กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องธรรมะ และการปฏิบัติ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 02-02-2012, 08:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,545 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงตาวัชรชัยพอเจอหน้าพระอาจารย์ ท่านดีใจยิ่งกว่าได้แก้ว เสียดายตอนท่านโดดกอดพระอาจารย์ กล้องของนางมารร้ายดันอยู่ในย่ามซะนี่..!

ประโยคแรกก็คือ "เฮ้ย..เล็ก..ค่าตัวแพงมากหรือยังไงวะ? ถึงไม่มีใครเอาตัวไปงานเขาได้ ขอบใจจริง ๆ ว่ะที่มา..คิดถึงฉิ..หา..เลย..!"

นางมารร้ายเองเจอไม้เท้าหลวงตาไปโป๊กหนึ่ง โทษฐานหายหัวไปจากยุทธจักร มัวแต่ติดหนับอยู่ที่พระอาจารย์..!

ทุกท่านคงจะเห็นแล้วว่า พระอาจารย์มีเครดิตในสายตาของหลวงตาขนาดไหน พี่ ๆ มากันเป็นกระตั้ก แต่หลวงตากราบเท้าขอหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดสระเกศ จุดเทียนชัย และกำหนดให้พระอาจารย์จุดเทียนสัตตบริภัณฑ์ในพิธีพุทธาภิเษก เขาเรียกว่าพี่น้องย่อมรู้มือกันว่าใครเจ๋งแค่ไหน..!


คัดลอกจากเว็บกระโถนข้างธรรมาสน์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-06-2012 เมื่อ 01:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 02-02-2012, 08:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,545 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เคยบอกว่า คนเราเลือกที่จะทำในสิ่งที่เขาคิดว่าถูกต้องเสมอ แต่ผลการคิดต่างกันเพราะสติปัญญาต่างกัน ผู้ร้ายฆ่าคนก็คิดว่าเขาทำถูก..เพราะเขามีสติปัญญาแค่นั้น

คัดลอกจากเว็บกระโถนข้างธรรมาสน์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 02-02-2012, 08:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,545 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์บอกว่า แก้วจักรพรรดิที่หลวงพี่เมตตา(หลวงพี่เอ)ถวายให้ท่านอาจารย์หาทุนสร้างเขื่อน มี ๑๓ แบบด้วยกัน จำนวนสูงสุดแบบละ ๘๓ องค์ จำนวนต่ำสุด ๘ องค์ค่ะ มีแบบดาวเท่านั้นที่เป็นเพชรเขาพระงาม นอกนั้นเป็นแก้วคริสตัลของสวารอฟสกี้ รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น ๙๕,๖๐๐ บาท ขออนุโมทนามาเป็นอย่างสูงค่ะ

เรื่องเหรียญทำน้ำมนต์หรือวัตถุมงคลอื่น ๆ ก็ตาม ยิ่งทำด้วยวัสดุมีค่าสูงเท่าไร เทวดาที่รักษาก็ยิ่งต้องมีศักดานุภาพมากขึ้นเท่านั้น ปกติเหรียญทำน้ำมนต์นั้น ท่านให้ทำด้วยทองคำ นาก หรือ เงิน แต่เนื่องจากราคาสูงมากเกินไป จึงได้ขอพระท่านเป็นชุบทองแทน ดังนั้นจึงมีข้อแม้ว่าห้ามทองลอก ถ้าลอกจะเสื่อมอานุภาพทันที แต่ถึงลอกก็เอาไปชุบทองใหม่ได้ แล้วปลุกเสกด้วยอิติปิโสสามห้อง ๑๐๘ จบ นะมะพะทะ ๑๐๘ จบ ก็จะใช้ได้เหมือนเดิมค่ะ

อิติ สุกขติ สุกขโต อิติ สุคติ สุคโต คาถาทำน้ำมนต์อาบเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง หรือทำน้ำมนต์พรมรถ - เรือที่ออกใหม่ หรือภาวนาขณะขับขี่ยานพาหนะ จะได้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ เป็นคาถาของพระสารีบุตรมหาเถระเจ้าค่ะ

วัตถุมงคลที่เป็นพระแร่เหล็กน้ำพี้นั้น ท่านอาจารย์สร้างขึ้นอย่างละ ๒,๐๐๐ องค์ เข้าพิธีทั้งเสาร์ห้า และพิธีที่วัดเขาวงมาแล้ว อาราธนาติดตัวไว้ใช้ได้เลยค่ะ ปลุกด้วยคาถา "อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่มะอะอุนี้เถิด "

เหรียญทำน้ำมนต์รุ่นนี้ พระท่านว่าเป็นเหรียญครอบจักรวาล อธิษฐานใช้ได้ในทุกด้าน เพียงแต่เน้นในการทำน้ำมนต์รักษาโรคเท่านั้น ที่ยันต์บางส่วนไม่เหมือนกับของทางวัดท่าซุง เพราะการทำเหรียญน้ำมนต์ของวัดท่าซุงนั้น "ท่านผู้การสถาพร" ไปให้ช่างทำแผ่นเงินทำน้ำมนต์ และเหรียญทำน้ำมนต์(แบบสี่เหลี่ยม) มาอย่างละ ๗๒ องค์ ช่างเขาว่าการเขียนอักขระทับเส้นยันต์นั้นผิด (ผิดของเขา) เขาเลยเพิ่มตัว มะ กับ อะ มาอีก ๒ ตัว จะได้ลงเต็มทุกช่องพอดี หลวงพ่อฤๅษีท่านเห็นว่าทำมาแล้ว ก็ต้องปล่อยเลยตามเลย เมื่อพระท่านเสกให้ก็ใช้ได้เหมือนกันค่ะ

ท่านที่สงสัยในหลวงพี่เมตตา กับหลวงพี่อุเบกขา ท่านอาจารย์เฉลยว่า หลวงพี่เมตตายาว หลวงพี่อุเบกขาใหญ่ เมื่อยาวรวมกับใหญ่ย่อมใช้งานได้ดีเป็นพิเศษค่ะ


คัดลอกจากเว็บกระโถนข้างธรรมาสน์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-02-2012 เมื่อ 18:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 03-02-2012, 12:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,545 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านอาจารย์เหมือนบอกทางอ้อมว่า ถ้าพวกเราขาดสติ ก็อาจทำอะไรให้ท่านเดือดร้อนได้ ท่านบอกว่าพระที่ทรงฌานได้ดี เวลาจะไป ท่านจะป่วยหนักแล้วไปเลย ไม่เคยแสดงอาการป่วยเล็กน้อยให้เห็น เพราะท่านใช้กำลังฌานควบคุมร่างกายได้

ท่านต้องการสงเคราะห์คนเป็นสำคัญ จึงไม่ยอมแสดงอาการป่วยให้คนที่มาพึ่งนั้นขาดกำลังใจ คนจึงไม่รู้ว่าท่านป่วยมาก จนกระทั่งร่างกายแย่สุด ๆ จนล้มหมอนนอนเสื่อ ก็ไม่เหลือเวลาให้เยียวยาแล้ว

ฉะนั้น..ถ้าอยากให้ท่านอยู่กับเรานาน ๆ ก็ต้องพยายามอย่ารบกวนท่าน รักษาสติและกำลังใจตัวเองให้ดี นางมารร้ายสังเกตว่าถึงท่านจะเหนื่อยแค่ไหน ถ้าคนต้องการกำลังใจ ท่านจะไม่แสดงอาการเหนื่อยให้เห็น

ดังนั้นถ้าเราเข้มแข็ง ไม่ต้องให้ท่านมากังวลรักษากำลังใจ ก็จะเป็นการช่วยให้ท่านได้มีเวลาพักผ่อนพักฟื้นร่างกายมากขึ้น จะได้อยู่เป็นที่พึ่งเราไปนาน ๆ อย่างไรคะ

คัดลอกจากเว็บกระโถนข้างธรรมาสน์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-02-2012 เมื่อ 12:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 03-02-2012, 12:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,545 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

งานนี้ประทับใจคำปรารภของพระอาจารย์ตอนทำวัตรเช้าวันเข้าพรรษาค่ะ ท่านพูดยกตัวอย่างให้พระฟังว่า ขณะนี้ท่านกำลังถูกมารพยายามเล่นงานอย่างหนัก เพราะท่านตั้งใจจะทำวัดท่าขนุนให้เป็นแหล่งบุญใหญ่ เป็นที่พึ่งทางใจทั้งของพระและฆราวาส พวกเขาจึงต้องพยายามขวางอย่างหนัก

เขาเล่นท่านตรง ๆ ไม่ได้ ก็พยายามหันไปใช้คน สัตว์ สิ่งของรอบข้างกลั่นแกล้งท่านอยู่ทุกครั้งที่มีจังหวะ ให้ท่านไม่มีเวลาพัก..เมื่อเหนื่อยและเพลียมาก ๆ จะได้ขาดสติ เขาจะได้เข้าแทรก เช่น ท่านสั่งให้พระกวาดลานวัด พอจะงีบสักหน่อย พระองค์หนึ่งโดนมารดลใจ ให้กวาดแต่รอบกุฏิของท่าน มาถามภายหลังว่าไม่รู้หรือว่ารบกวนอาจารย์? ท่านว่าก็รู้เหมือนกัน..แต่ทำไมไม่คิดจะย้ายไปกวาดที่อื่นก็ไม่รู้

กำลังจะงีบ ๆ เดี๋ยวก็มีคนมาตะโกนเรียก..หนังสือพิมพ์มาแล้ว นางมารร้ายเจอจัง ๆ ก็ตุ๊กแกผีบ้าค่ะ ได้ยินมันร้องลั่นตั้งแต่กุฏิเจ้าที่ที่อยู่ถัดไปตั้งสองหลัง พอเดินเอาเอกสารไปวางให้ถึงรู้ว่าดังมาจากในกุฏิพระอาจารย์นี่เอง มองไปก็เห็นท่านนอนบ่นงึมงัมอยู่ น่าสงสารจังค่ะ

ยังไม่พอ..เช้าวันรุ่งขึ้นที่จะมีงาน ท่านเกิดถ่ายท้องหมดเรี่ยวแรง ไมค์ตั้งโต๊ะที่เคยใช้ประจำดันหอนไม่ยอมหยุด ทำให้ท่านต้องออกแรง ทั้งที่ก็จะไม่เหลือแรงให้ออกอยู่แล้ว ถือไมค์เก่าคุยกับญาติโยม (ท่านว่ามารที่ตามกวนท่านนี้เป็นคู่ปรับเก่ากันมาก่อน..ผลัดกันแพ้ผลัดชนะมาหลายยกแล้ว)

ท่านเตือนพระว่า..อย่าคิดว่าเป็นพระแล้วมารจะแทรกไม่ได้ ขนาดพรหมยังโดนมารแทรกได้เลย ดูอย่างตอนที่พระพุทธเจ้าเทศน์ให้ท้าวพกพรหมฟังนั่นปะไร ท้าวพกพรหมท่านมีบุญมาก ตายจากพรหมก็เกิดเป็นพรหมต่อ หลายครั้งเข้าจนท่านคิดว่าท่านเป็นอมตะ พอพระพุทธเจ้าเทศน์ให้ฟังว่าการเป็นพรหมนั้นไม่เที่ยง ยังมีการแตกดับ ก็ยังอุตส่าห์มีพรหมองค์หนึ่งลุกขึ้นมาเถียงพระพุทธเจ้าว่าไม่จริง..พกพรหมนั่นแหละเลิศสุดแล้ว

ท่านยังยกตัวอย่างพระองค์หนึ่งในวัดท่าขนุน ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นที่รักของคนทั่วไป ถึงคราวกรรมเข้า วันนั้นอาจจะเพราะศีลพร่องไปหน่อยด้วย มารเข้าสิงใจ ท่านน้อยใจที่โดนเพื่อนในวัดต่อว่าเลยไปผูกคอตาย

ฉะนั้น..ขอให้ทุกท่านพยายามระมัดระวังสติให้ดี รักษาศีลให้ครบถ้วน เพื่อจะช่วยป้องกันไม่ให้พวกมารเข้าแทรกใจ การที่ทุกท่านพยายามตั้งมั่นอยู่ในความดี ไม่ใช่เป็นการทำเพื่อตัวเองอย่างเดียว แต่เป็นการทำเพื่อรักษาเกียรติคุณของครูบาอาจารย์อันมีหลวงพ่อสาย เป็นต้น และเป็นการทำเพื่อวัด เพราะเมื่อคนเห็นว่าพระเราดี..วัดเราดี..เขาก็แห่กันมาทำบุญอย่างที่เห็น วัดอื่นมีเยอะแยะทำไมเขาไม่ไป..ถามตัวคุณเองสิว่าวัดอื่นมีเยอะแยะทำไมไม่ไปบวช ทำไมมาเลือกวัดนี้

และท้ายสุด..การรักษาความดีเป็นการช่วยพระศาสนาด้วย เมื่อคนหันมาพึ่งพระพึ่งวัดแล้วดี..มีความสุข เขาก็จะพากันมามากขึ้น ๆ เข้าถึงความดีกันมากขึ้น ๆ ทั้งศาสนาและประเทศชาติก็จะเจริญขึ้น


คัดลอกจากเว็บกระโถนข้างธรรมาสน์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-02-2012 เมื่อ 12:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 143 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 27-02-2012, 14:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,545 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พูดถึงเรื่องแก้วจักรพรรดิ พระอาจารย์เคยพูดย้ำเสมอ ๆ ว่า พระเณรควรจะมีติดตัวไว้ เมื่อถึงเวลาถึงวาระจะเป็นที่พึ่งแก่คนเขาได้

แก้วจักรพรรดิองค์ต้นที่รับมาจากหลวงปู่ชุ่ม โพธิโก วัดวังมุยนั้น เป็นของพระเจ้าจักรพรรดิเลี้ยงคนได้ ๔ โลก คือ อุตตรกุรุทวีป อมรโคยานทวีป ชมพูทวีป ปุพพวิเทหทวีป แล้วแก้วจักรพรรดิของหลวงพ่อมีอานุภาพ ๙๐ % ขององค์เดิมถึงแม้ว่าจะเลี้ยงคนไม่ถึง ๔ โลกก็ตาม แต่ก็ใกล้เคียง

ผมเรียนถามพระอาจารย์ว่า เวลาท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลท่านทำอย่างไร ท่านขอพระท่านว่าขอให้มีอานุภาพเหมือนของหลวงพ่อทุกประการ

คัดลอกจากเว็บกระโถนข้างธรรมาสน์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-02-2012 เมื่อ 19:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 28-02-2012, 08:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,545 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

นำคำสอนหลังทำวัตรเช้า วันที่ ๒๓ ต.ค. ๔๙ มาฝากค่ะ

ใจหรือจิตของคนเรา จะเสวยกุศลหรืออกุศลได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ถ้าจิตเป็นกุศล..อกุศลก็จะแทรกไม่ได้ หรือถ้าจิตเป็นอกุศลอยู่..ความเป็นกุศลก็เข้าไม่ถึงเช่นกัน

นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมต้องตื่นแต่เช้า เพราะสำหรับนักปฏิบัติแล้ว ตื่นยิ่งเช้ายิ่งดี ผมเองตอนฝึกกรรมฐานผมตื่น ๐๒.๕๕ น. ใช้เวลาทำธุระส่วนตัว ๕ นาที แล้วตั้งแต่ตี ๓ ถึง ตี ๕ จะภาวนา ใช้หนังสือ ๔ เล่ม คือ คู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน , กรรมฐาน ๔๐ , ปฏิปทาของท่านผู้เฒ่า , และมหาสติปัฏฐานสูตร ผมเอาคำสอนในหนังสือเป็นคำภาวนา จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมจำเนื้อหาในหนังสือได้หมดทุกคำว่าอยู่ตรงไหน หน้าไหน

เมื่อครบเวลาแล้ว ก็จะพยายามทรงอารมณ์นั้นไว้ให้ได้ตลอดวัน ถ้าทำดังนี้ได้..ดวงจิตจะชินกับอารมณ์ที่เป็นกุศล ต่อให้มีความชั่วเจริญงอกงามอยู่แล้ว..ก็จะเจริญต่อไปไม่ได้ การปฏิบัติก็จะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

คัดลอกจากเว็บกระโถนข้างธรรมาสน์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2012 เมื่อ 10:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 28-02-2012, 09:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,545 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เอาธรรมะจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝากค่ะ

พระอาจารย์บอกว่า การแสดงความรักในหลวงที่ดี ก็คือ การทำงานในความรับผิดชอบตามหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ

ท่านยังว่า แก่นของพระพุทธศาสนาก็คือสติ

และด้วยขณะนี้มีพุทธศาสนานิกายอื่น ๆ มากมาย ที่บางนิกายก็ไม่เน้นพระวินัย ท่านอาจารย์จึงกล่าวถึงนิกายเถรวาทของเราที่เน้นพระวินัยว่า พระวินัยนั้นคือรากแก้วของพระพุทธศาสนา หากปราศจากรากเสียแล้ว จะแก่นหรืออะไรก็ไม่มีทั้งนั้น พระวินัยก็คือศีล ก็ถ้าไม่มีศีลเสียแล้วสมาธิและปัญญาก็มิอาจที่จะตั้งอยู่ได้


คัดลอกจากเว็บกระโถนข้างธรรมาสน์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2012 เมื่อ 10:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 115 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 28-02-2012, 09:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,545 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ใครที่ร้อนใจเพราะข่าวการเมืองตอนนี้ ให้หมุนไปดูช่องอื่นก็ไม่มีอะไรแล้ว การได้เห็น การได้ยิน เป็นของร้อน เพราะพอรับมาแล้วก็เอามาปรุงแต่งด้วยกิเลส แล้วก็ทำให้กิเลสเพิ่มขึ้นอีก

ทำอย่างไรจะรักษาใจให้เป็นสุข ไม่ให้กิเลสมาครอบงำ ก็ต้องระวังไม่เอาไฟเข้ามาเผาใจ โดยระวัง ตา หู จมูก ลิ้น ให้ดี อย่าไปรับเอาของร้อน ต้องรู้จักหยุดคิดหยุดปรุงแต่ง ได้ยินก็สักแต่ว่าได้ยิน เห็นก็สักแต่ว่าเห็น แล้วปล่อยวางให้ได้

การฟัง โดยเฉพาะในสิ่งที่คลุมเครือ ไม่ชัดเจน ทำให้ใจนำมาปรุงแต่งต่อ เกิดความวิตกกังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง เกิดความร้อนรุ่ม ขอบอกว่าประเทศไทยนี้ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก อีก ๕ - ๖ ปีก็ดีเอง

ข่าวภายนอกเต็มไปด้วยการโฆษณาชวนเชื่อ โดยเฉพาะในทางการเมือง ทั้งนี้เพราะความเชื่อของคนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าเขาได้รับความเชื่อถือจากเราแล้ว จะทำอะไรเราก็สนับสนุนเขา เขาจึงต้องพยายามช่วงชิงความเชื่อถือจากเราให้ได้ รูปในข่าวถือระเบิดอยู่ในมือชัด ๆ เมียเขายังบอกว่าเป็นพวงกุญแจ..ไปของเขาจนได้

นี่เป็นเรื่องปกติ บ้านเมืองยิ่งเจริญคนก็ยิ่งห่างจากศาสนา คนยิ่งห่างจากศาสนา จิตใจก็ยิ่งร้อนรุ่ม ที่น่าเป็นห่วงคือเด็กรุ่นใหม่ ทำอย่างไรจะให้เขาเข้ามายึดศาสนา จิตใจจะได้มีที่พึ่งเป็นเบื้องต้น ไม่ไหลไปตามกระแสโลก จนรู้สึกเคว้งคว้างไม่รู้ว่าตัวเองเกิดมาทำไม มีชีวิตไปเพื่ออะไร เกิดสับสนขึ้นมาก็พาลจะบ้าคลั่งไล่ฆ่าคนอย่างที่เห็นเป็นข่าว

ฉะนั้น..จะดูจะฟังข่าวอะไร ก็ขอให้ใช้ปัญญาพิจารณาประกอบ อย่าใช้อารมณ์ไปปรุงไปแต่ง จนมีอารมณ์ไปในทางที่เขาต้องการ ก็รู้ว่าร้อนก็อย่าไปรับเข้ามา..ก็จบ แล้วลองใช้ปัญญาพิจารณาไป ก็จะค่อย ๆ เห็นความจริงกันเอง


คัดลอกจากเว็บกระโถนข้างธรรมาสน์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2012 เมื่อ 10:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 111 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 28-02-2012, 10:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,545 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำหรับคนที่พลาดไปงานทอดกฐินครั้งนี้นะคะ ท่านอาจารย์กล่าวถึงพระสมเด็จศรีอินทราทิตย์ ที่ปลุกเสกตั้งแต่เมื่อเสาร์ห้าที่ผ่านมา ว่าพระรุ่นนี้ท่านให้เขาเผานานเป็นพิเศษ เพื่อให้เนื้อแกร่งเป็นเซรามิก เผื่อเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ พระจะได้ปลอดภัยค่ะ ฮ่า ๆ

ในส่วนของคน ท่านว่ากรรมที่เคยไปตีบ้านตีเมืองเขาไว้ คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ท่านจึงขอชีวิตไว้ ถ้าต้องเสียหายก็ขอเป็นแค่ทรัพย์สินค่ะ

ท่านบอกว่า ปกติเวลาปลุกเสกก็ไม่เคยขออะไร คราวนี้เห็นคนวิตกเรื่องภัยพิบัติกันมาก ท่านเลยขอให้พระรุ่นนี้สามารถป้องกันภัยอันเกิดจากธาตุทั้ง ๔ ได้ ท่านว่างานนี้ หลาย ๆ คนที่เป่ายันต์จนด้านไม่รู้สึกอะไร...ก็ยังรู้สึกมึน ๆ หนัก ๆ หัวกัน ก็เพราะขอจนขนาดนั้นนั่นแหละค่ะ


คัดลอกจากเว็บกระโถนข้างธรรมาสน์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2012 เมื่อ 10:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 28-02-2012, 10:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,545 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เราจะเกิดเป็นคนกันมาได้ ก็ต้องมีคุณธรรมของความเป็นคนมาก่อน การทำผิดศีล ๕ ทำให้คุณธรรมตรงนี้ลดลง ฉะนั้นใครที่ทำผิดศีล ๕ ก็หมายถึงว่าเขากำลังทำลายความเป็นมนุษย์ของตนเองให้ ลดลงไปเรื่อย ๆ ทำให้ตัวเองต้องไปเกิดในภพภูมิที่ต่ำกว่าคนลงไปเรื่อย ๆ


คัดลอกจากเว็บกระโถนข้างธรรมาสน์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-02-2012 เมื่อ 10:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 112 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 28-02-2012, 10:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,545 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คำเทศน์ก่อนฝึกกรรมฐานช่วงนี้ พระอาจารย์ท่านเน้นให้เราปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลค่ะ

เราก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าพวกเราโชคดีเพียงไรที่ได้เกิดมาภายใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์ที่ทรงทศพิธราชธรรมเช่นนี้ หากมองย้อนไปในอดีต และมองไปในประเทศอื่น ๆ ที่มีพระมหากษัตริย์ ก็จะเห็นชัดว่าพระองค์ทรงเป็นพระราชาผู้เปี่ยมด้วยพระบารมีอันยิ่งใหญ่เพียงไร

นับตั้งแต่ทรงปกครองบ้านเมืองมาหกสิบปี มีโครงการในพระราชดำริเกิดขึ้นมากมาย เฉลี่ยแล้วแทบว่าจะสัปดาห์ละ ๑ โครงการ พระองค์ท่านเหน็ดเหนื่อยเพื่อพวกเรามาตลอด ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ทำให้ท่านเป็นที่รักและมีอิทธิพลยิ่งต่อปวงชนชาวไทย เรื่องใหญ่ร้ายแรงเพียงไร พระองค์ท่านเอ่ยปากเพียงคำเดียวทุกฝ่ายก็พร้อมจะหยุด เป็นที่อัศจรรย์ใจแก่ชาวต่างประเทศ

พระราชาแห่งบรูไนตรัสยกย่องว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของประเทศไทยนั้น เป็นเกียรติเป็นศรีแก่สถาบันกษัตริย์ทั่วโลก และพระองค์ทรงเป็นแบบอย่างให้กษัตริย์ในหลายประเทศดำเนินรอยตาม ทำให้เกิดความหวังที่จะพลิกฟื้นความศรัทธาในสถาบันกษัตริย์จากประชาชนในประเทศที่เคยมี

พวกเรามีแก้วมีค่าในมือ ก็ควรที่จะรู้วิธีระวังรักษาให้อยู่กับเรานาน ๆ สิ่งที่จะทำให้คนอายุแปดสิบมีกำลังใจที่จะอยู่ต่อไปเพื่อลูกหลาน ก็คือความประพฤติดีประพฤติชอบนั่นเอง ถ้าเราทะเลาะกันพ่อคงไม่มีกำลังใจจะอยู่ต่อ ถ้าเราขยันหมั่นทำดีเพื่อชาติกันมาก ๆ ท่านก็คงสุขใจ ทำให้สุขกาย อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้เราไปนาน ๆ

ดังนั้น..ก็ขึ้นอยู่กับพวกเราว่าจะขยันทำความดีกันเพียงไร ตั้งแต่นี้ลองตั้งใจถือศีล ๘ ถ้าไม่ไหวก็ศีล ๕ นั่งสมาธิสักวันละครึ่งชั่วโมงเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล จะทำกันได้ไหม ?


คัดลอกจากเว็บกระโถนข้างธรรมาสน์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 28-02-2012 เมื่อ 10:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 28-02-2012, 10:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,545 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

นางมารร้ายเคยถามพระอาจารย์ว่า ถ้าเราเลือกฤกษ์ดีออกรบ ฝ่ายข้าศึกออกรบวันเดียวกับเรา แล้วใครจะชนะละคะ ?

พระอาจารย์ท่านหัวเราะตอบว่า ก็ต้องเราสิ..เพราะเรารู้ เราบูชาบวงสรวงด้วยความเคารพ แต่เขาไม่รู้ ไม่ได้ตั้งใจ

นี่แหละค่ะเรื่องของฤกษ์ยาม ถ้าเลือกฤกษ์ยามดี ไหว้พระก่อนออกเดินทาง แต่ดันไปไม่ทันเครื่องบิน ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเที่ยวบินนั้นอาจจะมีปัญหาก็ได้นะคะ..ฮี่..ฮี่..


คัดลอกจากเว็บกระโถนข้างธรรมาสน์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 122 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 29-02-2012, 10:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,545 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ศาสดานอกศาสนาที่ชื่ออารกะ ท่านบอกว่า
ชีวิตเหมือนต่อมน้ำ ผุดขึ้นมาก็แตกโป๊ะไปเลย
ชีวิตเหมือนรอยไม้ขีดลงในน้ำ วูบเดียวก็หายไปเลย
ชีวิตเหมือนลำธารไหลจากภูเขา พรวดเดียวก็ผ่านหน้าไป
ชีวิตเหมือนโคที่เขานำไปฆ่า ตายแน่ ๆ ไม่พ้นความตายเด็ดขาด
ชีวิตเหมือนน้ำค้าง โดนแดดก็ระเหยหมดไปแล้ว

ยังจะไปคิดว่าอายุขัย ๑๐๐ ปี ตอนนี้เหลือแค่ ๗๕ ปี เป็นเวลาที่นานแล้ว มันนานของเรา ลองไปเปรียบกับอายุของหินผา ต้นไม้ก็ได้ ไม่ต้องไปเปรียบถึงขนาดอายุของจักรวาล อายุของพรหม เทวดาท่านหรอก มันเศษเสี้ยวธุลีเดียวเท่านั้น จะตายลงไปวันไหนก็ไม่รู้

รอบข้างมีแต่ภัยอันตรายจะพาเราสิ้นชีวิตลงไปได้ทุกเวลา ถ้าไม่ฉวยโอกาสที่มีอยู่น้อยนิดสร้างความดีให้แก่ตัวเองให้มากที่สุด การที่จะเวียนตายเวียนเกิดเพื่อทุกข์ทนก็จะยาวไปไม่มีที่สิ้นสุด แล้วการเวียนตายเวียนเกิดเหมือนกับทางลาดชัน มีโอกาสที่จะไถลลงได้มากเกิน ๘๐% นึกถึงตรงจุดนี้จะรู้ถึงความน่ากลัวของวัฏสงสาร เผลอเมื่อไรก็ไม่รอด เพราะฉะนั้นใช้เวลาทุกเวลานาทีให้มีค่าที่สุด ทำอย่างไรที่จะให้เราไปให้พ้นให้ไกลที่สุด


คัดลอกจากเว็บกระโถนข้างธรรมาสน์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-02-2012 เมื่อ 19:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 106 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 29-02-2012, 10:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,545 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมเด็จพระสังฆราชวัดสระเกศ ตอนนั้นท่านอายุ ๙๐ ปี สมเด็จพระสังฆราชกิตติโสภณมหาเถระ วัดเบญจฯ ทำบุญฉลองอายุ ๗๒ ปี สมเด็จพระราชาคณะก็ไปกันหมด สมเด็จพระสังฆราชตอนนั้นยังเป็นสมเด็จพระราชาคณะท่านก็ไป ไปตอนฉันเพลท่านก็คุยกัน

ท่านก็บอกกับเพื่อน ๆ สมเด็จฯ ด้วยกันว่า "ผมตรวจดูดวงผมแล้ว ผมจะได้เลื่อนอีกขั้นหนึ่ง" จริง ๆ สมเด็จพระราชาคณะไม่มีเลื่อนสูงกว่านั้นหรอก นอกจากเป็นพระสังฆราช แล้วรายที่นั่งอยู่อายุแค่ ๗๒ พระคุณท่าน ๙๐ แล้ว หลวงพ่อพระสังฆราชวัดเบญจฯ ฉุนขาดเลย แกล้งเหน็บไปว่า "สงสัยจะเลื่อนเข้าโกศกระมัง ?"

ปรากฏว่าหลังจากนั้นไม่นาน คนอายุ ๗๒ หัวใจวาย ปล่อยให้คนอายุ ๙๐ เป็นพระสังฆราชไปสองปีกว่า มรณภาพตอน ๙๒ กว่า ๆ สมเด็จพระสังฆราช(อยู่) ญาโณทัยมหาเถระ ท่านเป็นพระที่ไม่ถือตัว

จำไว้...พระดีไม่มีถือตัวหรอก เวลาเขามานิมนต์จะยากดีมีจนอย่างไรก็ตามถ้าท่านว่างท่านก็รับ รับเสร็จแล้วก็ไปสงเคราะห์เขา บางทีอาแป๊ะมานิมนต์ก็ไปกับท่าน เขาก็ไม่มีรถยนต์มารับ ก็ไม่เป็นไรหรอก เอาซาเล้งก็ได้ ก็เรียกมา ถึงเวลาก็ขึ้นสามล้อไป เล่นเอาพวกเจ้าหน้าที่สังฆาธิการต่าง ๆ ที่ทางกระทรวงเขาส่งมาหัวเสียไปตาม ๆ กัน เป็นพระสังฆราชไม่ได้มีเกียรติมีศักดิ์ศรีอะไรเลยหรือ...ไปขี่สามล้ออย่างนั้น

สามล้อยังดี มีอยู่เที่ยวหนึ่งอาแป๊ะอีกคนมานิมนต์ ท่านก็บอกว่า "ไป..บ้านอยู่ไหนล่ะ ?" อาแป๊ะก็บอกว่าอั๊วไม่มีรถมารับนะ "เฮ้ย...ไม่เป็นไร ขี่หลังลื้อไปก็ได้" ตกลงอาแป๊ะก็แบกสมเด็จพระสังฆราชขึ้นหลังไปอย่างกับเด็ก เด็กเขาเล่นขี่ม้าส่งเมืองกันใช่ไหม ? ท่านก็ไปของท่านอย่างนั้น

ท่านรักษากำลังใจคน เพราะว่ากำลังใจคนถ้าหากเกาะพระดีหน่อยเดียว ได้ประโยชน์เขามหาศาลไม่รู้จบจริง ๆ จะกี่ชาติกี่ภพก็เป็นเหตุเป็นปัจจัยให้ตัวเองไม่พ้นห่างจากความดี ท่านก็ไปสงเคราะห์เขาอย่างนั้น ไปถึงบางทีเขาเปิดร้านชำ ข้าวของแน่นไปทั้งร้านเลย ไม่มีที่จะสวดมนต์ ท่านบอกไม่เป็นไรหรอก ตรงด้านหน้าร้านเป็นทางเท้าอยู่หน่อยหนึ่ง นั่งตรงนั้นก็ได้ ปูเสื่อลงไปนั่งสวดตรงนั้น ในสมัยนี้เขาทำกันไหมล่ะ ?

คัดลอกจากเว็บกระโถนข้างธรรมาสน์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 01-03-2012 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 122 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:31



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว