะตอบแทนพระเมตตาแห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และครูบาอาจารย์ได้ดีที่สุด

อีกอย่างหนึ่ง พระคาถาประจำยันต์ชนะคือ “กรณียเมตตสูตร” คือความเมตตา ในการทำงานต่าง ๆ ให้ได้มาซึ่งรายได้ เราต้องอาศัยความเมตตาจากผู้อื่นช่วยเกื้อหนุน นี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ กราบอาราธนาไว้บนธนบัตร พระคาถานี้ช่วยให้ทั้งมนุษย์และไม่ใช่มนุษย์เมตตา พึงขอความช่วยเหลืออะไร ท่านจะได้สงเคราะห์ให้ความช่วยเหลือ

เมื่อมีกินมีใช้แล้ว อย่าเอาแต่หล่อเลี้ยงให้กิเลสเติบโต เพลิดเพลินหลงระเริงกับ "รัก โลภ โกรธ หลง" จนลืมเมตตาตนเองว่า ท้ายที่สุดแล้วเราไม่อาจล่วงพ้นทุกข์ไปได้ด้วยเงิน แต่จะล่วงไปได้ด้วยการเอาชนะกิเลส พ้นสังสารวัตรนี้ไป


พระคาถาอื่น ๆ
บ่อยครั้งที่จะเห็นธนบัตรขวัญถุงมีอักขระอื่น ๆ ซึ่งเป็นคาถาทางด้านลาภ เช่น
พระคาถาเสกของภายในร้าน (ตำราพระบูรพาจารย์ หน้า ๔๙)

"นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง อะสุนะอะ"
พระคุณท่าน ฯ บอกว่าให้เสกของด้วยพระคาถานี้ คือ พระคาถาพระพุทธเจ้า ๑๖ พระองค์ โดยให้เจ้าของนำมาอย่างละชิ้น เสกไว้ภายในร้าน จะขายของดี

[หยาดฝน]

ตัวอย่างธนบัตรเลขท้าย ๓ ตัวเรียงตามยันต์จตุโร ฯ แบบสมบูรณ์แบบ
ครบทั้ง ๘ ชุด รวมแบบหน้าไปหลัง และกลับหลังมาหน้า ทั้งหมด ๑๖ แบบ

[หยาดฝน]