กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องบูรพาจารย์ > ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน

Notices

ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน รวมประวัติ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์อันเป็นที่เคารพจากทั่วเมืองไทย

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 03-08-2009, 20:30
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default หลวงตาเล่าเรื่องในบ้านใหญ่(ตอนที่ ๑)

วันนี้.. วันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๔๙ หลวงตานั่งเขียนต้นฉบับ 'มรดกพระดี' บนระเบียงบ้าน 'พุทธพรพิมาน' ที่ปากช่อง บ้านนี้อยู่ในหมู่บ้านภูริพิมาน มองเห็นภาพทิวเขา 'เขาใหญ่' ยาวกว้างสวยงามยามเย็น สวยเหมือนในหนังที่เคยดูตอนหลวงตายังหนุ่มกรุ้มกริ่มอยู่ อนิจจา.. หลวงตาเอย.. สังขารไม่เที่ยงจริงหนอ เคยหล่อเหลาเอาการ (งานไม่ค่อยได้) ..บัดนี้หนอ อายุ ๖๕ ปีแล้ว ยอมรับเสียเลยว่ามันแก่ชราคร่ำคร่า หาอะไรจะภูมิใจพอไม่ได้แล้ว

ลูกหลานเอย.. จะว่าไม่มีอะไรดีก็บาปปาก แต่ว่าเป็นความดีที่ไม่ใช่ร่างกายต้องตายเน่านี้ เป็นความดีเลิศของคุณพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ครูอาจารย์ นึกถึงเมื่อไร ก็เป็นสุขใจมั่นใจเมื่อนั้น ยิ่งได้นึกนานเนื่องเต็มอารมณ์ ก็ยิ่งมีกำลังใจอิ่มเอิบสบายหายทุกข์ ยิ่งมีความสงบสุขเกษมสานต์ ลูกเอย.. ความสุขในทิพย์สมบัตินี้มีได้แก่คนทุกคนแต่ต้องตักตวงเอาด้วยตัวเอง ไม่ต้องอาศัยใครและทำได้มากตามใจปรารถนา แต่ว่า.. จะมีใครรู้วิธีทำถ้าไม่มีท่านผู้รู้แนะนำให้
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 109 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 04-08-2009, 12:26
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default

และที่อัศจรรย์จริงแท้ ก็คือทิพย์สมบัติ.. คือความสงบสุขนี้มีอยู่เต็มธรรมชาติดาษดื่น เป็นสมบัติส่วนกลาง เป็นสาธารณะอยู่ในโลกสำหรับทุกคนที่อยู่ในโลก เป็นมรดกธรรมชาติที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นหามานาน และพบวิธีมองให้เห็นและหยิบให้ถูกเอามาใช้ มีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะได้มรดกนี้ทุกคนที่ศรัทธามีตามีหู และแบ่งปันตักตวงเอาไปใช้ให้เป็นสุขสบายได้ตามความปรารถนา จะเอามากเท่าไรก็ได้ เท่าที่จะหยิบถือเต็มมือเต็มใจ เอาไปเผื่อไปฝากลูกหลานคนที่บ้านก็ได้ ไม่มีการหวงแหนหมดเปลือง

แต่ว่าทำไมหนอลูกเอย.. ทำไมมนุษย์คือตัวเรานี้จึงมองไม่เห็นสมบัติล้ำค่า พากันมองข้ามเดินข้ามไปกอบโกยสมบัติที่ต่ำกว่า ซ้ำมีทุกข์โทษติดตราอยู่ ใช้ได้ก็แค่ตัวตาย จะเอาติดใจเดินทางไปในปรภพชาติต่อไปก็ไม่ได้ ส่วนใหญ่ก็จะต้องโทษรับทุกข์เพราะทรัพย์บาปนั้นในอบายภูมิ นรก เปรต อสุรกาย เดียรัจฉาน เป็นที่แน่นอน.. ทรัพย์วิบัติเหล่านี้ก็มีอยู่ประจำโลกให้สัตว์โลกแย่งชิงไขว่คว้าฆ่าฟันทำร้ายริษยา นั่นคือ ลาภ ยศ สรรเสริญ และสุขอันพาให้เพลิดเพลินลืมตาย..

หลวงตา.. อย่าไปขัดคอขัดอารมณ์ชาวโลกเขา เขาจะด่าเอา เขาจะย้อนเอาว่าไอ้ที่ทำบุญมอบให้ท่านไปกินไปใช้ จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหาร ค่าก่อสร้างนั้น ไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทองในโลกหรอกหรือ? เห็นถวายทีไรก็ยถา.. เสียงชัดจัดเจนเชียว โธ่..โธ่.. พ่อคุณแม่คุณของหลวงตาเอย.. ก็ใช่ล่ะ ถ้าจะยกแง่นั้นมาพูดกัน แต่ลูกเอย.. หลานเอย.. อะไรล่ะลูก กำลังอะไรล่ะ ที่ชักจูงดลใจให้เอาทรัพย์โลกมาถวาย ..ใช่ศรัทธาไหมลูก ใช่การรับศีล การถึงสรณาคมณ์ ใช่การอธิษฐานมุ่งให้ใจสบายใจเป็นสุข และเกิดต่อไปในสุคติใช่ไหมลูก..

ตอบหลวงตาสิ..คนเก่ง

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 04-08-2009 เมื่อ 19:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 89 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 04-08-2009, 13:35
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default

ว่าเวลาลูกนึกถึงศีล นึกถึงพระ แล้วถวายจ่ายออกซึ่งทรัพย์นั้น กับเวลาลูกวิ่งหาขวนขวาย หวงแหนเหนียวแน่นในทรัพย์นั้น เวลาไหนใจลูกมีความสุขสงบชื่นบานกว่ากัน

กำลังใจที่เต็มอิ่ม ศรัทธา เบิกบานหาญกล้าสละออก ถวายมีให้น้อยก็เต็มใจอิ่มใจเท่านั้น มีให้มากก็เต็มใจอิ่มใจเหมือนกัน กำลังใจอย่างนี้มีตัวตนให้เห็นแต่ไม่มีหมดสิ้นสูญหาย แม้เราไม่มีให้ แต่เห็นผู้อื่นบำเพ็ญความดีอย่างนี้ ใจเราก็เห็นดี ยินดีเบิกบานตามไปด้วย นี่อย่างไรล่ะลูกเอย.. อริยทรัพย์ที่พระพุทธเจ้าทรงชี้ให้เห็น

นี่หลวงตา.. แกอย่าไปคิดแทน ไปชักนำบังคับความคิดคนอื่นใครเขาจะได้อะไร เขาต้องคิดออกเองทำเอาเอง..

ขอรับ.. อย่างนั้นขออีกนิด ลูกหลานเอย.. กำลังทรัพย์อย่างนี้ยิ่งใช้ยิ่งเพิ่มพูนทวีค่า.. ยิ่งผ่องใสสวยงามนักหนา ยิ่งชำนาญในการหาในการทรงไว้ แจกจ่ายเท่าไรก็เพิ่มทวีมากกว่านั้น

ดูอย่างหลวงพ่อฤๅษีฯวัดท่าซุงของเราได้พร่ำสอน.. นี่หลวงตาเขียนไม่ออกแล้วรู้ไหมลูกหลาน ถ้าจะหมดทุนที่ตุนไว้ในสมองล่ะสิ! คนแก่เอ๋ย.. เอ้า! ถ้าในสมองมันหมดไปตามสภาวะของมัน ก็ลองเอาที่ใจเรามีอยู่ออกมาเขียนสิหนอ.. ลูกเอย.. สิ่งหนึ่งในใจหลวงตาที่ยังไม่เคยกล้าเขียน ก็ต้องเอากันแล้ว นั่นคือความรู้สึกที่งดงามตามธรรมชาติของท่านและน่ารังเกียจน่าสังเวชต่อใจตัวเองเมื่อนึกถึง ‘หลวงพี่นันต์’ ท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ เจ้าอาวาสวัดท่าซุงองค์ปัจจุบัน ในภาพชีวิตที่ผูกพันแนบแน่นกับพระคุณพ่อ หลวงพ่อฤๅษีฯของพวกเราทั้งหลาย

ณ วัดท่าซุงสมัยเมื่อ ๓๐ ปีโน้น.. เดือนเด่นดวงนี้ ท่านพทฺธญาโณ ยังซ่อนตัวเร้นลับแสง หลวงตาเป็นฆราวาสผู้มุ่งบวชจะเวียนวนเข้าออกประตูวัดท่าซุงทุกวันเวลาที่ว่างงานและหนีงานได้ จะส่องจ้องดูพระของวัดท่าซุงทุกองค์ที่หลวงตาหวังจะบวชเข้าไปอยู่ร่วมชีวิตนักบวชด้วย เห็นหลวงพี่นันต์เป็นพระอาวุโสแต่ไม่เตะตาต้องใจนักส่องพระ เพราะธรรมชาติปกปิดตัวเองของท่านอันยังไม่ถึงเวลาบารมีของท่านอย่างหนึ่งล่ะ.. แต่อีกอย่างหนึ่งคือตอนนั้นมีดาวเด่นจรัสแสงสบายใจอยู่หลายดวง ลักษณะบุญญาราศี และท่าทีที่ทำงานใกล้หลวงพ่อของท่านพี่เหล่านั้นเด่นชัดเหลือเกิน ชัดเจนจนหลวงตาไม่อาจละสายตาถอนใจมาดูหลวงพี่นันต์ได้
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 93 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 05-08-2009, 09:32
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default

โธ่เอ๋ย.. ถ้าใช้ตาดูใช้อารมณ์ศรัทธาเฟื่องฟูเข้าไปจับสมัยโน้นใคร ๆ ก็ไม่เห็น ไม่หมายมั่นหลวงพี่นันต์ทั้งนั้นแหละ! สมัยปี ๒๕๑๘-๑๙ องค์ที่เด่นเจิดจ้าที่สุดนี่ดูดีหมดทุกด้าน รูปร่างหล่อเสียงดี เวลาหลวงพ่อนั่งที่ไหนจะเห็นองค์นี้นั่งสงบงามอยู่ในที่ใกล้เสมอ แต่แล้วก็เป็นดาวตก เฉไฉหายไปจากท้องฟ้าท่าซุงเสียเฉย ๆ เลย รุ่นต่อมาสักปี ๒๕๒๑-๒๒ องค์นี้เอ่ยชื่อได้ คือหลวงพี่อรัญ ..องค์นี้สนองงานพ่อเป็นที่วางใจได้ คุมหัวใจวงจรวัดคือศาลานวราชที่ต้อนรับผู้คนที่มาวัด และคุมบัญชีรายได้รายจ่าย บริหารดูแลฆราวาสภายในภายนอกได้ดีมาก แต่แล้วก็สึกออกไปดูแลโยมแม่ซึ่งไม่มีใครดูแลแล้ว ..หลวงพี่นันต์ก็ไม่เห็นเด่นชัด

ก่อนหลวงตาบวช (ก่อนปี ๒๕๒๕) ปีนั้นสักปี ๒๕๒๒ กระมัง วัดท่าซุงก็คักคักอบอุ่นขึ้นทันทีเมื่อ ๕ ทหารเสืออากาศมาบวชถวายชีวิตให้พระศาสนา เรียกตามชื่อติดปากกันสมัยนั้นว่า อาจินต์.. ไตรรงค์.. ทรงฤทธิ์.. ชโลทัย.. สมศักดิ์.. ที่ว่าคึกคัก ก็เพราะเป็นนายทหารจบจากโรงเรียนนายเรืออากาศกันทั้งหมด ทำงานกันดี ๆ อยู่ ก็พลันชักแถวตบเท้าเข้าบวช และที่สำคัญมากสำหรับหลวงตาก็คือ นายทหารนักบินทหารบกที่ชื่อ ชัยศรี องค์นี้แหละน่าจะเป็นมือขวาของพ่อ น่าจะใช่.. พนันกันเอาหัวเดิมพันก็ต้องเอากันล่ะ องค์นี้พอหลวงพี่อรัญสึก ก็ได้ทำหน้าที่แทนทันที

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 05-08-2009 เมื่อ 09:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 97 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 05-08-2009, 13:10
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default

ลูกหลานเอย.. ชีวิตวัดท่าซุงระยะนั้นยังมีอันตรายจากคนพาลรอบวัด และผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ซึ่งมีค่ายใหญ่บัญชาการอยู่ที่อำเภอบ้านไร่ ในหุบเขาลึกใต้ป่าไม้ดึกดำบรรพ์ พ่อ ..หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง เป็นพระสงฆ์องค์หนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเคารพนับถือเป็นครูบาอาจารย์ เป็นเป้าหมายหนึ่งที่อาจจะใช้ต่อรองทางการเมืองที่ร้อนระอุขณะนั้นได้ ทางกองบัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นศิษย์พ่อ จึงส่งทหารมาอารักขาพร้อมอาวุธ เข้าเวรยามหน้าวัดคึกคักเข้มเข็ง

แต่ภายในวัดสิ ลูกเอย.. เลือดทหารทั้งทหารที่บวชพระและจิตวิญญาณทหารหาญในอดีตชาติที่บวชเป็นพระอยู่ ก็พร้อมใจกันจัดเวรยามผลัดละ ๒ องค์ เดินถือไม้แก่นตาลยาวเท่าศีรษะ เป็นไม้อาญาสิทธิ์สัญลักษณ์การเข้ารักษาหน้าที่ เดินไปรอบ ๆ วัด และดูจุดมืดเร้นลับที่สะกิดใจสงสัย ครบ ๒ ชั่วโมงก็เดินเอาไม้ไปกระทุ้งฝากุฏิเวรผลัดต่อไปแล้วก็วางไว้หน้าห้อง ผลัดต่อไปก็เดินภาวนาหรือคุยธรรมะกันไป เวียนไปอย่างนี้จนถึงเวลาออกบิณฑบาต จึงวางไม้ได้

ถามไหมลูก.. ว่าถึงขนาดนั้นเชียวหรือ?

อย่างนั้นทีเดียวล่ะ!

และยิ่งกว่านั้นอีกนะลูกหลาน

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 05-08-2009 เมื่อ 15:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 91 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 05-08-2009, 17:18
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default

เวลาพ่อลงรับแขก เจริญศรัทธาญาติโยมที่เดินทางมาหา พระที่ร่างกายแข็งแรงใจสู้สละชีวิตให้พ่อได้ ก็จะเวียนกันมานั่งอยู่กับพ่อในเวลารับแขกอีก ๒ องค์ซ้ายขวา ตามคำแนะนำของนายทหารผู้ใหญ่ในบก.สูงสุด เพราะว่าทางการได้ข่าวแน่นอนว่า หน่วยกล้าตายของผกค.บ้านไร่ (แปลว่าผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์บ้านไร่) วางแผนจะมาจับตัวพ่อไปเป็นตัวประกันแลกเปลี่ยนข้อต่อรองทางการเมือง โดยจะมารถปิกอัพจำนวน ๕ คน ๒ คนขับรถติดเครื่องหันหัวรถพร้อมออกวิ่ง อีก ๓ คน ขึ้นไปทำทีถวายสังฆทาน คนหนึ่งกราบถวาย อีก ๒ คนเข้าล็อกอุ้มพ่อวิ่งลงมาขึ้นรถ โดยคนกราบจะทำหน้าที่กรุยทาง ใครขวางก็ยิง แผนเขาเป็นอย่างนี้

เอ.. จะเล่าเรื่องหลวงพี่นันต์ ทำไมเบิกเรื่องยาวอย่างนี้...

ก็ต้องเขียนเล่านะลูก เพราะลูกหลานรุ่นหลังจะได้รู้จักบ้านของเราสมัยก่อนโน้น.. บ้านที่พี่นันต์เป็นเจ้าอาวาสครองสิทธิหน้าที่ปกครองอยู่ในขณะนี้ หลวงตาก็จะได้อาศัยเรื่องเขียน จะเขียนบอกลูกหลานว่า แม้ ‘เรื่องในบ้านใหญ่’ ของเราคึกคักขึงขังปานนี้ พี่นันต์ก็ยังไม่แสดงท่าทีผู้นำให้ใครสังเกตเห็น.. ยังคงเป็นพระอาวุโสเสียงเพราะเสนาะโสต สวดมนต์เข้าคู่กับหลวงพี่โอ (พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร) กับอีก ๒ องค์ คือหลวงตาผ่อง และ หลวงตานา

ถ้าชาวบ้านจะทำบุญนิมนต์พระ เป็นต้องเจาะจงเสมอว่า

“นิมนต์พระ ๙ องค์.. เอาผ่อง นา โอ นันต์ ๔ องค์ นอกนั้นแล้วแต่สะดวก..”
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 86 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 06-08-2009, 10:46
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default

เอ้า.. หลวงตา ..ย้อนมาเรื่องบู๊ ๆ นั้นก่อน
เมื่อลูก ๆ ถวายชีวิตทำหน้าที่ป้องกันชีวิตพ่อขณะนั้นทุกองค์ทุกคนมีความในใจ ๒ กระแสปะปนคลุกเคล้าอยู่ คือ ทุกคนเชื่อมั่นบุญบารมีของพ่อว่า ไม่มีคนบาปหยาบช้าคนใดที่จะมีกำลังฤทธิ์มาทำร้ายพ่อได้ แต่ก็คิดว่าจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องพ่อต่อหน้าเราได้ แม้เพียงมายืนค้ำทำท่าอาการร้ายก็จะยอมตายเสียดีกว่า

สงสัยจะตายจริง ๆ
โธ่! เป็นพระนั่งขวางทางปืนคนบาป ถ้ามันมาจริง ๆ
พ่อก็ปล่อยให้ลูกทำงานของลูก ท่านทำงานท่านต่อไป

เอ..เรื่องชักสนุก เอาอย่างนี้ดีกว่า หลวงตาจะเขียนเล่า ‘เรื่องในบ้านใหญ่’ คือวัดท่าซุงที่หลวงตาได้รู้จัก ได้เกิด.. ได้อาศัย ได้จากมา..ตั้งบ้านน้อยข้างนอก ได้อาศัยเป็นที่ระลึกนึกถึงยามเหนื่อยยากอยู่ในบั้นปลายชีวิตนี้ โดยจะมีพระคุณหลวงพี่นันต์ (ท่านพระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ) และหลวงพี่โอ (ท่านพระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร) พระอาจารย์คู่สวดทั้งสองของหลวงตาเป็นอนุสสติแกนนำของการเดินเรื่อง

เอาไหมลูก.. เอาไม่เอาก็จะเขียนล่ะ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 84 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 06-08-2009, 11:06
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default

ลูกหลานเอย.. เรื่องราวในช่วงนี้เป็นช่วงที่หลวงตายังไม่ได้บวช ยังไป ๆ มา ๆ ระหว่างบ้านและวัด ยังอยู่ในระยะอารมณ์ปรารถนาบวชแรงกล้าแต่ยังไม่สมปรารถนาอยู่ ฉะนั้นชีวิตหลวงพี่นันต์กับความรู้สึกของหลวงตาจึงเหมือนกับภาพเงาในกระจก.. เมื่อไม่นึกถึงก็ไม่เห็น ..เมื่อนึกถึงวัด แต่ยังมีจุดอื่นที่สนใจมากกว่า ก็เห็นท่านในกระจกรวมอยู่ด้วย แต่ยังไม่จับใจ แต่เมื่อเดินทางไปถึงวัดเมื่อไร หลวงตาก็จะเห็นพระหนุ่มท่าทางนุ่มนวลสงวนตัวองค์นี้ทักทายหลวงตาเสมอ

“เมื่อไรจะบวชล่ะโยม !”
“จวนหรือยังล่ะนี่..”
“เข้ามาเสียทีสิ !..”
“............”

อะไรทำนองนี้ทักทายหน้ายิ้มตาใสใจเมตตาอย่างนี้อยู่ตลอดมา หลวงพี่นันต์ไม่ได้บวชกับพ่อ ณ วัดท่าซุง กลุ่มหลวงพี่นันต์ หลวงพี่โอ หลวงพี่ทีป หลวงตาเจริญนี้ บวชมาจากบ้านเกิดจังหวัดนครสวรรค์ แต่เป็นศิษย์ที่เข้ามามอบกายถวายชีวิตช่วยงานพ่อเป็นกลุ่มแรก เป็นลูกหัวปี.. หัวแก้วหัวแหวนของพ่อจริง ๆ

อ้าว ! หลวงตา.. แล้วเรื่องผู้ก่อการร้ายกับทหารเสือของพ่อล่ะ.. หลวงตา!.. ก็เล่าปนกันไปหนอลูกหลาน เพราะว่าช่วงชีวิตของพ่อในวัดท่าซุง ไม่ว่าระยะใด ก็จะมีหลวงพี่นันต์ หลวงพี่โอ หลวงพี่ทีป เป็นส่วนประกอบสำคัญอยู่เสมอมาจนวันตายของพ่อ การที่หลวงตาเล่าให้ฟังถึงท่านต่าง ๆ เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็เล่าถึงความจริงที่ผสมผสานเข้ามาในภาพชีวิตพ่อ ถึงบุญบารมีที่ท่านเหล่านั้นได้ตักตวงเอาจากเหตุการณ์ ต้องเป็นอนิจจัง.. ทุกขัง.. อนัตตานั้น ๆ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 06-08-2009 เมื่อ 11:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 83 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 06-08-2009, 18:37
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default

แล้วทหารเสือทั้งหลายก็เต็มอิ่มในอาหารบุญในบ้านใหญ่ พากันลาสิกขาจากไปสู้ชีวิตของตนที่ต้องพิสูจน์สู้ให้เจนใจ ไตรรงค์ ชโลทัย สมศักดิ์ไปก่อน.. พอหลวงตาบวช ทรงฤทธิ์ก็ลาสิกขาพร้อมกับถวายบาตรอย่างดีที่ตนเองใช้มา ๖ พรรษาให้หลวงตาเปลี่ยนใช้มาจนทุกวันนี้

หลวงพี่นันต์ก็ยังสถิตติดภาพชีวิตวัดท่าซุงตามสบายแบบของท่าน คือไม่เคยว่างเว้นจากการงานในภาระหน้าที่มอบหมาย แต่เสร็จแล้วก็ซ่อนกายซ่อนวาจาอยู่ในกิจวัตรชีวิตบ้านใหญ่นั้นตามเดิม

ต่อมา เมื่อหลวงตาบวชแล้ว เออ!..ลืมเล่าไปเลยลูกเอ๋ย.. ผู้ก่อการร้ายไม่ได้เข้าวัด ไม่มีเหตุร้ายสาหัสใด ๆ เกิดขึ้น แต่ทุกองค์ทุกคนได้แสดงออกได้เพิ่มบารมีให้ตนเองจากเหตุการณ์พระไตรลักษณ์ ที่ส่งข้อสอบมอบคะแนนสะสมบุญบารมีให้ ว่าเมื่อถึงคราวคับขันมีภัยที่คนธรรมดาต้องหลีกลี้หนีการเสี่ยงภัย พวกเราเหล่านักรบกองทัพธรรมนี้ ได้แสดงให้ตนเองรู้จักว่าใจตัวขณะนั้น มันแค่ไหน..

ลูกหลานเอย.. บ้านใหญ่ วัดท่าซุงนี้ เมื่อปี ๒๕๑๕.. ๑๖.. ๑๗ ยังคับแคบและรกชัฏ มีอยู่เฉพาะฝั่งแม่น้ำตรงข้ามอุโบสถ เนื้อที่เพียงไม่ถึง ๒๐ ไร่ เมื่อพ่อมาอยู่ มาบูรณะสร้างเสริมวัด จึงได้ซื้อที่ดินฝั่งอุโบสถปัจจุบันอีก ๖ ไร่ เป็นป่าไผ่ต้นไม้ไม่มีประโยชน์ พื้นที่ลึกเป็นบ่อหลุม ซื้อเพื่อสร้างโบสถ์ใหม่แทนโบสถ์เก่าที่พี่นันต์เล่าตามประวัติ ..ตอนนี้เองที่กลุ่มลูกหัวปีหัวแก้วหัวแหวนเข้ามาถวายชีวิตรับใช้สนองงานพ่อ

หลวงตาบวชปี ๒๕๒๕ แต่เริ่มเข้าวัดปี ๒๕๑๗ ซึ่งพ่อสร้างโบสถ์ใหม่ใกล้เสร็จแล้ว ไม่ได้มีบุญเห็นภาพชีวิตบ้านใหญ่ตอนก่อนนั้น แต่ก็ได้ไต่ถาม ฟังพี่ ๆ เล่าขานจนได้รู้ประจักษ์เต็มใจ ร่วมกับที่มาประสบพบเห็นในสมัยหลวงตาเองก็ได้ภาพชีวิตธรรมชาติตามเป็นจริงมาเล่าให้ลูกหลานรุ่นปัจจุบันได้รู้เห็น

เห็นภาพหลวงพี่นันต์ หลวงพี่โอ หลวงพี่ทีป หลวงตาเริญ เดินข้ามถนนจากฝั่งแม่น้ำตรงข้ามโบสถ์ แดดร้อนขนาดหนังลอก พระก็จะใส่เสื้อแขนยาวตัดเย็บจากจีวรเก่า สวมหมวกปีกกว้าง พาดมีดเหรียญสำหรับถางป่าพาดบ่าเดินข้ามถนนเพื่อถางต้นไผ่ต้นไม้ออกแล้วถมดินปรับพื้นที่ ๖ ไร่ สร้างโบสถ์ ฉันข้าว.. เสร็จก็ทำงาน พักกลางวันแล้วก็ทำอีก ..จนถึงเวลาเย็นก็แบกมีดถือเครื่องมือเดินกลับเพื่อสรงน้ำ แต่งตัวทำวัตรปฏิบัติกรรมฐาน เป็นอยู่อย่างนี้มาตามเหตุตามกาลเวลา ก่อนจะมาถึงปัจจุบันวันนี้

เมื่อหลวงตาเข้าวัดท่าซุงครั้งแรกในปี ๒๕๑๗ ก็ยังเห็นภาพหลวงพี่นันต์ หลวงพี่โอ หลวงพี่ทีป ใส่เสื้อแขนยาวตัดเย็บด้วยจีวร เดินเก็บกวาด ทาสี และแบกหามวัสดุต่าง ๆ อยู่เจนสายตา เวลาพ่อเดินทางมาบ้านซอยสายลมเพื่อสอนกรรมฐานเจริญศรัทธาการบำเพ็ญกุศล ก็เห็นหลวงพี่นันต์ หลวงพี่โอ หลวงพี่ทีป และองค์อื่น ๆ ที่บวชใหม่แปลกหน้า เข้าเวรกันมาช่วยสนองงานพ่อคราวละ ๓ องค์อยู่เป็นประจำทุกเดือน หลวงตาก็จะเข้าไปหา เข้าไปพูดคุยถามไถ่ไต่สวนถึงการบวช การครองชีวิตพระ เพื่อจะเฟ้นหาพี่เลี้ยงเผื่อเวลาได้บวช จะได้มีที่ยึดถือพึ่งพารองจากพ่อ

แม้ตอนนั้น..
หลวงพี่นันต์ก็ยังไม่เข้ามาในใจหลวงตา ลูกเอ๋ย..

เมื่อถึงปี ๒๕๑๘.. ๑๙.. ๒๐.. สามปีซ้อนที่พ่อจัดงานฉลองโบสถ์ฉลองวัดเป็นงานประจำปี แม้มีพระสุปฏิปันโนมาในงานวัดถึงปีละ ๑๐ องค์ ซึ่งจะต้องมีการจัดงาน แบ่งงาน.. ร่วมงานกัน.. เตรียมงาน.. ทำงานและเก็บงานสำคัญ ซึ่งในหลวงเสด็จถึง ๒ ปีนั้น

หลวงพี่นันต์ก็ยังไม่แสดงตัว เจิดจ้าอ่าองค์ เพราะพระรูปงามนามเพราะ บุคลิกดีมาก ๆ องค์นั้น ยังเต็มตาบังใจหลวงตาอยู่

ลูกหลานเอย.. เขียนมาคงพอต้นฉบับ ‘เสียงจากถ้ำ’ แล้ว ฉบับหน้าค่อยอ่านต่อ รอหน่อย..

.....................จบตอนที่ ๑...............

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 06-08-2009 เมื่อ 18:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 84 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:42



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว