กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมีนาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 27-03-2024, 18:34
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 340
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 18,636 ครั้ง ใน 818 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 28-03-2024, 00:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,678
ได้รับอนุโมทนา 4,410,915 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ท่านผู้ฟังอาจจะรู้สึกว่าวันนี้เสียงแปลก ๆ อยู่สักหน่อย เนื่องเพราะว่าบันทึกในห้องน้ำของร้านหมอ เพราะว่ามารอซ่อมสุขภาพอยู่ตามประสาคนแก่

ตั้งแต่เช้ากระผม/อาตมภาพพร้อมด้วยพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน ก็ได้วิ่งไปยังศูนย์ปฏิบัติธรรมมหาจุฬาอาศรม หมู่ที่ ๗ ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเยี่ยมบรรดาพระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ ๓๐ ซึ่งเข้าอบรมอยู่ที่นั่น แล้วอีกสองวันก็จะต้องเดินทางไปปฏิบัติกรรมฐานที่ "แคมป์สน" เป็นเวลา ๑ เดือน ซึ่งช่วงนั้นเขาจะไม่ให้เข้าเยี่ยมเลย

เหตุที่ต้องไปเพราะว่าพระวินัยธรจิตศิลป์ เหมรํสี, ดร. เจ้าสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี ท่านสมัคร
ไปอบรมพระธรรมทูตรุ่นนี้ แล้วก็ยังมีพระสมุห์ณัฐพสิษฐ์ ปญฺญาคโม เลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ (๒) เจ้าสำนักสงฆ์ถ้ำโป่งช้าง ซึ่งเรียนประกาศนียบัตรพระธรรมทูตอยู่ และต้องไปเข้าปฏิบัติธรรมพร้อมกัน

เมื่อไปถึง ปรากฏว่านอกจากพระวัดท่าขนุนทั้งสองรูป ซึ่งออกไปเป็นเจ้าสำนักสงฆ์แล้ว ยังมีบรรดาลูกศิษย์ต่าง ๆ มีหลายรูปที่มากราบกันเป็นแถว และโดยเฉพาะผู้ที่ดูแลควบคุมโครงการอบรมอยู่ คือพระมหาสุรศักดิ์ ปจฺจนฺตเสโน ป.ธ.๗ , ผศ.ดร. รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยควบคุมดูแลเรื่องของพระธรรมทูตอยู่ แล้วก็มีท่านอาจารย์พระมหาประยูร โชติวโร, ดร. ผู้อำนวยการวิทยาลัยพระธรรมทูต ซึ่งท่านได้รับพระราชทานตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตร น่าจะที่ "พระครูสุตรัตนบัณฑิต, ดร." ถ้าหากว่าจำผิดก็ต้องขออภัย

กระผม/อาตมภาพได้รับปากท่านอาจารย์ ดร.พระครูประยูรเอาไว้นานแล้วว่า ถ้าทางวิทยาลัยพระธรรมทูตมีโครงการอบรมอะไรก็ตาม กระผม/อาตมภาพพร้อมที่จะมาสนับสนุน งานนี้จึงนำเอาปัจจัยมาสนับสนุนโครงการอบรมของท่าน แล้วก็ได้เยี่ยมบรรดานิสิตที่รู้จักมักคุ้นกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-03-2024 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 28-03-2024, 00:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,678
ได้รับอนุโมทนา 4,410,915 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากนั้น จึงได้เดินทางกลับมายังที่พัก เร่งในการทำโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ปี ๒๕๖๗ ซึ่งในการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนนั้น ไม่ใช่ว่าท่านจะจัดบวชตามใจตนเอง หากแต่ว่าทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ต้องการทราบว่า บรรดาผู้ที่เข้ารับการบรรพชาเป็นสามเณรภาคฤดูร้อนแต่ละปีนั้น มีมากน้อยเท่าไร จึงต้องเขียนโครงการให้ชัดเจน ว่าทำโครงการบรรพชานี้เพื่ออะไร ?

ของทางวัดท่าขนุนทำโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวาระเจริญพระชนมายุ ๖๙ พรรษา ต้องบอกวัตถุประสงค์ ต้องบอกถึงงบประมาณ แล้วก็ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการในการรับผิดชอบ จะต้องทำหนังสือเชิญวิทยากรมาอบรมบรรดาสามเณรภาคฤดูร้อน

มัวแต่เพลิดเพลินเจริญใจอยู่ รู้ตัวขึ้นมา ปรากฏว่าไอ้ตัวเล็กออกให้บูชาเหรียญนาคปรกเสาร์ ๕ ตรีวัน เนื้อทองแดง ซึ่งเป็นเนื้อสุดท้าย บอกมาว่าหมดตั้งแต่หน้าที่ ๒ แต่ตอนที่กระผม/อาตมภาพวางงานเพื่อที่จะเข้าไปดูนั้น ปรากฏว่าจองกันไป ๑๐ กว่าหน้าแล้ว..!

เป็นอันว่างานนี้ เป็นงานที่กระผม/อาตมภาพ "ดวงแตก" เป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นเหรียญเสริมปัญญาก็ดี เหรียญนาคปรกเสาร์ ๕ ตรีวันก็ตาม จองไม่ทันแม้แต่เหรียญเดียว..! เป็นเรื่องที่ยุติธรรมสุด ๆ โดยเฉพาะทีมงานของเว็บไซต์วัดท่าขนุนก็ดี ทีมงานโมทนาบุญสัญจร ตลอดจนกระทั่งทีมงานช่างภาพ ทั้งถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ของวัดท่าขนุน ไม่มีใครจองทันเลยแม้แต่คนเดียว ปกติถ้ามีคนจองทัน ก็จะโดนขอแบ่งจนคนจองก็แทบไม่เหลืออะไร แต่งานนี้ไม่รู้จะไปขอแบ่งจากใคร เพราะว่าไม่ได้จองเลยสักคนเดียว..!

ท่านที่จองแล้วไม่ได้ก็ไม่ต้องเสียใจ เนื่องเพราะว่าทางเว็บไซต์วัดท่าขนุนนั้นยุติธรรมเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ถ้าอยากได้วัตถุมงคลที่ตนเองสร้าง ก็จะต้องปฏิบัติตามกติกา คือเข้าไปจองให้ทัน โอนเงินตามวันเวลาที่ระบุเอาไว้ แล้วก็ต้องระบุวิธีการรับด้วย ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าทำผิดกติกา แม้แต่เจ้าอาวาสวัดท่าขนุนก็โดนแขวน หรือว่าโดนจับแช่ห้องเย็นเหมือนกัน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-03-2024 เมื่อ 02:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 28-03-2024, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,678
ได้รับอนุโมทนา 4,410,915 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากนั้นแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ทำโครงการจนเสร็จ พอดีกับพันตำรวจเอกมนตรี แตงโต ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิโทรศัพท์เข้ามา บอกว่า "หลวงพ่อครับ ขอเสบียงกรังเพิ่มขึ้นอีก ที่รับไปวันก่อนหมดเกลี้ยงแล้วครับ เพราะว่าเมื่อคืนจับมาได้อีก ๒๐๐ กว่าคน โดยเฉพาะครั้งนี้ บรรดาผู้ที่รับอาสานำพาชาวต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง มีการแหกด่าน ถึงขนาดต้องยิงปืนขู่กันด้วย..!"

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าท่านถามว่าทำไมมีคนฝ่าฝืนกฎหมายแบบนี้ ? ก็เพราะว่าบรรดาผู้หลบหนีเข้าเมืองนั้น แต่ละคนจะต้องมอบค่าหัวให้กับผู้ขับรถไปส่งคนละ ๒๕,๐๐๐ บาท แล้วรถกระบะคันหนึ่งก็ยัดกันมา ๒๐ - ๓๐ คน จึงเป็นจำนวนตัวเลขมหาศาลที่น่าเสี่ยงเป็นอย่างยิ่ง..!

เพียงแต่ว่าทางด้านกฎหมายก็หนักหนาสาหัสพอกัน ก็คือถ้าสมมติว่ามีต่างด้าวหลบเข้ามาอยู่ในพื้นที่ของวัดท่าขนุน แล้วตำรวจตามเข้ามาจับได้ ถ้าเป็นบุคคลที่ไม่เห็นแก่หน้าค่าชื่อของเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าอาวาส ในข้อหา "ให้ที่พักพิงแก่ผู้หลบหนีเข้าเมือง" ได้เลย ดีแต่ว่าทุกคนรู้ดีว่า เจ้าอาวาสวัดท่าขนุนไม่เคยหากินทางนี้ จึงไม่ได้โดนข้อหาเหมือนกับที่อื่น ๆ เขา ทั้ง ๆ ที่ความซวยตกลงมาเองแท้ ๆ เพราะว่าผู้หลบหนีเข้าเมืองวิ่งเข้าไปในวัด ก็ทำให้เจ้าอาวาสวัดนั้น กลายเป็นผู้ให้ที่พักพิงแก่ผู้หลบหนีเข้าเมืองไปได้เช่นกัน..!

เมื่อสั่งให้ทางวัดจัดเสบียงกรังเพิ่มเติม และท่านผู้กำกับมนตรีรับไปแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ต้องออกมานั่งรอซ่อมสุขภาพ ถ้าหากว่าไม่ได้หมอช่วยดูแลอยู่ ชายชราอายุ ๖๕ ย่าง ๖๖ ปี อย่างกระผม/อาตมภาพก็คงไม่สามารถทำงานต่าง ๆ ได้อย่างที่ตนเองต้องการ จึงต้องรบกวนบรรดาหมอ บรรดาพยาบาลต่าง ๆ ช่วยกันดูแล แล้วก็เป็น "คนไข้บรรดาศักดิ์" ก็คือส่วนหนึ่ง เมื่อหมอทำการรักษาแล้ว นอกจากไม่เก็บสตางค์ ยังถวายค่ารถให้เดินทางกลับอีกด้วย จะเกรงใจไม่รับ บรรดาหมอบรรดาพยาบาลก็มีศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง

กระผม/อาตมภาพก็ไม่คิดว่าตนเองจะมีผู้สนใจทำบุญด้วยมากขนาดนี้ เพราะว่าบางทีไปเยี่ยมคนไข้ตามโรงพยาบาล ปรากฏว่าหมอและพยาบาล ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็ไม่ทราบว่าท่านทำงานอยู่ที่นี่ นอกจากเคยเห็นหน้าตอนไปถวายสังฆทาน และไม่เคยถามด้วยว่าทำงานอะไร พอเห็นเข้าก็วิ่งกันมาขอทำบุญ แล้วก็มีบุคคลประเภท "บ้าจี้" ก็คือเห็นคนอื่นทำก็จะทำบ้าง แห่กันมาจนกระทั่งไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-03-2024 เมื่อ 02:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 28-03-2024, 00:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,678
ได้รับอนุโมทนา 4,410,915 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ว่านี่ก็ยังดี เพราะว่าส่วนหนึ่งนั้นไปเจอกันตอนที่กระผม/อาตมภาพแวะเข้าห้องน้ำตามสถานีบริการน้ำมัน ผู้ที่พบเห็นก็ดีอกดีใจ วิ่งมากราบ บ่นว่า "ไปวัด ๗ ครั้ง ๘ ครั้ง ก็ไม่ได้เจอท่านอาจารย์ มาเจอกันกลางทางนี่เอง ขอกราบให้ชื่นใจหน่อย" กระผม/อาตมภาพก็ต้องกัดฟันกลั้นเอาไว้ ทั้ง ๆ ที่ปัสสาวะจะราดอยู่แล้ว..! เจรจาพาทีพอเป็นกำลังใจแก่ท่านทั้งหลาย ก่อนที่จะรีบเดินเข้าห้องน้ำ ถ้าหากว่าปล่อยช้าอีกหน่อยหนึ่ง ก็อาจจะมีการ "ทำเปียก" ให้ขายหน้าชาวบ้านเขาเป็นแน่

บางทีเข้าร้านอาหารไป ยังไม่ทันจะสั่งเลย เจ้าของร้านถาม "ใช่หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุนหรือเปล่าครับ ?" จะลุกหนีก็ไม่ทันเสียแล้ว ถามว่าจะฉันอะไรแล้วก็จัดมาถวาย นอกจากไม่คิดค่าข้าวปลาอาหารแล้ว ยังพาเอาบรรดาพ่อแม่มาถวายปัจจัยทำบุญอีกต่างหาก..!

จึงกลายเป็นเรื่องที่ หลวงปู่พระพุทธพจนวราภรณ์ (จันทร์ กุสโล ป.ธ.๕) เจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งตอนนั้นท่านยังเป็นเจ้าคุณชั้นราช และชั้นเทพ อยู่วัดป่าดาราภิรมย์ ได้บอกกล่าวกับกระผม/อาตมภาพว่า "คนเราถ้าดัง ก็อย่าหวังความสงบ" ตอนนี้จึงได้เห็นจริง ๆ แล้วว่า สิ่งที่หลวงปู่ท่านได้เตือนเอาไว้นั้นเป็นอย่างไร เพราะว่าเมื่อมีคนรู้จักมาก ๆ ความเป็นส่วนตัวก็หมดไป

โดยเฉพาะท่านทั้งหลายที่เดินทางไปถึงวัดท่าขนุนแล้วไม่ได้เจอตัว เพราะว่ากระผม/อาตมภาพมีตำแหน่งต่าง ๆ ถึง ๓๗ ตำแหน่งเข้าไปแล้ว ต้องวิ่งงานไปเหนือ ไปใต้ ไปตะวันออก ไปตะวันตก แม้กระทั่งไปต่างประเทศ แทบจะไม่มีเวลาอยู่วัด ท่านที่ไปถึงวัดแล้วไม่เจอ เมื่อมาเจอตามงานกลางทางก็ดีอกดีใจ ส่วนกระผม/อาตมภาพเองก็ได้แต่ออกอาการ "น้ำตาจิไหล" ขนาดใส่หน้ากากอนามัยอยู่ เขาก็ยังจำได้ว่านี่คือหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน

สมัยก่อนยังพอที่จะบุ้ยใบ้ ชี้ไปที่คนโน้นคนนี้ว่า "หลวงพ่อเล็กเป็นท่านนั้น..ท่านนี้" แต่สมัยนี้ไม่ได้เสียแล้ว เนื่องเพราะว่าลูกศิษย์ไปเปิดทั้งเฟซบุ๊ก ทั้งอินสตาแกรม ตลอดจนกระทั่งกลุ่มไลน์ต่าง ๆ แม้กระทั่ง TikTok ในปัจจุบันนี้ก็มี แล้วก็ช่วยกันนำเอาหลักธรรมบ้าง สิ่งที่กระผม/อาตมภาพบ่นญาติโยม ตลอดจนกระทั่งพระภิกษุสามเณรบ้าง ไปลงกันเป็นที่ครึกครื้น จนคนจำเสียงจำหน้าได้หมดแล้ว

แม้แต่เสียงธรรมจากวัดท่าขนุนที่ท่านทั้งหลายฟังอยู่นี้ ก็เกิดจากการที่กระผม/อาตมภาพอบรม หรือบ่นว่าบรรดาพระภิกษุสามเณรในวัด แล้วก็มีญาติโยมผู้หวังดีว่า "อยากให้คนอื่นได้ฟังบ้าง" แล้วนำไปลงยูทูบ จนกระทั่งกลายเป็นภาระที่กระผม/อาตมภาพต้องมาบันทึกอยู่ทุกวัน อย่างที่ท่านทั้งหลายได้ยินได้ฟังอยู่นี้

สำหรับวันนี้ถ้าหากว่าเสียงประหลาดอยู่สักหน่อย ก็ขอให้ท่านทราบว่า "บันทึกในห้องน้ำของร้านหมอ ระหว่างที่รอเวลารักษาอยู่" จึงขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-03-2024 เมื่อ 02:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:23



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว