กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 05-07-2016, 16:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ต้องบอกว่าอายุขนาดอาตมาเป็นวัยวิกฤตผู้สูงอายุ เพราะว่าถ้ามีลูก ลูกก็โตเป็นวัยรุ่น ไม่ฟังพ่อไม่ฟังแม่ แล้วถ้าหากว่ารุ่นพี่ หรือว่ารุ่นอาวุโส เขาก็ทยอยตายกันไปเรื่อย ๆ แม้กระทั่งรุ่นตัวเองก็มีตาย บางคนกลายเป็นโรคซึมเศร้า

พวกเป็นโรคซึมเศร้านี่แสดงว่าไม่ทำงาน เลยมีเวลาคิด เพราะฉะนั้น...ใครกลัวเป็นโรคซึมเศร้าหางานทำเยอะ ๆ ไว้ ไม่มีเวลาคิดก็ไม่ซึมเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 20:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 06-07-2016, 19:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวสอนคนเป็นพ่อแม่ว่า "แจกไม้เรียวให้ลูกบ้างนะ ตามใจอย่างเดียวเดี๋ยวลูกจะกลายเป็นพ่อ ไม่เป็นลูกอย่างที่ควรจะเป็น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-07-2016 เมื่อ 20:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 06-07-2016, 19:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าบุพการีในบ้านมีความเป็นมิจฉาทิฐิ อย่างเราเป็นลูกควรจะทำอย่างไรครับ เวลาได้ยินท่านปรามาสพระรัตนตรัย วิจารณ์พระ ?
ตอบ : ได้ยินทำเป็นไม่ได้ยิน ได้เห็นทำเป็นไม่ได้เห็น แค่นี้ก็หมดเรื่อง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-07-2016 เมื่อ 20:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 06-07-2016, 21:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในหนังสือกระโถนข้างธรรมาสน์เล่มนี้ มีที่เขียนว่า “คานกับพระนิพพานอยู่ใกล้กัน” คนรุ่นหลังไม่เข้าใจคำว่า "ขึ้นคาน" แปลว่าอะไร ? มักจะคิดว่าคือการตะเกียกตะกายไปอยู่บนคานบ้าน ขึ้นคานในที่นี้ สมัยก่อนทำกับเรือที่หมดสภาพแล้วหรือว่าเลิกใช้งานแล้ว

การขึ้นคานมีสองอย่าง อย่างหนึ่งก็คือ ขึ้นคานเพื่อไปซ่อมแซมเอามาใช้งานใหม่ อีกอย่างหนึ่งก็คือ ขึ้นคานเก็บไว้เฉย ๆ ไม่ได้ใช้งานอะไร เพราะว่าหมดสภาพแล้ว ดังนั้น..ที่เขาบอกว่าผู้หญิงขึ้นคาน ก็คือ ผู้หญิงที่หมดสภาพ ใช้งานไม่ได้แล้ว ส่วนใหญ่เขาไปเข้าใจว่าเป็นคานบ้าน ไม่ได้นึกว่าเป็นคานเรือ

เขาบอกว่า ผู้หญิงที่อายุมาก ไม่ได้แต่งงาน เปรียบเหมือนเรือขึ้นคาน ก็คือไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว โดนทิ้งคาไว้บนคานเฉย ๆ

สำนวนไทยนี้ อาตมาอาจจะต้องออกหนังสือสักเล่มหนึ่ง เด็กสมัยใหม่ไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เขาฟังแล้วไม่เข้าใจกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-07-2016 เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 06-07-2016, 21:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เจอไม้งามเมื่อยามขวานบิ่น ?
ตอบ : คนไม่เคยโค่นต้นไม้มาก่อนไม่รู้หรอก ก็คือ ไปตัดต้นไม้อื่นเสียจนกระทั่งขวานบิ่น พอไปเจอต้นที่ทั้งตรงทั้งใหญ่ ถึงอยากได้แต่ขวานก็บิ่นแล้ว โค่นไปใช้งานไม่ได้ เขาเปรียบเหมือนผู้หญิงหรือผู้ชายที่แต่งงานแล้ว ไปเจอผู้หญิงหรือผู้ชายที่ถูกใจเข้าก็หมดสิทธิ์ ทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะตัวเองมีคู่แล้ว เปรียบเหมือนกับการไปพบไม้งามเมื่อยามขวานบิ่น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-07-2016 เมื่อ 02:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 06-07-2016, 21:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์แนะนำโยมให้ไปงานวัดท่าซุง "ประการที่หนึ่งก็คือ วัดท่าขนุนศาลาหลังไม่ใหญ่พอ ไปกันมากก็เบียดกันแน่น ส่วนประการที่สองก็คือ การหล่อรูปหลวงพ่อวัดท่าซุงด้วยทองคำนั้น ๑๐๐ ปีมีครั้งเดียว ส่วนการรับยันต์เกราะเพชร ยังรับได้อีกหลายครั้ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-07-2016 เมื่อ 02:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 06-07-2016, 21:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงเดือนที่แล้วที่วัดสะอาดเอี่ยมมาก อาตมาบวชเณร ๑๐๐ รูป ถัดไปก็บวชพระ ๑๐๐ รูป ไม่มีอะไรจะทำ ท่านก็เลยช่วยกันจัดการวัดเสียสะอาดเอี่ยมเลย พอหนัก ๆ เข้าไม่มีอะไรทำ ก็ลอกท่อให้กับทางเทศบาล

จากที่ศึกษามาจากครูบาอาจารย์ การบวชพระช่วงที่จำเป็นต้องอยู่ในสีมา นั่นก็คือช่วงตั้งแต่พระคู่สวดตั้งญัตติเพื่อสวดซ้อมถามอันตรายิกธรรม เพราะฉะนั้น...อาตมาจึงใช้วิธีบวชเณรก่อน ให้สรณาคมน์ ให้ศีล ให้นิสสัย บอกบริขารเรียบร้อยแล้วค่อยไปบวชพระ ก็ในเมื่อไม่จำเป็นต้องทำในโบสถ์ บวช
ข้างนอกทีเดียว ๑๐๐ รูปก็ได้

คราวนี้พอไปบวชพระก็เฉลี่ยเหลือชุดละประมาณ ๑๕ นาทีเท่านั้น จากที่คาดไว้ว่าจะเสร็จสัก ๓ ทุ่มก็เลยเสร็จก่อน ๔ โมงเย็น ต่อไปถ้าบวชหมู่จะใช้วิธีนี้ตลอดไป เพราะประหยัดเวลา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-07-2016 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 06-07-2016, 21:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พอบวชเสร็จก็บอกอนุศาสน์ (คำสอนย่อ) พร้อมกัน พระใหม่ ๑๐๐ รูป พระเก่า ๒๕ รูป อยู่ในโบสถ์ได้ แต่พออาตมาไม่อยู่ วันปาฏิโมกข์บอกกับท่านว่า “แน่จริงอยู่ในโบสถ์ให้ได้นะ” ดันอยู่กันไม่ได้ ล้นออกมาข้างนอก ก็โบสถ์หลังเดิมนั่นแหละ เป็นอะไรที่ดูแล้วตลก ๆ อยู่เหมือนกัน

พอดีวันนั้นอาตมามีงานข้างนอก ก่อนจะวิ่งออกไปก็บอกพระท่านว่า “วันนี้ปาฏิโมกข์...พวกคุณลองดูว่า ผมไม่อยู่แล้วจะอยู่ในโบสถ์ได้ครบไหม ?” ปรากฏว่าล้นออกมาอยู่หน้าโบสถ์ เพราะโบสถ์วัดท่าขนุนหลวงปู่สายท่านสร้างเอาไว้แบบประหยัดงบประมาณ ก็คือสร้างขนาดเล็กที่สุด บรรจุพระได้ ๒๑ รูป เพราะว่าสังฆกรรมที่ใช้พระมากที่สุดก็คือสวดอัพภาน คืนความเป็นพระให้กับภิกษุที่ออกจากอาบัติสังฆาทิเสส ตามวิธีการต้องใช้พระ ๒๐ รูป บวกกับตัวผู้อัพภานเป็น ๒๑ รูป

ในเมื่อท่านสร้างเอาไว้เล็กขนาดนั้น คนก็ถามว่าเมื่อไรพระอาจารย์เล็กจะสร้างใหม่สักที ? ก็ทำไมต้องสร้างใหม่ ที่มีอยู่ก็พอใช้นี่หว่า...! บรรดาเพื่อนร่วมรุ่นปริญญาเอก เป็นเจ้าคณะตำบลบ้าง เจ้าคณะอำเภอบ้าง ส่วนใหญ่ก็เป็นพระอุปัชฌาย์กันทั้งนั้น พอบอกว่าบวชพระ ๑๐๐ รูป ส่วนใหญ่เขาจะทำหน้าประหลาด ๆ แล้วถามว่า “เอาคนที่ไหนมาบวชตั้งเยอะแยะ ?” ก็เลยบอกว่าจำกัดยอดไว้ที่ ๑๐๐ รูป ไม่อย่างนั้นจะมาเกิน...!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-07-2016 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 06-07-2016, 21:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อครู่นี้ได้คาถาหัวใจขุนแผนฉบับเต็มมา หัวใจขุนแผนฉบับเต็มเป็นของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว มีการอ้างชื่อพระสุรินทรฤๅชัยด้วย นั่นแหละขุนแผนสะท้านเจ้าเมืองกาญจนบุรี ตำแหน่งขุนแผนสมัยโบราณเป็นเจ้ากรมตำรวจ ตลกดี ตอนหลังเปลี่ยนเป็นพระพิเรนทรเทพ แต่สมัยอยุธยาตำแหน่งขุนแผนสะท้านเป็นเจ้ากรมตำรวจ

ความรู้นอกตำราพวกนี้เดี๋ยวก็จะโดนทีวีช่อง ๙ หาอ้างอิงอีก วันนี้เล่นมาถ่ายสารคดีไปลง มีการถามย้ำอีกว่าจริงหรือไม่จริง ? อาตมานั่งพูดอยู่ตรงนี้ไม่จริงได้อย่างไรวะ...? บอกให้เขาไปค้นจากหนังสือ
แต่ก็คงจะไม่ไปค้นหรอก ส่วนใหญ่ใช้วิธีง่าย ๆ คือมาถามเอา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-07-2016 เมื่อ 02:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 06-07-2016, 21:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมถวายอัญมณีแบบต่าง ๆ "รู้ไหมว่าหลวงพ่อวัดป่าเลไลยก์ท่านกำลังหาอยู่ ? ท่านบอกว่า...เอ็งหาพวกนี้ไว้เยอะ ๆ เดี๋ยวพอข้าจะบรรจุเศียรพระเมื่อไรช่วยเอาไปให้ที"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-07-2016 เมื่อ 02:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 07-07-2016, 19:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (การรับยันต์เกราะเพชรที่บ้าน)
ตอบ : ภาวนานึกถึงบารมีพระก็ใช้ได้แล้ว ตั้งใจรับอยู่ที่บ้านก็เตรียมธูป ๓ ดอก เทียน ๑ เล่ม พอตรงเวลาที่กำหนดไว้ก็ภาวนาสัก ๓๐ นาที อธิษฐานว่าบารมีใดที่พระท่านสงเคราะห์ลงมา เราขอรับทั้งหมดแล้วก็ภาวนาพุทโธนึกถึงภาพพระ หรือถ้าพุทโธสั้นไปจะเอา อิติปิ โสฯ ทั้งบทก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-07-2016 เมื่อ 19:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 07-07-2016, 19:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวเตือนโยมว่า “จำไว้ว่าอย่าเกเรมาก ถ้าเกเรมากกรรมตามทันชาติไหนก็โดนเอาคืนแน่นอน”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-07-2016 เมื่อ 19:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 07-07-2016, 19:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมได้ถ่ายเอกสารตำรายันต์จากวัดไปครับ ไม่สบายใจ เลยคิดว่ามาขออนุญาตจากหลวงพ่อ ?
ตอบ : ถ้าทำแล้วก็ไม่ต้องบอก ต้องขออนุญาตก่อนทำ ไม่ใช่ทำเสร็จแล้วค่อยมาบอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-07-2016 เมื่อ 19:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 07-07-2016, 19:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “เห็นญาติโยมถวายข้าวปลาอาหารมาแล้ว เลยอยากจะขอร้องอย่างหนึ่งได้ไหม ? ว่ากินขนมกันให้น้อยลงหน่อย ขนมมากจนน่ากลัว

ส่วนใหญ่อาหารที่ถวายพระก็คือ เราชอบอะไรก็จะถวายอย่างนั้น ในเมื่อชอบอะไรถวายอย่างนั้น แล้วถวายแต่ขนมมา ก็แปลว่าพวกเรากินกันมากจนเกินไปแล้ว ไปนึกถึงคำโบราณที่ว่า “กินแต่พอรู้รส” ก็คือให้รู้จักประมาณในการกิน ไม่ใช่ชอบอะไรก็ใส่เต็มที่เลย การกินแต่พอดีถึงจะมีประโยชน์ กินล้นกินเกินมีแต่จะเป็นโทษ

ปัจจุบันนี้บ้านเรามีผลการวิจัยว่าเด็ก ๆ บ้านเราเป็นโรคอ้วนกันถึงร้อยละ ๓๐ แล้ว ก็แปลว่าถ้าเอาเด็กมายืน ๑๐๐ คนจะมีเด็กอ้วนอย่างน้อย ๓๐ คน หลักการดูว่าอ้วนหรือไม่อ้วนเป็นอย่างไร พวกเราคงพอคำนวณด้วยสายตาได้ ไม่ต้องไปใช้หลักการคำนวณแบบของฝรั่งเขา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-07-2016 เมื่อ 19:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 07-07-2016, 19:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เปลี่ยนวิธีการกินอาหารบ้าง บ้านเราเป็นเมืองร้อนแต่เราไปกินอาหารแบบฝรั่งที่เป็นเมืองหนาว ฝรั่งเขาต้องกินนมกินเนย กินไอศกรีม เพื่อให้มีแคลอรี่มากพอที่จะไปสู้กับความหนาว คราวนี้บ้านเราไม่ได้ใช้อย่างนั้น บ้านเรามีแต่ร้อนตับแตก แล้วไปกินแบบฝรั่งก็เรียบร้อย กินเข้าไปเท่าไรร่างกายก็ตุนไว้หมด แทนที่จะกินข้าวแกงก็ไปกินพิซซ่า แถมต้องขอบชีสด้วย แทนที่จะกินส้มตำก็ไปเน้นไก่ทอด

ความอ้วนมีโทษมากกว่าประโยชน์ ไม่ได้ตั้งใจว่าใคร พูดถึงตรงนี้ก็มาพอดี โปรดลดความอ้วนลงด้วยการแบ่งปันทรัพยากรให้คนอื่นเขาบ้าง ไม่ใช่กินหมดคนเดียว”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-07-2016 เมื่อ 19:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 07-07-2016, 19:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “สำหรับพระจะมีการทำสามีจิกรรม โดยเฉพาะในช่วงเข้าพรรษา คราวนี้อีกหลายวันกว่าจะเข้าพรรษา แต่ถ้ารอเวลาก็จะเกินกำหนดไป มหาติ๊กก็เลยมาขอขมาก่อน

การขอขมาแบบโบราณเขาใช้บท อุกาสะ วันทามิ ภันเตฯ ส่วนรุ่นใหม่ก็ตัดเหลือสั้นนิดเดียว ต้องบอกว่ารุ่นใหม่ขี้เกียจไปเรื่อย ๆ

การขอขมาจะยืนเป็นปกติ เพียงแต่รุ่นใหม่ไม่ได้ยืนตามเขา แต่โบราณเขาถือว่าการยืนเป็นการแสดงออกซึ่งความเคารพ อย่างเช่นว่าผู้ใหญ่เข้ามาในงานเราก็ยืนรับ มีใครนั่งรับบ้าง ? แต่สมัยหลังไม่ค่อยจะเข้าใจกัน พอเห็นคนอื่นยืนก็กลายเป็นของแปลกไป”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-07-2016 เมื่อ 19:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 10-07-2016, 14:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้มีงานเผาศพคุณติ๊ก (ถาวภักดิ์ ตียาภรณ์) ที่วัดเกตุการาม จ.เชียงใหม่ ต้องบอกว่าคุณติ๊กเป็นบุคคลที่หนักแน่นมั่นคงในเรื่องการปฏิบัติธรรม และมีความเคารพในพระรัตนตรัย เนื่องจากว่าโหมงานหนัก ความเครียดรับประทานบ่อย ท้ายสุดก็เลยเป็นมะเร็ง เสียชีวิตตอนอายุ ๕๕ ปี อาตมาก็ไม่เคยถามอายุ คิดว่าเป็นพี่มาตลอด กลายเป็นน้องไปเสียนี่

คุณติ๊กรับเอาเทียนของทูลกระหม่อมอุบลรัตน์ไปถวายที่วัดท่าขนุน ๓ ปีติดกัน ปีนี้ปีที่ ๔ คงต้องให้คุณตั้มไปแทน เพราะว่าเจ้าตัวจะถูกเผาวันนี้แล้ว

ต้องบอกว่าเจ็บป่วยอยู่ ๔ – ๕ ปี แต่คนที่รู้ตัวและยอมรับสภาพได้ ก็เตรียมการเบื้องหลังไว้เรียบร้อยทุกอย่าง ถ้าหากว่าพวกเราเจ็บไข้ได้ป่วย สามารถปล่อยได้วางได้ ก็จะจัดการเรื่องหลังไว้ดี ๆ แบบเดียวกับของคุณติ๊กที่ผ่านมา

อาตมาวิ่งขึ้นไปฟังสวดอภิธรรมได้คืนเดียว เพราะว่ารุ่งขึ้นมีงานพุทธาภิเษกที่วัดบ้านห้วยน้ำขาว เสร็จจากนั้นต้องสอนหนังสือแล้วก็ประชุม จากนั้นก็มารับสังฆทาน ไม่มีเวลาว่างเลย แต่ก็ยังดีไปได้คืนหนึ่ง

คุณติ๊กมีลูกน่ารักอยู่ ๓ คน เป็นผู้หญิง ๒ คน ผู้ชาย ๑ คน ผู้หญิง ๒ คนสมัยเล็ก ๆ ไปอยู่ที่เกาะพระฤๅษีกันเป็นเทอมเลย พาไปเดินป่าเดินดง ลำบากลำบน ตอนนี้ถามเด็ก ๆ ว่าชีวิตลำบากไหม ? ไม่ลำบากหรอก ตอนที่หลวงพ่อพาไปนั่นลำบากที่สุดแล้ว โบราณเขาถึงบอกว่า ลำบากก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ เพราะถ้าเราเจอของที่ลำบากที่สุด ทุกอย่างก็สบายหมด ไม่มีอะไรลำบากไปกว่านั้นแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-07-2016 เมื่อ 07:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 10-07-2016, 14:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปีนี้กฐินปลดหนี้วัดตะเคียนงาม ใกล้ ๆ นี่เอง ไม่ปลดให้ท่านไม่ได้หรอก หลวงพ่อสมคิดท่านแก่กว่าอาตมา ๑๓ ปี ปีนี้อายุ ๗๑ แล้ว ปลดเสร็จแล้วคืนมาเสียดี ๆ เพราะท่านยืมไปก่อน ๑ ล้านบาท

วันก่อนจัดงานปิดทองฝังลูกนิมิต ท่านก็นิมนต์ไปบวงสรวงพุทธาภิเษก วัดท่านอยู่สุดชายแดนเลย อีก ๔ กิโลเมตรก็แม่น้ำอัมราของพม่าแล้ว บวงสรวงเสร็จพระท่านบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ขาดทุนหรอก

อาตมาส่งพระวัดท่าขนุนไปช่วยงานท่านหลายรูป โดยเฉพาะพระครูบ่าวกลายเป็นมือขวาของท่านไปเลย ปรากฏว่าเสร็จงานมีกำไรจริง ๆ แต่สลบไสลไปเลย จัดงาน ๗ วัน ๗ คืน ส่วนใหญ่งานปิดทองฝังลูกนิมิตก็จะจัดกันประมาณนั้น ๙ วัน ๙ คืนบ้าง ๗ วัน ๗ คืนบ้าง

ปีนี้ไปใกล้ ๆ วัดตะเคียนงาม ปีหน้าไปไกลหน่อย สกลนคร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-07-2016 เมื่อ 07:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 11-07-2016, 21:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ไทยทีวีสีช่อง ๙ มาสัมภาษณ์พระอาจารย์ออกอากาศ ดังนีั้

ถาม : เขามีการแชร์กันว่า ถ้าคนอายุน้อยกว่าไปงานศพของคนที่มีอายุมากกว่าต้องใส่เสื้อขาว ถ้าเกิดคนที่ไปงานศพอายุเยอะกว่าคนที่ตายต้องใส่เสื้อดำ จริงหรือไม่จริงครับ ?
ตอบ : ถามว่าจริงหรือไม่จริง ก็ถ้าเขาแชร์กันแปลว่าทำไปจริง ๆ แล้ว เราต้องเข้าใจว่าในเรื่องของโบราณนิยม ในปัจจุบันไม่ค่อยมีใครศึกษา ก็เลยทำให้เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ค่อย ๆ สูญไปเรื่อย

โดยเฉพาะเรื่องของการแต่งตัวไปงานศพ สมัยก่อนนี้ในส่วนที่เคร่งครัดมากที่สุด ก็คือ ในส่วนของเชื้อพระวงศ์ หรือในส่วนของในรั้วในวัง แล้วในระเบียบต่าง ๆ นี้ก็ลามออกไปจนกระทั่งไปถึงทางด้านนอก ก็คือชาวบ้านทั่วไป เพราะสมัยก่อนนั้นการตายเขาไม่ถือว่าเป็นเรื่องน่าเศร้าโศก เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากกว่า แม้กระทั่งพระมหากษัตริย์หรือพระราชินี เขายังใช้คำว่า สวรรคต ก็คือไปสวรรค์

ดังนั้นในงานศพก็จะมีงานรื่นเริงต่าง ๆ ที่เป็นการละเล่นให้สนุกสนานกันอยู่ตลอดเวลา คราวนี้การแต่งตัวในลักษณะนั้น ถ้าถามว่ามีหลักฐานอะไรไหม ? ส่วนที่ปรากฏชัดที่สุดก็น่าจะเป็นในเรื่องขุนช้างขุนแผน ฉบับหอสมุดวชิรญาณ ถ้าจะเอาชัด ๆ เลยก็ตอนนางวันทองถูกฆ่า ในงานศพนางวันทอง ครอบครัวทั้งหมดแต่งชุดขาว แม้กระทั่งชาวบ้านที่มาดูการละเล่นก็แต่งชุดขาวด้วย ลองไปเสิร์ชดูข้อมูลใน Google ก็น่าจะมี อีกส่วนหนึ่งถ้าต้องการรู้ ก็ต้องดูในหนังสือ...น่าจะเป็นศิลปะและวัฒนธรรม ซึ่งข้อมูลทั้งหลายเหล่านี้ท่านผู้รู้จะค้นคว้าเอาไว้มาก น่าจะมีอยู่ใน Google เช่นกัน

เพราะฉะนั้น...ถ้าหากว่าจะทำให้ถูกต้องจริง ๆ ก็คือ บุคคลที่เสียชีวิต ถ้าหากว่าอายุมากกว่าเรา เราควรจะแต่งชุดขาว ยกเว้นว่าเขาอายุน้อยกว่า เราถึงแต่งชุดดำได้ แต่ในปัจจุบันนี้เท่าที่เห็นคนไปงานศพมักจะแต่งชุดดำเป็นหลัก ถ้าเป็นสมัยก่อนเขาก็ถือว่าไม่รู้เด็กไม่รู้ผู้ใหญ่ ในส่วนนี้ที่เขาไปแชร์กัน อาตมาพูดเพราะว่าต้องการให้เป็นไปตามประเพณีที่ถูกต้อง เนื่องจากว่าตอนอยู่ที่วัดจะพูดอย่างนี้เสมอเวลามีงานศพ

ในช่วงก่อนที่อาตมาจะเป็นเจ้าอาวาส เวลานำศพเวียนเมรุ ชาวบ้านมักจะไปแย่งพระจูงสายสิญจน์ ก็ต้องบอกให้เขาทราบว่า ชาวบ้านทั้งหมดแม้กระทั่งญาติพี่น้อง มีหน้าที่ไปส่งศพ เขาให้เดินตาม บุคคลที่จะจูงศพก็คือพระหรือเณร

คำว่า เณร ในที่นี้ก็คือ เณรที่บวชหน้าไฟให้กับผู้ตาย แล้วอีกสองท่านเท่านั้นที่อนุญาตให้เดินนำหน้าได้ก็คือ คนถือกระถางธูป กับรูปของผู้ตาย นอกจากนั้นให้เดินตามเพื่อเป็นการแสดงออกว่าเราไปส่งศพ แต่วัดอื่น ๆ ก็มักจะมีการไปแย่งพระจูงศพกันอยู่เป็นปกติ แต่ที่วัดของอาตมาพูดอยู่หลายปีจนไม่มีแล้ว แต่ในส่วนของเครื่องแต่งกายก็ย้ำอยู่บ่อย ๆ ก็เลยทำให้คนได้ทราบว่าโบราณเขาถือแบบไหน ก็นำไปโพสต์แล้วนำไปแชร์กันต่อ ๆ ไป ก็เลยกลายเป็นปัญหาให้โยมมาถามอาตมาอยู่นี่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-09-2016 เมื่อ 13:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 11-07-2016, 21:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่ผ่านมาเป็นเรื่องของความเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม แล้วมีผลกระทบอย่างอื่นตามมาไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าหากเราสามารถรักษาระเบียบประเพณีแบบโบราณที่ถูกต้องเอาไว้ คนรุ่นหลัง ๆ ที่ได้รับการถ่ายทอด ได้รับสิ่งที่ถูกต้องไป ก็จะช่วยกันรักษาธรรมเนียมประเพณีเอาไว้ได้ แต่ถ้าหากเราไม่รู้และยังทำผิด ๆ ไป ผู้ใหญ่ที่รู้ก็ตำหนิเอาได้ ในขณะเดียวกันก็ทำให้ประเพณีผิดเพี้ยนไปเรื่อย ๆ

แม้กระทั่งในปัจจุบันนี้ การแต่งตัวไปงานศพ ส่วนที่อาตมาเห็นแล้วว่าไม่เหมาะไม่ควรที่สุดก็คือ เหมือนกับแต่งแฟชั่นไปอวดกัน โดยเฉพาะบรรดาท่านทั้งหลายที่นุ่งสั้นเหมือนกับลำบากยากจนเสียเต็มประดา แสดงออกว่าเราไม่ให้เกียรติผู้ตายเลย ก็เป็นเรื่องที่น่าตำหนิอยู่เหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-07-2016 เมื่อ 07:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:21



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว