กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 06-04-2010, 10:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๓

ถาม : ตอนนี้ผมเห็นหลวงพ่อฤๅษี อยากทราบว่าเป็นองค์จริงหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เห็นท่านก็ไปถามท่านสิ มาถามอะไรกับอาตมา..!

ถาม : เจอท่านตลอด โดยเฉพาะตอนตื่นขึ้นมาจะเห็นท่านตลอด ไม่รู้ว่าเป็นบ้าหรือเปล่า ?
ตอบ : เคยอ่าน เคยฟัง เคยปฏิบัติตามที่หลวงพ่อท่านสอนมาก่อนหรือเปล่า ?

ถาม : เป็นก่อนที่จะไปฝึกมโนฯ ครับ
ตอบ : ถ้าคุณเคยอ่านหนังสือของท่าน เคยฟังเทปของท่าน หรือเคยปฏิบัติตามที่ท่านสอน ก็จะมีอยู่ประโยคหนึ่งว่า กราบขอบารมีพระพุทธเจ้าขอให้เรารู้เห็นตามความเป็นจริง ตรงนี้แหละเป็นไม้ตายเลย ครูท่านให้เอาไว้ ถ้าหากไม่ใช่ของจริง จะอยู่ไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-04-2010 เมื่อ 15:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 272 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 06-04-2010, 12:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนที่ฝึกมโนฯ เวลาเจอภาพจะเป็นแก้วหมดเลยครับ ตรงนี้หมายถึงอย่างไร ?
ตอบ : ถ้าสมาธิดี วิปัสสนาญาณดี ภาพก็เป็นแก้ว ถ้าสมาธิไม่ดี วิปัสสนาญาณไม่ดี อาจจะเป็นอิฐเป็นปูนก็ได้
เอาไว้วัดสมาธิและวิปัสสนาญาณของตนได้ ถ้าสมาธิดีภาพที่เห็นจะชัดเจนแจ่มใส แปลว่าในช่วงนั้นเรามีการพิจารณาวิปัสสนาญาณดี มีการทรงสมาธิดี ก็สามารถที่จะเห็นได้ชัดเจน ถ้าหากว่ามัวหรือมีข้อบกพร่องอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ศีลอาจจะบกพร่องไม่สมบูรณ์ ก็มัวได้

ถาม : ทุกวันนี้ก็ยังไม่หาย ?
ตอบ : ไม่ต้องไปใส่ใจ ให้รู้เห็นได้ก็พอ ต่อให้ไม่เห็น..ให้รู้ได้ก็พอ ถ้ามัวไปใส่ความชัดเจนอยู่ ชาตินี้ไม่ต้องไปฝึกปฏิบัติหรอก เสียเวลาเปล่า..!

ถาม : อย่างนี้เขาเรียกว่าทิพจักขุญาณหรือเปล่า ?
ตอบ : มโนมยิทธิเป็นทิพจักขุญาณอยู่แล้ว

ถาม : แล้วอุปจารสมาธิละครับ เป็นอารมณ์..?
ตอบ : ก็คือ อารมณ์ตอนนี้แหละ

ถาม : อย่างไรครับ ?
ตอบ : อุปจาระ แปลว่า ขอบเขต อุปจารสมาธิ คือ อยู่ในขอบเขตของสมาธิ ยังไม่ทรงตัวเป็นอัปปนาสมาธิ คือ สมาธิแนบแน่นตั้งแต่ปฐมฌานขึ้นไป
อุปจารสมาธิเป็นกำลังใจปกติธรรมดาของเรา ที่ใช้ความตั้งใจเพิ่มขึ้นไปอีกนิดเดียวเท่านั้นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-04-2010 เมื่อ 15:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 250 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 06-04-2010, 12:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เสียงสวดมนต์ขณะปฏิบัติสมาธิเป็นนิวรณ์หรือเปล่าครับ
ตอบ : นิวรณ์คุณเข้าใจว่าเป็นอะไร ?

ถาม : ความพอใจในรูป, รส, กลิ่น, เสียง, โทสะ, ความคิดฟุ้งซ่าน, ความลังเลสงสัย, และความง่วงเหงาหาวนอน
ตอบ : แล้วเข้าเกณฑ์ไหมล่ะ ?

ถาม : จัดว่าเป็นเสียง ใช่หรือเปล่า ?
ตอบ : ถ้ากำลังใจเข้าสู่อุปจารสมาธิ ความเป็นทิพย์ ทั้งรูป ทั้งกลิ่น ทั้งเสียงต่าง ๆ เราสามารถสัมผัสได้ เพราะฉะนั้นถ้าได้ยินเสียงสวดมนต์ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลก

นิวรณ์ของเสียง ส่วนใหญ่ก็คือเสียงในเพศตรงข้าม ที่เราได้ยินแล้วก่อให้เกิดราคะ ก่อให้เกิดโทสะ เป็นต้น ถ้าหากเสียงนั้นไม่ก่อให้เกิดราคะ โทสะ โมหะขึ้นมา ไม่จัดว่าเป็นนิวรณ์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-04-2010 เมื่อ 16:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 248 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 07-04-2010, 09:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนนี้เหมือนกับว่างานที่ผมอยู่ทำสำเร็จดีครับ แต่เกิดความรู้สึกว่าเบื่อ
ตอบ : เบื่อก็เลิกทำสิวะ..!

ถาม : มันเบื่อเหมือนไม่อยากทำเลย ทำแล้วไม่เหมือนก่อนที่ยังสนุกอยู่ ตอนนี้ไม่อยากทำ ไม่อยากเจอ ไม่อยากพูดกับใคร ผมควรจะทำหรือปฏิบัติตัวอย่างไรดีครับ ?
ตอบ : ไปบวชซะ..!

การปฏิบัติพอไปถึงระดับหนึ่ง จะเกิดอารมณ์นิพพิทาญาณ คือ ความเบื่อ จัดเป็นอารมณ์ที่ดีมาก เพราะถ้าไม่เบื่อ เราก็อยากจะเกิดมาทุกข์อีก จริง ๆ แล้ว เราต้องประคับประคองความเบื่อนี้เอาไว้ แล้วพิจารณาให้เป็นธรรมดา ในเมื่อเราเกิดมา มีหน้าที่ทำมาหากินเป็นปกติอย่างนั้นเราก็ทำไป ถือแค่ว่าทำตามหน้าที่ ถ้าตายตอนนี้เราก็เลิกทำ..จบ

ต้องพยายามคิดตรงนี้ให้ได้ ถ้าข้ามตรงนี้มาได้จะเป็นสังขารุเปกขาญาณ เป็นอารมณ์ปล่อยวาง ไม่ไปแบกเอาไว้ ความเบื่อก็ไม่มี หรือไม่ก็ใช้วิธีอย่างที่ว่า เบื่อมาก ๆ ก็ไปบวช จะได้เบื่อหนักเข้าไปอีก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2010 เมื่อ 10:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 237 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 07-04-2010, 09:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนนั่งสมาธิ ผมก็ทำอย่างหลวงพ่อ ก็คือบวงสรวงก่อน ผมจะเจอเทวดา ท่านก็บอกว่า เป็นคำสั่งของท่านท้าวมหาราชให้มาคุ้มครอง ตรงนี้จริงหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : บุคคลที่ปฏิบัติสมาธิได้ตั้งแต่อุปจารสมาธิขึ้นไป ท่านท้าวมหาราชจะให้เทวดามาคุ้มครองเป็นปกติอยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2010 เมื่อ 10:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 248 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 07-04-2010, 10:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การบวช เราต้องให้ผู้ปกครองรับทราบด้วยหรือเปล่า เพราะพ่อผมไม่อยากให้แม่มา ?
ตอบ : ถ้าหากว่าบวช ควรจะบอกพ่อ บอกแม่ก่อน เพื่อให้ท่านโมทนาด้วย ถ้าหากว่ามีครอบครัวจำเป็นต้องคุยให้รู้เรื่องก่อน เพื่อที่โลกจะได้ไม่ช้ำ ธรรมจะได้ไม่เสีย ไม่ใช่ว่าทิ้งไปเฉย ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2010 เมื่อ 10:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 243 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 07-04-2010, 10:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์บอกกับผู้ที่ขอให้สร้างรูปท่านแม่ทั้งสาม รุ่นที่ ๒ ว่า "ทำวัตถุมงคลอย่าไปย่ามใจ เห็นว่าเสียงตอบรับดี ไปทำซ้ำอีก เจ๊งมาเยอะแล้ว ตรงนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2010 เมื่อ 13:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 08-04-2010, 18:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พวกไฟไหม้หรือโรคระบาด เกิดจากกรรมเก่าที่ไปทำร่วมกันมา พอถึงเวลาเทวดาจะมากำหนดเขตไว้เลย ถ้าหากเรารู้ทันและแก้ไข ก็จะไม่โดน ถ้ารู้ไม่ทันและแก้ไขไม่เป็น ก็จะเป็นไปตามวาระกรรมของตัวเอง

คำว่า รู้ทัน ก็คือ พอเห็นว่ามีการขึงเชือกตีเขตเอาไว้ ก็รีบบอกเลย ขอให้เว้นไว้สักหลังหนึ่งเถอะ แล้วจะให้เราทำบุญอะไรให้ท่านก็ว่าไป

ตอนไปหาดใหญ่ บ้านของคุณอุษณีย์ เขาเป็นห้องแถวไม้ ปรากฏว่าไฟไหม้ ญาติโยมก็ตาลีตาเหลือกลุกพรวดพราดไปช่วยกันเก็บของ ไฟที่ไหม้มานั้น ยังห่างอยู่อีกช่วงเดียว ช่วงเดียวก็คงหลายคูหา ส่วนใหญ่เขาก็ทิ้งของไว้ เอาเฉพาะของที่พอขนออกมาได้ เอามาเรียง ๆ ไว้ข้างฝา ตรงที่เรารับสังฆทานอยู่นั่นแหละ

ถามเขาว่า ที่บ้านมีธงมหาพิชัยสงครามอยู่หรือเปล่า ? เขาบอกว่ามี ก็เลยบอกโยมว่า "ถ้ามีธงอยู่ไม่ต้องกลัวหรอก ตั้งใจอาราธนาเสียตั้งแต่ตอนนี้ ไฟไหม้ไม่ถึงบ้านหรอก" โยมเขาก็ตั้งท่าอาราธนาเสียดิบดี

ตอนนั้นพระครูแสงยังไม่บวช เขาก็มองซ้ายมองขวา แล้วก็พูดว่า "หลวงพี่ผมหยิบมาด้วย..!" เขาแกะธงมหาพิชัยสงครามติดมือมาด้วย แต่บุญของเขายังดีอยู่ เพราะไฟไหม้มาสี่ห้อง แล้วเขาสกัดไว้ได้ก่อน ไม่อย่างนั้นแล้วคุณแสงโดนตื้บแน่นอนเลย เขาติดธงไว้กับบ้าน ดันไปแกะมาด้วย "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2010 เมื่อ 03:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 08-04-2010, 18:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนนี้พยายามจะระงับอารมณ์กามราคะ เวลามันเกิดขึ้นก็จะภาวนาคาถาเงินล้าน เหมือนเป็นระบบอัตโนมัติ พอเกิดราคะปั๊บ ก็จะภาวนาเลย แล้วก็จะทำให้ไม่ปรุงแต่งต่อได้
ตอบ : จริง ๆ แล้ว กรรมฐานทุกกองสามารถระงับราคะ โทสะ โมหะ ได้ทั้งนั้น สำคัญว่าทำถูกวิธีหรือเปล่า ? การภาวนาคาถาเงินล้านเท่ากับเราใช้อานาปานสติ ยิ่งสมาธิสูงเท่าไร ก็สามารถสกัดราคะได้เร็วเท่านั้น

ถาม : ต้องทำอย่างไรต่อหรือเปล่า หรือแค่นี้ก็เพียงพอ ?
ตอบ : เป็นไปได้ก็ให้หมอเขาผ่าตัดออกไปเลย (หัวเราะ) นี่พูดเล่นนะ ต่อให้ตัดทิ้งก็ไม่มีประโยชน์หรอก เพราะว่าเรื่องของราคะ โลภะ โทสะ โมหะ เป็นอารมณ์ใจ กายเราเป็นแค่ส่วนเนื่องถึงเท่านั้น

พอพิจารณาให้เห็นทุกข์เห็นโทษ เบื่อหน่ายในราคะ จะได้คลายกำลังใจออกมา เลิกลาไปเอง แต่อย่ารีบทำเร็วนะ ถ้ายังมีครอบครัวและยังหนุ่มยังสาวอยู่ เดี๋ยวจะเดือดร้อน คนหนึ่งถึงเวลาแล้วหมดอารมณ์ แต่อีกคนหนึ่งยังมี เดี๋ยวได้ตีกันตาย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2010 เมื่อ 03:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 225 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 08-04-2010, 18:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ปกติจับลมสามฐาน พอสมาธิดีนิดหนึ่งเกิดเห็นนิมิตมีแสงอะไรขึ้นมา แล้วจะลดเหลือฐานเดียว ตรงนี้คือสติลดลงหรือเปล่า ?
ตอบ : แสดงว่าคลายจากการภาวนา ไปสนใจในนิมิต แต่จริง ๆ แล้ว จะสามฐานหรือฐานเดียวก็ตาม ถ้าหากสามารถที่จะจับลมได้คล่องตัวเท่าเดิมก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าหากได้ไม่เท่าเดิม แสดงว่าส่วนของสมาธิลดลงไปแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2010 เมื่อ 03:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 08-04-2010, 18:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาภาวนาเกิดอาการควบแน่นเหมือนจะระเบิด เล่าให้สามีฟัง สามีบอกว่าเป็นเพราะเครียดเกินไป
ตอบ : ไม่ใช่จ้ะ ลักษณะจะไปแบบมโนฯ เต็มกำลังอย่างหนึ่ง ถ้าหากไม่ใช่ไปแบบมโนฯ เต็มกำลัง ก็จะเริ่มเป็นฌานสามจะขึ้นเป็นฌานสี่ ซึ่งจะมีอาการเหมือนกับตึง แน่นเข้า ๆ บีบเข้ามา ๆ

ถ้าหากว่าเป็นมโนฯ บางทีหัวใจเต้นเร็วขึ้น ๆ เหมือนอย่างกับจะขาดใจลงไปตอนนั้น ขู่ให้รู้สึกว่ากลัวหรือเปล่า ถ้าไม่กลัว ตัดใจตายเป็นตายก็ไปเลย แต่ถ้ายังตัดใจไม่ได้ จิตยังเกาะอยู่กับร่างกายมาก ก็ไปไม่ได้

แต่ถ้าเป็นสมาธิที่จะก้าวขึ้นสู่ฌานสามฌานสี่จริง ๆ ไม่ใช่ระเบิด แต่จะแน่นเข้ามาเรื่อย ๆ จนกระทั่งท้ายสุดรวมเหลือจุดเดียว แล้วก็สว่างอยู่ แสดงว่าของเราน่าจะเป็นแบบมโนมยิทธิเต็มกำลังมากกว่า


ถาม : แต่ที่เคยหลุดออกไป บางทีก็ไม่มีแบบนี้ ?
ตอบ : ไม่จำเป็น ขึ้นอยู่กับกำลังของเราตอนนั้น ว่าทำอย่างไร

ถาม : แล้วถ้าผ่านไปได้แล้วครั้งหนึ่ง จะเกิดได้อีกเรื่อย ๆ ไหมคะ ?
ตอบ : เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากไปให้ความสนใจ ก็จะไม่มาอีก อยากให้เกิด ก็ไม่มาอีก แต่ถ้าไม่สนใจเดี๋ยวก็มา นักปฏิบัติส่วนใหญ่พอทำได้แล้ว ถ้าให้ไปทำซ้ำอยากได้อารมณ์อย่างนั้น แล้วจะไม่เจออีกเลย เพราะไปให้ความสนใจมาก เลยกลายเป็นฟุ้งซ่าน

ถาม : ตอนหลังไปเป็นตอนขับรถ หนูเลยต้องหยุด
ตอบ : ให้มันระเบิดไปเลย เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาขับรถ ต่อไปจะไปไหนก็สบาย (หัวเราะ)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2010 เมื่อ 03:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 08-04-2010, 18:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระเอกสองคนในมังกรคู่สู้สิบทิศ โกหกเป็นไฟ เอาตัวรอดอย่างนี้ มุสาใช่หรือเปล่าคะ ?
ตอบ : นั่นเป็นปัญญาของเขาอย่างหนึ่ง เพียงแต่เป็นโลกียปัญญา เป็นปัญญาในทางโลก ถ้าปัญญาในทางธรรมนี่อีกอย่างหนึ่ง

อย่าลืมว่าเขาไม่ได้ปฏิบัติธรรม แต่พอนาน ๆ ไป เขาปฏิบัติแล้ว พื้นฐานนิสัยของคนสองคนต่างกัน ก็เลยทำให้คนหนึ่งปฏิบัติไปแล้ว ยิ่งทำตัวห่างจากโลกไปเรื่อย ๆ ส่วนอีกคนหนึ่งปฏิบัติไปแล้ว ไปร่วมช่วงชิงแผ่นดินกับเขา ขึ้นอยู่กับจริตนิสัยของตัวเอง แต่ว่าเกิดจากพื้นฐานคัมภีร์อมตะทั้งคู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2010 เมื่อ 03:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 08-04-2010, 18:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่ให้เด็กเขาเรียนดนตรี ทำให้เขาไปหลงใหลในรูป รส กลิ่น เสียง หรือเปล่า ?
ตอบ : ถ้านิสัยจะหลง ถ้าไม่หลงดนตรีก็ไปหลงอย่างอื่น ถ้าไปหลงหนุ่ม ๆ ก็จะแย่กว่านั้น เพราะฉะนั้นให้ไปหลงดนตรีดีกว่า

ถาม : ลูกคนเล็กเวลาดูทีวี ชอบชมว่าคนนั้นหล่อ คนนี้หล่อ
ตอบ : ต้องดูด้วยว่าพื้นฐานบุญเก่าเขาดี ในเมื่อเขาทำมาดี รูปร่างหน้าตาก็ออกมาดี แต่ถ้าหากไม่ได้มีการเสริมสร้างต่อ เดี๋ยวก็หมดไป

เราเป็นแม่ก็ต้องมีหน้าที่อธิบายให้เขาฟัง ให้เขารู้ว่าความดี ความสวย ความหล่อ ต่างกันอย่างไร ? สิ่งใดเป็นความดีที่มั่นคง เป็นความดีที่แท้จริง เป็นที่ยอมรับกันทั่วไป สิ่งใดไม่ยั่งยืน แค่ชั่วครั้งชั่วคราว

สอนลูกลำบาก ต้องปากเปียกปากแฉะไปเรื่อย ที่เขาบอกว่าสอนจนปากจะฉีกถึงหูนั่นแหละ


ถาม : ตอนกลางคืนก่อนนอน จะให้เขาสวดมนต์ กลายเป็นว่าลูกคนหนึ่งชอบ ลูกอีกคนไม่ค่อยจะสนใจ อย่างนี้ควรปล่อยเขาไปก่อนหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ปล่อยไม่ได้จ้ะ ต้องบังคับ มาสวดมนต์ให้จบก่อน แล้วจะไปทำอะไรก็ไป ถ้าไม่บังคับเดี๋ยวไปไกล
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-04-2010 เมื่อ 15:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 11-04-2010, 12:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมเป็นโรคหัวใจ
ตอบ : คนเป็นโรคหัวใจเขาห้ามเครียด ต้องฝึกกรรมฐานบ่อย ๆ ให้กำลังใจของเรานิ่ง หลายคนทำไปแล้วหาย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2010 เมื่อ 15:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 11-04-2010, 12:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาทำสังฆทาน เราควรตั้งพระพุทธรูป หันหน้าไปทางท่าน หรือควรหันหน้าออกมาหาตัวเอง ?
ตอบ : อยู่ที่เราชอบจ้ะ สำคัญตรงว่าได้ประเคนหรือเปล่าเท่านั้นเอง ถ้าตั้งใจถวาย จะหันพระไปทางไหน อาตมาก็รับจ้ะ บางท่านชอบเห็นหน้าพระ ก็หันหน้าเข้าหาตัวเอง บางท่านก็คิดว่าหันหน้าเข้าหาผู้รับจะเหมาะสมกว่า

แล้วแต่เขาชอบ ไม่ได้เป็นข้อจำกัด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2010 เมื่อ 15:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 11-04-2010, 12:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "รูปหล่อท่านแม่ทั้งสามที่วัดท่าซุง เป็นฝีมือของหลวงพี่สามารถ ตอนนั้นท่านยังบวชอยู่ ท่านทำต้นแบบด้วยปูนปลาสเตอร์ องค์ต้นแบบจริง ๆ อยู่ที่อาตมาเอง แต่พอปิดทองสวยแล้ว เขาก็มาบูชาไปหมด

ผลงานของหลวงพี่สามารถที่เห็น ๆ ก็คือ ปราสาททองคำ และมณฑปที่ตั้งหลวงพ่อ บุษบกที่ตั้งหลวงพ่อนั้น มีเวลาทำแค่ ๘๐ วัน พี่เขาบ่นว่า ถ้าหากมีเวลามากกว่านี้ หรือหลวงพ่อสั่งให้สร้างล่วงหน้า จะเอาสวยกว่านี้เท่าไรก็ได้ แต่ตอนนั้นเวลาจำกัดจริง ๆ ต้องเอาให้เสร็จภายในร้อยวัน ก็เลยทำออกมาได้แค่นั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2010 เมื่อ 15:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 11-04-2010, 12:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ท่านแม่ทั้งสาม ถ้าหากตั้งบูชา ?
ตอบ : ถ้าหากบูชาก็ตั้งไว้ต่ำกว่าพระ จริง ๆ จะว่าไปแล้ว ท่านก็เป็นพระอรหันต์เข้านิพพานไปแล้ว แต่คนที่ไม่เข้าใจ จะเห็นว่าเป็นรูปผู้หญิง ทำไมมาไว้เสมอกับพระ ฉะนั้นเอาไว้ต่ำกว่าพระสักนิด เกรงใจคนอื่นเขาบ้าง

ถาม : ต้องสวดบทอะไรไหมครับ ?
ตอบ : ท่านแม่นิสัยเดียวกับหลวงพ่อ ชอบอิติปิโสฯ

ถาม : อิติปิโสฯ หรือครับ ?
ตอบ : บทสรรเสริญพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ถือว่าเป็นบทคาถาที่สำคัญที่สุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2010 เมื่อ 15:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #18  
เก่า 11-04-2010, 12:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เสาร์ห้าปีนี้เป็นที่ฮือฮามาก เพราะว่าเป็นเสาร์ห้าเดือนห้า นาน ๆ จึงจะมี

วันกับเดือน ตรงกัน เขาเรียก กระทิงวัน
วันเดือนปี ตรงกัน เขาเรียก ตรีวัน


เขาถือว่าเป็นวันที่แรงเป็นพิเศษ เสาร์ห้าปีนี้ วัดไหนที่มีศักยภาพ ก็จัดพุทธาภิเษก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2010 เมื่อ 15:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #19  
เก่า 13-04-2010, 10:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อยากจะทำให้คนรัก อยากเป็นคนมีเสน่ห์ ควรใช้หลักธรรมสังคหวัตถุ ?
ตอบ : ใช่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 13-04-2010 เมื่อ 19:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #20  
เก่า 13-04-2010, 10:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : จริตของคนสามารถเปลี่ยนได้หรือเปล่าครับ ? อย่างคนที่เป็นวิตกจริตอยากเปลี่ยนเป็นพุทธจริต
ตอบ : จริตเป็นพื้นฐานของจิต พื้นฐานเปลี่ยนไม่ได้ แต่ว่าจริตทั้งหกอย่างเรามีครบ เพียงแต่ว่าอันไหนเด่นขึ้นมาเท่านั้นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 13-04-2010 เมื่อ 19:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:15



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว