|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#21
|
||||
|
||||
ถาม : ในขณะที่ถือเงิน แล้วสวดพระคาถาเงินล้านไปด้วย ก่อนที่จะหยอดประปุกเก็บเงิน รู้สึกว่าขณะนั้นสมาธิจดจ่อ รอที่จะหยอดกระปุกค่อนข้างจะมั่นคงกว่าปกติ
ถ้าเปลี่ยนมาห้อยตะกรุดมหาสะท้อน พร้อมกับสวดคาถามหาสะท้อนไปด้วย ก่อนที่จะหยอดเงินลงกระปุกเหมือนกัน แบบนี้จะได้ไหมครับ ? ตอบ : ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#22
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้หุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อเงินปางห้ามสมุทรกับหลวงพ่อทองคำปั้นเสร็จแล้ว ตอนแรกตั้งใจว่าปั้นหลวงพ่อเงินอย่างเดียวแล้วไปสแกนย่อส่วน ท่านอาจารย์สุชาติเกรงว่าแบบจะรั่วไหล จึงปั้นองค์เล็กให้เลย ค่าปั้น ๑๐๐,๐๐๐ บาท ท่านอาจารย์มหาเอจ่ายทุกบาททุกสตางค์ งานนี้พระอาจารย์เล็กไม่ต้องจ่าย
ท่านอาจารย์สุชาติปั้นออกมาได้งามสมใจ อาตมาตั้งใจจะหล่อในช่วงลอยกระทง โยมยังมีเวลาร่วมบุญได้อีกสักพักหนึ่ง ตอนนี้ก็รอทองจากโยมอีกประมาณ ๖ กิโลกรัม เมื่อเดือนก่อนครอบครัวคุณปฐมกฤษฎ์ นวประดิษฐ์กุล ถวายทองคำแท่งในนามบริษัทสุวรรณวิศว์ ๑ กิโลกรัม ๒๐ บาท แล้วหนึ่งกิโลกรัมของโยมก็เป็นทอง ๙๙.๙๙ เปอร์เซ็นต์ด้วย น่าอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่ง ก็เหลืออีกประมาณ ๕ กิโลกรัม ทอง ๕ กิโลกรัมก็แค่ ๓๐๐ กว่าบาทเท่านั้น....สบายมาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2021 เมื่อ 18:09 |
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#23
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "พวกเราใจไม่ค่อยจะมั่นคง ขาดการฝึกฝนสมาธิเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่ก็คือมักจะถนัดกันอยู่แค่การให้ทาน ซึ่งจะว่าไปแล้ว การให้ทานนั้นเป็นการสร้างบุญในระดับที่ต่ำที่สุด ต่อให้เป็นสังฆทาน วิหารทาน หรือธรรมทาน ก็ยังเป็นบุญที่ต่ำอยู่ดี เพราะว่าบุญที่สูงกว่านั้นยังมีอยู่ คือ ยังมีการรักษาศีล แล้วก็เจริญภาวนา
แต่คราวนี้ด้วยความที่ญาติโยมถนัดในการให้ทาน ก็ต้องใช้ความพยายามมากกว่าปกติ เพราะว่าต้องให้จนเคยชิน สภาพจิตยึดเกาะกับทาน อย่างเช่นว่าใส่บาตรทุกวัน ถ้าไม่ได้ใส่บาตรก็รู้สึกคิดถึง ต้องการที่จะทำให้ได้ เป็นต้น คราวนี้ในส่วนของการรักษาศีลและเจริญภาวนา ที่มีอานิสงส์มากกว่า เราก็มักจะได้แค่ทานกับศีล ในส่วนของภาวนาที่มีคุณประโยชน์มหาศาล โดยเฉพาะในส่วนของการภาวนาพระคาถาเงินล้าน ญาติโยมยังขาดการกระทำที่จริงจัง โดยเฉพาะขาดการช่างสังเกต ถ้าภาวนาพระคาถาเงินล้านอย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่องกันถึงสองเดือนแล้วไม่เกิดผล หรือว่าผลเกิดน้อย ก็ต้องรู้จักสังเกตว่าเราผิดพลาดตรงไหน เราภาวนาน้อยกว่าคนอื่นหรือเปล่า ? หรือเราภาวนาเพราะความอยากรวย ซึ่งเป็นกำลังใจที่ไม่ได้ปล่อยวางอย่างแท้จริง ก็เลยทำให้ความโลภมาบังหน้า ผลของพระคาถาที่จะเกิดขึ้นจึงมีน้อยไปด้วย ในเมื่อขาดการภาวนา หรือมีการภาวนาแต่ไม่ช่างสังเกต โอกาสที่ท่านทั้งหลายจะเข้าถึงคุณความดีในระดับที่มั่นคงจริง ๆ ก็เป็นไปโดยยาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2021 เมื่อ 21:46 |
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#24
|
||||
|
||||
ถาม : ผมอยากได้ทุนเรียนฟรีที่โรงเรียนจุฬาภรณ์ ขอหลวงตาเมตตาสงเคราะห์ผมด้วยครับ ?
ตอบ : หลวงตามีแต่อุเบกขา ถ้าอยากจะเรียนต้องไปเรียนที่ทองผาภูมิ ถึงจะมีทุนให้ เรื่องของทุนการศึกษาถ้าให้เปะปะไป คนทั้งประเทศจะมาขอตรงนี้ และต้องมีกฎเกณฑ์กติกาที่เหมาะสมที่ทางเราตั้งเอาไว้ด้วย เพราะฉะนั้น...เวลาที่เขาส่งชื่อนักเรียนรับทุน มีกติกาข้อหนึ่งก็คือ ต้องเป็นเด็กเรียนที่ทองผาภูมิ พวกเราส่วนหนึ่งยังไม่รู้ความสามารถในการขอของคน ขนาดช่วยเขาอยู่ตรงโน้นตรงนี้ตรงนั้นจนจะท่วมหัว เขายังมาขอให้ช่วยอีก ตอนนี้รายชื่อผู้ขอความช่วยเหลือมีอยู่ประมาณสี่หน้ากระดาษเอ ๔ นี่เฉพาะสถานที่เท่านั้นนะ ไม่ใช่บุคคล..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2021 เมื่อ 21:46 |
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#25
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวกับเจ้าหน้าที่ที่ตู้วัตถุมงคล "วันนี้หาให้ได้นะว่าเงินมาจากไหน ? ของหนูงอกแค่สองพันบาท รู้ไหมว่าพี่ฝู (พัชรีภรณ์ หยกอุบล) เขาส่งเงินหลวงตา งอกมาหนึ่งล้านบาท จนป่านนี้พี่ฝูยังหาไม่ได้ว่าเงินมาจากไหน ? หลวงตาก็สงสัยเหมือนกันว่างอกทีหนึ่งเป็นมัดขนาดนี้เลยหรือ ? แต่พี่ฝูเขาก็ยืนยันตัวเลขมาว่าไม่พลาด หลวงตาก็เลยได้เงินจากบุคคลผู้ตั้งใจทำบุญโดยไม่แสดงตัวตนหนึ่งล้านบาท..ขออนุโมทนา..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2021 เมื่อ 14:33 |
สมาชิก 225 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#26
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าหากว่าใครได้รับหนังสือกระโถนข้างธรรมาสน์ เอาไปเรียงแล้วจะเห็นว่าขาดหายไปสองเดือน แต่ให้ดูฉบับของหนังสือ คือเล่มที่เท่าไรของหนังสือนั้น ยังเรียงลำดับอยู่ เนื่องจากว่าช่วงที่หยุดรับสังฆทานและหยุดสอนกรรมฐานต้นเดือนไป ก็จะไม่ได้พิมพ์หนังสือ
ปกติแล้วหนังสือของทางวัดท่าขนุนออกต่อเนื่องมาไม่เคยขาดมาสิบกว่าปีแล้ว มาสองปีนี้เจอพิษไวรัสโควิด-๑๙ ไปสองรอบ จึงต้องหยุดพิมพ์หนังสือตามจำนวนเดือนที่หยุดรับสังฆทานไป"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2021 เมื่อ 14:34 |
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#27
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๔ นี้ อาตมาจะเดินทางไปพุทธาภิเษกและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบนพระเกศสมเด็จองค์ปฐม ณ ที่พักสงฆ์ศรีชัยรัตนโคตร จังหวัดสกลนคร น่าจะไปถึงวันเสาร์ค่ำ ๆ วันอาทิตย์ฉันเพลแล้วก็คงต้องรีบกลับ เพราะว่าวันจันทร์มีงานต่อ ใครไม่ท้อทางไกล ไปเจอกันได้ที่สกลนคร อาตมาเดินทางจนรู้สึกว่าใกล้แล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2021 เมื่อ 14:35 |
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#28
|
||||
|
||||
ถาม : พระที่เราฉ้อโกงมาจากหล่อพระองค์ก่อน ๆ ถ้านำมาถวายคืน แต่บางส่วนเราให้กับผู้ที่มาร่วมบุญ เขาจะมีโทษไหมครับ ?
ตอบ : ตอนช่วงเอาก็มีโทษ ตอนช่วงส่งคืนก็ได้ประโยชน์ ที่สำคัญอยู่ที่ว่าก่อนหน้านั้นได้เคยรับยันต์เกราะเพชรไปหรือไม่ ถ้าเคยรับไปยันต์ก็เจ๊งกะบ๊งไปแล้ว..! ถาม : เท่ากับว่าผู้ที่ร่วมบุญที่เราเอาวัตถุมงคลไปให้เขา เขาไม่มีโทษใช่ไหมครับ ? ตอบ : อันนั้นเป็นเรื่องของเขาแล้ว ถ้าเขาไม่รู้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเขารู้ก็เป็นเรื่องเหมือนกัน เพราะว่าจิตไปพะวงอยู่จนเศร้าหมอง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2021 เมื่อ 14:36 |
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#29
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้ชื่อเสียงของวงการสงฆ์ไม่ค่อยจะดี ผู้บังคับบัญชาก็เลยมีนโยบายว่า เมื่อทำกิจกรรมอะไรดี ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับชาวบ้าน ก็ให้รีบส่งงานไปเพื่อประชาสัมพันธ์ วัน ๆ อาตมาก็เลยต้องมานั่งส่งงานทางไลน์อย่างที่เห็นอยู่นี่แหละ
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ซึ่งอาตมาจะรับสังฆทานวันสุดท้าย ไม่เจอกันสองเดือนกว่า มีเวลาเจอหน้ากันแค่สองวัน ปกติวันศุกร์ที่เคยมา เดือนนี้ก็ติดการสอบธรรมศึกษา ที่ทางแม่กองธรรมสนามหลวงเลื่อนมาจากวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๓ เพื่อหนีโควิด-๑๙ มาชนกับการรับสังฆทานที่นี่ อาตมาก็เลื่อนวันรับสังฆทานเป็นเสาร์-อาทิตย์-จันทร์ ปรากฏว่าวันจันทร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเลี้ยงนักเรียนที่เข้าสอบบาลีทุกสนามทั่วประเทศ อาตมาในฐานะคณะกรรมการสนามสอบจังหวัดกาญจนบุรีจึงต้องไปทำหน้าที่โดยปริยาย ตอนแรกตั้งใจว่าจะไม่ไปแล้ว เพราะว่าผู้บังคับบัญชาท่านก็เข้าใจว่ากิจการงานสำคัญของอาตมาอยู่ตรงนี้ แต่งานอื่นถึงจะสำคัญขนาดไหนก็ตาม ถ้าหากว่าเป็นงานของทางราชวงศ์มาก็ต้องให้ความสำคัญก่อนเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะเป็นในหลวงด้วย ต่อให้เป็นตายอย่างไรก็ต้องตะเกียกตะกายกลับไปให้ทัน ไม่เช่นนั้นแล้วข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไม่มีใครรับไหว โดยเฉพาะองค์ในหลวง ร.๑๐ พระองค์ท่านตั้งพระทัยปรับปรุงคณะสงฆ์ไทยจริง ๆ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 10-03-2021 เมื่อ 18:38 |
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#30
|
||||
|
||||
"ช่วงที่ผ่าน ๆ มาจะเห็นว่าพระองค์ท่านเน้นในเรื่องของการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตั้งท่านเจ้าคุณสุทัศน์ วรทสฺสี เป็นพระธรรมราชานุวัตร ท่านเจ้าคุณสุทัศน์ก็คือเจ้าสำนักเรียนวัดโมลีโลกยาราม ถือว่าเป็นสำนักเรียนบาลีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในปัจจุบัน การแต่งตั้งท่านเจ้าคุณอาจารย์สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ เป็นพระเทพวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. ท่านก็คืออธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ซึ่งต้องถือว่าทั้งการเรียนทางโลกและการเรียนทางธรรมของคณะสงฆ์ พระองค์ท่านตั้งเจตนาแน่วแน่ในการสนับสนุนอย่างชัดเจน
ปีที่แล้วก็มีการพระราชทานพัดแต่งตั้งมหาเปรียญทุกประโยค ซึ่งตามธรรมเนียมแต่เดิมก็คือจะได้รับพระราชทานพัดแต่งตั้งมหาเปรียญเฉพาะเปรียญธรรม ๖ และเปรียญธรรม ๙ ประโยคเท่านั้น ประโยคอื่น ๆ ก็ได้แต่แหงนคอรอคอย ถ้าตะกายไปไม่ถึง โอกาสที่จะได้รับพระราชทานพัดจากองค์ในหลวงก็ไม่มี ปีที่แล้วพระองค์ท่านพระราชทานให้ครบทุกประโยคเลย แล้วมาปีนี้ที่สนับสนุนอย่างชัดเจนที่สุดก็คือ พระราชทานเลี้ยงนักเรียนที่เข้าสอบบาลีทุกสนามสอบ ก็คือให้ไปตั้งโรงครัวหลวง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ทำการ ทุกแห่งที่เปิดสนามสอบบาลีและทุกสนามสอบ ให้คัดนักเรียนที่สมควรรับพระราชทานรางวัลส่วนพระองค์สนามละ ๒๕ รูป ของสนามจังหวัดกาญจนบุรีก็มีพระอินทรปกรณ์ ฐิตสุโภ ของวัดท่าขนุนเป็น ๑ ใน ๒๕ รูปที่เข้ารับพระราชทานรางวัลด้วย จึงทำให้อาตมามีเวลาให้ญาติโยมแค่วันเสาร์กับวันอาทิตย์นี้เท่านั้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 10-03-2021 เมื่อ 18:41 |
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#31
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดสร้างวัตถุมงคล เอาแบบสมเด็จองค์ปฐมมหาสะท้อนมาให้ตรวจแก้รอบสุดท้าย ก็เป็นอันว่าอยู่ตัวแล้ว คราวนี้คนไหนที่บูชาสมเด็จองค์ปฐมมหาสะท้อนเนื้อเงินไม่ทัน ให้ไปจองบูชาหลวงพ่อสุคะโตแทน เพราะว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านให้บรรจุเม็ดเงินลงไป ๑ บาท แต่ว่าส่วนใหญ่จะเกินนิดหน่อยเพราะว่าใส่พอดีไม่ได้อยู่แล้ว แล้วท่านจะช่วยขอ "พระ" ท่านทำเป็นมหาสะท้อนให้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-03-2021 เมื่อ 18:23 |
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#32
|
||||
|
||||
"เนื่องจากว่างานในส่วนรับผิดชอบของอาตมากว้างขึ้นเรื่อย ๆ ตามที่คนเขามาขอความช่วยเหลือ ถ้ามาขอความช่วยเหลือตอนนี้ ไม่รู้ว่าอีก ๔ - ๕ ปีจะได้หรือเปล่า ? เดือนที่ผ่านมาก็ไปช่วยสร้างอาคารที่พักเด็กกับศูนย์การเรียนรู้สำหรับเด็กพิเศษ ที่โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก (วังด้ง) นั่นเขาขอมา ๔ ปีแล้ว ขนาดลัดคิวให้ยังไปได้เอาสี่ปีให้หลัง ลองคิดดูว่าคนที่ขอทีหลัง รายชื่ออยู่ลำดับที่ ๗๐ - ๘๐ อีกกี่ปีจะไปถึงก็ไม่รู้
ช่วงกลางเดือนนี้จะปิดกระทู้สร้างพระประธานในศาลาธรรมสังเวชของวัดปรังกาสี และปิดกระทู้ร่วมสร้างห้องประชุมในอาคารอเนกประสงค์ของ มจร.วังน้อย ซึ่งทางราชการส่วนใหญ่แล้ว จะได้งบประมาณมาแต่ตัวอาคารเปล่า ๆ ส่วนที่เหลือถ้าคุณมีความสามารถก็ไปหางบส่วนอื่นมาเสริม ถ้าไม่มีก็ต้องรอจนกว่าจะได้งบประมาณใหม่ บรรดาศิษย์เก่า มจร.ก็ร่วมกันทำห้องเรียนวิชาโน้นหนึ่งห้อง วิชานี้หนึ่งห้อง ของอาตมาเขาขอไม่มาก เขาขอห้องประชุมใหญ่หนึ่งห้อง ซึ่งแพงกว่าห้องเรียนถึงสี่ห้องรวมกัน แต่ว่าเป็นเรื่องของการเรียนคณะสงฆ์ อาตมาก็ยินดีทำให้ เพราะว่าทุกส่วนที่ช่วยไปคือความเจริญของพระพุทธศาสนา ทำให้พระภิกษุสามเณรมีความรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม จะได้ปรับวิธีการสอนญาติโยมให้เข้ากับยุคสมัยได้ดียิ่งขึ้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-03-2021 เมื่อ 18:25 |
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#33
|
||||
|
||||
"ถ้าหากว่าปิดสองกระทู้นี้แล้ว ก็อาจจะเริ่มเปิดกระทู้กฐินปลดหนี้แต่เนิ่น ๆ เพราะว่าทางด้านท่านอาจารย์หนึ่ง (พระครูนาคดิตถ์วรรักษ์) วัดท่าโขลง จังหวัดลพบุรี ที่เป็นสหธรรมิกกัน ท่านขอความช่วยเหลือมาตั้งแต่ ๕ ปีที่แล้ว ก็คือไปตามคิว ท่านไปสร้างโรงเรียน แล้วก็นำเอาเด็กชาวเขาลงมาเรียนเพื่อเพิ่มความรู้ เขาจะได้มีหนทางในการทำมาหากินที่ง่ายขึ้น แต่คราวนี้นักเรียนหลายร้อยคนมาอยู่มากินที่วัด รายจ่ายมหาศาล ท่านขอความช่วยเหลือมา ก็รับปากท่านเอาไว้ แต่ว่าต้องไปตามคิว เพิ่งจะมาถึงคิวกฐินปลดหนี้ปีนี้
ท่านดูแลนักเรียนมาก ดูแลทั้งโรงเรียน ก็คิดว่าจะหาให้ท่านให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ก็เลยอยากจะเปิดกระทู้กฐินปลดหนี้แต่เนิ่น ๆ ถ้าไอ้ตัวเล็กไม่เหนื่อยตายเสียก่อนก็คงจะได้เปิดกระทู้ให้พวกเรา น่าจะหลังจากกลางเดือนไปแล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 10-03-2021 เมื่อ 18:32 |
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#34
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้พระมหาเถระมรณภาพหลายรูปติด ๆ กัน เพราะว่าเป็นช่วงอากาศเปลี่ยน หนาวต่อร้อน เมื่อเช้ามืดหลวงพ่อพระธรรมรัตนากร หรือหลวงพ่อท่านเจ้าคุณสีนวล ปญฺญาวชิโร เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ ท่าเตียน ก็เพิ่งมรณภาพ ช่วงอากาศเปลี่ยนก็คือระหว่างเปลี่ยนฤดู อย่างเช่นปลายฝนต้นหนาว ปลายหนาวต่อร้อน ปลายร้อนต่อฝน ความแปรปรวนของอากาศมีมาก คนป่วยหรือคนแก่รับไม่ไหวก็อาจจะเสียชีวิตไปเลย
เมื่อวันศุกร์ก็คือสองวันที่ผ่านมา อาตมาเดินทางออกจากวัดมายังไม่ถึง ๔๐ กิโลเมตร ทางทองผาภูมิแจ้งมาว่า อดีต ส.ท.แจ๊ก (นายภัทรพล มาโนช) เสียชีวิตแล้ว อายุเพิ่งจะ ๕๓ ปี ก็แปลกใจอยู่ว่าทำไมงวดนี้ไม่ลงสมัครสมาชิกสภาเทศบาลตำบลทองผาภูมิ แต่ให้น้องสาวก็คือจูน (นางสาวกฤติกา มาโนช) ลงสมัครแทน ปรากฏว่าได้ข่าวมาบอกว่าไม่ค่อยสบาย ครอบครัวนี้คือครอบครัวของคุณสมใจ-คุณบุหงา มาโนช จะใส่บาตรพระทุกวัน วันละ ๕ วัด รวมทั้งวัดท่าขนุนด้วย คราวนี้ตอนที่ ส.ท.แจ๊กมาใส่บาตรก็ดูท่าทางโรย ๆ ไปหน่อย ก็คิดว่าไม่สบายอย่างที่บอกไว้ ปรากฏว่าวันศุกร์ทางนั้นส่งข่าวมาว่าตายแล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-03-2021 เมื่อ 18:29 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#35
|
||||
|
||||
"คนแก่อายุมาก ๆ ตายไม่เป็นอะไร คนอายุน้อย ๆ ป่วยแล้วตายถือว่าผิดปกติ จะว่าไปแล้วแบบนี้ก็โชคดี เพราะว่าเป็นการตายก่อนหมดอายุ ญาติพี่น้องทำบุญอะไรไปรับได้หมด และตัว ส.ท.แจ๊กเองก็ใส่บาตรทำบุญบ่อย ๆ ถ้าวันไหนอยู่บ้าน พ่อแม่คือคุณลุงสมใจกับคุณป้าบุหงาใส่บาตร แกก็จะมายืนประกบข้าง จับแขนใส่บาตรด้วย
อย่างนั้นก็แปลว่ามีใจอยู่กับบุญกับกุศลโดยตลอดอยู่แล้ว อาศัยบุญกุศลของตัวเองก็เพียงพอแล้ว ยังมีญาติพี่น้องทำไปให้ แล้วตัวเองตายก่อนหมดอายุยังไปรับบุญรับกรรมไม่ได้ แต่ว่าถ้าใครทำบุญทำกุศลอุทิศไปให้ มีส่วนได้รับเต็ม ๆ และกลายเป็นเศรษฐี รอวันหมดอายุจากความเป็นมนุษย์แล้วก็ไปเสวยความสุขของตัวเอง คนที่ตายแบบผิดปกติ ถ้าญาติพี่น้องรู้จักทำบุญให้ ถือว่าโชคดีเสียด้วยซ้ำไป คนตายที่หมดอายุนั่นส่วนใหญ่แล้วปล่อยตามบุญตามกรรมของตัวเองเลย ถ้าทำเอาไว้มากก็ขึ้นตรงลงตรง ๆ ถ้าทำไปก้ำกึ่งกันก็รอท่านพระยายมตัดสินให้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-03-2021 เมื่อ 01:25 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#36
|
||||
|
||||
ถาม : เรื่องฝึกสมาธิให้ได้ญาณ ๑ ที่หลวงพ่อฝึกได้แล้วถึงเข้าใจนะครับ หลวงพ่อฝึกอย่างไรนะครับ ?
ตอบ : ฌาน ไม่ใช่ ญาณ สมาธิส่งผลให้ได้ฌาน ถ้ามีความคล่องตัวในฌานจะเกิดญาณ คือเครื่องรู้ขึ้น ปฐมฌานหรือฌาน ๑ ง่ายนิดเดียว แค่จับลมหายใจ จมูก..อก... ท้อง ครบสามฐานก็ได้แล้ว เพียงแต่ว่าจะรักษาได้กี่นาทีเท่านั้น หายใจเข้า...จมูก..อก..ท้อง หายใจออก...ท้อง..อก..จมูก รู้ตลอดก็คือปฐมฌาน ขอยืนยัน..ถ้าตำราไหนบอกว่าไม่ใช่ก็ช่างหัวมัน อาตมายืนยันว่าใช่แน่ เพราะว่าปฐมฌานอย่างเดียวอาตมาทำอยู่สามปี ไม่มีใครชำนาญไปกว่านี้อีกแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-03-2021 เมื่อ 18:31 |
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#37
|
||||
|
||||
พระอาจารย์ประกาศว่า "ญาติโยมที่ถวายทองคำมาร่วมหล่อพระ ถ้าหากว่ามีหัวเป็นเพชรเป็นพลอย ไม่สามารถที่จะหล่อได้นะจ๊ะ ลงเบ้าแล้วจะระเบิดหมด ต้องเอาไปบรรจุแทน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-03-2021 เมื่อ 18:32 |
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#38
|
||||
|
||||
ถาม : น้ำปรอทออกมาจากเบี้ยแก้ครับ ?
ตอบ : ได้ถักหรือเปล่า ? ถาม : ไม่ได้ถักครับ ตอบ : ถ้าไม่ได้ถัก หาชันโรงมาอุดเพิ่มไป ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวโดนความร้อนแล้วจะรั่วหมด ถาม : ใช้อีพ็อกซี่ได้ไหมครับ ? ตอบ : ไม่แน่ใจว่าปรอทละลายอีพ็อกซี่ได้หรือเปล่า แต่ละลายชันโรงไม่ได้แน่ ถาม : น้ำปรอทที่ออกมานี่โดนได้ไหมครับ ? ตอบ : โดนไม่เป็นไร แต่อย่ากินเข้าไป ถาม : ตอนแรกรั่วออกมาเป็นน้ำ ตอนนี้แห้งเป็นผงแล้ว ? ตอบ : ปกติแล้วไม่น่าจะรั่ว เพราะว่าอาตมาปิดชันโรงหนามาก ถ้าหากว่ารั่วใหม่ ๆ หงายขึ้นมาแล้วเอากาวร้อนหยอดรอยต่อไม่ให้รั่วก็จบแล้ว ถาม : แล้วตอนนี้ละคะ ? ตอบ : ตอนนี้ไม่รู้ว่าเหลือปรอทหรือเปล่า ? ลองเขย่าดู..ถ้ายังเหลือก็รีบอุด ถาม : แล้วปรอทที่ออกมา ? ตอบ : จะใส่คืนไปไหมล่ะ ? ถ้าใส่คืนก็ใส่เอง ถาม : ให้เก็บปรอทที่ออกมา รวมไว้ด้วยกันไหมคะ หรือแยกออกไปเลย ? ตอบ : เหลือแค่ไหนก็ต้องเอาแค่นั้นแล้ว ส่วนใหญ่ที่รั่วเกิดจากทิ้งไว้ในที่ร้อนมาก อย่างเช่นว่าอาจจะเอาไว้ในรถที่จอดตากแดด เป็นต้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-03-2021 เมื่อ 18:34 |
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#39
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า "พระครูสุภกิจชยาภรณ์จากวัดหนองมะคัง จังหวัดพิษณุโลก ไปซื้อวัชระ ซึ่งก็คือวัตถุมงคลแทนดวงปัญญาของทางสายวัชรยานทิเบตมา ท่านบอกว่า "เห็นว่าเป็นของเก่าแท้แล้วเสียดาย คนขายก็ขอแค่ ๑,๔๐๐ บาทเท่านั้น พระอาจารย์รู้คาถาอาราธนาไหมครับ ?" บังเอิญพระอาจารย์ก็ดันรู้เสียอีก ก็เลยตอบไป แต่พระครูท่านดันเอาวัชระไปปราบผี อาศัยแสงสว่างแห่งปัญญาขับไล่ผีที่เหมือนกับความมืด
อาตมาเคยเกิดอยู่ทิเบตหลายชาติมาก ไม่รู้ก็คงไม่ได้หรอกนะ สมัยที่เกิดอยู่ทิเบตมักจะเกิดอยู่กับหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ บางชาติท่านก็เป็นพ่อ บางชาติท่านก็เป็นลุง บางชาติท่านก็เป็นอาจารย์ ที่เกิดเป็นอาจารย์นี่เยอะมากเลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-03-2021 เมื่อ 18:35 |
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#40
|
||||
|
||||
พระอาจารย์อ่านชื่อที่เขียนแนบมากับทองที่ถวายเพื่อร่วมหล่อพระ "นามสกุล พูนภิรมณ์ ทำไมไม่ใช้ ย. ยักษ์ ? ตัวนี้เป็น รมณ เป็นภาษาบาลี ภาษาไทยเรานี่ต้องบอกว่าแปลกแยก ใช้บาลีเป็นหลัก แต่ภาษาที่เขียนดันเขียนเป็นภาษาสันสกฤตเกือบหมด ถ้า รมย กลายเป็นสันสกฤต ถ้า รมณ ถึงจะเป็นภาษาบาลี"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-03-2021 เมื่อ 18:35 |
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|