กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 03-09-2012, 12:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๕

ถาม : การตั้งศาลอากาศเทวดาสี่เสา และศาลพระภูมิหนึ่งเสา สามารถตั้งในทิศตะวันออกเฉียงเหนือของตัวอาคารในทิศเดียวกันเลย ใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : หาเรื่องตั้งทิศเดียวกันก็เตรียมซวยได้เลย..! ทิศของอากาศเทวดาอยู่ทิศใต้และทิศตะวันตก ถ้าไปตั้งทิศตะวันออกเฉียงเหนือเท่ากับเอา ผบ.ทบ. มาเป็นยาม หาเรื่องเดือดร้อนอีก..!

ถาม : ถ้าเป็นหนึ่งเสาควรจะเป็นทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ ?
ตอบ : ถ้าศาลเสาเดียวควรจะเป็นทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ถ้าไม่ได้ค่อยหาทิศเหนือ ถ้าไม่ได้อีกค่อยเป็นทิศตะวันออก แต่ศาลสี่เสาเขาเอาทิศใต้หรือทิศตะวันตกเท่านั้น

ถาม : ถ้าตั้งไปแล้วทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : ตั้งไปแล้วเตรียมรับความเฮงได้..!

ถาม : เรื่องหลักฮวงจุ้ยการสร้างอาคารบ้านเรือน อยากขอคำแนะนำ ว่าควรศึกษาจากหนังสือเล่มไหนดีครับ ?
ตอบ : เล่มไหนก็ได้...ดีทุกเล่มแหละ เพียงแต่คนศึกษารู้จริงหรือเปล่าเท่านั้นเอง

ถาม : ไม่มีซินแสในดวงใจหรือครับ ?
ตอบ : ขอยืนยันว่าอย่าเชื่อซินแสมาก เชื่อมากก็เดือดร้อนมาก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-09-2012 เมื่อ 17:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 259 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 03-09-2012, 12:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในเรื่องการ "ชำระหนี้สงฆ์" หลวงพ่อฤๅษีได้เมตตาแนะนำให้สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ และถ้ามีการปิดทองทั้งองค์ก็จะได้อานิสงส์ชำระหนี้สงฆ์ทั้งคณะ แต่การ "ชำระหนี้แผ่นดิน" นั้น ลูกยังไม่มีความรู้ในส่วนนี้ ประกอบกับหลายท่านทำงานเกี่ยวกับราชการ จึงอาจจะมีการหยิบของใช้ของหลวงไปใช้ส่วนตัว
ซึ่งเป็นการนำเงินภาษีของแผ่นดินไปใช้ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ ดังนั้นจะมีวิธีในการ "ชำระหนี้แผ่นดิน" ในลักษณะเดียวกันกับ "ชำระหนี้สงฆ์" (ล้างหนี้เก่าทั้งหมด) หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ตลอดชีวิตรับราชการทั้งหมด ๔๐ ปี ถวายเงินเดือนให้ในหลวงไปให้หมด ไม่ต้องใช้เงินเดือนนั้น..!

ถาม : จะเอาอะไรกินครับ ?
ตอบ : คนถาม..ถามเหมือนกับรู้ว่าทำแล้วจะเป็นหนี้ยังเสือกไปทำ สมควรตายมากกว่า..! ถ้าหนักใจเรื่องนั้น ให้เอาเงินส่วนหนึ่งถวายเข้ามูลนิธิของหลวง จะเป็นราชประชานุเคราะห์ก็ได้ ชัยพัฒนาก็ได้ หรือจะเป็นศิลปาชีพ สายใจไทย ก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-09-2012 เมื่อ 17:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 252 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 03-09-2012, 12:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในกรณีพระพุทธสุวรรณปฏิมากร หรือหลวงพ่อทองคำแห่งวัดไตรมิตรวิทยาราม ตอนที่จะมีการทำการแกะลอกปูนที่หุ้มองค์พระทองคำไว้นั้น จะมีความผิดฐานทำลายรูปแทนพระพุทธเจ้าไหมครับ ? เพราะปูนที่หุ้มนั้นก็ทำเป็นรูปพระ ถ้าไม่มีความผิด เป็นเพราะเหตุใดครับ ?
ตอบ : นี่ก็เหมือนกัน เขาเรียกว่าสมควรลงนรก เรื่องดี ๆ ไม่คิด ไปคิดฟุ้งซ่านจะลงนรกให้ได้..! เรื่องของหลวงพ่อพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร เราต้องเข้าใจว่าที่เขาหุ้มปูนไว้เจตนาเพื่อจะหลีกเลี่ยง ว่ายามสงครามจะโดนฝ่ายตรงข้ามเอาไป เพราะเป็นของมีค่า ในเมื่อเจตนามีอยู่แค่นั้น เวลากะเทาะออกมา ทำการขัดแต่งให้เป็นองค์พระโดยสมบูรณ์ คนเห็นแล้วรู้สึกว่าเจริญศรัทธามากกว่า ก็ถือว่าไม่ได้มีเจตนาไปทำลายพระพุทธรูป

เสียอย่างเดียว..กระเทาะท่านเร็วไปหน่อย มากระเทาะยุคนี้ เอาไปผสมเป็นผงสร้างพระได้เงินอีกเยอะเลย สมัยนั้นเขายังไม่นิยมทำแบบนี้กัน


ถาม : เขาทำหุ้มไว้เพื่อเป็นการป้องกันข้าศึกสงครามมาทำลาย ?
ตอบ : นึกเสียว่าเอาผ้ามาหุ้มอีกชั้นหนึ่ง ถึงเวลาก็ลอกผ้าออก ถ้าเขาจะคิดให้ผ้าเป็นพระพุทธรูปให้ได้ ก็ทางใครทางมัน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-09-2012 เมื่อ 02:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 254 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 03-09-2012, 12:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วันนั้นโยมได้ไปกราบไหว้ที่พิพิธภัณฑ์ช้างสามเศียร สมุทรปราการ ได้ถวายนางรำและผลไม้ชุดใหญ่ และบูชาช้างสามเศียรสลัก เป็นแก้วใส มีไฟประดับมาบูชาที่ร้านค้า ปรากฏว่าวันนั้นขายของไม่ราบรื่นเท่าที่ควร ขายได้น้อยผิดปกติ เพื่อนข้างร้านบอกว่าให้นำไปบูชาที่บ้านดีกว่า เพราะท่านบารมีท่านสูง ไม่เหมาะมาบูชาที่ร้านค้า โยมไม่ค่อยเชื่อเขา กราบเรียนถามว่า จะบูชาที่ร้านได้หรือไม่ และมีวิธีบูชาอย่างไร ?
ตอบ : ขายผักผลไม้หรือเปล่า ? ถ้าขายผักผลไม้นี่ช้างกินหมด ..(ฮา).. เป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า เทวดาก็คล้าย ๆ กับพระ ก็คือ ท่านมีเมตตาสงเคราะห์ให้เสมอ ในเมื่อเกิดเหตุติดขัดในจังหวะที่นำท่านเข้าบ้านพอดี เราก็ไปโทษว่าเป็นความผิดท่านขึ้นมาอีก ถ้าไม่ได้ขายผักผลไม้ก็บูชาต่อไปเถอะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-09-2012 เมื่อ 17:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 253 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 03-09-2012, 12:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ช่วงบวชพระที่วัดท่าขนุน ขณะนั่งกรรมฐานเช้า นั่งจับลมหายใจเข้าออก และท่องภาวนาโสตัตตะภิญญาครู่หนึ่ง ภาพพระลอยปรากฏ เห็นชัดเจนเต็มหน้า แล้วเปลี่ยนเป็นเห็นกายละเอียดตัวเองนั่งซ้อนกายหยาบ เมื่อมองตรงไปเห็นหิ้งพระประธานตรงหน้าสว่างแจ่มใสยิ่งกว่าตาเนื้อเห็น ไม่ทราบว่าถึงจุดนี้แล้ว ควรปฏิบัติอย่างไรต่อครับ ? ผมเคยนั่งได้ถึงจุดนี้หลายครั้ง ทำไมถึงทรงไม่ได้นานครับ ?
ตอบ : ตอบแบบกำปั้นทุบดินว่า ให้พยายามรักษาอารมณ์ให้ได้นาน ๆ ต่อไป เขาก็รู้ว่าทำได้ไม่นาน แค่ทำให้ได้นานก็จบแล้ว

ถาม : เคยทำมาอย่างไรก็ทำอย่างนั้น ทำให้ได้นานขึ้น ประมาณนี้ ?
ตอบ : ซักซ้อมรักษาอารมณ์ใจให้ได้นานขึ้นไปเรื่อย ๆ แล้วจะดีเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-09-2012 เมื่อ 17:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 245 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 03-09-2012, 12:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การลาสัตตาหะฯ ๗ วัน ในระหว่างเข้าพรรษา เป็นการลาไปครั้งละไม่เกิน ๗ วันหรือว่าภายในพรรษา ๓ เดือนลาได้เพียง ๗ วันเท่านั้นครับ ?
ตอบ : ถ้าภายในพรรษา ๓ เดือน ลาได้ ๗ วันจะดีมากเลย สัตตาหกรณียะ คือ กรณีที่มีกิจจำเป็น ลาได้ไม่เกิน ๗ วัน แปลว่าครั้งละไม่เกิน ๗ วัน วันที่ ๗ ก่อนจะได้อรุณต้องกลับเข้าวัด ถ้าจำเป็นจริง ๆ หลังจากได้อรุณแล้วมีสิทธิ์ลาใหม่ได้เลย

ถาม : หมายถึงมีเหตุสี่อย่างตามพระวินัยใช่ไหมครับ ?
ตอบ : จะกี่อย่างก็ได้ ถ้าพิจารณาตามหลักมหาปเทส ๔ แล้วว่าสมควร แต่ในปัจจุบันสัตตาหะฯ กันให้มั่วไปหมด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-09-2012 เมื่อ 17:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 240 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 04-09-2012, 08:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตามปกติพระจะใช้มือขวาจับตาลปัตรในเวลาอนุโมทนาหรือขัดสัคเค แต่การที่พระใช้มือซ้ายจับตาลปัตรในเวลาอนุโมทนาหรือขัดสัคเค จะผิดศาสนพิธีและพระวินัยหรือไม่ครับ ? และจะมีผลอย่างไรกับงานบุญกุศลและพระที่ใช้มือซ้ายจับแบบนี้ครับ ?
ตอบ : มีผลให้เพื่อนหัวเราะเยาะเอา..การจับตาลปัตรโดยนิยมเขาใช้มือขวาจับ ยกเว้นตอนชักผ้าบังสุกุลจะใช้มือซ้ายจับ เพื่อเอามือขวาจับผ้าบังสุกุล ถ้าเราจับผิดมือ คนที่ไม่รู้เขาก็ไม่ว่าอะไร แต่คนที่รู้ก็จะหัวเราะเยาะเอา ก็แค่ผิดธรรมเนียมนิยมเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ศาสนพิธีเสียหายอะไร

ถาม : ไม่มีอานิสงส์อะไรใช่ไหมครับ ?
ตอบ : มี..อานิสงส์โดนเพื่อนหัวเราะเยาะ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-09-2012 เมื่อ 20:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 225 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 04-09-2012, 08:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วันจันทร์ที่ ๑๗ กันยายนนี้ ผมต้องพาโยมแม่ไปโรงพยาบาล โดยส่วนใหญ่จะทำวัตรเช้าเวลาตี ๔ แต่ผมต้องออกจากวัดเวลาตี ๔ เพื่อไปที่บ้านก่อนแล้วจึงจะพาโยมแม่ไปโรงพยาบาล ผมจะสวดมนต์ทำวัตรเช้าเวลาตี ๓ ครึ่ง จะได้หรือไม่ครับ ? จะต้องอาบัติหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าสวดสักเที่ยงคืนจะไม่โดนอาบัติ..!

ถาม : อย่างไรครับ ?
ตอบ : การทำวัตรเช้าเย็นเป็นงานของพระสงฆ์ จะทำเวลาไหนก็ได้ให้พอเหมาะพอสมแก่ตัวเอง บางวัดทำวัตรเช้าตอนแปดโมงครึ่ง หลังจากพระบิณฑบาตและฉันเช้าเสร็จแล้ว จะได้ไม่ต้องมีข้ออ้างว่ายังมีกิจธุระที่นั่นที่นี่

เพราะฉะนั้น..เรื่องของเวลาไม่ใช่สาระ สาระสำคัญคือได้ทำหรือเปล่า ? ถ้าได้ทำบุญกุศลก็เป็นของเรา แต่ที่ว่ามานั้น..ส่วนที่น่าห่วงก็คือออกจากวัดตอนตีสี่ ระวังจะขาดพรรษา..! ถ้าจำเป็นต้องออกจากวัดตอนตีสี่ของวันที่ ๑๗ กันยายน ให้ขอสัตตาหะฯ ไว้ตั้งแต่วันที่ ๑๖ กันยายนเลย ไม่อย่างนั้นขาดพรรษาแน่นอน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-09-2012 เมื่อ 20:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 233 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 04-09-2012, 08:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เนื่องจากตอนเช้าจะมีการนำอาหารไปถวายที่พักสงฆ์ หลังจากที่พระท่านตักและฉันแล้ว ส่วนที่เหลือจะนำมาวางให้ญาติโยมกินกัน และก็จะตักใส่ถุงแจกจ่ายกันไป โดยส่วนตัวผมไม่นำกลับ แต่จะมีบางครั้งผมไม่ได้ไปแต่เพื่อนไป ก็จะนำใส่ถุงมาให้ ผมไม่ทราบว่าจะทำอย่างไรกับอาหารนั้นดีครับ ?
ตอบ : เอากับข้าวถุงฟาดหน้าเพื่อนไป เพื่อนจะได้จำว่าอย่าเอามาอีก..! เรื่องของวิทาสาโท ญาติโยมยังเข้าใจผิดกันอยู่มาก

วิทาสาโทคืออาหารที่เหลือจากพระ ญาติโยมกินต่อได้ แต่อย่าเอากลับบ้าน
เพราะพอเอากลับบ้าน คนที่เห็นแล้วไม่รู้ ไม่เข้าใจ ก็จะไปตำหนิว่า ไปเอาของสงฆ์กลับบ้าน โดยเฉพาะ "ไปเอาของที่กูใส่บาตรกลับบ้าน" ทำให้เขาเสื่อมศรัทธา และต่อไปเขาจะไม่บำรุงพระพุทธศาสนาอีก เท่ากับเป็นการทำลายพระพุทธศาสนาโดยตรง โทษก็เลยหนัก เปรตญาติพระเจ้าพิมพิสารเจอไปแค่ ๙๑ กัปเท่านั้น..! เพราะเอาของที่พระฉันเหลือแล้วกลับบ้าน

ของสงฆ์ที่เหลือจากพระสงฆ์ฉันแล้ว จะกินจะใช้ก็ตาม ให้อยู่ที่วัดจบเพียงแค่นั้น อย่าเอากลับบ้าน อันตรายมาก..!


ถาม : ถ้าเขาเอามาใส่ชามให้เรา เราไม่ทราบว่าเป็นของวัด ทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : ชำระหนี้สงฆ์ไป ต่อไปก็สั่งไว้เลยว่าไม่ต้องเมตตา คราวหน้าอย่าเอามาอีก แต่ถ้าเขาไม่รู้ก็ไม่ต้องไปเถียงกับเขา ทนชำระหนี้สงฆ์ไปเรื่อย ๆ ก็แล้วกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-09-2012 เมื่อ 20:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 230 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 04-09-2012, 09:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อารมณ์การอนุโมทนาบุญสูงสุดหยุดอยู่แค่ปีติหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าใครหยุดอยู่แค่ปีติแปลว่าโง่มาก การโมทนาบุญจะกำลังใจสูงต่ำแค่ไหนก็ได้บุญทั้งนั้น อย่าลืมว่าพระที่ท่านเข้าพระนิพพานแล้ว ท่านยังโมทนาบุญเลย แม้ว่าผลบุญนั้นไม่ได้อะไรกับท่านแล้ว ท่านโมทนาไปก็สูญเปล่า เนื่องจากท่านอยู่เหนือบุญเหนือบาปไปแล้ว แต่ท่านก็ยังพลอยยินดีในความดีที่เราทำ

เพราะฉะนั้น..กำลังใจจะอยู่ในระดับชั้นไหนก็ตาม ยิ่งความดีสูงมากเท่าไร ยิ่งพลอยยินดีในความดีของผู้อื่นได้มากเท่านั้น ก็แปลว่า ยิ่งพลอยโมทนาได้มากเท่านั้น


ถาม : อนุโมทนาบุญอย่างไรถึงไปอยู่ที่พระนิพพานกับท่านได้ ?
ตอบ : คิดแบบนี้ไม่มีทางได้เลย เพราะคิดจะรวยทางลัด การโมทนาบุญนั้นก็คือ การที่เรายินดีในผลบุญที่ผู้อื่นทำ ขณะที่เราไม่ได้ทำ เป็นความดีที่ออกมาจากน้ำใสใจจริง แต่ในปัจจุบันนี้ร้อยละ ๙๙ การโมทนานั้นแฝงความหมายว่า "กูจะเอาของมึง" เมื่อเป็นดังนั้น จากอานิสงส์แทนที่จะได้เป็นล้าน ก็ได้ไปสลึงเดียว..!

เพราะฉะนั้น..ถ้ารู้วิธีแล้วโมทนาให้ถูกทาง ก็มีสิทธิ์ไปพระนิพพานได้ ถ้าเจ้าของบุญท่านไปพระนิพพานแล้ว


ถาม : อย่างไรจะถูกทางครับ ?
ตอบ : ตามที่บอกมานั่นแหละ อย่าไปเอาของมึงอีกก็แล้วกัน..!

ถาม : เห็นเขาทำยินดีด้วย ทำตามด้วย ?
ตอบ : อย่างนั้นได้บุญของเขาด้วย บุญของตัวเองก็ได้ด้วย เพราะตัวเองทำตาม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-09-2012 เมื่อ 20:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 230 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 04-09-2012, 09:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การจะถือศีล ๘ ให้ได้เป็นปกติ ควรจะมีวิธีการคิดอย่างไร ในเบื้องต้น เบื้องกลางและเบื้องปลาย ?
ตอบ : ไม่ต้องคิดหรอก..ทำเลย แต่ขณะที่ทำควรจะภาวนาให้กำลังใจทรงตัวด้วย เพราะกำลังของศีลแปดเป็นกำลังที่สูงมาก คำว่าสูงมากก็คือ เป็นกำลังของพระอนาคามี

บุคคลที่จะเป็นพระอนาคามี ถ้าสมาธิไม่ทรงตัว ก็ไม่สามารถที่จะตัดโลภและโกรธได้ โลภตัวนี้หมายถึงรักด้วย เมื่อเป็นดังนั้น ถ้าตั้งใจจะรักษาศีลแปดให้ทรงตัว ควรจะทำสมาธิให้ทรงตัวด้วย ถ้าสมาธิไม่ทรงตัว จะรักษาศีลแปดได้ยากมาก


ถาม : การเล่นเกม การเคลิ้มไปกับเพลง การชอบใจคำพูดหยอกล้อ หรือเนื้อตัวขาว ๆ ของผู้หญิงที่ผ่านสายตา และอารมณ์ไม่พอใจ โมโห โกรธ ในเวลาทำงาน ถือว่าศีล ๘ ขาดหรือไม่ ?
ตอบ : ศีลไม่ขาด แต่ถ้าว่าตามหลักบาลีก็คือ ศีลด่าง ศีลพร้อย ศีลทะลุ แปลว่าไม่บริสุทธิ์จริง ไม่ถึงกับขาดหรอก แต่ก็แหว่งไปเยอะแล้ว

ถาม : อย่างที่ท่านว่าควรจะมีสมาธิกำกับด้วยใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าหากสมาธิกำกับอยู่ ก็จะไม่ไหลไปตาม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อย่างที่ว่ามา

ถาม : หากไม่เหลือดีเลย ผมขออุบายที่จะไม่จดจ่อโทษตัวเอง จนหมดกำลังใจในการรักษาศีลครับ
ตอบ : ไปเกิดใหม่..!

ถาม : ฟังแล้วยิ่งมีกำลังใจมากเลยครับ..!
ตอบ : บอกเขาไปว่ายังเหลือดีอยู่นิดหนึ่ง จะได้มีกำลังใจ

ถาม : ยังมีดีอยู่นิดหนึ่ง ?
ตอบ : ศีลยังไม่ขาด ยังแหว่ง ๆ อยู่ ยังพอมีดีเหลืออยู่บ้าง

ถาม : เริ่มใหม่ได้ ?
ตอบ : ศีลทุกระดับ รู้ตัวว่าพลาดก็เริ่มต้นใหม่ ถ้ามัวแต่ไปเศร้าหมองอยู่ตรงนั้น จะลงอบายภูมิได้ง่ายมาก รักจะทำความดีต้องหน้าด้านหน้าทน ทันทีที่รู้ตัวว่าศีลของเราบกพร่องแล้ว ให้ตั้งใจว่าตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปศีลเราจะบริสุทธิ์ และตั้งหน้าตั้งตารักษาสิกขาบทต่อไป มัวแต่ไปคร่ำครวญอยู่ เสียเวลาเปล่า ๆ จิตใจที่เศร้าหมองแบบนั้น ถ้าตายตอนนั้นก็ลงอบายภูมิอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-09-2012 เมื่อ 20:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 04-09-2012, 09:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผู้ที่ถือศีล ๘ ต้องทำสมาธิทั้งวันหรือเปล่าครับ ? ทำงานทำตัวปกติได้ หรือต้องแปลกแยกให้รู้ว่าเราถือศีล ?
ตอบ : ควรจะแปลกแยกสักหน่อย คนจะได้นินทา..! อาตมาถือศีลแปดเป็นปี คนยังไม่รู้เลยว่าถือศีลแปด ทำไมต้องให้เขารู้ด้วย ? ยกเว้นว่าตั้งใจว่าอวดเขาว่ากูดีกว่า ก็กลายเป็นสีลัพพตุปาทานไปอีก

ถาม : อาจจะเห็นว่า กูถือศีลแปด คนจะได้ไม่มากวนใจ จำเป็นหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ไม่จำเป็น..บอกเมียคนเดียวพอ ..(ฮา)..

ถาม : การตัดความถือตัวถือตนสำหรับกัลยาณชนอย่างไรถึงเรียกว่าดี ? และผู้ที่เป็นพระโสดาบันท่านถือตัวถือตนต่างกับกัลยาณชนอย่างไร ?
ตอบ : ก็แค่ลดมานะตัวเองลงมาสักหน่อยหนึ่ง อย่าไปคิดว่ากูดีกว่าเขา ก็จัดว่าอยู่ในระดับของกัลยาณชนได้ ส่วนพระโสดาบันนั้นท่านรู้ตัวอยู่เสมอว่าจะต้องตาย ในเมื่อรู้ตัวอยู่เสมอว่าจะต้องตาย การถือตัวถือตนท่านก็จะลดไปโดยอัตโนมัติ เพราะไม่รู้จะแบกไปทำอะไร อย่างไรก็ตายแน่อยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-09-2012 เมื่อ 20:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 04-09-2012, 09:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การสวดคาถาเงินล้านด้วยตัวเอง แล้วสวดได้ไม่นานจิตก็นึกถึงเรื่องอื่น จึงได้หาเสียงสวดคาถาเงินล้านมาฟังแล้วตั้งใจสวดตาม จิตจับเสียง ไม่นึกถึงเรื่องอื่นได้นานและมั่นคงในเสียงสวดคาถา

ตอนนี้จึงอยากทราบว่า ระหว่างการสวดด้วยตัวเองกับฟังเสียงสวด ผลของคาถาจะมีผลเหมือนกันหรือไม่ ? และการสวดคาถาเงินล้านโดยสวดตลอดทั้งวัน นึกขึ้นได้ก็สวดจะมีผลเหมือนกับการตั้งใจสวดเป็นจบ ๆ หรือไม่ ?

ตอบ : การภาวนาคาถาเงินล้าน ทำอย่างไรก็ตาม ทำแล้วสมาธิทรงตัวได้ดีให้ทำอย่างนั้น เพราะผลของคาถาจะเกิดต่อเมื่อสมาธิทรงตัวได้ดี

ในการภาวนาแรกเริ่มควรจะกำหนดเสียก่อน ว่าเราจะภาวนากี่จบต่อวัน และทำให้สม่ำเสมอทุกวัน
จนกระทั่งเราสามารถทำได้สม่ำเสมอ อารมณ์ใจทรงตัว หรือผลของคาถาเกิดแล้ว เราถึงสามารถที่จะวางได้ในลักษณะนึกถึงได้เมื่อไรค่อยภาวนา ถึงตอนนั้นไม่ต้องไปกำหนดเอาจบก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-09-2012 เมื่อ 20:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 04-09-2012, 10:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : รุ่นน้องผมมีเพื่อนติดเชื้อเอดส์แล้วมาปรึกษาผม ขอพระคุณหลวงพ่อเมตตาแนะนำวิธีรักษาหรือวิธีการใช้ยา (ยาสูบหรือตัวยาอื่น ๆ) ตามแบบพระคุณหลวงพ่อฤๅษีได้บอกไว้ให้ด้วยครับ ผมเคยได้อ่านมาว่าให้ใช้ยาสูบจุดแล้วสูดควันเข้าไป หรือใช้แบบสกัดเป็นน้ำฉีดเข้าไป ซึ่งผมไม่แน่ใจในกระบวนการจริง ๆ จำเป็นต้องขอความเมตตาจากพระคุณหลวงพ่อ หรือถ้าพระคุณหลวงพ่อจะพอทราบหรือแนะแนวทางอื่น ๆ ได้
ตอบ : อยากแนะนำว่าไปตายซะ..! นักปฏิบัติที่ดี ครูบาอาจารย์บอกครั้งเดียวต้องจำได้ นี่นอกจากไม่จำแล้ว ยังใช้ครูบาอาจารย์ให้บอกใหม่ บอกเขาไปว่า ให้กลับไปค้นคว้าจากตำราเล่มเดิม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-09-2012 เมื่อ 20:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 04-09-2012, 10:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมเคยได้ยินหลวงพ่อพูดถึงวัดหรือสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ที่ฝึกปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด ผู้ฝึกต้องอยู่ในห้องเล็ก ๆ มีทางเดินจงกรมแคบ ๆ ห้ามติดต่อโลกภายนอก อาหารจัดส่งถึงห้องตามเวลา ไม่ทราบว่าเป็นที่แห่งใด ? หลักการสอนสมาธิเป็นอย่างไร ? และมีข้อกำหนดใดบ้างในการขอเข้าไปปฏิบัติธรรมครับ ?
ตอบ : ไปหาดูในกูเกิ้ล วัดภัททันตะอาสภาราม ถ้าไม่แน่จริงอย่าไป เพราะนอกจากจะห้ามติดต่อกับคนแล้ว ห้ามพูดด้วย อยู่ได้สามวันโดยไม่บ้าเสียก่อน ถือว่าเจ๋งมากแล้ว..!

ถาม : อยู่ในห้องเล็ก ๆ ที่มีแต่ทางเดินหรือครับ ?
ตอบ : ไม่ต้องไปไหน อยู่แต่ในนั้นแหละ

ถาม : เหมือนคุกขังเดี่ยวเลยครับ
ตอบ : ประมาณนั้นเลย เข้าส้วมห้ามเกินสามนาที ถ้าถึงสามนาทีจะมีพี่เลี้ยงมาทุบประตูเรียก เขามีกล้องวงจรปิดติดอยู่ ยกเว้นในส้วม กลัวจะขี้เกียจไม่ภาวนา
เริ่มปฏิบัติตีสอง นอนสี่ทุ่ม เดินจงกรมสลับกับภาวนาทั้งวันทั้งคืน อย่างน้อย ๑ ชั่วโมงต่อ ๑ บัลลังก์ ก็แปลว่า เดิน ๑ ชั่วโมง นั่ง ๑ ชั่วโมง สลับกันไป


ถาม : ถ้าไปอยู่ก็โมทนาด้วยแล้วกัน
ตอบ : อาตมาไปอยู่มา ๑๘ วัน ออกมาตัวขาวจ๋อง เพราะไม่โดนแดดเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-09-2012 เมื่อ 20:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 04-09-2012, 10:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมมีเพื่อนผู้ชาย (เดิมนับถือศาสนาพุทธ) ต่อมาได้แต่งงานกับแฟนสาวซึ่งนับถืออีกศาสนา และเพื่อนผมก็เปลี่ยนเข้ารับอีกศาสนาตามแฟนสาว อยู่กินกันมาหลายปีจนมีลูก (แต่ในใจยังนับถือพุทธศาสนา เพียงแต่ปฏิบัติอย่างบุคคลทั่วไปไม่ได้ เนื่องจากอีกศาสนามีข้อห้ามไว้) เมื่อเขาเสียชีวิตแล้วร่างกายเขาก็ต้องเข้าทำตามพิธีในศาสนานั้น ขอถามว่าจิตวิญญาณของเขาซึ่งนับถือพุทธศาสนาจะไปสู่ภพภูมิใด ? พุทธหรืออีกศาสนาครับ ?
ตอบ : ร่างกายไม่ใช่สาระ เพราะร่างกายเป็นแต่ซากศพเท่านั้น สำคัญว่าก่อนตายจิตเกาะความดีได้หรือเปล่า ? ถ้าจิตเกาะความดีได้ก็ไปสุคติ สามารถเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เป็นพรหมได้ ถ้าจิตเกาะความดีไม่ได้ก็ไปทุคติ ไปเป็นสัตว์นรก ไปเป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน ตามแต่กรรมที่ตนเองสร้างมา ไม่ว่าจะศาสนาใดก็ไปนรกเดียวกัน สวรรค์เดียวกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-09-2012 เมื่อ 20:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 04-09-2012, 11:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตะกรุดมหาสะท้อน มีผลสะท้อนต่อการถูกกระทำทางวาจาหรือไม่ ?
ตอบ : มี

ถาม : มีข้อยกเว้นหรือข้อจำกัดใดบ้างที่ไม่แสดงผล ?
ตอบ : ไม่มีข้อยกเว้น..ตะกรุดมหาสะท้อนขยัน จะมากจะน้อยให้ผลหมด

ถาม : ผมแขวนมหาสะท้อนทั้งทองคำและเงินมาหลายปี แต่ยังไม่มีประสบการณ์เด่นชัดในทันทีทันใด แม้จะวางใจนิ่งต่อการกระทำ ไม่ทราบว่ามีเหตุผลอย่างใดครับ ?
ตอบ : สงสัยแขวนแบบควาย..! เคยเห็นควายแขวนกระดึงไหม ? เจ้าของเอาแขวนให้ควายก็ติดตัวไปเรื่อย ไม่เคยอาราธนาเลย ต้องอาราธนาและภาวนาคาถามหาสะท้อนเอาไว้ทุกวัน จนอารมณ์ใจทรงตัว

ถาม : ถ้าตะกรุดมหาสะท้อนลดความเข้มแข็งลง รบกวนหลวงพ่อส่งจิตอธิษฐานให้ด้วยครับ
ตอบ : จ่ายค่าอธิษฐานมาก่อน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-09-2012 เมื่อ 20:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 230 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #18  
เก่า 06-09-2012, 19:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมรื้อบ้านเสร็จแล้ว จะปลูกบ้านใหม่ เป็นฤกษ์อมฤตโชค ควรจะ..?
ตอบ : ตอนนี้เป็นช่วงเข้าพรรษา ปกติปลูกบ้านหรือวางศิลาฤกษ์ หรือลงเสาเอก เขาทำกันหลังจากออกพรรษาไปแล้ว

ถาม : ช่วงนี้เข้าพรรษาอยู่ก็..?
ตอบ : รอให้พ้นไปก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2012 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #19  
เก่า 06-09-2012, 19:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนเช้าผมภาวนาจนกลายเป็นสมาธิ แล้วรู้สึกว่าหายใจไม่ออก และไปเห็น..(ไม่ได้ยิน).. แต่ว่าเรายังรู้สึกกลัว ไม่รู้ว่าหูอื้อไปหรือเปล่า หรือท่านมาเจอเราจริง ?
ตอบ : เจอเขาก็ถามเขา ไม่ใช่มาถามคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ ส่วนใหญ่แล้วเป็นเสียอย่างนี้ เจอแล้วไม่ถาม ดันมาถามคนที่ไม่เจอ เหมือนกับกินข้าวแล้วมาถามคนอื่นว่าผมอิ่มหรือยัง ?

ถาม : พยายามถามแต่เขานิ่งมาก ได้แต่ยิ้มอย่างเดียว
ตอบ : อย่างนั้นก็รอ...รอเขาตอบเมื่อไรก็จบ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-09-2012 เมื่อ 06:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #20  
เก่า 06-09-2012, 19:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,514
ได้ให้อนุโมทนา: 151,450
ได้รับอนุโมทนา 4,406,101 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เพื่อน ๆ ที่เรียนปริญญาเอกอยู่ พอเขารู้ว่าอาตมาอยู่วัดท่าขนุน เขาก็ไปหาข้อมูลในกูเกิ้ล แล้วทุกคนก็มาถามว่า “ทำเว็บอย่างไรถึงมีข้อมูลใหม่อยู่ทุกวัน ?” อาตมาก็บอกว่า ไม่ได้ทำอย่างไรหรอก คนทำเขาตั้งใจทำและเขาทำด้วยใจจริง ๆ ถึงเวลามีคนช่วยกันลงข้อความ จึงมีของใหม่อยู่ทุกวัน

ส่วนใหญ่เขาไปเจอเว็บประเภทหน้าเดียวไม่เคยเปลี่ยนแปลง เขาก็เบื่อ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-09-2012 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
อิทธินนท์๖๗๘

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:43



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว