กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > กระทู้ธรรม > ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-11-2011, 11:03
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 188,321 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default อุบัติเหตุคือเหตุที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน

อุบัติเหตุคือเหตุที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน

๑. “หลวงปู่สิม ท่านเคยสอนให้ซ้อมตายด้วยอุบัติเหตุ คือพุ่งจิตให้เข้าถึงพระนิพพานให้ได้ในขณะจิตเดียวเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยไม่สนใจกาย ไม่สนใจเวทนาของกาย เมื่อตอนซ้อมทำได้ดี แต่พอเจอของจริงกลับทำไม่ได้ เพราะคำว่า...อุบัติเหตุหมายถึงเหตุที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝันหรือไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า ดังนั้น ผู้ใดไม่หมั่นซ้อมให้ชำนาญ ก็ไม่มีทางสอบผ่านได้ จุดนี้ท่านฤๅษีจึงแนะนำให้มุดไว้ก่อนมันจะมา หมายถึงซ้อมอยู่เป็นปกติด้วยความไม่ประมาทในกิเลส เช่น ไฟราคะ-โทสะ-โมหะ ซึ่งรวมทั้งอุบัติเหตุด้วย

๒. “เห็นหรือยังจิตที่ยังเกาะติดอยู่กับขันธ์ ๕ ในขณะที่ประสบอุบัติเหตุไฟช็อตขึ้นมา มองจุดนี้ให้ดี ๆ เพราะนั่นแหละคือของจริง ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง ความตายเป็นของเที่ยง และความตายของชีวิตไม่มีนิมิตเครื่องหมายจริง ๆ เพราะฉะนั้น พวกเจ้าพึงซ้อมจิตให้เกาะพระนิพพานเข้าไว้ และใช้ปัญญาพิจารณาขันธ์ ๕ ว่า มันไม่ใช่เรา ไม่เป็นของเรา ไม่มีในเราให้มาก ๆ จิตจักได้คลายความหน่วงเหนี่ยวในขันธ์ ๕ ลงได้ อย่าไปคิดว่าร่างกายมันจักตายดี ๆ เพราะกฎของกรรมปาณาติบาตอันพวกเจ้าได้สร้างมาแล้วในอดีตชาติ มันจักส่งผลเข้ามาเป็นระยะ ๆ ป่วยไข้ไม่สบายบ้าง ประสบกับอุบัติเหตุบ้าง ชีวิตของร่างกายก็มีโอกาสจักตายเลว ๆ ได้ คือหมายถึงไม่ใช่แก่ตาย แต่เป็นอายุสั้นพลันตายก็ได้ ขออย่าให้มีความประมาทในชีวิตก็แล้วกัน จดจำบทเรียนใกล้ตายหรือเกือบตายในครั้งนี้เอาไว้สอนใจ เตือนสติเอาไว้ให้ดี ๆ”

๓. “เมื่อเห็นธรรมดาแล้ว ก็จงอย่าไปสนใจจริยาของผู้อื่น และเมื่อเห็นธรรมดาของร่างกายอันจักตายได้ตลอดเวลา ก็พึงสนใจอารมณ์ของใจให้มาก ๆ เพราะการรู้อารมณ์ นั่นแหละ...ทำให้พ้นทุกข์ได้ เวลาปัจจุบันสำหรับนักปฏิบัตินั้นสำคัญมาก เพราะอดีต-อนาคตเป็นตัวฟุ้งออกไป ให้จิตอยู่ในปัจจุบันเป็นหลัก จักมีความสุขความสงบมาก การห่วงไปข้างหน้ารังแต่จักทำให้เกิดวิตกกังวล ไม่เกิดผลประโยชน์อันใด การคิดถึงอดีตที่ล่วงมาแล้ว ก็แก้ไขอะไรไม่ได้ เพราะฉะนั้นการปฏิบัติให้ดูขณะจิตในปัจจุบันเข้าไว้ อย่าทิ้งการพิจารณากายคตาฯ มรณาฯ และอสุภกรรมฐาน เพราะสิ่งเหล่านี้พึงซ้อมอยู่ในกายทุกเมื่อเชื่อวัน พยายามพิจารณาให้เห็นตามความเป็นจริง

๔. “อย่าท้อใจไปกับอุปสรรคภายนอกให้ตัดทิ้งไป จงดูอุปสรรคภายในคือดูอารมณ์ของจิต พยายามคุมกำลังใจให้เข็มแข็งเข้าไว้ โดยการตรวจดูบารมี ๑๐ ทุกวัน จุดไหนบกพร่องให้พิจารณาจุดนั้นด้วยปัญญา อย่าคิดว่าทำไม่ได้ ให้อาศัยความใจเย็น ความสงบของจิตหรือการระงับนิวรณ์ ๔ ประการ ชั่วขณะหนึ่ง... เมื่อจิตหยุดจากกิเลสชั่วคราวดีแล้ว ก็ตั้งสติ มีสัมปชัญญะกำหนดรู้ในพฤติกรรมของตนเองว่า กาย-วาจา-ใจของตนเอง อยู่ในศีล-สมาธิ-ปัญญาหรือไม่ มีกำลังใจบกพร่องในบารมี ๑๐ ข้อไหนบ้าง ทุกวันนี้มองกันไม่เห็น เพราะโมหะมันขัง จิตตกเป็นทาสของนิวรณ์ ๕ ประการอยู่เรื่อยมา ให้รู้ตัวกันไว้เสียบ้าง จึงจักเห็นผลของการปฏิบัติ”


ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๙
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน

ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่ www.tangnipparn.com

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ลัก...ยิ้ม : 07-11-2011 เมื่อ 15:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 74 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:14



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว