กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 16-09-2014, 09:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "โดยปกติแล้วพระเกศาของพระพุทธเจ้าจะปลงครั้งเดียว ก็คือวันที่เสด็จออกผนวช เมื่อตัดแล้วพระเกศาก็จะขดเวียนขวา ลักษณะเป็นก้นหอย แล้วก็ไม่ยาวอีกเลย ก็แปลว่าไม่ต้องโกนทุกเดือนเหมือนกับของพวกเรา

คราวนี้บางตำราบอกว่า ที่เกศาของพระพุทธเจ้าเห็นเป็นก้นหอยอยู่นั้น เกิดจากว่าพระองค์ท่านนั่งภาวนาแล้วอากาศร้อน บรรดาหอยทากก็เลยคลานขึ้นไป แล้วก็รวมตัวกันอยู่เพื่อให้พระเศียรของพระองค์ท่านเย็น เขาก็ช่างคิดนะ...!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2014 เมื่อ 10:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 16-09-2014, 09:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ช่วงก่อน ๆ ที่เศรษฐกิจยังดีอยู่ พวกปฏิทินเขาลงทุนเอาบรรดานักกลอนฝีมือเอกมาเขียนกลอนทำปฏิทินกัน ต้องบอกว่าเป็นทั้งศาสตร์ เป็นทั้งศิลป์ เป็นทั้งความงาม จัดอยู่ในสุนทรียศิลป์ มาระยะหลังไม่ค่อยลงทุน คุณวาณิช จรุงกิจอนันต์ ยังเคยบอกว่า “โอ๊ย...ผมคิดแทบตายตั้งหลายวัน เขาให้มาแค่หมื่นเดียว” ให้มาหมื่นหนึ่งถ้าเป็นงบประชาสัมพันธ์บริษัทใหญ่ ๆ นี่ถือว่าถูกมากเลย ไปขอให้เขาเขียนกลอนให้ แต่ว่าที่อ่านแล้วจำแม่นติดใจก็คือกลอนของคุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

พื้นดินถิ่นเก่าเจ้าเอย อบอุ่นคุ้นเคย คือเพื่อนคือมิตรชิดเชื้อ
เมตตาการุณย์อุ่นเอื้อ มีใจมาเจือ มีรักมีหวังรังรอง
ร่มเย็นเป็นหลักปักปอง ทุ่งท่านาทอง ในถิ่นมิ่งทิพย์มณฑล
ผาถ้ำน้ำเถื่อนเยือนยล ย่ำไพรเหยียบพน หยัดพื้นอยู่พ่างพสุธา
ฉ่ำพรำคล่ำคล้อยเมฆา ชีวิตชีวา ชุบวันชูวันฉานฉาย


เขาจะหารูปที่เข้ากับกลอนมาลง “พื้นดินถิ่นเก่าเจ้าเอย อบอุ่นคุ้นเคย คือเพื่อนคือมิตรชิดเชื้อ” เขากำลังปล่อยเนื้อทรายคืนสู่ธรรมชาติ แล้วเนื้อทรายก็เดินจด ๆ จ้อง ๆ กล้า ๆ กลัว ๆ “เมตตาการุณย์อุ่นเอื้อ มีใจมาเจือ มีรักมีหวังรังรอง” เป็นนก ๒ ตัวกำลังไซร้ขนให้กัน “ร่มเย็นเป็นหลักปักปอง ทุ่งท่านาทอง ในถิ่นมิ่งทิพย์มณฑล” นี่เขาเอาภาพนกน้ำในบึงบอระเพ็ดมาลงไว้ “ผาถ้ำน้ำเถื่อนเยือนยล ย่ำไพรเหยียบพน หยัดพื้นอยู่พ่างพสุธา” เป็นเสือกำลังเดินจากลำห้วยขึ้นฝั่ง

ที่ขำก็คือเมียร์แค็ทหรือพังพอนแอฟริกัน เขาเขียนว่า “กลางมิตรกลางหมู่กรูกรำ กลางดงดึกดำ จักตื่นจักตั้งตาตระเวน" พังพอนพวกนี้ชอบยืนยามช่วยกันระวังภัย

"อยู่ป่ายืนป่าเป็นเกณฑ์ ปกพื้นปฐเพนทร์ พักผาผ่อนไพรพิงพง"
เป็นภาพแม่ช้างกับลูกช้างกำลังยืนเล่นฝุ่นกัน

"ก่ายไม้กอดไม้ในดง ดีกว่านอนกรง จำกัดกั้นสิทธิ์เสรี”
เป็นภาพลิงกำลังกอดกิ่งไม้หลับครอก กว่าจะครบ ๑๒ เดือนนี่ คนหารูปก็หาจนเหนื่อย ขณะที่คนเขียนก็เขียนยากเหลือเกิน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2014 เมื่อ 11:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 16-09-2014, 09:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เขียนก่อนหรือเอารูปมาก่อน ?
ตอบ : เขียนก่อนแล้วเอารูปประกอบทีหลังจะง่ายกว่า ถ้าเอารูปมาก่อนนี่คนเขียนต้องเซียนจริง ๆ ไม่อย่างนั้นไม่สามารถที่จะแต่งเนื้อหาให้เข้ากันได้ ที่มั่นใจว่ารูปมาทีหลังเพราะว่าพังพอนแอฟริกันไม่ใช่สัตว์บ้านเรา ส่วนที่เหลือเป็นสัตว์บ้านเราทั้งนั้น

“กลางมิตรกลางหมู่กรูกรำ กลางดงดึกดำ จักตื่นจักตั้งตาตระเวน อยู่ป่ายืนป่าเป็นเกณฑ์ ปกพื้นปฐเพนทร์ พักผาผ่อนไพรพิงพง” แม่ช้างกับลูกกำลังเล่นฝุ่นกัน “ก่ายไม้กอดไม้ในดง ดีกว่านอนกรง จำกัดกั้นสิทธิ์เสรี” ส่วน “หยุดอธรรมต่ำช้าราวี ยืนสัจจะวาที ดำรงยงยุคสุขสมัย” เอารูปหมีที่โดนขังไว้เพื่อตัดอุ้งเท้า

“คืนทุ่งคืนท่าชลาลัย คืนใจสู่ใจ ประดุจดังใจเดียวกัน” ปล่อยเต่าตนุลงทะเล
รูปสุดท้ายเดือนธันวาคม เป็นรูปปลาสิงโตอยู่ท่ามกลางหมู่ปลาทะเลในดงปะการัง “ร่วมสุขร่วมสร้างรังสรรค์ ร่วมเหย้าเนาว์นิรันดร์ ร่วมรมณียามาตุภูมิ....” ลงทะเลไปแล้ว

มีอยู่ปีหนึ่งเขาเอารูปป่ากับเมืองมาประกบกันหน้าต่อหน้า แล้วเขาก็ดันแต่งกลอนได้ อันนั้นเชื่อว่าเขาเอารูปมาก่อน เพราะไม่อย่างนั้นเนื้อหาจะไปกันไม่ได้ “แดดฉ่ำและน้ำชื่น หมื่นภูสูง ยูงรำแพน” เป็นรูปป่าห้วยขาแข้ง “โปรยดอกประดับแดน ประดิษฐานพระสัทธรรม” ดอกไม้กำลังโปรยเกลื่อนเต็มพื้นที่อยุธยา ถ่ายออกไปแล้วเห็นรูปพระอยู่กลางซากปรักหักพัง

“ป่าใหญ่จักเป็นเหย้า ลำห้วยเย็นให้ย่างย่ำ”
เป็นรูปช้างกำลังลุยไปในลำห้วย แล้วต่อมาก็เป็น "ยืนยงอยู่คงย้ำ สถิตอารยะยุค" ภาพอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย “โลดเริงกระเจิงผัน ราวป่าลั่นประเลงปลุก” รูปนี้เป็นรูปสัตว์ป่าที่ถ่ายได้สวยที่สุด เก้งกำลังตื่นหนีคน ไม่รู้คุณดวงดาว สุวรรณรังสีจับจังหวะถ่ายอย่างไร เก้งกำลังพุ่งลอยอยู่ทั้งตัวแล้วเขาถ่ายได้พอดี แล้วชัดมาก ไม่ใช่ภาพเบลอ ๆ ด้วย

อีกรูปหนึ่งก็เป็นรูปพระธุดงค์ น่าจะเป็นของวัดพระธรรมกาย กำลังจุดโคมอยู่ในกลดมืด ๆ แล้วเลยไปข้างหลัง เห็นเจดีย์เก่า ๆ หัก ๆ “ส่องทางให้สร่างทุกข์ รำงับทุกข์อิริยา” แล้วภาพต่อไปก็เป็นลำห้วย น้ำกำลังไหลริน ๆ “ร่วงเพชรระรินพลอย เป็นสร้อยน้ำประจำผา” แล้วก็เป็นรูปสระบัวที่อยู่ด้านหลัง น่าจะเป็นตระพังเงินตระพังทอง แล้วก็ถ่ายออกไปข้างหน้าที่เป็นอยุธยา “เบิกช่อขึ้นบูชา ประชุมชัย ณ ใจชน”

ปกติแล้วเดี๋ยวนี้อยากได้อะไรไปค้นจากกูเกิ้ลก็ได้ แต่พวกนี้ไม่มี ที่ไม่มีอาจจะเป็นเพราะว่างานมีลิขสิทธิ์ ก็เลยไม่มีลงในเว็บ อ่านแล้วจำ ๆ เอาไว้ ไปเจอปฏิทินที่ไหนมี ก็รีบอ่านแล้วก็จำใส่หัวไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2014 เมื่อ 11:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 16-09-2014, 12:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "คนแก่เวลาลุกนั่งต้องระวัง ไปนึกถึงคุณพ่อของคุณศิลา โคมฉาย อายุ ๙๔ ปีแล้วยังแข็งแรง ท่านไปเดินออกกำลังทุกวัน ปรากฏว่าวันนั้นกะจังหวะพลาดอย่างไรก็ไม่รู้ จะนั่งลงบนตั่งแล้วท้าวผิด พอท้าวผิดก็เลยหน้าทิ่มลงไปโขกตั่งโป๊กเดียวไปเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าหมดอายุพอดีหรืออย่างไร แต่ว่าเป็นคนแข็งแรง ไม่เจ็บไม่ป่วย ไม่นอนโรงพยาบาล ท้าวผิดหน่อยเดียวโขกโป๊ก เห็นว่าหน้าผากถลอกนิดเดียว อาจจะกระดูกคอเคลื่อน แต่ฉับพลันเกินไป เพราะว่าไม่มีดิ้นไม่มีอะไร โขกแล้วก็เงียบไปเลย ถ้ากระดูกคอเคลื่อนแล้วไปเบียดประสาทอะไรก็น่าจะไปเลยแบบนั้น แต่ก็น่าจะเป็นวาระที่ต้องไปด้วย ๙๐ กว่านี่ยังแข็งแรง ชวนเพื่อน ชวนพี่ ชวนน้อง ชวนหลานออกต่างจังหวัดทำบุญ นั่งรถกันทีข้ามวันข้ามคืน ท่านอยู่ปักษ์ใต้ นั่งรถไปทำบุญภาคอีสาน บอกให้ไปเครื่องบินก็ไม่ไป ชอบนั่งรถ สงสัยว่าจะไม่ไว้ใจเครื่องบิน

คุณแม่ของคุณอนันต์ อัศวโภคิน ก็อายุ ๙๐ กว่าปีแล้ว ยังต้องบริหารงานอยู่ทุกวัน รับรองว่าไม่เป็นอัลไซเมอร์แน่นอน เวลามีเรื่องประชุมตกลงกัน ทะเลาะเบาะแว้งกัน ถ้าเขาบอกว่าคุณแม่ของท่านประธานกรรมการมา ทุกอย่างจะตกลงกันได้อย่างรวดเร็ว แสดงว่าคุณแม่ของคุณอนันต์นี่บารมีสุดยอดเลย แลนด์แอนด์เฮ้าส์เขาชุมนุมคนเก่งเยอะ ต่อให้เป็นเจ้านายกับลูกน้องก็ไม่ค่อยจะลงให้กัน ถ้าคิดว่าแนวความคิดของตัวเองดีกว่า พยายามนำเสนอก็เถียงกัน บางครั้งคุณอนันต์ถอดรองเท้าขว้างเลย ขว้างได้ก็ขว้างไป หลบเสร็จก็พูดต่อ..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2014 เมื่อ 14:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 16-09-2014, 12:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"สมัยนั้นจองบ้านกันไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปีกว่าจะได้บ้าน แต่คุณอนันต์นี่แนวคิดของเขาก็คือ หิ้วกระเป๋ามาใบเดียวเข้าอยู่ได้เลย วางเงินดาวน์เสร็จเข้าอยู่ได้ กลายเป็นบ้านของตัวเองเลย ที่เหลือค่อยไปผ่อนเอา ทำให้เลือกได้ว่าบ้านหลังนี้ถูกใจหรือเปล่า เพราะว่าสร้างเสร็จแล้ว ไม่ใช่สร้างแล้วก็ยังต้องไปทะเลาะกับช่างอีก พอโครงการของคุณอนันต์ออกมา คนจองกันกระหน่ำเลย รวยเป็นพันล้านในพริบตา

ช่วงหลังมีของพฤกษาเรียลเอสเตทมา เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว เพราะว่าพฤกษาผลิตวัสดุก่อสร้างของตัวเอง ก็เลยทำให้คุมราคาที่ต่ำกว่าได้ เสนอของดีราคาถูก ในเมืองกาญจน์นี่น่าจะ ๑๐ กว่าโครงการของพฤกษา ขายเกลี้ยงไม่เหลือสักโครงการเลย ดูบรรดาคู่แข่งในวงการต่าง ๆ แล้ว บางอย่างเขาหักล้างกันรุนแรง ไม่เหมือนสมัยก่อนที่เขาถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน คนจีนเขาถือว่ามีเพื่อนดีกว่ามีศัตรู พอถึงเวลาเขาไม่ไหวก็ยื่นมือไปประคับประคอง พอเขาขึ้นมาเป็นคู่แข่งก็ทำให้ตัวเองต้องพากเพียรมากขึ้น

แต่สมัยนี้เขาหักกันแบบฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง ตัวอย่างก็โค้กกับเป๊บซี่ ไม่น่าเชื่อว่าโฆษณา ๒ นาที เป๊บซี่ช่วยโฆษณาให้โค้กไปนาทีกว่า ๆ ก็คือ เป็นภาพเด็กเขย่งไปหยอดตู้ขายน้ำอัดลมอัตโนมัติ โค้กกลิ้งมากระป๋องหนึ่งก็หยิบมา หยอดอีกทีโค้กกลิ้งมาอีกกระป๋องก็หยิบมา แล้วเอาโค้ก ๒ กระป๋องวางแล้วตัวเองขึ้นไปเหยียบ แล้วหยอดเหรียญช่องข้างบนที่ตอนแรกหยอดไม่ถึงเพื่อเอาเป๊บซี่ ยอมลงทุนเอาโค้ก ๒ กระป๋องมาต่อเพื่อซื้อเป๊บซี่ ๑ กระป๋อง เขาบอกใบ้ให้ว่าเป๊บซี่ดีที่สุด คิดดู..โฆษณาแบบนี้ฆ่า
กันให้ตายดีกว่า ช่วยโฆษณาให้โค้กไปตั้งนาทีกว่า ตัวเองขอแค่ ๒๐ วินาทีสุดท้ายเท่านั้น

ส่วนเบียร์สิงห์กับเบียร์ช้างก็รบราฆ่าฟันกันมาตลอด โฆษณานั่งช้างเที่ยวป่า ปรากฏว่ากินเบียร์สิงห์บนหลังช้าง คนออกแนวคิดนี้ไม่รู้ว่าคิดได้อย่างไร กินสิงห์บนหลังช้าง ถ้าวันไหนไปบ้านโยมแล้วเขาเปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้ อาตมาจะดูโฆษณา ดูแนวคิดของเขา ว่าเราคิดได้อย่างเขาไหม โฆษณาบางอย่างต้องบอกว่าเป็นอมตะ พอถึงเวลาใคร ๆ ก็ต้องกล่าวขวัญยกตัวอย่างถึง อย่างถ่านไฟฉายตรากบ จนป่านนี้ก็โฆษณาเดิม ๆ มา ๔๐-๕๐ ปีแล้ว เรียบง่าย ตรงใจ หรือโฆษณาขายแฟล็ตปลาทอง วันที่ ๙ เดือน ๙ อย่างนี้เป็นต้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-09-2014 เมื่อ 11:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 16-09-2014, 12:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ใครจะช่วยทำบุญปลดหนี้ไปที่ข้างหลังนะจ๊ะ มีวัตถุมงคลใหม่ ๆ มา นโยบายของอาตมาก็แบบเดียวกับเถาจูกงนั่นแหละ กำไรน้อยแต่ขายได้มากก็เท่ากับกำไรมากไปเอง เอาถูกไว้ก่อน

เถาจูกงที่เป็นเทพเจ้าการค้าขายของจีน ตามประวัติเขาบอกว่าคือเสนาบดีฟ่านหลี พอเสนาบดีฟ่านหลีช่วยเหลือจนกระทั่งแคว้นเย่ว์สามารถปลดแอกจากแคว้นโง้วได้ แล้วตัวเองก็พาไซซีหนีไปเลย เพราะเข้าใจคำว่า "เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล" ว่าเป็นอย่างไร เก่งขนาดสามารถวางแผนให้เจ้านายตัวเองยอมทนอัปยศอยู่ตั้งหลายปีได้ ด้วยความที่เจ้านายตัวเองยอมทนอัปยศอยู่ตั้งหลายปี เสนาบดีคนนี้รู้ตลอด พอขึ้นครองราชย์แล้ววันไหนเกิดนึกขึ้นมาได้ อับอายขายหน้าขึ้นมา...ไอ้นี่รู้นี่หว่า เดี๋ยวก็โดนจนได้ จึงหนีไปเลย ปลอมชื่อเปลี่ยนแซ่เป็นเถาจูกง ไปทำการค้าขาย ด้วยความที่เป็นคนเก่ง ก็ร่ำรวยมหาศาลขึ้นมาอีก จึงกลายเป็นเทพเจ้าการค้าของจีนไป

ต้องถือว่าแผนการใช้หญิงงามเผด็จศึก แผนของไซซีนี่ถือว่าสุดยอดที่สุด เพราะว่าเตียวเสี้ยนนี่หลอกว้านจงก็เขียนมาจากเรื่องของไซซีนี่แหละ เขาบอกว่าเตียวเสี้ยนจริง ๆ ไม่มีตัวตนในประวัติศาสตร์ หลอกว้านจงคงจะใส่เพิ่มขึ้นมา แต่ ๔ ยอดหญิงงามของจีนก็ยังอุตส่าห์มีเตียวเสี้ยนได้ ทั้ง ๆ ที่ในประวัติศาสตร์ไม่มีตัวจริง ไซซีมีแน่ หยางกุ้ยเฟยมีแน่ หวังเจาจวินมี เตียวเสี้ยนไม่มี เขาบอกว่า "มัจฉาจมวารี" ไซซีไปตักน้ำ ปลามองเห็นลืมว่ายน้ำ จมเลย อะไรจะสวยได้ปานนั้นนะ ส่วนหวังเจาจวินเขาบอกว่า "ปักษีตกนภา" นกบินผ่านมาเจอความสวยนี่ร่วงเลย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2014 เมื่อ 14:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 16-09-2014, 12:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หวังเจาจวินไม่ยอมติดสินบนบรรดาขันทีในวัง พอถึงเวลาต้องวาดรูปไปเสนอฮ่องเต้ เขาก็เลยวาดส่งเดช ไม่สวย พอถึงเวลาทางด้านบรรดาพวกหัวหน้าเผ่าต่าง ๆ จากชายแดนบุกรุกแผ่นดินจีนขึ้นมา อยากจะผูกสัมพันธ์ด้วย ขอให้ส่งสาวงามไปให้เขา ฮ่องเต้ก็เลยเลือกรูปห่วย ๆ ให้เสนาบดีส่งตัวไป ปรากฏว่าวันที่ไปส่งเดินทาง ฮ่องเต้ไปเห็นหวังเจาจวินเข้า เสียดายเข่าอ่อนไปเลย เขาใช้คำว่า "ปักษีตกนภา"

เตียวเสี้ยนนี่นักประวัติศาสตร์หลายคนยืนยันว่าไม่มีตัวตน แต่หลอกว้านจงเขียนไว้ในสามก๊ก จนกลายเป็นยอดหญิงงามไปแล้ว กวีให้คำจำกัดความว่า "จันทร์หลบโฉมสุดา" แม้ว่าพระจันทร์ออกจากกลีบเมฆมาเห็น ก็ต้องถอยกลับเข้ากลีบเมฆใหม่ เพราะสวยสู้ไม่ได้

ส่วนหยางกุ้ยเฟยนี่เป็นเจ้าแม่เครื่องสำอาง ต้นตำหรับใช้น้ำหอม ใช้น้ำนม ใช้ไข่มุก ฯลฯ เพื่อที่จะประทินความงามตัวเอง จนกระทั่งนักประวัติศาสตร์บางคนกระแนะกระแหนว่า สงสัยคงตัวเหม็นจัด ก็เลยต้องใช้สารพัดน้ำหอมมาอบผิวตัวเอง หยางกุ้ยเฟยนี่ต้องบอกว่าความงามล่มบัลลังก์ ฮ่องเต้ไม่ออกว่าราชการเลย กวีจีนเขาบอกว่า "มวลผกาละอายนาง" เขาว่าเวลาเดินเข้าไปชมสวน ดอกไม้เหี่ยวหมดเลย สวยสู้ไม่ได้ ไม่อยากแข่งความสวยด้วย หุบกลีบดีกว่า หยางกุ้ยเฟยภาษาจีนแต้จิ๋วเรียกว่า "เอี้ยกุยฮุย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2014 เมื่อ 15:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 16-09-2014, 13:08
สายท่าขนุน สายท่าขนุน is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 759
ได้ให้อนุโมทนา: 160,001
ได้รับอนุโมทนา 133,091 ครั้ง ใน 5,305 โพสต์
สายท่าขนุน is on a distinguished road
Wink

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เถรี อ่านข้อความ

มีอยู่ปีหนึ่งเขาเอารูปป่ากับเมืองมาประกบกันหน้าต่อหน้า แล้วเขาก็ดันแต่งกลอนได้ อันนั้นเชื่อว่าเขาเอารูปมาก่อน เพราะไม่อย่างนั้นเนื้อหาจะไปกันไม่ได้ “แดดฉ่ำและน้ำชื่น หมื่นภูสูง ยูงรำแพน” เป็นรูปป่าห้วยขาแข้ง “โปรยดอกประดับแดน ประดิษฐานพระสัทธรรม” ดอกไม้กำลังโปรยเกลื่อนเต็มพื้นที่อยุธยา ถ่ายออกไปแล้วเห็นรูปพระอยู่กลางซากปรักหักพัง

“ป่าใหญ่จักเป็นเหย้า ลำห้วยเย็นให้ย่างย่ำ”
เป็นรูปช้างกำลังลุยไปในลำห้วย แล้วต่อมาก็เป็น "ยืนยงอยู่คงย้ำ สถิตอารยะยุค" ภาพอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย “โลดเริงกระเจิงผัน ราวป่าลั่นประเลงปลุก” รูปนี้เป็นรูปสัตว์ป่าที่ถ่ายได้สวยที่สุด เก้งกำลังตื่นหนีคน ไม่รู้คุณดวงดาว สุวรรณรังสีจับจังหวะถ่ายอย่างไร เก้งกำลังพุ่งลอยอยู่ทั้งตัวแล้วเขาถ่ายได้พอดี แล้วชัดมาก ไม่ใช่ภาพเบลอ ๆ ด้วย

อีกรูปหนึ่งก็เป็นรูปพระธุดงค์ น่าจะเป็นของวัดพระธรรมกาย กำลังจุดโคมอยู่ในกลดมืด ๆ แล้วเลยไปข้างหลัง เห็นเจดีย์เก่า ๆ หัก ๆ “ส่องทางให้สร่างทุกข์ รำงับทุกข์อิริยา” แล้วภาพต่อไปก็เป็นลำห้วย น้ำกำลังไหลริน ๆ “ร่วงเพชรระรินพลอย เป็นสร้อยน้ำประจำผา” แล้วก็เป็นรูปสระบัวที่อยู่ด้านหลัง น่าจะเป็นตระพังเงินตระพังทอง แล้วก็ถ่ายออกไปข้างหน้าที่เป็นอยุธยา “เบิกช่อขึ้นบูชา ประชุมชัย ณ ใจชน”
“สาดแสงสำเริงไพร ระบายใบ ระบัดบน”
“ปลุกอดีตบันดาลดล ด้วยเรื่องราวของแผ่นดิน”
“ปรางค์ธาตุสถูปสถาน ดวงวิญญาณพระธรณินทร์”
“โลกนี้คือชีวิน คือวิญญาณ อมรรตรัย”


จากกระทู้นี้ :
http://www.watthakhanun.com/webboard...?t=3270&page=2
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน

อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สายท่าขนุน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 16-09-2014, 13:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ไปนึกว่าบรรดาพระมหากษัตริย์ต่าง ๆ ส่วนใหญ่ต้องเคยสร้างเนกขัมมบารมีเบื้องต้นมาแล้ว ถึงจะได้เกิดเป็นพระมหากษัตริย์ ไม่อย่างนั้นวัน ๆ ก็จมอยู่กับพวกบรรดานางสนม ไม่ต้องทำงานทำการ ตอนที่คุณกฤษณ์พาไปภักตรปุระ แกบรรยายว่า พระมหากษัตริย์ของเขามีมเหสี ๒ องค์ ของไทยมีเป็นสิบ ของอินเดียมีเป็นร้อย ของจีนมีเป็นพัน ฟังแกบรรยายแล้วก็ขำดี

ที่ว่าพระมหากษัตริย์ท่านต้องสร้างเนกขัมบารมีในเบื้องต้นมาแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นก็จะลุ่มหลงมัวเมา จนกระทั่งไม่เป็นอันทำงานทำการ เพราะต้องบอกว่า รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส อะไรทุกอย่างที่ดีที่สุดในแผ่นดินของท่านก็ต้องเป็นของท่าน ถ้าไม่ใช่คนที่สร้างบารมีมาจนถึงระดับหนึ่งนี่รับรองว่าถอนตัวไม่ขึ้น บางช่วงของแผ่นดินจีน บรรดาฮ่องเต้ก็มัวแต่ลุ่มหลงกับความสุขส่วนตัวจนกระทั่งลืมประชาชน เพราะฉะนั้น..ที่ภาษิตจีนเขาบอกว่า น้ำสามารถรองรับเรือได้ แต่ก็ล่มเรือได้ ก็คือประชาชนยกคุณขึ้นไปเป็นใหญ่ได้ก็จริง แต่ก็ทำให้คุณตกบัลลังก์ได้เหมือนกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2014 เมื่อ 15:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 16-09-2014, 13:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีคนแนะนำว่าคนนี้ถอนของออกได้ ?
ตอบ : อย่าหาเรื่องใส่ตัว คนถอนของได้ก็ทำใส่เราได้ ตั้งใจสวดมนต์ภาวนาของเราไป ถ้ากำลังใจทรงตัว สิ่งไม่ดีก็อยู่ไม่ได้ไปเอง

ถาม : ไม่จำเป็นต้องไปหรือคะ ?
ตอบ : ไม่จำเป็นต้องไปหรอก อาตมาไม่ได้กังวลเรื่องนี้เลย ถ้ากำลังใจเราดี อะไร ๆ ก็ดีหมด สรุปว่าไม่ต้องไปหรอกจ้ะ ตื่นเช้าขึ้นมาไม่มั่นใจก็สวดมนต์ไหว้พระ ขอบารมีพระคุ้มครองก่อนจะออกไปไหน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2014 เมื่อ 15:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 16-09-2014, 13:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เป็นไปได้หรือที่คนจะวิ่งไปเหมือนกระโดดไปสองก้าว ภาพที่เห็นคือก้าวไปแค่ไม่กี่ก้าว ?
ตอบ : บางอย่างทำจนชินก็รู้สึกว่าง่าย คนที่เขาไม่ชินก็ว่ายาก ความรู้สึกของอาตมาก็คือแค่เดินขึ้นไป ไม่เห็นว่าจะยากตรงไหน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2014 เมื่อ 15:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 16-09-2014, 14:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "หัวหน้าคณะปฏิวัติบ้านเราที่ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีมีใครบ้าง ? จอมพลสฤษดิ์ จอมพลถนอม ที่เหลือก็ไม่มีแล้วนะ มีพลเอกสุจินดาอยู่ได้ไม่กี่วัน แต่ว่าพลเอกประยุทธ์นี่ต้องบอกว่ากระแสชาวบ้านไม่คัดค้าน เห็นว่ามาในจังหวะที่พอดี แต่ว่าเสียตรงที่ขึ้นไปเป็นนายกรัฐมนตรีนี่แหละ เพราะว่าทันทีที่ขึ้นไป จากสิ่งที่ตัวเองทำเพื่อประเทศชาติและประชาชน คนส่วนหนึ่งจะมองว่าทำเพื่อตัวเอง ก็จะกลายเป็นจุดอ่อนให้เขาตีได้ ถ้ากฎอัยการศึกยกเลิกเมื่อไรคงสนุกน่าดูแน่

สมัยที่อาตมาเรียนมัธยมอยู่เป็นยุค ม. ๑๗ ประหารอย่างเดียว ถ้ายุคนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาประเทศชาติได้ ก็ไม่มียุคไหนแก้ไขได้แล้ว เพราะว่ายุคนี้อำนาจเบ็ดเสร็จอยู่ที่ผู้นำประเทศคนเดียว พอ ๆ กับสมบูรณาญาสิทธิราชเลย ในเมื่ออยู่ในลักษณะนี้แล้วยังไม่สามารถแก้ไขได้ ก็เป็นอันว่าหมดหวังแล้ว ยังดีว่าช่วงนี้ทุกฝ่ายก็พยายามทำเพื่อให้ประเทศชาติสงบ แม้ว่าจะสงบในลักษณะภูเขาไฟใต้น้ำก็เถอะ ฝ่ายโน้นก็คงคิดว่าอยู่ได้ไม่นานหรอก ทน ๆ ไปเดี๋ยวก็ผ่านไปแล้ว

ที่บอกว่าน้ำสามารถรองรับเรือได้ ก็ล่มเรือได้ ก็เพราะว่าตอนช่วงนี้บรรดาท่านที่เป็นต้นเหตุของการปฏิวัติรัฐประหาร รู้สึกว่าทหารปฏิวัติไปแล้วไม่ได้ตอบสนองความต้องการของตัว ดูท่าว่าเริ่มแสดงปฏิกิริยากันแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2014 เมื่อ 15:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 16-09-2014, 14:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ถ้าทหารเอาจริงก็ไม่มีใครกล้าหือ เพียงแต่ว่าบางอย่างนั้นชัดเจนเกินไป อย่างตัดสินประหารชีวิตฝ่ายเสื้อแดงไป ๒๐ กว่าคน ศาลทหารเขาไม่มีอุทธรณ์ฎีกา แปลว่าตายอย่างเดียว แต่ขณะเดียวกันอีกฝ่ายหนึ่งศาลอาญาบอกว่าไม่รับฟ้องเพราะเป็นคดีการเมือง

เรื่องของการตัดสินลักษณะนี้จะเป็นบรรทัดฐานไปทั้งชาติ แต่ว่าเขาก็ยังตัดสินกันออกมา ก็สงสัยเหมือนกันว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้พิจารณารอบคอบดีแล้วหรือ ? ไม่อย่างนั้นต่อไปถ้าใครขึ้นมาเป็นรัฐบาล ถึงเวลาประชาชนประท้วงก็ฆ่าเล่นเป็นของสนุกได้ เสร็จแล้วก็ไม่ใช่คดีอาญา เพราะว่าปฏิบัติหน้าที่ของตน กลายเป็นเรื่องการเมืองไป ก็แค่ผิดมาตรา ๑๕๗ แต่ไม่ใช่คดีอาญา ถ้าคนตายตั้งเยอะตั้งแยะแล้วไม่ใช่คดีอาญา ตกลงเรียกว่าคดีอะไร ? อาตมาก็งง ๆ เหมือนกัน บรรทัดฐานของศาลพอตัดสินไปแล้ว มีผลกระทบระยะยาวมาก ยังสงสัยว่าท่านเอามาตรฐานอะไรมาตัดสินกัน แต่ว่าก็อย่างว่าแหละ กองเชียร์เยอะ ประเทศไทยเรายิ่งรักง่ายหน่ายเร็วอยู่ด้วย ถ้าไม่มีผลงานชัดเจนนี่ลำบากเลย

คณะรัฐมนตรีทั้งหมดที่แต่งตั้งมา อาตมาติดใจสงสัยอยู่ตำแหน่งเดียวก็คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร ทั่วโลกเขาไม่ยอมรับง่าย ๆ เอาพลเรือนไปจะเข้าท่ากว่า เอาทหารไปถ้าเขาถามคำเดียวแล้วจะตอบเขาอย่างไร ก็เลยสรุปว่าถ้าไม่ใช่รัฐบาลเผด็จการทหารด้วยกัน คงไม่มีประเทศไหนเปิดรับหรอก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2014 เมื่อ 15:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 16-09-2014, 14:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"วันนี้เลี้ยวเข้ามาเรื่องการเมืองมากไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องของพระ เรื่องของพระเราปกครองวัดให้ดีก็พอแล้ว วันก่อนถามพระท่านว่า "ตอนที่บิณฑบาตบ้านแรก ผมเดินเลาะข้างรถไปอ้อมออกทางท้าย ใครเป็นคนแรกที่ไปอ้อมออกด้านหน้ารถ ?" ท่านแบงค์ก็ยกมือว่า "ผมครับ" "คุณรู้ไหมว่าคุณเห็นแก่ความสบาย แต่คุณไม่สงสัยหรือว่าทำไมผมยอมลำบากเลาะไปออกท้ายรถ ?" ท่านก็งง ๆ

อาตมาก็บอกว่า "เราเดินชิดขวา บ้านเรารถวิ่งชิดซ้าย ถ้าผมอ้อมไปออกท้ายรถ รถจะเห็นแต่ไกลว่าผมจะข้ามถนน แต่คุณอยู่ ๆ โผล่มาหน้ารถ ถ้าเขาเหยียบผ่านมาพอดีก็กระเด็นเลย การที่เราเดินอ้อมข้างรถแล้วไปโผล่ทางด้านท้าย ถ้ารถที่จอดอยู่ต้องการจะออกตัวสามารถไปได้เลย แต่คุณไปตัดหน้ารถ กว่าแถวพระจะหมดเขาต้องจอดรอพวกเราตั้งนาน ตกลงเคยคิดเรื่องแบบนี้กันบ้างหรือเปล่า ? เวลาผมทำอะไรเห็นแล้วสงสัย เคยคิดบ้างไหม ? ไม่ใช่คิดว่าเดินตัดหน้ารถง่ายจะตาย ทำไมอาจารย์ต้องอ้อมไปตั้งไกลด้วย"

การที่เป็นผู้นำเขานั้นต้องคิดเผื่อ ขณะเดียวกันคนที่เป็นผู้ตามไม่ต้องคิดเผื่ออะไร ไปนึกถึงเรื่องจีนกำลังภายในเรื่องหนึ่ง ชื่อเรื่องแส้สะบัดเลือด ใครลองไปหามาอ่านดู ที่มีพระเอกกับอีกคนหนึ่ง คล้าย ๆ ตัวโกงแต่ไม่ใช่ตัวโกง นัดสู้กันทุก ๓ ปี อีกฝ่ายหนึ่งแพ้ทุกครั้ง ทั้ง ๆ ที่ฝีมือไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย ไม่ว่าจะใช้เล่ห์เหลี่ยมคดโกงอีท่าไหนพระเอกตามทันหมด

จนกระทั่งท้ายที่สุดเขาทนไม่ได้ เขาก็เอ่ยปากถามว่า ไม่ว่าเขาจะมุ่งโจมตีตรงจุดไหนก็ตาม ทำไมพระเอกรู้ทันหมด พระเอกเขาเป็นหัวหน้าพรรค มีลูกน้องในสังกัด ๓๐๐ กว่าคน กินพื้นที่ตั้ง ๕-๖ มณฑล เขาต้องคอยระมัดระวังว่าเจ้านี่จะไปเล่นหน่วยงานไหนของเขา แล้วจะใช้วิธีไหน เขาใช้วิธีคิดลักษณะว่าถ้าเขาเป็นศัตรูจะมาเล่นงาน เขาจะทำอย่างไร แล้วเขาก็คอยระวังป้องกัน เขาบอกว่าคนที่ต้องคิดเผื่ออีก ๓๐๐ ร้อยคนนี่ ต้องคิดให้รอบคอบกว่าคนที่คิดเพื่อตัวเองคนเดียว

คราวนี้พอมาเจอเหตุการณ์อย่างที่ว่า อาตมายอมเดินหลบไปออกท้ายรถ อันดับแรก..ก็คือไม่รบกวนรถคันนั้น ถ้าเขาจะออกรถเขาก็ออกได้เลย ขณะเดียวกันรถที่มา ก็เห็นได้ชัด ๆ เพราะเราอยู่ทางท้ายรถ ไม่มีอะไรบัง ไม่ใช่อะไรหรอก อาตมาเคยชนพวกทะเล่อทะล่าออกมาทางหน้ารถปลิวไปทั้งคนแล้ว ฉะนั้น..ถ้าลงจากรถ โปรดอย่าโผล่ออกทางด้านหน้ารถแล้วข้ามถนน ถ้าดวงยังดีก็ไม่เป็นไร ถ้าดวงตกวันไหนนี่เจอเต็ม ๆ จะดูปัญญาพระวัดท่าขนุนหน่อย สรุปแล้วปัญญาพอ ๆ กับชิมแปนซี..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2014 เมื่อ 15:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 17-09-2014, 08:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "โอ..เอามีดหมอของหลวงพ่อวิชาไปประมูลด้วย ท่านเล่นลงมหาอุดมาด้วย ท่านทำแค่ไม่กี่เล่ม สมัยที่หลวงพ่อวิชายังอยู่ลานสัก อาตมาตั้งท่าจะไปขอวิชาท่าน จนป่านนี้ก็ยังไม่มีโอกาส เพราะว่าต้องเอาบายศรีไปขอเรียน ของหลวงพ่อวิชานี่คาถาสั้น ๆ บทเดียว หยิบอะไรขึ้นมาเสก วางลงยิงเดี๋ยวนั้นได้เลย ไม่ออกหรอก"



มีดโต้ทองมหาลาภ ของหลวงพ่อวิชา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-09-2014 เมื่อ 10:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 17-09-2014, 08:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์พูดถึงคนช่างเลือกว่า "อาตมาเคยเจอคนช่างเลือกอยู่เหมือนกัน ตอนนั้นยังจำหน่ายแก้วมณีรัตนะอยู่ที่วัดท่าซุง มีโยมผู้หญิงคนหนึ่งมาขอดูลูกแก้ว เขากลิ้งดูทีละเหลี่ยมเลย สายตาดีจริง ๆ “องค์นี้บิ่นนะ ขอเปลี่ยน” เอ้า..ไม่เป็นไร เปลี่ยนก็เปลี่ยน กลิ้งดูต่อ ดูไปดูมา..กองเบ้อเร่อเลย

พออาตมาเห็นคนแล้วชอบสังเกตว่า คนนี้กำลังใจเป็นอย่างไร ลักษณะนี้ราคะจริตแน่นอน ชอบรักสวยรักงาม ละเอียดถี่ถ้วน นั่งดูไปเรื่อย ๆ แกก็กลิ้งของแกไปเรื่อยจนกองเบ้อเร่อ ท้ายสุดก็ "เอากองนี้ค่ะ" ขายได้ตั้ง ๔๐,๐๐๐ กว่าบาท คนเดียวคุ้มเลย หลวงตาวัชรชัยเดินหนีไปตั้งนานแล้ว ทนดูไม่ได้ เลือกเป็นชั่วโมงเลย เขาสบายใจว่าได้เลือกแล้ว อาตมาก็ดูใจตัวเองไปเรื่อย เราขุ่นมัวหรือเปล่า ? หงุดหงิดไหม ? ได้กำไรเหมือนกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-09-2014 เมื่อ 10:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 17-09-2014, 08:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ไม่ได้บอกพวกเราว่าวันพุทธาภิเษกเหรียญพุทธบารมี ฝนเขาหยุดให้เฉพาะตอนพุทธาภิเษกจริง ๆ นะ หลังเพลก็กระหน่ำไม่ลืมหูลืมตาเหมือนเดิม เป็นอันว่าพอญาติโยมเบิกวัตถุมงคลกลับบ้านได้ ฝนก็ตกไล่ตูดไปเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-09-2014 เมื่อ 10:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 17-09-2014, 11:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เหรียญพุทธบารมีเนื้อนาก อาตมาอุตส่าห์แหกคอกกล้าตาย ให้เขาผสมทองเกิน ๔๐ เปอร์เซ็นต์ ปรากฏว่าออกมาดูไม่ได้เลย กลายเป็นสีเหลืองซีด ๆ ท้ายสุดก็ต้องกลับไปเหลือแค่ ๓๕ เปอร์เซ็นต์

ถ้านากมาตรฐานต้องผสมทองคำ ๓๐ เปอร์เซ็นต์ คือจะเป็นทองแดง ๗๐
เปอร์เซ็นต์ แล้วทองคำ ๓๐ เปอร์เซ็นต์ จะออกมาเป็นนากสีเข้มสวย คราวนี้อาตมาให้เพิ่มขึ้นไปเป็น ๓๕ เปอร์เซ็นต์ แล้วออกมาซีด ๆ ถ้าถึง ๔๐ เปอร์เซ็นต์นี่ดูไม่ได้เลย กลายเป็นว่าใส่ทองเยอะกลับดูไม่สวย อยากจะคืนกำไรให้ประชาชนหน่อยก็คืนไม่ได้อย่างใจ ในความคิดของอาตมาก็คือผสมลงไปอย่างไรก็ต้องแดง ๆ แต่กลับไม่แดง กลายเป็นเหลืองซีด ๆ ซีดเหมือนทองเหลืองที่เราขัดด้วยบราสโซเต็มที่เลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ตัวเล็ก : 17-09-2014 เมื่อ 20:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 17-09-2014, 11:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "คุณพ่อของน้องแอลลี่เป็นอิสลาม เวลาเขาไปรับลูกของเขา เขาก็จะไปยืนรออยู่หน้าโบสถ์ เพราะอิสลามห้ามเข้าศาสนสถานของศาสนาอื่น แต่แอลลี่ได้มโนมยิทธิชัดมากเลย เป็นไปได้เหมือนกันนะ ...(หัวเราะ)... แต่ดีตรงที่เขาไม่ห้าม ลูกเมียจะนับถือศาสนาพุทธก็ว่าไปได้เลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-09-2014 เมื่อ 15:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #80  
เก่า 17-09-2014, 12:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,580 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมากำลังวางแผนจะเกษียณตัวเองตอนอายุ ๖๐ ปี ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้านายจะด่ามากแค่ไหน เขาเกษียณ ๘๐ ก็เกษียณไปสิ เราเกษียณ ๖๐ พอ เราไม่เอาเยอะ มาเป็นหลวงตาเฉย ๆ ดีกว่า ไม่ต้องมียศมีตำแหน่งอะไร

มีใครรู้บ้างว่าหลวงปู่มั่นเคยเป็นพระครูวินัยธรมาก่อน ? ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ วัดบรมนิวาส ตั้งให้หลวงปู่มั่นเป็นพระครูวินัยธร ให้ไปปกครองวัดเจดีย์หลวง หลวงปู่มั่นอยู่ไม่นาน ไปเลย อะไรสักอย่างก็ไม่เอา

ถ้าหลวงปู่มั่นยังอยู่ดี วงศ์วานพระกรรมฐานคงไม่เกิดขึ้น ยังดีที่ท่านทิ้งไป แบบเดียวกับหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ใครจะรู้บ้างว่าท่านคือพระครูวิเวกพุทธกิจ พระครูสมัยนั้นยิ่งใหญ่กว่าเจ้าคุณชั้นธรรมสมัยนี้อีก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:52



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว