กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 16-03-2010, 06:46
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,422 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default อานิสงส์ของการทำบุญเป็นคนแรก

ถาม : อย่างการแย่งกันทำสังฆทานเป็นคนแรก ?
ตอบ : ถ้าอย่างนั้นก็จะมีอานิสงส์จะเหมือนพระอัญญาโกณฑัญญะ พระอัญญาโกณฑัญญะ บรรลุมรรคผลเป็นองค์แรกสุดในพุทธศาสนา

ในอดีตชาติ พระอัญญาโกณฑัญญะกับพระสุภัททะเป็นพี่น้องกัน ท่านมีที่ดินอยู่ผืนหนึ่งก็แบ่งกันคนละครึ่ง พระอัญญาโกณฑัญญะพอลงมือไถที่เพื่อทำนาท่านก็ทำบุญ หว่านกล้าท่านก็ทำบุญ ข้าวตกรวงท่านก็ทำบุญ เกี่ยวข้าวท่านก็ทำบุญ ขนข้าวขึ้นยุ้งท่านก็ทำบุญ ท่านทำตลอดทุกระยะ

ส่วนพระสุภัททะท่านทำบุญตอนขนข้าวขึ้นยุ้งทีเดียว อานิสงส์นี่ข้ามชาติมากี่หมื่นกี่แสนชาติก็ไม่รู้ มาถึงชาติสุดท้ายพระอัญญาโกณฑัญญะบรรลุมรรคผลเป็นองค์แรกในพุทธศาสนา ส่วนพระสุภัททะหวิดไป

พระพุทธเจ้าป่วยหนักแล้ว..ใช่ไหม ? กำลังพักผ่อนอยู่ สุภัททะซึ่งเป็นปริพาชกคือนักบวชศาสนาอื่น ตั้งใจจะเข้าไปกราบทูลถามปัญหาธรรมกับพระพุทธเจ้า พระอานนท์ไม่ให้เข้าแล้ว

พระอานนท์นี่เลิศทางพุทธอุปัฏฐาก ท่านย่อมรู้ว่าเวลาไหนควร เวลาไหนไม่ควร เป็นพระภิกษุรูปเดียวที่เป็นเลิศถึง ๕ อย่าง คือ มีสติ มีคติ มีธิติ มีความเพียร และเป็นพุทธอุปัฏฐาก ไม่มีใครมีมากกว่านี้อีกแล้ว อย่างเก่งก็ ๒ ทาง อย่างเช่นพระสุภูติเถระ เลิศในทางอยู่อรณวิหาร ก็คือการเข้านิโรธสมาบัติ และก็เป็นทักขิเณยยบุคคล คนเข้านิโรธสมาบัติก็ต้องเป็นบุคคลที่สมควรแก่การถวายทานอยู่แล้ว ท่านนี้เลิศ ๒ อย่าง มีพระอานนท์รูปเดียวเป็นเลิศ ๕ อย่าง

ในเมื่อท่านเลิศในพุทธอุปัฏฐาก เลิศทางผู้มีสติ มีคติ ท่านก็ย่อมรู้ว่า เวลาไหนควร เวลาไหนไม่ควร ก็บอกว่า สุภัททะปริพาชกนั้นไม่ควรจะเข้าพบพระพุทธเจ้าเพราะว่าทรงพักผ่อนแล้ว พระพุทธเจ้าได้ยิน ตรัสว่า "อานันทะ ดูก่อน..อานนท์ ให้เธอเข้ามาเถอะ ตถาคตรอเธออยู่.."

พอท่านพระสุภัททะทูลถามปัญหาธรรม พระพุทธเจ้าก็แก้ให้ แล้วประทานเอหิภิกขุ คือ บวชให้ด้วยตัวเอง โดยทรงประทานโอวาทว่า "จงมาเป็นภิกษุเถิด ธรรมอันเรากล่าวดีแล้ว จงประพฤติพรหมจรรย์เพื่อถึงที่สุดแห่งทุกข์โดยชอบเถิด.." ท่านเป็นสาวกรูปสุดท้ายในพุทธศาสนาที่บวชกันในลักษณะนั้น

อานิสงส์ที่ได้ก็จะเหมือนพระโกณฑัญญะ แย่งกันบรรลุก่อน..ดูว่าใครจะหัวแตก วิ่งแย่งกันทำบุญ ชนกันหัวแตกเลย..!

จำไว้ให้แม่น ๆ นะ ทำบุญไม่ได้อยู่ที่จำนวนเงินมาก ๆ ไม่ได้อยู่ที่ของมาก ๆ หากอยู่ที่กำลังใจในการสละออกของเรา เราทำบุญเพื่อตัดโลภะ คือความโลภของเรา เราทำบุญเพื่อสร้างทานบารมีของเราให้เต็ม

คนเขามีเยอะเขาทำบุญมาก ๆ เราไม่ต้องไปอิจฉาเขา โมทนาตามเขาเลย เรามีแค่ไหน เราทำตามกำลังของเรา ไม่ให้ตนเดือดร้อน ไม่ให้คนรอบข้างเดือดร้อน ถือว่าใช้ได้แล้ว ไม่ได้อยู่ที่มาก ไม่ได้อยู่ที่น้อย แต่สำคัญตรงการสละออก


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกรกฎาคม ๒๕๔๔

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-02-2015 เมื่อ 13:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ

Tags
การสละออก, ทำบุญเป็นคนแรก


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:27



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว