กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 19-08-2010, 10:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปัจจุบันนี้การศึกษาปริยัติและปฏิบัติควบกันกำลังอยู่ในภาวะตกต่ำ พระผู้ใหญ่ก็เล็งเห็นข้อบกพร่อง เลยเปิดหลักสูตรวิปัสสนาภาวนาขึ้นมา มีทั้งระดับประกาศนียบัตร ถ้าหากว่าจบมาจะเป็นประกาศนียบัตรวิปัสสนาภาวนาโดยตรงเลย วุฒิเทียบเท่ากับ ม. ๖ สามารถไปเรียนต่อปริญญาตรีได้ เรียนวิชาการหนึ่งปีและนั่งกรรมฐานสามเดือน

ส่วนในระดับปริญญาตรีและปริญญาโททั่วไปบังคับว่าจะต้องสะสมวันปฏิบัติธรรมให้ได้ ๓๐ วัน โดยให้ปฏิบัติต่อเนื่องอย่างน้อยครั้งละ ๑๐ วัน ส่วนระดับปริญญาโทวิปัสสนาภาวนาโดยตรง เรียนวิชาการสองเทอม แต่ให้นั่งกรรมฐานต่อเนื่อง ๗ เดือน ไม่ต้องไปไหน

หลักสูตรนี้ท่านเอามาจากที่พระพุทธเจ้าบอกว่า ปฏิบัติอย่างเร็ว ๗ วัน อย่างกลาง ๗ เดือน อย่างช้า ๗ ปี ถ้าทุ่มเทจริง ๆ ได้ผลแน่ ท่านก็เลยเอาอย่างกลาง ๗ เดือน

ปัจจุบันนี้ทางวัดท่าขนุนส่งพระและแม่ชีเรียนปริญญาโทวิปัสสนาภาวนาอยู่ ๓ รูปด้วยกัน พระ ๑ แม่ชี ๒ นอกจากนั้นก็เรียนปริญญาโทปกติ และปริญญาตรีสายปกติ

แม่ชีเรียนแล้วได้ผลขอต่ออีก ๗ เดือน สองเดือนแรกแม่ชีบอกว่าฟุ้งซ่านมาก ฟุ้งขนาดที่กิเลสกำลังจะตาย จึงดิ้นสุดชีวิต ตาที่เคยได้เห็นก็ไม่ได้เห็น หูที่เคยได้ยินก็ไม่ได้ยิน จมูกที่เคยได้กลิ่นก็ไม่ได้กลิ่น ลิ้นที่เคยได้รสก็ไม่ได้รส กายที่เคยได้สัมผัสก็ไม่ได้สัมผัส ใจจะคิดเขาก็บังคับให้ภาวนาอีก จึงฟุ้งซ่านจะคลั่งตาย

แม่ชีบอกว่าไม่มีอะไรจะทำ ไปยืนมองที่หน้าต่างก็ยังดี เพราะเขาไม่ให้ออกไปข้างนอก ก็ต้องไปยืนหนอ..ยืนหนอ ตรงหน้าต่าง ให้มองข้างนอกสักนิดก็ยังดี ไม่อย่างนั้นกิเลสทำท่าจะตาย

บางทีก็ปวดท้องจนปัสสาวะจะราดอยู่แล้ว พอเดินพ้นชายคาเพื่อจะไปห้องน้ำ ปรากฏว่าหายเดี๋ยวนั้นเลย แค่ถูกหลอกให้เดินออกข้างนอกเท่านั้น ขอไปดูหน่อยว่าข้างนอกเป็นอย่างไร กิเลสหลอกเราได้ขนาดนั้น..!

พอเข้าเดือนที่สามใจเริ่มสงบ เพราะกิเลสไม่มีกำลังจะดิ้นแล้ว แม่ชีเพิ่งจะเข้าถึงความสงบในชีวิตอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก จึงขอเวลาอยู่ต่ออีก ๗ เดือนร่วมกับฝ่ายปริญญาโทที่เข้าไปพอดี ก็แปลว่างานนี้ออกมาคงจะได้บรรลุไปตาม ๆ กัน..!

ทางวัดท่าขนุน ปัจจุบันก็ส่งเรียนทุกระดับไม่ว่าจะเป็นพระ เณร แม่ชี เด็กวัด เพราะฉะนั้น..ถ้าใครคิดจะเรียนแล้วไม่มีทุน ไปบวชพระ บวชชี บวชเณรที่วัด แล้วจะส่งให้ เรียนจบแล้วค่อยสึกออกมาก็ไม่ว่ากัน ขอเพียงตอนบวชคุณทรงความดีเบื้องต้นให้ได้ก็แล้วกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2010 เมื่อ 15:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 19-08-2010, 10:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์บอกเด็ก ๆ ว่า "เด็ก ๆ ควรให้พยายามนั่งกรรมฐานดูลมหายใจเข้าออก วันละ ๕ นาที หรือ ๑๐ นาที ถ้าทำได้จะเรียนเก่งทุกคน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2010 เมื่อ 15:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 19-08-2010, 10:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สร้างพระขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกันไปจะมีอานิสงส์แตกต่างตามขนาดหรือไม่ ?
ตอบ : ประมาณไม่ได้จ้ะ ท่านใช้คำว่าพุทโธ อัปปมาโณ คุณของพระพุทธเจ้าประมาณไม่ได้ การสร้างพระจะองค์เล็กเท่าปลายนิ้วหรือองค์ใหญ่เท่าภูเขา เกิดชาติใหม่จะเล็กไม่เป็น ทำอะไรเขาก็ยันออกหน้าไปตลอด

จะองค์ใหญ่หรือองค์เล็กขอให้ได้ทำ โดยเฉพาะทำด้วยความเลื่อมใส อย่างเมื่อเช้าคุณคณานันท์ ทวีโภค จากเว็บพลังจิต เอาพระประธานมาถวาย เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องลักษณะพระแก้วมรกตฤดูร้อน หน้าตักน่าจะถึง ๓๐ นิ้ว ตั้งใจไว้ว่า จะเอาไปเป็นพระประธานที่บ้านวิริยบารมี

บอกเขาว่าให้อธิษฐานสามอย่างด้วยกัน อย่างที่หนึ่ง ถ้าเกิดอีกไม่ว่าชาติใดก็ตาม ขออย่าได้เกิดนอกเขตพระพุทธศาสนา ข้อที่สอง ถ้าหากว่าจะตาย ขอภาพพระนี้ติดตาติดใจเราอยู่จนวาระสุดท้าย ข้อที่สาม ด้วยกุศลบารมีที่ร่วมกันสร้างพระนี้ ขอไปนิพพานแห่งเดียว เพราะฉะนั้น..ให้พวกเราจำ ๆ เอาไปใช้งานกันบ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2010 เมื่อ 15:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 19-08-2010, 10:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เราเกิดมาได้อย่างไรครับ ?
ตอบ : คนเราเขาทำดีทำชั่วกันมาทั้งนั้น คราวนี้จะเกิดมาเป็นคนต้องมีความดีเยอะหน่อย คือ ต้องมีศีล ๕ ข้อ ในเมื่อมีศีล ๕ ข้อแล้ว จะหาที่เกิด ก็ต้องมีคนที่มีกรรมเนื่องกับเรามา เขาจึงเปิดประตูรับ ถึงเวลาหาที่เกิดได้ก็มุดเข้าท้องแม่ อีก ๙ หรือ ๑๐ เดือนแม่ก็คลอดออกมาเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2010 เมื่อ 15:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 20-08-2010, 09:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "การทำบุญบ่อย ๆ นี่ได้เปรียบนะ ใจได้สละออกไปเรื่อย ๆ ความเคยชินทำให้ต่อไปก็จะสละได้เป็นปกติ ไม่อย่างนั้น ตัวเราเองกว่าจะหาทรัพย์สินเงินทองมาได้ก็ด้วยความเหนื่อยยาก การที่จะสละออกไปทำบุญนั้นต้องอาศัยกำลังใจสูงมาก

กำลังใจอย่างเดียวก็ไม่พอ ต้องมีปัญญารู้อีกด้วยว่าบุญนั้นเป็นสิ่งดี ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีอารมณ์ที่จะไปทำ คนเราถ้าก้าวมาถึงในระดับที่รู้ว่าสิ่งใดดีสิ่งใดควร แล้วก็เลือกทำได้นั้น จริง ๆ แล้วมีโอกาสที่จะพ้นกระแสได้ทุกคน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2010 เมื่อ 09:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 20-08-2010, 09:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่เราอนุโมทนาบุญในสิ่งที่ผ่านมาสามสี่ปีก่อน จะมีผลในปัจจุบันไหมครับ ?
ตอบ : การโมทนาบุญ คือการที่เราพลอยยินดีในความดีของคนอื่นเขา ที่เราไม่มีโอกาสได้ทำอย่างนั้น คราวนี้เราจะโมทนาบุญของเขานั้น ต้องมาดูว่า เราพลอยยินดีในผลบุญของเขา หรือเราอยากได้บุญของเขา ?

ถ้าเราอยากได้บุญของเขา แปลว่าเราวางกำลังใจผิด โอกาสที่จะได้บุญก็น้อย เห็นเขาทำความดีแล้วเราไม่มีโอกาสได้ทำอย่างนั้น แล้วเราพลอยยินดีในความดีของเขา จิตที่พลอยยินดีนั่นแหละที่เป็นบุญกุศลขึ้นมา เพราะเราไม่มีความอิจฉาริษยา เพราะเรายินดีจากใจจริง

ปัจจุบันนี้ที่โมทนาบุญกัน มักจะโมทนาในลักษณะวางกำลังใจผิดทั้งนั้น เขาโมทนาในลักษณะ "กูจะเอาของมึง" ต้องวางกำลังใจใหม่ ถ้าวางถูกเมื่อไร ก็รับบุญไปเต็ม ๆ

ฉะนั้น..ปัตตานุโมทนามัยเป็นบุญที่ได้ง่ายมาก แต่ก็ทำยากมาก แต่ไม่เป็นไรหรอก ยกมือสาธุไปเรื่อย ๆ ถึงไม่ได้ร้อย ได้ทีละยี่สิบ สามสิบ เดี๋ยวนานไปก็ได้ร้อยไปเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2010 เมื่อ 09:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 20-08-2010, 09:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาสวดมนต์จะรู้สึกเจ็บที่หัวใจ
ตอบ : การทำความดีเขาแลกกันด้วยชีวิต แค่นั้นเรื่องเล็ก ๆ เจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอก ขันธมารเขามากวนเล่นเฉย ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2010 เมื่อ 09:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 20-08-2010, 09:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อวานไปฝึกมโนมยิทธิ ครูฝึกบอกว่าได้แล้ว แต่พอลงมาตรวจสอบตัวเอง ให้เพื่อนเขียนเลข แล้วเราทายดู แต่ทายไม่ถูก
ตอบ : กระบือชัด ๆ เลยน้อง..! ขนาดระดับคล่องตัวแล้วเขายังทายกันไม่ถูกเลย แล้วนี่คุณเพิ่งจะฝึก สามารถสร้างความไม่มั่นใจให้ตัวเองได้ดีมาก ค่อย ๆ ซ้อมไปสิโว้ย..! ใหม่ ๆ ร้อยครั้งถูกสักครั้งถือว่าฟลุ้กตายชักแล้ว หลังจากนั้นถ้าถูกสักแปดในสิบแล้วจึงค่อย ๆ เพิ่มรายละเอียดอื่น ๆ ไป

ถาม : ถ้าเราซื้อลูกเต๋ามาลูกหนึ่ง ทอยแล้วปิดฝา แล้วก็ทายตัวเลข อย่างนี้จะได้ไหม ?
ตอบ : ได้

ถาม : ถ้าเรานั่งสมาธิไป เราภาวนาไป แล้วคำภาวนาหาย เราจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนั้นเราสติขาด หรือจิตเราเข้าถึงฌานสองฌานสาม ?
ตอบ : ความรู้สึกทั้งหมดของเราถ้ายังจดจ่ออยู่กับที่ นั่นก็คือกำลังของฌาน แต่ถ้าหากคำภาวนาหายไปเฉย ๆ โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย นั่นคือสติขาด

ไปซ้อมบ่อย ๆ เรื่องมโนมยิทธินั้นต้องการคนขยันและต้องหน้าด้านด้วย คือผิดแล้วต้องไม่ท้อ ซ้อมมากเข้า ๆ ความคล่องตัวมีมากขึ้นแล้วจะทายถูกมากกว่านี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2010 เมื่อ 09:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 20-08-2010, 09:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลายกจิตขึ้นบนพระนิพพานกับเวลาอยู่ตรงนี้สบาย ๆ ผมสังเกตว่าอยู่ตรงนี้จะสบายกว่ายกจิตขึ้นพระนิพพาน
ตอบ : เป็นเพราะกำลังของเรายังไม่พอ ต้องอาศัยการตะเกียกตะกายเพื่อให้อยู่บนนิพพานได้จึงเหนื่อยหน่อย แต่ถ้ากำลังของเราพอแล้ว อยู่ข้างบนจะสบายกว่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2010 เมื่อ 09:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 20-08-2010, 09:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : จะสอนสมาธิลูกได้อย่างไร?
ตอบ : บอกให้เขาพุทโธ ๆ สัก ๓ ครั้งก่อนนอน ต่อไปก็ค่อย ๆ เพิ่มเยอะขึ้น จาก ๓ ครั้งเป็น ๙ ครั้ง

อย่าไปรีบร้อน ใจเย็น ๆ สำหรับเด็ก ๆ ถ้าพุทโธ ๓ ครั้ง ทำได้สม่ำเสมอทั้งปีก็สุดยอดแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2010 เมื่อ 09:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 20-08-2010, 09:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลานั่งสมาธิ จิตมักจะชอบคิด ทำอย่างไรจิตถึงจะรวมตัว ?
ตอบ : ให้กลับมาอยู่กับลมหายใจเข้าออกจริง ๆ ไม่อย่างนั้นแล้วเราภาวนาก็ฟุ้งซ่านไปเรื่อย ดึงความรู้สึกทั้งหมดให้มาอยู่กับลมหายใจเข้าออกให้ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 21-08-2010, 11:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ระหว่างสังฆทาน วิหารทาน และธรรมทาน อภัยทานจัดอยู่ในส่วนไหน?
ตอบ : อภัยทานถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของธรรมทาน เราจะอภัยได้กำลังใจเราต้องเข้าถึงธรรม ถ้าเข้าไม่ถึงธรรมก็อภัยให้เขาไม่ได้
ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของธรรมทานเหมือนกัน แต่ว่ากำลังใจของบุคคลที่จะเข้าถึงอภัยทานได้ น่าจะต้องละความโกรธได้เบาบางลงมากแล้ว


ถาม : ในระหว่างเราทำกิจกรรมต่าง ๆ ถ้าเราแบ่งจิตว่าบนพระนิพพานเราก็ทำแบบนั้นด้วย
ตอบ : อยู่บนพระนิพพานจะไปทำอะไรวะ ? เอากำลังใจส่วนหนึ่งเกาะนิพพานไว้ ส่วนข้างล่างจะทำอะไรก็ทำไป ถ้าเอากายบนไปทำเหมือนข้างล่างก็เพี้ยนเท่านั้น..!

ถาม : เวลาที่ท่านเกาะนิพพาน ท่านคิดอย่างไรครับ ?
ตอบ : เอานิพพานครอบหัวไว้ก็พอ ตัวเราจะทำอะไรก็ทำไป เอากำลังใจส่วนหนึ่งเกาะนิพพานไว้เท่านั้นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-01-2019 เมื่อ 20:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 139 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 21-08-2010, 11:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : งานกฐินปีที่แล้ว ท่านบอกว่าจะเข้าสมาบัติก่อนรับกฐิน ตอนนั้นผมมีเลขที่บัญชีของท่าน ถ้าตอนเช้าผมโอนเงินเข้าบัญชีท่านจะเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : ไม่ทันรับประทาน..! คนอื่นเขาจ้องอยู่ตั้งแต่ก่อนเช้าแล้ว

ถาม : แต่ถ้าเราโอนเงินเข้าไปก็เหมือนกับเรามาประเคนให้พระสงฆ์ ?
ตอบ : บุญเราได้ตั้งแต่คิดจะทำแล้ว

ถาม : บางทีก็ฝันว่าทำสมาธิในฝันซ้อนอีกทีครับ รู้สึกเกิดปีติ จิตเป็นสุขมาก อย่างนี้มีอานิสงส์ไหมครับ ?
ตอบ : แสดงให้เห็นว่ากำลังความดีของเราสูง จึงได้ฝันในด้านที่ดี อานิสงส์คือความชื่นใจ ได้กำลังใจ

ถาม : และการทำสมาธิในฝันจะมีผลไหมครับ ?
ตอบ : ฝันก็คือฝัน แค่แสดงออกว่ากำลังใจเราเกาะความดีมากกว่า หรือเกาะความชั่วมากกว่า เวลาฝันกำลังใจตั้งมั่นน้อย ถ้าทำสมาธิได้มั่นคงจะไม่ฝัน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2010 เมื่อ 16:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 21-08-2010, 11:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ๑ มหากัป กับ ๑ อสงไขยเขานับกันอย่างไร ?
ตอบ : ๑ กัปเขานับเอาระยะเวลาที่อายุขัยของบุคคลตั้งแต่ ๑๐ ปีขึ้นไป พอผ่านไปร้อยปีก็นับเป็น ๑๑ ปี ผ่านไปร้อยปีก็เพิ่มเป็น ๑๒ ปีไปเรื่อย ๆ

จนกระทั่งอายุขัยนั้นได้ เลข ๑ ตั้งขึ้นมา ต่อด้วยเลขศูนย์ ๑๔๐ ตัว หลังจากนั้นก็ร้อยปีลดปี..ร้อยปีลดปี จนกระทั่งเหลือ ๑๐ ปี อันนั้นจะเป็น ๑ รอบ เขาเรียก อันตรกัป

๖๔ อันตรกัปจะเป็น ๑ อสงไขยกัป
๔ อสงไขยกัป เป็น ๑ มหากัป

ไม่ต้องเสียเวลาไปนับหรอก ประสาทกินเสียเปล่า ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2010 เมื่อ 16:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 21-08-2010, 11:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่คน ๆ หนึ่งไปปรากฏร่างที่อื่น ใช้วิชาอะไรได้บ้างครับ ?
ตอบ : มโนมยิทธิก็ได้ อีกอย่างหนึ่งก็กำลังของอภิญญา ประการสุดท้าย เทวดาทะลึ่ง..!

ถาม : เทวดาทำหน้าที่แทนหรือครับ ?
ตอบ : ทำหน้าที่แทน

ถาม : อย่างเวลาท่านไปปรากฏตัว ท่านไปอย่างไรครับ ?
ตอบ : นั่งรถไป..!

ถาม : แล้วถ้าไปได้ ไปแบบมโนมยิทธิแบบเต็มกำลังหรือครึ่งกำลัง ?
ตอบ : เรื่องของมโนมยิทธิ ถ้าไปได้เป็นการไปแบบเต็มกำลังทั้งนั้น ที่บอกว่าครึ่งกำลังนั้น ครึ่งกำลังแค่ตอนเห็น ถ้าตอนไปเต็มกำลังแล้วทั้งนั้น

ถาม : ถ้าไปแล้ว จิตในร่างสามารถพูดคุยกับคนอื่นได้ตามปกติ
ตอบ : อย่างนั้นต้องเป็นอภิญญาใหญ่ เป็นส่วนของมโนมยิทธิเหมือนกัน แต่เป็นกำลังของอภิญญาใหญ่ ไม่ใช่มโนฯ ทั่ว ๆ ไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2010 เมื่อ 02:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 135 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 21-08-2010, 11:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การกำหนดเห็นแสงสว่าง แสงสว่างที่เราเห็น กำหนดเป็นแสงสีอะไรครับ ?
ตอบ : อยู่ที่เรา ขึ้นอยู่กับความชำนาญและระดับสมาธิ ถ้าหากระดับสมาธิสูง มีความชำนาญมาก จะกำหนดเป็นสีอะไรก็ได้
แต่ถ้าทั่ว ๆ ไป แสงสว่างก็คือสว่าง จะบอกว่าเป็นสีอะไรก็บอกไม่ถูก หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านจึงให้กำหนดเป็นแก้วแทน


ถาม : ถ้ากำหนดเป็นแก้ว ก็ต้องสว่างเป็นใส ๆ ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าปกติกำหนดเป็นรูปดวงแก้ว ถ้าเริ่มมีรัศมีแสดงว่าสมาธิเริ่มทรงตัวเป็นอัปปนาสมาธิแล้ว

ถาม : ผมลองฝึกกำหนดให้สว่างแบบแสงสีส้มบ้าง สีเหลืองบ้าง กำหนดไม่ถูกครับ ว่าจะเอาแสงสว่างลักษณะใด ?
ตอบ : ไม่ต้องไปสนใจว่าสีอะไร เอาแค่ว่าได้หรือเปล่า ทำให้ได้ก่อน ถ้าได้แล้วจะพลิกแพลงอย่างไรค่อยว่ากันทีหลัง

แต่ถ้ายังทำไม่ได้แล้วยังไปเลือก ก็รอไปเถอะ แรก ๆ เราต้องกินไม่เลือก อะไรใกล้มือคว้าไว้ทั้งนั้น นาน ๆ ไปมีความคล่องตัวมากขึ้นก็เริ่มเลือกได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2010 เมื่อ 16:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 21-08-2010, 11:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เราจะทราบได้อย่างไรว่าเราถึงฌานไหนแล้ว ? อย่างฌานหนึ่ง ฌานสอง ฌานสาม
ตอบ : ในหนังสือกรรมฐาน ๔๐ ถ้าจำไม่ผิดเป็นบทที่ ๗ หน้าที่ ๔๐ เรื่องการทรงฌาน เอาเล่มนี้แหละ (ท่านให้หนังสือกรรมฐาน ๔๐ ) ไปนั่งอ่านเอง อธิบายแล้วยาว
อ่านหลาย ๆ รอบให้เข้าใจว่า แต่ละฌานมีอารมณ์อะไรบ้าง พอเข้าถึงเราจะอ๋อเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2010 เมื่อ 16:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 21-08-2010, 11:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาทำสมาธิจะง่วง
ตอบ : ถ้าไม่เปลี่ยนอิริยาบถ ก็ต้องเอาสติจี้ตามลมหายใจเข้าไปให้ติด ๆ ถ้าหากทิ้งระยะห่างนิดเดียวจะตัดหลับเลย ทิ้งห่างก้าวเดียวเท่านั้นก็ตัดหลับไปแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2010 เมื่อ 16:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 21-08-2010, 15:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คำว่านิโรธกรรม กับนิโรธสมาบัติเหมือนกันไหมครับ ?
ตอบ : นิโรธกรรมเป็นแนวปฏิบัติที่ทางเหนือเขานิยมกัน ส่วนนิโรธสมาบัติตามตำราบอกไว้หมดแล้ว เพราะฉะนั้นเราใช้คำว่านิโรธกรรม จะปลอดภัยกว่า

ถาม : ถ้าใช้คำอื่น อย่างเช่นเข้ากรรมฐาน แต่ปฏิบัติตามการเข้านิโรธสมาบัติ
ตอบ : นั่นก็ปลอดภัยยิ่งกว่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2010 เมื่อ 16:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 22-08-2010, 09:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,568 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า "เมื่อวานมีเด็กอยู่คนหนึ่ง เขาค่อนข้างจะเป็น "ผู้ฉิง" เขามาถามว่า เพศที่สามอย่างเขา มีโอกาสบรรลุมรรคผลหรือไม่ ? ก็เลยกล่าวให้ฟังว่า พระพุทธเจ้าแบ่งบุคคลเป็นสี่ประเภท

ประเภทที่หนึ่ง อุคฆติตัญญู ฟังหัวข้อธรรมแล้วเข้าใจ บรรลุธรรมได้ ประเภทที่สอง วิปจิตัญญู ฟังหัวข้อธรรมแล้วยังไม่เข้าใจต้องอธิบาย ขยายความสักส่วนหนึ่งจึงเข้าใจ แล้วบรรลุธรรมได้ ประเภทที่สาม เนยยะ เคี่ยวเข็ญแล้วสามารถที่จะเข้าใจ ถ้าไม่เคี่ยวเข็ญก็ไม่ได้ ประเภทที่สี่ ปทปรมะ ฉลาดเกินจนไม่ยอมรับความคิดคนอื่น

ก็แปลว่าถ้าตัดประเภทสุดท้าย ที่ไม่ยอมรับความคิดคนอื่นออก อีกสามประเภทนี่เขาไม่ได้กำหนดเลยว่าเป็นเพศไหน ผู้ชายที่ใจเป็นหญิง อย่างน้อยบารมีก็ยังสูงกว่าผู้หญิงทั่วไป ๆ เพราะว่าการเกิดแต่แรก ตั้งแต่สามัญบารมีขึ้นมาจะเป็นผู้หญิงมาก่อน พอมาเป็นอุปบารมีขั้นปลายเริ่มจะมาเป็นผู้ชาย

การสร้างบารมีกำลังใจจะเข้มข้นไปเรื่อย ๆ ช่วงก่อนที่จะมาเป็นผู้ชาย ก็คือ ระหว่างจากผู้หญิงจะมาเป็นผู้ชาย จะมีนิสัยบางส่วนของผู้ชายเกิดขึ้น สมัยนี้เราก็ไปว่าเขาเป็นทอม พอเกิดมาเป็นผู้ชายใหม่ ๆ จริตนิสัยผู้หญิงบางส่วนติดมา เราก็ไปว่าเขาเป็นตุ๊ด แต่ถ้าเราเข้าใจจริง ๆ จะรู้ว่านั่นเป็นขั้นตอนปกติของการสร้างบารมี ถ้าคุณเข็นมาจนถึง ๑ อสงไขยกับแสนมหากัป โอกาสบรรลุมีทั้งนั้น

คนส่วนใหญ่ไปเห็นว่าเขาไม่ปกติ แต่จริง ๆ แล้วปกติของเขาเป็นอย่างนั้น เพราะว่าการเกิดมาต้องค่อย ๆ สร้างบารมีเพิ่มขึ้น ก็ต้องเคยเป็นอย่างนั้นมาทั้งนั้น คนที่เป็นผู้ชายเต็มตัวก็เคยเป็นอย่างนั้นมาก่อน คนที่เป็นผู้หญิงเต็มตัวเดี๋ยวก็ต้องเป็นอย่างนั้นบ้าง จะช้าจะเร็วเมื่อวาระมาถึงก็ต้องเป็น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2010 เมื่อ 15:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:01



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว