|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#121
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "พระปิดตาพิมพ์ปั้นของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ท่านสร้างตั้งแต่สมัยยังอยู่วัดปากทะเล เนื่องจากว่าปั้นด้วยมือ ก็เลยหาความแน่นอนไม่ได้ จึงต้องไปดูเนื้อหามวลสารกับฝีมือการปั้นแทน ถ้ามีที่ปิดทองมานี่ยิ่งดีเลย เพราะว่าทองเก่าเลียนแบบไม่ได้ อย่างไรทองเก่าคือทองเก่า ทองใหม่ทำอย่างไรก็ไม่เหมือน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2017 เมื่อ 02:30 |
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#122
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวกับโยมท่านหนึ่งว่า "พอใจอะไรง่าย ๆ แล้วจะมีความสุขขึ้น เห็นอะไรแล้วไม่พอใจเลยสักอย่างก็จะกลุ้มไปเรื่อย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2017 เมื่อ 02:30 |
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#123
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เวลาทำบุญถ้ารอพวกก็จะได้พวก ไปเกิดใหม่จะมีบริวารมาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2017 เมื่อ 02:30 |
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#124
|
||||
|
||||
ถาม : เดือนที่แล้วมีโอกาสจะได้งาน เกือบจะได้แล้ว แต่ว่าโดนยกเลิก ในทางธรรมหรือการปฏิบัติจะมีทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : เรื่องพวกนี้ป้องกันไม่ได้ เพราะว่าอดีตเคยทำไว้ปัจจุบันถึงได้รับ ประเภทเวลาเขาจะทำบุญเราก็ไปขัดคอเขา ถาม : ชาติก่อนหรือครับ ? ตอบ : ไม่ต้องชาติก่อนหรอก ชาตินี้ก็ทำ ของทำไปแล้วแก้ไม่ได้ มีอยู่อย่างเดียวก็คือก้มหน้ารับไป ไม่เป็นไร...เดี๋ยวค่อยไปเอาอย่างอื่นมาทดแทนไป อย่าไปเชื่อใครว่าแก้กรรมได้ ถ้าแก้ได้ก็รวยกันหมดทั้งประเทศแล้ว..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2017 เมื่อ 02:32 |
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#125
|
||||
|
||||
ถาม : ก่อนหน้านี้จะนึกถึงพระนิพพาน ตั้งแต่วันวิสาขบูชาที่ผ่านมา เกาะแต่พระพุทธเจ้า เรื่องพระนิพพานไม่เอาเลย ควรจะทำอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : ก็แค่นึกว่าพระพุทธเจ้าอยู่บนพระนิพพานก็จบแล้ว เท่ากับเอากรรมฐาน ๒ กองมารวมกันเป็นกองเดียว ก็คือพุทธานุสติบวกกับอุปสมานุสติ เพิ่มขึ้นมาอีกกองหนึ่ง ได้มากกว่าเดิมเสียอีก ถาม : เกาะอารมณ์นี้ต่อไป ? ตอบ : เกาะต่อไป เพราะพระพุทธเจ้าไม่ได้อยู่ที่ไหนนอกจากพระนิพพาน เราตายเมื่อไรก็ขอไปอยู่กับพระองค์ท่านที่นั่น ของเราเขาเรียกว่าไปต่อไม่เป็น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2017 เมื่อ 02:46 |
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#126
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "หลวงปู่ไล้ วัดเขายี่สาร ท่านเกิดรัชกาลที่ ๓ อายุมากที่สุดในบรรดาพระที่สร้างลูกอม ท่านเป็นลูกคนจีน แต่มาบวชพระไทยแล้วขลังมาก ตอนเด็ก ๆ เขาก็คงเรียก “อาไล้” บวชเป็นพระ คนไทยไม่รู้จัก เรียกหลวงปู่ร้าย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2017 เมื่อ 02:47 |
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#127
|
||||
|
||||
ถาม : ตอนนี้ลำบาก ท่องคาถาเงินล้านก็ไม่เอา จะเอาอย่างไรดีคะ ?
ตอบ : ไม่เอาแล้วจะไปเอาอะไร ก็ต้องตั้งหน้าตั้งตาภาวนาให้ได้ระยะหนึ่ง ถาม : จะได้หรือคะ ? ตอบ : มัวแต่สงสัยอยู่ก็ไม่ต้องเอาอะไรหรอก ทำคาถาเขาห้ามสงสัย เขาให้ลงมือทำเลย ถาม : ถ้าเกิดไม่เอาก็ต้องบังคับให้เอาใช่ไหมคะ ? ตอบ : ไม่มีอย่างอื่นแล้ว ถ้าอยากได้ก็ต้องทำ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2017 เมื่อ 02:48 |
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#128
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “ห้างสรรพสินค้าสุดท้ายที่อาตมารู้จักก่อนบวช ก็คือห้างมาบุญครอง ตอนนั้นสร้างยังไม่เสร็จ ใครสร้างทีหลังมาบุญครองอาตมาไม่เคยไปทั้งนั้น
พระห้ามเดินห้าง เป็นคำสั่งเจ้าคณะกรุงเทพมหานครว่าห้ามพระเดินห้าง พระวินยาธิการไปตรวจสอบ ปรากฏว่าห้างพันธุ์ทิพย์มีพระเพียบเลย จับมาตรวจสอบแต่ละท่านปรากฏว่าไปหาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สรุปก็คือไม่ใช่พระปลอม แต่มีความจำเป็นไปหาซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์มาเพื่อทำงาน เพราะว่าส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้วัดต่าง ๆ เก็บข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์กันหมดแล้ว ก็จะมีพระส่วนหนึ่งของแต่ละวัด ที่มีความสามารถทางด้านนี้ ก็ไปหาซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์กันที่นั่น อาตมาใช้วิธีบอกลูกศิษย์ผู้ชายให้ไปซื้อแทน ไม่ให้พระไปเองหรอก คำสั่งเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ห้ามพระปักกลดในเขตกรุงเทพมหานคร ห้ามบิณฑบาตเกิน ๘.๓๐ น. ห้ามเดินห้าง ห้ามพักบ้านโยม ถ้ามากรุงเทพฯ ต้องพักในวัด แต่ขอโทษ...ถ้าพระด้วยกันไม่รู้จัก ท่านก็ไม่ให้พักหรอก ที่ห้ามพักบ้านโยมเพราะว่า พวกที่ปลอมตัวหากินมักจะไปเช่าบ้านพักกัน ถึงเวลาก็นั่งรถกระบะไปทีหนึ่ง ๘-๑๐ คน เดินบิณฑบาตตั้งแต่เช้ายันเพล แล้วก็ขนอาหารที่บิณฑบาตได้ไปขายต่อ ต้องบอกว่าเป็นการใช้ปัญญาในทางที่ผิด พระพุทธเจ้าสอนให้เรามีสัมมาปัญญา ปรากฏว่าพวกนี้กลายเป็นมิจฉาปัญญา ใช้ปัญญาในการคดเคี้ยวเลี้ยวลดเพื่อที่จะโกง จะกิน จะแหกกฎไปให้ได้ ตัวนี้บาลีเรียกว่า “เฉโก” คือฉลาดแบบขี้โกง ถ้า “กุศโล” คือฉลาดแบบสร้างกุศล “โกวิโท” ฉลาดในการเป็นอยู่"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2017 เมื่อ 08:52 |
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#129
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “พระอนุรุทธเถระ เป็นผู้ที่พระพุทธเจ้าตั้งไว้ในฐานะผู้เลิศด้วยทิพจักขุญาณ ท่านอื่น ๆ มาบวช ๗ วันเป็นพระอรหันต์ ๑๕ วันเป็นพระอรหันต์ พระอนุรุทธติดอยู่ ๗ ปี เพราะว่ามัวแต่ไปคิดถึงมหาปุริสวิตก ๘ ประการ
มหาปุริสวิตก ๘ ประการมีข้อหนึ่งว่า “ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้เป็นผู้มีใจตั้งมั่น” คำว่ามีใจตั้งมั่น คือ มีสมาธิดี คนมีสมาธิดีนี่ผลพลอยได้อย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือความจำจะดี เพราะว่าสมาธิเวลาทรงตัวก็เหมือนกับน้ำนิ่ง น้ำที่นิ่งเหมือนกระจกเงา สามารถสะท้อนทุกอย่างรอบข้างลงไปอย่างชัดเจน ก็เลยช่วยให้ความจำดีไปโดยอัตโนมัติ แรก ๆ อาตมาไม่รู้ว่าตัวเองเกิดมามีของเก่ามาก รู้อยู่อย่างเดียวว่าทำอะไรก็ง่ายไปหมด อย่างตอนเด็ก ๆ มีงานศพ ไปดูผู้ใหญ่เขาเล่นไพ่กัน พักเดียวก็โดนไล่กลับมานอน ตอนหลับตาเห็นโพดำ โพแดง ดอกจิก ข้าวหลามตัด บินว่อนไปหมด เขาเปิดหน้าศพให้ดูก่อนที่จะเผา มองแวบเดียวเท่านั้นติดตาไป ๒ วัน ๓ วัน คิดว่าผีตามมาหลอก ไม่ได้นึกว่าเป็นเพราะภาพเหล่านี้เคยทำได้ในอดีต ถึงเวลามองก็ติดตาเลย จนกระทั่งมาเจอหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านถึงได้เฉลยให้ฟังว่า “พวกนี้เป็นของเก่า” ท่านก็เล่าให้ฟังว่าของเก่าตามท่านมาเยอะแยะ เกิดเป็นนักรบมาทุกชาติ การใช้อาวุธทุกประเภทมีความคล่องตัวโดยอัตโนมัติ หลวงพ่อท่านบอกว่า ท่านย่าสั่งให้ไปเก็บหัวปลีให้หน่อย หัวปลีก็คือดอกกล้วย เด็กรุ่นหลัง ๆ ไม่ค่อยรู้จักกันแล้ว เอามาทำอาหารได้หลายชนิด โดยเฉพาะยำหัวปลี ผัดหัวปลี ท่านบอกว่าท่านไม่เคยใช้ไม้ขอยาว ๆ สอยแบบคนอื่น หากแต่พกมีดบางทำครัวไปหลาย ๆ เล่ม ถึงเวลาใช้ขว้างตัดขั้วเอา ท่านบอกว่าสั่งได้ว่าจะให้ปลายแทง จะให้สันตี จะให้คมฟันได้ทั้งนั้น อาตมาก็แปลกใจว่า แบบนี้เราก็ทำเป็นตั้งแต่เด็ก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2017 เมื่อ 02:59 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#130
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “เด็กมอญเด็กพม่า พอคลอดออกมาเขาก็พาเข้าวัดเลย ส่วนพวกเราไปกลัวเด็กโดนแดดโดนลมจะป่วย ปรากฏว่าพวกนั้นหัวแข็งทุกราย ไม่เห็นว่าจะป่วยสักที ฉะนั้น...เลี้ยงลูกต้องลักษณะอย่างนี้แหละ ให้สมบุกสมบันเข้าไว้ พอเดินได้นี่ไม่มีคำว่าอุ้ม ไม่มีคำว่าใส่รถเข็น ให้เดินอย่างเดียว ไม่เดินตามใช่ไหม ? อยู่นั่นแหละ...แม่ไปแล้ว พักเดียวก็ต้องวิ่งตาม
ต้องเลี้ยงลูกให้แข็งแกร่ง เอาตัวรอดให้ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ มัวแต่ไปทะนุถนอมอยู่ เดี๋ยวเด็กจะเอาตัวไม่รอด”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2017 เมื่อ 02:56 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#131
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “งานอุปสมบทหมู่ประจำพรรษาปีนี้มีผู้กล้าหาญสมัครบวชมา ๑๐ ราย ไม่นึกว่าจะใจถึงกันขนาดนั้น ปกติระยะหลังส่วนใหญ่มักจะบวชระยะสั้น ๆ ๗ วัน ๑๐ วัน เต็มที่ก็ ๑ เดือน
๑๐ รายนี้ใจถึงมาก วัดท่าขนุนมีกติกาว่า บวชแล้วต้องรับกฐินก่อนถึงสึกได้ สมัครมา ๑๐ ราย ถ้าไม่ขี้เกียจก็ผ่านทุกคนนั่นแหละ เพราะว่าที่วัดท่าขนุนต้องท่องขานนาคได้ด้วยตนเอง ซึ่งก็หลายหน้ากระดาษทีเดียว เพราะว่าการขอบวชคือตัวของอุปสัมปทาเปกขะ (ผู้ขอบวช) เข้าไปเอ่ยวาจาขอร้องต่อคณะสงฆ์ ให้ยกตนเองเป็นอุปสัมบัน คือผู้ที่มีศีลเสมอกัน เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ต้องไปขอด้วยตัวเอง ไม่ใช่ให้คนอื่นสอนให้ขอ วัดท่าขนุนจะไม่มีการบอกให้ว่าตาม อย่างเก่งก็แค่บอกว่าขั้นตอนไหน ที่เหลือคุณไปจัดการเอาเอง จึงควรจะเข้าวัดก่อนอย่างน้อย ๑ อาทิตย์”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2017 เมื่อ 04:45 |
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#132
|
||||
|
||||
มีผู้มารับวัตถุมงคล "ตะกรุดของหลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ มีแต่ใหญ่ขนาดนี้แหละ เพราะว่าหลวงพ่อเชื้อท่านทำแต่ตะกรุดขนาดนี้ กราบเรียนถามหลวงพ่อว่า ทำไมถึงต้องทำใหญ่ขนาดนี้ ? ท่านบอกว่าท่านมีความรู้อะไรท่านใส่หมด
อย่าเอาไปเป็นอาวุธตีหัวใครนะ คนนั้นจะบ้าเลย ขอยืนยันว่าของท่านแรง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2017 เมื่อ 02:59 |
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#133
|
||||
|
||||
ถาม : (เล่าเรื่องอารมณ์ใจขณะว่ายน้ำ)
ตอบ : ก็เหมือนกับเราเดินจงกรม เพียงแต่เปลี่ยนไปว่ายน้ำแค่นั้นเอง เหมือนเดินจงกรมด้วยมือแทนที่จะเดินจงกรมด้วยตีน..! ถาม : ในความรู้สึกเหมือนเราแกะสก๊อตเทปออกจากหัวใจเรา ? ตอบ : ระวังจะแกะผิด สมมติก็เป็นความจริง ปรมัตถ์ก็เป็นความจริง เพียงแต่ว่าเป็นความจริงแท้ หรือความจริงที่ผู้คนเขาเชื่อถือกัน เพราะฉะนั้นต่อให้เข้าถึงปรมัตถ์จริง ๆ ท่านก็ยังเคารพสมมติอยู่ ไม่ใช่ก้าวข้ามไปเฉย ๆ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะกลายเป็นวางใส่กบาลคนอื่นอีก ชอบตีความธรรมะผิดกันอยู่เรื่อย ถาม : อารมณ์นี้ ถ้าไม่มีเครื่องกระทบใจเรา...? ตอบ : ถ้าไม่กระทบก็ไม่กำเริบ หรือไม่กระทบก็ไม่ฉุกใจคิด เพราะฉะนั้น...เรื่องอายตนะต่าง ๆ มีทั้งโทษและมีประโยชน์ เพียงแต่ว่าเรารู้จักละทิ้งส่วนที่เป็นโทษ แสวงหาเฉพาะส่วนที่เป็นประโยชน์หรือเปล่า ? ไม่ใช่ว่าเก็บทุกเรื่องทุกราวที่เจอขึ้นมา กลายเป็นขยะอยู่เต็มหัว ถึงเวลาสางไม่ออกก็เครียดตายห่...!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2017 เมื่อ 02:17 |
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#134
|
||||
|
||||
ถาม : จะมีจังหวะหนึ่ง ที่รู้สึกอะไรสักอย่างขึ้นมา แล้วความเศร้าหมองก็หายไปหมด ?
ตอบ : สติระลึกได้ รู้ตัวอยู่ว่าเราทำอะไรอยู่ แต่ว่าต้องมีปัญญาประกอบ จึงจะเห็นว่าเรื่องนั้นเป็นอย่างนั้นจริง ๆ มีธรรมดาเป็นอย่างนั้น ในเมื่อธรรมดาเป็นอย่างนั้น สมมติเป็นอย่างนั้น เราก็อย่าไปยุ่งกับสมมติ พอเราถอนตัวออกมา ก็เหมือนวางของหนักลง จึงเบาขึ้นเยอะ แต่คราวนี้ต้องให้วางได้ตลอดเวลา ไม่ใช่วางได้เป็นพัก ๆ กลับไปทำใหม่...!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2017 เมื่อ 02:19 |
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#135
|
||||
|
||||
ถาม : มีอยู่วันหนึ่งหนูนั่งรถตู้ ...(ไม่ชัด).... อันนี้คือทิพจักขุญาณ ?
ตอบ : ไม่ใช่ อันนี้ก็คือตัวปัญญาเลย แต่ว่าเป็นปัญญาในลักษณะของทิพจักขุญาณ ลักษณะของความคล่องตัวแล้วก็ชำนาญ ถ้าหากว่า สติ สมาธิ ปัญญา ต่อเนื่องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จะมีเหตุลักษณะอย่างนี้ขึ้น ไม่อย่างนั้นแล้วเราจะไม่สามารถที่จะรู้เท่าทันกิเลสได้ ก็คือเราจะรู้ว่าตอนนี้รัก ตอนนี้โลภ ตอนนี้โกรธ ตอนนี้หลง ทำอย่างไรเราจะควบคุมให้อยู่ในจุดที่ไม่ทำอันตรายแก่เราได้ แต่ถ้าท้ายสุดไม่ไปยุ่งได้นั่นแหละดีที่สุด ระวังไว้...ว่าจะเป็นโทษมากกว่า ถาม : (ไม่ชัด) ตอบ : อย่างนั้นแหละ ก็คือสภาพจิตที่ฝึกฝนแล้วมีกำลัง ถึงเวลาก็เป็นมโนมยา สำเร็จด้วยใจ อาตมาเคยนั่งรถไปแล้วปรากฏว่าโดนสิบแปดล้อตบ เหลือขอบถนนอยู่หน่อยเดียว ถ้าเราไม่มีทางไปก็คือโดนตบเต็ม ๆ หรือต้องยอมตกถนน ก็มีทางเดียวคือต้องยันรถออกไป คนขับก็บอกว่าทำไมอยู่ ๆ ถนนกว้างขึ้นแล้วผมไปได้...! แต่อย่าทำบ่อย ไม่ใช่เรื่องดี ฝืนกฎของกรรมเดี๋ยวต้องไปชดเชย ถาม : เราก็ต้องได้ผลจากการกระทำของเราหรือคะ ? ตอบ : ใช่....ถึงไม่รับผลเรื่องนี้ก็ต้องไปรับผลเรื่องอื่นแทน อาจจะหนักกว่าเดิมด้วย เหมือนกับถ้าเข้าบ้านไปโดนแม่ด่า ก็ก้มหน้าก้มตารับคำด่าไปก็จบ แต่ถ้าไม่โดนแม่ด่าแล้วพ่อหมั่นไส้ ไอ้นี่ยังไม่โดนด่าเดี๋ยวกูใส่เสียเอง อาจจะตบคว่ำไปเลย อะไรแบบนี้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2017 เมื่อ 02:21 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#136
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เจงกิสข่านเป็นผู้นำที่สุดยอดมาก ทหารรวมอยู่เป็นแสน ๆ ใครจะนับถือศาสนาอะไร เจงกิสข่านไม่เคยห้าม ขอให้รบได้เท่านั้น
ถึงเวลาพักก็จะมีคนไปนั่งละหมาด มีคนไปบูชาไฟ มีคนไปเดินจงกรม นับลูกประคำอะไรก็แล้วแต่ คุณจะทำอะไรทำไป จึงกลายเป็นว่าพอถึงเวลายึดบ้านยึดเมืองได้ ก็ทิ้งกองทหารเอาไว้เพื่อให้ดูแล ถ้ากองทหารที่นับถือพุทธก็ช่วยกันสร้างวัด จะได้นิมนต์พระไปอยู่ พวกเราจะแปลกใจว่าทำไมอยู่ ๆ ในรัสเซียมีวัดพุทธได้อย่างไร ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย ก็เพราะคุณูปการของเจงกิสข่าน ปัจจุบันนี้รัสเซียเอาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะส่วนของสมาธิ กรรมฐาน ไปใช้กันเป็นล้าน ๆ คนเลย เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้ประกาศตัวนับถือพุทธ เข้าวัดเข้าวา มาไหว้พระ มานั่งสมาธิหาความสงบ เพราะเขาเห็นผลว่าช่วยให้การทำงานเขาดีขึ้นมาก เพราะฉะนั้น...ต่อให้เขาไม่ประกาศเป็นพุทธก็เป็นไปครึ่งตัวแล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2017 เมื่อ 02:22 |
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#137
|
||||
|
||||
ถาม : เจ้านายชอบพาไปที่นั่น...(ไม่ชัด)... ?
ตอบ : ท่านเป็นคนยอมลำบากเลยอยู่ที่นั่น แต่ว่าบางอย่างก็เป็นทิฏฐิเฉพาะตัว ผมเองไม่เคยถือสาเรื่องนี้ ถ้าใครทำงานได้ผมให้หมด เพราะว่าเรื่องของกิเลสเฉพาะตัวผมไม่ว่าใคร อยู่ที่ใครละได้ก่อนเท่านั้น วางได้ก่อนก็สบายก่อน ถ้าใครอยากแบกก็ให้เขาแบกไป
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-02-2019 เมื่อ 02:48 |
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#138
|
||||
|
||||
ท่านอาจารย์ ดร.ชาตรีเคยไปวัดท่าขนุนนะ ไปเยี่ยมกันทีหนึ่ง ท่านไปเรียนที่ต่างประเทศก่อน เรียนจนกระทั่งสามารถเผยแผ่ธรรมได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะเรื่องของหลักธรรมเป็นคำพูดเฉพาะมาก อธิบายเสร็จแล้วยังต้องอธิบายซ้ำอีกว่าคืออะไร
ผมบอกฝรั่งว่า ทุกข์ คือ Suffering เขาไม่เข้าใจ ต้องอธิบายว่า สมมติคุณเดินสักหนึ่งชั่วโมง...เหนื่อยฉิบหา...เลย นั่นก็คือทุกข์ คุณทำงานสักครึ่งวันเครียดมากเลย นั่นก็คือทุกข์ อธิบายไป กำกับแล้วกำกับอีก ทุกข์คำเดียวปาไปครึ่งค่อนชั่วโมง ฝรั่งนี่นิสัยแปลก ถ้าเขาเข้าใจไม่ชัดเจนก็ถามอยู่นั่นแหละ ไม่เหมือนกับคนไทยเรา ฟังรู้เรื่องไม่รู้เรื่องกูก็ไม่ถาม จึงกลายเป็นโง่กว่า ฝรั่งเขาไม่ยอมหรอก เอาจนฉลาด ถามแล้วถามอีก ถามจนกระทั่งหมดทุกซอกทุกมุมแล้วเขาถึงยอมเลิก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2017 เมื่อ 08:53 |
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#139
|
||||
|
||||
เรื่องหลักธรรมนี้เราเสียท่า ทางด้านศรีลังกาและพม่า เขามีธรรมะภาษาอังกฤษมานานแล้ว แต่ของไทยเรายังไม่มี การอธิบายหลักธรรมเป็นภาษาอังกฤษได้ จึงทำให้พระพม่าได้รับความนิยมมากกว่า พวกต่างชาติไปฝึกกรรมฐานที่พม่าแต่ละวัดนี่เป็นร้อย ๆ คน ไปเนปาลไปทิเบตก็เห็นเขาไปกราบอัษฎางคประดิษฐ์กันไม่รู้จักหยุดจักหย่อน ทำกันเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง พวกฝรั่งส่วนใหญ่ทำอะไรเขาทำจริง ๆ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2017 เมื่อ 02:26 |
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#140
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “พอลำบากมาก ๆ ทุกข์มาก ๆ ก็จะคิดถึงพระไปเอง ตอนนี้ยังไม่เห็นคุณค่าก็ไม่เป็นไร”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2017 เมื่อ 02:26 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|