|
เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#21
|
||||
|
||||
ถาม : เรื่องการภาวนา
ตอบ : ถ้ากำลังใจมันไม่มีคุณภาพ ผลมันก็จะน้อย เพราะฉะนั้นกำลังใจต้องมีคุณภาพ จับลมหายใจเข้าออกจริง ๆ จัง ๆ ถ้าถามว่าเอาคุณภาพขนาดไหน เอาแค่ว่าไม่ต้องบังคับมันก็รู้ลมอัตโนมัติ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 138 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#22
|
||||
|
||||
ถาม : ตอนเด็ก ๆ เขาจะไม่หลับ เขาจะมีความรู้สึกว่าตัวเขาหลุดลอยออกจากร่างไปค่ะ
ตอบ : มีอยู่สองอย่าง ถ้าไม่ใช่ป่วย ก็ถอดจิตออกไป ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าเรื่องปกติ แล้วตอนนี้ยังเป็นหรือเปล่าจ๊ะ (ผู้หญิงคนนั้นตอบว่าไม่เป็นแล้ว) ถ้าตอนเป็นเด็กจิตมันยังบริสุทธิ์อยู่ สิ่งที่เคยทำได้ในอดีตมันก็มา พอโตขึ้น....รักโลภโกรธหลงเกิดขึ้น มันก็ไปกลบไปบังตรงนั้นเสีย ทำให้ความสามารถส่วนนี้ของเราหายไป ไม่เช่นนั้นถ้ารักษาไว้ได้ เรื่องถอดจิตไปเที่ยวภพภูมิต่าง ๆ เป็นเรื่องง่าย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-09-2009 เมื่อ 14:59 |
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#23
|
||||
|
||||
ถาม : เขาแปลกมาก มักมีพวกองค์เจ้าเข้าทรงเข้ามาทักเขา
ตอบ : ปล่อยให้เขาทักไป พวกนั้นไม่มีอะไรจะทำ ทักไปเรื่อย อาตมามันยังทักเลย อย่าไปสนใจ ฟังไว้เฉย ๆ ก็พอ มัวแต่ไปยินดียินร้ายตามมันเดี๋ยวก็เพี้ยนหรอก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#24
|
||||
|
||||
ถาม : ขอคำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติ
ตอบ : นั่งดูลมหายใจเข้า-ออก ใช้คำภาวนาว่าพุทโธก็ได้ หายใจเข้าก็พุท หายใจออกก็โธ ถาม : สวดมนต์ด้วยหรือเปล่าคะ ตอบ : ถ้าสวดมนต์ได้ก็ดี คราวนี้ตอนที่หายใจเข้า-ออก ให้ความรู้สึกทั้งหมดมันอยู่ที่ลมหายใจ มันหายใจเข้าก็กำหนดความรู้สึกไหลตามมันเข้าไป มันหายใจออกก็กำหนดความรู้สึกไหลตามมันออกมา ถ้ามันคิดเรื่องอื่นเมื่อไหร่ก็ทิ้งมันเสีย แล้วกลับมาอยู่กับลมหายใจอย่างเดียว พยายามทำให้ได้ ถ้าหายใจเข้าก็พุท หายใจออกก็โธ ไม่คิดอะไรเลย นับ ๑ พุทเข้า โธออก ไม่คิดอะไรเลย ก็นับ ๒ ไล่ไปเรื่อย ถ้ามันคิดเมื่อไหร่ เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ ดูซิว่านับได้ ๑๐ โดยไม่คิดอะไรเลยใช้เวลานานเท่าใด สองชั่วโมงเอาอยู่ก็เก่งแล้ว กลัวว่าพุท ไม่ทันจะโธ มันจะคิดไปทุกเรื่อง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-09-2009 เมื่อ 14:46 |
สมาชิก 135 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#25
|
||||
|
||||
หลวงพ่อได้พูดเกี่ยวกับเรื่องการบนไว้ว่า "เรื่องการบน ถ้าไม่จดไว้ก็ลำบาก บางทีมันลืม
คุณชาลี เอี่ยมกระสินธุ์ เคยเล่าให้ฟัง เพื่อนเขาไปล่าสัตว์ และก็ไปบนเจ้าพ่อตาหินช้างไว้ สำหรับเจ้าพ่อตาหินช้าง ถ้าเราขับรถวิ่งลงทางใต้ไปแถวชุมพร เราจะเห็นว่ามีอยู่ที่หนึ่ง ที่มันเป็นภูเขาอิงถนนอยู่ จะมีรถจอดอยู่เยอะมาก และจะมีคนลงไปจุดประทัดแก้บน เพื่อนเขาบนเจ้าพ่อตาหินช้างว่า ถ้าเจ้าพ่อศักดิ์สิทธิ์จริง เข้าป่าแล้วขอให้เขาได้เจอกระทิงและได้ยิง ปรากฏว่าพอบนเสร็จยังไม่ทันจะขยับรถเลย ตรงพุ่มไม้เล็ก ๆ กระทิงตัวเกือบเท่าช้างโผล่มา แกก็ตกใจ ตาลีตาเหลือกยิง กระทิงก็เผ่นพรวดเข้าป่าไป เขาก็วิ่งตามไปดูว่ามีรอยเลือดอะไรหรือไม่ ปรากฏว่าแม้แต่รอยตีนก็ยังไม่มี คราวนี้เขาบนว่าขอให้ได้เจอกระทิงและได้ยิง ก็ได้ยิงจริง ๆ และถ้าหากเป็นไปตามที่บน เขาจะแก้บนด้วยไข่ต้มร้อยใบ พอไปถึงที่ตั้งแคมป์เขาก็ต้มไข่ ๑ ใบ แล้วก็เอาใบไม้เสียบไว้ บอกว่าไข่ต้มร้อยใบ ! มันโกงกระทั่งผี เพื่อนก็เตือน บอกว่าเจ้าพ่อศักดิ์สิทธิ์มากนะ บนอย่างไรต้องทำตามอย่างนั้น เขาก็บอกว่าเขาบนอย่างนี้ ปรากฏว่างวดนั้น รถไปแหกโค้งตกเขา ซี่โครงหักไป ๓ ซี่ พอกลับไปถึงบ้าน บ้านก็โดนไฟไหม้หมด เล่นกับใครไม่เล่น ในเรื่องของการบนต้องตรงไปตรงมา มีอยู่รายหนึ่งที่ตลกที่สุดก็คือว่า บนให้คนอื่นบวช แทนที่มันจะบนให้ตัวเองบวช แต่ดันไปให้คนอื่นบวชให้ ปรากฏว่าเรื่องที่ตัวเองบนไว้สำเร็จจริง ทีนี้สุดท้ายต้องไปบีบคอให้คนอื่นบวชตามที่บนไว้ "
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-09-2009 เมื่อ 16:53 |
สมาชิก 132 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#26
|
||||
|
||||
หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า "ก่อนฉันเพล คุยกันเรื่องหวัด ๒๐๐๙ ในขณะที่ฉันเพลไป มีเสียง (กระซิบ) บอกมาว่า กะเพรามันแก้หวัดนี้ได้ แก้หวัด ๒๐๐๙ ได้ ฉะนั้น..ให้กินผัดสิ้นคิดเยอะ ๆ "
หมายเหตุ : ผัดสิ้นคิด = ผัดกะเพรา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-01-2019 เมื่อ 01:44 |
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#27
|
||||
|
||||
ถาม : หลวงพี่ครับ ผมมีคำถาม
ตอบ : ว่ามา ถาม : คือ ผมไปทำแท้ง ตอบ : ตกลงคุณเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ถาม : ทำไมหรือครับ ตอบ : คุณบอกคุณไปทำแท้งมา ไปท้องตั้งแต่เมื่อไหร่ ของพระนี่ตรงไปตรงมา ถาม : ............. (คนถามอึ้ง).......... ตอบ : เข้าใจ ว่าต่อ (หัวเราะ) ถาม : อ่อ....ต่อครับ คือ ที่ผมทำอย่างนี้ มาทำสังฆทาน พร้อมทั้งพาแม่เด็กมาถวายสังฆทานด้วย ตอบ : ทำได้ เพียงแต่ว่าในส่วนที่ทำ....ความดีส่วนความดี ส่วนที่ไม่ดีก็ต่างคนต่างอยู่ ถึงวาระส่วนที่ไม่ดีมันสนองเราก็พบส่วนไม่ดี วาระดีสนองเราก็พบส่วนที่ดี แต่มันมีอยู่ว่าถ้าเราทำความดีสม่ำเสมอ สิ่งที่ไม่ดีมันจะตามไม่ทัน ความดีที่เป็นความดีใหญ่เลยก็คือ ศีล สมาธิ และปัญญา ถ้าสามารถรักษาศีลให้บริสุทธิ์ได้ ทำสมาธิทุกวัน ปัญญามันเกิด เห็นช่องทางรักษาใจให้ผ่องใสได้ กรรมอื่นเล็ก ๆ น้อย ๆ มันตามไม่ทันทั้งนั้น จะเหลืออยู่อย่างเดียวคือพวกบรรดากรรมหนัก ๆ แต่ถ้าเราทำสม่ำเสมอพวกนั้นก็ได้แต่จ่อไล่ไปเรื่อย ถ้าเราขาดช่วงเมื่อไหร่มันจึงจะตามได้ทัน วิธีหนีที่ดีที่สุดคือ ตั้งใจเจริญรักษาศีลและทำสมาธิ ถ้าสามารถทำได้กรรมอื่นตามยาก ถาม : แล้วอย่างของที่ถวายไปจะไปถึงน้องเขาไหมครับ ตอบ : ของอย่างนี้มันถวายได้ ตั้งใจอุทิศได้ แต่มันมีอยู่สองอย่างคือ ถ้าเขาอยู่ในที่ที่โมทนาได้..เขาก็จะได้รับ ถ้าอยู่ในเขตที่โมทนาไม่ได้..ก็ไม่ได้รับ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-09-2009 เมื่อ 16:54 |
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#28
|
||||
|
||||
ถาม : สมมติมีทหารไปรบ โดนยิง กำลังใกล้ตาย แต่ยังไม่ตาย แล้วเขาบอกเพื่อนว่า ให้เพื่อนช่วยฆ่าเขาเถอะ แล้วถ้าเกิดเพื่อนเขาฆ่า เพื่อนเขาจะบาปไหม
ตอบ : บาป แต่ว่ามันไม่เต็มร้อย เพราะอันดับแรกเจตนาไม่มี ที่บาปจริง ๆ คือ เจตนาตั้งใจฆ่า เขาบอกประกอบด้วย ๕ ส่วน คือ ๑) สัตว์นั้นมีชีวิตอยู่ ๒) รู้ว่าสัตว์นั้นมีชีวิตอยู่ ๓)ตั้งใจฆ่า ๔) ลงมือฆ่า ๕)ฆ่าสำเร็จ ถ้าขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไปก็ลดไป ๒๐ เปอร์เซ็นต์ การทำชีวิตให้ตกล่วงไป ไม่ว่าเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม กรรมมันมีอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ามันจะมากหรือน้อยเท่านั้น ถาม : เวลาสวดมนต์เสร็จแล้ว สำคัญไหมครับว่า ต้องกรวดน้ำหรือกรวดแห้ง ตอบ : ถ้าหากอยู่ในที่ที่นิยมกรวดน้ำเราก็กรวดไปกับเขา แต่จริง ๆ เราแค่นึกให้ใครเขาก็ได้แล้ว และการกรวดแห้งก็สะดวกด้วย แต่ถ้าที่อื่นเขานิยมแบบไหนเราก็ทำตามเขา ไม่ต้องเสียเวลาไปทะเลาะ ไปอธิบายกับเขา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#29
|
||||
|
||||
ถาม : หลวงพี่คะ ที่บ้านตะขาบเยอะมาก เอายาไปโรย
ตอบ : เอาทรายเสกวัดท่าซุง อธิษฐานแล้วโรยเป็นเขตไว้ ถ้าหากว่าเข้ามาแล้วมีอันตรายจะเข้าไม่ได้ แต่ว่าจริง ๆ หาคางคกมาสักสามสี่ตัว ทิ้งไว้ในบ้าน มันแพ้กัน ตะขาบมันจะหนีคางคกตลอด
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#30
|
||||
|
||||
ถาม : แล้วเวลาที่ตัวปฏิฆะหรือโทสะเกิด เวลาแมงป่องหรือตะขาบมากัด มันเป็นอกุศลกรรมหรือเปล่าครับ
ตอบ : มันจะเรียกว่าเป็นอกุศลกรรมก็ใช่ แต่ว่าจริง ๆ ก็คือ เราขาดสติ รั้งมันไม่ทัน ขาดสติ สมาธิไม่เพียงพอที่จะต่อต้าน ปัญญารู้ไม่เท่าทัน เจ๊งแน่นอน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#31
|
||||
|
||||
ถาม : ประมาณ ๒ เดือนที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปบ้านสายลม ไปฝึกกรรมฐานมโนมยิทธิมา ๒ ครั้ง ส่วนตัวของผมคิดว่า ผมยังไม่ได้สาระอะไร สิ่งที่เขาถาม ผมจะเดาเป็นส่วนใหญ่ ทีนี้ผมก็เลยหาว่าสมถะกองไหนที่เหมาะกับผมมากที่สุด อาจจะเป็น...
ตอบ : อานาปานสติ รักษาลมหายใจเข้าออกอย่างเดียวเลย ป้องกันการฟุ้งซ่านได้ดีที่สุด สร้างสมาธิให้เกิด ช่วยในการตัดกิเลสได้ ทำให้ศีลมั่นคง เอาลมหายใจเป็นหลัก ถาม : หมายความว่าตอนนี้ไม่ต้องฝึกมโนมยิทธิ ตอบ : ฝึกได้ ซ้อมไปเรื่อย ๆ แต่มันต้องมีเวลาที่เรามาอยู่กับลมหายใจเข้าออกของเราเอง ถาม : ครับผม ตอบ : ซ้อมวันละชั่วโมง สองชั่วโมง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 135 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#32
|
||||
|
||||
ในขณะที่ผู้จัดการใหญ่ของซีพีกำลังคุยกับหลวงพ่อ เรื่องการโคจรของดวงดาว มีอยู่คำถามหนึ่งที่เขาถามว่า "ถ้าดาวมันย้าย แล้วทุกคนจะเดือดร้อนไหมคะ"
หลวงพ่อตอบว่า "ไม่เดือดร้อน มันอยู่ที่เรา ถ้ามั่นคงในศีล สมาธิ และปัญญา ผลกระทบก็มีน้อย คนไหนที่ไม่มีหลักยึด ผลกระทบก็มีมาก เหมือนกับน้ำมาแรงหรือคลื่นใหญ่มา คนที่ไม่มีหลักยึดก็โดนซัดลอยไป อาจถึงแก่ชีวิตได้ แต่ถ้าคนที่มีหลักยึดอยู่ก็ไม่มีอันตราย สำคัญอยู่ที่การปฏิบัติธรรมของเราหรือความดีที่เราปฏิบัติ ตอนนั้นจะได้รู้ว่าความดีรักษาตัวเราได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#33
|
||||
|
||||
ถาม : งวดนี้กว่าจะได้มากราบท่าน ต้องใช้ความพยายามมากเลย เมื่อวานมาตอนค่ำ ๆ แล้ว รถเลี้ยวไม่ได้ก็กลับไป แล้วจะมาอีก ฝนก็ตั้งเค้า แล้ววันนี้จะมา จะจอดรถแถว ๆ สีลมคอมเพล็กซ์ กำลังจะเลี้ยวรถเข้า ไฟก็ไหม้ตึกข้าง ๆ ก็เลยรู้สึกว่างวดนี้
ตอบ : งวดนี้ทำไมเขาทดสอบกำลังใจเราขนาดนี้ ถาม : มันเป็นการทดสอบหรือคะ ตอบ : จ้ะ เป็นการทดสอบ อยากจะดูว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วเรามีกำลังใจที่จะต่อสู้ฟันฝ่าไหม ถ้ามีกำลังใจอยู่ก็แสดงว่าในเรื่องของบารมีที่เราสร้างสมมาอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้แล้ว แต่ถ้าถอดใจไปเสียก่อน ก็แปลว่า ยังใช้ไม่ได้อยู่
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 132 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#34
|
||||
|
||||
ถาม : เรื่องการบน
ตอบ : เรื่องของการบนเขาตรงไปตรงมาจ้ะ ถ้าขอไว้สองอย่างแล้วไม่สำเร็จทั้งสองอย่างไม่ต้องแก้ก็ได้ แต่ถ้าคิดว่าอุตส่าห์มีน้ำใจให้ตั้งครึ่งหนึ่ง จะแก้บนสักนิดก็ดี เคยเปรียบเอาไว้ว่าเหมือนกับการที่เราจะทำความดีอะไรสักอย่าง เปรียบกับน้ำกระบอกนี้ (ชี้ไปที่กระบอกน้ำ) ถ้าเราขาดแค่นี้ (ขาดน้ำอีกไม่มาก) เติมนิดเดียวก็เต็ม เราบนอะไรก็จะสำเร็จ อย่างเช่น บนว่าเราจะนั่งสมาธิสัก ๗ วัน บนว่าเราจะถวายสังฆทาน บนว่าเราจะปล่อยนกปล่อยปลา ความดีส่วนนี้มันมาเติมเต็มพอดี งานก็จะเสร็จ แต่ถ้ามันมีน้ำอยู่แค่นี้ (มีน้ำอยู่ในกระบอกเล็กน้อย) บนที่ไหนก็สำเร็จไม่ได้หรอกจ้ะ เพราะว่าความดีที่เราจะทำยังไม่เพียงพอ ยังอีกมากเลย จะเห็นว่าบางที่จะศักดิ์สิทธิ์แค่ไหนก็ตาม แต่บางคนบนแล้วไม่สำเร็จ เพราะว่าความดีมันพร่องเยอะ การบนมันดีตรงที่ว่า ถ้าเราความดีพร่องก็รีบเติมความดีไปเยอะ ๆ ต่อไปจะได้สำเร็จทุกเรื่อง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-09-2009 เมื่อ 21:20 |
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#35
|
||||
|
||||
ถาม : เพื่อนหนูเขาไม่รู้ตัวว่าท้อง และเขาก็ไม่รู้ว่าแท้ง แล้วอย่างนี้เขาจะมีกรรมอะไรไหม
ตอบ : จริง ๆ แล้วไม่มีอะไร เพราะตัวเองไม่รู้ และก็ไม่ได้ทำอะไร มันท้องก็ปล่อยมันท้องเอง มันแท้งก็ปล่อยมันแท้งเอง อันนั้นแสดงว่าเด็กที่จะมาเกิดสร้างกรรมหนักเอาไว้ โอกาสที่จะมาดูโลกยังไม่มีเลย แท้งเสียก่อนแล้ว แต่ถ้าเราไปให้หมอทำแท้งเองอย่างนั้นจะเป็นบาป เพราะเท่ากับว่าเราฆ่า
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#36
|
||||
|
||||
ถาม : พี่ชายผมครับ พอดีเป็นคนขาดความมั่นใจและต้องทานยากับหมอ
ตอบ : ไปฝึกนั่งสมาธิ ถ้าสมาธิทรงตัวความมั่นใจตัวเองจะเกิด มีแค่นั้นแหละ วิธีอื่นยาก ถาม : พอดีตอนนี้เขากินยา ตอบ : จะกินมันก็ได้ แต่ว่ามันจะคิดอะไรช้าหน่อย ซึ่งถ้าเราทำอะไรช้า คนที่เขารับเราเข้าทำงานจะรับเราได้หรือเปล่า ถาม : แสดงว่าให้เขานั่งสมาธิเยอะ ๆ ตอบ : พัฒนาด้วยการนั่งสมาธิแล้วก็ค่อย ๆ ลดเรื่องยาลง ตอนนี้เขากินวันละกี่เวลา ถาม : กินเฉพาะตอนนอนครับ เขานอนไม่ค่อยหลับ พอตื่นตอนเช้าลุกขึ้นมาจะงง ๆ ตอบ : เลิกกินยาพวกนั้นเลย ไปหาเถาไมยราบ ไมยราบที่เราเขี่ยแล้วใบมันหุบ ไปถอนมาทั้งรากทั้งโคน ล้างสะอาดสัก ๗-๘ ต้น ขดใส่หม้อ แล้วก็ต้มน้ำสักหม้อหนึ่ง กินแทนน้ำ รับรองได้ว่าหลับระเบิดเถิดเทิง ยิ่งกว่ายาฝรั่ง แล้วไม่มีสารตกค้าง ตื่นขึ้นมาปกติทุกอย่าง จะได้เลิกกินยาฝรั่ง จะได้ล้างที่มันตกค้างในตัวเราให้ออก ถาม : ผมไปส่งเขาอบรมที่หลวงพ่อวิริยังค์ เขาบอกว่าหลวงพ่อมีวิธีรักษาด้วยพลังจิต ตอบ : นั่นมันส่วนรักษา แต่นี่ช่วยตัวเองได้เลย แล้วมันไม่อันตรายเหมือนยาฝรั่ง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#37
|
||||
|
||||
ถาม : การนั่งสมาธิ
ตอบ : ไม่มีอะไรหรอก การนั่งสมาธิสำคัญที่สุดก็คือ ความรู้สึกทั้งหมดอยู่กับลมหายใจเข้าออก ลมหายใจเข้าก็รู้ตามไปจนสุด ลมหายใจออกก็รู้ตามออกมาจนสุด ให้ความรู้สึกทั้งหมดอยู่แค่นี้ ไปคิดเรื่องอื่นเมื่อไหร่ก็ดึงกลับมาตรงนั้น จนกระทั่งสามารถรักษาอารมณ์ได้ระยะเวลายาวสั้นตามที่เราต้องการ ใช้ระยะเวลาระยะหนึ่งทีเดียวกว่าจะทำได้อย่างที่ใจต้องการ ไม่อย่างนั้นใหม่ ๆ มันจะฟุ้งซ่านตลอด มันจะคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ บางทีนั่งธรรมดาไม่คิดหรอก พอเริ่มนั่งสมาธิมันเริ่มฟุ้ง ดังนั้นสำคัญที่สุดก็ขึ้นอยู่กับลมหายใจเข้าออก ไม่ต้องไปใส่ใจ มันต้องการหนักเบาอะไร เรามีหน้าที่ตามดูมันอย่างเดียว ทำไปทุกวันมันจะใช้ประโยชน์ได้เยอะมาก พอถึงเวลาแล้วมันจะเป็นคนตายด้าน อะไรเกิดขึ้นก็ไม่ตื่นเต้นกับใคร รถชนกันตูม คนอื่นเขาวี้ดว้ายกัน ส่วนเราก็ช่วยดูว่าจะช่วยอะไรเขาได้ไหม
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-09-2009 เมื่อ 02:27 |
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#38
|
||||
|
||||
พอเขาถามคำถามเสร็จ หลวงพ่อก็กล่าวว่า "ได้ยินคำถามพื้น ๆ แล้วบางทีก็ดีใจ ดีใจว่าคนเริ่มต้นใหม่ยังมีอยู่ ถ้าหากมันมีคำถามแต่ระดับสูงขึ้นมาแล้ว ก็อาจจะมานั่งคิดว่าคนใหม่ไม่มีเลยหรือ
ฉะนั้นมองกันคนละมุม ไม่ใช่จะมาดีใจว่าพวกคำถามระดับนี้เป็นที่ต้องการของเรา ไม่อย่างนั้นถ้ามันขาดช่วงลงไปมันจะต่อไม่ติด พวกนี้ก็ประเภทวิ่งได้ไปแล้ว พวกนั้นยังไม่หัดเดินเลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#39
|
||||
|
||||
มีคนมาถามหลวงพ่อว่า "ถ้าหากว่าภายในหนึ่งเดือน ผมมาทำบุญสังฆทานครั้งเดียวด้วยปัจจัยเยอะ ๆ กับการที่มาทำสังฆทานด้วยปัจจัยน้อย แต่ว่าทำสิบครั้ง อย่างไหนจะดีกว่ากัน"
หลวงพ่อตอบว่า " มันอยู่ที่ตัวเรา การสละออกแต่น้อย แต่ถ้าสละได้ง่ายกว่า มีโอกาสทำบ่อย ๆ จิตจะยึดในจาคานุสติได้มากกว่า เพราะฉะนั้นประเภททำสิบครั้ง ถ้าว่าในแง่ของคนที่กำลังใจยังไม่ทรงตัว จะมีความดีสูงกว่า แต่ถ้าคนที่กำลังใจทรงตัวแล้ว จะทำครั้งเดียวหรือทำสิบครั้งมันไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไร ไม่หวั่นไหวด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม จะครั้งเดียวหรือสิบครั้งก็เหมือนกัน แต่ว่าการทำบุญต้องดูตรงจุดที่ว่าตัวเราเดือดร้อนหรือเปล่า ถ้าหากตัวเราจะเดือดร้อนก็แบ่งทำ แต่ถ้าไม่เดือดร้อนก็ทำทีเดียว อาจจะถูกรางวัลที่ ๑ ไปทีเดียว หรืออาจจะถูกรางวัลที่ ๕ ไปเรื่อย ๆ "
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-09-2009 เมื่อ 19:23 |
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#40
|
||||
|
||||
ถาม : หลวงพี่ครับ เขาบอกคนเราจะดีจะชั่วก็เป็นไปตามกรรมหรือครับ ถ้าตอนนี้เราทรงกำลังใจได้ดี เป็นเพราะกรรมดีที่เราเคยทำไว้ในอดีตหรือเปล่าครับ เพราะปัจจุบันด้วย
ตอบ : เพราะปัจจุบันด้วย และเราสามารถรักษาปัจจุบันให้ดีต่อเนื่องไปในอนาคต ถาม : ถ้ามันขาดช่วงไป ตอบ : ถ้าขาดช่วงไปปล่อยให้สิ่งที่ไม่ดีแทรกได้ ก็เอาคืนยากสิ ถาม : แต่ถ้าเราต่อเนื่องไปได้เรื่อย ๆ ตอบ : ก็จะรักษาการปฏิบัติของเราได้ ถาม : แล้ว..(ได้ยินไม่ชัด)... ตอบ : มันต้องมีความรู้สึกเท่ากัน ถาม : ก็คือ ทำอะไรแล้วเราไม่ไปซ้าย ไปขวาใช่หรือเปล่า ตอบ : ไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม เราต้องให้น้ำหนักความสำคัญเท่ากัน ไม่ใช่เรื่องนี้ให้น้อย เรื่องนั้นให้มาก กลายเป็นว่าบารมียังพร่องอยู่ พระพุทธเจ้าท่านอุปมาเหมือนสิงโตจับเหยื่อ ท่านบอกว่าราชสีห์จับเหยื่อจะตัวเล็กตัวใหญ่แค่ไหนก็ตาม ใช้กำลังเท่ากัน จึงได้จับเหยื่อแล้วไม่พลาด แล้วถ้าเราไปคิดว่าเรื่องสำคัญกว่าทุ่มเทให้มากกว่า เรื่องนี้สำคัญน้อย ทุ่มเทให้น้อย มันจะพลาดอะไรไป ถาม : ทำต่อเนื่องแล้วทรงกำลังใจดี ๆ นี่ ตอบ : ทำดีมันย่อมได้ดีแน่นอน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|