กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 17-02-2010, 09:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เกิดผิดยุคผิดสมัย

อ่านประวัติศาสตร์ไทยรบพม่าแล้ว พวกเราเห็นภาพพจน์ของพระมหาอุปราชาไปในลักษณะไหน ? แพ้ทั้งปี..ใช่ไหม ?

มังสามเกียด ต้องบอกว่าท่านเกิดผิดยุค ถ้าหากไม่ได้เกิดยุคเดียวกับพระนเรศวร ท่านคงประสบความสำเร็จมาก ไปนึกถึงพระพุทธเจ้ากับพระเทวทัต ศึกษาวิชาอยู่กับอาจารย์ทิศาปาโมกข์เดียวกัน อาจารย์ก็จะชมว่าเทวทัตนั้นเก่ง แต่สิทธัตถะเก่งกว่า..ประจำเลย เขาเรียกว่าเกิดผิดยุค ถ้าต่างคนต่างเกิดคนละประเทศ ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกันก็ดังทั้งคู่ แต่นี่ต้องมาเกี่ยวดองกัน ก็เลยกลายเป็นถูกตีตราว่าแพ้ตลอด

แต่ถ้าเราพิจารณากันให้ดี ๆ ต้องบอกว่าพระมหาอุปราช ฝีมือท่านพอตัวเลย เพราะว่าทันทีที่พระนเรศวรประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง พระองค์ก็ยกทัพบุกหงสาวดีเลย ปรากฏว่าพระเจ้านันทบุเรงไม่อยู่ ยกทัพไปตีเมืองอังวะ คนที่เฝ้าหงสาวดีก็คือพระมหาอุปราช พระนเรศวรต้องถอยทัพกลับ ถ้าอยู่ในสถานที่อันเหมาะสม ก็แปลว่าฝีมือของท่านอยู่ในระดับที่น่าเกรงขามทีเดียว ถ้าหากว่ากันตามประวัติศาสตร์ พระมหาอุปราชชนไก่ก็แพ้ ตีเมืองคังก็แพ้ ทำยุทธหัตถีก็แพ้

ของอาตมาเองนี่น้องชายเขาเกิดผิดยุค อาตมาเรียนเก่ง เขาก็ไปหวังกับน้องชายด้วยว่าต้องเหมือนกัน อาตมาทำให้น้องหมดความมั่นใจไปเลย เพราะอาตมาเก่งกว่า ตอนที่เขาจะเรียนปริญญาตรี ปริญญาโท เขาก็บ่นว่ากลัวจะเรียนไม่ไหว อาตมาต้องตบกะโหลกบอกว่า "เอ็งจำไว้เลยนะว่า..ในโลกนี้เอ็งแพ้ข้าคนเดียว..!" ถ้าไม่ตบกะโหลกให้เขารู้ว่า เขาเองก็มีความสามารถ เขาจะหมดกำลังใจ เพราะเขาแพ้อาตมาตลอด

ขอสรุปว่า ถ้าเราเกิดผิดยุคผิดสมัย เราอาจจะตกจากหน้าประวัติศาสตร์ แต่ถ้าเกิดถูกยุคถูกสมัย ความสามารถห่วย ๆ อย่างเรานี่ อาจจะดังระเบิดติดประวัติศาสตร์ไปชั่วฟ้าดินสลายเลย ดังนั้น..แต่ละคนจะต้องหาช่องทางของตัวเอง แล้วก็ตะกายขึ้นไป ต้องดูต้นไม้ เวลาต้นไม้งอกขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง แต่ถ้าเกิดมาเจอว่าอยู่ใต้ร่มไม้อื่นเขา ต้นไม้ก็พยายามจะเบนออกไปหาแสงแดด แล้วก็ชูยอดขึ้นไปในจุดที่เหมาะสมกับตัวเอง ในความเป็นคนของพวกเรา ต้องมีปัญญามากกว่าต้นไม้ ในเมื่อต้นไม้หาจุดในที่เหมาะสมของเขาได้ เราก็ต้องหาได้ ในเมื่อเอาดีทางโลกไม่ได้ เอาดีทางธรรมก็ได้ รับรองว่าดีแท้ด้วย


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงเย็น ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-06-2014 เมื่อ 12:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 17-02-2010, 09:50
คนเก่า's Avatar
คนเก่า คนเก่า is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: ชมพูทวีป
ข้อความ: 189
ได้ให้อนุโมทนา: 21,727
ได้รับอนุโมทนา 55,280 ครั้ง ใน 1,402 โพสต์
คนเก่า is on a distinguished road
Default

นึกถึงยอดม้าแข่งอมตะนิรันดร์กาลของออสเตรเลีย ที่เขาถึงกับต้องดองหัวใจเก็บไว้ในอนุสรณ์สถาน ณ กรุงแคนเบอร์ร่าเป็นที่ระลึก

ครั้งม้าแข่งตัวนี้แรกมาถึงประเทศออสเตรเลีย เจ้าของได้ขอให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรเชื้อสายไทยช่วยตั้งชื่อ จึงได้ชื่อเป็นไทยว่าฟ้าแลบ

เจ้าของได้ฝึกฟ้าแลบด้วยการให้วิ่งแข่งกับม้าอื่น แต่ให้ดึงม้าอื่นไว้ไม่ให้ขึ้นหน้า บ่มเพาะนิสัยยอดม้าอาชาไนยให้กับฟ้าแลบที่ต้องวิ่งแซงและนำหน้าม้าอื่นให้ได้ ซึ่งก็สำเร็จอย่างงดงาม ฟ้าแลบอยู่หลังม้าอื่นไม่เป็นจริง ๆ ทุกครั้งที่ลงแข่งจะต้องควบสุดชีวิตนำหน้าม้าอื่นให้ได้ เข้าวินทุกครั้ง จนเป็นโรคสังคมรังเกียจ ไม่มีใครยอมแข่งด้วย

เจ้าของต้องต่อให้ด้วยการถ่วงน้ำหนักที่อาน เพื่อหาเงินจากฟ้าแลบต่อไป และในเมื่อฟ้าแลบยังชนะอยู่เรื่อย ๆ น้ำหนักถ่วงก็ถูกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดหัวใจของฟ้าแลบสุดที่จะทนต่อไปได้ ฟ้าแลบล้มเมื่อสิ้นสุดการแข่งครั้งสุดท้าย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 144 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คนเก่า ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 17-02-2010, 10:04
คนเก่า's Avatar
คนเก่า คนเก่า is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: ชมพูทวีป
ข้อความ: 189
ได้ให้อนุโมทนา: 21,727
ได้รับอนุโมทนา 55,280 ครั้ง ใน 1,402 โพสต์
คนเก่า is on a distinguished road
Default

ลูกคนแรกกับคนที่สองแรก ๆ ก็มีสภาพคล้ายกรณีพระอาจารย์กับหลวงอาแสงชัย คือคนแรกสนใจการเรียนและมีผลการเรียนที่ดีกว่า แต่พอเริ่มเข้าสู่ชั้นประถมปลาย ก็กระตุ้นลูกคนที่ ๒ เล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยการบอกเขาว่าที่จริงเขาเป็นคนเก่ง เพียงแต่ยังไม่รู้จักนำศักยภาพของเขาออกมาใช้ให้เต็มที่ พร้อมกับให้ความสนใจกับผลการเรียนของเขามากขึ้น แม้ test เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็คอยติดตามสอบถามและให้รางวัลหากทำได้ดี แต่ก็ไม่ได้ตำหนิหากยังทำไม่ได้

ลูกสนใจการเรียนมากขึ้น พยายามเอาใจพ่อ และพัฒนาเกรดดีขึ้นอย่างรวดเร็ว พอขึ้น ม.๑ เปลี่ยนโรงเรียน เข้าสู่สภาพแวดล้อมใหม่ ในการสอบครั้งแรก ๆ ทำได้ดีมาก ๆ มีภาพพจน์เป็นเด็กเก่งในสายตาของเพื่อน ๆ และครูที่โรงเรียนใหม่

ลูกจึงเข้าสู่สภาพคล้ายฟ้าแลบ เกิดความจำเป็นต้องรักษาตำแหน่ง สิ้นเทอมผลการเรียนก็ออกมาเป็นที่ ๑ กลายเป็นฟ้าแลบเต็มตัวเลยทีนี้

ใครสนใจจะนำไปปรับใช้ก็เชิญครับ ไม่สงวนลิขสิทธิ์
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 137 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คนเก่า ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 17-02-2010, 13:10
มุนินโท มุนินโท is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Oct 2008
ข้อความ: 733
ได้ให้อนุโมทนา: 22,386
ได้รับอนุโมทนา 61,847 ครั้ง ใน 1,100 โพสต์
มุนินโท is on a distinguished road
Default เสริม

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เถรี อ่านข้อความ
อ่านประวัติศาสตร์ไทยรบพม่าแล้ว พวกเราเห็นภาพพจน์ของพระมหาอุปราชาไปในลักษณะไหน? แพ้ทั้งปี..

มังสามเกียด ต้องบอกว่าท่านเกิดผิดยุค ถ้าหากไม่ได้เกิดยุคเดียวกับพระนเรศวร ท่านคงประสบความสำเร็จมาก ไปนึกถึงพระพุทธเจ้ากับพระเทวทัต ศึกษาวิชาอยู่กับอาจารย์ทิศาปาโมกข์เดียวกัน อาจารย์ก็จะชมว่าเทวทัตนั้นเก่ง แต่สิทธัตถะเก่งกว่าประจำเลย เขาเรียกว่าเกิดผิดยุค ถ้าต่างคนต่างเกิดคนละประเทศ ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกันก็ดังทั้งคู่ แต่นี่ต้องมาเกี่ยวดองกัน ก็เลยกลายเป็นถูกตีว่าแพ้ตลอด

แต่ถ้าเราพิจารณากันให้ดี ๆ ต้องบอกว่าพระมหาอุปราช ฝีมือท่านพอตัวเลย เพราะว่าทันทีที่พระนเรศวรประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง พระองค์ก็ยกทัพบุกหงสาวดีเลย ปรากฏว่าพระเจ้านันทบุเรงไม่อยู่ ยกทัพไปตีเมืองอังวะ คนที่เฝ้าหงสาวดีก็คือ พระมหาอุปราช พระนเรศวรต้องถอยทัพกลับ ถ้าอยู่ในสถานที่อันเหมาะสม ก็แปลว่าฝีมือของท่านอยู่ในระดับที่น่าเกรงขามทีเดียว ถ้าหากว่ากันตามประวัติศาสตร์ พระมหาอุปราชชนไก่ก็แพ้ ออกรบก็แพ้ ตีเมืองคังก็แพ้
ย้อนไปดูประวัติศาสตร์จีน ยุคสามก๊ก ก็ต้องเข้ากับประโยคที่จิวยี่หลุดปากออกมาก่อนตายว่า "ฟ้าส่งจิวยี่มาเกิด ไฉนไยต้องส่งขงเบ้ง (จูกัดเหลียง) มาด้วย

แม่ทัพจิวยี่ นับว่าเป็นขุนพลยอดฝีมือคนหนึ่ง แต่ดันมาเกิดเจอคู่ปรับ ทำให้ผูกปีแพ้ตลอดศก จึงสะกดคำว่าชนะขงเบ้งไม่เป็น รบคราใด ก็แพ้ครานั้นทุกที...(สำนวนมวยไทยก็ต้องบอกว่าแพ้ทางมวย)

น่าจะพอกล้อมแกล้มเข้ากับเรื่องเกิดผิดยุคผิดสมัยได้...

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-06-2014 เมื่อ 12:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 117 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มุนินโท ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 17-02-2010, 13:29
กันต์เสฎฐ์
Guest
 
ข้อความ: n/a
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มุนินโท อ่านข้อความ
ย้อนไปดูประวัติศาสตร์จีน ยุคสามก๊ก ก็ต้องเข้ากับประโยคที่จิวยี่หลุดปากออกมาก่อนตายว่า "ฟ้าส่งจิวยี่มาเกิด ฉไนไยต้องส่งขงเบ้ง (จูกัดเหลียง) มาด้วย

แม่ทัพจิวยี่ นับว่าเป็นขุนพลยอดฝีมือคนหนึ่ง แต่ดันมาเกิดเจอคู่ปรับ ทำให้ผูกปีแพ้ตลอดศก จึงสะกดคำว่าชนะขงเบ้งไม่เป็น รบคราใด ก็แพ้ครานั้นทุกที...(สำนวนมวยไทยก็ต้องบอกว่าแพ้ทางมวย)

น่าจะพอกล้อมแกล้มเข้ากับเรื่องเกิดผิดยุคผิดสมัยได้...
นอกจากนั้นก็ยังต้องคิดอีกว่า ฟ้าส่งขงเบ้งมาเกิด แล้วไยต้องส่งสุมาอี้มาเกิดด้วย เหนือฟ้ายังมีฟ้าจริง ๆ ^-^

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2010 เมื่อ 16:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 52 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 17-02-2010, 13:34
สุรจิตร's Avatar
สุรจิตร สุรจิตร is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 41
ได้ให้อนุโมทนา: 3,421
ได้รับอนุโมทนา 28,500 ครั้ง ใน 1,001 โพสต์
สุรจิตร is on a distinguished road
Talking

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ กันต์เสฎฐ์ อ่านข้อความ
นอกจากนั้นก็ยังต้องคิดอีกว่า ฟ้าส่งขงเบ้งมาเกิด แล้วไยต้องส่งสุมาอี้มาเกิดด้วย เหนือฟ้ายังมีฟ้าจริง ๆ ^-^
สุมาอี้ไม่ได้เก่งกว่าแต่ว่าตอนนั้นชะตาขงเบ้งใกล้จะหมดแล้ว
ฟ้าเลยเข้าข้างสุมาอี้มากกว่า ไม่อย่างนั้นสุมาอี้เป็นไก่ย่างไปแล้ว
__________________
เต้ย:ทำ(ยังไง)อย่างไรกับอารมณ์ที่อยู่ตรงกลาง ไม่สุข ไม่ทุกข์
หลวงตา:กำหนดรู้ว่ามันอยู่ตรงกลาง
“ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม”

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-02-2010 เมื่อ 16:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 91 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุรจิตร ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 17-02-2010, 15:26
เด็กเมื่อวานซืน เด็กเมื่อวานซืน is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 92
ได้ให้อนุโมทนา: 7,974
ได้รับอนุโมทนา 32,426 ครั้ง ใน 1,052 โพสต์
เด็กเมื่อวานซืน is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ สุรจิตร อ่านข้อความ
สุมาอี้ไม่ได้เก่งกว่าแต่ว่าตอนนั้นชะตาขงเบ้งใกล้จะหมดแล้ว
ฟ้าเลยเข้าข้างสุมาอี้มากกว่า ไม่อย่างนั้นสุมาอี้เป็นไก่ย่างไปแล้ว
สุมาอี้เป็นประเภทพวกชอบซุ่มและออกจะมีความอดทนสูง รู้จักจังหวะในการทำงาน ถ้าอ่านในประวัติส่วนตัวของเขาจริง ๆ จะเห็นได้ว่า ต้นตระกูลเขาก็เป็นใหญ่เป็นโตมาแต่โบราณนะครับ ปู่ของเขาเป็นนายพลทหารม้า และ พ่อของเขาเป็นผู้ว่าราชการนครหลวง

ส่วนตัวเขา(สุมาอี้) โจโฉเห็นแววตั้งแต่ยังหนุ่ม จึงดึงเข้าไปทำงานด้วย แต่สุมาอี้แกล้งทำเป็นป่วยจึงไม่ดังแต่แรกครับ(ช่วงนั้นพวกดัง ๆ ของโจโฉก็ได้แก่ ซุนฮก, ซุนฮิว, กุยแก, กาเซี่ยง) แต่ถึงจะไม่ดังโจโฉก็เรียกใช้งานนะครับแถมยังจับตามองเป็นพิเศษ แม้แต่ตอนโจโฉจะตาย ก็ยังสั่งห้ามไม่ให้ลูกชายเรียกใช้งานสุมาอี้ครับ เนื่องจากความรอบจัดของเขานั่นเอง ซึ่งผลมันก็แสดงให้เห็นในรุ่นลูกและหลานของเขาครับ

หมายเหตุ

ลำดับชั้นยศทางทหารของจีนในยุคของโจโฉคือ

๑. สมุหกลาโหม

๒. นายพลรถศึก ศักดิ์เท่ากับ นายพลทหารม้า

๓. นายพลตำแหน่งเฉพาะกิจ เช่น
-นายพลที่ออกไปทำศึกทิศต่าง ๆ (เหนือ, ใต้, ออก, ตก)
-นายพลที่ทำหน้าที่ป้องกันเมืองสำคัญ ๆ ในทิศต่าง ๆ (เหนือ,ใต้, ออก, ตก)
-นายพลที่ป้องกันทัพศัตรูจากทิศต่าง ๆ (เหนือ, ใต้, ออก, ตก)

๔.นายพลทหารรักษาพระองค์

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย คิมหันต์ : 17-02-2010 เมื่อ 18:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 95 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เด็กเมื่อวานซืน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 17-02-2010, 16:03
คนเก่า's Avatar
คนเก่า คนเก่า is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: ชมพูทวีป
ข้อความ: 189
ได้ให้อนุโมทนา: 21,727
ได้รับอนุโมทนา 55,280 ครั้ง ใน 1,402 โพสต์
คนเก่า is on a distinguished road
Default

รู้เลยว่าคบใครไม่ได้บ้าง
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 77 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คนเก่า ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 17-02-2010, 17:56
มารบูรพา's Avatar
มารบูรพา มารบูรพา is offline
สมาชิกใหม่
 
วันที่สมัคร: Jul 2009
ข้อความ: 1
ได้ให้อนุโมทนา: 1,846
ได้รับอนุโมทนา 652 ครั้ง ใน 16 โพสต์
มารบูรพา is on a distinguished road
Default

พูดถึงสุมาอี้แล้ว ชอบตอนที่ขงเบ้งท้ารบแต่สุมาอี้ไม่ยอมออกรบเนื่องจากเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ขงเบ้งจึงยั่วยุด้วยการส่งเสื้อผ้าอาภรณ์ของอิสตรีไปเป็นของกำนัล

แก่สุมาอี้ หวังให้สุมาอี้ได้รับความอับอายและเกิดโทสะรบพุ่งกันในที่สุด แต่สุมาอี้ไม่เพียงไม่โกรธ มิหนำซ้ำกลับสวมใส่ชุดนั้นต่อหน้าทูต ทั้งยังให้การเลี้ยงดูปูเสื่อ

ทูตเป็นอย่างดี กระทั่งสามารถล้วงความลับภายในกองทัพของขงเบ้งได้ งานนี้เรียกได้ว่า ขงเบ้งเสียเหลี่ยมไปเล็กน้อย เรื่องนี้ได้ข้อคิดว่า หากหวังความสำเร็จ

ไม่ว่าจะทำการสิ่งใด จิตใจต้องหนักแน่น
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 100 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มารบูรพา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ

Tags
เกิดผิดยุค, ความสามารถ, พระนเรศวร, พระมหาอุปราช


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:15



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว