|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#21
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “ตอนนี้วัตถุมงคลเนื้อเงิน เนื้อนาก เนื้อทองคำ ทุกชนิด จำหน่ายเป็นเทน้ำเทท่ามาตั้งแต่เช้า ขายวันนี้วันเดียวเท่ากับขายทั้งปี..!
วันนี้ทุกคนที่มามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน มีคนหนึ่งมาขอเหมาแผ่นยันต์เกราะเพชรเนื้อเงินแผ่นใหญ่ คนเดียวหนึ่งล้านห้าแสนบาท..! แต่โดนตัดตอนจนเหลือแค่ล้านเดียว อีกห้าแสนต้องคืนเขาไป เพราะไม่อย่างนั้นแล้วคนอื่นจะไม่ได้ เขาน่าจะเอาไปจำหน่ายต่อเพื่อเอากำไรแน่นอน จะบูชาเยอะเพื่อไปทำกำไรก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่นี่เยอะเกินไป จนไม่เหลือสำหรับคนอื่นเขา ก็เลยต้องตัดออกไปบ้าง กติกาของเราบอกชัดแล้วว่า มาก่อนได้ก่อน ไม่ได้จำกัดจำนวน คนมีบุญที่จะได้...เขาก็จะกระตือรือร้นมาเอง คนไม่มีบุญ...เขาก็จะมาช้า จนกระทั่งพลาดโอกาสไป เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าเป็นเรื่องปกติ พวกเราก็แค่ทำไปตามปกติเท่านั้น สรุปว่าช่วงเช้าแห่กันมาบูชาวัตถุมงคลแทบจะเหยียบกันตาย แล้วช่วงบ่ายคนก็หายไปเลย เหลือมาทำบุญแค่รอบละไม่กี่คน”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2020 เมื่อ 06:44 |
สมาชิก 236 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#22
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “วันนี้ถ้ามีโอกาสตรวจสอบ อาตมาจะเอาเหรียญพญาเต่ามังกรเงินล้านฯ รุ่นพิเศษที่มีหน้ากากมาให้บูชา มีอยู่อย่างละแค่ประมาณ ๕ เหรียญ ๑๐ เหรียญเท่านั้น เต็มที่ก็ ๘ เหรียญ เพราะว่าโดนวัดสี่แยกเจริญพรชักออกไป ๒ เหรียญ ท่านตรงไปตรงมาตามสัญญาจริง ๆ อาตมาบอกว่าจะให้เขา ๒๐ เปอร์เซ็นต์ เขาก็เอาตามนั้นเลย ไม่ว่าจะเหรียญทอง เหรียญเงิน ท่านก็ชักไป ๒๐ เปอร์เซ็นต์ ญาติโยมหลายท่านวิ่งมาจะเอาเหรียญทองคำแล้วอาตมาไม่มีให้ เพราะว่าโดนสอยไป ๒๐ เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่แรกแล้ว
แต่ว่าบางทีโยมก็รวยเกิน เหรียญทองคำแลกด้วยทองคำแท่ง ๕ บาท พอโยมได้ไปก็ให้คนอื่นแลกต่อด้วยทองคำแท่ง ๑๐ บาท ก็ยังอุตส่าห์มีคนเอา..!”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2020 เมื่อ 19:01 |
สมาชิก 243 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#23
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “วันนี้บางทีโบราณเขาเรียกว่ากระทิงวัน เพราะว่าเป็นวันศุกร์ (ลำดับที่ ๖ ของสัปดาห์) และตรงกับวันที่ ๖ ด้วย”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-11-2020 เมื่อ 17:26 |
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#24
|
||||
|
||||
ถาม : ตอนที่นอนป่วยอยู่ เห็นรัศมีสีแดง หมายความว่าอย่างไรครับ ?
ตอบ : ต่างคนต่างมีนิมิตเฉพาะตน ถ้าเป็นของหลวงพ่อวัดท่าซุง สีแดงก็แปลว่าป่วยปางตายเลย..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-11-2020 เมื่อ 17:27 |
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#25
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “พระพุทธลีลาประทานพรเนื้อทองคําที่หล่อไปเมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ที่ผ่านมา เป็นสูตรพิเศษ คล้ายกับคราวที่หล่อหลวงพ่อนาก เนื่องจากว่าอาตมารับทองคำจากญาติโยมไป ไม่ว่าจะเป็นรูปพรรณก็ดี จะเป็นทองแท่ง ทองแผ่นก็ตาม ตลอดจนกระทั่งทองที่หลายคนคิดว่าเป็นของจริง แต่ความจริงเป็นพลาสติกเคลือบทองก็มี รับมาแล้วก็ไม่อยากให้ญาติโยมเสียกำลังใจ อยากจะเอาใส่ลงไปทั้งหมด แต่ก็กลัวว่าอัตราส่วนที่ผิดพลาด และความไม่บริสุทธิ์ของทองมีมาก จะทำให้เนื้อหลวงพ่อทองคำองค์นี้เป็นลาย..ดูไม่ได้
ปรากฏว่าพระท่านเมตตาสงเคราะห์เหมือนกับคราวที่แล้ว ก็คือกำหนดให้ว่าต้องใส่แต่ละอย่างจำนวนเท่าไร แล้วจะออกมาพอดี ดังนั้นทองคำที่ใส่ลงไป ไม่ใช่ ๓๕ กิโลกรัมตามที่ช่างแจ้งมา ใส่เกินไปกว่านั้นไปมาก เพียงแต่ว่าออกมาพอเหมาะพอดี เทแล้วเหลือเศษแค่นิดเดียว แล้วองค์พระก็ออกมางดงามสมบูรณ์มาก ตอนนี้ช่างกำลังขัดแต่งอยู่”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-11-2020 เมื่อ 17:28 |
สมาชิก 245 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#26
|
||||
|
||||
“ส่วนพระปัจเจกพุทธเจ้านั้น สมกับที่เป็นพระรวย เพราะว่าเหลือเงินที่ช่างเขาเทเป็นแท่งไว้ให้ประมาณ ๑๒๐ กิโลกรัม อาตมากราบขออนุญาตหลวงพ่อสมเด็จองค์ปฐมและพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ที่สงเคราะห์ในวันนั้น ขอทำเป็นเหรียญสมเด็จองค์ปฐมมหาสะท้อน ซึ่งขณะนี้กำลังออกแบบอยู่ พระท่านบอกว่าทำเสร็จแล้วใช้ได้เลย ไม่ต้องเสียเวลามาเสกใหม่อีก
ตอนแรกขอแบบไปทางวัดไตรมิตรฯ เพราะเห็นว่าเหรียญวัดไตรมิตรฯ ออกแบบได้สวยมาก ปรากฏว่าทางด้านเจ้าของแบบติดงาน ก็เลยทำให้การประสานงานล่าช้า ซึ่งจะทำให้งานอาตมาช้าไปด้วย ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นออกแบบเอง ถ้าหากว่าทำสมเด็จองค์ปฐมมหาสะท้อน จะมีแค่สองเนื้อคือ ทองคำและเงินเท่านั้น ทองคำจะเป็นชนวนเก่าทั้งหมด ตั้งแต่การสร้างพระ หล่อพระ รุ่นแรกมาจนถึงรุ่นปัจจุบัน หลายสิบรุ่นรวมกัน และเมื่อรวมชนวนมหาสะท้อนชุดนี้ลงไป ต้องถือว่าเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างมาก แต่ก็ต้องบอกว่าคุ้มค่า แต่ก็คงจะทำได้แค่ไม่กี่องค์ เนื่องจากว่าชนวนทองคำแต่ละครั้ง ไม่ได้เหลือมาก ส่วนเนื้อเงินกำลังคำนวณอยู่ ถ้าหากว่าตกองค์ละ ๒ - ๓ บาท ก็น่าจะได้อยู่ที่ประมาณ ๒,๕๐๐ องค์ ก็คงได้ตีกันตายไปข้างหนึ่ง..! อาตมามีนิสัยทำอะไรก็จะทำให้ดีไปเลย เพราะฉะนั้น..จึงไม่ผสมอย่างอื่นลงไป เนื้อชนวนก็เป็นชนวนล้วน ๆ ไปเลย ถ้าหากว่าสั่งให้ใครไปทำ แล้วไปผสมโน่นผสมนี่เพิ่มเติม..อาตมารู้เข้าก็เลิกคบ..!”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-11-2020 เมื่อ 17:30 |
สมาชิก 248 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#27
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าเปลี่ยนที่นั่งในที่ทำงาน ย้ายที่นั่งวันศุกร์หรือวันจันทร์ดีคะ ?
ตอบ : เปลี่ยนที่นั่งไม่ได้เกี่ยวกับฤกษ์ ถ้าเป็นตำราจีนการเปลี่ยนที่นั่งเกี่ยวข้องกับฮวงจุ้ย ไปปรึกษาหมอฮวงจุ้ยเอาก็แล้วกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-11-2020 เมื่อ 17:30 |
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#28
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า “ช่วงนี้มีดราม่าในวงการสงฆ์สองเรื่อง เรื่องแรกคือ พระขี่สเก็ตบอร์ดไฟฟ้าไปบิณฑบาต อันนี้ต้องบอกว่า สงสัยสมองโดนสุนัขรับประทานไปหมดแล้ว ถึงไม่รู้ว่าด้วยเพศภาวะของตนเองนั้น สิ่งนี้ทำแล้วสมควรหรือไม่สมควร แต่จะไปปรับโทษใหญ่อะไรก็ไม่ได้ นอกจาก "ไม่เอื้อเฟื้อในพระวินัย" และ "ทำอาการประหนึ่งฆราวาส" ในเมื่อเป็นโทษเล็กน้อย ถึงลงโทษไปก็คงไม่เข็ดหลาบ ถ้าหากว่าสันดานเป็นแบบนั้น ก็อยู่ที่พระอุปัชฌาย์อาจารย์ ว่าจะอบรมอย่างไรให้เขามีจิตสำนึก รู้ว่าอะไรควรไม่ควรแก่สมณสารูป หรือว่าเพศภาวะของตน
ประการที่สองก็คือ เรื่องที่มีผู้บวชจัดงานใหญ่เว่อร์วังอลังการ จนสำนักงานพระพุทธฯ เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งเรื่องนั้นจะว่าไปแล้วก็ไม่ควรที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับเขาหรอก เพราะว่าเงินทองก็เป็นของเขา อยากจะจัดงานใหญ่โตเท่าไร เขาก็สิ้นเปลืองของเขาเอง เพียงแต่ว่าในสื่อโซเชียลของเรานั้น ส่วนใหญ่แล้วถ้าเห็นอะไรไม่ถูกหูถูกตาตัวเอง ก็ “ทัวร์ลง” กระหน่ำกันไว้ก่อน ก็เลยทำให้เรื่องไม่เป็นเรื่องนั้น เป็นเรื่องขึ้นมาจนได้ แต่ถ้าเราศึกษาในพระไตรปิฎกจะเห็นว่า การเสด็จออกบวชขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบางพระองค์ ไปพร้อมกับปราสาทแก้วมณี ปราสาทที่สร้างมาจากโคตรเพชรทั้งหลัง น่าจะยิ่งใหญ่อลังการกว่างานบวชของเขาคนนี้มาก..! เพราะฉะนั้น...เรื่องที่เขาทำ จะอวดร่ำอวดรวยอย่างไร ก็แล้วแต่กิเลสของเขา แต่ว่าเวลาบวชเข้าไปแล้ว กฎเกณฑ์กติกาความเป็นพระภิกษุมีอย่างไร ก็ต้องปฏิบัติตามนั้น เรื่องไม่เป็นเรื่องที่กลายเป็นเรื่องขึ้นมา เพราะเราไปคิดว่า อย่างนี้ควร อย่างนี้ไม่ควร ซึ่งเป็นการตัดสินผิดถูกชั่วดีโดยที่ไม่ได้ดูหลักเกณฑ์หรือความเป็นจริง ได้แต่บ่น ๆ เอาไว้ให้โยมฟังว่า สมัยนี้ส่วนใหญ่แล้วพวกเรามักจะตัดสินคนอื่นจากสิ่งที่เห็น ซึ่งโอกาสที่จะผิดพลาดก็มีสูงมาก”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-11-2020 เมื่อ 17:34 |
สมาชิก 230 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#29
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เตือนว่า “สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังก็คือ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-๑๙ ยังไม่มีอะไรที่จะรับมือได้โดยตรง นอกจากการระวังตัวเอง ถ้าหากว่าเราประมาท อยู่ในที่คนมาก ๆ ไม่ช้าก็เร็วต้องพลาดเป็นแน่แท้ เพราะเชื้อโรคไม่ได้ติดอยู่แค่มือ หรือเข้าได้แค่ปากแค่จมูก แม้กระทั่งขยี้ตาหน่อยเดียวก็ติดเชื้อได้แล้ว
ยามนี้เห็นคนจำนวนมากไปไหนมาไหน ส่วนมากไม่ได้สวมหน้ากาก เมื่อวานอาตมาไปงานศพ แขกในงานเกิน ๗๐ เปอร์เซ็นต์ไม่ได้ใส่หน้ากาก ถ้ามีใครติดเชื้อสักคนเดียว ที่เหลือก็เสร็จหมด..! ส่วนใหญ่แล้วพวกเราพอทิ้งไประยะหนึ่งก็จะประมาท สำหรับอาตมา สองเดือนแรกทำตัวตามสบาย เพราะว่าการแพร่ระบาดของโรคในบ้านเรายังไปไม่ถึงทองผาภูมิ และผู้คนระวังตัวกันมาก แต่พอเดือนที่สามผู้คนเริ่มประมาท อาตมาสั่งพระทุกรูปว่า “เวลาบิณฑบาตให้สวมหน้ากากด้วย” พระท่านก็ถามว่า “มาระวังอะไรกันตอนนี้ ?” ก็บอกกับท่านว่า “ผมเป็นทหาร ยุทธวิธีทหารจะเข้าตีตอนที่เราคาดไม่ถึงและเผลอตัว ซึ่งก็คือหลักเดียวกับการประมาทนั่นเอง”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-11-2020 เมื่อ 17:35 |
สมาชิก 237 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#30
|
||||
|
||||
“ประมาทคือเผลอตัว ถ้าหากว่าใครประมาท ถึงเวลาเสียใจก็ไม่ทันแล้ว เพราะว่าโรคภัยนี้ถ้าหากเป็นไปแล้วรักษายาก ถึงรักษาได้ โอกาสที่จะสมบูรณ์เหมือนเดิมก็ไม่มี เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังกันเอง ไม่สามารถที่จะบอกกล่าวอะไรกันได้มากกว่านี้
อาตมาเป็นคนไม่มีภูมิคุ้มกัน เพราะว่ารับการรักษาโรคมาลาเรียด้วยการทดลองยาตัวใหม่ จนกระทั่งภูมิคุ้มกันโดนยากดไม่มีเหลือ ดังนั้น..ช่วงเวลาเกือบ ๓๐ ปีที่ผ่านมา ใครเป็นโรคติดเชื้อผ่านมา อาตมาจะติดด้วยหมด ก็เลยต้องระวังมากกว่าโยมหลายเท่า”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-11-2020 เมื่อ 17:37 |
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#31
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “ตำราเขาบอกว่า คนแก่ให้อยู่กับเด็กมาก ๆ เพราะว่าเด็กมีพลังชีวิตเหลือเฟือ คนแก่จะได้กระตือรือร้นไปด้วย”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2020 เมื่อ 18:55 |
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#32
|
||||
|
||||
ถาม : อยากให้ช่วยแนะนำหลักธรรม ที่ช่วยให้ไม่คิดอาฆาต ไม่คิดพยาบาท กับลูกหนี้หรือคนที่เอาเปรียบเราค่ะ ?
ตอบ : พรหมวิหาร ๔ ถาม : มีง่ายกว่านั้นไหมคะ หนูคิดว่าหนูทำได้แค่บางข้อ ? ตอบ: พยายามทำให้ได้ทั้งหมดนั่นแหละ ใครก็ตามที่จะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของการปล่อยกู้ กู้หนี้ยืมสิน ต้องหน้าด้านใจดำเท่านั้นถึงจะทำได้ ถ้าไม่ได้มีสันดานอย่างนั้นอย่าไปทำ..ไม่มีทางรุ่ง นิสัยของผู้ปฏิบัติธรรมจะเสียเปรียบเขาตลอด เพราะเรากลัวว่าความชั่วจะเกิด ในขณะที่คนอื่นเขากลัวว่าความดีจะเกิด และนิสัยอย่างพวกเรา ถ้าเป็นหนี้เขา..ก็จะไม่มีความสุข เพราะว่าต้องรีบตะเกียกตะกายหาไปคืนเขา ให้เขาเป็นหนี้..ก็ไม่มีความสุข เพราะว่าไม่กล้าทวง หน้าด้านไม่พอ เพราะฉะนั้น..ถ้าหน้าไม่ด้าน ใจไม่ดำ ก็อย่าไปทำเรื่องแบบนี้ เสียเพื่อนเสียพวกมาไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไรแล้ว ขนาดพี่น้องยังจะฆ่ากันตายด้วยเรื่องหนี้สิน พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจนแล้วว่า อิณา ทานัง ทุกขัง โลเก การเป็นหนี้ เป็นทุกข์ในโลก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2020 เมื่อ 18:57 |
สมาชิก 225 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#33
|
||||
|
||||
ถาม : แล้วถ้าเขาเป็นหนี้ เพราะเขาใช้ให้เราไปทำอะไร แล้วเขาไม่ยอมจ่าย ?
ตอบ : ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว รู้ไหมว่าอาตมามีลูกหนี้บานเบิกมาตั้งแต่ก่อนบวช ถ้าทุกคนเอาเงินมาคืนพร้อมกัน ยังไม่รู้ว่าจะใช้อย่างไรหมด สมัยนั้นอาตมาไม่เล่นแชร์ชม้อยหรือแชร์น้ำมัน แต่คนอื่นเขาเล่น แล้วเขามายืมเงิน ตอนนี้อาตมาถือสัญญาเก่าอยู่เป็นปึก ส่วนหนึ่งที่รู้สึกเสียใจก็คือ เพราะว่าอาตมาอยู่ในวัด บรรดาลูกหนี้เขาก็เลยไม่ไปวัด ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นพวกเขาไปวัดกันเป็นประจำ แต่อาตมาทำใจตั้งแต่พรรษาที่สองแล้วว่า “ถ้าถึงตอนนี้แล้วเขาไม่คืน ก็แปลว่าทำเงินตกน้ำ ถ้าได้คืนถือว่ากำไร ถ้าไม่ได้คืนถือว่าเป็นเรื่องปกติ” จะเลียนแบบวิธีการนี้ไปใช้บ้างก็ได้ เพราะว่าคนที่หนักใจไม่ใช่อาตมา คนที่เบี้ยวหนี้สิหนักใจ เพราะว่านึกถึงอาตมาเมื่อไร เขาก็รู้ว่าเขาติดหนี้พระ..สมน้ำหน้า..! การนึกถึงพระสำหรับพวกเขา ก็กลายเป็นเรื่องยาก เพราะว่านึกถึงเมื่อไร ก็นึกถึงหนี้ด้วย..! แล้วอาตมาก็เป็นคนไม่ทวงอีกด้วย ดูว่าใครจะหน้าด้านกว่ากัน..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2020 เมื่อ 18:58 |
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#34
|
||||
|
||||
คนเราต้องมีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบ เป็นหนี้เป็นสินก็ต้องขวนขวายไปใช้คืนเขา ไม่ใช่รอให้เขามาทวง แล้วผัดผ่อนไปเรื่อย เพราะฉะนั้น..ใครเป็นหนี้เท่าไร อาตมาไม่ทวง
หนี้สินทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงฆราวาสไม่มีปัญหา ที่มีปัญหาอยู่มีก้อนเดียวที่โยมเขาไปยืมตอนอาตมาเป็นพระแล้ว อาตมาเองตอนนั้นไม่มีเงินอยู่ในมือ ก็เลยไปยืมเงินสงฆ์จากหลวงพี่ชัยศรี ซึ่งดูแลศาลานวราชบพิตรที่วัดท่าซุง ยืมมาให้เขาไป เพราะเขารับปากแน่นหนาว่าจะคืนให้วันนั้นวันนี้ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ๓๕ ปีผ่านไป หนี้ก้อนนี้อาตมาคืนสงฆ์ไปตั้งแต่แรกแล้ว ส่วนที่เขาค้าง ก็เท่ากับค้างอาตมาอยู่ แล้วเขาก็ทำตัวสาบสูญไปเลย อาตมาก็ทำตัวไม่รู้ไม่ชี้ มีเบอร์กูก็ไม่โทร มีที่อยู่กูก็ไม่ไป บอกแล้วว่า ถ้าให้คนอื่นหยิบยืมอะไร ก็ให้ทำใจว่า เราทำของตกน้ำ ได้คืนถือว่ากำไร ไม่ได้คืนก็เท่าทุน ถ้าทำใจไม่ได้อย่างนี้ อย่าริไปเป็นเจ้าหนี้ใคร และก็ไม่ต้องมาบ่นกับอาตมา ไม่ช่วยด่าให้หรอก เพราะว่าด่ามาพอแล้ว..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2020 เมื่อ 19:00 |
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#35
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “งานหล่อพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อทองคำนั้น ญาติโยมจะเห็นว่าพายุกำลังเข้า ฝนตกทั้งวันทั้งคืน แม้แต่เช้าวันหล่อพระ วันที่ ๑ พฤศจิกายน ฝนก็ยังตกอยู่ แต่พอเจ็ดโมงเช้าจะบวงสรวง ฝนก็หาย พอบวงสรวงแล้ว แดดมาอีกต่างหาก แล้วก็เปิดยาวไปให้จนกระทั่งหล่อพระเสร็จ นั่นคือเรื่องของบารมีพระ บารมีพรหมเทวดา และครูบาอาจารย์ที่ท่านช่วยสงเคราะห์
ตอนนี้คนทองผาภูมิเขาเลิกกลัวกันแล้ว เขามั่นใจว่าถ้าเป็นงานของวัดท่าขนุน อย่างไรเสียเมื่อถึงเวลาแล้วต้องทำได้ แต่นั่นเขามั่นใจนะ อาตมาเองยังไม่มั่นใจเลย เพียงแต่ว่าเอาตัวรอดตัวไปได้ทีละงาน..! ตอนนี้ตั้งหน้าตั้งตารอว่า ช่างจะขัดพระเสร็จเมื่อไร ด้วยความที่งานหล่อพระของวัดท่าขนุนทุกครั้ง องค์พระติดเต็มสมบูรณ์บริบูรณ์ทุกครั้ง ก็เหลืออยู่อย่างเดียวคือ การขัดแต่งเท่านั้น ไม่ต้องอุด ไม่ต้องปะ ไม่ต้องซ่อม ไม่ต้องเสียเวลา”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-11-2020 เมื่อ 03:08 |
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#36
|
||||
|
||||
“ช่างคณะนี้ทำงานให้กับวัดท่าขนุนแล้วสบายใจที่สุด เพราะว่างานอื่นบางงาน ช่างทำแล้วขาดทุนเป็นเท่าตัวเลย อย่างเช่นว่าเฉพาะค่าหล่อพระนอกสถานที่ ๑๒๐,๐๐๐ บาท แต่พอทำงานไปแล้ว ขาดทุนเกินสองแสนบาท เพราะว่าทำไปแล้วมีโบ๋ มีแหว่ง เกินกว่าที่จะปะได้ซ่อมได้ เขาก็ต้องหล่อใหม่ พอต้องลงทุนหลาย ๆ ครั้งเข้า ต้นทุนก็กินไปหมด
มีวัดแห่งหนึ่งสร้างสมเด็จองค์ปฐมปางประทับยืนใหญ่มาก ความสูงน่าจะเป็นสิบเมตร ใช้ฤกษ์เดียวกัน วันเดียวกัน ช่างคณะเดียวกันกับทางวัดท่าขนุน ช่างมาหล่อพระของท่าขนุนเสร็จ ก็วิ่งไปหล่อให้เขาต่อเลย เขาอยู่กาญจนบุรีเหมือนกัน ปรากฏว่าของวัดท่าขนุนเสร็จสมบูรณ์บริบูรณ์ ขัดแต่งอย่างเดียว แต่ของเขาพังแล้วพังอีก จนอาตมาอยากจะถามเหมือนกันว่า “ท่านรู้จักสมเด็จองค์ปฐมดีแค่ไหน ? หรือเพราะว่าแค่ได้ยินชื่อ รู้ว่ามีคนเลื่อมใสมาก เลยอยากจะสร้างเพื่อดึงคนเข้าวัด เพื่อที่จะหาเงิน ? ถ้าเจตนาเป็นแบบนั้น คุณทำไม่สำเร็จหรอก” แต่ไม่ได้เจอหน้า จึงยังไม่ได้ถามท่าน”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-11-2020 เมื่อ 03:11 |
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#37
|
||||
|
||||
เรื่องของการสร้างพระ เจตนายิ่งบริสุทธิ์เท่าไร ทั้งพระ ทั้งพรหม ทั้งเทวดา ท่านก็อนุโมทนามากเท่านั้น ถ้าเราขอให้ท่านช่วยอำนวยความสะดวกให้ ก็จะได้รับความสะดวกคล่องตัวทุกประการ
โดยเฉพาะตั้งแต่แรกเริ่ม อาตมาต้องทำบวงสรวงขออนุญาต ถึงเวลาก็ทำบวงสรวงเพื่อปั้นแบบ ทำบวงสรวงขออนุญาตหล่อพระ เสร็จเรียบร้อยแล้วก็นำบายศรีอัญเชิญเข้าที่ตั้ง ส่วนใหญ่แล้วสมัยนี้เขาทำกันแบบมักง่าย เห็นพระพุทธเจ้าเป็นเพื่อน..! นึกอยากจะสร้างก็สร้าง นึกอยากจะทำก็ทำ พอถึงเวลาท่านไม่สงเคราะห์ ก็ไม่รู้ว่าจะไปโทษใครดี ?
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-11-2020 เมื่อ 03:12 |
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#38
|
||||
|
||||
พระอาจารย์มหาเอกราบรายงานความคืบหน้าของพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อทองคำ
ถาม : ช่างบอกว่าองค์พระไม่มีตามดตาแมวอะไรเลย ตอนนี้เหลือขั้นสุดท้าย แค่ลงแว็กซ์เท่านั้นครับ ตอบ : เราต้องยอมรับเรื่องของบารมีพระท่านจริง ๆ เพราะว่าตั้งแต่ท่านอาจารย์สุชาติปั้นแบบมาก็ได้ดั่งใจเลย ถาม : เขาสงสัยว่าทำไมง่ายขึ้นเรื่อย ๆ ? ตอบ : ไปบอกเขาว่าช่างเก่งขึ้นเรื่อย ๆ..! ถาม : ตอนแรกช่างบอกว่าฝนตก อย่างไรต้องมีรู มีตามด ได้ปะได้ซ่อมกันแน่ แต่นี่อะไร...? ตอบ : ไม่มีทาง..! ขอให้เชื่อเถอะ บอกช่างด้วยว่า ถ้าเสร็จทันวันอาทิตย์ช่วงเย็น ให้ยกมาที่นี่ได้เลย ถาม : จริงหรือครับ ? เดี๋ยวลองดูก่อนครับ ช่างบอกว่าฝนทำท่าจะตก เลยแห้งช้า เขาจะไม่เร่ง ตอบ : ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวเอาแดดไปเลย..! ถาม : ผมจะรายงานความคืบหน้านะครับ ถ้าทันจริง ๆ จะยกมาเลย ตอบ : ต้องยอมรับว่าสมบูรณ์จริง ๆ ถาม : งานนี้ใช้คำว่าพันเปอร์เซ็นต์ได้เลยครับ ไม่มีรู ไม่มีตามดเลยแม้แต่น้อย ตอนแรกช่างบอกว่าจะพยายามไม่แต่งอะไรมาก เพราะว่ากลัวเสียเนื้อทอง กลายเป็นว่าไม่ได้แต่งจริง ๆ ไม่มีอะไรให้แต่ง แค่ตัดเส้นชนวนออกอย่างเดียว (ในที่สุดพระพุทธลีลาปางประทานพรก็สำเร็จสมบูรณ์ และอัญเชิญมาส่งที่บ้านเติมบุญวันเสาร์ที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เวลา ๑๕.๒๙ น.)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-11-2020 เมื่อ 03:14 |
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#39
|
||||
|
||||
ถาม : ส่วนพระปัจเจกพุทธเจ้าน่าจะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณสองอาทิตย์ จะไม่เร่งช่าง
ตอบ : ไม่ต้องเร่ง บอกช่างว่าทำให้เต็มที่เลย ผมยึดธรรมาสน์ที่วัดท่าขนุนมาเรียบร้อยแล้ว ธรรมาสน์ที่ใช้กันอยู่ตลอดทุกงานนั่นแหละ ขอมาตั้งพระปัจเจกพุทธเจ้า แล้วให้ไปซ่อมธรรมาสน์เก่าเอามาใช้งานใหม่ มองไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าลงตรงนั้นจะพอดีที่สุด ถาม : ช่างพวกนี้ทำงานเร็วมาก ถ้าฝนไม่ตก ไม่ติดขัดเรื่องสภาพอากาศ ตอบ : ต้องบอกว่าส่วนหนึ่งที่พวกเราคล่องตัวมาก เพราะว่าพวกเราบอกกล่าวพระท่านทุกครั้ง ตรงจุดนี้ที่อื่นเขามักจะประมาท เห็นพระเป็นเพื่อน นึกจะทำก็ทำ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-11-2020 เมื่อ 03:15 |
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#40
|
||||
|
||||
พระอาจารย์ประกาศว่า “ตอนนี้หลวงพ่อทองคำเสร็จสมบูรณ์บริบูรณ์แล้ว ไม่มีอะไรบกพร่องแม้แต่นิดเดียว ช่างบอกว่าเกิดมาไม่เคยพบไม่เคยเห็น เพราะว่าปกติถ้าฝนตกแล้วหล่อพระ เนื้อองค์พระต้องติดไม่เต็มอย่างแน่นอน แต่นี่ไม่มีแม้แต่รอยตามดสักรอยเดียว ตอนนี้รอช่างลงขี้ผึ้งเพื่อขัดเงา (แว็กซ์) องค์พระ แล้วอัญเชิญมาส่งให้กับทางวัด เราหล่อวันที่ ๑ วันนี้วันที่ ๖ ทำงานแค่ ๕ วันก็เสร็จแล้ว
และที่แน่ ๆ คือ องค์พระไม่ลายด้วย ด้วยความที่อาตมาสงสารโยม ที่ถวายทองคำบ้าง ทองรูปพรรณบ้าง ทองแท่งบ้าง จริงบ้าง ปลอมบ้าง มาเยอะแยะ ว่าเขาควรที่จะได้อานิสงส์ อาตมาก็เลยเอาลงให้เขาหมดเลย โดยขอสูตรจากพระท่านเหมือนเดิม การขอสูตรจากพระนี่ ต้องเชื่อท่านอย่างเดียวเลยว่าใส่อะไรบ้าง ถ้าใส่อย่างนี้เท่านี้ ต้องใส่ทองแผ่นเท่านี้ ต้องใส่ทองแท่งเท่านี้ แบบเดียวกับตอนที่หล่อหลวงพ่อนาก ช่างเขาบอกว่า “ถ้าผิดสูตรจะขัดไม่ได้นะครับ เนื้อจะอ่อนเกินไป” เขาเห็นอาตมาเทโครม ๆ ลงไปเลย อันนี้ทองคำ อันนี้เงิน อันนี้ทองแดง แต่ถ้าเขารู้จักสังเกต จะเห็นว่าหลวงพ่อเทเป็นระยะ คือพระท่านบอกว่าพอแค่ไหนอาตมาก็หยุดแค่นั้น แล้วที่อัศจรรย์สำหรับเขาก็คือ ดูเหมือนเทไปส่งเดช แต่เนื้อโลหะของทั้งสองเบ้าเท่ากันเป๊ะเลย..!”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-11-2020 เมื่อ 03:18 |
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|