พระธรรมเทศนาในงานฌาปนกิจศพนายชยาคมน์ ธรรมปรีชา วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๒

[นายกระรอก]

พระธรรมเทศนาในงานฌาปนกิจศพนายชยาคมน์ ธรรมปรีชา อดีตประธานชมรมโมทนาบุญ (เว็บพลังจิต)
วันอาทิตย์ที่ ๑๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒



นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

รูปัง ชีรติ มัจจานัง นามะโคตตัง นะ ชีรตีติ

ณ บัดนี้ อาตมภาพรับหน้าที่วิสัชนาในรูปกถา เพื่อเป็นเครื่องโสรจสรงองคศรัทธาบารมี ของบรรดาธนิสราทานบดีทั้งหลาย ที่พร้อมใจกันบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันฌาปนกิจศพของคุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ในครั้งนี้

ญาติโยมทั้งหลาย จากบาลีที่ยกขึ้นในเบื้องต้นว่า รูปคือร่างกายของเรานี้ ย่อมย่อยยับดับสลายไปได้ แต่ว่าชื่อเสียงวงศ์ตระกูลนั้น หาได้ย่อยยับดับสลายตามร่างกายไปไม่ ส่วนนี้นั้นจะว่าไปแล้ว ก็จัดเป็นสัจธรรมความเป็นจริงอย่างหนึ่ง ก็คือทุกผู้ทุกนามที่เกิดมาในโลกนี้นั้น เมื่อเกิดมาแล้ว สร้างคุณความดีไว้มาก หรือว่าสร้างความชั่วไว้มากก็ตาม เมื่อถึงเวลาตัวตายทำลายขันธ์ไปแล้ว ก็ใช่ว่าชื่อเสียงจะสูญหายตามร่างกายไป แต่คนเขาก็ยังเอาไปร่ำลือกันว่า คนนั้นมีความดีเช่นนั้น คนนี้มีความดีเช่นนี้ ส่วนคนนั้นชั่วแบบนั้น คนนี้ชั่วแบบนี้ เป็นต้น

[นายกระรอก]

ดังนั้น..ไม่ว่าจะทำดีหรือทำชั่วก็ตาม ตัวเราตายไปแล้ว แต่ว่าวงศ์ตระกูลต้องเป็นผู้แบกรับชื่อเสียงอยู่เบื้องหลัง ดังนั้น..นักปราชญ์โบราณถึงได้กล่าวไว้ว่า ความประพฤติทางกาย ทางวาจา ทางใจ ของพวกเราทั้งหลายนั้น ขอให้ประพฤติปฏิบัติจนอยู่ในระดับที่เรียกว่า “อยู่คนเขาก็รักใคร่เกรงใจ จากไปคนเขาก็อาลัยคิดถึง” หาไม่แล้ว สิ่งที่เหลืออยู่ก็จะเป็นส่วนที่เรียกว่า “ชื่อเสีย” ไม่ใช่ชื่อเสียง เนื่องจากว่าได้กระทำแต่สิ่งที่เลวร้ายเอาไว้ ถ้าหากโดนคนยกขึ้นเป็นตัวอย่างเมื่อใด ก็กลายเป็นการยกตัวอย่างไปในทางที่ชั่วอยู่เรื่อยไป เป็นต้น

ดังนั้น..คนในสมัยก่อนจึงรักษาชื่อเสียงเกียรติยศของวงศ์ตระกูลเป็นอย่างยิ่ง เกรงว่าจะมีความเสียหายไปถึงบรรพบุรุษต้นตระกูลของตนเอง และขณะเดียวกันก็จะทำให้ลูกหลานของตนเองเดือดร้อนไปด้วย คนโบราณจึงได้กระทำแต่ในสิ่งที่ดี ๆ พูดแต่ในสิ่งที่ดี ๆ คิดในสิ่งที่ดี ๆ อยู่เสมอ เมื่อเขาทั้งหลายเหล่านั้นแตกกายทำลายขันธ์ไปแล้ว ก็ย่อมมีแต่ผู้กล่าวถึงเป็นตัวอย่างในด้านที่ดีเท่านั้น

[นายกระรอก]

สำหรับคุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ผู้ที่ล่วงลับไปนี้ จะกล่าวไปแล้วก็ยังเป็นคนหนุ่ม แต่ว่าเป็นบุคคลผู้ไม่ประมาทในชีวิต เป็นผู้เตรียมพร้อมกับความตายอยู่เสมอ เนื่องจากรู้ตัวว่าเป็นบุคคลที่สุขภาพไม่ดี ดังนั้น..จึงตั้งหน้าตั้งตาสั่งสมกุศลบุญราศี ทั้งจำเพาะตนและส่วนรวม เอาไว้มากต่อมากด้วยกัน จนกระทั่งกลายเป็นที่รักที่เกรงใจของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นผู้นำในกองบุญการกุศลใดก็ตาม กองบุญนั้น ๆ ก็จะสำเร็จลงได้โดยง่าย

ดังนั้น..ในส่วนนี้ถ้าจะกล่าวไปว่า ความตายนั้นไม่ใช่ที่สิ้นสุดของชีวิต แต่เป็นการเริ่มต้นเดินทางไกลในวัฏสงสาร ถ้ากล่าวเช่นนี้ สำหรับคุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ก็ต้องบอกว่า เป็นบุคคลที่พร้อมต่อการเดินทางไกลแล้ว เพราะว่าได้สั่งสมเสบียงบุญ ตลอดจนเครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เอาไว้พร้อมมูล ระยะทางจะยาวไกลเท่าไรก็ไม่ย่อท้อ เพราะว่าสมบูรณ์บริบูรณ์ ด้วยเตรียมตัวในการเดินทางมานานหลายปี

ดังนั้น..ในส่วนนี้จึงเป็นตัวอย่างให้แก่เราทั้งหลายว่า เราเป็นผู้ประมาทอยู่หรือไม่ ? เนื่องเพราะว่าคุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ผู้ตายนั้น เป็นผู้ไม่ประมาทอยู่เสมอ สั่งสมคุณความดีอย่างสม่ำเสมอ จนปรากฏชัดต่อญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงพวกพ้องต่าง ๆ ส่วนตัวเราเองได้กระทำอย่างนั้นหรือไม่ ? เมื่อเปรียบเทียบกันไปแล้ว กองบุญการกุศลที่เรากระทำ เพื่อสั่งสมเสบียงบุญในการเดินทางไกลนั้น เรามีความพร้อมสมบูรณ์บริบูรณ์แบบนี้หรือไม่ ?

ถ้าหากเรารู้ตัวว่า เรายังเป็นผู้ที่ไม่พร้อมที่จะเดินทาง เพราะว่าการสั่งสมเสบียงบุญของเรายังน้อยเหลือเกิน ท่านทั้งหลายก็ต้องไม่ประมาท เร่งประพฤติในทาน ในศีล ในภาวนา ให้สม่ำเสมอเข้าไว้ เมื่อถึงเวลาทำกาละ คือล่วงลับไปแล้ว เราก็จะได้เป็นผู้ที่ถึงพร้อมในการเดินทางไกล โดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง เนื่องเพราะว่าถ้าเราไม่ได้สร้างสมบุญกุศลเอาไว้เอง เมื่อถึงเวลาแล้วจะรอว่า เมื่อตายไปแล้วคนอื่นจะทำบุญไปให้ ถ้ารอเช่นนั้นก็เป็นการประมาทมากจนเกินไป เนื่องจากว่าถ้าเราทำความชั่วไว้มาก เราก็จะลงทุคติวินิบาตโดยเฉพาะ ลงตรงไปโดยไม่ผ่านตำหนักพระยายม ถ้าเช่นนั้น การที่หวังให้คนอื่นทำบุญไปให้ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะว่าเราไปอยู่ในเขตที่ไม่สามารถจะรับกองบุญการกุศลนั้น ๆ ได้แล้ว

[นายกระรอก]

ดังนั้น..เราทั้งหลายจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปฏิบัติในทาน ในศีล ในภาวนา เอาไว้ให้สม่ำเสมอ เพื่อที่ถึงเวลาแล้ว เราจะได้ไม่ต้องรอคนอื่นเขามาทำให้ เพราะว่าการที่คนอื่นทำให้นั้น ก็หาความแน่นอนไม่ได้ เราขาดอย่างนี้ เขาอาจจะทำอย่างโน้นให้ หรือว่าเขาเพลิดเพลิน หรือทำหน้าที่ของตนเองหนัก จนกระทั่งหลงลืมที่จะสร้างกองบุญการกุศลให้กับเราก็มี หรือว่าฐานะของบุคคลที่อยู่หลัง ไม่เอื้ออำนวยต่อการที่จะทำความดี ก็จะทำให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้น ขาดโอกาสที่จะบำเพ็ญกองบุญการกุศล จนพร้อมสมบูรณ์บริบูรณ์ได้

แต่ว่าในส่วนนี้ของคุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ไม่มีในส่วนที่จะกล่าวว่าขาดตกบกพร่อง เนื่องเพราะว่าได้กระทำโดยสมบูรณ์แล้ว ถ้าหากว่าโดยหน้าที่ของลูกชาย คุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ก็มีโอกาสบวชให้กับพ่อแม่หลายครั้ง ถ้าหากว่าโดยหน้าที่ของทางโลก ก็ได้นำพาพ่อแม่ของตนเข้าสู่วัดวาอาราม ทำบุญการกุศลมากกว่าที่จะได้ทำเองตามปกติ ถ้าหากว่าโดยหน้าที่ของเพื่อนฝูง ก็ชักจูงญาติโยมทั้งหลายเข้ามาประพฤติกองบุญการกุศลเป็นประจำ อย่างเช่น การจัดรถนำพาญาติโยมทั้งหลายมาปฏิบัติธรรมที่วัดท่าขนุนแห่งนี้ต่อเนื่องมาทุกปี เป็นต้น

ดังนั้น..ในส่วนนี้จะว่าไปแล้ว คุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ได้กระทำหน้าที่ของตนเองโดยสมบูรณ์บริบูรณ์ ในหน้าที่ของความเป็นลูก ก็กระทำได้สมบูรณ์แล้ว ในหน้าที่ของความเป็นเพื่อน ก็ได้กระทำโดยสมบูรณ์แล้ว โดยเฉพาะในหน้าที่ของอุบาสกพุทธบริษัท เนื่องจากว่าพระพุทธศาสนาของเรานั้น องค์สมเด็จพระภควันต์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้จัดเอาไว้เป็นองค์กรที่เรียกว่า พุทธบริษัททั้ง ๔ ประกอบไปด้วยภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ซึ่งถ้าจะแบ่งง่าย ๆ ออกเป็นสองส่วนก็คือ

ส่วนของอาคาริกะ คือผู้ครองเรือน ได้แก่ อุบาสก อุบาสิกา คือฆราวาสชายหญิง ในส่วนของอนาคาริกะ คือผู้ไม่ครองเรือน ได้แก่ ภิกษุ ภิกษุณี แม้ว่าในปัจจุบันนี้ ภิกษุณีบริษัทไม่มีแล้ว เราก็สามารถที่จะสงเคราะห์นำเอาแม่ชีเข้ามาแทนได้ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงฝากอนาคตของพระพุทธศาสนาไว้กับพุทธบริษัททั้ง ๔ ไม่ใช่ฝากอนาคตของพระพุทธศาสนาไว้เฉพาะกับพระภิกษุสามเณร ก็แปลว่าญาติโยมหญิงชายทั้งหลาย มีหน้าที่จะต้องประพฤติปฏิบัติต่อพระพุทธศาสนาของเรา ในลักษณะของการอุดหนุนค้ำจุน เพื่อให้ศาสนาของเรามั่นคงและเจริญรุ่งเรือง ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพระภิกษุสามเณรฝ่ายเดียว

[นายกระรอก]

ในส่วนนี้ คุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ได้กระทำโดยสมบูรณ์บริบูรณ์แล้ว สถานที่หลายต่อหลายแห่ง คือวัดท่าขนุนแห่งนี้ก็ดี วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ก็ดี อาศรมศรีชัยรัตนโคตรก็ดี หรือบรรดาวัดวาอารามที่อื่น ๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงก็ตาม ได้รับการอนุเคราะห์สงเคราะห์ จัดกองบุญการกุศลจากคุณชยาคมน์และเพื่อนพ้อง ไปทำบุญถวายอยู่เป็นประจำ ในส่วนนี้เราก็จะเห็นว่า ในงานศพของคุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ที่ผ่านมานั้น จะมีพระภิกษุสามเณรมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก เพราะว่ารำลึกถึงความดีในส่วนที่คุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ได้กระทำไว้ต่อพระพุทธศาสนา ได้กระทำไว้ต่อวัดวาอารามนั้น ๆ

ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า ถ้าในฐานะที่สำคัญที่สุด คือฐานะของพุทธบริษัท ๔ ในส่วนของอุบาสกพุทธบริษัทนั้น คุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ได้กระทำหน้าที่นี้โดยสมบูรณ์บริบูรณ์แล้ว และตลอดระยะเวลาตั้งแต่เสียชีวิตลงไป ทางคุณคำนึงและคุณมัลลิกา ธรรมปรีชา ผู้เป็นบิดามารดา ก็ยังได้จัดงาน ไม่ว่าจะเป็นการทำบุญเลี้ยงพระก็ดี การสวดอภิธรรม ชักบังสุกุลถวายกุศลให้ทุกคืนก็ดี บุญในส่วนนี้ก็ยังได้เพิ่มเติมขึ้นมา ตลอดจนกระทั่งเพื่อนพ้องพี่น้องทั้งหลาย กระทำกองบุญการกุศลที่ใด ก็ตั้งใจกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล บอกกล่าวให้คุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ได้อนุโมทนาในกองบุญทั้งหลายเหล่านี้

ดังนั้น..ไม่ว่าในส่วนที่คุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ได้ประกอบกองบุญการกุศลด้วยตนเองก็ดี ในส่วนที่บิดามารดา คือคุณคำนึงและคุณมัลลิกา ธรรมปรีชา ได้กระทำให้กับลูกชายก็ดี ในส่วนที่พระภิกษุสามเณรจากอารามต่าง ๆ ที่ได้รับการอนุเคราะห์สงเคราะห์จากคุณชยาคมน์ พร้อมใจกันมากระทำให้ก็ดี ตลอดจนกระทั่งพี่น้องเพื่อนฝูงทั้งหลายที่ได้พร้อมใจกันบำเพ็ญก็ตาม สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ย่อมรวมกันเป็นตบะ เดชะ พลวปัจจัย ดลบันดาลให้คุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ผู้ล่วงลับไปแล้ว สามารถไปสู่สุคติ สมดังมโนรถปรารถนา และขณะเดียวกัน กุศลบารมีทั้งหลายเหล่านี้ ย่อมเป็นปฏิพรย้อนสนองกลับไปถึงท่านทั้งหลาย ผู้ได้บำเพ็ญกองบุญการกุศลนั้นด้วย คือนำพาให้ท่านทั้งหลาย ได้ประสบความสุขความเจริญทั้งในโลกนี้และโลกหน้าเช่นกัน

[นายกระรอก]

อิมินา กะตะปุญเญนะ ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่ท่านทั้งหลายได้กระทำแล้ว และตั้งใจอุทิศไปให้ หากคุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา อยู่ยังสุคติภพใดก็ตาม ย่อมสามารถรับรู้ได้ด้วยญาณวิถี และอนุโมทนาในกุศลผลบุญที่ท่านทั้งหลายนี้ได้กระทำมา ขณะเดียวกัน สิ่งที่คุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ได้กระทำแล้ว ย่อมเป็นที่กล่าวขวัญถึงของบุคคลอื่น โดยเฉพาะเพื่อนพ้องพี่น้องไปอีกชั่วกาลนาน จึงสมกับพระบาลีที่ได้ยกขึ้นเป็นอุเทศในเบื้องต้นว่า รูปัง ชีรติ มัจจานัง แปลว่ารูป คือร่างกายนี้ สามารถย่อยยับดับสลายไปได้ นามะโคตตัง นะ ชีรติ แต่ว่านามโคตร คือชื่อเสียงวงศ์ตระกูลนั้น ไม่ย่อยยับดับสลายตามตัวตนของตนไป

ในสิ่งที่อาตมภาพได้แสดงมานี้ ก็ปรากฏชัดแก่ท่านทั้งหลายว่า สิ่งที่คุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ได้ทำนั้น สมบูรณ์บริบูรณ์แล้วด้วยกองบุญการกุศล ทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ย่อมสามารถนำพาผู้ล่วงลับดับขันธ์นี้ ไปสู่ภพภูมิที่ตนเองต้องการสมดังมโนรถปรารถนา ขอให้กุศลผลบุญทั้งหลายนี้ จงสำเร็จแก่คุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ตามแต่คติวิสัยอันสมควร ในสัมปรายภพจงทุกประการเทอญ

อาตมภาพรับหน้าที่แสดงพระธรรมเทศนามาในรูปกถา ก็พอสมควรแก่เวลา จึงขอสมมุติยุติพระธรรมเทศนาลงคงไว้แต่เพียงเท่านี้ เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
พระธรรมเทศนาในงานฌาปนกิจศพนายชยาคมน์ ธรรมปรีชา อดีตประธานชมรมโมทนาบุญ (เว็บพลังจิต)
วันอาทิตย์ที่ ๑๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย นายกระรอก)