กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 05-06-2017, 09:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมพระสงฆ์ถึงมีเสน่ห์ พระสงฆ์ที่รู้จักทุกรูปมีผู้หญิงมาชอบเยอะมาก ?
ตอบ : พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ทำเสน่ห์ พระองค์ท่านสอนว่าต้องมีทาน รู้จักให้คนอื่น ปิยวาจา พูดดี พูดไพเราะ อัตถจริยา สร้างประโยชน์ให้แก่เขา สมานัตตา ทำความดีเหล่านี้โดยเสมอต้นเสมอปลาย แบบเอาใจเขามาใส่ใจเรา จึง มีเสน่ห์ทุกคน

ถาม : อีกกรณีหนึ่งคิดสงสัยมาตลอด ไม่เข้าใจเลย เป็นแบบต่างสถานที่ ต่างเวลา พระรูปหนึ่งอายุสี่สิบใกล้จะห้าสิบ (เป็นพระปฏิบัติดี) ผู้หญิงที่ปฏิบัติธรรมด้วยกัน ๒ คน (อายุรุ่นเดียวกับพระ ก็เคยเห็นพระรูปนี้กันเสมอ) ครั้งนี้แปลก ๒ คนเห็นท่านแล้วจะมีอาการรน ๆ ตื่นเต้นมาก คนหนึ่งจะพูดซ้ำ ๆ อีกคนจะนั่งไม่ติด ย้ายที่นั่งไม่หยุด ข้าพเจ้าต้องดุแรง ๆ ทั้ง ๒ คน ถึงจะระงับอาการได้ อาการแบบนี้คืออะไร ทำไมพวกเขาถึงสติหลุดกัน ?
ตอบ : ก็เพราะว่าสติหลุดนั่นแหละ คำถามบอกตรง ๆ อยู่แล้ว เรื่องพวกนี้ขอให้ทราบว่า ถ้าเป็นการตบมือข้างเดียวจะไม่ดัง พระอย่าไปร่วมตบมือกับโยมก็แล้วกัน ถ้าร่วมด้วยเมื่อไรก็เป็นอันว่าบรรลัยทั้งสองฝ่าย

ถาม : ควรจะเตือนเพื่อนผู้หญิงสองคนที่ไปหลงเสน่ห์พระว่าอย่างไรคะ ?
ตอบ : ช่วยตบสักฉาด...เผื่อว่าจะได้สติ...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2017 เมื่อ 09:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 05-06-2017, 09:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เหตุใดการที่ทหารพกชายผ้าถุงแม่เข้าทำสงครามจึงมีผลให้คงกระพันได้ครับ ?
ตอบ : ความมั่นใจว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองตัวเอง ยิ่งมั่นอกมั่นใจได้มากเท่าไร ก็ยิ่งคุ้มครองตัวเองได้มากเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2017 เมื่อ 09:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 05-06-2017, 15:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เนื่องจากการทำแท้ง หากทำในครรภ์ที่มีอายุพอสมควร เด็กจะสามารถร้องส่งเสียง และขยับร่างกายได้ แต่ด้วยสภาพร่างกายและอวัยวะที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ไม่พร้อมต่อการดำรงชีวิต จึงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ แต่พระอาจารย์กล่าวว่า มีบางกรณีที่ดวงจิตบางดวงมาจับหลังจากที่คลอดออกมาแล้ว จึงขอกราบเรียนถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่เมื่อแท้งมาแล้วในลักษณะนั้น จนกระทั่งสิ้นลม จะยังคงไม่มีจิตดวงใดมาจับมาอยู่อาศัยครับ ?
ตอบ : ทำไมคุณจึงไปจับแค่ตรงนั้น ? แล้วคำตอบที่อาตมาบอกว่า บางคนตั้งแต่เชื้อของพ่อผสมกับไข่ของแม่ดวงจิตก็จับแล้ว ทำไมมึงไม่เอามา ? ก็แปลว่าอยากหาเรื่องฆ่าสัตว์ หรือฆ่าคนใช่ไหม ? เขาเรียกว่าเลือกเอาคำตอบส่วนที่มีประโยชน์แก่ตนมา ซ้ำยังจะพาให้คนอื่นเข้าใจผิดไปด้วย

ถาม : ในการตั้งครรภ์ จากการที่ดวงจิตมาจับในเวลาที่แตกต่างกัน ทั้งทันทีหลังจากปฏิสนธิ หรือแม้แต่หลังจากที่คลอดออกมาแล้ว อยากทราบว่ามีบุญกรรมใดที่ทำให้เวลาการจับแตกต่างกันครับ ?
ตอบ : บุญกรรมที่สัตว์ชนิดนั้นสร้างมานั่นแหละ ถ้าสร้างกรรมเอาไว้น้อย ก็ทนทุกข์ทรมานอยู่ในท้องแม่น้อยหน่อย ถ้าสร้างกรรมไว้มากก็ทนทุกข์ทรมานอยู่ในท้องแม่นานมาก พระสีวลีสร้างกรรมไว้มาก อยู่ในท้องแม่เสีย ๗ ปีกว่า ๆ

ถาม : และมีวิธีกำหนดสำหรับบุตรของตนเองหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ก็เห็นว่าหมอสมัยนี้เขาเลือกเพศได้แล้วนี่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 05-06-2017 เมื่อ 19:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 05-06-2017, 15:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ด้วยคำกล่าวที่ว่า พ่อแม่คือพระอรหันต์ในบ้าน จึงขอกราบเรียนถามพระอาจารย์ว่า การทำบุญกับพ่อแม่ จะได้อานิสงส์เท่ากับการทำบุญกับพระอรหันต์หรือไม่ครับ ?
ตอบ : เอาให้แน่ ๆ ก่อน ถ้าในพระไตรปิฎกเถรวาทของเรากล่าวว่า พ่อแม่คือพรหมของบุตร ไม่เคยกล่าวว่าพ่อแม่คือพระอรหันต์ แต่ในนิทานธรรมบทของมหายานกล่าวว่า พ่อแม่คือพระอรหันต์ของลูก ๆ เพราะฉะนั้น...เลือกก่อนว่าจะเอามหายานหรือเอาเถรวาท

การทำบุญกับบุคคลในแต่ละระดับ ในกัมมวิภังคสูตรเขาบอกไว้ชัดเจนแล้ว ว่าแต่ละระดับของกำลังใจนั้นทำแล้วจะได้อานิสงส์เท่าไร ถ้าไม่ใช่พระอรหันต์ ต่อให้เขาบอกว่าเปรียบเหมือนพระอรหันต์ ทำไปก็ไม่ได้เท่ากับพระอรหันต์หรอก

ถาม : และการทำบาปกับพ่อแม่อื่น ๆ ที่ไม่ใช่การทำให้เสียชีวิต จะให้โทษเท่ากับการทำกับพระอรหันต์หรือไม่ อย่างไรครับ ?
ตอบ : ตอบไปแล้ว แม้ว่าจะไม่เท่า แต่ถ้าในส่วนของอนันตริยกรรมก็ถือว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2017 เมื่อ 16:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 05-06-2017, 15:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่นิสัยของเราไม่ตรงกับความชอบใจของพ่อแม่ โดยที่เราไม่ได้กระทำกริยาอันใดไม่เหมาะสมกับพ่อแม่ แต่พ่อแม่ไม่ถูกใจกับคะแนนสอบ ทางเดินชีวิตหรือสายงานที่เราเลือก เพราะไม่ได้ตามมาตรฐานหรือความชอบของพ่อแม่ ทำให้พ่อแม่เกิดความไม่สบายใจหงุดหงิดใจเสียใจขึ้นนั้น ถือเป็นบาปของเราที่ทำให้ท่านไม่สบายใจหรือเปล่าครับ และจะมีวิธีแก้อย่างไรครับ ?
ตอบ : บาป แปลว่า เราต้องทำด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจของเรา ถ้าไม่ได้ทำก็ถือว่าเป็นบาปเป็นกรรมของพ่อแม่เองที่ท่านไปคิดอย่างนั้น พูดอย่างนั้น ทำอย่างนั้น วิธีแก้ก็คือ ทำให้ได้อย่างที่พ่อแม่ต้องการ

ถาม : แต่บางทีพ่อแม่อยากให้เป็นหมอก็ยากนะคะ ?
ตอบ : มีอยู่รายหนึ่งพ่อแม่อยากให้เป็นหมอ แต่ตัวเองอยากเรียนสถาปัตย์ฯ ก็เลยไปเอนทรานซ์เรียนหมออยู่ ๖ ปี จบหมอมาแล้วก็เอาปริญญาบัตรไปให้พ่อแม่ แล้วตัวเองก็เอนทรานซ์ใหม่เพื่อไปเรียนสถาปัตย์ฯ แล้วก็ทำได้ด้วย แสดงว่าเขาเก่งจริง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2017 เมื่อ 16:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 05-06-2017, 15:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การนำแผ่นดวงชะตาไปร่วมหลอมเพื่อสร้างองค์พระ มีอานิสงส์ทางด้านเสริมดวงชะตาเหนือกว่าการบริจาคเงินปัจจัยร่วมสร้างอย่างเดียวหรือไม่ อย่างไรครับ ?
ตอบ : ไม่ได้อะไรเลย นอกจากรู้สึกว่าดีที่เราได้ทำแล้ว

ถาม : การนำแผ่นบรรจุดวงชะตาไปเข้ารับการสวดมนต์โดยพระสงฆ์ในช่วงระยะเวลาเท่านั้นเท่านี้ มีผลให้ดวงชะตาดีขึ้นจริงหรือไม่ อย่างไรครับ ?
ตอบ : ถ้าได้อย่างนั้นก็ดีหมดทั้งประเทศแล้ว น่าจะเจริญกว่าญี่ปุ่นอีก...! ถ้าจะทำในลักษณะอย่างนั้น อย่าเอาไปแต่แผ่นดวง แต่ให้เอาตัวเองไปด้วย

เมื่อเราไปอยู่ในพิธี ตั้งใจฟัง สภาพจิตเป็นสมาธิ เห็นพระสงฆ์เป็นผู้สวดเป็นสังฆานุสติ สิ่งที่ท่านสวดคือพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า เป็นธัมมานุสติ ได้กราบได้ไหว้พระพุทธรูปในวัดเป็นพุทธานุสติ ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่จะเจริญก้าวหน้าได้ก็จะมี เพราะว่าเราสร้างความดีใหญ่อยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเราเอาไปแต่แผ่นดวง ก็ได้แค่ปลอบใจตัวเองว่าเราได้ทำแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2017 เมื่อ 16:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 05-06-2017, 16:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่พระสงฆ์ท่านให้พรนั้น จะสำเร็จตามพรที่ท่านว่าเนื่องด้วยเหตุใดหรือครับ เพราะกำลังสมาธิของแต่ละท่านใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ด้วยสาเหตุสองประการ ประการแรกคือตัวเรา สภาพจิตตอนนั้นของเราเป็นอย่างไร อีกประการหนึ่งก็คือ ตัวของท่าน สภาพจิตของท่านเป็นอย่างไร ถ้าต่างคนต่างดีมีกำลังสูง โอกาสสำเร็จก็มีมาก ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียมาก โอกาสสำเร็จก็น้อย

ถาม : การที่รับชมการถ่ายทอดสดอยู่ แล้วพระท่านให้พร หากเรานำจิตน้อมรับพรนั้นไว้ด้วย เราจะได้รับพลังเช่นเดียวกันกับเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าตั้งใจกำลังใจถูกก็ได้เหมือนกัน

ถาม : การดูบันทึกเทปต่าง ๆ ที่พระสงฆ์ท่านให้พร การนำจิตน้อมรับพรนั้นจะทำให้เราได้รับพลังเช่นเดียวกันกับเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านโดยตรงหรือไม่ครับ ?
ตอบ : อยู่ที่กำลังใจของเราว่ามีศรัทธาเลื่อมใสเท่าไร ถ้าหากมีศรัทธาเลื่อมใสเท่ากับอยู่ต่อหน้าท่านจริง ๆ ก็ได้เท่ากัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2017 เมื่อ 16:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 05-06-2017, 16:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อขออาราธนาบารมีพระเพื่อพุทธาภิเษกวัตถุมงคลแล้ว วัตถุมงคลนั้นย่อมมีอานุภาพมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัตถุที่รับพลังได้มาก เช่น ทองคำ หรือ ตะกั่ว แล้วการนำมวลสารสำคัญต่าง ๆ เป็นชนวน เพื่อสร้างเป็นวัตถุมงคลนั้น จะมีผลให้เพิ่มพลังงาน อานุภาพ หรือคุณประโยชน์แก่วัตถุมงคลที่สร้างใหม่นั้นหรือไม่ อย่างไรครับ ?
ตอบ : ได้บ้างไม่ได้บ้าง เหตุที่เป็นอย่างนั้นเพราะบางท่านอธิษฐานจิตไว้ว่า ถ้าหากวัตถุนี้ละลายเป็นน้ำเมื่อไรก็หมดอานุภาพเมื่อนั้น ถ้าอย่างนั้นก็ได้เศษโลหะไปช่วยการหล่อเพิ่มขึ้นมานิดหนึ่ง แต่ถ้าเป็นท่านที่ไม่ได้จำกัดลักษณะนั้นก็ใช้ได้อยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2017 เมื่อ 16:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 05-06-2017, 16:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมรักหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงมาก ถ้ากระผมเป็นผู้ติดตามหลวงพ่อท่าน แต่ทำไมผมเกิดในเขตพญานาคศรีสุทโธ คือ คำชะโนด หรือเป็นเพราะปรารถนาพุทธภูมิครับ ?
ตอบ : ต้องถามตัวเอง จะเกิดที่ไหนไม่ได้เกี่ยวกัน

การเกิดของเราส่วนหนึ่งนั้น เกิดจากการพิจารณาแล้วจึงมาเกิด ก็คือ ชาตินี้ต้องมีโอกาสสักช่วงหนึ่ง ที่เราจะได้พบครูบาอาจารย์ที่เราศรัทธาเลื่อมใสองค์นี้ มีโอกาสปฏิบัติตามคำสอนของท่าน แต่ถ้าเราไม่ยอมเลือกเกิดในที่ลำบากแบบนั้น เราอาจจะไม่ได้เกิดอีกนานแสนนาน เพราะว่าจังหวะที่เหมาะสมไม่มี ก็จำเป็นจำยอมที่จะต้องลงมาเกิดในสถานที่ซึ่งลำบากในการเดินทางก็ดี ลำบากในการทำมาหากินก็ตาม เพื่อจะให้ได้พบครูบาอาจารย์หรือธรรมะตามที่ตนได้อธิษฐานเอาไว้ ซึ่งบุญสัมพันธ์หรือกรรมสัมพันธ์เหล่านั้น จะส่งผลให้ได้ดังที่ต้องการในระยะเวลาใดเวลาหนึ่งในชีวิต เราก็ยอมเลือกที่จะเกิดในสถานที่อย่างนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 05-06-2017 เมื่อ 17:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 05-06-2017, 16:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อยากทราบว่าเวลาคนเราจะเจอกับอะไร เช่น เดินอยู่ดี ๆ ก็มีความรู้สึกว่าจะมีฟุตบอลลอยมาโดนที่หัว และวินาทีต่อมาก็มีฟุตบอลลอยมาโดนที่หัวจริง ๆ อยากทราบว่าความรู้สึกที่ดูเหมือนจะรู้ก่อนหน้าที่จะโดนบอลจริง ๆ นั้นคืออะไรครับ ?
ตอบ : โบราณเรียกว่าลางสังหรณ์ ภาษาพระเรียกว่าทิพจักขุญาณอย่างอ่อน สามารถที่จะรู้ล่วงหน้าได้ แต่มักจะรู้ล่วงหน้าในระยะเวลาที่สั้นมาก ไม่เหมือนกับบุคคลที่ฝึกทบทวนทิพจักขุญาณของตัวเองให้มั่นคง จะสามารถรู้ล่วงหน้าได้นาน ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2017 เมื่อ 16:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 05-06-2017, 17:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่เป็นแชมป์แข่งขันกินจุ เขาทำบุญหรือทำกรรมอะไรไว้ครับ ทำไมเขาถึงกินอาหารได้เยอะกว่าคนอื่น ๆ ได้มากขนาดนั้น ?
ตอบ : ทำบุญผสมบาป หลายคนก็ทำแบบนี้กับอาตมา ก็คือถวายอาหารมาแล้วก็มานั่งเฝ้า "หลวงพ่อฉันเยอะ ๆ นะคะ" "หลวงพี่ฉันอีกหน่อยสิครับ" ทั้ง ๆ ที่ตูยัดจะตายห่...อยู่แล้วก็ต้องยัดเพิ่มเข้าไป พวกนี้ถึงเวลาเกิดใหม่ก็จะท้องยุ้งพุงกระสอบลักษณะอย่างนั้น แต่ว่ามีความดีอยู่อย่างหนึ่งก็คือธาตุไฟดีมาก ย่อยอาหารได้ทีละมาก ๆ

หลวงพ่อวัดท่าซุงเคยเล่าให้ฟังว่า มีโยมคนหนึ่งอยู่สมุทรสาคร จะได้กินข้าวอิ่มเฉพาะวันพระเท่านั้น นอกจากนั้นไม่ได้กินอิ่มเลยแม้แต่มื้อเดียว ถามว่ากินขนาดไหน ? พอถึงวันพระ พระท่านนำอาหารที่เหลือมาให้แก ๑ กระบุง แกก็กินไปเรื่อย สามารถที่จะกินหมดกระบุงได้

ส่วนอีกรายหนึ่งอยู่ที่วัดบางนมโคชื่อกำนันเถา เป็นคู่ปรับของหลวงพ่อวัดท่าซุง เพราะว่ากำนันเถาชอบจับผิดพระ แต่เป็นลูกศิษย์หลักคนหนึ่งของหลวงปู่ปาน กำนันเถากินข้าวทีละกะละมัง ยิ่งถ้าวันไหนมีน้ำพริกคลุกข้าว กำนันเถาจะเปิบแบบลืมตายเลย หลวงปู่ปานเรียกว่า "ไอ้เถากระเพาะยาง" เพราะว่ากระเพาะยืดได้เหมือนยาง

ส่วนอีกรายหนึ่งท่านว่าเป็นคนที่ไหนไม่รู้มาเที่ยวงานวัด เห็นเขากำลังตำลูกแป้งขนมจีนอยู่ ลูกแป้งขนมจีนเป็นแป้งนึ่งครึ่งดิบครึ่งสุก ตำให้เหนียวเพื่อที่จะเอาไปรีดเป็นเส้น เขาบอกว่าขอชิมหน่อยว่ารสชาติได้ที่หรือยัง ลูกแป้งขนาดเท่าลูกฟุตบอล แกชิม
หมดเกลี้ยงเลย เพราะฉะนั้น...ต่อไปใครอยากจะได้แชมป์ในการกิน ก็พยายามตื๊อให้พระฉันเยอะ ๆ เข้าไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2017 เมื่อ 19:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 05-06-2017, 17:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : จะปฏิบัติตนอย่างไรจึงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ไม่มีอวิชชาคะ ?
ตอบ : เป็นพระอรหันต์ ถ้ายังเป็นอย่างอื่นมีอวิชชาทั้งนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-06-2017 เมื่อ 19:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 05-06-2017, 17:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : น้องชายบวชพระอยู่ค่ะ กำลังหาฤกษ์สึก คุณแม่เลือกวันที่ ๒๙ มิถุนายนเป็นวันสึกให้ แต่ตรงกับฤกษ์ดิถีพิฆาตในปฏิทินฤกษ์พรหมประสิทธิ์ กราบเรียนถามว่า หากน้องชายสึกวันนี้ เข้าใจว่าเป็นวันดีเกินคนธรรมดา เลยสงสัยว่าถ้าสึกฤกษ์ดิถีพิฆาตจะเป็นโทษแก่น้องชายไหมคะ ?
ตอบ : ลองสึกดูก่อน ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้

ถาม : แล้วเสาร์ ๕ ละคะ ?
ตอบ : อยากจะสึกก็สึกไป ใครจะไปว่าอะไรถ้าเราไม่กลัวเสียอย่าง

ถาม : มีวันไหนที่ไม่ควรอีกไหมคะ ?
ตอบ : อาทิตย์ ๑๒ จันทร์ ๑๑ อังคาร ๗ พุธ ๓ พฤหัสฯ ๖ ศุกร์ ๙ เสาร์ ๘
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 06-06-2017 เมื่อ 18:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 06-06-2017, 14:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "บางคำถามของโยมก็ถามในลักษณะ "รู้เลยตาย" ก็คือ แทนที่จะคิดว่าตัวเองกำลังจะตาย ให้เร่งการปฏิบัติ ก็ไปอยากรู้เรื่องนั้นเรื่องนี้ แต่ก็เหมือนกับคนที่ "คัน" ถ้าไม่ได้เกาก็ไม่สามารถที่จะห้ามตัวเองได้ ท้ายที่สุดก็ต้องเกา เพราะฉะนั้น...อะไรที่พอสงเคราะห์ได้ก็สงเคราะห์ ถ้านอกทุ่งนอกท่ามากก็มีโดนด่าบ้าง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-06-2017 เมื่อ 16:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 06-06-2017, 14:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องที่ไปตื๊อให้พระฉัน ญาติโยมเป็นกันมากเลยนะ จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องที่อันตราย

ในวงการพระมีเรื่องแปลก ๆ อยู่หลายเรื่อง เรื่องหนึ่งก็คือทิดสุริยา สมัยเป็นพระก็เป็นเพื่อนของอาตมาเอง ถามว่าทิดสุริยาฉันอย่างไร ? วันนั้นนั่งอยู่ด้วยกัน ท่านฉันก๋วยเตี๋ยวน้ำ ๒ ชาม ก๋วยเตี๋ยวแห้ง ๒ ชาม ข้าว ๑ จานใหญ่ สายตาพระทั้งงานมองไปที่เขาคนเดียว เพราะท่านอื่นอิ่มกันไปนานแล้ว ท้ายสุดรังสีอำมหิตน่าจะแรงเขาก็เลยรู้ตัว เงยหน้าขึ้นมาแล้วก็วางช้อน เขาบอกว่ายังไม่ได้ครึ่งท้องเลย..!

เขาก็เล่าให้ฟังด้วยความภูมิใจว่า ไปกิจนิมนต์งานหนึ่ง ตัวเองก็ฉันในลักษณะนี้ โยมน่าจะเป็นญาติของเจ้าภาพ อายุสัก ๗๐ ปี มาถึงก็ปูผ้าขาวม้าแล้วก็กราบแต่ทิดสุริยาคนเดียว "นิมนต์พระคุณท่านอยู่นาน ๆ นะครับ ฉันได้ชื่นใจโยมเหลือเกิน" ท่านสุริยายิ้มกริ่มเลย "เป็นอย่างไรโยม ? ถูกใจมากเลยหรือถึงนิมนต์ให้อยู่นาน ๆ" โยมบอกว่า "จะบอกว่าถูกใจก็ใช่ครับ แต่พิจารณาแล้ว อย่างท่านอย่าสึกเลย สึกไปทำอะไรก็ไม่พอแด...หรอกครับ" โยมว่าได้ตรงมาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-06-2017 เมื่อ 16:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 06-06-2017, 14:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ส่วนอีก ๙ ราย ไปกิจนิมนต์งานทำบุญบ้าน โยมทำต้มยำกบมา พระฉันกันกระจาย ฉันไปได้พักหนึ่งก็ "โยม...เพิ่มต้มยำกบหน่อย" โยมก็ยกหม้อตักมาเพิ่มให้ อีกสักพักก็ "โยม...เพิ่มต้มยำกบหน่อย" ตักเพิ่มให้ พออีกสักพัก "โยม...เพิ่มต้มยำกบหน่อย" โยมตะแคงหม้อให้ดู "เหลือแค่นี้เจ้าค่ะ ถ้าท่านจะฉันมากกว่านี้ ดิฉันกับลูกก็ไม่ต้องแด...แล้วเจ้าค่ะ" ฟังแล้วรู้สึกอนาถอย่างไรพิกล"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-06-2017 เมื่อ 16:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 06-06-2017, 17:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เวลาญาติโยมถวายของพระก็เลือกแต่ของดี ๆ ทำให้พระป่วยเป็นโรคกันมาก

ปัจจุบันนี้ ๕ โรคหลัก ๆ ของโรงพยาบาลสงฆ์ ได้แก่ ๑.เบาหวาน ๒.ความดันสูง ๓.ปวดข้อเข่า ๔.โรคหัวใจ ๕.อ้วน เป็นโรคที่มาจากการกินหมดเลย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ท่านบอกเอง

เรื่องของโภชเนมัตตัญญุตา พระพุทธเจ้าให้เรารู้ประมาณในการกิน ถ้าเป็นพระสายวัดป่าท่านบอกว่า "รู้สึกว่าจะอิ่มก็ให้หยุด" แต่ในปัจจุบันนี้ "รู้สึกว่าจะจุกแล้วค่อยหยุด" ถ้าไม่รู้ประมาณในการกินจะลำบาก เพราะเรากินอาหารเข้าไป กว่าที่ร่างกายจะรับรู้ว่ามีอาหารอยู่ในท้อง ต้องใช้เวลา ๑๐-๑๕ นาที ถ้าเป็นพระวัดท่าขนุนนี่สาหัสเลย เพราะว่าเวลา ๑๐-๑๕ นาทีนี่ฉันได้สองอิ่ม..!

ฉะนั้น...ฉันช้า ๆ เคี้ยวช้า ๆ กลืนช้า ๆ ถ้าเอาอย่างการปฏิบัติสายสติปัฏฐานแบบพองยุบคือเคี้ยวให้ได้ ๕๐ ครั้ง กลืนคำแรกลงไปนี่ให้ร่างกายบอกว่าได้อาหารแล้ว เพราะเคี้ยวมาเกือบ ๑๐ นาทีแล้ว ถ้าแบบนี้จะอิ่มเร็ว ช่วยให้ไม่อ้วน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-06-2017 เมื่อ 20:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 06-06-2017, 19:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อาตมาเองไปผจญภัยมาแล้ว โยมน่าจะเคยเห็น ปิ่นโตสเตนเลสเถาเล็กสุด ใส่ข้าวต้มเล็กแค่นี้เขาให้เวลาฉัน ๑ ชั่วโมง ถ้าอาตมาอยู่วัดท่าขนุนกวาด ๓ ทีก็หมดแล้ว แต่อยู่ที่โน่นเขาให้เวลาฉัน ๑ ชั่วโมง ต้อง ค่อย ๆ เคี้ยว

เวลาไปส่งอารมณ์ ท่านอาจารย์ถามว่า "ได้พิจารณาตอนฉันอาหารไหม ?" "พิจารณาครับ" "เคี้ยวกี่ครั้งถึงกลืน ?" "ประมาณ ๓๐ ครั้งครับ" "น้อยไป...ครั้งหน้าให้เพิ่มเป็น ๕๐ ครั้ง" "เวลาเคี้ยวอาหารละเอียดอยู่ส่วนในของปากหรืออยู่ส่วนกลางของปาก ?" อาจารย์ท่านถามละเอียดเอาผลจริง ๆ นะ ก็เลยไปดัดจริตกับเขามา ๑๘ วัน

ผู้เข้าอบรมพระธรรมทูต
สายวิปัสสนารุ่นที่ ๑ ทั้งหมด ๘๗ รูป ผ่านการอบรมแค่ ๑๕ รูป และ ๑๕ รูปที่ผ่าน พระอาจารย์เล็กได้ที่ ๑ เพราะว่าดัดจริตเก่ง เขาให้ทำอะไรอาตมาทำหมด หกโมงเย็นให้เดินออกจากห้องเพื่อไปฟังธรรม ห้องโถงที่ฟังธรรมอยู่ห่างไปประมาณ ๓๐ กว่าเมตร ให้เวลาเดินถึง ๑ ทุ่ม...ไหวไหม ? แต่ทำได้จริง ๆ นะ เดินก็เดินสิ อาตมาไม่ได้ห่วงอยู่แล้ว ยิ่งถึงช้าเท่าไรก็ต้องฟังน้อยเท่านั้น

แต่มีคนเก่งกว่านะ อาตมากราบ ๓ ครั้งใช้เวลา ๑๕ นาที นึกว่าเยอะแล้ว เขาบอกว่ามีคนแค่นั่งหนอ ยังไม่ทันจะกราบเลย ๑๕ นาทีเข้าไปแล้ว เขาเก่งกว่าว่ะ..! อย่าไปนินทาเขาเลยนะ นิสัยไม่ดี มาปฏิบัติธรรมกันเถอะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-06-2017 เมื่อ 20:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 06-06-2017, 19:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ก่อนอาตมาบวชสองปี วันนั้นปฏิบัติธรรมอยู่ที่บ้านสายลม พอกรรมฐานภาคค่ำเสร็จ หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกว่า "พระเสด็จมาบอกว่า ทั้งหมดที่ปฏิบัติธรรมอยู่ในวันนี้ ถ้าตั้งใจรักษาศีลแปด จะทำได้เลย ๗๐ คน" อาตมาได้ยินไม่รู้หรอกว่ามีกี่ร้อยกี่พันคน รู้แต่ว่าข้าคือ ๑ ในนั้น นี่เป็นความคิดตอนนั้น

ทันทีที่คิดแบบนั้นก็เหมือนกับคอหอยตันไปเลย ไม่นึกอยากกินอะไร การทดสอบกำลังใจก็มา พอเลิกงานแล้ว น้าโชค (คุณประสพโชค ปัจฉิมางกูร) ที่รู้จักสนิทสนมกัน บอกว่าวันนี้น้าไปส่ง แกก็ขับรถพาไป เพราะไปทางเดียวกัน อาตมาอยู่แถวสวนหลวง น้าโชคอยู่เลยไปหน่อยหนึ่ง

พอมาถึงแยกคลองตัน น้าโชคเลี้ยวเข้าร้านหม้อไฟ "เล็ก..น้าเลี้ยง" ยังเหลืออีกประมาณ ๒ กิโลเมตรกว่าก็จะถึงบ้าน บอก "เชิญคุณน้ากับน้อง ๆ กินตามสบายนะครับ ขอบคุณมากที่มาส่ง ผมไปแล้ว" ตั้งใจจะไม่กิน แล้วก็เดินกลับบ้านไปเลย

วันรุ่งขึ้นไม่ได้รู้สึกหิวนะ แต่อุปาทานว่าเราไม่ได้กินอาหารเย็นแล้ว ก็เลยกินเผื่อตอนเพลไป ๑ จาน จากที่เคยกิน ๑ จาน ก็กินเสีย ๒ จาน เสร็จแล้วก็มานึกว่า เอ็งบ้าหรือเปล่าวะ ? ไม่ได้นึกอยากแล้วไปกินเพิ่มทำไม ? ท้ายสุดวันต่อมาก็เลยไม่ได้กินเพิ่มอะไร หลังจากนั้นมาก็เลิกโดยเด็ดขาดและสิ้นเชิง

แต่มีปัญหาตรงที่บรรดาน้อง ๆ มีจำนวนมาก พอเวลาเย็นก็ไปร้านอาหาร ต้องไปเลี้ยงเขา เพราะเป็นพี่ใหญ่ของกลุ่ม สรุปว่าไปนั่งดูเขากินและต้องควักเงินจ่ายให้ด้วย เพราะฉะนั้น...เรื่องที่จะมาหลอกให้อาตมาตบะแตกเพราะอาหารนี่ไม่สำเร็จหรอก ตั้งแต่ก่อนบวชสองปีก็ลาขาดกันไปแล้ว พอถึงเวลาเขาไม่หิวเอง ไม่รู้ว่าจะไปบังคับอย่างไร อาจจะเป็นเพราะไม่ได้กินนานเกินไป ร่างกายเลยไม่ได้ผลิตน้ำย่อยช่วงนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-06-2017 เมื่อ 20:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 06-06-2017, 19:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"แต่มีอยู่ส่วนหนึ่งที่อยากจะให้โยมตั้งข้อสังเกตไว้ก็คือ การที่เราจะได้อะไรบางอย่าง ต้องตัดสินใจให้เด็ดขาด ในเมื่อเราคิดว่าเราทำได้ ก็ตัดสินใจเลยว่า "เอา" ทำเดี๋ยวนั้นเลย ถ้ามีการตัดสินใจแบบนี้ โอกาสที่เราจะได้อะไร ๆ ก็มีมาก แต่ถ้าไม่มีการตัดสินใจลักษณะอย่างนี้ โอกาสที่จะได้ก็มีน้อย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-06-2017 เมื่อ 20:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:10



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว