|
เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#61
|
||||
|
||||
ถาม : พอถึงจุดนี้ ที่หนูบอกว่าหลุดทุกครั้ง ทีนี้ถ้าออกไปพิจารณาข้างนอก เปรียบกับคนอื่นที่เขาไม่ได้หลุดไปแต่พิจารณา อย่างนี้มีผลเหมือนกันหรือเปล่าคะ
ตอบ : พิจารณาก่อนไป ถือว่าปลอดภัยกว่า เพราะว่ากำลังใจที่ไม่ยึดเกาะร่างกายจริง ๆ การรู้เห็นทุกอย่างจะชัดเจน ส่วนการออกไปพิจารณาข้างนอกง่ายกว่า ง่ายกว่าเพราะกายกับใจมันแยกออกเป็นคนละส่วนจริง ๆ มันไม่ได้ยึดไม่เกาะกันอยู่แล้ว ถือเสียว่าถนัดแบบไหนทำแบบนั้นแล้วกัน ถาม : เมื่อหลุดไปแล้ว หนูก็คิดว่าถือโอกาสก่อประโยชน์ให้เกิดสูงสุด ก็อยากจะไปกราบพระบนนิพพาน ตั้งใจว่าไปก็พุ่งไปอย่างเร็วเลยค่ะ เสร็จแล้วมันก็ค่อยช้าลง ๆ ร่วงลงไปยังที่เดิม ๕-๖ ครั้ง เป็นอย่างนี้ทุกครั้งเลย ตอบ : สมาธิก็ไม่พอ ปัญญาก็ไม่พอ วิปัสสนาญาณยิ่งแย่ใหญ่ เร่งสามอย่างนี้ใหม่ ถาม : แล้วหนูขอพระ อย่างหลวงพ่อฤๅษีช่วยอย่างนี้ไม่ได้หรือคะ ตอบ : แล้วตอนนั้นขอหรือเปล่า ถาม : ขอค่ะ ปรากฏว่าพอขอแล้วก็มีแรงดึงขาหนูไป แต่ไม่ได้ขึ้นข้างบน ไปทางราบค่ะ แล้วก็ไปโผล่กำแพงเมืองจีนค่ะ ตอบ : ดีที่ไม่หลุดไปข้างล่าง ถาม : การที่ในชีวิตประจำวัน หนูพิจารณาทุกข์โดยที่ไม่รู้ว่าได้ฌานหรือเปล่า ตรงนี้จะมีผลอะไรหรือเปล่าคะ ตอบ : มี อย่างน้อยความดีที่เราทำได้ จะได้ทรงตัว มันจะได้ฌานหรือไม่ได้ฌานช่างมัน ขอให้ได้ทำก็พอ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 122 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#62
|
||||
|
||||
ถาม : ลูกสาวหนูคนโต เป็นเด็กที่ขาดความอดทนมาก อันเนื่องมาจากการเลี้ยงดูของหนูเอง ทีนี้หนูจะแก้ไขอะไรได้บ้าง
ตอบ : สอนให้ทำสมาธิ ถ้ากำลังใจเข้มแข็ง มันก็จะมีความอดทนมากขึ้น ถาม : แล้วหลัง ๆ นี่หนูจะมีความรู้สึกว่าเบื่อกิเลสมาก ๆ เลยค่ะ พอกิเลสมันเข้ามาแรง ๆ ตัวเบื่อมันก็จะถีบกิเลสกระเด็นออกไปได้ ทีนี้พอมันออกไปแล้ว ตัวเบื่อมันก็ยังอยู่ หนูรู้สึกว่ามันไม่ค่อยแจ่มใส ทำอย่างไรดีคะ ตอบ : ดี และจำเป็นต้องรักษาไว้ด้วย เพราะว่าอันนั้นเป็นเบื้องต้นเลยที่จะนำพาเราให้หลุดพ้น ตัวเบื่อเป็นนิพพิทาญาณ ถ้าไม่มีนิพพิทาญาณมันจะไม่เบื่อ ในเมื่อมันไม่เบื่อเราก็จะหลุดพ้นไม่ได้ เพราะฉะนั้นพยายามรักษาไว้ ทวนแล้วทวนอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีก ถ้ากำลังมันพอมันจะก้าวล่วงลงไปกลายเป็นสังขารุเปกขาญาณ คราวนี้มันจะปล่อยวาง ก็สบาย ถาม : แล้วอย่างหนูนี่ไม่ได้อะไร จะกระโดดไปถือศีล ๘ จะมีข้อดีช่วยในการปฏิบัติได้ไหมคะ ตอบ : ปรึกษาผัวก่อน เดี๋ยวมันไม่ยอม ถาม : คุยกันแล้วค่ะ จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนชวนหนูเองค่ะ แล้วเรื่องศีลแปด หนูอ่านเจอว่าในสมัยท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ท่านไม่ให้เด็กกินนมแม่ด้วยซ้ำ แล้วอย่างสมัยนี้กินนมได้หรือคะ ตอบ : กินไปสิ ถาม : ก็สมัยก่อนไม่ได้ค่ะ ตอบ : นั่นของเขาตั้งใจจริง ๆ ทีนี้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะเขากินพวกน้ำผึ้งอะไรแทน เราก็คิดเสียว่ามันมื้อเดียวก็อิ่ม ที่เขาห้ามก็คือเขาห้ามอาหารแบบปกติ เด็กมันกินนมเป็นปรกติก็เปลี่ยนซะ อย่างนี้นี่เอง ขอบคุณมากค่ะ จบแล้วค่ะ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-09-2009 เมื่อ 13:13 |
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#63
|
||||
|
||||
ในขณะที่กำลังคุยเกี่ยวกับเรื่อง msn กันอยู่ หลวงพ่อได้กล่าวว่า "เครื่องเทคโนโลยีต่าง ๆ ถ้าขาดการชั่งใจ ขาดสติ วันเวลาต่าง ๆ จะหมดไปเร็ว ไม่ต้องทำมาหากินอะไรหรอก เหมือนกับตอนมีมือถือใหม่ ๆ เด็กไปเรียนหนังสือก็คุยโทรศัพท์อยู่นั่นแหละ คุยกันทั้งวันยังไม่พอ การกระทำลักษณะนี้เขาจะรู้สึกว่าได้รับความสนใจจากคนอื่น
คราวนี้พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกสมัยใหม่ มักจะไม่มีเวลาให้ลูก พอไม่มีเวลาให้ลูกก็เท่ากับว่าเขาขาด ขาดในส่วนที่ต้องการในใจ เมื่อเพื่อนฝูงสามารถให้ตรงนั้นเขาได้ก็ไปติดเพื่อน โดยเฉพาะช่วงวัยรุ่น ต้องระมัดระวังให้ดี เทคโนโลยีมีคุณอนันต์และก็มีโทษมหันต์ในเวลาเดียวกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 109 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#64
|
||||
|
||||
ถาม : หลวงพี่คะ หนูต้องพิจารณาอะไรต่อไปคะ
ตอบ : อะไรก็ได้ที่มันไม่อยากได้ในร่างกายนี้ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ย้ำแล้วย้ำอีก ให้เห็นความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ไม่มีอะไรเป็นเรา เป็นของเรา เบื่อ (ทำ) ไม่ได้ เลิกไม่ได้ เบื่อ (ทำ) เมื่อไหร่กิเลสมันตีกลับ ถาม : ทุกครั้งที่ออกจากการปฏิบัติ ตาหูมันก็เห็นค่ะ บังคับทุกตัว.... ตอบ : กำลังใจนึกถึงตลอดเวลา แบ่งความรู้สึกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งประมาณ ๒๐-๓๐ เปอร์เซ็นต์ให้ภาพพระอยู่กับเราตลอด อีกส่วนหนึ่ง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ก็ทำงานของเราไป เขาต้องการให้เห็นอย่างนั้นจ้ะ ไม่ใช่ไปกลัว แสดงว่ากลัวจะดี พอกำหนดรู้ไปเรื่อย ๆ ภาพพระจะเปลี่ยน สีก็จะจางลง จางลง จนกระทั่งค่อย ๆ ใสขึ้น สว่างขึ้น ถาม : ใช่เลยค่ะ ตอบ : ไปทำต่อ คนอื่นเขาทำแทบล้มประดาตายกว่าจะได้ แต่นี่ได้แล้วดันกลัว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 20-09-2009 เมื่อ 21:01 |
สมาชิก 111 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#65
|
||||
|
||||
หลวงพ่อบอกว่า "งานอะไรที่ไม่มีอุปสรรค...มันไม่มีหรอก เพียงแต่ว่าอุปสรรคหรือปัญหาเขามีไว้ให้แก้
มีคนเขาถาม คุณเทียม โชควัฒนา ว่าแล้วถ้ามีปัญหาที่แก้ไม่ได้ล่ะ เขาก็บอกว่าปัญหาที่แก้ไม่ได้ก็ไม่ไม่ใช่ปัญหาสิ ถ้าแก้ไม่ได้มันจะเป็นปัญหาได้อย่างไร ซึ่งก็จริงของเขา"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 109 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#66
|
||||
|
||||
หลวงพ่อบอกว่า "การตักบาตรเทโว เกิดขึ้นจากวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เรียกว่า วันเทโวโรหณะ เขาจึงมาเรียกสั้น ๆ ว่า ตักบาตรเทโว
พระพุทธเจ้าเสด็จลงที่เมืองสังกัสสนคร ชาวบ้านชาวเมืองทั้งหลายก็นำข้าวปลาอาหารไปถวาย คราวนี้ว่าคนมากเป็นแสน ๆ โอกาสจะเข้าใกล้ก็น้อย เมื่อเป็นดังนั้นก็เลยมีการพัฒนาในระยะหลังเป็นข้าวต้มลูกโยน เป็นข้าวเหนียวห่อใบตอง แล้วก็มีหางยาว ๆ ที่ทำด้วยใบมะพร้าว ถึงเวลาก็โยนไป ถามว่าใช้วิธีอย่างนั้นถวายของพระพุทธเจ้าได้ไหม....ได้ พระพุทธเจ้าท่านอนุญาตไว้ ท่านบอกว่าถ้าเจ้าของให้ด้วยใจเคารพ...รับได้ ระยะหลังบ้านเราก็พัฒนาไปอีกกลายเป็นประเพณีโยนบัว รับบัวกัน ที่พระประแดง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-09-2009 เมื่อ 07:47 |
สมาชิก 110 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|