|
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#41
|
||||
|
||||
ถาม : หนูไหว้พระสวดมนต์ประมาณตีสามตีสี่ วันนั้นหนูได้อัญเชิญพระยานาคราช และหลวงพ่อทั้งหลาย ทำปฏิบัติสมาธิอยู่ดี ๆ หนูเห็น.....สามรูป สว่างมาก ?
ตอบ : การปฏิบัติถ้าสมาธิทรงตัวถึงระดับหนึ่ง จะเริ่มเห็นสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาได้ แล้วการเห็นส่วนใหญ่ก็จะเสียมากกว่าดี เพราะมักจะไปยึดติดนิมิตตรงจุดนั้น ถือว่าสิ่งที่เราเห็นเป็นการยืนยันว่าการปฏิบัติของเราเริ่มได้ผลแล้ว ทำให้มีความมั่นคงและมั่นใจในพระรัตนตรัยเพิ่มขึ้น เอาตรงนั้นแล้วกัน ต่อไปเวลาทำอย่าไปคิดอยากเห็นอีก ถ้าคิดอยากเห็นจะไม่ได้เห็น เพราะใจไม่นิ่ง เรามีหน้าที่สวดมนต์ภาวนาของเราไปตามปกติ จะเห็นหรือไม่เห็นก็ช่าง ให้ทำกำลังใจอย่างนั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-04-2015 เมื่อ 17:19 |
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#42
|
||||
|
||||
ถาม : ทำบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเงินที่หล่อไปเมื่อวันที่ ๒๙ ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ทำบุญเพิ่มได้ไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท เพราะอาตมาลงทุนซื้อเม็ดเงินไปประมาณ ๙๐๐,๐๐๐ บาท วันหล่อพระญาติโยมทำบุญมาประมาณ ๗๐๐,๐๐๐ บาท แล้วช่างไม่คิดค่าแรงในการหล่อพระ บอกว่าทำถวาย เพราะฉะนั้น..โยมจะทำบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเงินหน้าตัก ๙.๙ นิ้ว ขอร้องว่าห้ามทำเกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท เดี๋ยวจะเกินต้นทุน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-04-2015 เมื่อ 17:20 |
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#43
|
||||
|
||||
มีคนนำซองปัจจัยที่มีรูปยันต์เกราะเพชรมาถวาย พระอาจารย์กล่าวว่า "ใครทำซองนี้มา ? หาเรื่องกันชัด ๆ ถึงเวลาต้องทิ้งก็เป็นโทษ คนทำไม่ได้คิดถึงเรื่องการปรามาสพระรัตนตรัยเลย
จะทำอะไรต้องยั้งคิดด้วย ไม่อย่างนั้นแสดงว่าสภาพจิตเราหยาบเกินไป เรื่องของการปฏิบัติจะไม่ก้าวหน้า ต้องบอกว่าจะทำอะไรก็ต้องทำด้วยความเมตตา จะพูดอะไรก็พูดด้วยความเมตตา จะคิดอะไรต้องคิดด้วยความเมตตา ไม่ใช่เราทำแล้วสะใจ ส่งพ้นมือเราไป คนอื่นจะเดือดร้อนอย่างไรช่างหัวมัน ลองคิดดูว่าถ้าคนที่สภาพจิตหยาบ ฉีกซองเอาปัจจัยออก แล้วเขาทิ้งซองลงถังขยะจะเกิดโทษอะไร คุณหาอเวจีให้เขาชัด ๆ..! อาตมาย้ำอยู่บ่อย ๆ ว่า การปฏิบัติธรรม ยิ่งปฏิบัติไป กาย วาจา ใจ ต้องดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็เหมือนกับญาติโยมหลายคนฟังแล้วผ่านหูไปเฉย ๆ จึงมีอะไรที่แสดงออกซึ่งความหยาบของจิตของเรามาก ทำแล้วเกิดโทษทั้งตนเองและผู้อื่น ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ให้ค่อย ๆ ปรับปรุงกันไปก็แล้วกัน" ป.ล. ไม่อนุญาตให้นำข้อความนี้ไปเผยแพร่ เพราะจะกระทบผู้อื่น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-04-2015 เมื่อ 17:49 |
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#44
|
||||
|
||||
ถาม : การคิดถึงพระเป็นกิเลสหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ก็นับเป็นอนุสติ แต่ถ้าคิดว่าท่านรับสังฆทานได้เยอะ เดี๋ยวเราจะจิ๊กบ้าง อันนั้นเป็นกิเลส ต้องดูว่าเราคิดอะไร ถาม : อย่างเช่น ไม่ได้เจอท่านมานาน แล้วคิดถึง ต้องตัดหรือเปล่าครับ ? ตอบ : ไม่ต้องเสียเวลาไปตัด ต้องเพิ่มให้เยอะ ๆ ด้วย พอถึงเวลาแล้วจะได้ไม่ไปฟุ้งซ่านในเรื่องรัก โลภ โกรธ หลง ส่วนไหนที่ดีกับเราก็ทำสิ่งนั้นให้มากไว้ ส่วนไหนที่ไม่ดีพยายามลด ละ เลิก ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็จะดีขึ้นไปเอง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-04-2015 เมื่อ 17:50 |
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#45
|
||||
|
||||
ถาม : แม่ชีถือบาตรออกบิณฑบาตได้หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : บางเขตเขาทำกัน ถ้านับแล้วแม่ชีก็ถือว่าเป็นนักบวชฝ่ายหนึ่ง ทำบุญกับท่านก็ได้ ไม่มีปัญหาหรอก เพียงแต่ว่าถ้าเขาไม่นับสถานภาพแม่ชีเป็นนักบวช ก็ถือว่าผิดกฎหมาย แต่เนื่องจากว่าปัจจุบันสถานภาพของแม่ชียังก้ำกึ่งกันอยู่ เขารอการรองรับสถานภาพจริง ๆ ซึ่งก็ยังไม่ได้ประกาศอย่างชัดเจนเสียที
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-04-2015 เมื่อ 17:50 |
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#46
|
||||
|
||||
ถาม : ตัวเองไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลย ?
ตอบ : อย่าเสียใจในสิ่งที่ทำไปแล้ว แต่จงเสียดายถ้าไม่ได้ทำ ไม่อย่างนั้นเราจะไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นอะไร
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2015 เมื่อ 02:34 |
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#47
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "วันที่ ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ นิสิตปริญญาเอกรุ่นของอาตมา ต้องไปกตเวทีต่ออาจารย์ วันที่ ๗-๘ พฤษภาคม ซ้อมรับปริญญา วันที่ ๙-๑๐ พฤษภาคม รับปริญญา
วันที่ ๑๐ ครูบาหน่อแก้วฟ้าท่านนิมนต์เอาไว้ก่อนหลวงตาวัชรชัย อาตมากันวันที่ ๑ เอาไว้ให้หลวงตา แต่หลวงตาไปนิมนต์วันที่ ๑๐ สงสารครูบาหน่อแก้วฟ้าเหมือนกัน เพราะว่าท่านนิมนต์ ๒-๓ ปีแล้วไม่ได้ไปสักปี เอากำหนดการของทางมหาวิทยาลัยให้ท่านดู ว่าซ้อมรับปริญญาวันที่ ๗-๘ รับวันที่ ๙-๑๐ ท่านนั่งหัวเราะ “ทำไมต้องเป็นผมอีกแล้ว ?”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2015 เมื่อ 02:35 |
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#48
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าเราตกแต่งบัญชีเพื่อให้เสียภาษีน้อยลง อย่างนี้ถือว่าผิดศีลอทินนาทานไหมครับ ?
ตอบ : ก็ไม่ใช่ว่าผิดโดยตรง แต่อยู่ในลักษณะของการฉ้อราษฎร์บังหลวง โทษหนักกว่าเพราะว่าเป็นเรื่องของส่วนรวม คราวนี้สิ่งที่เราทำ เราทำเพื่อตัวเองหรือเพื่อคนอื่น ? ถ้าทำเพื่อตัวเองโทษก็น้อยกว่า แต่ถ้าทำให้คนอื่นนี่เท่ากับว่าทำให้หลายคน มีความผิดหลายกระทง โทษก็หนักมากกว่า
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 15-04-2015 เมื่อ 06:03 |
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#49
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าเรามึนจนหน้ามืด เกี่ยวกับกรรมไหมคะ ?
ตอบ : เกี่ยวอยู่แล้ว ถาม : ถ้าอย่างนั้นเราก็ทำอะไรไม่ได้ ? ตอบ : ได้..ถ้าคุณระมัดระวังจนพ้นวาระไป กรรมก็ต้องไปรอจังหวะข้างหน้า คราวนี้ก็อย่างที่ว่าแหละ ระวังเท่าไรถ้ากรรมจะเอาคืน เราก็โดนจนได้ ถาม : แล้วถ้าเราไม่ได้ใส่ใจ ? ตอบ : รักษาได้ให้รักษา ถ้ารักษาเต็มที่แล้วรักษาไม่ได้ ค่อยยอมรับว่าเป็นกฎของกรรม ไม่ใช่ยังไม่ทันทำอะไรเลย ก็ยอมรับกฎของกรรม อย่างนั้นถือว่าฉลาดน้อยเกินไป กายสังขารของเรา ถ้าดูแลให้ดีไว้ก็สามารถที่จะปฏิบัติธรรมได้ดีขึ้น สะดวกขึ้น ถ้าปล่อยให้ชำรุดทรุดโทรมมาก ทำอะไรก็ลำบากไปหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออายุมากขึ้น ถ้าทรุดนี่จะทรุดนานเลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2015 เมื่อ 02:38 |
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#50
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "หลวงพ่อสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม ท่านเคยพูดเอาไว้นานแล้วว่า นกไม่มีขน คนไม่มีความรู้ ขึ้นสู่ที่สูงไม่ได้ อาตมาจึงจำเป็นต้องสนับสนุนเรื่องการศึกษา ถ้าเด็ก ๆ เขาอยากเรียนแล้วไปอยู่วัด จะส่งเรียนหมด เป็นวัดเดียวที่ส่งเด็กวัดทุกคนเรียน คนที่ไม่รู้ภาษาไทยเลยก็เริ่มเรียน ก.ไก่ ข.ไข่ ของการศึกษานอกโรงเรียน
คาดว่าไม่เกินเทอมหน้า วัดท่าขนุนจะมีเด็กวัดจบปริญญาตรี ดูเขาเรียนแล้วรู้สึกว่ายากมาก เพราะเขาเรียนปริญญาตรี ตอนอาตมาเรียนปริญญาตรี แต่ตอนนี้อาตมาจบปริญญาเอกแล้ว เขายังเรียนปริญญาตรีอยู่นั่นแหละ แต่ก็ยังดีที่เขาอดทนมาก มีความพยายามในการเรียนสูงมาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2015 เมื่อ 02:39 |
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#51
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "หลวงปู่ครูบาอ่อน หลวงปู่ครูบาผัด เผาเสร็จอัฐิกลายเป็นพระธาตุทันทีเลย ปกติต้องทิ้งไว้ระยะหนึ่งค่อยเป็น ก็ยังโชคดีที่ท่านเมตตาไปที่วัดท่าขนุน โดยเฉพาะงานสืบชะตาปี ๒๕๕๓ ส่วนหลวงปู่ครูบาครองอาตมาไม่กล้ากวนท่าน เจอหน้าทีไรท่านดึงไปกอดทุกที ท่าน ๙๐ กว่าปีแล้ว ถ้าให้วิ่งไปจากวัดของท่านถึงทองผาภูมิ อาจจะกลายเป็นจัดงานศพถวายท่านแทน..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2015 เมื่อ 10:06 |
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#52
|
||||
|
||||
ถาม : ผ่าตัดมา ๖ เดือน ตรงนี้ซีสต์ขึ้นอีกแล้ว หนูใจเสีย กลัวเจ็บ ?
ตอบ : เจ็บไข้ได้ป่วยตรงไหน นึกถึงภาพพระเอาไว้ตรงนั้น ตั้งใจว่าขอให้หาย แล้วก็ภาวนานึกถึงภาพพระไปเรื่อย ๆ ถามว่าเป็นการฝืนกฎของกรรมหรือเปล่า ? ถ้าทำได้ก็ไม่ฝืน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2015 เมื่อ 14:13 |
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#53
|
||||
|
||||
ถาม : ไปกราบหลวงพ่อพระมหามัยมุนีที่พม่า รู้สึกจริง ๆ ว่าศรัทธาของคนที่นั่นมีมาก ?
ตอบ : เขาไปกันตั้งแต่ตี ๓ ตี ๔ ไปยืนรอจนกว่าจะเปิดประตู อาตมาถึงตี ๓ ครึ่ง ลุยเข้าไปยันชั้นในเลย เหลืออยู่ชั้นเดียว เขากลัวว่าถ้าเข้าข้างในแล้วของเขาหายจะลำบาก ทีนี้จะได้รู้ว่าถ้าอาตมาได้ไปพม่าแล้ว ทำไมถึงต้องไปตรงนั้นให้ได้ บางคนยังทำใจเรื่องพม่าเผากรุงศรีอยุธยาไม่ได้ ก็เลยมองข้ามของดีไปอย่างน่าเสียดาย ถ้าอาตมาไปพม่า สถานที่ซึ่งต้องไปให้ได้มี พระมหาเจดีย์ชเวดากอง พระบรมธาตุอินทร์แขวน หลวงพ่อมหามัยมุนี ขาดไม่ได้เลย ๓ ที่ อย่างไรก็ต้องไป ส่วนที่อื่นแล้วแต่เหตุการณ์ ทางพม่าเขาถือว่าหลวงพ่อพระมหามัยมุนีเป็นพระพุทธเจ้าที่ยังมีชีวิตอยู่ ตอนเช้าถ้ารู้จักสังเกต ก่อนเปิดประตูจะมีเสียงดนตรี เสียงดนตรีนั่นเป็นการปลุกให้ท่านตื่น หลังจากนั้นก็ทำพิธีล้างหน้าแปรงฟัน ถวายภัตตาหาร มีดนตรีคลอ มีคนคอยพัดด้วย เหมือนกับท่านยังมีชีวิตอยู่ พอสิ้นหลวงปู่ปัญญาวังสะที่ล้างพระพักตร์ถวายท่านมา ๓๐ กว่าปี อาตมาก็ไม่ได้ไปอีก องค์ใหม่ที่ล้างพระพักตร์อาตมาไม่รู้จักแล้ว ถาม : ไปเจอ ไม่ใช่องค์เดิม เป็นพระสังฆราช ? ตอบ : ไม่ใช่พระสังฆราช แต่เป็นเจ้าอาวาสวัดนั้น เพราะว่าที่อื่นเดินทางมาลำบาก ถ้าอยู่วัดนั้นเลย จะทำหน้าที่ได้ต่อเนื่อง ถาม : ไปที่นั่น เขาถามว่าเป็นคนจีนหรือคนญี่ปุ่น พอบอกว่าเป็นคนไทย เขาพูดถึงพระแก้วมรกต ? ตอบ : ถ้าพูดถึงคนไทยเมื่อไร เขาจะถามหาพระแก้วมรกต ความฝันของคนพม่าคือได้ไปกราบพระแก้วมรกตที่เมืองไทยสักครั้งหนึ่ง เขาถือว่าเป็นพี่น้องของพระมหามัยมุนี ถาม : เขาเรียกหลวงพ่อพระมหามัยมุนีว่า พระเจ้าเนื้อนิ่ม ? ตอบ : อาตมายืนยันว่านิ่ม เพราะว่าแผ่นทองหนาปึ้กเลย มีอยู่ครั้งหนึ่งเคยโดนไฟไหม้แล้วทองรุ่นเก่าที่ปิดอยู่ละลายลงมาได้ ๒๐ กว่าชั่ง ๑ ชั่ง ก็ประมาณ ๓ ปอนด์ ๒๐ กว่าชั่งก็น่าจะ ๖๐ กว่าปอนด์ เหตุที่พระองค์ท่านเป็นปุ่ม ๆ เพราะเครื่องทรงของกษัตริย์พม่ามีดอกมีดวงอะไรอยู่ พอปิดก็หนาขึ้น ๆ ก็เป็นปุ่มตามลักษณะของเครื่องทรง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2015 เมื่อ 14:16 |
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#54
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เว็บวัดท่าขนุน ถ้าใครสมัครมาหลายชื่อจะตัดทิ้งเลย แล้วต้องยืนยันตัวตน คุณสมัครมา ๓ ชื่อ ๔ ชื่อ จะนับเป็น ๓ คน ๔ คน เราไม่เอา เราเอาชื่อเดียว เราไม่ได้ต้องการสมาชิกมาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2015 เมื่อ 16:14 |
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#55
|
||||
|
||||
พระอาจารย์สนทนากับหลวงพี่ท่านหนึ่งว่า "ตอนออกแบบหมู่เรือนไทยก็ไม่ได้คิดจะทำเรื่องนี้ เหมือนอย่างกับธรรมะจัดสรร คิดอยู่อย่างเดียวว่าต้องวางแบบนี้ ๆ ตอนแรกยังคิดว่าเป็นหอกลองข้างหนึ่ง หอระฆังข้างหนึ่ง แล้วตรงกลางจะตั้งอะไรดี ? ที่ไหนได้กลายเป็นสมเด็จองค์ปฐม กลายเป็นหลวงปู่หลวงพ่อ
จนป่านนี้อาตมายังไม่กล้าตั้งรูปหลวงปู่ปานและหลวงพ่อวัดท่าซุง เพราะกลัวเป็นโทษให้คนที่มาไหว้ เนื่องจากหลวงพ่อท่านพูดไม่ยั้ง ท่านรู้จริง แต่คนที่รับท่านไม่ได้มีเยอะ งานของท่านเป็นงานเอามรรคเอาผล ต้องเด็ดขาดจริงจัง งานของอาตมาเป็นแค่ประคองศาสนาเท่านั้น พูดง่าย ๆ ก็คือประคับประคองเผื่อเขาในอนาคตข้างหน้าไม่รู้อีกกี่ชาติ จะไปหักเขาให้เกิดโทษก็ไม่เอาหรอก ตอนแรกท่านก็บอกทำชั่วคราว ๆ เดี๋ยวก็มีตัวจริงมา จนป่านนี้ยังไม่เห็นมีตัวจริงเลย ผมก็พยายามดู ๆ ไว้ พวกรุ่นหลัง ๆ ก็ยังไม่ได้ดั่งใจ เห็นพวกลูกศิษย์เขาออกไปเป็นเจ้าอาวาสที่อื่นแล้วก็เหมือนกับงานกว้างขึ้น เมื่อไม่กี่วันท่านณุไปขอนแก่น ตอนนี้ทางอีสานก็มีหลายคนแล้ว ท่านนวยอยู่สีคิ้ว ท่านณุอยู่ขอนแก่น ท่านหมึกดันย้ายไปเชียงใหม่ ทีแรกอยู่ที่โคราช"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 16-04-2015 เมื่อ 07:19 |
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#56
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าจะถวายพระสำหรับเป็นเครื่องสังฆทาน ?
ตอบ : ถ้าพระที่เข้าพิธีแล้วไม่ควร หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเคยเตือนไว้ เพราะท่านมีเทวดารักษาประจำ ไปยกขึ้น ๆ ลง ๆ ข้ามไปข้ามมาท่านไม่ชอบใจ ถาม : พระใหม่ครับ ? ตอบ : ถ้าเข้าพิธีแล้ว จะใหม่หรือไม่ใหม่ก็ไม่ควร ยกเว้นของที่ยังไม่เข้าพิธี
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2015 เมื่อ 16:37 |
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#57
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าวว่า "โยมที่อยากได้พระสมเด็จองค์ปฐมเนื้อทองคำมาถามอาตมาว่า ได้จองไว้บ้างหรือเปล่า ? จะไปจองกับผีอะไร อาตมามาถึงก็ ๓๐๐ กว่าข้อความแล้ว จะไปเหลือหรือ ?"
ถาม : จะมีคนมาถวายไหมครับ ? ตอบ : ไม่คิดหวังเลย ติด ๑ ใน ๑๐๐ แล้วยังตัดใจถวายได้ก็เกินไป
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2015 เมื่อ 16:37 |
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#58
|
||||
|
||||
ถาม : เรื่องของสมเด็จองค์ปฐม ?
ตอบ : ยิ่งนานไปคนที่รู้จักท่านจริง ๆ จะน้อยลง ชื่อเสียงเกียรติคุณท่านมากขึ้น ๆ แต่ที่จะรู้จักท่านจริง ๆ จะน้อยลงเรื่อย ๆ แบบเดียวกับหลวงพ่อพุทธชินราชขอฝนที่วัดบางนมโค ตอนสมัยหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านอยู่ หน้าแล้งขอฝนตอนเย็นได้วันละ ๒ ชั่วโมง ไม่ให้ตกหนักมาก เอาแค่พื้นเปียก ตกทุกวัน ๖ โมงเย็น ถึง ๒ ทุ่มตกตลอด พอหลวงพ่อท่านออกจากวัดบางนมโคมา มีคนไปจุดธูปขอให้ตายฝนก็ไม่ตก พอหลวงพ่อท่านกลับไปเยี่ยมวัดบางนมโคก็เลยไปถาม ท่านบอกว่า "เขาไม่รู้จักข้า จุดธูปแค่ตรงนั้น แต่เขาไม่รู้จักว่าข้าเป็นใคร ก็เลยไม่รู้จะช่วยอย่างไร" เขาเห็นท่านเป็นแค่พระพุทธรูปเท่านั้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2015 เมื่อ 16:39 |
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#59
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "จะรอดูว่ามีใครฉลาดพอไหม ? เพราะว่าที่นี่พอเลิกกรรมฐานจะให้เขาเอาพวงมาลัยกลับไปไหว้พระที่บ้าน ถ้าฉลาดพอก็จะรู้จักตากแห้งเก็บไว้ ถ้าเก็บไว้เยอะ ๆ ก็เอาไปสร้างวัตถุมงคลได้ แต่ถ้าฉลาดไม่พอก็เป็นเรื่องของคุณเถอะ..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-04-2015 เมื่อ 17:24 |
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#60
|
||||
|
||||
ถาม : บางที่บวงสรวงหล่อพระตอนเย็น เขาบอกว่าทำตามวัดท่าซุง ?
ตอบ : ผิดครู..เขาไม่รู้หรอกว่าวัดท่าซุงที่บวงสรวงตอนเย็นนั้นเป็นการบวงสรวงสุมทองเฉย ๆ แล้วคนก็ไปเลียนแบบตอนนั้น ถ้าคุณต้องการบารมีพระท่านช่วย ต้องบวงสรวงตอนเช้าไม่เกิน ๙ โมงครึ่ง ถาม : สมัยอยู่บ้านอนุสาวรีย์ยังเคยมีบวงสรวงตอนเย็นนี่ครับ ? ตอบ : เกี่ยวกันที่ไหน ? คนละเรื่องคนละงานกัน ต้องดูให้ออกว่างานนั้นงานอะไร บ้านอนุสาวรีย์ตอนนั้นเป็นงานบอกกล่าวขึ้นบ้านใหม่ ใช่หล่อพระที่ไหนเล่า ? ขนาดทำบุญวันเกิดหลวงพ่อ ท่านยังบวงสรวงตอนเช้า กราบเรียนถามว่าทำไมครับ ? เพราะบวงสรวงตอนเช้าเสร็จแล้วยังต้องรับแขกต่อ หลวงพ่อท่านจะเหนื่อยมาก ทำไมไม่บวงสรวงตั้งแต่ตอนเย็นเลย ท่านบอกว่าตอนนี้เงินขาด ถ้าอยากได้เงินก็ต้องทำตามกติกา ก็คือต้องบวงสรวงตอนเช้า ถาม : ถ้าผมเงินขาด ทำแบบนั้นได้บ้างไหมครับ ? ตอบ :ไปลองทำสิ ลองดูว่าจะได้อย่างท่านไหม ? พูดง่าย ๆ ก็คือว่าท่านต้องการให้คนมาทำบุญ เพื่อที่จะได้เงินมาใช้หนี้ตามที่ต้องการ จึงต้องทำตามกติกา ถ้าบวงสรวงตอนเย็นก็อดรับประทาน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-04-2015 เมื่อ 17:26 |
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|