กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 11-08-2012, 08:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ส่วนใหญ่แล้วเขาไม่เข้าใจในเรื่องของพระวินัย เพียงแค่ว่ามีศรัทธาที่จะบวช ก็คิดว่าบวชแล้วจะไปอยู่ที่ไหนก็ได้ ยังต้องศึกษาเกี่ยวกับพระธรรมวินัย ตลอดจนกระทั่งวิธีวัตร กิจวัตร อาคันตุกวัตรต่าง ๆ ให้เข้าใจทั่วถ้วน รู้ครบครันก่อนแล้วถึงจะไปได้ ถ้าหากว่า ๕ พรรษาไปแล้ว อาจารย์เห็นว่ายังรู้ไม่ครบก็จะยังไม่ปล่อยไป เขาเรียกว่ายังไม่ได้นิสัยมุตตกะ ยังต้องอยู่กับครูบาอาจารย์เพื่อศึกษาต่อ

แต่นี่หัวหน้าทีม ๒ พรรษา ที่เหลือพระใหม่ล้วน ๆ ไม่รู้มากันได้อย่างไร พูดง่าย ๆ ว่ามาด้วยใจจริง ๆ เลย แล้วถามว่าอาจารย์เจ้าสำนักไม่ได้มาหรือ ? เขาบอกว่าอาจารย์จะนั่งรถไปรอที่ด่านเจดีย์สามองค์ ลูกศิษย์เดินจากนนทบุรีไปถึงโน่น

สมัยก่อนก็มีพระครูของวัดมหาธาตุรูปหนึ่ง ที่ตอนหลังโดนจับสึกไปเพราะว่าชอบแต่งตัวเป็นทหารพันเอกไปเที่ยวไนต์คลับ นั่นเขาจะจัดธุดงค์ ออกกันทีละ ๓๐๐ รูป อาตมาเคยไปเจอกลางป่าอยู่ครั้งหนึ่ง ไม่ได้เจอขบวนธุดงค์หรอก เจอแต่ร่องรอยที่ท่านไป เดินตามท่านไปไม่นานเก็บขยะได้เป็นย่ามเลย โดยเฉพาะทำให้อาตมาหลงทาง คนเป็นร้อย ๆ เดินพร้อม ๆ กัน ย่ำราบเป็นหน้ากลอง ทางเล็ก ๆ ที่อาตมาเคยเดินแล้วแยกเข้าป่า โดนเหยียบหายหมดจนหาทางไม่เจอ

การธุดงค์หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า ธุดงค์ชั้น ๑ ไปรูปเดียว ธุดงค์ชั้น ๒ ไป ๒ รูป ธุดงค์ชั้น ๓ ไป ๓ รูป มากกว่านั้นไม่ต้องไปแล้ว ไปคุยกันมากกว่า ไม่ได้คิดจะไปปฏิบัติแล้ว ส่วนอาตมาตอนหลังก็เคยชินกับการไปไหนคนเดียว บางทีลูกศิษย์ก็ถามว่า ทำไมอาจารย์ไม่ให้ใครตามไปบ้าง อาตมาก็เลยบอกเขาว่า เวลาวิ่งหนีอะไรจะได้ไม่ต้องอายเขา แต่ความจริงแล้วไม่ใช่หรอก..รำคาญที่เขาตามไม่ทันแล้วอาตมาต้องไปรอเขาอีก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2012 เมื่อ 11:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 12-08-2012, 19:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แม่ผมป่วยเป็นโรคกระดูก ป่วยมาประมาณเดือนหนึ่ง มีโอกาสจะหายไหมครับ ?
ตอบ : คนแก่มีแต่จะทรุดลงเรื่อย ๆ โอกาสดีขึ้นไม่มี ภาษาโบราณใช้คำว่า มีแต่ทรงกับทรุด คำว่าทรงก็คืออยู่ตัว และก็ทรุดซึ่งเป็นเรื่องปกติ

ถาม : ผมกำลังจะทำธุรกิจส่งออกเกี่ยวกับผลไม้ครับ ?
ตอบ : กติกาเขายุ่งมากเลยนะ โดยเฉพาะเกี่ยวกับการควบคุมความสะอาด ถ้าคุณทำตามกติกาเขาได้ก็ดีเพราะวัตถุดิบบ้านเรามีมาก ที่อื่นเขาไม่ค่อยมี เพราะฉะนั้น..ต้องควบคุมกันเต็มที่เลย

แต่ระวังจะเจออย่างสถานที่หนึ่ง เขาผลิตภาชนะพลาสติกเมลามีน เป็นพวกบรรจุภัณฑ์ พอเขามาตรวจสอบทีไรจะเจอที่ชำรุดบกพร่องทุกที จนลูกค้าค่อย ๆ หายไป ๆ เขาก็เลยถามว่าเกิดอะไรขึ้น ปรากฏว่าโรงงานตั้งทับป่าช้าเก่าอยู่ ผีช่วยกันแกล้ง เราคงดวงไม่เฮงขนาดนั้นหรอก


ถาม : ตัวผมมีโอกาสจะทำตรงนี้สำเร็จไหม ?
ตอบ : ทำ..อย่าถาม ถ้าบอกว่าไม่สำเร็จแล้วคุณไม่ได้ไปทำ เป็นเรื่องน่าเสียดาย

ถาม : ต่อไปจะสามารถเจริญรุ่งเรืองได้ไหมครับ ?
ตอบ : ตั้งหน้าตั้งตาทำไป อย่าถาม เรื่องอย่างนี้ถ้าถามถือว่ากำลังใจใช้ไม่ได้ อยากทำอะไรลุยข้างหน้าอย่างเดียว ทำให้เต็มที่ ทำให้ดีจนได้ ทำแล้วอย่าไปกลัว การตัดสินใจไม่มีอะไรที่เป็นผลดี ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เต็มหรอก เพียงแต่ว่าต้องอาศัยความกล้า ขืนถามไปเรื่อยเดี๋ยวเจอหมอดูให้สะเดาะเคราะห์ จะหมดกันเป็นแสนเป็นล้าน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2012 เมื่อ 02:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 12-08-2012, 19:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ปกติสถานที่ราชการมักจะตั้งศาลพระพรหมใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่..ศาลพระพรหมนั่นเกินความจำเป็น ศาลพระพรหมที่ตั้งตรงราชประสงค์ เพราะคุณหลวงสุวิชานแพทย์ เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือสมัยนั้นท่านรู้จริง ท่านตั้งเพื่อแก้เคล็ดให้โรงแรมเอราวัณที่สร้างไม่สำเร็จเพราะมีแต่ปัญหา เนื่องจากไปใช้ชื่อของเอราวัณเทพบุตรเข้า โดยที่ไม่ได้มีการขออนุญาตท่าน ก็เลยอัญเชิญพระพรหมที่ใหญ่กว่าลงมา พูดง่าย ๆ ก็คือเอาคนใหญ่กว่ามานั่งกันท่า เหมือนกับคอยปรามเอาไว้ เรื่องก็เลยเงียบลง ที่อื่นเห็นว่าที่นั่นสร้างดีก็เลยสร้างไปเรื่อยเปื่อย ทั้ง ๆ ที่ไม่มีความจำเป็นเลย

แม้กระทั่งศาลอากาศเทวดา ถ้าไม่ใช่เรารู้จริง ๆ ว่าสถานที่นั้นท่านคุมอยู่ก็ไม่ต้องสร้าง ทำแค่ศาลเพียงตาก็ถือว่าพอแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2012 เมื่อ 02:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 12-08-2012, 19:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ผมทิ้งการปฏิบัติไปนาน ตอนนี้ฟุ้งซ่านมาก ?
ตอบ : รู้ตัวก็แก้ไข..แค่นั้นเอง

ถาม : รู้ตัว พยายามกลับมาปฏิบัติ แต่ว่า..?
ตอบ : ฝันไปเถอะว่าจะเหมือนเดิม ถ้าเราปล่อยให้ไหลตามกระแสรัก โลภ โกรธ หลงไป จะตีคืนยากสุด ๆ ต้องใช้ความเพียรพยายามมากกว่าก่อนนั้นหลายเท่า

อันดับแรก ก็คือ เราไปแบกกิเลสไว้เสียเต็มที่แล้ว กิเลสก็ไม่ปล่อยให้เราหลุดมือหรอก อันดับที่สอง ระยะเวลาที่ผ่านมาอาจจะเป็นช่วงของอกุศลกรรมเข้ามาแทรกด้วย ซ้ำเติมเราให้ทรุดหนักลงไปอีก คราวนี้ก็เหมือนกับคนป่วยเพิ่งจะฟื้น จะให้ทำอะไรเหมือนกับคนดีก็ยาก แล้วอันดับสุดท้ายกำลังใจของเราที่เคยชินกับรัก โลภ โกรธ หลง ถึงเวลาก็จะไหลไปตรงนั้น จึงต้องใช้ความพยายามมากกว่าเดิม ๓-๔ เท่า

ถาม : แล้วจะทำอย่างไร ไม่ให้ถอย ?
ตอบ : ทำ..แล้วประคับประคองเอาไว้ การทำก็ทำให้สม่ำเสมอจริงจังด้วย ส่วนใหญ่พวกเราจะทำเฉพาะเวลานั่งกรรมฐาน พอลุกยืนขึ้นแล้วก็ทิ้งเลย

ถาม : พอลงมือปฏิบัติแล้วไม่มั่นใจในตัวเอง มีเครื่องอะไรวัดตัวเองได้บ้าง ?
ตอบ : ถ้าหากว่าจะวัดตัวเองทุกวัน เอาอย่างหยาบ ๆ เลยก็นิวรณ์ ๕ ถ้าหากว่านิวรณ์ ๕ อย่างกินใจเราได้อยู่ ก็แปลว่ากำลังใจใช้ไม่ได้ ลำดับต่อไปก็ใช้ศีลเป็นเครื่องวัด ว่าเราแหกกรอบนอกศีลไปหรือเปล่า ถ้ายังไม่แหกกรอบนอกศีลไป ก็ยังพออยู่ในความดีอยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2012 เมื่อ 02:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 12-08-2012, 20:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แล้วการปฏิบัติในเรื่องของสมาธิ ?
ตอบ : สมาธิก็อยู่ที่เราสะสมไปเรื่อย ๆ อย่าอยากได้ดีเร็ว ถ้าอยากได้ดีเร็ว กำลังใจไม่รวมตัวหรอก แต่จะฟุ้งซ่านแทน เรื่องของสมาธิง่ายจะตายไป เอาให้ทรงตัวเมื่อไรจิตก็สงบเยือกเย็น รัก โลภ โกรธ หลงเกิดขึ้นได้ยาก เพราะมีสติรู้เท่าทัน ถ้าหากว่ายังมีสติรู้ไม่เท่าทัน ก็แปลว่าสมาธิไม่ทรงตัว ก็เท่านั้นเอง

ถาม : ความรู้สึกของผมในการปฏิบัติสมาธิต่าง ๆ มีการแยกแยะความรู้สึกตัวเอง ไล่ขึ้นไล่ลงตามลำดับ แต่ยังไม่ค่อยเชื่อ เป็นอุปาทานหรือเปล่า ?
ตอบ : ก็ลองดู ถ้าหากนิวรณ์ ๕ ยังกินใจเราได้อยู่เป็นปกติ ถึงเวลารัก โลภ โกรธ หลงมา เราไม่สามารถที่จะนำอารมณ์ของเราเข้าไปสู่สภาพของสมาธิ เพื่อที่จะต่อต้านหรือหลบเลี่ยงกิเลสได้ ก็แปลว่าอุปาทานกิน แต่ถ้าถึงเวลาสามารถงัดเอาสมาธิมาสู้ได้อย่างเท่าทัน แสดงว่าความสามารถที่แท้จริงของเรามีอยู่ ไม่ใช่โกรธเขาไปตั้งชาติแล้วค่อยนึกถึงสมาธิขึ้นมาได้

ถาม : ฌานสี่ที่บอกว่า ถ้าเราปฏิบัติเข้าถึงแล้ว จะตัดการรับรู้ภายนอกไว้ ผมเคยทำได้แค่ครั้งเดียว แต่พอมาปฏิบัติแบบไล่อารมณ์ในแต่ละขั้น ยังมีความรู้สึกเหนืออารมณ์นั้นได้ แต่การรับรู้ภายนอกยังมี ?
ตอบ : ฌานมี ๒ รูปแบบ รูปแบบแรกเป็นการฝึก จะไม่รับรู้อาการภายนอก รูปแบบที่สองเป็นการใช้งาน ถ้าหากว่าเป็นฌานใช้งานจะรับรู้อารมณ์ภายนอกได้ทุกอย่าง แต่จะประมาทไม่ได้

เพราะฉะนั้น..ถ้าต้องการจะรู้ให้ชัดเจนให้ไปฝึกกสิณกองใดกองหนึ่ง การฝึกกสิณจะชัดที่สุดว่า สมาธิของเราทรงฌานแต่ละระดับได้หรือไม่ ถ้าไม่ถึงฌาน ๔ แบบคล่องตัว จะไม่สามารถอธิษฐานใช้ผลกสิณได้ บุคคลที่มีฌาน ๔ คล่องตัวจริง ๆ ฝึกกสิณพักเดียวก็ได้แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-08-2012 เมื่อ 10:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 12-08-2012, 20:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ร่างกายนี้พ่อแม่ให้มา ถ้าผมไปประกอบกุศลกรรม พ่อแม่จะได้บุญด้วยไหมครับ ?
ตอบ : มีส่วนด้วย แล้วทำไมเราไม่ไปประกอบอกุศลกรรมเยอะ ๆ ท่านจะได้มีส่วนด้วย..!

ถาม : เดือนที่แล้วผมได้ไปหล่อพระแทบทุกอาทิตย์เลยครับ แต่ว่าพ่อแม่อยู่บ้าน ผมได้แต่บอกให้ท่านโมทนาบุญ
ตอบ : ทำถูกแล้ว..ก็แค่นั้นแหละ โมทนาก็เหลือเฟือแล้ว

ถาม : พุทธภูมิที่ทำบารมีมา กว่าจะเข้าเขตปรมัตถ์ได้ ต้องใช้กำลังใจมากแค่ไหน ?
ตอบ : ถ้าหากวัดเป็นคันรถสิบล้อก็ตวงกันไม่หวาดไม่ไหว

ถาม : บางทีเห็นคนอื่นเขาก็สงสาร อยากจะช่วยเหลือ
ตอบ : ก็ทำไป เราสร้างมาทางด้านนั้น สภาพจึงเป็นอย่างนั้น ถือเป็นเรื่องปกติ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2012 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 12-08-2012, 20:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การทำวิริยบารมีในชาติปัจจุบัน ควรจะทำในด้านไหนครับ ?
ตอบ : ทุกเรื่อง..เพียรละชั่ว เพียรทำดี เพียรชำระจิตใจให้ผ่องใส ทุกอย่างแหละ

ถาม : ถือว่าเป็นวิริยะ ?
ตอบ : ไม่ใช่ถือว่า แต่ใช่เลย

ถาม : วิริยะในความดี ?
ตอบ : ใช่..เพราะถ้าหากความเพียรไม่พอ ก็ก้าวไม่พ้น

ถาม : ในชาตินั้น ถ้าทำบารมีใดก็บารมีนั้นอย่างเดียว ?
ตอบ : ถึงทำบารมีเดียว แต่บารมีอื่นก็จะพลอยได้ไปด้วย ลองไปแก้รัฐธรรมนูญก็แล้วกัน ดูซิว่าจะสำเร็จไหม ? จะได้เห็นชัด ๆ เลยว่าเราได้ใช้ความเพียรจริง ๆ

ถาม : ถ้าไปช่วยให้เขาบรรจุพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติได้ ถือว่าสำเร็จไหมครับ ?
ตอบ : ก็สำเร็จแค่เรื่องเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2012 เมื่อ 02:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 13-08-2012, 07:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาคุยกับใคร เราต้องปรับกำลังใจให้อยู่ระดับเดียวกัน ปรับกำลังใจคืออย่างไรครับ ?
ตอบ : ลดกำลังใจลงไปให้เท่ากับเขา เพื่อจะได้รู้ว่าสภาพจิตใจและความคิดของเขาเป็นอย่างไร แล้วจะรู้ว่าเหนื่อยฉิบหายเลย เหมือนกับอยู่สบาย ๆ แล้วดันไปแบกโอ่งเล่น..!

ถาม : ช่วยขยายต่อได้ไหมครับ การลดลงไปทำอย่างไร ?
ตอบ : ก็ลดลงเท่านั้นเอง อยากรู้ว่าเขามีกิเลสเท่าไรก็ลดกำลังใจลงไปให้มีระดับเท่าเขา เพียงแต่ถ้าไม่ระวัง..กิเลสจะลากเราไปด้วย

ถาม : คล้าย ๆ กับการ..(ไม่ได้ยิน)..
ตอบ : เอาเป็นว่าตะกายขึ้นมาจากน้ำได้เมื่อไรเดี๋ยวก็เข้าใจ ถ้ายังอยู่ในน้ำแล้วไปถามเต่าว่าบนบกเป็นอย่างไร บอกให้ตายก็ไม่รู้เรื่องหรอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-08-2014 เมื่อ 02:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 13-08-2012, 07:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การฝึกกรรมฐาน ๙ จุด คือ ใต้สะดือ ลิ้นปี่ คอ หลังคอ กลางกระหม่อม หน้าผาก หลังคิ้ว ฯลฯ
ตอบ : พวกนั้นเป็นของโยคะ เป็นการฝึกจักระ ไม่ใช่กรรมฐาน เป็นเรื่องที่เนื่องด้วยกายมากจนเกินไป

ถาม : ถ้าฝึกเดินลมให้ได้ทั้ง ๙ จุดอย่างนี้ จะใช้เทคนิคอย่างไรให้การเดินลมหายใจยาว ?
ตอบ : คล้าย ๆ มโนมยิทธิ คิดว่าลมไปถึงตามจุดเหล่านั้น พอเราคล่องตัวมาก ๆ ก็จะรู้สึกเลยว่าไปได้จริง ๆ แทนที่เราจะส่งจิตไปข้างนอก เราก็เอาจิตวิ่งไปตามจักระต่าง ๆ ในร่างกาย

ถาม : อย่างเวลาเราควบคำภาวนาว่าพุทโธ ?
ตอบ : คำภาวนาไม่สำคัญ สำคัญตรงที่เรากำหนดลมให้ไปได้ตามนั้น คำภาวนาเราเอาตามสบาย อาจจะ๘ - ๑๐ ครั้ง กว่าลมจะเดินครบรอบก็ช่าง

ถาม : ถ้าฝึกไปแล้วเกิดอาการเหมือนลมปิดกัก อึดอัดมาก ?
ตอบ : อันตราย..เพราะว่าการเปิดจักระแต่ละแห่งนั้น มีผลไม่เหมือนกัน มีอยู่แห่งหนึ่งถ้าเปิดขึ้นมาเมื่อไรแล้วจะบ้ากามโดยอัตโนมัติ..!

ถาม : ผมฝึกตรงนี้ แล้วลมตีกลับ
ตอบ : ถามคนสอนสิว่าจะแก้อย่างไร อาตมาก็แค่รู้คร่าว ๆ เท่านั้น ไม่ได้ไปซักซ้อมเอารายละเอียด เพราะเห็นโทษว่าเขาเน้นเรื่องของร่างกายมากจนเกินไป อันดับแรก..เรื่องของความแข็งแรง อายุยืน อันดับที่สอง..เรื่องความเข้มแข็งของพลังทางเพศ ถ้าทำได้ขึ้นมาจริง ๆ แล้วจะกลุ้มใจ เพราะหยุดไม่อยู่

ถาม : ท่านให้มาเลือกฝึกสองแบบ แบบแรกฝึกสลับจุด กับอีกวิธีหนึ่ง ก็คือฝึกกำหนดภาพให้เห็นชัดเจน อันนี้เป็นผลต่างกัน ?
ตอบ : ถามท่านโดยตรงดีกว่า เจ้าของตำราเขาน่าจะชำนาญกว่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2012 เมื่อ 13:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 13-08-2012, 07:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงการเรียนของเด็กว่า "การเรียนอ่อนเป็นเรื่องปกติของช่วงวัยรุ่น คนเป็นแม่ต้องทำให้ลูกเปลี่ยนแนวคิดได้ เด็กสมัยนี้เรียนแล้วสอบไม่ตกก็เลยเป็นปัญหา เพราะพอถึงเวลาก็ซ่อมได้ จึงไม่กระตือรือร้นกัน ถ้าหากปล่อยให้ตกสัก ๓-๕ ปี เพื่อนเรียนจบไปทำงานแล้ว ส่วนตัวเองยังเรียนอยู่ เขาอายก็ต้องเร่งให้จบ เพราะฉะนั้น..ต้องเปลี่ยนใหม่ ห้ามซ่อม

เวลาเห็นลูกเห็นหลานมีปัญหากับการเรียนแล้วอาตมาเครียดเอง เอาอย่างนี้สิ..ก่อนอ่านหนังสือก็ว่าคาถาท่านปู่พระอินทร์สักครึ่งชั่วโมง เอาให้ใจมั่นคงก่อนแล้วค่อยอ่าน สะดุดตรงไหนขีดตรงนั้นเลย ข้อสอบออกแน่

สมัยที่อาตมาเรียนปริญญาตรีอยู่ มีบางวิชาอาจารย์ใจดีมาก เขาจะบอกเลยบทที่ ๑ ออก ๕ ข้อ บทที่ ๒ ออก ๔ ข้อ บทที่ ๓ ออก ๗ ข้อ อาตมาก็ไปขีด บทที่ ๑ ออก ๕ ข้อ บางทีเราได้ ๗ ข้อ บทที่ ๒ ออก ๔ ข้อ เราได้ ๖ ข้อ เอาทั้งหมดนั่นแหละ เพราะข้อสอบก็อยู่ในนั้นแหละ

เวลาพาพระไปสอบนักธรรมก็ไปติวกันหน้าห้อง ปรากฏว่าที่ติวไป ๑๐ ข้อนั้นออกตรง ๆ ๘ ข้อ แล้วก็ตะแบงข้างไป ๒ ข้อ เล่นเอานั่งอมยิ้มแก้มตุ่ยไปตาม ๆ กัน ถ้าทำคาถาท่านปู่พระอินทร์ขึ้นจริง ๆ จะเหมือนกับมีเสียงบอกอยู่ในหัวเราเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2012 เมื่อ 13:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 13-08-2012, 07:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : รับรู้เรื่องที่เป็นทิพย์แล้ว บางทีทำใจไม่ได้ รู้สึกรำคาญ
ตอบ : เหมือนกับคลื่นโทรศัพท์ พอเริ่มต่อสายได้ ใคร ๆ ก็โทรมา อยู่ที่เราว่าเราจะเลือกรับสายหรือจะเลือกตัดสาย

ถาม : พอพิจารณาเสร็จก็ตัดใจไม่เชื่อสิ่งเหล่านี้ ขอเอาตามหลักเหตุผล ไม่เอาเหนือเหตุผล
ตอบ : ถ้าคุณจะเอาตามหลักเหตุผลก็บ้าตั้งแต่แรกแล้ว เพราะสิ่งที่เราทำอยู่นั้นนอกเหตุเหนือผล ในเมื่อนอกเหตุเหนือผลแล้วคุณจะไปเอาเหตุผลได้อย่างไร ? เพราะเป็นสิ่งที่ตรรกะคิดไม่ได้ นอกเหนือการรับรู้ด้วยประสาททั้ง ๕ เป็นสิ่งที่คนอื่นไม่รับรู้กับเราด้วย ถือเป็นปัจจัตตัง เกิดขึ้นเฉพาะคน ถ้าคุณจะไปเอาเหตุเอาผลก็บ้าชัด ๆ เพราะแค่ที่ว่ามาก็นอกเหตุเหนือผลแล้ว

ถาม : ถ้าตัดให้หมด ?
ตอบ : ถ้าจะเอาปลอดภัยก็ตัดทิ้งให้หมดไปเลย ไม่ต้องไปใส่ใจเลย แต่ถ้าคิดจะเอารสชาติของชีวิต ก็ลองเลือกดูสักเรื่องหนึ่งแล้วก็ทำไป เดี๋ยวเขาก็พาเราออกทะเลไปไกลเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2012 เมื่อ 13:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 13-08-2012, 08:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์พูดถึงพระแก้วใสที่วางในบ้านวิริยบารมีว่า "พระเนื้อเรซิ่นรุ่นเก่า ๆ เทคโนโลยีในการผลิตยังไม่ดี ยิ่งใช้นานไปสีจะยิ่งเข้มขึ้นเรื่อย ๆ จากใส ๆ ก็กลายเป็นเหลืองจาง ๆ กลายเป็นเหลืองเข้มขึ้น

องค์นี้เป็นรุ่นหนึ่งวัดท่าซุง กลายเป็นสีน้ำตาลไปแล้ว เพราะฉะนั้น..ถ้านำไปออกเว็บแล้วคงประมูลกันเลือดสาด ความจริงฐานปิดทองไม่เรียบร้อยนะ สมัยก่อนอาตมาใช้ในการฝึกกสิณ แต่จับเข้าจับออก อุ้มขึ้นอุ้มลงวันหนึ่งไม่รู้กี่สิบรอบ ทองลอกหมดแล้วปิดใหม่ ถ้าหากเห็นว่าฐานสวยผิดปกติก็ให้รู้ว่าปิดทองใหม่ แต่ว่าองค์พระยังเป็นของเดิม

ถ้าจะจับภาพเป็นพระแก้วใสก็ไม่ใสด้วยแล้ว พระท่านกลายเป็นสีน้ำตาลไปแล้ว กลายเป็นพระธุดงค์ห่มสีกรักไปเรียบร้อยแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2012 เมื่อ 13:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 13-08-2012, 08:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วง ๓ เดือนที่ผ่านมา นอกเหนือจากกระโถนข้างธรรมาสน์รายเดือนแล้ว ได้ออกหนังสือไป ๓ เล่ม เดือนมิถุนายนออกหนังสือปกิณกธรรมเล่ม ๓ ในงานฉลองสัญญาบัตรพัดยศ เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาออกหนังสือบันทึกเที่ยวพม่า ชุดมิงกะละบาร์เมียนมาร์ ในงานปฏิบัติธรรมถวายสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ส่วน ๑๒ สิงหาคมนี้ออกหนังสือสัพเพเหระ ๑ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ หนังสือออก ๓ เล่มติด ๆ กัน คนทำเกือบตาย..!

หนังสือสัพเพเหระ เป็นเรื่องที่เอาสารพัดเรื่องมายำรวมกัน อ่านแล้วเสียงตอบรับเป็นประการใดโปรดบอกด้วย จะได้ทำเล่ม ๒ ต่อ หรือหยุดทำตั้งแต่บัดนี้ รู้สึกว่าปกิณกธรรมหนักไปสำหรับบางคน เพราะว่ามีแต่การสอนธรรมะอย่างเดียว สัพเพเหระนี่ยำใหญ่ มีอะไรก็ใส่ ๆ ลงไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2012 เมื่อ 13:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 13-08-2012, 08:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สมเด็จองค์ปฐมที่สร้างที่วัด จะปิดทองไหมครับ ?
ตอบ : ปิดไม่ไหว ขนาดทาสีทองเขายังคาดว่าถึงสี่ล้านบาท ถ้าปิดทองสิบล้านบาทจะอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2012 เมื่อ 13:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 14-08-2012, 08:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันขึ้น ๑๔ ค่ำที่ผ่านมา กำลังเปิดเรียนพระปริยัติธรรมสอนพระใหม่ท่านอยู่ ปรากฏว่าหน่วยงานต่าง ๆ แห่เทียนพรรษาเข้ามา เจ้าประคุณเอ๋ย..อาตมาหยุดสอน ออกไปรับเทียนยันเพลก็ยังไม่หมด จนกระทั่งเขาตีกลองเพลจะลงไปฉันเพล “เดี๋ยวครับ ๆ พระอาจารย์ พวกผมเพิ่งมาถึง” อาตมาบอกว่า “เอาคนลงมากินข้าวด้วยกันก่อน พระฉันเพลเสร็จแล้วค่อยมาถวาย” พระมีเวลาจำกัด มัวแต่ไปรอรับเขาอยู่ ก็อดข้าวกันพอดี

ก่อนหน้านี้อยากให้เขาเปลี่ยน จากถวายเทียนเป็นหลอดไฟ แต่ตอนนี้ต้องใช้เทียนในการทำผางประทีปเยอะมาก จึงอยากให้เขาเปลี่ยนจากหลอดไฟเป็นเทียน เพราะจะได้เอาเทียนไปหล่อผางประทีป

ผางประทีปที่หล่อเองนั้นติดได้ทนมาก เมื่อวานนี้จุดประมาณ ๖ โมงเย็น เมื่อคืนตี ๒ กว่า ลุกขึ้นมาเพื่อจะเดินทางมารับสังฆทานที่นี่ ไฟยังไม่ดับเลย ถ้วยหนึ่งจะใช้เนื้อเทียนไขประมาณ ๑ ขีด เพราะฉะนั้น ๑๐,๐๐๐ ดวงก็แปลว่าใช้เนื้อเทียนครั้งละ ๑ ตัน..!"

ถาม : การถวายเทียนพรรษามีกำหนดเวลาไหมครับ ?
ตอบ : อย่าให้เกินวันแรม ๑ ค่ำ หลังจากนั้นก็ไม่ใช่เทียนพรรษาแล้ว เพราะเข้าพรรษาไปตั้งนานแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-08-2012 เมื่อ 11:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 14-08-2012, 08:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาบริหารวัด พยายามจะให้มีความเจริญทางสภาพจิตใจมากกว่าวัตถุ แต่พระใหม่บางรูปยังเคยชินกับความสะดวกสบายเหมือนตอนเป็นฆราวาสอยู่ ก็เลยทำให้ไม่ค่อยจะอดทน ความสบายทำให้ความอดทนลดน้อยถอยลง

มีพระจากวัดใหญ่แถว ๆ ปทุมธานี ๔ รูป ไปขอปฏิบัติธรรมที่วัดท่าขนุน พออาตมาพาเข้าที่พัก เขาเห็นไม่มีเตียง ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ก็ขอลากลับเดี๋ยวนั้นเลย น่าเสียดายความตั้งใจของเขา อุตส่าห์ไปจนถึงวัดแล้ว

เดี๋ยวไว้หน้าแล้ง ถ้าหากว่ามีการปฏิบัติธรรมว่าจะให้นอนเต็นท์สักรุ่น พอดีไปซื้อเต็นท์ไว้ ๒๐ หลัง แล้วรู้ไหมว่า ๒๐ หลังนั้นราคาแค่ ๗,๐๐๐ บาท ก็เลยกะว่าเดี๋ยวจะซื้อเพิ่มสัก ๑๐๐ หลัง ที่เหลือก็ให้แบกกันมาเอง ถึงเวลาก็ไปเลือกมุม
กางกันตามสบาย อย่าลืมโรยปูนขาวกันมดและวางมะนาวกันงูไว้ด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-08-2012 เมื่อ 11:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 14-08-2012, 08:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"งูไม่ได้กลัวมะนาว แต่งูไม่ชอบกลิ่นมะนาว แค่ได้กลิ่นก็ไม่เข้าใกล้แล้ว แต่ตอนนี้ที่วัดงูมีน้อย เพราะว่ากินกันเองหมด โดยเฉพาะงูจงอางกินงูอื่นเป็นปกติเลย กินงู กินคางคก กินตุ๊กแก

ถ้าหากว่ากลัวงู ขอให้พกตะขาบไว้กับตัว งูกับตะขาบเป็นสัตว์ที่เป็นศัตรูกันโดยธรรมชาติ และงูจะแพ้ตะขาบตลอด พรานบางคนเล่าให้ฟังว่า เดินป่าอยู่ได้ยินป่าแตกมาเลย ปรากฏว่างูจงอางใหญ่เลื้อยมาอย่างกับลมพัด ตัวเองก็ตกใจมือตีนอ่อน ที่ไหนได้งูจงอางเลื้อยผ่านไปไม่สนใจคนเลย พออีกสักพักหนึ่งตะขาบใหญ่เลื้อยไล่ตามมา งูจงอางถ้าโดนตะขาบกัดจะตายทุกตัว..ไม่เหลือเลย..!

ตะขาบเจอคางคกก็เสร็จคางคกหมด คางคกเจอจงอาง จงอางก็แลบลิ้นเลียปากรอเลย แพ้กันเป็นวง น่าจะมีใครเรียนทางสัตววิทยาแล้วไปทำวิจัยดูสักทีว่าแพ้กันเพราะอะไร แบบเดียวกับที่งูเหลือมแพ้เชือกกล้วย ต่อให้เอาเชือกไนลอนมัดก็ดิ้นหลุดไปได้ แต่ถ้าเชือกกล้วยมัดนี่หมดสภาพ จะจูงไปทางไหนก็ได้ทั้งนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-08-2012 เมื่อ 11:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 14-08-2012, 09:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เดี๋ยวนี้คนทองผาภูมิตามหาแต่พระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน รุ่น ๒ ท้ายสุดต้องกัดฟันเข้ามาปฏิบัติธรรมเอง ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้บูชา เห็นคนอื่นแขวนแล้วอยากได้ เขาถามว่ามีบูชาไหม ? อาตมาบอกว่าไม่มีหรอก อยากได้ต้องมาปฏิบัติธรรมก่อน เพราะฉะนั้น..บวชเนกขัมมะครั้งนี้เลยมีคนทองผาภูมิมา ๑๐ กว่าคน มาปฏิบัติธรรมเพราะตั้งใจจะบูชาพระ

ต้นเหตุเกิดจากคุณสโรชา ซึ่งเป็นตำรวจหญิง เข้าวัดมาปฏิบัติธรรม คนเขาว่าบ้า พอสโรชาแขวนพระปิดตาสีแดงฝังตะกรุดไปอวดเท่านั้น บ้าตามกันหมดเลย อยากได้กันมาก ปรากฏว่าไม่มีเหลือแล้ว ต้องมาเอารุ่นอื่นไปแทน

ส่วนคุณโอรสของเรา เปิดกล่องมาพระหายไป ๓ องค์ เขามาถามอาตมาว่า “พระหนีกลับไปหาหลวงพ่อหรือเปล่าครับ ?” ฉลาดเหมือนกัน ท้ายสุดอาตมาก็ต้องควักคืนไป ๓ องค์ แต่สู้พระครูน้อยไม่ได้หรอก ตอนตี ๕ ก่อนทำวัตรถามพระครูน้อยว่า “ได้ทำวัตถุมงคลหายหรือเปล่า ?” “ ไม่หายครับ” เดินบิณฑบาตก็ถามอีก “ได้ทำวัตถุมงคลหายหรือเปล่า ? ” “ ไม่หายครับ”

ตอนฉันเช้าก็ถามซ้ำ “ได้ทำวัตถุมงคลหายหรือเปล่า ?” “ ไม่หายครับ” ยังยืนยัน พอสาย ๆ ตีหน้าเจี๋ยมเจี้ยมมา “แหะ ๆ หายครับ” อาตมาบอกว่า “ท่านมาอยู่กับผมตั้งแต่ตี ๕ ไปทบทวนดี ๆ วันนี้ทำอะไรพลาด พระถึงได้หนีมาหาผม"

สมัยก่อนก็ได้ยินแต่ว่าครูบาอาจารย์ท่านสร้างพระ สร้างวัตถุมงคลแล้ว ถ้าลูกศิษย์ทำไม่ดี หรือไม่ให้ความเคารพ วัตถุมงคลจะหนีกลับ ไป ๆ มา ๆ พอตัวเองทำวัตถุมงคลบ้างก็มีหนีกลับเหมือนกัน แสดงว่าวัตถุมงคลสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้ อย่าไปให้ค่ารถไว้ ให้เมื่อไรเดี๋ยวหนีกลับกันหมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-08-2012 เมื่อ 11:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 14-08-2012, 09:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "หลายบริษัทรับพนักงานเข้าทำงานด้วยการดูโหงวเฮ้ง เจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ไปเถอะ เขาไม่สนใจหรอก หลังกระจกมองด้านเดียวนั่นต่างหากที่สำคัญ ถ้าซินแสพยักหน้าเขาก็คัดไว้ สรุปว่าที่สัมภาษณ์เป็นการเรียกมาดูโหงวเฮ้งเท่านั้น

สู้หมอดูที่ดูให้หลวงพ่ออุตตมะไม่ได้ เขาลือกันว่าหมอดูคนนั้นแม่นนักแม่นหนา หลวงพ่ออุตตมะสมัยหนุ่ม ๆ ท่านยังเรียนบาลียังไม่จบ ไปขอให้เขาดูหมอให้ หมอเขาถอดดวงเสร็จสรรพแล้วบอกว่า "ดูไม่ได้ครับ ดวงของท่านเกินตำรา" แสดงว่าหมอเขาเก่งจริง ดูดวงพระอริยเจ้าไม่ได้ เกินตำรา นอกเหตุเหนือผลไปแล้ว"


ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ไม่แน่..เพราะว่าเขามีการดูผิดมาเยอะแล้ว ประเภทที่เขาบอกว่า “เงินซื้อผมไม่ได้...ถ้าไม่มากพอ” ประเภทนั้นแหละ ฟังตอนแรกแล้วดูดี ต้องรวมประโยคต่อมาไปด้วยถึงจะสมบูรณ์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-08-2012 เมื่อ 11:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 14-08-2012, 09:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวสอนเด็กว่า "ความจริงอะไร ๆ ก็ไม่สำคัญเท่ากับเปลี่ยนตัวเอง เปลี่ยนชื่อก็เท่านั้น เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ก็เท่านั้น ถ้ายังเปลี่ยนความประพฤติไม่ได้ ผลก็ยังเหมือนเดิม เพราะฉะนั้น..ต้องเปลี่ยนความประพฤติให้ได้ สนใจการเรียนมากขึ้น เล่นเกมให้น้อยลง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:18



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว