กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 26-04-2017, 17:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,234 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๐

ให้ทุกคนนั่งในท่าที่สบายของตัวเอง ตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐ สิ่งที่อยากจะเตือนพวกเราในวันนี้ ก็คือ การปฏิบัติธรรมของพวกเรานั้น เหมือนกับการเข้าสู่สนามรบ ภาษาชาวยุทธจักรบอกว่า “มิใช่ท่านตายก็เป็นเราสิ้น” เพราะว่ากิเลสไม่เคยเมตตาปราณีกับเรา มีแต่ทุบตีฟาดโบยเราหนักที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าเราเองยังเหยาะแหยะอ่อนแออยู่ โอกาสที่จะชนะย่อมไม่มี

การปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องของบุคคลที่เข้าถึงปรมัตถบารมี คือกำลังใจขั้นสูงสุดแล้ว ดังนั้น...จึงต้องทุ่มเทจริงจัง ทำกันอย่างชนิดเอาชีวิตเข้าแลก ถ้าหากว่าทำไม่ได้ก็ให้ตายไปเลย ต้องวางกำลังใจในลักษณะอย่างนี้ ไม่ใช่ปฏิบัติกันในลักษณะแก้บน ภาวนาแค่ ๓ ครั้ง ๕ ครั้งแล้วจะให้เกิดผล...ย่อมเป็นไปไม่ได้


สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะว่าไปแล้วพวกเราทุกคนรู้อยู่ แต่ก็ยังประมาทกันอยู่มาก เพราะว่าไปให้ความสำคัญกับสิ่งรอบข้างมากกว่าการปฏิบัติธรรม บางคนสามารถทุ่มเทสมาธิแชตกันได้ครึ่งค่อนวันติดต่อกัน แต่ให้ภาวนา ๓ นาที ๕ นาที ก็จะตายแล้ว ลักษณะอย่างนี้แสดงว่าเป็นการใช้สติสมาธิไปในทางที่ผิด ฉันทะในการปฏิบัติธรรมยังไม่เพียงพอ

แค่เราพลิกมุมกลับ มีความระลึกรู้อยู่เสมอว่าเราจะต้องตาย วินาทีนี้เรายังอยู่ วินาทีหน้าเราอาจจะตายแล้ว ถ้าหากว่าตายแล้วตกสู่อบายภูมิ ก็เท่ากับเราขาดทุนย่อยยับ อย่างน้อย ๆ ตายแล้วเราต้องได้ไปสู่ภพภูมิที่สูงกว่าเดิม จึงจะเรียกว่าไม่ขาดทุน ถ้าสามารถหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้ นั่นจึงเป็นจุดมุ่งหมายของเราทุกคน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 28-04-2017 เมื่อ 18:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-04-2017, 18:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,234 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่บุคคลที่ตั้งใจจะล่วงพ้นจากกองทุกข์ไปสู่พระนิพพาน แทนที่จะตัด จะละสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้ตนเองเบากายเบาใจมากที่สุด จะได้ปลด จะได้ปล่อยวางได้ง่ายที่สุด เรากลับไปแบกภาระสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมา แค่ขันธ์ ๕ ที่ประกอบไปด้วยร่างกายหยาบ ๆ ที่ประกอบไปด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ นี้ เราก็ดูแลไม่หวาดไม่ไหวแล้ว เรายังไปสร้างขันธ์โดยสมมติขึ้นมาอีก

อย่างเช่นว่าตัวตนในโลกโซเชียล เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นเฟซบุ๊ก ไลน์ อินสตาแกรม สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เมื่อสร้างมาแล้วเราก็ไปยึด การยึดมั่นถือมั่นย่อมมีการยินดียินร้าย รัก ชอบ เกลียด ชัง เป็นปกติ กลายเป็นเราสร้างเสริมกิเลสทับถมตนเองให้หนายิ่ง ๆ ขึ้นไป แทนที่จะละ จะวางกิเลส ก็กลายเป็นสร้างเสริมให้กิเลสเจริญงอกงาม

จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วงเป็นอย่างมากว่า เราทั้งหลายตั้งใจว่าปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้นไปพระนิพพาน แต่สิ่งที่กระทำนั้นค้านกับสิ่งที่ตนเองตั้งใจเหลือเกิน มองดูแล้วแทบจะไม่มีหนทางที่เป็นไปได้เลยด้วยซ้ำไป ยกเว้นว่าจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสียใหม่

เรื่องของโทรศัพท์ใช้ในการติดต่อสื่อสาร เราก็สื่อสารเฉพาะวาระ เฉพาะเวลาที่จำเป็นเท่านั้น ซึ่งอาตมายืนยันว่าทุกคนถ้าตั้งใจก็ทำได้เหมือนกัน เพราะว่าอาตมาเองบางทีก็ลืมไปว่าโทรศัพท์อยู่ที่ไหน เนื่องเพราะว่าไม่ได้ใส่ใจ ถ้าไม่ได้ติดต่อกับใครก็แทบจะไม่ได้หยิบไม่ได้จับเลย บางที่ชาร์ตไฟเอาไว้จนกระทั่งไฟหมดยังไม่ได้ติดต่อกับใครเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-04-2017 เมื่อ 05:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 27-04-2017, 18:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,234 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นดังนี้ก็แปลว่า ถ้าเราตั้งใจจะละจะวางจริง ๆ ของหยาบ ๆ แค่โทรศัพท์มือถือทำไมเราจะวางไม่ได้ ? เพราะสิ่งที่ละเอียดกว่านี้ ก็คือคนที่เรารัก ลำดับต่อไปก็คือร่างกายนี้ที่เรารักมากที่สุด ถ้าเราวางสิ่งหยาบไม่ได้ สิ่งละเอียดทั้งหลายเหล่านี้เราก็ไม่สามารถที่จะวางได้เช่นกัน

การจะละวางนั้น เราต้องรักษาศีลทุกสิกขาบทของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อผู้อื่นละเมิดศีล สติสมาธิจดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออก จดจ่ออยู่กับอารมณ์ปัจจุบันตรงหน้า ไม่ไปไขว้เขวกับสิ่งยั่วยวนต่าง ๆ ที่มาทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีปัญญามองเห็นทุกข์เห็นโทษว่าร่างนี้หาความดีไม่ได้

ตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาจนหลับตาลงไปมีแต่ความทุกข์ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาทุกข์ก็ไม่ควรที่จะมีสำหรับเราอีก ถ้าหากว่าตายลงไปเมื่อไรเราควรไปพระนิพพานแห่งเดียว ถ้าหากว่าทุกท่านสามารถวางกำลังใจเช่นนี้ได้ ละวางเครื่องถ่วงต่าง ๆ รอบข้างเราลงไปได้ เราก็มีโอกาสที่จะหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพาน

ลำดับต่อไปก็ให้ทุกคนตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันอาทิตย์ที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๐

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย รัตนาวุธ)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-04-2017 เมื่อ 05:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:48



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว