|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#61
|
||||
|
||||
(พระสอบถาม) เรื่องการไปบิณฑบาตโปรดสัตว์ แต่เหมือนกับไปให้สัตว์โปรด ?
ตอบ : ก่อนจะไปเราต้องตั้งกำลังใจให้สูงสุดเท่าที่เราทำได้ เพื่อให้ทานของญาติโยมมีผลให้มากที่สุด แสดงว่าตรงนี้ไม่เคยทำเลยใช่ไหม ? ที่เขาเรียกว่าไปโปรดสัตว์ ก็คือไปสงเคราะห์ให้ทานของเขาเกิดผลให้มากที่สุด ให้เร็วที่สุด
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 18-11-2017 เมื่อ 19:13 |
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#62
|
||||
|
||||
ถาม : เพื่อนไปพบกับพระรูปหนึ่ง พระบอกว่าเพื่อนโดนของ โดนคุณไสยทั้งตัว วัตถุมงคลที่ติดตัว มีพระหางหมาก ผ้ายันต์พิชัยสงคราม ก็ถูกลอกเอาพุทธคุณออก แล้วเอาน้ำมันพราย ผีพรายมาใส่แทน ผ้ายันต์นี่เปลี่ยนเป็นสีเขียวหมดแล้ว แต่ผมฟังแล้วคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้เลย ไม่เชื่อ ผมเข้าใจถูกไหมครับ ?
ตอบ : ก็เป็นอันว่าคุณฉลาดกว่า เพราะมีคนไปหลงเชื่อเขามาเยอะแล้ว ถาม : ผมอยากจะขอถามหลวงพ่อว่า ผมโดนของไหมครับ พระบอกว่าผมถูกของ ? ตอบ : ต้องไปถามท่าน เดี๋ยวท่านจะตอบให้เอง ถ้ามาถามตรงนี้จะโดนถีบแทน อยากรู้ต้องไปถามคนที่เขาบอกคุณ ได้เสียเงินให้เขาแก้ไขเยอะ ๆ แล้วจะฉลาดมากขึ้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2017 เมื่อ 05:47 |
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#63
|
||||
|
||||
ถาม : ผมทำสมาธิแล้วจิตนิ่งไประดับหนึ่ง จนกระทั่งสว่าง ไปต่อไม่ถูก ต้องทำอย่างไรต่อครับ ?
ตอบ : กำหนดรู้ไว้เฉย ๆ ว่าตอนนี้เป็นอย่างนี้ แล้วสมาธิก็จะดำเนินไปเอง อย่าดิ้นรนให้พ้นจากตรงนั้น และอย่าอยากเข้าไปถึงตรงนั้น ถาม : ค้างอยู่ตรงสว่าง ๆ โล่ง หลายครั้งแล้ว ? ตอบ : ตามดูไปเฉย ๆ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2017 เมื่อ 05:48 |
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#64
|
||||
|
||||
ถาม : เบื่อหน่ายแม้กระทั่งการปฏิบัติธรรมค่ะ ไม่อยากสวดมนต์ ไม่อยากนั่งสมาธิ ไม่อยากทำอะไรเลย ?
ตอบ : ตอนนี้กิเลสเริ่มหลอกแล้ว บอกกิเลสไปว่า อย่าทะลึ่งสอนให้ทำแบบนี้ กูไม่เชื่อมึงหรอก แล้วตั้งหน้าตั้งตาทำของเราต่อไป ถาม : จะเกิดอาการเบื่อ ๆ แบบนี้ใช่ไหมคะ ? ตอบ : ให้รู้ว่าถ้าเราเกิดมาอีกก็จะเจอแบบนี้อีก เพราะฉะนั้น...ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาแบบนี้จะเอาอีกไหม? ถาม : แต่ว่าเบื่อ ไม่อยากทำอีกแล้ว ? ตอบ : ต้องสอนตัวเองให้ได้ ถ้าสอนตัวเองไม่ได้ก็จะเบื่ออยู่อย่างเดียว จนเราเซ็งโลกไปเลย ถาม : แม้แต่การกราบพระยังเบื่อเลยค่ะ ? ตอบ : บางทีกราบพระสักแต่ว่ากราบแปะ ๆ ให้ครบ ๓ ที ไม่ได้กราบด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจหรอก ถาม : โดนหลอกใช่ไหมคะ ? ตอบ :ใช่...ไปเริ่มต้นใหม่ รู้ตัวแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาทำไป พวกนี้กลัวคนหน้าด้าน พอเราหน้าด้านทำไปเดี๋ยวเขาก็ถอยไปเอง ถาม : จะเกิดขึ้นอีกไหมคะ เบื่อ ๆ อยาก ๆ อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ใช่ไหมคะ ? ตอบ : จนกว่ากำลังใจของเราจะสูงกว่านี้ เพราะฉะนั้นต้องทำเรื่องสมาธิให้มากขึ้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2017 เมื่อ 05:49 |
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#65
|
||||
|
||||
ถาม : เรื่องการแผ่เมตตาเจ้าค่ะ ในนี้เขาบอกว่า "ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง..." ถ้าเราใช้คำว่าสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงทุกรูปทุกนาม เทวดาท่านจะได้หรือไม่เจ้าคะ ?
ตอบ : อยู่ที่เรา ไม่ว่าจะภพภูมิไหนก็เป็นสัตว์ทั้งหมด แม้แต่พรหมเทวดาเขาก็จัดเป็นสัตว์ที่เวียนว่ายตายเกิดประเภทหนึ่ง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2017 เมื่อ 10:55 |
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#66
|
||||
|
||||
ถาม : (พระถาม) นั่งรับสังฆทานแบบหลวงพ่อ ผมก็ปลงใจไม่ได้ว่าเราทำอะไรเป็นประโยชน์แก่ญาติโยม นอกจากมาเอาของเขา ?
ตอบ : คุณเป็นผู้เสียสละอย่างที่สุดที่ได้รับภาระทุกอย่างนี้ไปทำแทนสงฆ์ ถ้าคุณไม่มาทนนั่งตูดด้านอยู่อย่างนี้ บุญของเขาก็ไม่เกิด ความเจริญของพระพุทธศาสนาก็ไม่มี
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2017 เมื่อ 10:57 |
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#67
|
||||
|
||||
ถาม : (สนทนากับพระ)
ตอบ : นี่เป็นหน้าที่ของเรา คำว่าหน้าที่ของเราคือพุทธบริษัททั้ง ๔ แบ่งออกเป็น อนาคาริก คือผู้ไม่ครองบ้านเรือน คือ ภิกษุ ภิกษุณี กับอาคาริก ผู้ครองบ้านเรือน คือ อุบาสก อุบาสิกา ภิกษุและภิกษุณีสามารถศึกษาปฏิบัติธรรมได้อย่างเต็มที่ เพราะอุบาสกอุบาสิกาสนับสนุนด้วยปัจจัยทั้ง ๔ เมื่อปฏิบัติธรรมได้แล้วก็เป็นหน้าที่ของภิกษุและภิกษุณี ที่จะต้องมาสั่งสอนให้กับอุบาสกอุบาสิกา เพื่อทดแทนที่เขาสงเคราะห์เรา เพราะฉะนั้น...ถ้าเราเพิ่งได้มา แล้วเขาเอาไป ก็เท่ากับเราทำหน้าที่ของเราแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2017 เมื่อ 10:58 |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#68
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า "วันก่อนไปทำฟันแล้วหมอเอ็กซเรย์รากฟันให้ ก็เพิ่งทราบว่าพวกเซียนวัตถุมงคลไปให้หมอเอ็กซเรย์ของกันเยอะมากเลย อย่างตะกรุดหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว หรือตะกรุดลูกอมโลกธาตุ เขาจะมีด้ายพันไว้ ต้องเช็คดูข้างในว่าเป็นอะไรแน่ บอกได้แค่ว่าเป็นโลหะ บอกไม่ได้ว่าเป็นทอง เป็นนาก หรือเป็นเงิน
แล้วก็ไม้ครูหลวงปู่ภู เบี้ยแก้หลวงปู่รอด แล้วก็หมากทุยหลวงปู่เอี่ยม ต้องสแกนดูข้างในว่าเป็นหมากจริงเปล่า ? มีกระดาษสาอยู่ข้างในไหม ? ของราคาเป็นแสนเป็นล้าน อย่างไรเสียก็ให้เขาเอ็กซเรย์ให้สบายใจหน่อยว่าดีจริงหรือเปล่า ? ได้ฟิล์มเอ็กซเรย์มาแล้วยังต้องเล็งแล้วเล็งอีก สรุปว่าร้านหมอฟันเอ็กซเรย์วัตถุมงคลมากกว่าฟันอีกกระมัง ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2017 เมื่อ 10:59 |
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#69
|
||||
|
||||
ถาม : ตอนที่ลาพุทธภูมิ ท่านมาทัดทานให้ทบทวน เป็นไปได้ไหมว่ามารแทรก ?
ตอบ : ก็ถ้าบารมีมากพอ ท่านจะทัดทานก็เป็นเรื่องปกติ เสียดายเรียนจะจบอยู่แล้ว กัดฟันต่ออีกเทอมเดียวไม่ได้หรือ ? ถาม : เห็นคนเขาลากันหลาย ๆ คนครับ ? ตอบ : ก็ของท่านเด็ดขาด ส่วนเราเด็ดไม่ขาด ถาม : กำลังใจที่ลาฝ่อไปหมดนี่...? ตอบ : เอาใหม่ ถ้าเด็ดขาดจริงก็ต้องลาได้ ถาม : ไม่ว่าท่านจะมาอย่างไรก็คือ ผมจะลาให้ได้ แบบนี้หรือครับ ? ตอบ : กลัวแต่ว่าถึงเวลาก็มืออ่อนตีนอ่อน ถาม : อย่างนั้นจริง ๆ ครับ ? ตอบ : ตูเคยมาแล้ว ลาอยู่ ๓ รอบกว่าท่านจะอนุญาต แต่ยังให้ทำงานเก่าไปก่อน ถึงได้งานเยอะงานแยะอยู่ทุกวันนี้ ถาม : แต่ถ้าลาแล้วไม่อยากรับภาระ จำเป็นจริง ๆ ก็น่าจะได้ ? ตอบ : สันดานเดิม ช่วยไม่ได้หรอก เดี๋ยวก็ต้องทำ ถาม : เป็นเพราะเราตั้งสัญญาเก่าไว้หรือคะว่าเราจะทำ ? ตอบ : ไม่ใช่...ทำเอาไว้เยอะแล้ว คนเขาก็ไม่ไปตามคนอื่น ก็ต้องแบกภาระไปก่อน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2017 เมื่อ 11:00 |
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#70
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "มีดหมอเล่มที่ลงอยู่ในกระทู้คนมีเงินฯ (๑๔) นั่น เป็นรุ่นเดียวที่หลวงพ่อรุ่งกับหลวงพ่อเดิมทำร่วมกัน เป็นของที่หายากสุด ๆ เพราะว่าหลังจากนั้นแล้ว หลวงพ่อเดิมท่านก็แยกไปทำตามแบบของท่านเอง เราจะเห็นว่าลายตอกเป็นแบบช่างของหลวงพ่อเดิม แต่ดันฝังทองฝังโลหะล้างอาถรรพ์ไปด้วย เป็นรุ่นที่หลวงพ่อเดิมท่านเอาขึ้นเกวียนไปปลุกเสกร่วมกับหลวงพ่อรุ่ง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2017 เมื่อ 10:54 |
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#71
|
||||
|
||||
ถาม : ถวายทองที่จะเอามาร่วมหล่อพระ พ่อผมเขาอธิษฐานทำบุญก่อนที่เขาจะเสียไป มาทำทีหลังเขาได้บุญไหมครับ ?
ตอบ : เขาตั้งใจเมื่อไรก็ได้ตอนนั้นแหละ ถาม : พ่อเขาอยู่ตรงไหนพอจะทราบไหมครับ ? ตอบ : ต้องไปถามคนอื่น อาตมาโดนสั่งห้ามไว้ตั้งแต่สมัยยังอยู่วัดท่าซุงแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2017 เมื่อ 02:47 |
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#72
|
||||
|
||||
ถาม : เป็นความว่างที่อยู่เหนือความว่าง แล้วก็ขึ้นไปอยู่บนความว่างอีกที ออกไปไกลหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : เป็นแค่ระดับหนึ่งของสมาธิเท่านั้น สมาธิยิ่งทรงตัวลึกขึ้นมากเท่าไร สภาพจิตของเราก็จะว่างจากกิเลสมากเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องที่เชื่อไม่ได้ เพราะว่าถ้าสมาธิคลายตัวกิเลสก็งอกงามใหม่ เพราะฉะนั้น...มีอยู่อย่างเดียวก็คือ ต้องพิจารณาวิปัสสนาญาณเพื่อทำลายกิเลสให้สิ้นไปจากใจของเรา ถาม : เหมือนกับเราก็ไม่ใช่เรา ทั้ง ๆ ที่ก็เป็นเรา แต่ก็ไม่ใช่ เราก็ดูไป ? ตอบ : สภาพจิตส่วนจิต สภาพร่างกายส่วนร่างกาย ส่วนผู้รู้ที่เป็นสติก็ยังคอยควบคุมกำกับอยู่ ถ้าดูจริง ๆ แล้วจะเห็นว่ามีอยู่ ๓ ส่วนด้วยกัน แต่ไม่ว่าจะส่วนไหนก็ตาม เขาไม่ให้ยึดทั้งนั้น แค่กำหนดดู กำหนดรู้ว่าเราสักแต่เป็นเพียงผู้อาศัย สักแต่ว่าเป็นเพียงผู้อยู่ ถ้าหากว่าตายเมื่อไรที่ไปของเราคือพระนิพพาน ถาม : ที่ออกไปข้างนอก บางทีหนูก็คุมไม่ได้ ? ตอบ : สร้างสติให้มั่นคงกว่านี้จะคุมได้ ไม่อย่างนั้นสติช้ากว่าก็จะปรุงแต่งไปเรื่อย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 20-11-2017 เมื่อ 13:11 |
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#73
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "มีใครบริจาคช่วยตูนสร้างโรงพยาบาลบ้างหรือยัง ? เรียกกันแต่ "ตูน บอดี้สแลม" จนลืมชื่อจริงไปแล้ว จำได้ว่านามสกุลคงมาลัย
ต้องบอกว่าตั้งแต่เกิดเหตุที่ปักษ์ใต้มา ผ่านมาหลายรัฐบาลแล้ว เพิ่งจะมีตูนซึ่งไม่ใช่คนของรัฐบาลนี่แหละ ที่ทำให้ปักษ์ใต้สมัครสมานสามัคคีกันได้อีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าตูนจะวิ่งไปทางไหน บรรดาอิสลามิกชนก็ออกมาต้อนรับ ออกมาถ่ายรูป ออกมาปรบมือกันมากมายไปหมด ที่แน่ ๆ ก็คือออกมาร่วมบริจาคด้วย ขนาดโดนคนที่ยึดมั่นในหลักศาสนาอย่างชนิดไม่ยอมผ่อนผัน ออกมาตำหนิว่าการบริจาคให้กับคนศาสนาอื่นไม่ใช่เรื่องที่อิสลามิกชนจะทำได้ ก็ไม่มีใครฟัง สภาพปักษ์ใต้ของเราเหมือนกับกลับไปเป็นอย่างในสมัยก่อนชั่วคราว สมัยก่อนนั้นปักษ์ใต้คนไทย คนอิสลาม สามัคคีกลมเกลียวเหนียวแน่นมาก คนอิสลามหลายคนรับราชการเป็นใหญ่เป็นโตใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาท แม้กระทั่งปู่ของครูอี๊ด ซึ่งเรารู้จักกันในนามของพนมเทียน นักเขียนชื่อดัง ท่านก็เป็นขุนวิเศษสุวรรณภูมิ เป็นผู้พบเหมืองทองโต๊ะโมะ แล้วก็ทำการเก็บภาษีส่งให้กับในหลวงรัชกาลที่ ๖ จนกระทั่งได้รับพระราชทานยศเป็นท่านขุน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2017 เมื่อ 02:51 |
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#74
|
||||
|
||||
"บรรดาคนไทยสมัยก่อนจะเป็นพ่อยกแม่ยกให้กับเด็กอิสลาม เมื่อถึงเวลาคนอิสลามมีลูก ก็เอามายกให้คนไทยเป็นลูกบุญธรรม เวลาคนไทยมีลูก ก็ยกให้กับอิสลามเป็นลูกบุญธรรม อยู่ในลักษณะเหมือนกับผลัดกันเลี้ยง เด็กก็โตมาด้วยกัน สนิทสนมกลมเกลียวกัน จนกระทั่งแยกไม่ออกว่าเป็นไทยหรือเป็นอิสลาม ยกเว้นอย่างเดียวก็คือเวลาไปวัด หรือเวลาไปมัสยิดเท่านั้น
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นมานานมาก จนกระทั่งปักษ์ใต้ของเรามีความเหนียวแน่น ใคร ๆ ก็ยอมใจให้กับคนไทยปักษ์ใต้ว่า รักใคร่สามัคคีกลมเกลียวกันมาก จนกระทั่งมีบรรดาผู้ที่ได้รับการศึกษาสมัยใหม่ ส่งลูกหลานไปเรียนที่ตะวันออกกลาง แล้วก็ไปรับเอาแนวคิดใหม่ ๆ เข้ามา หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่าโดนล้างสมองมา แล้วก็มาแบ่งแยกว่า นี่คือแผ่นดินของอิสลาม ที่พระอัลเลาะห์ประทานมาให้แก่อิสลามิกชนเท่านั้น คนอื่น ๆ ที่มาอยู่อาศัย เท่ากับมาแย่งชิงทรัพยากร มาแย่งสิ่งที่คนอิสลามจะพึงมีพึงได้ไป ก็เลยเกิดการเกลียดชัง แล้วก็พยายามที่จะสร้างความแตกแยก พยายามจะทำให้อิสลามเป็นศาสนาบริสุทธิ์ ไม่ให้ปะปนกับชนชาติอื่นขึ้นมา"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2017 เมื่อ 02:53 |
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#75
|
||||
|
||||
"ความสามัคคีกลมเกลียวก็ยังคงมีมาจนกระทั่งปี ๒๕๔๗ มีเหตุการณ์ปล้นค่ายทหารที่ปิเหล็ง หลังจากนั้นการแตกแยกก็มีอย่างชัดเจน เพราะเจตนาของเขาก็คือจะทำให้ประเทศไทยเป็นรัฐอิสลาม โดยเริ่มก่อเหตุจากปักษ์ใต้
เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ทำให้เริ่มเกิดความหวาดระแวงขึ้น โดยเฉพาะการลงมือเข่นฆ่าพระภิกษุสามเณร แต่การลงมือของพวกเขาค่อนข้างจะไร้ศีลธรรม ไม่สมกับเป็นอิสลามิกชน เพราะว่าอาตมาศึกษาข้อปฏิบัติของอิสลามิกชนมาแล้ว มีลักษณะใกล้เคียงกับศีล ๕ ของเราเลย ในเมื่อทำการเข่นฆ่า ก็ไม่ถือว่าเป็นอิสลามิกชนที่แท้จริง แต่เนื่องจากได้รับการล้างสมองมาว่าเป็นสิ่งที่ทำเพื่อพระเจ้า เขาก็ไม่มีปัญญาเพียงพอที่จะพินิจพิจารณาว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นถูกต้องหรือเปล่า ? จึงวางระเบิดบ้าง ยิงบ้าง แม้กระทั่งอิสลามด้วยกัน ที่ตกตายไปมากต่อมากนั้น ส่วนหนึ่งเป็นอิสลามิกชนเช่นเดียวกับเขา แต่อาจจะฝักใฝ่กับทางราชการ หรือว่าฝักใฝ่กับ ‘คนไทย’ ตามที่เขาเรียก หรือถ้าตามที่อิสลามเขาเรียกแล้วแปลมาก็คือ ไปฝักใฝ่กับ ‘พวกวัวพวกควาย’ ก็เลยทำให้ปักษ์ใต้ของเราร้อนรุ่ม ไม่สามารถที่จะกลับไปสู่ความร่มเย็นเหมือนกับสมัยก่อนได้ ก็เพิ่งจะเห็นตอนที่ตูนทำการวิ่งเพื่อหาทุนให้กับโรงพยาบาล ที่คนอิสลามทั้งหลายพร้อมอกพร้อมใจกันออกมามาร่วมกันบริจาค มาต้อนรับ มาให้กำลังใจ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2017 เมื่อ 02:55 |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#76
|
||||
|
||||
"แต่ก็มีคนไทยจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะข้าราชการที่ใช้วาจาแรง ๆ ในลักษณะที่ว่า ไม่ใช่หน้าที่ของตัวเองแล้วไปยุ่งทำไม ? ซึ่งคนประเภทนี้ส่วนใหญ่แล้ว ตัวเองก็ไม่เคยสร้างความเจริญให้แก่สังคม เมื่อเห็นคนอื่นทำให้สังคมดีขึ้น ก็กลายเป็นว่าเดือดเนื้อร้อนใจ เอาแค่ว่าโรงพยาบาลทั้ง ๗ แห่ง ต้องการงบประมาณ ๗๐๐ ล้านบาท ในการพัฒนาโรงพยาบาลให้ทันสมัย มีเครื่องไม้เครื่องมือที่พร้อม เขาก็รับไม่ได้ เพราะว่าถ้าให้เขาของบประมาณจากส่วนกลางแล้วมาทำเมื่อไร จะมีในส่วนที่เรียกว่า ‘เงินทอน’ ไปถึงมือเยอะมาก
ในเมื่อตูนเป็นคนมาทำ ส่วน "เงินทอน" ที่เขาจะพึงมีพึงได้ก็ไม่มี ก็เลยทำให้เขาออกมาพูดจาแรง ๆ แบบไร้สติ ท้ายที่สุดก็โดนสังคมถล่มจมธรณีไป ก็ต้องบอกว่าในเรื่องของบ้านเราเมืองเรา ต้องมีคนกล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ ในลักษณะของตูน ที่ไม่ย่อท้อแม้ว่ากระแสที่ต่อต้านมีมาก แต่ก็พยายามที่จะฝ่าฟันไป ให้เขาเห็นความจริงใจของตัวเอง ว่าไม่ได้ทำเพื่อชื่อเสียงเกียรติยศส่วนตน หากแต่อาศัยชื่อเสียงเกียรติยศส่วนตน ในการชักจูงผู้อื่นให้ร่วมทำงานนั้นให้สำเร็จ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้พวกเราต้องแยกแยะให้ออก เพราะว่าปกติตูนก็มีชื่อเสียงเพียงพอ เป็นที่รู้จักทั่วประเทศอยู่แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องมาทำตรงจุดนี้คนก็รู้จักเขาอยู่แล้ว ยกย่องเขาอยู่แล้ว แต่เขาออกมาทำโดยอาศัยชื่อเสียงเกียรติภูมิส่วนตัว ในการชักจูงผู้อื่นให้ร่วมกันสร้างความดี โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาแบบนี้ เราเพิ่งจะสิ้นในหลวงรัชกาลที่ ๙ ไปไม่นาน ประเทศชาติของเรายังหวั่นไหวระส่ำระสายอยู่ เหมือนอย่างกับครอบครัวที่ขาดเสาหลักไป เมื่อมีคนออกมาชักจูงให้ร่วมกันทำในสิ่งที่ดี ๆ แล้วทุกคนสมัครสมานสามัคคีพร้อมใจกันทำ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่สมควรจะได้รับการยกย่องมากกว่าที่จะตำหนิติเตียน เรื่องพวกนี้เรามีโอกาสก็ไปช่วยกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2017 เมื่อ 02:57 |
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#77
|
||||
|
||||
"อย่างอาตมาเอง โรงพยาบาลทองผาภูมิก็มาขอความช่วยเหลืออยู่เสมอ ๆ เมื่อวานนี้ไปคุมสอบที่โรงเรียนทองผาภูมิวิทยา ผู้อำนวยการก็ยังมาบอกว่า มีโครงการส่งเด็กแข่งขันทางวิชาการระดับประเทศ ถ้าผ่านได้จะขอทุนหลวงพ่อ เพื่อให้เด็กเดินทางไปแข่งขันในระดับโลก
อาตมาบอกว่าถ้าเด็กผ่านได้ก็จะให้ มากเท่าไรก็ไม่เป็นไร สำคัญอยู่ตรงที่ว่า ให้ผลักดันให้เด็กของพวกเราทุกคนมีความรู้ความสามารถที่ใกล้เคียงกัน อย่าให้มี "เด็กรับแขก" แค่ไม่กี่คน ในลักษณะที่ถึงเวลาเป็นตัวแทนไปแข่งขัน เป็นตัวแทนที่จะไปช่วงชิงชื่อเสียงเกียรติภูมิให้กับโรงเรียน แต่ให้นักเรียนทุกคนมีความรู้ความสามารถที่ใกล้เคียงกัน ไม่อย่างนั้นแล้วก็จะกลายเป็นโดดเด่นอยู่แค่ไม่กี่คน แล้วส่วนที่เหลือก็ยังคงใช้การไม่ได้เหมือนเดิม"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2017 เมื่อ 02:58 |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#78
|
||||
|
||||
"โบราณเรามีสุภาษิตว่า มือไม่พายอย่าเอาตีนราน้ำ คุณตูนเขากำลังพายอยู่ ก็มีคนเอาตีนราน้ำอยู่เรื่อย ลักษณะนั้นต้องฟันตีนทิ้งเสีย...!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2017 เมื่อ 02:59 |
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#79
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ส่วนใหญ่วัตถุมงคลของวัด ถ้าราคาสูง ๆ อาตมาจะขอชื่อนามสกุลเจ้าของเก็บไว้ด้วย ใครอ้างว่าได้รับจากอาตมา ถ้าไม่มีชื่อในบัญชีก็จบกันแค่นั้นแหละ..!
ในกระทู้คนมีเงินฯ มีหลายคนอยากได้วัตถุมงคลวัดท่าขนุน ระบุรุ่น ระบุของมา ขอยืนยันว่าไม่มี อะไรที่หมดแล้วคือหมดจริง ๆ ของหลวงปู่หลวงพ่อรูปอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั้งในและต่างประเทศ พูดง่าย ๆ ว่าเป็นที่ต้องการทั่วโลก อาตมายังพอหาให้ได้ แต่วัตถุมงคลวัดท่าขนุนนี้หมดไปแล้วไม่มีปัญญาหา เป็นอะไรที่อนาถมาก..! เวลาเพื่อนพระขอ อาตมาบอกว่าไม่มี ไม่ค่อยมีใครเชื่อหรอก โยมบางคนไปวัดตื๊อจะเอารุ่นนั้นให้ได้ จะเอารุ่นนี้ให้ได้ บอกว่าไม่มี เขาก็ไม่เชื่อ เขาบอกว่าปกติทุกวัดเจ้าอาวาสจะต้องเก็บเอาไว้สัก ๑๐๐-๒๐๐ องค์ ก็เลยอยากจะบอกเขาว่าไม่ทุกวัดหรอก เพราะว่าอย่างน้อยวัดท่าขนุนไม่เคยเก็บ ออกมาเท่าไรก็หมดแค่นั้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-11-2017 เมื่อ 20:51 |
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#80
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "มีใครบอกได้ไหมว่า กุญแจซอลคืออะไร ? รุ่นของอาตมารู้จักแต่กุญแจจีน แล้วไม่ได้เรียกกุญแจ เขารียกว่าประแจ
กุญแจซอลเป็นชื่อของดารา ที่มีข่าวว่าหนีพ่อหนีแม่ไปมีสามี แล้วก็คลอดลูกออกมา ปรากฏว่าโดนตัดพ่อตัดลูก ตัดแม่ตัดลูกกันให้ยุ่งไปหมด ซึ่งเรื่องประเภทนี้ถ้าเราไม่เข้าใจต้นสายปลายเหตุจริง ๆ อย่าไปวิพากษ์วิจารณ์ เพราะว่าเรื่องที่เขาให้เรารู้ทั้งสองฝ่าย ไม่แน่ว่าจะเป็นความจริงทั้งหมด เป็นแค่ส่วนที่เขาให้เรารู้ได้ ส่วนที่เขาไม่ต้องการให้เรารู้แล้วปกปิดอยู่ มีอีกมากเท่าไรเขาไม่ได้บอก ถ้าเราไปด่วนตัดสินว่าฝ่ายพ่อแม่ผิด ฝ่ายดาราผิด หรือไม่ก็ฝ่ายผู้ชายผิดที่ไปหลอกลวงเขา เรานั่นแหละมีโอกาสผิด เรื่องของกระแสต่าง ๆ ในโลกของโซเชียลมีเดียมีอยู่อย่างเดียวก็คือ ต้องใจหนัก ๆ เพียงแต่อาตมาแค่สงสัยว่าทำไมชื่ออย่างนั้น ? ไม่เข้าใจว่าชื่อหมายถึงอะไร มาได้ยินว่าตัวโน้ตก็พอจะนึกออก ไม่รู้ว่าพ่อแม่รักดนตรีมากหรืออย่างไร ? เห็นบางคนวิพากษ์วิจารณ์ไปถึงขนาดว่า โดนทำไสยศาสตร์จนลืมพ่อลืมแม่ ของบางอย่างเราต้องเข้าใจว่า วัยรุ่นทุกคนต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่โดนตีกรอบบังคับอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันพ่อแม่บางคนก็เห็นลูกเป็นสินค้า ถึงเวลาแล้วจะต้องมีกำไร เรื่องพวกนี้ที่เกิดขึ้น เราไม่รู้ความจริงแล้วไปวิพากษ์วิจารณ์ โอกาสผิดมีเกิน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันนี้ข่าวสารต่าง ๆ มาง่าย แต่ความจริงนั้นหายาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-11-2017 เมื่อ 20:53 |
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|