กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 09-08-2009, 21:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า "พม่ามันแสบมาก มันเล่นร้องเพลง รักเก่าที่บ้านเกิด หลอกเรา เสียงมันดีเสียด้วย (เพลงนี้ร้องว่า พี่จากบ้านนาไปห้าหกปี มาเยือนคนดีด้วยความคิดถึง...)

คราวนี้ต้องยอมรับว่า ถ้าสติสมาธิมันทรงตัว ความเป็นทิพย์มันรายงานหมด ทันทีที่ได้ยินมันรู้พร้อมหมด ว่าเขาทำอย่างนั้นเพื่ออะไร เขาอยากจะพิสูจน์เรา ไม่กล้าลงมาถาม ใช้วิธีร้องเพลงไทย ถ้าเราหันขวับไป ใช่เลย โดนแน่

เพลงนี้ผู้หญิงโดนเขาหลอกไปขายตัว ผู้ชายก็เลยเสียใจหนีออกจากบ้าน กลับมาอีกทีแฟนบวชเป็นชีไปแล้ว (ได้ข่าวว่าสาวไปบวชเป็นชี สูญเสียความดีพี่น้องเมินหน้า ถูกมารสังคมหลอกขาย...)

ถ้าหากเราวิเคราะห์สภาพจิตใจของทั้งสองฝ่าย ผู้หญิงดีกว่าเยอะเลย พอผู้หญิงพ้นจากสภาพนั้น เขาก็พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ถึงขนาดไปบวชเป็นชี และก็คงรู้ว่าผู้ชายเขาทิ้งไปแล้ว ถึงได้บอกว่า สามวันจากนารี (ผู้ชาย) เป็นอื่น

เรามาดูกำลังใจของเขาในเพลงนี้ ผู้ชายเขากลับมา เขารู้ว่าผู้หญิงบวชชีแล้ว อยากไปหา แต่กลัวว่าถ้าโผล่ไปแล้วจะทำให้แม่ชีฟุ้งซ่าน พยายามห้ามใจตัวเอง ลักษณะอย่างนั้นแหละ ถ้าห้ามใจตัวเองได้ มันก็คือกำลังใจในการห้ามรัก โลภ โกรธ หลง มีโอกาสละเมิดศีลแล้วไม่ละเมิด มีโอกาสทำในสิ่งที่ตนเองทำไปแล้วจะดีแก่ตน แต่เสียหายแก่ผู้อื่นก็ไม่ทำ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 10-08-2009 เมื่อ 07:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 10-08-2009, 09:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อบอกว่า "ในส่วนของสมบูรณาญาสิทธิราชย์ นับแล้วมันเป็นอัตตาธิปไตย

พระพุทธเจ้ากล่าวถึงอธิปไตย ๓ อย่าง มีอัตตาธิปไตย ถือตนเป็นใหญ่ โลกาธิปไตย ถือโลกเป็นใหญ่ (ถือเสียงข้างมาก) แล้วก็ธรรมาธิปไตย ก็คือ ถือธรรมเป็นใหญ่ เราว่าอันไหนดี"

เถรีก็บอกว่า "ธรรมาธิปไตย"
หลวงพ่อบอกว่า "ไม่แน่ มันขึ้นอยู่กับคนใช้"

หลังจากนั้นท่านก็อธิบายว่า "อัตตาธิปไตย ถ้าได้พระมหากษัตริย์ที่ทรงทศพิธราชธรรมอย่างสมัยรัชกาลที่ ๕ บ้านเมืองจะเจริญรุ่งเรืองมาก เพราะว่าขั้นตอนไม่มี สั่งการอย่างเดียวเลย ส่วนโลกาธิปไตยอย่างปัจจุบัน ทำอะไรได้ เพราะคนที่ทำหน้าที่อยู่ไม่มีศีลธรรม เพราะฉะนั้นถ้านับดูแล้วเรื่องของอัตตาธิปไตยและโลกาธิปไตยยังไม่มีความแน่นอนว่าจะดีหรือชั่ว ขึ้นอยู่กับบุคคลที่ใช้ แต่ธรรมธิปไตยมีดีอยู่โดยส่วนเดียว

ธรรมาธิปไตยถ้าอยู่ในอัตตาธิปไตยก็ทำให้เจริญรุ่งเรืองได้ง่าย ธรรมาธิปไตยถ้าอยู่ในโลกธิปไตยก็ทำให้การปกครองทุกอย่างเป็นไปโดยราบรื่น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 10-08-2009, 09:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านก็กล่าวต่อไปอีกว่า "แม้นหวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ์ ศัตรูกล้ามาประจัญ จักอาจสู้ริปูขยั้น

แบบเดียวกับแคว้นวัชชี ปกครองโดยสามัคคีธรรม พระเจ้าอชาตศัตรูเป็นกษัตริย์แคว้นมคธ แคว้นมคธนี่ใหญ่โตมโหฬารมากกว่าแคว้นวัชชีหลายเท่า แต่แตะต้องแคว้นวัชชีไม่ได้ เพราะว่าแคว้นวัชชีนอกจากจะสามัคคีกลมเกลียวกันแล้ว ฝีมือในการรบก็นับว่าสุดยอด เขาบอกว่าเหล่ากษัตริย์แคว้นวัชชีสามารถขี่ม้าแล้วแผลงศรเข้าไปยังช่องดาลประตูได้ ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ยิงปืนตอกหัวตะปูได้

แม้ว่าจะใช้ธรรมาธิปไตยแต่ก็ต้องเตรียมพร้อมลักษณะนั้น แบบเดียวกับพระเจ้าโกรัพยะ พระรัฐบาลบอกว่า โลกคือหมู่สัตว์ไม่มีผู้ป้องกัน ไม่เป็นใหญ่เฉพาะตน พระเจ้าโกรัพยะบอกว่า ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น อย่างพระองค์เป็นกษัตริย์ก็เป็นใหญ่แล้ว พระรัฐบาลบอกว่า ดูกรมหาบพิตร ถ้ามหาบพิตรได้ข่าวว่า ข้างฟากมหาสมุทรแห่งโน้น มีบ้านเมืองที่อุดมสมบูรณ์อยู่ ด้วยช้างม้าวัวควาย ด้วยแก้วแหวนเงินทอง ปราศจากกำลังรบ พระองค์ท่านจะทำอย่างไร พระเจ้าโกรัพยะบอกว่า โยมก็ต้องเกณฑ์ไพร่พลไปเพื่อยึดบ้านเมืองนั้นมาเป็นของเรา พระรัฐบาลเถระบอก นั่นแหละ ไม่มีผู้ป้องกัน ไม่มีผู้เป็นใหญ่เฉพาะตน

ท่านบอกไว้หลายข้อ โลกคือหมู่สัตว์อันชรานำไปไม่ยั่งยืน อันนี้ชัดเจนเลย อนิจจัง ก้าวเข้าไปหาความแก่ ความตายตลอดเวลา ท้ายสุดท่านว่า โลกคือหมู่สัตว์ พร่องอยู่เป็นนิจ ไม่รู้จักอิ่ม เป็นทาสแห่งตัณหา

เรื่องเหล่านี้มันเป็นเรื่องปกติตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน และจะเป็นต่อไปในอนาคตข้างหน้า แม้ว่าสภาพบ้านเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหนก็ตาม แต่ว่ากิเลสคนยังเหมือนเดิม มันยังรัก โลภ โกรธ หลงเหมือนเดิม ดังนั้นธรรมะของพระพุทธเจ้าจึงเป็นอกาลิโก ไม่โดนจำกัดด้วยกาลสมัย ไม่ว่ายุคไหน สมัยไหน ถ้านำธรรมะของท่านไปใช้ก็ได้ประโยชน์ทั้งนั้น เพราะว่ายุคใดก็ตาม เจริญสุดขีดขนาดไหนก็ตาม กิเลสมันก็หน้าตาเหมือนเดิม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 10-08-2009 เมื่อ 12:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 10-08-2009, 09:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านกล่าวต่ออีกว่า "มันหนักขึ้นเรื่อย ๆ แต่หน้าตากิเลสมันเหมือนเดิม อย่างที่หนัก ๆ อยู่ ก็ไอ้ตัวแสบมันมา ตีกันจนคุ้น มันมาบอกว่า ที่ท่านไปสอน ๆ ไม่มีประโยชน์หรอก ผมครอบซ้ำไม่รู้ตั้งกี่ชั้นแล้วมันก็ทำให้ดู

(หลวงพ่อยกฝ่ามือขึ้นมา) นี่ท่านเรียกว่าอะไร สมมติก็เรียกว่ามือ นี่หลังมือ หน้ามือ นิ้วมือ มีนิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย มีนิ้วโป้งข้อที่ ๑ นิ้วโป้งข้อที่ ๒ ฯลฯ
ไล่ไปเรื่อยจนกระทั่งเล็บ มันบอกว่าแค่มือข้างเดียวมันครอบตั้งกี่ชั้นแล้ว

ถ้าหากปัญญาญาณไม่แหลมคมจริง ๆ ไม่สามารถจะแทงทะลุได้หรอก มันมาเกลี้ยกล่อมเรา บอกว่าสอนไปก็เหนื่อยเปล่า ถ้าเชื่อมันก็โง่ตาย

เราต้องนึกท่านท้าวสหัมบดีพรหม ท่านมาอาราธนาพระพุทธเจ้า สัตว์โลกอันธุลีในจักษุมีน้อยนั้นมีอยู่ พึงจักรู้ทั่วถึงธรรมนั้น ขออาราธนาพระองค์ได้โปรดแสดงธรรมเถิดพระเจ้าข้า

แล้วก็ไปนึกถึงหลวงพ่อวัดท่าซุง ปีหนึ่งท่านไปอเมริกา คนตามไป ๔๒ คน หลวงพ่อจ่ายค่าเครื่องบินไปสามล้านกว่า เราก็ว่า หลวงพ่อครับ มันคุ้มหรือครับ จ่ายเงินเป็นล้าน ๆ ท่านบอกว่า ถ้าหากมีคนรู้จักพระนิพพานแม้คนเดียวก็คุ้ม เงินล้านก็ซื้อพระนิพพานไม่ได้

แล้วก็ย้อนกลับมาคิดว่า หลวงพ่อคิดอย่างนั้นคนเดียว ท้าวสหัมบดีพรหมท่านบอกว่า สัตว์โลกอันธุลีในจักษุมีน้อยนั้นมีอยู่

เมื่อเห็นตรงจุดนี้ อย่างที่บอกกับโยมเมื่อเช้า เราได้ทำหน้าที่ของเราแล้ว ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน ถ้าได้ทุ่มเทความพยายามจนเต็มที่แล้ว ผลมันจะเกิดอย่างไรเราเอาทั้งนั้น ได้มากเอามาก ได้น้อยเอาน้อย ไม่ได้ก็จะเอา "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 10-08-2009, 09:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านกล่าวต่ออีกว่า "จากที่ไปรบกับเขามา มันทำให้รู้ว่าคนจำนวนมากต่อมากด้วยกัน มีกำลังบารมีสูงมากแต่โดนเขาหลอกหลงทาง

ปัจจุบันนี้ถ้าเราศึกษาในเรื่องของสายการปฏิบัติต่าง ๆ มีหลายสายที่เริ่มมีนิพพานดำ นิพพานขาว มีต้นธาตุต้นธรรมของพระพุทธเจ้า มีภาคขาว มีภาคดำ ภาคขาวเป็นต้นธาตุต้นธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภาคดำเป็นต้นธาตุต้นธรรมของมาร แล้วมันยังระบุอีกว่าฝ่ายมารสร้างบารมีมาเยอะกว่า ฟังแล้วท้อ

บังเอิญเราเป็นอย่างภาษิตจีนที่ว่า โคถึกน้อยไม่รู้จักกลัวพยัคฆ์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 10-08-2009, 12:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แล้วที่ปฏิบัติในลักษณะที่ตึงจนเกินไป
ตอบ : อ๋อ ไม่ต้องห่วง สมัยนี้ไม่มีหรอกอัตกิลมถานุโยค

ถาม : แล้วพระจักขุบาลเถระ
ตอบ : อันนั้นของท่านมั่นคงกับอธิษฐานบารมี ยอมแลกด้วยชีวิต บุคคลที่ไม่ห่วงใยอาลัยร่างกายขนาดนั้นแล้ว กำลังใจที่พร้อมที่จะตัด มันก็เหลือแค่เข้าให้ถูกทางแค่นิดเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 145 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 10-08-2009, 12:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อถามว่า "เคยดูมวยไหม บางทีคนที่แพ้ คนดูเขาปรบมือให้มากกว่าอีก เพราะเขาสู้"

"มันต้องลงทุนให้ได้อย่างนั้น ไม่เช่นนั้นมันจะสู้กิเลสไม่ไหว โดยเฉพาะสมัยนี้มันมาในรูปแบบล่อตาสารพัดต่าง ๆ เด็กสมัยหลังนี้น่าสงสารมาก มันโดนกระตุ้นให้เกิดความต้องการเทียมขึ้นมาสารพัดอย่าง ไปสังเกตดูโฆษณาได้เลย ๔ ใน ๑๐ จะเป็นของกิน อีก ๔ ใน ๑๐ จะเป็นของใช้ที่ไม่จำเป็น มีอย่างดีอยู่แค่ ๒ เท่านั้น มันก็แปลว่า ๘๐ เปอร์เซ็นต์ไม่ได้เรื่อง แต่เขากระตุ้นไปว่าขาดไม่ได้ ต้องใช้ครีมไวท์เทนนิ่งนะ ยิ่งทายิ่งขาว คนไทยมันดำอยู่แล้ว ทาจนตายก็ไม่ขาว ในเมื่อมันสร้างค่านิยมขึ้นมาให้คิดว่าขาวแล้วดี มันไม่ได้คิดเลยว่าความดีมันอยู่ข้างในไม่ได้อยู่ข้างนอก ไปเจอพวกดำดีสีไม่ตก ขาวสกปรกคบไม่ได้ ก็เจ๊งไปเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 10-08-2009, 13:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อบอกว่า "มีพระที่นิมนต์มา ๑ รูป เป็นพระสายวัดสังฆทาน

หลวงพ่ออุดม (พระอธิการอุดม ปทุโม) วัดป่าผาตาดธารสวรรค์
เป็นวัดที่อยู่ใกล้เกาะพระฤๅษีที่สุด ถ้าท่านไม่เกรงใจสามารถเดินลัดข้ามเขามาแป๊บเดียวก็ถึง ถ้าวิ่งรถก็หลายนาทีหน่อย

เราจะได้รู้ว่าสายการปฏิบัติมันไม่ได้สำคัญ สำคัญว่าทำจริงหรือเปล่า

วันก่อนเจอกันในงาน บอกหลวงพ่อว่าอย่าลืมงานผมนะ ท่านบอกว่าไม่ลืมหรอก เดี๋ยวผมจะพาเพื่อนไปอีกคน แสดงว่าจะมาอีกหนึ่ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-01-2019 เมื่อ 20:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 10-08-2009, 13:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อครับ ถ้าเราถวายสังฆทานไป แล้วพระท่านเอาไปใช้เป็นของส่วนตัว ตรงนี้....

ตอบ : สมัยที่ผมอยู่วัดท่าซุง หลวงพ่อสอนผมว่า แม้สิ่งที่บอกว่าเป็นส่วนตัวก็ไม่ควรที่จะคิดว่าเป็นของเรา ท่านบอกว่าให้ใช้ในสิ่งที่สมควรแก่สมณสารูป หรือไม่ก็ผลักเข้ากองกลางร่วมเป็นกองทานการกุศลอื่นเพื่อเพิ่มกุศลให้แก่ผู้ที่ถวาย ดังนั้นขนาดส่วนตัวท่านยังไม่ยอมให้คิดว่าเป็นส่วนตัวเลย อันนั้นมันส่วนรวมเป็นสังฆทาน กระจายได้เยอะเท่าไหร่ก็ปลอดภัยเยอะเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 10-08-2009, 13:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บุญกับกุศลต่างกันอย่างไร
ตอบ : บุญคือสิ่งที่ได้รับจากการกระทำของเรา กุศลถ้าว่ากันตามรากศัพท์ ก็คือ ความฉลาด มันเป็นความฉลาดที่รู้จักเลือกว่าอะไรดี อะไรไม่ดี
มักจะใช้คำพูดควบที่ว่า ทำบุญกุศล = ทำบุญด้วยความฉลาด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 10-08-2009, 17:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ลาพุทธภูมิ
ตอบ : การลาสำคัญที่ใจของเรา ถ้าใจไม่เอาแน่ มันขาดแน่ แต่ถ้าลาแล้วยังมาเสียดายอยู่ ลาอย่างไรก็ไม่ขาด เบื่อหรือยัง

ถาม : เบื่อแล้วเจ้าค่ะ
ตอบ : เบื่อแล้วก็ลา บอกว่าไม่เอาแล้ว เดินทางไกลมาพอแล้ว ขอแวะพักบ้าง จุดธูป ๕ ดอก เทียนขาว ๕ เล่ม ดอกบัวขาว ๕ ดอก กราบขออนุญาตลา อธิษฐานต่อหน้าพระว่า ถ้าข้าพเจ้าเคยปรารถนาพระโพธิญาณมาตั้งแต่ชาติใดภพใดก็ตาม บัดนี้ขอละซึ่งความปรารถนานั้น ขอปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเพื่อเข้าสู่พระนิพพานในชาตินี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 10-08-2009 เมื่อ 17:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 13-08-2009, 08:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีคนถามหลวงพ่อถึงเรื่องการสวดให้พรญาติโยม เวลาที่เขาถวายสังฆทาน ว่า "สวดกับไม่สวดมีค่าเท่ากันหรือเปล่า"

หลวงพ่อท่านบอกว่า "ไม่เท่ากัน บางคนเขากำลังใจเขาต้องการตรงนั้น ไม่มีให้เขา บางคนนี่เฉาไปเลย เพราะฉะนั้นก็สวดให้เสียหน่อย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 13-08-2009, 18:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า "สมัยก่อนชอบคุยกับผู้หญิงท้อง จนโดนเขาประท้วง ตอนที่อยู่โรงพยาบาลทหารเรือ มีเรือเอกหญิงคนหนึ่ง กำลังท้อง(ใหญ่มาก) ว่างเวรเมื่อไหร่เขาก็แวะมากราบหลวงปู่มหาอำพัน เราก็ชวนเขาคุยทั้งวัน

พวกสาว ๆ ก็มาประท้วงว่า 'ทีคนมีผัวคุยอยู่นั่นแหละ' ก็บอกเขาว่า รู้ไหมทำไมถึงคุยกับคนท้อง พวกเธอก็บอกว่าไม่รู้ เลยบอกไปว่า ประการแรก มั่นใจเลยว่าเธอมีผัวแล้ว ฉันไม่เผลอไปจีบเธอแน่ ประการที่สอง ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอะไร พอเห็นคนท้องแล้วมันเกิดความหวังดี ปรารถนาดีเสมอ เหมือนกับบุญของเด็กที่กำลังจะเกิดมา เห็นแล้วรู้สึกน่าเมตตา น่าสงเคราะห์ มีอะไรพอแนะนำได้จะแนะนำ เท่านั้นแหละโดนบรรดาเขี้ยวลากดินแยกเขี้ยวมารอบข้าง แม้กระทั่งคนท้องด้วย หาว่า 'ดูถูกคนท้อง เดี๋ยวก็ปล้ำเสียหรอก' พวกพยาบาลนี่น่ากลัว เพราะเรื่องพวกนี้เขาเห็นเป็นเรื่องปกติของเขา เขาก็เลยพูดเปิดเผย

พี่ทิดตู่เลยเปรย ๆ กับหลวงพ่อว่า "พวกหมอ พวกพยาบาลเขามีความรู้เกี่ยวข้องกับร่างกาย คลุกคลีอยู่กับความทรมาน"
หลวงพ่อกล่าวต่อว่า "ถ้าหากเข้ามาศึกษาธรรมจะได้เร็วมาก น่าเสียดายว่าทุกวันนี้ที่เขาเป็นอยู่ มันเป็นความชาชิน ไม่ใช่เคยชิน เคยชินมันยังทรงฌานได้ แต่นี่มันชาชิน ชินจนมันไม่ได้นึกอะไรเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 27-01-2010 เมื่อ 16:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 13-08-2009, 20:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อกล่าวว่า "คนยุคใหม่ขาดความอดทนในชีวิตคู่ เวลากระทบกระทั่งกัน ก็ขาดขันติและทมะ

ขันติ คือ ความอดทนอดกลั้น ทมะ คือ ความข่มใจไว้ไม่ให้ระเบิด ในเมื่อขาดตรงจุดนี้ก็ไม่สามารถจะใช้ชีวิตคู่ได้ แต่ด้วยความที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคม การอยู่คนเดียวถ้าไม่ใช่คนรักสงบจริง ๆ จะอยู่ยาก เขาก็เลยต้องหาเพื่อน ท้ายที่สุด เพื่อนที่ดีที่สุดก็เพื่อนสี่ขา เพราะพวกนี้มันรักจริง ถึงเวลาก็มองเราตาแป๋ว เจ้านายจะทำอย่างไรก็ได้ จะตีก็ได้ จะฆ่าก็ได้ ในเมื่อเป็นดังนั้น คนเวลารักเขา เมื่อเขาเจ็บไข้ได้ป่วย ก็ต้องพาไปหาหมอ "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 137 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 14-08-2009, 08:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล็กกล่าวถึงคำสอนของหลวงปู่มหาอำพันว่า
"ถ้าพิจารณาว่าทุกสิ่งบนโลกนี้ไม่มีอะไรได้อย่างใจ เราก็จะไม่ทุกข์ แต่ถ้าคิดว่าทุกสิ่งบนโลกนี้ต้องได้อย่างใจ เราจะมีแต่ความทุกข์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 144 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 14-08-2009, 08:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อคะ คนเป็นพุทธภูมิจำเป็นไหมที่จะต้องมีคนรักเยอะ ๆ
ตอบ : ไม่ต้อง อยู่คนเดียวก็ได้

ถาม : แล้วพวกที่มีแฟนคลับเยอะ ๆ พวกสาวก ลูกศิษย์ อะไรพวกนี้
ตอบ : นั่นเขาตามมาเอง เห็นความดีก็เลยอาสาจะมาขอติดตามกัน

ถาม : บางคนเขาก็บอกว่าตามเก็บบริวาร สร้างบริวาร
ตอบ : ถ้าใครคิดอย่างนั้นก็แสดงว่ายังห่างไกลพุทธภูมิ เขาไม่ต้องไปสร้าง คนถ้าเห็นดีเห็นงามเขาตามมาเอง

ถาม : แล้วอย่างพวกดาราที่มีแฟนคลับมาก ๆ
ตอบ : เขาก็ต้องเคยสร้างบุญสร้างกรรมกันมา ถ้าไม่เคยสร้างเวรสร้างกรรมกันมา เขาจะมีแฟนคลับได้อย่างไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-08-2014 เมื่อ 14:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 16-08-2009, 13:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถามเกี่ยวกับการบนในหน้าที่การงาน
หลวงพ่อบอกว่า "บนพระวิสุทธิเทพ พระวิสุทธิเทพ คือ พระพุทธเจ้าบนพระนิพพาน ท่านเคยบอกไว้ว่าถ้าเรื่องเกี่ยวกับงานให้บนท่านได้ ถ้าหากสำเร็จแล้วให้แก้บนด้วยการรักษาศีลแปดพร้อมกับเจริญกรรมฐาน ๗ วัน

ในเรื่องกรรมฐานไม่ต้องหนักใจ อาจจะทำกรรมฐานช่วงเช้าสัก ๑ ชั่วโมง แล้วนอกจากนั้นก็รักษาศีลแปดทั้งวัน ไปจุดธูปกลางแจ้ง ๕ ดอก บอกท่านถ้าลูกหลานได้งานมีความคล่องตัว ก็จะได้ทำบุญช่วยงานพระพุทธศาสนาได้โดยง่าย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 16-08-2009, 15:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อกล่าวถึงการแผ่เมตตาว่า "การแผ่เมตตาในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่เป็นการแผ่เมตตาด้วยปาก ผลที่เกิดมันจะน้อยมาก เมตตาต้องออกจากใจจริง ๆ ทำอย่างไรในช่วงแผ่เมตตาที่เราจะกำหนดกำลังใจให้เป็นไปตามที่ปากว่าจริง ๆ

ตั้งความหวังดีปรารถนาดีให้เขาพ้นทุกข์ ขอให้เขามีความสุข ตั้งใจว่าเราไม่เป็นศัตรูกับใครยินดีเป็นมิตรกับคนและสัตว์ทั่วทั้งโลก ไม่อย่างนั้นแล้วก็แผ่แต่ปาก ท่องไปให้คล่องแค่นั้นเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 16-08-2009, 15:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คุณแม่เขาเป็นเจ้าหญิงนิทรามา ๒-๓ ปี แล้ว มีทางแก้ไขไหมครับ
ตอบ : บางทีก็ต้องยอม ปล่อยให้เป็นอย่างนั้นไปเรื่อย ๆ โอกาสแก้ไขมันไม่มี ถ้าหากเราหยุด ดีไม่ดีท่านจะไปเลย มันจะกลายเป็นว่าเราเสี่ยงต่ออนันตริยกรรม ถ้าไม่ทำ...ก็ไม่ทำแต่แรกเลย แต่ถ้าทำแล้วต้องปล่อยเป็นหน้าที่หมอ หมอเขาจะวินิจฉัยอย่างไรก็เรื่องของหมอ เราอย่าไปออกคำสั่งก็แล้วกัน เดี๋ยวจะเฮงโดยไม่รู้ตัว อนันตริยกรรมนี่ปิดมรรคปิดผลโดยไม่รู้ตัว

ถาม : แล้วจิตของแม่เขาไปอยู่ไหน
ตอบ : ในลักษณะอย่างนี้ บางท่านก็ไปนานแล้ว บางท่านก็ยังอยู่ แต่อยู่ในลักษณะขาดสติ ไม่สามารถรับรู้อะไรได้ ฉะนั้นถ้าไม่ใช่คนรู้จริงแล้วไปแตะต้องตรงนี้เสี่ยงต่ออนันตริยกรรม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 16-08-2009, 15:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,559 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูภาวนาคาถาเงินล้านวันละ ๑,๐๐๐ จบ มาสองเดือนแล้วค่ะ แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่จะแสดงผล
ตอบ : ถ้าสงสัยอย่างนี้อยู่เกิดผลยาก เราต้องตัดตรงส่วนนั้นไปเลย คิดว่าเรามีหน้าที่ทำ ส่วนผลจะเกิดหรือไม่เกิดเรื่องของมัน

ถาม : หนูรู้สึกว่าเกิดแล้วค่ะ เพราะว่ายอดขายเพิ่มขึ้นเยอะ มาขอความมั่นใจเพิ่มขึ้นเฉย ๆ ค่ะ
ตอบ : เดี๋ยวโบ๊ะเสียเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 16-08-2009 เมื่อ 16:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:10



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว