|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#161
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ครูบาอาจารย์ที่มีความสามารถ มีชื่อเสียง ญาติโยมไปรบกวนหัวไม่วางหางไม่เว้น เวลาพักผ่อนไม่มี ก็ทำให้ท่านอายุสั้นไปด้วย อย่างหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค มรณภาพตอนอายุ ๖๓ ปี นั่นเยอะมากแล้ว อย่างหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ อายุ ๖๐ ปีเอง หลวงพ่อเต่า วัดน้ำพุ อายุ ๕๘ ปี
หลวงพ่อเต่า วัดน้ำพุ ก็คล้าย ๆ หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ก็คือรักษาโรคไสยศาสตร์สารพัด ชาวบ้านแห่กันไปวันหนึ่งเป็นพัน ท้ายสุดท่านเองช่วยเขาจนไม่ได้พักผ่อน อายุแค่ ๕๘ ปีก็มรณภาพ หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ คนก็แห่กันไปหาท่าน ปัจจุบันนี้นักการเมืองในบริเวณภาคกลางแถวนั้น อยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท ถ้าไม่มีตะโพนหลวงพ่อภักตร์ ไม่ต้องไปลงสมัคร ไม่มีทางสู้คู่แข่งที่เขามีได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2020 เมื่อ 02:40 |
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#162
|
||||
|
||||
"ตอนแรกคณะลิเกหอมหวลที่ไม่ค่อยจะมีงาน ท่านจึงลงตะโพนให้ ปรากฏว่ากลายเป็นคณะลิเกที่โด่งดังที่สุดของประเทศไทย คนอื่น ๆ อยากได้บ้าง ท่านจึงต้องทำขึ้นมา พวกนักการเมืองเขาต้องการเรื่องชื่อเสียง แต่ละคนแสวงหา บางรายสู้ราคาเป็นแสนเลยก็มี ส่วนมะเฟืองนี่เขาเอาไว้หนุนฐานะ คำว่า เฟือง ออกเสียงคล้าย เฟื่อง เฟื่องฟู
หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ คล้าย ๆ กับหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม สร้างวัตถุมงคลอะไรก็ดังทุกอย่าง แต่ว่าตะโพนหลวงพ่อภักตร์ ระยะหลังนี่คนปลอมกันมาก ต้องดูเป็น ตะโพนหลวงพ่อภักตร์เป็นเขากวาง คนปลอมส่วนใหญ่ไม่รู้ จะใช้งาช้างทำปลอม แล้วก่อนที่ท่านจะใส่ขั้วแขวนตะโพน ท่านจะบรรจุผงวิเศษไว้ด้วย ถ้าส่องดูไม่มีผงนี่ ไม่ต้องไปจับ ของปลอมแน่นอน ขอยืนยันว่าเป็นผงนะ ผงผสมกาว ไม่ใช่ว่าประเภทเอากาวมาอุดเฉย ๆ ดูความเก่าของขั้วแขวน ดูผง ดูเนื้อ ของปลอมส่วนใหญ่จะทำด้วยงาช้าง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2020 เมื่อ 02:42 |
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#163
|
||||
|
||||
"บรรดาเกจิอาจารย์ของจังหวัดอ่างทอง ต้องบอกว่าเป็นแหล่งรวมเบี้ยแก้ ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ หลวงพ่อโปร่ง วัดท่าช้าง หลวงพ่อซำ วัดตลาดใหม่
เบี้ยแก้ของหลวงพ่อภักตร์แพงที่สุด หายากที่สุด แต่ของหลวงพ่อภักตร์ไม่ติด ๑ ใน ๕ เบี้ยแก้ของประเทศไทย เพราะว่าหายาก ไม่ค่อยมีหมุนเวียนในตลาด ไปติดของหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำแทน คืออะไรที่หายากไป บางทีไม่ติดอันดับ เพราะว่าคนไม่มี เบี้ยแก้หลวงพ่อภักตร์ตัวแรก อาตมาบูชามา ๔๕,๐๐๐ บาท เจ้าของเขายังทำท่าไม่อยากจะขาย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2020 เมื่อ 02:43 |
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#164
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวกับโยมที่บูชาวัตถุมงคล "ถ้าไม่ใช่เงินเหลือเฟือ อย่าไปดูของแพง ของแพงเขาไว้สำหรับคนที่ไม่เดือดร้อน บางคนเขาบอกว่า ชีวิตนี้เราไม่มีวาสนาที่จะได้สมเด็จวัดระฆังไว้ครอบครอง เพราะว่าแพงเกินเหตุ ก็เลยมีแต่นักการเมือง มีแต่เศรษฐีที่ครอบครองพระสมเด็จวัดระฆังเสียส่วนใหญ่
จึงมาตัดพ้อต่อว่าว่าเขาทำบุญอะไรเอาไว้ ? คนจะรวย ต้องมีทานบารมีมาก่อน โดยเฉพาะสังฆทาน ในอดีตเขาได้ทำเอาไว้ ปัจจุบันเขามีฐานะดี เราจะไปว่าอะไรได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2020 เมื่อ 02:44 |
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#165
|
||||
|
||||
"ไม่เหมือนกับอินทกเทพบุตร ใส่บาตรทีเดียวรวยอื้อไปเลย ถามว่าอินทกเทพบุตรรวยขนาดไหน ? รวยบุญ..รวยชนิดที่แม้แต่พระอินทร์มา ท่านก็ไม่ต้องลุกให้ อย่างปัจจุบันในจังหวัดกาญจนบุรี ถ้าหากว่าพระเถระมา ทั้งจังหวัดมีที่อาตมาต้องลุกให้ท่านนั่งไม่ถึง ๑๐ รูป ส่วนใหญ่ท่านหลบไปนั่งข้างหลังกัน ท่านบอกว่าให้พระอาจารย์เล็กนั่งข้างหน้า เพราะว่าทำบุญมาต่างกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2020 เมื่อ 02:45 |
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#166
|
||||
|
||||
"อินทกเทพบุตรใส่บาตรครั้งเดียวในชีวิต แต่ต้องบอกว่าบังเอิญมาก เพราะว่าพระ ๖ รูปที่ไปรับบาตรเป็นพระอรหันต์ทั้งหมด อานิสงส์ของพระอริยเจ้าระดับสูงสุด บวกกับอานิสงส์สังฆทาน เพราะว่าไปเกิน ๔ รูป สองอย่างรวมกันเข้าไป...มากจนไม่ต้องนับ ขนาดพระอินทร์มายังไม่ต้องหลีกให้เลย เป็นลูกน้อง แต่ผู้บังคับบัญชาการสูงสุดใน ๖ ชั้นสวรรค์มาถึง ยังไม่ต้องลุกให้
ส่วนอังกุรเทพบุตรทำบุญ ทำทาน เปิดโรงทาน ๔ มุมเมือง ให้ทานทั้งกลางวันกลางคืนตลอด ๒๐,๐๐๐ ปี ใครมาก็ต้องลุกให้เขา เพราะว่าท่านไปทำทานในยุคที่โลกไม่มีศีลไม่มีธรรม ให้ทานแก่บุคคลที่ไม่มีศีล ดีกว่าให้ทานสัตว์เดรัจฉานหน่อยเดียวเท่านั้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2020 เมื่อ 02:46 |
สมาชิก 127 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#167
|
||||
|
||||
"พวกเราถ้ามีโอกาสก็ทำบุญเป็นสังฆทานเอาไว้ เนื่องจากสังฆทานไม่จำกัดที่ผู้รับ เพราะว่าผู้รับเป็นเพียงตัวแทนของคณะสงฆ์เท่านั้น ผู้รับจะอีเหละเขละขละขนาดไหนก็ถวายไปเถอะ แบบเดียวกับที่เศรษฐีถวายสังฆทานด้วยความเคารพนบนอบสุดชีวิต แล้วก็ช่วยยกไทยธรรมไปส่งที่วัด ก่อนที่พระท่านขึ้นกุฏิ จะต้องล้างเท้าก่อน เนื่องจากสมัยนั้นพระท่านเดินเท้าเปล่า
เศรษฐียืนขวางตรงที่ล้างเท้าอยู่ พระท่านหยิบขันไม่ได้ พระท่านขอให้ช่วยหยิบขันล้างเท้าให้หน่อย เศรษฐีจึงเอาเท้าเขี่ยให้ คนเห็นก็สงสัย เมื่อสักครู่นี้เพิ่งจะถวายสังฆทานด้วยความเคารพสุดชีวิต ตอนนี้มาถึงกุฏิพระ ดันเอาเท้าเขี่ยให้ เศรษฐีบอกว่าท่านถวายสังฆทาน สังฆะ หมายถึง หมู่สงฆ์ทั้งหมด มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ท่านต้องเคารพ แต่ว่าสำหรับพระภิกษุรูปนี้โดยส่วนตัวแล้ว ความประพฤติใช้ไม่ได้ ท่านไม่เคารพ เอาเท้าเขี่ยให้ยังเสียดายเท้า แสดงว่าเศรษฐีท่านแยกแยะออก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2020 เมื่อ 02:49 |
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#168
|
||||
|
||||
"ถ้าต้องเลือกระหว่างตะโพนกับมะเฟือง อาตมาขอให้เลือกมะเฟือง เพราะว่าหายากกว่า"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2020 เมื่อ 02:49 |
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#169
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อเช้านี้อากาศที่ตลาดทองผาภูมิ ๑๑.๒ องศาเซลเซียส ที่เกาะพระฤๅษีน่าจะเหลือประมาณ ๘ องศาเซลเซียส ที่เกาะพระฤๅษีจะน้อยกว่าข้างนอกอย่างน้อย ๓ องศาเสมอ แถวเกาะพระฤๅษีกับแถวชะแลคล้าย ๆ กัน เพราะว่าพื้นที่ต่อเนื่องถึงกัน
เคยถามเจ้าที่ว่าทำไมหนาวมาก ? ท่านบอกว่าแร่ธาตุโลหะใต้ดินมีเยอะครับ แร่โลหะพอมีมาก ดูดความร้อนมากหน้าร้อนก็ร้อนจัด พอถึงเวลาคลายความร้อนเร็ว หน้าหนาวก็หนาวจัด เราจะเห็นว่า ส่วนใหญ่ถ้าอากาศหนาวจัดของภาคกลาง มักจะมีทองผาภูมิติดอันดับอยู่เป็นประจำ สรุปว่ากรมอุตุนิยมวิทยาสู้เจ้าที่ไม่ได้ เจ้าที่ท่านบอกรายละเอียดได้ แร่โลหะข้างใต้ของทองผาภูมิ ส่วนหนึ่งก็คือตะกั่ว โดนปิดเหมืองตะกั่วไป ๔ เหมืองแล้ว ก็คือเหมืองสองท่อ เหมืองคลิตี้ เหมืองพุจือ เหมืองบ้องตี้ เพราะว่าไปทิ้งสารพิษลงในลำห้วยคลิตี้ ทำให้ชาวบ้านเขาป่วยทีเป็นร้อย ๆ คน ต่อสู้กันมาหลายปี ท้ายสุดศาลสั่งปิดเหมืองตะกั่วจนหมด"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-01-2020 เมื่อ 11:34 |
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#170
|
||||
|
||||
"จะว่าไปแล้วคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมก็ไม่รอบคอบ แล้วก็เชื่อคนง่าย เหมืองสองท่อที่น้ำล้างแร่ลงมาที่เกาะพระฤๅษี เขาทำระบบกำจัดสารพิษสุดยอดมาก บ่อท้าย ๆ เขาเลี้ยงปลาให้ดูทุกบ่อ แต่เป็นแค่เหมืองรับแขก ส่วนเหมืองคลิตี้ เหมืองพุจือ เหมืองบ้องตี้ อยู่ลึกเข้าไปอีกมาก รถวิ่งไปอีกหลายชั่วโมง จากเกาะพระฤๅษีวิ่งไปเหมืองคลิตี้ประมาณชั่วโมงครึ่ง แล้วถนนก็เตาขนมครกดี ๆ นี่เอง หน้าฝนต่อให้มีรถขับเคลื่อนสี่ล้อก็ยังอาจจะต้องทั้งขุดทั้งเข็น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2020 เมื่อ 02:54 |
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#171
|
||||
|
||||
"คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมเชื่อคนง่าย...เขาบอกอะไรแล้วเชื่ออย่างหนึ่ง ไม่ยอมลำบากเดินทางเข้าไปให้ถึงที่อีกอย่างหนึ่ง พวกเหมืองลึก ๆ ก็ทำอีเหละเขละขละตามแบบของเขา ปล่อยน้ำที่ล้างแร่ลงไปในลำธารเลย ได้ยินเขาบอกว่าต้องใช้เวลาหลายสิบปีที่จะต้องค่อย ๆ ขุดลอกลำห้วยทั้งสายเพื่อฟื้นฟูใหม่
อาตมาเองธุดงค์ไปอยู่แถวนั้นหลายปี ก็น่าจะกินน้ำในห้วยคลิตี้ไปไม่เบา มิน่าว่าป่วยออด ๆ แอด ๆ อยู่เป็นประจำ แล้วที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ สมัยนั้นถ้าเร่งรีบ วันลาหมด กลัวว่าจะกลับวัดท่าซุงไม่ทัน ก็โบกรถแร่ ซึ่งขนสารตะกั่วมาเต็มท้ายรถของเขา รถ ๑๐ ล้อนั่นแหละ ถึงเวลาก็ยืนมาท้ายกระบะ ขาจมอยู่ครึ่งแข้งบนกองตะกั่วนั่น ตะกั่วที่ออกมาจากโรงงาน เหมือนอย่างกับบดเป็นผงทราย แล้วก็เปียก ๆ เพราะว่าต้องผ่านการล้าง ผ่านขั้นตอนของเขาออกมา ถึงเวลาพวกคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมไปตรวจสอบก็เรียบร้อยทุกอย่าง ที่ไหนได้...ชาวบ้านป่วยจะตายกันหมด จนกระทั่งพวกเอ็นจีโอบุกเข้าไปเอาตะกอนลำธารมาตรวจสอบ พบสารตะกั่วล้วน ๆ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2020 เมื่อ 02:56 |
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#172
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "มีคนจะชวนไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ เคยได้ยินภาษิตจีนที่ว่า "ผ่านทะเลเห็นน้ำไร้ความหมาย" ไหม ? ก็คือเห็นมามากกว่านี้แล้ว คนเราถ้าเจอทะเลมา แหล่งน้ำทั่ว ๆ ไปก็กลายเป็นของเล็กของน้อย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2020 เมื่อ 02:57 |
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#173
|
||||
|
||||
ถาม : วันก่อนที่โดนดุในงานกฐินที่เกาะ หลวงพี่ท่านบอกแล้วครับว่าผิดตรงไหน ?
ตอบ : ถ้ารอคนอื่นเขาบอกแล้วค่อยแก้ไขก็ยาก เราต้องหาเจอด้วยตัวเอง โดยทั่ว ๆ ไปคนอื่นจะไม่บอกว่าเราผิดพลาดตรงไหน เพราะว่าเกรงใจเรา ถ้าเราไม่รู้ด้วยตัวเองก็แก้ไขไม่ได้ตลอดชีวิต
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2020 เมื่อ 02:58 |
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#174
|
||||
|
||||
ถาม : ระหว่างทองคำบริสุทธิ์กับทองคำบางสะพาน จะนำไปหล่อพระ อานิสงส์ไหนดีกว่าครับ ?
ตอบ : สำคัญตรงที่ว่ามีไหม ? หากว่ามีก็อานิสงส์เดียวกัน ก็คืออานิสงส์การสร้างพระพุทธรูปด้วยทองคำเหมือนกัน ทองบางสะพานเป็นทองธรรมชาติ บางทีมีสิ่งปนเปื้อนอยู่ ถึงเวลาหลอมไปแล้วก็อาจจะทำให้เนื้อหาหายไปส่วนหนึ่ง แต่ถ้าเป็นทองคำแท่งที่ซื้อมาจากทางร้าน เขาหลอมมาดีแล้ว เนื้อหาก็จะเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2020 เมื่อ 02:59 |
สมาชิก 117 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#175
|
||||
|
||||
ทองคำเป็นโลหธาตุพิเศษ มีความขลังมีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว เป็นธาตุโลหะที่ไม่เป็นสนิม แล้วที่อัศจรรย์กว่านั้นก็คือ ดวงดาวอื่น ๆ ก็เห็นว่าทองคำเป็นโลหะที่มีค่าเหมือนกัน ฉะนั้น..หลายดวงดาวใช้ทองคำเป็นเครื่องแลกเปลี่ยนเหมือนกับเงินในโลกของเราเลย
เป็นเรื่องอัศจรรย์ว่าจักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาล มีดวงดาวที่ประกอบด้วยมนุษย์และสัตว์นับแสน ๆ ดวง ทำไมดวงอื่นเขาก็รู้เหมือนกันว่าทองคำเป็นโลหะมีค่า ? อย่างดวงดาวบางดวงเพชรพลอยสำหรับเขาไม่มีค่า เหมือนกรวดเหมือนทรายบ้านเรา เพราะว่ามีจำนวนมาก แต่ว่าทองคำกลับเป็นโลหะธาตุที่ทุกที่เขายอมรับว่ามีค่า สาเหตุหนึ่งก็น่าจะเกิดจากทองคำไม่โดนกัดกร่อนตามธรรมชาติ เป็นโลหะที่ไม่ขึ้นสนิม ในเมื่อเป็นโลหะที่ไม่ขึ้นสนิม ไม่มีการกัดกร่อนตามธรรมชาติ ก็อยู่ยั้งยืนยง มีอย่างเดียวคือถ้าอยู่เป็นหมื่นเป็นแสนปีก็จะสูญเสียประกายไป ต้องเอามาขัดมาหลอมใหม่
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2020 เมื่อ 03:06 |
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#176
|
||||
|
||||
อาตมาเคยมีพระกรุหลายองค์ที่โบราณเขาสร้างด้วยทองคำ มาถึงรุ่นของเรากลายเป็นสีเหลืองซีด ๆ เก่า ๆ แต่ทองคำก็คือทองคำ หลอมใหม่เมื่อไรก็สดใสเมื่อนั้น ปัจจุบันนี้ทองคำถือว่าเป็นทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันความมั่นคง ประเทศจีนใช้วิธีทยอยซื้อทองคำ ปัจจุบันประเทศจีนมีทองคำเป็นทุนสำรองน่าจะถึงระดับหมื่นตันแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2020 เมื่อ 03:07 |
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#177
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ส่วนใหญ่แล้วพวกเราจะไปเข้าใจว่าบ้านเติมบุญกับบ้านสายลมรับสังฆทานพร้อมกัน โปรดอย่าเข้าใจผิด...บ้านเติมบุญมีกำหนดการทั้งปี ออกตั้งแต่ปีที่แล้ว ไม่มีการออกทีละขยัก เพราะว่าทุกอย่างต้องพร้อม ไม่อย่างนั้นแล้วถ้ากิจการงานอื่นแทรกเข้ามาก็บรรลัยเลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2020 เมื่อ 03:08 |
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#178
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวกับพ่อแม่เด็ก "เลี้ยงลูกอย่ารักลูกมากเกินไป ปล่อยทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ บ้าง จะได้เอาตัวรอดเป็น ไม่อย่างนั้นแล้วจะออกสังคมไม่ได้ สังคมยุคนี้เป็นยุคคนกินคน..! ถ้ามัวแต่ไปปกป้องดูแลเหมือนไข่ในหิน ถึงเวลาออกไปก็โดนเขากินหมด..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2020 เมื่อ 03:08 |
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#179
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ยุคพระศรีอาริยเมตไตรยก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ยุคนั้นถ้าคนลงจากบ้านจะจำกันไม่ได้ เพราะว่าหน้าตาออกมาจาก "ยันฮี" เหมือนกันหมด อันนั้นเขาสวยด้วยบุญนะ ไม่ได้สวยด้วยมีดหมอ อาตมาเห็นสมัยนี้แล้วยังขำ ๆ หลายรายหน้าตาพิมพ์เดียวกัน ถึงเวลาคนอื่นจำผิด ถ่ายรูปติดกล้องไป ไอ้เจ้านี่ก็ซวยด้วย กว่าจะยืนยันตัวเองได้ว่าไม่ได้ทำความผิด ก็โดนสอบสวนไปหลายยก
ตอนนี้ส่วนที่น่ากลัวที่สุดคือบรรดาคุณหมอ หมอจะตกงาน ปัจจุบันนี้หมอคนหนึ่งใช้เวลาเฉลี่ยกับคนไข้ ๑๒ นาที สามารถวินิจฉัยโรคได้ ๗๒ เปอร์เซ็นต์ แต่ปัญญาประดิษฐ์ใช้เวลากับคนไข้ ๓ นาที วินิจฉัยโรคได้ ๙๐ กว่าเปอร์เซ็นต์ จ่ายยาเก่งกว่าหมออีก เป็นการระดมความรู้จากทั้งโลกมารวมกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 04:38 |
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#180
|
||||
|
||||
พูดถึงโยมที่กำลังตั้งครรภ์ "หลายรายทำบุญมาดี ไม่ต้องทรมานมากกับการคลอด เขาบอกว่าเขารู้สึกปวดท้องเหมือนจะถ่ายหนัก เบ่งหน่อยเดียว ลูกก็ออกมาแล้ว ไม่เจ็บไม่ปวดอะไรกับใคร ต้องบอกว่าทำบุญไว้ดีเกินไป
ส่วนบางรายก็ปวดท้องไปเถอะ ๓ วัน ๕ วัน ท้ายสุดหมอเขาก็เลยสั่งผ่าทั้งหมด ต่อให้เราไม่ผ่าเขาก็จะผ่า จะขู่เราว่า มดลูกเปิดแล้วบ้าง น้ำคร่ำแห้งแล้วบ้าง เด็กจะอันตราย พ่อแม่ก็ประสาทกลับ ยอมให้ผ่าแต่โดยดี สมัยก่อนเขาบอกว่าแม่คลอดลูกเหมือนไปศึกไปสงคราม ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดกลับมาหรือเปล่า ? สมัยนี้แม่คลอดลูกก็ยังเหมือนไปศึกไปสงครามอยู่ แต่รอดแน่นอน แต่ที่เหมือนไปศึกไปสงคราม เพราะว่าได้บาดแผลติดตัวมา โดนหมอผ่า..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2020 เมื่อ 04:40 |
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|