กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 09-02-2013, 22:38
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,479 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default คนเรากำลังใจมีแค่ไหนก็คิดแค่นั้น ทำแค่นั้น

คนเรากำลังใจมีแค่ไหนก็จะคิดแค่นั้น ทำแค่นั้น

จำไว้อย่างหนึ่งว่า คนที่น่ากลัวที่สุดก็คือคนที่เหลือแต่กิริยาไม่มีมารยาแล้ว คนประเภทนี้นี่ทำอะไรก็ทำไปโป้ง ๆ เลย ไม่ต้องไปดัดจริตแล้ว เพราะว่าดีชั่วเท่านั้นตัวเองรู้อยู่ ก็ไม่ต้องไปดัดจริตรอว่าใครจะมาชมว่าเป็นคนดี ทำอะไรทำจากน้ำใสใจจริง คนประเภทนี้น่ากลัว เพราะว่าทางของเขาสั้นกว่าคนอื่นแล้ว

เมื่อกำลังใจไปถึงระดับนั้น เขาจะมองทุกอย่างเหมือนกับรุงรัง เกะกะ มีแต่จะขวางให้ช้า ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็พร้อมที่จะโยนทิ้งได้ทันที บางครั้งดูเหมือนเป็นคนไม่มีน้ำใจ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ เขาเอาเฉพาะเรื่องที่เป็นอรรถเป็นธรรมเท่านั้น เรื่องอื่นที่นอกทุ่งนอกท่าเข้ามา ถูกไล่เตลิดเปิดเปิงไปหมด ลักษณะเหมือนกับเป็นคนขี้รำคาญ ...เพราะอะไร ? เพราะตัวเขาเองเห็นทางตรงแล้ว คนอื่นจะมาดึงเขาออกนอกทาง เขาก็ต้องรำคาญ..ใช่ไหม ?

เรื่องนี้อาตมาเคยถามหลวงพ่อวัดท่าซุงครั้งหนึ่ง ท่านบอกว่าลองสังเกตดูสิ ถ้าคนที่กำลังใจมุ่งตรงแล้ว ทำอะไรทำรวดเร็ว รักษาเวลามาก รู้แล้วว่าเวลาตัวเองมีน้อย จึงรักษาเวลาตัวเองมาก ทำอะไรทำเร็ว แต่ขณะเดียวกัน พวกที่เวลายังเยอะ ทำอะไรก็เชื่องช้าอืดอาด พวกนั้นยังต้องเกิดอีกนาน อาตมาได้ยินประโยคนี้แล้วสะดุ้ง ...เกิดอีกนาน ก็ทุกข์อีกนาน... เพราะฉะนั้น..ต้องรักษากำลังใจให้ดี คลำถูกทางแล้วก็อย่าพยายามเลี้ยวออกไป อันดับแรกให้มีศีล ๕ เป็นกรอบ ตราบใดที่ยังอยู่ในกรอบของศีล ถึงหลงทางก็ไปไม่ไกลหรอก เพราะจะไปชนขอบของศีลแล้วกระเด้งกลับเอง อย่างไร ๆ ก็ตัวตายดีกว่าศีลขาด

อันดับที่ ๒ เรื่องของสมาธิภาวนา..อย่าทิ้งการปฎิบัติ ความมั่นคงของกำลังใจขึ้นอยู่กับสมาธิแทบทั้งหมด ถ้าสมาธิทรงตัวดี ศีลดี เรื่องของปัญญาจะเกิดขึ้นเอง เมื่อศีลทรงตัว สมาธิก็ตั้งมั่นได้ง่าย สมาธิทรงตัวปัญญาก็เกิด เพราะจิตของเราปกติจะวุ่นวายส่งส่ายตลอดเวลา เหมือนกับน้ำที่กระเพื่อมอยู่ เราจะดูหน้าตัวเองในน้ำ มองลงไปน้ำกระเพื่อมก็มองไม่เห็น หรือเห็นก็ไม่ชัดเจน แต่ถ้าน้ำนิ่ง มองเมื่อไรก็เห็นเมื่อนั้น คนประเภทนี้ถ้าหากว่าสามารถทำกำลังใจได้ถึงระดับนี้แล้ว ส่วนใหญ่อยากจะหลีกไปอยู่คนเดียว..แต่ส่วนใหญ่แล้วทำไม่ได้ เพราะว่าเรื่องของการปฏิบัตินั้น ต้องโลกไม่ช้ำธรรมไม่เสีย


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๕

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-08-2016 เมื่อ 04:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:57



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว