|
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#81
|
||||
|
||||
ถาม : มีท่านมาบอกว่าให้หนูพกพระพิฆเณศวร์ แต่หนูรู้สึกว่าท่านเป็นเทวดาของทางฮินดู เรายึดพระพุทธเจ้าไว้ดีกว่าเลยไม่พก หนูคิดถูกไหมคะ ?
ตอบ : ก็คิดถูก แต่ว่าพระพิฆเณศวร์จริง ๆ ท่านเป็นเทวดา ถ้าเรายึดในลักษณะของเทวตานุสติ ก็เป็นการระลึกถึงความดีของเทวดาตามที่พระพุทธเจ้าท่านสอน แต่พระพุทธเจ้าของเราสอนให้คนเป็นเทวดา สอนให้คนเป็นพรหม สอนให้คนเป็นพระวิสุทธิเทพ เพราะฉะนั้น...เทวตานุสติของพระพุทธเจ้านี่ทำได้ยันพระอรหันต์เลย แต่ว่าเทวตานุสติของศาสนาอื่น ส่วนใหญ่ยึดเป็นที่พึ่งแล้วก็ร้องขอเฉย ๆ ฉะนั้น...ถ้าเรารู้ว่าคุณสมบัติการเป็นเทวดาอย่างน้อยต้องมีศีล ๕ บริสุทธิ์ มีหิริ รู้จักละอายต่อความชั่ว มีโอตตัปปะ เกรงกลัวผลของความชั่วจะสนองตนเอง แล้วไม่กล้าทำชั่วอีก เราปฏิบัติตามนั้นก็เท่ากับเรามีคุณสมบัติของความเป็นเทวดา พอเราปฏิบัติลักษณะนั้นเทวดาเขาก็เห็นเองว่ามีคุณสมบัติเหมือนกัน เป็นพวกเดียวกัน ถึงเวลามีอะไรท่านก็สงเคราะห์ให้ ไม่สงเคราะห์พวกเดียวกันแล้วจะสงเคราะห์ใคร...ใช่ไหม ?
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2016 เมื่อ 02:52 |
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#82
|
||||
|
||||
ถาม : ที่ยุโรปเทวดาเยอะไหมคะ ?
ตอบ : เยอะเหมือนกัน ส่วนใหญ่เทวดาที่เรารู้จักจะเป็นคนนำไป ท่านทั้งหลายเหล่านั้นจะว่าไปแล้ว ในเรื่องของบุญกุศลเขาไม่ขาด เพราะว่าศาสนาคริสต์เขาทำบุญกันเป็นปกติ เพียงแต่ว่าถ้าจะเอาหรูหราฟู่ฟ่าเหมือนบ้านเราเลยก็ยากหน่อย ไปสวดมนต์ไหว้พระ ทำวัตร นั่งกรรมฐานแล้วขอให้โมทนา แหม...มากันมืดฟ้ามัวดิน ถ้าไปที่โน่นต้องการความปลอดภัย ก่อนไปไหนให้สวดมนต์ไหว้พระ อุทิศส่วนกุศลให้เขาก่อนแล้วขอให้เขาช่วยดูแลให้ด้วย ถาม : หนูไปเจอผีเยอะมาก ? ตอบ : ส่วนใหญ่ถ้าเราทำบุญไปจึงสว่าง คนที่ไม่มีบุญจะมืด แล้วเราลองนึกดูว่า ในที่มืด ๆ แล้วเราสว่างอยู่ที่เดียว เขาเห็นก็รี่ต้องเข้ามาหา จะไปไหนได้ ก็ต้องมาขอเราอยู่คนเดียว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2016 เมื่อ 20:31 |
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#83
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "มีอยู่ท่านหนึ่งบรรดาศักดิ์เป็นท่านขุน อายุ ๙๐ กว่าแล้ว อยู่มาถึงสมัยนี้ แกหมดสติแล้วลูกหลานก็พาไปโรงพยาบาล พอลืมตาขึ้นมาพยาบาลบอกว่าฉีดยาไม่ได้ เลยต้องปล่อยให้คุณลุงฟื้นเอง ถามว่าทำไม ? พยาบาลบอกว่าเข็มหักไป ๓ อันแล้ว แกก็บอกว่า "ฉีดได้ลูก อนุญาตแล้ว" คราวนี้แทงเข้า ก่อนหน้าที่จะอนุญาตแทงเข็มหักไป ๓ อัน แต่ว่าท่านขุนแกพกมีดหมอปากกาสามกษัตริย์ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ กับปลัดหลวงพ่อโสก วัดปากคลองบางครก ปลัดเขาควายเผือกหายากสุด ๆ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-12-2016 เมื่อ 20:48 |
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#84
|
||||
|
||||
ถาม : ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะ ?
ตอบ : เป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้ว่าง ๆ ท่านก็นั่งอยู่พรหมชั้นที่ ๑๑ นั่งมองว่าจะช่วยคนอย่างไรดี ตอนแรกทูลถามว่าทำไมไม่อยู่ชั้นดุสิต ? พระองค์ท่านตรัสว่าเวลาเยอะเกินไป จะรีบลงมาเกิด จึงต้องไปอยู่พรหมชั้นที่ ๑๑ ถาม : อายุพรหมไม่นานกว่าชั้นเทวดาหรือครับ ? ตอบ : พรหมชั้นที่ ๑๑ เทียบกับเวลาของเราแล้วก็แค่แวบเดียว ของดุสิตนานกว่านี้ ถ้าหากว่าข้อมูลไม่ตรงกับคนอื่นก็ได้โปรดทราบว่าอาตมามั่วเอาเองนะ อย่าไปว่าคนอื่นเขามั่ว แต่อย่าลืมที่พระองค์ท่านเตือนเอาไว้ด้วย พวกขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป พระองค์ท่านตรัสว่า นั่นเป็นอธิษฐานบารมีเลยนะ ถ้าไปเกิดตามกันแล้วลำบากลำบนแล้วห้ามบ่นพระองค์ท่านอย่างเด็ดขาด
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-12-2016 เมื่อ 20:47 |
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#85
|
||||
|
||||
ถาม : ตอนที่พระองค์สวรรคตเป็นอย่างไรบ้างคะ ?
ตอบ : อาตมาไม่ทันได้ดูอะไรหรอก มัวแต่สวดมนต์ถวายท่าน ทางอำเภอเขาจัดสวดมนต์ร่วมกัน แล้วอาตมาก็ดันไปเป็นประธานสงฆ์ในงาน แต่ก็บอกเขาล่วงหน้าไปแล้ว บอกว่า "ขอให้พวกเราได้ทำ ส่วนทำแล้วจะช่วยพระองค์ท่านได้หรือไม่ได้ก็ถือว่าเราได้ทำเต็มที่แล้ว" พระองค์ท่านก็ชราภาพมากแล้ว ถ้าเป็นคนทั่วไป ๘๐-๙๐ นี่ไข้ก็ตาย บ่ไข้ก็ตายแล ถาม : หนูไม่อยากให้พระองค์ท่านลงมาเกิดเลย อยู่ข้างบนสบายกว่า ? ตอบ : พระองค์ท่านต้องลงมาสร้างบารมีต่ออีกหน่อย บารมีเต็มแล้วคราวนี้ถึงจะไปดุสิตจริง ๆ แล้ว รอตรัสรู้ ...(หัวเราะ)... รออย่างนั้นไม่เป็นไรหรอก รอนานเท่าไรก็รอได้ แต่ถ้าจะสร้างบารมีต้องรีบลงมาแล้วรีบทำ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-12-2016 เมื่อ 20:47 |
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#86
|
||||
|
||||
ถาม : (โยมนำพระพุทธรูปที่แกะจากไม้มาให้ดู) ไม้อะไรครับ ?
ตอบ : ไม้สารคาม ดมเอาก็รู้แล้ว ไม้สารคามมักจะตกน้ำมัน องค์ที่อยู่ที่วัดตกน้ำมันนองเต็มพื้น แข็งเป็นเกล็ดเลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-12-2016 เมื่อ 20:37 |
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#87
|
||||
|
||||
ถาม : เมื่อวานมาสวดคาถาเงินล้านแล้วมีอาการสั่น คล้ายจะมีองค์ลง เทวดาลง ?
ตอบ : รู้ได้อย่างไรว่าเป็นเทวดา ? ปกติแล้วถ้าเราภาวนาจะมีช่วงที่กำลังใจเข้าถึงปีติ ก็จะสั่นบ้างเป็นเรื่องปกติ ถ้าหากว่าเราทำต่อไป กำลังใจละเอียดขึ้นก็จะหายไปเอง แล้วสมาธิก็จะทรงตัวขึ้นไปเป็นฌาน ไม่ใช่ว่าสั่นเข้าหน่อยก็คิดว่าเป็นผีเข้า เทวดาเข้า ถาม : หนูเห็นเป็นท้าวมหาพรหม ? ตอบ : ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็ต่อรองกับท่านสิ ว่าถ้าหากจะมาเข้ามาทรงก็ขอให้เรารวยก่อน จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องทำมาหากิน ด้วยอานุภาพของพรหมของเทวดา เรื่องทำให้เรารวยเป็นเรื่องเล็ก บอกท่านไปเลยว่าถ้าจะใช้งานอะไรก็ขอให้เรารวยก่อน แล้วจะใช้อย่างไรก็เชิญ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2016 เมื่อ 02:49 |
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#88
|
||||
|
||||
ถาม : ที่หลวงพ่อเล่าว่าพระขรรค์หลวงพ่อโสกสามารถแก้อาถรรพ์ของลูกอมหลวงพ่อดิ่งได้ พิสมรกับลูกอมพอกครั่งจะกันมีดหมอของหลวงพ่อเดิมได้ไหมครับ ?
ตอบ : เท่าที่มีประสบการณ์ผ่านมา ยังไม่เคยเจอวัตถุมงคลอะไรกันมีดหมอหลวงพ่อเดิมได้เลย สมัยเด็ก ๆ เสือขาวกับผู้ใหญ่แสวงเขาดวลเดี่ยวกัน ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่แสวงแกดวงดีหรือเปล่า ? แทงกันคนละที เสือขาวตายคามีดเลย ปกติแล้วเสือขาวเหนียวจริง ๆ ก็เลยกล้าแลกกัน แต่ไปเจอมีดหมอหลวงพ่อเดิมเข้า ยุ่ยเป็นหยวกกล้วยเลย ส่วนเสือขาวแทงไปติดเข็มขัดของผู้ใหญ่แสวงพอดี คือสมัยก่อนจะเป็นเข็มขัดหนังที่มีกระเป๋าอยู่ ๔-๕ ช่อง เอาไว้ใส่ยาสูบบ้าง ใส่เงินบ้าง ใส่กระสุนปืนบ้าง คนเราดวงแคล้วคลาดจริง ๆ พอมาถึงช่วงเรียนมัธยมพวกผู้ใหญ่บ้านก็เลิกแล้ว ไม่มีใครไปดวลกันแบบนั้นอีก เล่น เอ็ม. ๑๖ อย่างเดียวเลย กูไม่ไปดวลกับมึงเสียเวลา ป้อม สห.อยู่ห่างจากบ้านผู้ใหญ่ประเสริฐไม่เกิน ๒๐๐ เมตร โจรขึ้นบ้านแกกราดด้วย เอ็ม. ๑๖ ไม่เกรงใจทหารเลย อาตมาถามว่า "อาเสริฐ...ทำอย่างนั้นไม่กลัวทหารว่าเอาหรือ ?" "ปืนกูก็ซื้อมาจากมันนั่นแหละ" สรุปจบแค่นั้น ไม่ต้องเกรงใจหรอก ยิงให้เขารู้ว่ากระสุนจะหมดแล้ว เดี๋ยวเขาก็หามาขายเพิ่มให้ ถาม : ที่วัดท่าซุงหรือครับ ? ตอบ : ตอนนั้นอาตมาอยู่ที่กำแพงแสน อยู่ใกล้ปากทางเข้าสนามบิน ป้อม สห.กับบ้านลุงแกห่างกันไม่ถึง ๒๐๐ เมตร ถ้าเป็นเราลักษณะอย่างนั้นก็ต้องเกรงใจ...ใช่ไหม ที่ไหนได้...แกเล่นกราดด้วย เอ็ม. ๑๖ สนั่นหวั่นไหวกลางดึก ไปถึงถามว่ามีอะไร "ขโมยขึ้นบ้าน" แล้วทหารอยู่แค่นี้ไม่เกรงใจเขาเลยหรือ ? "ปืนกูก็ซื้อมาจากมันนั่นแหละ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 26-12-2016 เมื่อ 19:33 |
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#89
|
||||
|
||||
ถาม : คนที่มีร่างเสือเดินตามนี่หมายความว่าอะไรคะ ?
ตอบ : มี ๒ อย่าง อย่างหนึ่งก็คือเขามีวัตถุมงคลที่เป็นชิ้นส่วนของเสือติดตัวอยู่ อีกอย่างหนึ่งก็คือเทวดาประจำตัวของเขาแสดงออกให้เห็นแบบนั้น ถาม : เทวดาทำไมร่างเป็นเสือ ? ตอบ : ก็เทวดาประจำตัวเวลาท่านจะคุ้มครองเรา บางทีท่านก็มาเป็นรูปโน้นรูปนี้แล้วแต่ท่านจะแสดงออก สมัยอาตมาอยู่ที่เกาะพระฤๅษีท่านก็ยังมาเป็นเสือดาวเลย ถ้าเจอคนนี่ไล่หมด ถาม : (ไม่ชัด) ตอบ : ถ้าหากว่าเป็นวัตถุมงคลก็คุ้มครองป้องกันตัวเอง ถ้าเป็นเทวดารักษาตัวส่วนใหญ่เขาก็คอยดูแลเรา เสือตัวที่ดูแลอาตมาที่เกาะพระฤๅษีเป็นเสือแต่ไปเกิดเป็นเทวดา ถามว่าไปเกิดได้อย่างไร ? เขาบอกว่ามีพระธุดงค์ไปปฏิบัติธรรม แล้วท่านชอบไปนั่งมอง เลยได้อนุสติแบบไม่รู้ตัว จริง ๆ ก็คืออยากรู้อยากเห็น เลยไปนั่งจ้องพระอยู่ทุกวัน พระท่านจะเดินจงกรม จะทำกิจกรรมอะไรก็ไปนั่งจ้อง เข้าท่าดีเหมือนกัน ตายขึ้นมาเลยกลายเป็นเทวดา ไม่ใช่แค่เป็นคนอย่างพวกเรา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2016 เมื่อ 20:15 |
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#90
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "จากการสวดพระคาถาเงินล้านช่วงเช้า หลายคนนับจำนวนผิด เห็นชัดเลยว่าพอยืนระยะยาว ๆ แล้วพวกเราจะไม่ไหวกัน สติสมาธิยังไม่เพียงพอเพราะเรายังไม่สามารถปรับระดับการใช้งานได้ ในเมื่อปรับการใช้งานไม่ได้ ถึงเวลาสมาธิลึกเกินไป ก็จะได้หน้าลืมหลังแล้ว พอสมาธิดำเนินอยู่ข้างใน ข้างนอกก็ลืม พอมาเน้นข้างนอก สมาธิก็คลาย ก็เลยทำให้เรานับจำนวนผิดกัน
แต่ถ้าหากสมาธิเราทรงตัวสม่ำเสมอ ความชัดเจนทั้งนอกทั้งในมีเสมอกัน เราก็สามารถที่จะรู้ได้ อย่างที่อาตมาเคยบอกว่า ทั้งหลับและตื่นต้องมีสติรู้เท่ากัน ไม่อย่างนั้นเราจะสู้กิเลสไม่ได้ ก็คือลักษณะอย่างที่ปรากฏแก่พวกเราในวันนี้ ก็แปลว่าเราต้องไปซักซ้อมเรื่องของการทรงสมาธิให้มีความคล่องตัวกว่านี้ และพยายามตั้งเวลาให้ได้ คำว่า "ตั้งเวลา" ให้ได้นั้น วิธีตรวจสอบได้ง่ายที่สุดก็คือ ถ้างานยังไม่จบ จิตจะไม่คลายจากสมาธิ ถ้าหากว่าคล่องตัวมาก งานจบเมื่อไรจิตจะคลายจากสมาธิทันที บางคนว่าถ้าอายุอย่างอาตมา เหนื่อยแบบเมื่อเช้าแล้วขึ้นไปพัก รับประกันเลยว่าพักจนเลยเวลาแน่นอน แต่นาฬิกาส่วนตัวของอาตมาตั้งไว้ว่าเที่ยงครึ่งแล้วลุก ในเมื่อตั้งไว้เที่ยงครึ่งลุก ก็ไม่จำเป็นต้องอาศัยนาฬิกาปลุก อาตมาไม่ได้ใช้นาฬิกาปลุกมาหลายสิบปีแล้ว ถ้าหากว่าเราสามารถกำหนดเวลาตื่นของตัวเองได้ ถึงเวลาก็จะตื่นเอง และเป็นที่อัศจรรย์ว่าจะตื่นก่อน ๕ นาที ให้ลุกขึ้นมาตั้งหลัก ทุกครั้งจะเป็นอย่างนั้น สมมติว่าตั้งไว้ให้ตี ๓ ตื่น ตี ๐๒.๕๕ น.ก็จะตื่นแล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2016 เมื่อ 20:17 |
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#91
|
||||
|
||||
"ครั้งที่ชัดเจนที่สุดก็คือไปเชียงใหม่มา ๕ วัน อาตมาเป็นคนที่เหนื่อยที่สุดเพราะต้องนั่งเป็นเพื่อนคนขับ เนื่องจากว่าคนอื่นประเภทไว้วางใจคนขับมา นั่งได้ก็หลับเลย อาตมาเองถ่างตาไป ๓ วัน ๓ คืน วันที่ ๔ เรียกคนข้างหลังให้มานั่งแทน ตัวเองจะไปนั่งหลับข้างหลังบ้างเพราะว่าไปรถตู้
ปรากฏว่าเดินยังไม่ทันจะขึ้นเบาะหลังรถตู้เลย คนข้างหน้าหลับไปแล้ว เลยต้องไล่ให้ไปนั่งข้างหลัง บอกว่า "มึงไปเลย..เพราะคนขับกำลังจะหลับ" นั่งชวนคนขับคุยก็อยู่ได้ พอกลับมาถึงวัดท่าซุงปรากฏว่ารถเสีย ต้องซ่อม กว่าจะไปถึงวัดตี ๑ กว่า ตี ๒ ครึ่งต้องตื่นมาส่งโยมขึ้นรถที่ท่ารถอุทัยธานีกลับกรุงเทพฯ ไม่อย่างนั้นเขาจะทำงานไม่ทัน ก็ไม่ใช้นาฬิกาปลุกยังสามารถตื่นตามเวลาได้ ทั้ง ๆ ที่กรำงานมาหนักขนาดนั้น ทำให้มั่นใจว่าถ้ากำลังใจของเราทรงตัวจริง ๆ ถึงเวลาเราสามารถกำหนดเวลาได้แน่นอน ซึ่งสิ่งนี้ครูบาอาจารย์สายอื่นท่านไม่ได้พูดถึง แต่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านพูดถึงและสอนพวกเรามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสมาธิใช้งานที่ท่านเรียกว่า ฌานใช้งาน และการทรงสมาธิตามเวลา สายอื่นอาตมาไม่เคยได้ยินท่านพูดถึง แต่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอนมาและอาตมาก็พยายามฝึกหัดและทำให้ได้อย่างที่ท่านสอน ฉะนั้น...พวกเราก็ใช้ความพยายามเพิ่มอีกนิดหนึ่ง วันนี้ผิดแค่ ๓ จบถือว่าไม่มาก หรือว่าลูกประคำของเขามีน้อยกว่าอาตมา ๓ เม็ด ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2016 เมื่อ 20:22 |
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#92
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ในบ้านเราพระสงฆ์จีนนิกายกับอนัมนิกายมีสิทธิพิเศษ ขึ้นตรงต่อสมเด็จพระสังฆราช ไม่ได้มีเจ้าคณะตามลำดับชั้น ของเราเองต้องไล่ขึ้นจากวัดไปตำบล ไปอำเภอ ไปจังหวัด ไปภาค ถึงจะเข้ามหาเถรสมาคม ถึงพระสังฆราช ส่วนอนัมนิกายถึงเวลาก็ยื่นตรงถึงสมเด็จพระสังฆราชได้เลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2016 เมื่อ 20:23 |
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#93
|
||||
|
||||
ถาม : บนไว้ที่หนึ่ง แต่ถ้าเราไม่สะดวกไป จะไปแก้บนอีกที่หนึ่งได้หรือเปล่า ?
ตอบ : ไปแก้ตามที่บนไว้ ไม่สะดวกอย่างไรก็หาทางไปให้ได้ เรื่องของการบนต้องตรงไปตรงมา ไม่สามารถบิดพลิ้วได้เลย ในเมื่อบนไว้ที่นั่นก็ไปแก้ที่นั่น จะกลายเป็นว่าถึงเวลาเราต้องการอะไร เรารับปากได้ทุกอย่าง แต่พอได้แล้วก็เริ่มบิด ๆ เบี้ยว ๆ ระวังจะซวยไม่รู้ตัว..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2016 เมื่อ 20:24 |
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#94
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "งานสวดพระคาถาเงินล้านครั้งต่อไปคงต้องสวดที่วัดแล้ว เพราะว่าบ้านหลังใหม่ไม่มีที่กว้างพอ เดี๋ยวเราไปสวดฉลองหลวงพ่อเงินกันดีกว่า"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#95
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "หลวงปู่ปานวัดบางนมโค สร้างพระหกกษัตริย์ เป็นรูปพระขี่สัตว์ ๖ ชนิด ขี่ครุฑ ขี่เม่น ขี่ไก่ ขี่ปลา ขี่หนุมาน และขี่นกกระจาบ
ลูกศิษย์ที่เอาพระหลวงปู่ปานไปใช้เขาใช้แยกกันว่า นกทำนา ถ้าหากว่าใช้พระขี่นก ให้มีอาชีพทำนา สามารถป้องกันพวกเพลี้ยแมลงสัตว์ต่าง ๆ ได้ เม่นเดินป่า สมัยก่อนหนทางป่ายังเยอะ ถ้าพกพระขี่เม่นไปจะปลอดภัย ปลาค้าขาย สมัยก่อนค้าขายทางน้ำทางเรือกันมาก ก็เลยเอาพระขี่ปลา ไก่หากิน นอกจากเรื่องของการทำนาหรือค้าขายทางน้ำแล้ว อาชีพสุจริตอื่น ๆ เหมาะที่จะใช้พระขี่ไก่ แต่พระขี่ไก่ท่านบอกว่ามีอานุภาพพิเศษอย่างหนึ่งคือเป็นเมตตามหานิยม เจ้าชู้วายร้ายเลยเพราะว่าไก่ตัวผู้ตัวหนึ่งมีตัวเมียทั้งฝูง แต่อาตมาว่าคงไม่ใช่ที่พระหรอก เป็นที่สันดานคนใช้มากกว่า..! ครุฑเป็นมหาอำนาจ เหมาะกับบุคคลที่เป็นเจ้าคนนายคน ลิงหรือหนุมานรับราชการ ไม่เคยมีงานไหนที่ทำไม่ได้ พระรามใช้หนุมานเมื่อไร งานไหนงานนั้นสำเร็จทุกอย่าง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2016 เมื่อ 20:51 |
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#96
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านออกเพชรจักรพรรดิใหม่ ๆ ปรากฏว่าลูกศิษย์หลวงพ่อเขาหมั้นกันด้วยแหวนเพชรจักรพรรดิเป็นสิบ ๆ คู่เลย จริง ๆ นะ บอกว่าเพชรแท้ไม่เอา จะเอาเพชรจักรพรรดิ ถ้าเป็นรุ่นเราก็ดี วงหนึ่งราคาไม่เท่าไรก็หมั้นสาวได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2016 เมื่อ 20:52 |
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#97
|
||||
|
||||
พูดถึงเบี้ยแก้หลวงปู่เพิ่ม "สมัยก่อนหลวงปู่ท่านอยู่ก็ไม่ใช่ว่าจะหาง่าย ถึงเวลาต้องเอาพานดอกไม้ธูปเทียนไปขอกับท่าน ถ้าหากว่าวันไหนท่านไม่มีปรอท ก็ต้องซื้อปรอทร้านขายยาไปให้ท่านด้วย แล้วท่านก็จะหาฤกษ์ดี ทำการเสกปรอทเข้าตัวเบี้ย อุดด้วยชันโรง ถ้ามีเวลาท่านก็หุ้มเอง ถ้าไม่มีเวลาท่านก็บอก "ไปหาสมุห์เจือ" หลวงปู่เจือท่านก็จัดการให้ ท่านก็ไปเคาะ ๆ ทุบ ๆ ตะกั่วหุ้มให้เสร็จสรรพเรียบร้อย บางทีหลวงปู่เพิ่มไม่ว่าง หลวงปู่เจือก็จารให้เลย สรุปว่าหลวงปู่เจือท่านเก่งตั้งแต่ยุคนั้นแล้ว แทบจะแทนหลวงปู่เพิ่มได้แล้ว
อาตมาก็พกเบี้ยหลวงปู่เจือตัวเล็ก ๆ อยู่ ปีก่อนอยู่วัด นึกว่าเบี้ยแก้หลวงปู่เจือสั่นเตือน ปรากฏว่าไม่ใช่ เป็นแผ่นดินไหว ...(หัวเราะ)... เบี้ยแก้หลวงปู่เจือเล่นยาก เพราะลูกศิษย์ที่ทำไร้จรรยาบรรณ เล่นทำให้หลวงปู่ด้วย ทำขายเองด้วย กลายเป็นว่าถ้าไม่ได้รับจากมือหลวงปู่มีสิทธิ์โดนแน่"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-12-2016 เมื่อ 20:55 |
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#98
|
||||
|
||||
มีคนมาเบิกวัตถุมงคลหลายรายการ พระอาจารย์หยิบถูกทุกครั้งว่าอยู่ห่อไหน ซองไหน จึงกล่าวสอนลูกศิษย์ว่า "รอให้เอกฝึกสติให้มั่นคงมากกว่านี้ แล้วจะจำได้เองว่าของเป็นร้อย ๆ รายการอยู่ตรงไหนบ้าง
อาตมาบอกไม่ถูกว่าตัวเองมีการจัดระดับความจำอย่างไร เหมือนกับถึงเวลาเขาจะแยกแยะของเขาเองว่าอะไรควรจะจำอย่างไร พอจัดหมวดหมู่ได้เสร็จสรรพ ก็เหมือนกับคนนั่งอยู่บนที่สูงแล้วมองลงไป จะเห็นหมดทุกอย่าง เลยอธิบายเป็นภาษามนุษย์ได้ยาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-12-2016 เมื่อ 15:38 |
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#99
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "คำว่า "ลาว" จริง ๆ หมายความว่า "ผู้เป็นใหญ่" อย่างทางภาคเหนือของเรามีปู่เจ้าลาวจก หรือ ลวะจังกราช ความหมายดี ๆ มาถึงสมัยนี้กลายเป็นดูถูกกันไปได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-12-2016 เมื่อ 15:38 |
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#100
|
||||
|
||||
พูดถึงเรื่องน้ำท่วม "อาตมาพยายามเตือนแล้ว แต่ต้องบอกว่ากรรมยังหนัก นี่เลื่อนมาเดือนกว่า ต้องบอกว่าเป็นวาระกรรมที่เลี่ยงไม่ได้ เตือนแล้วเขาก็เลยเลื่อนไปจนพวกเราตายใจว่าไม่ท่วมแน่ ล่อไปตูมเดียวท่วม ๑๑ จังหวัดพร้อมกัน แต่ขอบอกว่านี่ยังไม่ใช่ที่หนักที่สุด แค่น้ำจิ้มเท่านั้น อาหารหลักยังไม่มา คอยดูเอาก็แล้วกันว่าจะมาเมื่อไร ปีนี้ ปีหน้า หรือปีโน้น บอกมากก็ไม่ได้ บอกมากเดี๋ยวก็โดนเอง
ไปนึกถึงหลวงปู่จวน หลวงปู่วัน หลวงพ่อสิงห์ทอง ท่านทั้งหลายเหล่านั้นรู้อยู่ว่าไปเครื่องบินเที่ยวนี้แล้วเครื่องบินจะตกแล้วตาย แต่ท่านก็ไปกันแบบรื่นเริงบันเทิงใจมากเลย เพราะท่านเห็นอยู่แล้วว่าร่างกายนี้เป็นทุกข์ เรามีโอกาสที่จะพ้นไปแล้ว ก็เดินเข้าหาความตายอย่างรื่นเริงบันเทิงใจ แต่ที่อัศจรรย์ที่สุดก็คือ ท่านที่อยู่มหาดไทยที่ไปพร้อมเอกสารลับของทางราชการ พอถึงเวลาเอกสารไปอยู่ในบาตรหลวงพ่อจวนอย่างไรก็ไม่รู้ เอกสารตัวเองใส่ไว้ในอกเสื้อ พอฟื้นขึ้นมาที่โรงพยาบาล รอดตายมาได้ก็ตกใจว่าเอกสารลับจะตกอยู่ในมือใครหรือเปล่า ปรากฏว่าไปเจอว่าอยู่ในบาตรหลวงพ่อจวน หลวงพ่อก็มรณภาพไปแล้ว ทำไมเอกสารถึงไปอยู่ในบาตรได้ ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-12-2016 เมื่อ 20:28 |
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|